คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : PERCENT: 05%
PERCENT 05%
แบมแบมตัวสั่นระริกแม้ตอนนี้ปากแดงจะแตะลงบนซอกคอแต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากเลยด้วยซ้ำ ร่างบางผละหน้าออกมามองหน้าคนที่กำลังจ้องตนเองตาไม่กระพริบก่อนจะหลุบตาลงเหมือนเด็กตัวน้อยที่ทำผิดแล้วถูกจับได้
“กัดซะก่อนที่ฉันจะโยนนายออกไปข้างนอกนั่นจริงๆ” ยูคยอมพูดขู่ด้วยความหงุดหงิดแล้วใช้มือดันหัวอีกคนให้กลับเข้าไปที่เดิม
มือเล็กจับแขนยูคยอมไว้สองข้างเอียงคอเพื่อปรับมุมที่ดีที่สุดแล้วอ้าปากงับเข้าตรงไหล่ลาดค้างอยู่ไม่นานนักร่างเล็กก็ผละตัวออกมาเขยิบออกมาจากตักแกร่ง
“จะไม่กินจริงๆใช่ไหม ดี…งั้นก็เตรียมตัวโดนกินแทนแล้วกัน” พูดจบยูคยอมก็ดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ๆจับกดลงบนที่นอนก่อนจะตรึงข้อมือทั้งสองข้างด้วยแรงที่มีแม้แบมแบมจะดิ้นแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธะนาการนี้ได้ ยูคยอมหัวเราะหึในลำคอเขารู้สึกรำคาญเต็มทนที่ร่างเล็กไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของเขาเพราะฉะนั้นเขาก็จะทำให้แบมแบมได้รู้ว่าถ้าไม่เชื่อฟังจะโดนอะไร
จมูกโด่งไล้ไปตามซอกคอขาวสูดดมกลิ่นหอมๆก่อนจะอ้าปาก คมเขี้ยวงอกออกมาจากปากทั้งซ้ายและขวาตาคมมองเส้นเลือดเต้นตุบๆที่ซอกคอก่อนจะกัดลงไปเต็มแรง แบมแบมดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บ มันเจ็บ
สัมผัสร้อนแฉะทำให้แบมแบมขนลุกซู่ ยูคยอมกำลังเลียซอกคอขาวกวาดเอาเลือดหอมหวานสีสดลงคอทั้งๆที่ไม่ได้กระหายแต่กลิ่นมันหอมหวนจนทำให้เขากัดซ้ำลงไปอีกครั้ง คราวนี้แบมแบมร้องไห้ออกมาจริงๆ ร่างเล็กปล่อยโฮด้วยความเจ็บและกลัว แขนขาอ่อนแรงจนยูคยอมแทบไม่ได้ออกแรงจับข้อมือไว้เลย
“ฮึก...พอแล้ว...ได้โปรด” เสียงหวานสะอื้น มันทำให้ยูคยอมนึกขันในใจได้อย่างประหลาด
แวมไพร์หนุ่มผละตัวออกมาจ้องมองใบหน้าหวานใกล้ๆ ยามนี้แก้มเนียนขาวเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา ดวงตากลมโตที่ชอบเบนหนีเขาสั่นระริกราวกับลูกกวางตัวน้อยที่กำลังอ้อนวอนขอชีวิต ยูคยอมยกยิ้มก่อนจะดันตัวเองขึ้นมา
“คราวนี้จะกินเลือดฉันได้รึยัง ถ้ายังฉันจะกินนายทั้งตัว” น้ำเสียงจริงจังทำให้แบมแบมพยักหน้ารับด้วยความกลัวก่อนจะค่อยๆเขยิบตัวเข้าไปใกล้อีกคน
แบมแบมไม่เคยกินเลือดจากตัวคนจริงๆแต่ก็ต้องจำใจฝังคมเขี้ยวลงไปที่ไหล่ยูคยอม ร่างเล็กออกแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้าปากแม้เขาจะกระหายเลือดแต่ยอมรับเลยว่ามันทำให้แบมแบมรู้สึกอยากอาเจียน เขาไม่ชินกับกลิ่นเลือดหรือรสชาติฝาดๆของมันเลยสักนิด ความคลื่นเหียนทำให้ร่างเล็กต้องรีบผละหน้าออกมา สูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดโดยการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของยูคยอม
จริงๆแล้วจะให้แบมแบมกัดที่คอมือก็ได้แต่ยูคยอมแค่นึกสนุกอยากแกล้งอีกคนให้กลัวเขามากๆก็เท่านั้น มันอาจจะฟังดูโรคจิตแต่ตอนแบมแบมร้องไห้ยูคยอมรู้สึกว่ามันตลก ทั้งๆที่ครึ่งหนึ่งก็เป็นแวมไพร์เหมือนกันแท้ๆแต่กลับขี้กลัวไปซะทุกอย่างจนต้องกระตุ้นบ่อยๆ
“อิ่มแล้วรึไง” แบมแบมสะดุ้งเฮือกเมื่อยูคยอมถามก่อนจะพยักหน้าแรงๆให้รู้ว่าตนเองอิ่มจริงๆ
เลือดสีแดงหยดย้อยอยู่ตรงมุมปากยูคยอมมองดูมันค่อยๆหยดลงบนชุดนอนลายการ์ตูนสีชมพู กว่าแบมแบมจะรู้ตัวว่าตอนนี้ปากตนเปรอะเปื้อนเลือดก็ตอนที่ยูคยอมเอื้อมมาเช็ดให้เบาๆแล้วใช้นิ้วจิ้มเข้าที่หน้าผากออกแรงผลักจนเกือบจะหงายหลัง
“ไปแต่งตัวซะ” ยูคยอมออกคำสั่งปรายตามองร่างเล็กที่นั่งนิ่งอยู่บนหัวเตียง ตากลมโตสบตากับยูคยอมเพียงชั่วครู่แล้วหลบสายตาเหมือนเดิม
“หูหนวกรึไง ฉันบอกให้ไปแต่งตัว” ยูคยอมพูดซ้ำ
ปากสีแดงสดสั่นระริกแบมแบมแทบหาน้ำเสียงไม่เจอ ใจเต้นตุบๆด้วยความกลัว “คะ...คือผมเหนื่อย ผม .. ผมง่วงแล้ว” แบมแบมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ
ยูคยอมพรูลมหายใจออกมาก่อนจะเดินไปใกล้ๆกระชากร่างเล็กจนลอยหวือแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบชุดที่พอดูได้ในสายตาตัวเองมาก่อนจะจับหน้าแบมแบม ยูคยอมกำลังสะกดจิตแบมแบมเขาขี้เกียจจะใช้กำลังเพราะรู้เลยว่าอีกคนต้องดื้อด้านไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง แบมแบมหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก่อนจะเดินตามยูคยอมออกไปติดๆ
กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่นั่งอยู่บนรถคันหรู แบมแบมไม่กล้าเอ่ยถามว่ามันกำลังทะยานไปส่วนไหนของกรุงโซล เขานั่งนิดสนิทจนยูคยอมต้องหันมามองด้วยความแปลกใจ ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเหงื่อแม้ในรถจะเย็นมากก็ตาม
ไม่นานนักรถก็จอดนิ่งสนิทแบมแบมตกใจกับจำนวนผู้คนที่กำลังยืนโห่ร้องเสียงดัง เหมือนที่ยูคยอมพามาจะเป็นสนามแข่งรถตอนกลางคืน เขาไม่สามารถรู้เลยว่าคนที่นั่งเชียร์เป็นมนุษย์หรือแวมไพร์แต่ที่แน่ๆแบมแบมได้กลิ่นสาบของเมิร์คแล้วนัยน์ตาสีดำขลับก็ไปสะดุดกับผู้หญิงที่แสนจะคุ้นหน้า
“แบคเยริน”
เธอนั่งจ้องมาทางนี้เพราะยูคยอมเปิดฮาร์ดท็อปขึ้นและดูเหมือนใบหน้าสวยนั่นจะบึ้งตึงมากกว่าทุกที ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆมองยูคยอมเป็นตาเดียวโดยเฉพาะพวกสาวๆ แบมแบมก้มหน้างุดเพราะไม่เคยที่จะได้อยู่ท่ามกลางคนเยอะๆแบบนี้ มันน่ากลัวเกินไปสำหรับแบมแบม
“ไงมึงลมอะไรหอบมาวะ” เสียงทักทายของคนแปลกหน้าทำให้แบมแบมต้องเงยหน้ามอง ผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีกำลังยกยิ้มมุมปากเหมือนจะทักทายแต่แบมแบมดันก้มหน้าซะก่อน
ยูคยอมหันไปมองแล้วหันกลับมาตอบคำถามของพี่ชายคนสนิทอย่าง “ซง มินโฮ”
“ก็เบื่อๆพี่ช่วงนี้เลยว่าจะมาเปิดหูเปิดตาบ้าง แล้ววันนี้มีคิวแข่งให้ผมบ้างป่ะ” ยูคยอมถามกวาดตามองไปทั่วๆสนามมีรถมากมายกำลังจอดรอการแข่งขันในรอบต่อไป
มินโฮพยักหน้า “มันก็อยู่ที่ว่ามึงมีอะไรมาแลกก็แค่นั้น เสนอมาสิกูจะได้หาคู่แข่งให้” มินโฮบอกแล้วยักไหล่
ยูคยอมหัวเราะหึแล้วชี้ไปทางร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอยู่ในรถ มินโฮพยักหน้าไล่มองตั้งแต่หัวจนถึงต้นขาเล็กแต่เขาคงไม่กล้าคิดอะไรกับใครเพราะตัวจริงนั่งมองอยู่ข้างสนามโบกไม้โบกมือมาเป็นระยะ
“ใครจะแข่งก็ได้ถ้าชนะก็เอาหมอนี่ไป” คำพูดของยูคยอมทำให้แบมแบมสะดุ้งโหยงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ร่างเล็กสายหัวไปมาจนผมปลิว
“มะ...ไม่นะคุณ...ไม่เล่นแบบนี้สิ” แบมแบมพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด ความกลัวแล่นเข้าสู่สมอง
“เงียบปากซะ”
สุดท้ายแบมแบมก็ต้องยอมเป็นของแลกเปลี่ยนในคืนนี้และมีคนไม่น้อยที่สนใจจะแข่งกับยูคยอม และคนที่ได้แข่งก็คือคนที่เคยแข่งแพ้ยูคยอมครั้งที่แล้ว แบมแบมได้กลิ่นสาบเมิร์คจากตัวผู้ชายคนนี้แม้จะแค่เปิดกระจกก็เถอะแต่มันแรงพอที่จะทำให้เขาเอามือปิดจมูกหนีกลิ่นชื้นๆนั่น
รถหรูทะยานพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วแม้จะเสียงเฮตามหลังมาดังแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้แบมแบมตื่นเต้นน้อยลงได้เลย ความกลัวคืบคลานเข้ามาเมื่อรถอีกคันขับขึ้นแซงจนเกือบจะทิ้งห่าง แบมแบมสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมยูคยอมต้องทำแบบนี้ เพราะถ้ายูคยอมแพ้หมายถึงเข้าจะต้องไปกับใครก็ไม่รู้หนึ่งคืนโดยไม่มีสิทธิ์เลือก
“คุณทำแบบนี้ทำไม” แบมแบมถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ร่างเล็กแทบจะปล่อยโฮออกมาแม้รถจะตีตื้นกันอยู่ก็เถอะแต่ยูคยอมไม่ตอบแค่เค้นยิ้มให้เท่านั้น
“ผมถามว่าคุณทำแบบนี้ทำไม! ผมจะกลับ! จอดแล้วปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้ผมไม่สนุกด้วยนะคุณยูคยอม ผมบอกให้ปะ...อื้อ” ยูคยอมเอื้อมมือไปปิดปาก เสียงแบมแบมทำให้เขาไม่มีสมาธิก่อนจะสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่มือพร้อมเสียงสะอื้น
มือใหญ่สับเกียร์พร้อมทั้งเหยียบคันเร่งรอบสุดท้ายแม้จะตามอยู่แต่ยูคยอมก็มีเคล็ดคลับในการแข่งขันเสมอ รถหรูเบี่ยงซ้ายขวาไปมาพยายามทำให้คู่แข่งสับสนและป้องกันไม่ให้คู่แข่งขับมากระแทกข้างๆก่อนจะออกตัวเหยียบจนมิดในวินาทีสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย
เสียงนกหวีดดังสนั่นเมื่อยูคยอมเข้าสู่เส้นชัยตามมาพร้อมเสียงเฮ ร่างสูงเดินออกไปจากรถโดยไม่พูดอะไรสักคำแถมยังดึงตัวผู้หญิงหุ่นดีที่ใส่เสื้อเอวลอยจนเห็นรอยสักเข้ามาจูบต่อหน้าต่อตาคนมากมาย แบมแบมมองพร้อมกับเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เขาโกรธจนไม่รู้จะพูดยังไงโกรธจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆที่ยูคยอมเล่นแรงแบบนี้
“เดี๋ยวฉันให้พี่เขาไปส่งนายเพราะฉันต้องไปทำธุระต่อ” ยูคยอมเปิดประตูรถนั่งลงที่ตำแหน่งเดิมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ลงไปสิยะ ฉันกับยูคยอมจะไปสนุกต่อแล้ว” จู่ๆผู้หญิงคนเดิมก็เปิดประตูรถฝั่งแบมแบมเธอดึงแขนเล็กให้แบมแบมขยับตัวออกมาก่อนจะผลักจนร่างเล็กเซไปข้างหลังจนเกือบเสียหลักดีที่มินโฮรับไว้ทัน ดวงตากลมโตจ้องมองยูคยอมด้วยแววตาสั่นระริกปนผิดหวัง
ถ้ายูคยอมสัมผัสได้จริงๆคงจะรู้ว่าตอนนี้แบมแบมน่ะเกลียดตนเองไปแล้ว
รถจอดสนิทแบมแบมพูดขอบคุณมินโฮเพียงแค่สั้นๆก่อนจะลงจากรถไป มินโฮไม่มีกลิ่นสาบของเมิร์คแต่แววตานั่นไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด มินโฮชวนเขาคุยตลอดทางแต่ร่างเล็กก็ไม่รู้จะตอบอะไรมากกว่าครับแล้วพยักหน้าจนมินโฮหัวเราะสลับกับฮัมเพลงฮิพฮอพไปด้วยจนถึงหอพัก
นาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ตีสี่กว่าแล้วแต่แบมแบมยังไม่ได้นอนร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเตียงขาสองข้างยกขึ้นมากอดไว้ก่อนจะซบหน้าลงกับเข่าแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ทั้งไม่พอใจ แต่เขาทำอะไรยูคยอมไม่ได้เลย
“จะร้องไห้ไปถึงไหน” เสียงคุ้นหูทำให้แบมแบมต้องเงยหน้ามอง ยูคยอมยื่นอยู่ข้างเตียงใกล้ๆกับเขา
“ฮึก...ออกไปเลยนะ! ผมบอกให้คุณออกไปจากห้องผมไง!” แบมแบมตะคอกเสียงดัง
ยูคยอมยืนนิ่งไม่ทุกข์ร้อนกับน้ำเสียงแข็งๆจากคนตัวเล็กสักนิดจนแบมแบมต้องลุกขึ้นมาทั้งผลัก ทั้งทุบตีร่างสูงด้วยความโกรธ
“ผมบอกว่าให้คุณอะ...อื้อ”
ร่างเล็กโดนกระชากเข้าไปก่อนจะตามด้วยจูบ ยูคยอมบีบคางมนเบาๆเพื่อให้อีกคนอ้าปากออกมาก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปกวาดต้อนดูดดึงลิ้นเล็ก เสียงลิ้นพันกันเฉอะแฉะยูคยอมออกแรงขบกัดที่ปากล่างของแบมแบมจนกลิ่นคาวเลือดตีขึ้นจมูก แบมแบมแขนขาแทบจะหมดแรงจนยูคยอมต้องประคองไว้ทั้งๆที่ปากทั้งคู่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ กว่าที่ยูคยอมจะผละออกก็ตอนที่แบมแบมส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ
“ทีนี้รู้รึยังว่าฉันเป็นคนแบบไหน” ยูคยอมพูดแค่นั้นก่อนจะออกจากห้องไป
ตากลมกระพริบถี่ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา แบมแบมมองดูนาฬิกาบนหน้าจอมือถือก่อนจะพบว่าตอนนี้มันเกือบจะเที่ยง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แบมแบมสนใจเพราะตอนนี้หัวเขาหนักเหมือนก้อนหินแถมปวดยังกับจะระเบิดออกมาให้ได้ มือเล็กยกขึ้นนวดข้างขมับเบาๆก่อนจะเผลอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั่นมันทำให้เขาหงุดหงิดและนึกเลยไปถึงจูบเมื่อคืน
ทุกอย่างไม่ใช่ความฝันเพราะหลักฐานคือปากล่างที่บวมเจ่อเพราะโดนกัด แบมแบมนึกสาปแช่งยูคยอมอยู่ในใจ เขาตามอารมณ์อีกคนไม่ทัน ผีเข้า ผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แบมแบมเริ่มรู้เหตุผลที่จินยองบอกให้เขาอยู่ห่างๆจากยูคยอม อย่าเผลอเข้าใกล้ สบตาหรือแม้กระทั่งนึกถึงก็อย่าทำ
แบมแบมส่ายหัวไปมาบนหมอนท้องร้องประท้วงให้เขาลุกขึ้นไปหาอะไรกินแต่ความขี้เกียจยังฉุดดึงเขาไว้บนที่นอน ความเมื่อยล้าจากเรื่องเมื่อคืนทำให้แบมแบมไม่อยากลุกไปไหน ตั้งแต่เป็นมิททีชีวิตของเขาวุ่นวายจนแทบไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องอื่นเลย แม้จะดีใจที่รอดตายมาได้แต่พอถึงวันนี้แบมแบมชักไม่แน่ใจว่ามันดีไหมที่เขาเป็นแบบนี้หรือตายดีกว่ากันแน่
ยูคยอมกำลังนั่งอยู่ในบ้านเพราะโดนมาร์คเรียกหาตั้งแต่เช้า พอเจอหน้ามาร์คก็บ่นน้องชายชุดใหญ่เรื่องที่โดดเรียนวิชาไสยเวทย์ไปจนถึงเรื่องของแบมแบม
“นายคิดว่าพี่ไม่รู้รึไงว่าเมื่อคืนนายไปก่อวีรกรรมอะไรมายูคยอม ถ้านายแพ้จะทำยังไง พี่รู้ว่านายไม่เคยแพ้แต่ก็ใช่ว่าชัยชนะจะเข้าข้างนายเสมอไปถ้าพวกเมิร์คเล่นตุกติกล่ะ เด็กนั่นไม่ใช่ของเล่นนะที่นายจะทำอะไรกับเขาก็ได้ พี่ไม่เข้าใจจริงๆว่านายทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร หรือว่านายเกลียดแบมแบม” คำถามของมาร์คทำให้ยูคยอมนิ่งเงียบ จริงๆยูคยอมเองก็ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นไปทำไมเหมือนกันเขาก็แค่อยากเห็นเยรินเสียใจ อยากให้เยรินเห็นว่าต่อให้เธอรักเขาขนาดไหนก็ไม่มีวันจะได้ความรักจากเขาไปแม้แต่เพียงนิดเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะเยรินที่ชอบยูคยอมแล้วบอกให้พี่ชายเธอฆ่าโซฮีคนรักของเขาก็คงไม่ตาย เพราะเธอเพราะความรักของเธอมันเห็นแก่ตัวจนยูคยอมขยะแขยง เกลียด และอยากให้เธอเสียใจมากที่สุด โดยใช้แบมแบมเป็นเครื่องมือโดยไม่ทันคิดว่าเด็กคนนั้นอาจจะรับสถานการณ์ไม่ไหว
ทั้งๆที่โซฮีก็เคยบอกเขาแท้ๆว่ามนุษย์อ่อนแอและร้องไห้ง่ายแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม
“ถ้าต้องการแก้แค้นก็อย่าเอาแบมแบมเข้าไปเกี่ยว นายเห็นจินยองไหมล่ะ นายรู้ดียูคยอมว่าคนที่ต้องทนเจ็บปวดกับเรื่องความรักน่ะมันเป็นยังไง พี่ขอร้องอย่าทำแบบนั้นอีกได้ไหม” มาร์คพูดด้วยเสียงอ่อนลงเขามองหน้าน้องชายแต่ยูคยอมก็มีสีหน้าเช่นเดิม
ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้มาร์คต้องถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ “ผมจะพยายามแล้วกัน”
มาร์คได้แต่มองตามน้องชายจนอีกคนหายลับไปจากประตู ยูคยอมดื้อและไม่ค่อยปล่อยวางแม้จะมีมุมขี้เล่นหรือหยอกเย้าอะไรก็แล้วแต่ แต่พอคิดเรื่องโซฮีทีไรยูคยอมเหมือนจะพาลโกรธทุกสิ่งทุกอย่าง ใจหนึ่งก็อยากจะให้แบมแบมช่วยเปลี่ยนนิสัยแต่ดูแล้วแบมแบมอาจจะตายซะก่อนถ้าน้องชายเขายังทำแบบเมื่อคืนนี้อีก ดีที่มาร์คมีเส้นสายเยอะเขาให้คนตามแบมแบมเกือบตลอดเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพอีกคน กลัวว่าแจบอมจะเผลอลงมือทำอะไรตอนที่เขากำลังยุ่งๆแถมยูคยอมยังมาเป็นแบบนี้อีก
จริงๆตัวเขาเองก็มีเรื่องจะต้องจัดการเหมือนกัน มาร์คไม่อยากปล่อยมันไว้นานไม่งั้นผู้หญิงคนนั้นคงจะได้ใจ คิดว่าทำอะไรเขาก็ได้ มาร์คอยากจะตอกกลับแรงๆเขาไม่ชอบการแก้แค้นหรอกแต่ก็ไม่เคยยอมใครเหมือนกัน แจ็คสันไม่ใช่สมบัติแต่มาร์คยอมรับว่านอกจากครอบครัวแจ็คสันก็เป็นคนหนึ่งที่มาร์คทั้งหวงและห่วงแม้จะไม่ค่อยแสดงออกให้อีกคนรู้
50%
ยางรัดผมรูปผีเสื้อถูกกำจนแน่นมาร์คลุกขึ้นแล้วหายตัวไปทันที ตอนนี้ร่างบางกำลังยืนอยู่ในสวนหย่อมของโรงเรียนมาร์คโชคดีที่ผ่านมาเจอยองจีกำลังยืนคุยอยู่กับเยรินพอดี พวกผู้หญิงมักทำให้มาร์คสงสัยว่าทำไมพวกเธอถึงได้คุยกันเสียงดังพร้อมทั้งหัวเราะด้วยเสียงแหลมๆเล็กๆจนรำคาญหู
มาร์คมองดูจนกระทั่งเยรินออกไปมีแต่ยองจีที่นั่งอยู่คนเดียว ขาเรียวก้าวฉับๆไปใกล้ๆเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยองจีหันมา ใบหน้าสวยๆนั่นไม่ได้มีทีท่าตกใจแถมยังยกยิ้มที่ทำให้มาร์ครู้สึกหงุดหงิดอีกต่างหาก
“เอาของมาคืน” มาร์คพูดพร้อมกับโยนยางรัดผมใส่อีกคน เขาไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกับผู้หญิงแบบนี้ ในเมื่อเธอเลือกที่จะทำแบบนั้นก่อนมาร์คก็ทำตามก็เท่านั้นเอง
“ขอบใจมากนะเราก็นึกว่ามันหายไปไหน แต่เราว่ามาร์คระวังของหายบ้างก็ดีนะโดยเฉพาะเอ่อ...” ยองจีเว้นวรรคไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “แฟนน่ะ”
ยองจียกยิ้มอย่างพอใจเธอเห็นใบหน้ายุ่งๆของมาร์คและมันทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
“งั้นเธอก็ดูแลชีวิตของเธอให้ดีๆล่ะ เพราะถ้ามันหายฉันนี่แหละที่เป็นคนเอาไป…นรกยังว่างสำหรับคนอย่างเธอ อ่อพวกเพื่อนๆของเธอด้วย” มาร์คโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขายักไหล่
“มันจะมากไปแล้วนะ ไอ้ปีศาจ!” ยองจีลุกขึ้นผลักมาร์คจนเซไปข้างหลังแต่ดีที่แจ็คสันรับทัน และการมาของแจ็คสันทำให้ทั้งคู่ตกใจ
“อย่ายุ่งกับมาร์คอีก อย่ามาทำร้ายคนของฉันยองจี” แจ็คสันพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะลากมาร์คออกมา
ใบหน้าหล่อยับยุ่งเขาเดินตามมาร์คมาตั้งแต่เห็นอีกคนเดินออกมาจากห้องน้ำตอนแรกกะว่าจะเข้าไปทักแต่ดันเห็นมาร์คดุ้มๆมองๆยองจีไม่เลิกก็เลยเกิดความสงสัยว่ามาร์คจะทำแบบนั้นทำไม ดักฟังอยู่นานจนกระทั่งเห็นยองจีผลักมาร์คนั่นแหละถึงได้ออกไปรับไม่งั้นมาร์คคงหงายหลังลงไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
มาร์คมีความลับกับเขา
“เหนื่อยแล้วแจ็คสัน จะลากฉันไปไหนเนี่ย” มาร์ครั้งตัวเองไว้เมื่อแจ็คสันเอาแต่ลากๆเขาขึ้นบันไดจนเกือบจะถึงชั้นดาดฟ้าอยู่แล้ว
“ไปสำเร็จโทษไง บังอาจมากนะมาร์คต้วนที่มาปิดบังฉัน ยังงี้พ่อจะทำให้ครางเลย” แจ็คสันหงุดหงิดแต่ก็ยังเย้าหยอกคนรักให้เขินอายได้เช่นทุกครั้ง
“แจ็คสัน! ฉันไม่ไปแล้ว” ไม่ทันที่จะได้ปฏิเสธแจ็คสันก็ยกมาร์คขึ้นพาดบ่าแล้วเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า ที่ๆเขาชอบมานั่งเล่นกับมาร์คเป็นประจำจะเรียกว่าพื้นที่ส่วนตัวก็ได้
จริงๆแล้วบนนั้นมีห้องดูดาวที่ถูกปิดใช้งานไปนานแล้วแจ็คสันทำความสะอาดมันจนเอี่ยมเขาจัดมันไว้เป็นที่พักเวลาอยู่กับมาร์คหรือต้องการทำอะไรที่เป็นส่วนตัว ร่างของมาร์คถูกวางลงบนโซฟานิ่มตัวเก่ายังไม่ทันจะได้โวยวายหรือลุกขึ้นแจ็คสันก็เอาตัวมากันไว้ซะก่อน
ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆจนจมูกโด่งถูไถกัน แจ็คสันจูบกลีบปากสีชมพูเบาๆแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆยกมือขึ้นเสยผมสองสามครั้ง
“บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไรไม่งั้นฉันจะจับนายตีให้ตายเลยเด็กดื้อ ฮึ้ย” พูดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะบีบจมูกขาวๆนั่นด้วยความมันเขี้ยว
มาร์คยู่หน้าเขาไม่อยากจะบอกเรื่องไม่เป็นเรื่องมันไม่ได้สำคัญอะไรมากแล้วก็ไม่อยากให้แจ็คสันคิดมากด้วยเหมือนกัน ในเมื่อแจ็คสันเคยบอกว่าครอบครัวตนเองสนิทกับครอบครัวยองจีแล้วจะให้เขาบอกเพื่อให้แจ็คสันถูกผู้ใหญ่มองไม่ดีหรอ เขาไม่อยากทำแบบนั้น
“บอกมาเถอะน่า ฉันอยากรู้ว่ามันยังไงแต่เรื่องที่ยองจีพูดฉันได้ยินหมด อ่อรวมเรื่องที่นายหวงฉันด้วยนะดีใจชะมัด” แจ็คสันบอกด้วยน้ำเสียงติดตลกจนมาร์คอดไม่ได้ที่จะตีต้นแขนแกร่งแรงๆ
“ยองจีเป็นคนขว้างมีดวันนั้น เธอคงอยากให้ฉันตายจะได้ครองรักกับนาย ให้ตายเถอะนายไปทำอะไรให้เธอหลงเสน่ห์รึไง” มาร์คบบ่นอุบ
แจ็คสันหัวเราะเสียงดังเขาชอบใจเวลาเห็นว่ามาร์คงอแงและหวงเขา มือหนาดึงรั้งตัวอีกคนเขามากอดแล้วกดจมูกไปตามที่สองข้างแก้มก่อนจะพรมจูบทั่วใบหน้าหวานจบด้วยบดจูบที่เรียวปากอิ่มซ้ำๆดูดดึงมันจนบวมเจ่อก่อนจะเป็นมาร์คที่ขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมตักของแจ็คสัน
มือบางล้วงไปในกระเป๋าเสื้อสูทหยิบแอปเปิลผลเล็กสีแดงสดออกมา แจ็คสันมองอย่างไม่เข้าใจเพราะมาร์คยื่นเจ้าของโปรดนั่นให้เขา
“ช่วยป้อนแอปเปิลฉันหน่อยสิแจ็คสันอ่า” มาร์คกระซิบข้างหู “ป้อนด้วยปากนะ”
แจ็คสันหัวเราะหึในลำคอหยิบแอปเปิลจากมือคนบนตักมากัดก่อนรั้งต้นคอให้โน้มลง ปากทั้งคู่แนบชิดกันแจ็คสันค่อยๆส่งชิ้นแอปเปิลหวานฉ่ำเข้าปากมาร์ค มาร์คผละหน้าออกเคี้ยวแล้วกลืนมันลงช้าๆสลับกันอยู่แบบนี้จนปากแดงช้ำก่อนที่แอปเปิลคำสุดท้ายจะถูกส่งมันหล่นตกลงบนเป้ากางเกงแจ็คสัน
มาร์คหัวเราะก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวเองจากบนตักนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วเคลื่อนหน้าเข้าหาชิ้นแอปเปิลก่อนจะฝังหน้าแล้วงับมันเข้าปากมิวายหยอกเย้าคนรักด้วยการงับกางเกงเบาๆ
“ซี๊ด...งับแบบนี้งับพี่เลยเถอะ” แจ็คสันพูดแล้วมองอะไรบางอย่างใต้กางเกงนักเรียนที่ค่อยๆนูนขึ้นมา
-CUT- ( ดูที่ทอล์คข้างล่าง)
จินยองหน้าแดงจนต้องใช้สองมือกุม เขาอยากสาบานต่อหน้าพระเจ้าเลยว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปเห็นฉากร้อนแรงของมาร์คกับแจ็คสันเลยสักนิดแต่เพราะต้องการถามเรื่องแบมแบมกับมาร์คแล้วคิดว่ามาร์คอาจจะมานอนอยู่บนนี้ จินยองคิดถูกมาร์คอยู่บนนี้แต่กำลังกินแอปเปิลกันอร่อยเลย
“จะบ้าตาย มาร์คนะมาร์คโอ้ย…ภาพติดตาชะมัด” จินยองบ่นอุบแล้วค่อยๆเดินลงบันไดมา
ร่างบางชนเข้ากับใครสักคนที่เดินเลี้ยวมาตรงมุมบันไดจินยองเกือบหน้าคว่ำแต่อีกคนรับไว้ทันพอดี จินยองถอนหายใจอย่างโล่งอกกำลังจะเงยหน้าขึ้นขอบคุณแต่คำพูดพวกนั้นถูกกลืนลงคอจนหมดเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนช่วยตนเองไว้
จินยองสะบัดมืออีกคนออกก่อนจะเดินผ่านไปแต่มือนั่นดึงไหล่เล็กไว้ก่อนจะดึงตัวจินยองกลับมาหาตัวเองแล้วลากจินยองหลบไปตรงมุมบันไดใช้สองแขนกักขังตัวจินยองไว้
“หลบไป” จินยองพูดเสียงเข้ม
“.....”
“บอกให้หลบไปไง เกะกะ” ร่างบางออกแรงผลักแต่ยิ่งขัดขืนอีกคนก็ยิ่งออกแรงล็อคไว้
“อิมแจบอมเป็นบ้ารึไง! ฉันบอกให้หลบไปไงฉันจะไปเรียน” คราวนี้จินยองตะคอกเสียงดัง ร่างบางพยายามกลั้นน้ำตาที่คลออยู่ในหน่วยตา
แจบอมไม่ได้พูดอะไรแต่เขายืนนิ่งมองใบหน้าหวานใกล้ๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนพอจินยองเบือนหน้าหนีมือหนาก็จับมันมามองหน้าเขาใหม่ทำแบบนี้อยู่ซ้ำๆจนจินยองไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีก ร่างบางสะอื้นจนตัวโยน
“ได้โปรดเถอะ เลิกทำแบบนี้ซะทีแจบอม ฮึก” เสียงสั่นจนแทบควบคุมไม่อยู่
“ฉันรู้ว่านายรักฉันจินยอง เป็นพวกเดียวกับฉันสิจินยองแล้วฉันจะให้นายทุกอย่าง ฉันรักนาย” แจบอมพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน
มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกลวกๆก่อนจะปล่อยหมัดหนักใส่แจบอมจนแจบอมหงายหลังลงไปที่พื้น จริงๆแล้วจินยองอยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอหรือไม่ก็ฆ่าให้ตายไปเลยซะด้วยซ้ำ
“ถ้างั้นเอาพ่อแม่ฉันคืนมาสิแจบอม เอาคือนมาสิ!” มือบางดึงคอเสื้อแจบอมเขย่าไปมาทั้งน้ำตา
“ฮึก... อย่ามาพูดว่ารักฉันอีก เพราะฉันเกลียดนายที่สุดอิมแจบอม..”
จินยองเดินจากไปแล้วแต่แจบอมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขายิ้มเยาะให้ตัวเองตลกชะมัดที่เขามีความคิดที่จะกลับไป ในเมื่ออีกคนก็บอกเขาทุกครั้งที่เจอกันว่าเกลียด เกลียดเขามากกว่าใครในโลกนี้
“ทำไมนายต้องอยากกลับไปหามันด้วย”
แจบอมหันขวับไปทางยองที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สีหน้าบูดบึ้งแต่ปากกลับยิ้มเยาะ แจบอมเบือนหน้าหนีเขาไม่อยากสนใจยองแจเลยสักนิด
“ฉันรักนายนะแจบอม เรามาช่วยกันฆ่าพวกนั้นให้หมดเลยสิ” ยองแจสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆพูดด้วยน้ำเสียงหวานหู
“อย่ามาสั่งฉัน!” แจบอมตะคอกเสียงดัง
“นายมันโง่แจบอม คอยดูนะฉันจะฆ่าจินยองด้วยน้ำมือของฉัน” ยองแจพูดกำมือแน่นด้วยความเคียดแค้น
แจบอมพุ่งเข้าใส่ยองแจจนตัวอีกคนชิดผนัง มือหนาบีบคอยองแจจนลอยหวือขึ้นกลางอากาศดวงตาสีดำเปลี่ยนสีม่วงหม่นจนคนถูกกระทำมองด้วยความหวาดกลัว แต่แจบอมก็ยังไม่หยุดในหัวเขาได้ยินแต่คำว่าฆ่าจินยองดังซ้ำไปซ้ำมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้
“อึก...หยุด...จะ...แจบอม...ได้โปรด”
สีตาของแจบอมกลับเป็นสีเดิม เขาปล่อยมือจากคอยองแจแล้วพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ทั้งหงุดหงิด ทั้งรำคาญ
“อย่ามาสั่งฉัน ถ้าไม่อยากตายจำใส่หัวไว้”
ยองแจฮึดฮัดอยู่คนเดียวมือบางกำเข้าหากันแน่นจิตใจร้อนรุ่มจนอยากจะไปฆ่าคนในความทรงจำของแจบอมให้ตาย ทั้งๆที่ยองแจก็ทำทุกอย่างเพื่อแจบอมและยอมเป็นเมิร์คก็เพราะรักแจบอมแท้ๆแต่ทำไมนะเขาถึงไม่เคยได้ความรักหรือความรู้สึกดีอะไรนั่นกลับมาเลย
ใบหน้าหวานบึ้งตึงส่วนลึกๆในจิตใจของยองแจที่ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครรู้ว่าจริงๆแล้ว ยองแจน่ะไม่เคยชอบขี้หน้าจินยองเลยสักนิดเพราะจินยองชอบทำตัวเด่นกว่าเขาทั้งตอนเป็นซอร์แถมยังคบกับแจบอมทั้งๆที่เขาเองทำทุกอย่างเพื่อที่จะเข้าใกล้แต่ก็ไม่มีโอกาสจะได้ใช้คำว่าคนรักถึงแจบอมจะนอนกับเขาถึงจะมีเซ็กซ์กันแต่ปากของแจบอมก็เอาแต่เรียกชื่อจินยองทุกครั้ง
“ฉันเกลียดนายจินยอง ฉันเกลียดนาย!!” ยองแจสถบด่ากระทืบเท้าเสียงดังด้วยความหงุดหงิด
สานบานกับตัวเองเลยจริงๆว่าถ้าเขามีโอกาสฆ่าปาร์คจินยองเมื่อไหร่เขาจะจัดการไม่ให้เหลือแม้แต่ชื่อ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม
อิมแจบอมจะต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
Tbc
อย่าเพิ่งเกลียดพระเอกค่ะ ...... 55555
แสนดีแล้วนางเอกไม่จำ555555 ดูได้จากฟิคหลายๆเรื่อง
อัพเดต ฉากกินแอปเปิลอยู่ที่ทวิต @jarkjy_ ในเฟบนะคะ
ฉากCUT ในทวิตนะคะ เฟบทวิต เฟบทวิต เฟบทวิต
แท็กฟิค: #ฟิคยบ99
’ cactus
ความคิดเห็น