ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (iKON) HAPPEN ENDING #DOUBLEB

    ลำดับตอนที่ #9 : happen ending 09

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 58




    HAPPEN ENDING CH.9

     



     

     

    เมื่อประตูปิดลง

    เมื่อผมคิดว่าจะไม่ได้เจอกับคุณอีก

    ผมอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันกับน้ำตา

    เพราะว่าความทรงจำที่มีคุณ

    ผมถูกทิ้งให้อยู่ลำพังผมหวังว่าคุณจะมีความสุข

     

     

     

    หูฟังกำลังเล่นเพลงช้าๆที่ทำให้คนฟังรู้สึกตามมันได้ไม่ยากนัก ฮันบินนั่งมองท้องฟ้าบนชั้นดาดฟ้าของบ้านในตอนสายๆหลังจากตื่นนอนมา วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านแม้จะเป็นวันหยุด พ่อก็คงเข้าบริษัทเหมือนอย่างเคยส่วนแม่ของเขาก็พาน้องสาวไปเรียนว่ายน้ำทุกวันเสาร์เหมือนทุกที จริงๆแม่เองก็ชวนให้ฮันบินออกไปด้วยกันเธอพยายามเกลี่ยกล่อมให้ฮันบินไปสนามบินเพราะจีวอนโทรเข้ามาที่บ้านฝากบอกว่าจะเดินทางวันนี้ตอนบ่าย

     

    หลังจากวันนั้นจีวอนก็ติดต่อมาแต่ฮันบินรู้ว่าตัวเองเข้มแข็งไม่พอที่จะคุยเหมือนเดิมแม้แต่ตอบข้อความก็ตาม เป็นอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกันเลยก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีกไม่รู้นานแค่ไหน อาจจะห้าปี สิบปี มากกว่านั้นหรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลย

     

    มันไม่ชินสักนิดที่ต่อไปนี้จะไม่มีจีวอนคอยอยู่ใกล้ๆอีกแล้ว คิดไปถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกก็ทำให้ฮันบินยิ้มได้ทุกครั้ง ความกระตือรือร้นที่อยากจะสนิทด้วยหรือแม้กระทั่งความรู้สึกดีๆที่รับรู้ได้ผ่านการกระทำของจีวอนทุกๆอย่างฮันบินสัญญาว่าจะจดจำมันไว้ในหัวใจตลอดไป

     

    เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปหรือเปล่าจีวอน ถามมันออกไปทั้งๆที่กลัวว่าคำตอบที่ได้รับมันจะทำให้รู้สึกไม่ดี ฮันบินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนที่ถามคำถามนี้เขาทำหน้าแบบไหนออกไปจีวอนถึงได้ยื่นมือมาลูบหัวเขา

    ตลอดไปสิ...ฉันสัญญานะว่าฉันจะไม่มีวันทิ้งนาย คำตอบที่ได้รับทำให้ต้องโผเข้ากอดเพื่อนใหม่ด้วยความดีใจ

    ฉันก็ไม่มีวันจะทิ้งนายเหมือนกันนะคิมจีวอน…’

     

    จู่ๆคนที่นั่งฟังเพลงก็ลุกขึ้นก่อนจะวิ่งลงบันไดเข้าไปในห้องตัวเองแล้วหยิบเสื้อนอกมาสวมอย่างรวดเร็ว ขาเรียวกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหน้าบ้านจนแม่บ้านที่กำลังทำงานอยู่ตกใจเมื่อเห็นคุณหนูของบ้านรีบร้อนออกไปข้างนอก

     

    ฮันบินใจร้อนตอนที่ก้มดูนาฬิกาแล้วพบว่าตอนนี้เที่ยงแล้วและเขาก็อาจจะไปไม่ทันจีวอนขึ้นเครื่อง โทรศัพท์ที่มีข้อความมากมายค้างเอาไว้แล้วฮันบินไม่ได้ตอบ ฮันบินสนใจแค่ข้อความของจีวอนที่บอกไฟล์บินพร้อมทั้งทิ้งท้ายว่าขอเจอเป็นครั้งสุดท้าย

     

    แท็กซี่หยุดที่หน้าประตูฮันบินจ่ายเงินโดยไม่สนใจเงินทอนสักนิด สองขาวิ่งเข้าไปตามทางเท่าที่จะเร็วได้และในใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้เขาทันที่จะได้เห็นจีวอนเป็นครั้งสุดท้าย

     

    “ฮันบิน” เสียงเรียกทำให้ฮันบินที่ยืนหอบหายใจต้องหันไปมอง ซึงยูนและคนอื่นๆทำหน้าตกใจตอนที่เห็นเขา ฮันบินยังไม่ทันเอ่ยปากถามในสิ่งที่คิดมินโฮก็พูดออกมาราวกับอ่านใจของฮันบินออก

    “จีวอนมันเพิ่งเข้าเกทไปเมื่อกี้เอง” มินโฮไม่ได้พูดเสียงดังอะไรเลยแต่ฮันบินได้ยินมันชัดเจน

    “...”

    “มันนึกว่านายไม่มา” อย่างน้อยมินโฮก็ไม่อยากให้ฮันบินเข้าใจจีวอนผิดถึงจะนึกโมโหเจ้าน้องชายที่ทำแบบนี้ แต่ก็จะไม่ก้าวก่ายไปมากกว่านี้เพราะทุกสิ่งจีวอนเป็นคนตัดสินเองและคงคิดมาดีแล้วถึงมันจะไม่แฟร์กับรุ่นน้องที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของเขาก็เถอะ

    “ฮันบิน” เสียงเรียกข้างหลังทำให้ทุกคนหันไปมองรวมถึงฮันบินด้วย

    “....”

     

    ร่างผอมถูกดึงเข้าไปกอดท่ามกลางสายตาของใครหลายคนรวมไปถึงจินฮวานที่ยืนรออยู่ไม่ไกล ฮันบินพยายามกลั้นน้ำตาแล้วผละออกจากอ้อมอกจีวอนก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

     

    “ลาก่อนนะจีวอน”

     

     

    เมื่อผมปล่อยมือคู่นี้

    มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะยิ้มแต่...

    เมื่อผมเห็นคุณยิ้มในอ้อมแขนของคนอื่น

    ผมก็พยายามจะฝืนยิ้ม…’

     
     

     

    ซึงยูนอาสาพาฮันบินมาส่งบ้านและทุกคนก็เห็นด้วยที่เขาจะไปส่ง ฮันบินร้องไห้ตอนที่จีวอนหันหลังกลับไปพร้อมกับกอดคอคนรักตัวเองเดินกลับเข้าเกทไป มันเหมือนสักฉากในหนังจนเขาเองยังต้องเบนหน้าหนีภาพพวกนั้น

     

    “ไม่ต้องเข้มแข็งต่อหน้าพี่ก็ได้” ซึงยูนพูดขึ้นมาเมื่อมองเห็นฮันบินที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ “พยายามทำแบบนี้มันเจ็บเปล่าๆนะ”

     

    สองมือปิดหน้าตัวเองเอาไว้ยามที่ส่งเสียงร้องไห้ออกมา ฮันบินหน่วงในอกเหมือนถูกผลักให้หล่นลงไปในหลุมลึก มันจบลงแล้วทุกอย่างไม่ว่าจะความสัมพันธ์ทางกายหรือทางใจราวกับว่าครั้งหนึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย

     

    ถ้าถามว่าย้อนกลับไปได้จะยื้อจีวอนเอาไว้ไหมฮันบินก็จะตอบว่าไม่ ถึงจะเจ็บเจียนตายอย่างตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้รักกัน

     

    รถหรูทะยานไปตามถนนเรื่อยๆไม่มีเสียงร้องไห้ของฮันบินแล้วมีแค่เสียงเพลงจากวิทยุที่ไม่ทำให้ทั้งรถเงียบเกินไป ซึงยูนมองถนนข้างหน้าสลับกับมองคนข้างๆด้วยความเป็นห่วง บางทีก็อยากจะพูดออกไปตอนนี้เลยด้วยซ้ำว่าเป็นเขาได้ไหมที่ฮันบินจะรัก เป็นเขาได้ไหมที่จะขอโอกาสดูแลฮันบินแทนคนๆนั้น แต่ก็ไม่อยากจะพูดตอนที่อีกคนกำลังอยู่ในช่วงเสียใจ ทุกคนรู้ดีว่าจีวอนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฮันบินการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คงยากจะรับมือ

     

    ฮันบินก้าวลงจากรถเมื่อถึงหน้าบ้าน เขาโค้งให้ซึงยูนแล้วพูดขอบคุณเบาๆก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจคนมาส่งและคนที่กำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน

     

    จุนฮเวมองคนในรถที่มองตามฮันบินจนอีกคนหายเข้าไปในประตูหน้าบ้านจากนั้นรถสีดำก็ค่อยๆเคลื่อนออกไป เขาจำหน้าผู้ชายคนนั้นได้เหมือนว่าจะเป็นรุ่นพี่สักคนในกลุ่มของจีวอน จริงๆวันนี้ก็เห็นฮันบินที่สนามบินแต่ไม่อยากเข้าไปตอนที่ต้องอยู่ด้วยกันเยอะๆเขาไม่อยากจะรู้จักใครเท่าไหร่

     

    ไม่คิดว่าจินฮวานจะไปที่นั่นถึงอีกคนจะพูดกับเขาหลายต่อหลายครั้งแต่เรื่องที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าคือการที่จีวอนย้ายไปที่นั่นด้วย จุนฮเวไม่ชอบคิมจีวอนมากเหตุผลก็เพราะมาทำให้ฮันบินเสียใจแต่เขาเดาผิดเรื่องที่จีวอนไม่ไป เขาแค่คิดว่าในส่วนลึกจีวอนก็น่าจะอยู่กับฮันบินแม้ในฐานะเพื่อนก็ไม่คิดว่าจะตัดสินใจไปด้วยซ้ำ

     

    เมื่อคืนก่อนจินฮวานยังมานอนกับเขาแถมยังบอกให้ติดต่อไปเรื่อยๆ เจ้าตัวไม่ได้เอ่ยถึงฮันบินและไม่ได้พูดถึงจีวอนเหมือนทุกที จินฮวานเพียงแค่นอนกอดเขาเงียบๆนั่นแหละที่จุนฮเวไม่เข้าใจ

     

    เลี่ยงที่จะเข้าไปเจอฮันบินตอนนี้แม้จะเป็นห่วงแค่ไหนแต่ก็อยากให้เวลากับฮันบินบ้าง จุนฮเวตระหนักได้ว่าถ้าเขารุกหนักเกินไปเชื่อสิว่าคนที่เสียใจขนาดนั้นก็คงจะปฏิเสธเขาแน่นอน ยังไงซะก็ไม่มีคิมจีวอนอีกแล้วก็ไม่จำเป็นสักนิดที่จะต้องรีบ ต่อจากนี้ไปเขาจะอยู่ข้างๆฮันบินแทนจีวอนและจะทำให้ฮันบินรักให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

     


     

    ##

     

     

     

    ผมไม่ควรจะเริ่มมัน

    ผมไม่ควรจะมองตาคุณเลยตอนครั้งแรกที่เราพบกัน

    ผมนึกว่าปล่อยคุณไปจะทำให้ผมรู้สึกโล่ง

    แต่เปล่าเลย จิตใจของผมเข้าใจการจากลาครั้งนี้ดี

    แต่หัวใจของผมไม่ยอมรับมัน

     

     

     

    ภาพของฮันบินยังคงติดตาอยู่เลยแม้จะจากกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ จีวอนรับรู้ทุกความรู้สึกของฮันบินได้ไม่ใช่รอยยิ้มที่มอบให้เขาแต่เป็นแววตาวูบไหวนั่นต่างหากที่รู้สึกถึงมัน ไม่รู้หรอกว่าทำไมจู่ๆฮันบินถึงได้มาเพราะถ้าเป็นเขาสลับกันกับฮันบินก็คงทนมาไม่ไหว ฮันบินที่พยายามเข้มแข็งแบบนั้นมันก็ควรจะต้องรู้สึกดีแต่ไม่รู้ทำไมหัวใจของจีวอนรู้สึกปวดหนึบราวกับมีพายุกำลังก่อตัวอยู่

     

    ความสับสนตีวนกับเรื่องราวมากมาย คำสัญญาสิ้นสุดลงเมื่อเขาเลือกจะปล่อยมือฮันบินไปแต่จีวอนอยากให้ฮันบินรับรู้แม้ตลอดมาจะไม่ได้พูดมันออกไปเลยก็ตาม ฮันบินเป็นคนดีและเรื่องทุกอย่างไม่น่าจะมีจุดจบแบบนี้ ถ้าตอนนั้นยับยั้งชั่งใจสักนิดจุดจบที่ควรจะจบมันอาจจะดีกว่าตอนนี้ก็ได้จีวอนคิดแบบนั้น

     

    ตาเรียวคมมองตุ๊กตาที่หยิบติดมาด้วย มันเป็นของขวัญที่ฮันบินซื้อให้เมื่อตอนวันเกิดปีที่แล้วที่ญี่ปุ่น ตุ๊กตาพวงกุญแจหมีพูตัวเล็กทั้งๆที่มันไม่ได้เข้ากับหน้าของจีวอนสักเท่าไหร่ แต่ความลับของเขาก็มีแค่ฮันบินนี่แหละที่รู้ว่าคิมจีวอนคนนี้ชอบหมีพูห์มากแค่ไหน

     

    พอนึกถึงก็เผลอยิ้มขึ้นมาจนจินฮวานที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยถาม จีวอนส่ายหัวแล้วก็เลี่ยงที่จะพูดถึงฮันบินเพราะไม่อยากให้จินฮวานไม่สบายใจ เมื่อวานตอนที่จินฮวานมานอนคอนโดเขาจู่ๆเจ้าตัวก็พูดเรื่องฮันบินขึ้นมา พูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเพื่อนตัวผอม จีวอนไม่ปฏิเสธในเมื่อจินฮวานพูดเองว่ารู้ทุกเรื่องที่เขาทำลับหลัง มีแต่คำพูดว่าขอโทษแต่จินฮวานก็บอกว่ามันเป็นเรื่องของอดีตและขอให้เขาช่วยลืมฮันบินได้ไหมตอนที่ไปอยู่ที่นู่นด้วยกัน

     

    จีวอนไม่ตอบแต่ก็พยักหน้าเพื่อให้จินฮวานสบายใจ นึกขอบคุณด้วยซ้ำที่ไม่อาละวาดใส่ฮันบินทั้งๆที่รู้เรื่องเพราะถ้าแบบนั้นฮันบินคงรู้สึกแย่ การปล่อยให้เรื่องทั้งหมดเป็นไปแบบนี้บางทีมันก็สมควรแล้วด้วยซ้ำ

     

    ในเมื่อคิมจีวอนคนนี้มันเห็นแก่ตัวและฮันบินเองก็เป็นคนไม่สมควรจะถูกเขาเห็นแก่ตัวซ้ำๆ การปล่อยฮันบินไปแบบนี้อาจจะดูโหดร้ายในสายตาทุกคน อาจจะคิดว่ามันไม่แฟร์สักนิดกับฮันบิน แต่รู้อะไรไหม...

     

    ตอนนี้จีวอนเองก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของฮันบินขึ้นมาบ้าง

     

    รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังกลายเป็นหลุมลึกทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันไม่เคยจะรู้สึกอะไรแบบนี้เลย ไม่เคยแสดงออกมาว่าเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่เห็นแก่ตัวและไร้ทางออก เพิ่งจะรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหนและพอรู้ก็รู้ตัวว่าต้องปล่อยฮันบินไป

     

    ความรักของฮันบินสวยงามแม้มันจะเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แต่การต้องเห็นสิ่งเหล่านั้นร่วงโรยไปต่อหน้าต่อตาคิดว่าเขาจะทนได้ไหม...ถ้าวันหนึ่งเผลอทำให้ฮันบินเสียใจอีกครั้งและอาจจะเสียใจตลอดไปถ้าเลือกที่จะคบกัน ฟังดูก็เหมือนคำแก้ตัวดีๆแต่จีวอนอยากจะให้ฮันบินมีความสุขแม้บางครั้งนึกหวังถึงความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ

     

    ว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ความสุขของฮันบินเป็นคิมจีวอนคนนี้

    แต่มันคงเป็นไปไม่ได้....เมื่อมันไม่ได้เริ่มด้วยดีตั้งแต่แรก

     

    คงใช้เวลาสักหน่อยกว่าที่ฮันบินจะลืมและอาจจะจมอยู่กับความเจ็บปวดที่เขาทิ้งไว้ให้มันคงทำให้ฮันบินร้องไห้ แต่สักวันหนึ่งจีวอนเชื่อว่าฮันบินจะลืมคืนวันที่แสนขมขื่นเหล่านั้นที่เคยมีร่วมกันกับเขา ส่วนตัวเขาที่พูดว่าจะลืมฮันบินน่ะมันเป็นไปไม่ได้หรอก

     

    เพราะในความเป็นจริงแล้ว...จีวอนรู้ดีที่สุดว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่

    ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้พูดความรู้สึกพวกนี้อีกต่อไป

    แต่นี่มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว...

     

     

     

    ทุกๆวันผมจะวาดคุณขึ้นมาและลบคุณออกไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

    ผมจะรับความเจ็บปวดทรมานทั้งหมดไว้

    ขอแค่ให้คุณมีความสุข

    เพื่อการตัดสินใจของผมครั้งนี้จะไม่ทำให้ผมสูญเปล่าหรือเสียใจ

    ผมจะภาวนาให้คุณอยู่เสมอ

     

    60%

     

    ##

     

     

     

    ตาเรียวใสมองออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยแม้ว่าตอนนี้ที่สนามจะไม่ได้มีคนที่ตัวเองมักจะสนใจอยู่บ่อยๆตอนเรียนวิชานี้ ปากกาในมือถูกเคาะลงที่มือครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะถอนหายใจออกเล็กน้อยแล้วหันกลับมาสนใจการเรียนต่อซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของฮงซอกที่นั่งอยู่ข้างๆเหมือนเคย

     

    เป็นเดือนแล้วตั้งแต่จีวอนไปเขาก็เห็นฮันบินกลับมาเหม่ออีกครั้ง ไม่มีอะไรที่น่าสนใจหรอกสำหรับฮันบินแล้วตอนนี้ทุกอย่างน่าเบื่อไปหมด เขายังคงอยู่ที่คอนโดที่เคยอยู่แต่ตอนนี้ก็มีแค่ฮันบินคนเดียวเท่านั้นแหละ ห้องว่างเปล่าไม่มีเสื้อผ้าสักชุดหรือของใช้สักชิ้นของจีวอน จะเหลือไว้ก็เพียงแต่รูปคู่ในห้องนอนที่ถูกเจ้าของทิ้งเอาไว้

     

    ยอมรับว่าเหงาจนบางทีก็คิดขึ้นมาว่าตัดสินใจผิดไหมที่จบมันไปเพราะการไม่มีอยู่มันทำให้ฮันบินรู้สึกยากที่ก้าวผ่านแต่ละวันไปอย่างที่ทุกคนบอกให้เขา ฮันบินไม่เคยบอกใครว่ามันยากแต่จะยิ้มแล้วบอกทุกคนที่ให้กำลังใจว่าอีกไม่นานเขาก็ลืม

     

    แต่ฮันบินโกหก...

