ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sugar daddy ♡ markno & nct

    ลำดับตอนที่ #4 : sugar daddy ♡ 03

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 61





     

    Sugar Daddy

    03

     

     

     

    นาแจมินได้แต่มองเพื่อนสนิทตัวเองอย่างไม่วางตาจนคนโดนมองถึงกับเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วใส่อย่างสงสัย เพราะแจมินได้ยินเพื่อนๆพูดถึงเจโน่ในทางไม่ดีเท่าไหร่ถึงไม่เชื่อแต่ก็อยากมาถามให้แน่ใจว่าที่พวกเพื่อนๆในคณะพูดว่าเจโน่มีเสี่ยเลี้ยงอยู่มันมีมูลจริงหรือเปล่า

     


    “แจมินมองหน้าเรามาเป็นชั่วโมงแล้วนะ” เจโน่พูดขึ้นพร้อมทั้งปิดหนังสือตรงหน้าแล้วมองหน้าเพื่อนสนิทกลับ

    “จริงๆเรามีคำถามอยากถามเจโน่ แต่ไม่รู้ว่าควรถามดีไหม”

    “จะถามเราเรื่องที่เพื่อนