ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLAYING WITH FIRE ♡ #เฉิงจัส #หนงคุน IdolProducer

    ลำดับตอนที่ #12 : PLAYING WITH FIRE : 11 (REWRITE)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.96K
      194
      3 ก.ค. 61









     

    ถึงมันจะใจร้ายกับช่ายสวี่คุนไปสักหน่อยแต่ตอนนี้เฉินลี่หนงคิดว่าเขาควรให้บทเรียนกับแวมไพร์จอมเย็นชาสักหน่อย ถึงวันนั้นอีกฝ่ายที่กอดเขาไว้จะปล่อยมือแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ลี่หนงรู้สึกแย่สักเท่าไหร่ในเมื่อข่าวที่ได้ยินมาจากปู่ฝานว่าตอนนี้นอกจากไปเรียนสวี่คุนก็เก็บตัวเงียบแถมยังดูซึมและเงียบลงไปทั้งที่ปกติก็เงียบอยู่แล้ว

     

    มันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี

     

    เพราะช่ายสวี่คุนควรรู้ว่าเขาเจ็บเพราะอีกฝ่ายมากไปกว่านี้ไม่ไหวอีกแล้ว

     

    รถคันหรูทะยานไปตามถนนในยามค่ำคืนจุดมุ่งหมายคือคอนโดของตัวเอง มือใหญ่เคาะไปตามจังหวะเพลงโปรดในรถพลางพึมพำในลำคอเบาๆ ใช้เวลาไม่นานนักรถสีดำคันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดใต้คอนโด ลี่หนงทักทายยามที่เดินมาดูเพราะปกติก็เป็นที่รู้จักของคนในคอนโดนี้อยู่แล้ว

     

    “คุณลี่หนงครับแม่บ้านมาบอกผมว่าเห็นเพื่อนของคุณลี่หนงมารออยู่นานแล้ว”

    “อ่า ขอบคุณนะครับ”

     

    รอยยิ้มมุมปากถูกจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ ลี่หนงผิวปากพลางหมุนกุญแจรถไปมาอย่างอารมณ์ดี ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครที่มารอเขาเพราะคอนโดนี้นอกจากเพื่อนสนิทที่เพิ่งเจอกันจากผับเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อนกับแวมไพร์จอมเย็นชาก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่

     

    ขายาวก้าวไปตามทางเดินก่อนจะหยุดมองคนที่นั่งพิงอยู่หน้าประตูห้องเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังจะหลับแบบสัปหงกอยู่ด้วย ลี่หนงเดินไปใกล้ๆนั่งยองดูคนหลับที่ไม่รู้ว่าเขากำลังจ้องมอง มือใหญ่สะกิดที่แขนเรียวเบาๆ

     

    “ตื่นได้แล้วครับ”

    ดวงตากลมกะพริบถี่ๆเพื่อปรับโฟกัสก่อนเจ้าของร่างจะโผกอดลี่หนงจนเกือบหงายไปข้างหลัง

    “โกรธพี่จริงๆหรอลี่หนง โกรธกันจริงๆหรอ”

     

    เพราะสวี่คุนเอาแต่กอดหมาป่าตัวโตไม่ยอมผละออกเลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มกว้างของเฉินลี่หนง ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่คิดไว้

     

    “เข้าห้องก่อนเถอะ”

     

    แวมไพร์ที่ใครๆก็เอ่ยปากว่าเย็นชาและเย่อหยิ่งแต่ตอนนี้นั่งคอตกอยู่บนโซฟาแถมยังทำหน้าเศร้าจนรู้สึกอยากดึงอีกฝ่ายมากอด ลี่หนงมองจากในครัวเห็นแล้วก็อดเอ็นดูกับท่าทางพวกนั้นไม่ได้ ช่ายสวี่คุนคงไม่รู้ตัวหรอกมั้งว่าตกหลุมพรางของเขาแล้ว

    ยิ่งทำเป็นไม่สนใจสวี่คุนก็ยิ่งเข้าหา สัมผัสจากข้างหลังทำให้รู้ว่าแวมไพร์หนุ่มกำลังออดอ้อนก่อนที่เปลี่ยนเป็นแรงสะอื้นจนต้องหันไปหา

     

    “ฮึก เกลียดหรอ”

     

    แล้วใครจะไปรู้กันว่าจริงๆเฉินลี่หนงไม่มีวันชนะช่ายสวี่คุนได้หรอก ดูอย่างตอนนี้สิไอ้ที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่สนใจ จะเย็นชา และอีกสารพัดกลายเป็นแค่ความคิดไปเลยเมื่อเห็นอีกคนร้องไห้จนตาแดง จมูกแดงไปหมด

    เกลียดก็บ้าแล้ว

    “ขี้แงตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับหื้อ” ลี่หนงดึงร่างของแวมไพร์หนุ่มเข้ามากอดโยกไปโยกมาเพื่อปลอบให้อีกฝ่ายหยุดร้องแต่กลายเป็นยิ่งสะอื้นหนัก