     

    ไม่เคยคิดที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ใครฟังแม้กระทั่งฮงซอกที่สนิทที่สุดในยามที่เพื่อนสนิทตัวสูงเอ่ยปากถามว่าเขาโอเคไหม ฮันบินรู้ดีว่าฮงซอกเป็นห่วงตัวเขามากๆเพราะเจ้าตัวรับรู้เรื่องราวมาตั้งแต่ต้น เพราะแบบนั้นไงฮันบินถึงไม่อยากทำให้ใครต้องมารู้สึกสงสารหรือเห็นใจกับเรื่องราวของเขา ฮันบินอยากกอดเก็บมันเอาไว้แบบนี้จนกว่าเขาจะเข้มแข็ง

     

     ขอโอบอุ้มความทรงจำพวกนี้เอาไว้เต็มสองมือก่อนที่มันจะหายไปในสักวันหนึ่ง

     

    ครืน ครืน

     

    โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั้นสามสี่ครั้งจนฮันบินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วมองหน้าฮงซอกที่ชี้ที่กางเกงของเขาพร้อมพูดแบบไร้เสียง โทรศัพท์สั่น ก่อนอีกคนจะหันไปสนใจหน้าห้องต่อ

     

    Junhoe: วันนี้ไปเดินเล่นกันไหมหลังเลิกเรียน?

    Junhoe: นะ...ไปเถอะนะ

     

    เกือบทุกวันที่จุนฮเวแชทมาคุยกับฮันบินไม่ก็โทรมา ฮันบินรู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกที่จุนฮเวหยิบยื่นให้จนบางครั้งอยากจะเอ่ยปากพูดออกไปว่าอย่าทำแบบนี้เลยเพราะเขายังไม่พร้อม แต่ฮันบินไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าจุนฮเวจะเสียใจถ้าเขาพูดไปตรงๆ

     

    ความอึดอัดใจทับถมขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่เจอกันไม่ใช่เพราะฮันบินยังรักจีวอนอยู่หรอก เรื่องนั้นจุนฮเวพูดมันซ้ำๆจนบางครั้งฮันบินก็นึกโมโหอยากตะโกนบอกไปว่ามันไม่เกี่ยวกับจีวอนแต่มันเป็นเพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วต่างหาก

     

    จุนฮเวทำให้ฮันบินอยากเรียนดนตรีในตอนนั้นที่ฮันบินเพียงแค่ชอบมันผิวเผิน แรงบันดาลใจของจุนฮเวจุดไฟแห่งความฝันของฮันบินจนกระทั่งสัญญาจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนเฉพาะด้านดนตรีที่ญี่ปุ่นด้วยกันหลังจบประถมปีสุดท้ายแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งใจเมื่อจุนฮเวย้ายไปเรียนที่อังกฤษแต่ตัวฮันบินเองก็เดินไล่ตามความฝันคนเดียวมาตลอดจนกระทั่งโดนสั่งย้ายโรงเรียนกลับมานั่นแหละ

     

    ฮันบินจำได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนแต่มันไม่ใช่ในเชิงรักใคร่เหมือนตอนนี้ในเมื่อตอนนั้นยังเด็กเกินกว่าจะเรียนรู้ว่ารักคืออะไรนอกจากว่ารักพ่อแม่เขาก็รักจุนฮเวในฐานะเพื่อนสนิทเหมือนที่รักฮงซอกและมันเป็นแบบนั้นตลอด

     

    ฟังดูใจร้ายไปซะหน่อยแต่ฮันบินไม่คิดจะให้จุนฮเวไปได้มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้วจริงๆ

     

    Junhoe: ให้โอกาสฉันไม่ได้หรอฮันบิน แค่ครั้งเดียวก็ได้ให้ฉันได้ดูแลนาย

    Junhoe: ถ้ามันยากเกินไปก็แค่ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนในฐานะเพื่อนได้ไหม

    Hanbin: ได้สิ งั้นเจอกันนะเรียนเสร็จแล้วจะทักไป

    Junhoe: อื้อ เจอกัน

     

    สุดท้ายก็ตอบตกลงถึงจะถอนหายใจออกมาจนฮงซอกถามว่าเกิดอะไรขึ้น โอเคไหม ฮันบินก็ตอบกลับไปว่าแค่เรื่องเดิมๆซึ่งนั่นฮงซอกก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร เพราะเรื่องที่จุนฮเวเป็นเพื่อนสนิทฮันบินก็เล่าให้ฮงซอกฟังตั้งแต่สนิทกันใหม่ๆเพียงแค่ว่าตอนนั้นฮงซอกไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งจุนฮเวตัวเป็นๆโผล่มารอฮันบินที่หน้าห้องเรียนนั่นแหละฮันบินถึงได้แนะนำให้ฮงซอกรู้จัก

     

    เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวลั่นห้องทันทีที่อาจารย์เดินออกไปและหลายคนพากันเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมที่จะกลับบ้านเพราะวันนี้มีเรียนถึงห้าโมงเย็นทำให้ทุกคนอยากจะกลับเต็มทนรวมถึงฮันบินด้วย ความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจทำให้ฮันบินอยากจะกลับไปทิ้งตัวนอนโง่ๆซุกผ้าห่มที่หอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ชอบ แต่เพราะนัดเอาไว้นั่นแหละก็ต้องพับเรื่องที่จะนอนโง่ๆทิ้งไปและต้องเตรียมรับมือกับความรู้สึกอึดอัดที่กำลังจะเกิดขึ้น

     

    “ให้ไปเป็นเพื่อนไหมล่ะ ดูนายไม่อยากไปนะ” ฮงซอกถามพลางสังเกตสีหน้าหน่ายๆของเพื่อนตัวผอม

    ฮันบินยิ้มแล้วส่ายหน้า

    “ไปเองได้น่าคงไม่นานหรอก” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้หรอกว่าจะโดนลากไปไหนบ้างยกเว้นที่บอกว่าจะไปเดินเล่น

    “ทำไมไม่ลองเปิดใจดูล่ะ หมอนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเผลอๆจะดูแลนายดีด้วยซ้ำ”

     

    “ถ้านายมาขอคบฉันคิดว่าฉันจะรักนายได้ไหมล่ะ...ฉันรู้สึกกับจุนฮเวเหมือนที่รู้สึกกับนาย บางคนเราก็ชอบเขาไม่ได้หรอกเพราะมันไม่คิดอะไรมาตั้งแต่แรก ฉันไม่อยากจะเป็นแผลเป็นในชีวิตของใครเพราะสงสารหรอกนะ” ฮันบินอธิบายยาวเหยียดและสามารถพูดได้ตรงๆตามที่คิดเพราะตรงหน้าคือยางฮงซอก ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าพูดแบบนี้

     

    ฮงซอกถอนหายใจออกมาแล้วกอดคอฮันบินเอาไว้

     

    “งั้นพูดไปตรงๆเลยอาจจะดีกว่านะ ปล่อยไว้งี้ฉันว่าเดี๋ยวจะเจ็บกว่านี้ซะเปล่าๆ”

     

     

    ฮงซอกเดินมาส่งฮันบินที่รถของจุนฮเวก่อนจะขอตัวกลับแม้จุนฮเวจะเอ่ยปากบอกว่าจะไปส่งเจ้าตัวที่บ้าน ฮงซอกแค่ส่ายหน้าแล้วปฏิเสธเป็นพัลวันว่ามีนัด

     

    จุนฮเวปรายตามองคนที่นั่งพิงกระจกรถฮึมฮัมเพลงในลำคอตั้งแต่ขึ้นรถมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ บางทีก็นึกน้อยใจฮันบินอยู่เหมือนกันที่เจ้าตัวเอาแต่ปฏิเสธเขาซ้ำๆและไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเอาแต่พูดว่ารักกันไม่ได้เพราะคิดแค่เพื่อน ถ้าให้โอกาสจุนฮเวก็จะทำให้ฮันบินรู้ว่าเขาดีกว่าคิมจีวอนแค่ไหน ดีกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า

     

    และไม่มีวันจะทำให้ฮันบินร้องไห้ด้วย

     