    “ฮึก อย่าเกลียด ฮึก อย่าเกลียดพี่ได้ไหม”

     

    เฉินลี่หนงแพ้แล้ว

     

     

     

     

    ไม่มีใครตอบได้ว่าวันไหนที่จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต เหมือนตอนนี้ที่จัสตินต้องเผชิญครั้งสุดท้ายระหว่างตนเองกับบิดา และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอหน้ากันก่อนที่จะจากลากันไปตลอดกาล จัสตินมองพิธีกรรมข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทั้งที่ตัวสั่นจนแทบยืนไม่ไหว ร่างบิดาที่ไร้ลมหายใจถูกยกขึ้นพร้อมทั้งโลงก่อนจะวางลงในหลุม ไม่มีใครรู้ว่าทำไมบิดาเขาถึงตกจากชั้นดาดฟ้าลงมาและถูกสันนิฐานว่าเมาเลยพลัดตกตึก

     

    ไม่มีน้ำตาแต่เจ็บปวดเหมือนหัวใจจะสลาย ดอกกุหลาบสีสวยถูกวางลงบนฝาโลงจัสตินเม้มปากจนเป็นเส้นตรงพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองร้องไห้

     

    และทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของฟ่านเฉิงเฉิง สีหน้าเจ็บปวดเจียนตายหรือจะเป็นความเข้มแข็งที่เจ้าหมาป่าตัวน้อยพยายามแสดงให้เขาเห็น มือเรียวสั่นจนเขาต้องกุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ จัสตินหันมาแล้วทุกอย่างก็พังทลายรวมไปถึงความเข้มแข็งของอีกฝ่ายด้วย

     

    เฉิงเฉิงได้แต่กอดจัสตินเอาไว้ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น ดวงตาคมตวัดมองแวมไพร์ที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลและเขาก็รู้ทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดใครเป็นคนทำ หลัวเจิ้งส่งยักไหล่ก่อนจะหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว

     

    “ไม่เป็นไรนะ ฉันจะดูแลนายเอง”  

     

    ผ่านมาเป็นอาทิตย์จัสตินซึมลงไปจนน่าเป็นห่วงไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนลูกหมาของเขาจะไม่มีความรู้สึกเลย ยิ่งตอนดึกๆจัสตินเอาแต่ร้องไห้จนหลับไปหรือไม่ก็ละเมอเรียกหาแต่พ่อจนเขาเองต้องกอดปลอบทุกคืน มันคงเป็นฝันร้ายที่สุดสำหรับคนที่เสียแม่ไปตั้งแต่เด็กแล้วยังต้องมาเสียพ่อ เฉิงเฉิงนึกไม่ออกเลยสักนิดว่าถ้าจัสตินรู้ว่าคนที่ทำให้พ่อตัวเองต้องตายเป็นเพราะคำสั่งของพ่อเขาจะเป็นยังไง

     

    นอกจากเรื่องของแม่ที่ทำให้ต้นตระกูลกลัวจนแทบบ้า

     

    ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของเจ้าลูกหมาป่าตรงหน้าที่ทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงอยู่ไม่สุขเลย

     

    เฉิงเฉิงผละออกจากลูกหมาเมื่อมีคนรายงานว่าพี่สาวของเขามาถึงแล้ว วันนี้ยังไงก็ต้องขอให้ฟ่านปิงปิงช่วยคิดหาทางคุยกับบิดาให้รู้เรื่อง สิ่งที่ไม่อยากทำคือการทำร้ายครอบครัวของตัวเองแต่นั่นแหละบิดาของเขาไม่รู้ว่าเคยเห็นเขาเป็นครอบครัวหรือเปล่า การฆ่าใครสักคนมันง่ายมากสำหรับตระกูลฟ่านแต่คนๆนั้นต้องไม่ใช่คนที่สำคัญต่อตัวเขา

     

    ฟ่านเฉิงเฉิงมองพี่สาวของตัวเองถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อฟังเรื่องทั้งหมดจบ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อของพวกเขาทำแบบนี้มันมักมีคนเดือดร้อนมากกว่าหนึ่งคนเสมอ ตั้งแต่ตอนช่ายสวี่คุนมาแล้ว

     

    “คงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่พ่อจะทำให้จัสตินเกลียดนายนะน้องชาย”

    “บางทีผมก็กลัวว่าจัสตินจะรู้”

    ฟ่านปิงปิงเอื้อมมือไปแตะไหล่น้องชายเบาๆ

    “พี่เชื่อว่าจัสตินจะเข้าใจนะอย่าคิดมาก”

    “ผมหยั่งรู้อนาคตนะ หรือควรจบทุกอย่างดี”

    ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตที่ต้นตระกูลเห็นคืออะไร แต่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

     

     

     

     

     

    tbc.

     

     

    ช่วงนี้งานเยอะมากค่ะอาจจะอัพช้าๆหน่อยนะคะ

     

    #เล่นกับไฟเฉิงจัส

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×