    รถจอดสนิทบริเวณสวนสาธารณะที่ฮันบินคุ้นเคยดีเพราะเมื่อก่อนสมัยที่เขากับจุนฮเวยังเรียนด้วยกันก็มักจะมานั่งกินอะไรกันที่สวนนี้ ตอนนั้นจำได้ว่าเคยฟังจุนฮเวร้องเพลงครั้งแรกก็ที่นี่จนทำให้อยากเป็นนักร้องหรือทำงานด้านนี้ก็เพราะกูจุนฮเว

     

    จุนฮเวมองแผ่นหลังฮันบินที่เดินนำไปสองสามก้าว แผ่นหลังที่เล็กกว่าเขาไม่มากแต่ขนาดตัวก็ต่างกันอยู่นิดหน่อยถ้าเทียบกับจินฮวานแล้ว ฮันบินน่ะไม่ได้ดูน่าปกป้องเท่านั้นหรอกแต่แววตาของฮันบินนี่สิมองทีไรมันทำให้นึกถึงครั้งแรกตอนที่ฮันบินเข้ามาปกป้องเขาไว้ทุกที แววตาที่ไม่เคยกลัวอะไรในตอนนั้นหรือยามที่มองเขาตอนที่ร้องเพลงด้วยความชื่นชมตอนนี้มันไม่มีแล้ว

     

    “ทำไมนายถึงให้โอกาสฉันไม่ได้ ฉันเข้าใจนายได้ทุกเรื่องและจะไม่มีวันทำให้นายร้องไห้แต่ทำไมถึงปฏิเสธกันตลอด” จุนฮเวถามคนตรงหน้าที่เดินห่างกันไม่กี่ก้าวให้หยุดชะงักแล้วหมุนตัวกลับมาจ้องหน้าเขา ฮันบินถอนหายใจอีกครั้งไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่ อาจจะครั้งที่ร้อยก็ได้จุนฮเวไม่เคยนับมันหรอก

     

    “เราเป็นเพื่อนกันมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ เพื่อนที่ไม่มีวันจะทิ้งกันไงแบบนั้นมันยั่งยืนกว่าที่เราจะคบกันนะ”

     

    “แต่ฉันไม่ได้ชอบนายแบบเพื่อน ตั้งแต่ฉันจำความได้นายก็พิเศษมาตลอดและเป็นคนเดียวที่ฉันสนใจ” จุนฮเวเถียงเพราะเขาไม่คิดว่าเหตุผลของฮันบินจะเข้าท่าตรงไหนเลย เป็นแฟนแล้วมันไม่ยั่งยืนยังไงในเมื่อเขาไม่มีวันจะทิ้งฮันบินไปไหน

     

    ฮันบินกลอกตาไปมาเมื่อเห็นว่าจุนฮเวยังดึงดัน เหมือนว่าอีกคนจะต้องการแค่ความสัมพันธ์แบบนั้นจนมันอึดอัดและพาลให้ไม่อยากจะพัฒนา ฮันบินไม่พร้อมยิ่งมาเจอแบบนี้ยิ่งอยากให้มันจบๆฟังดูร้ายกาจไหมถ้าจะพูดว่าคนที่โผล่เข้ามาแล้วจู่ๆก็บอกว่าชอบถึงจะเป็นความทรงจำที่ดีก็เถอะแต่มันใช่หรือเปล่าล่ะที่จะต้องคิดเหมือนกันเพียงเพราะเคยมีความทรงจำดีๆด้วยกันในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก

     

    “ขอโอกาสให้ฉันเถอะนะฮันบิน...ขอร้อง” สายตาเว้าวอนไม่ได้ทำให้ฮันบินต้องเบนหน้าหนีแต่กลับนึกโมโหขึ้นมาซะเฉยๆ

    “พอเถอะวะจุนฮเว ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกันก็อย่าพยายามทำให้ฉันอึดอัดไปมากกว่านี้เลยนะ”

     

     

     

     

    “ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตเถอะ”

     

















    ## 


    ลงครบแล้วนะคะ 
    #ฟิคเจ็บดบบ 

     

     

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×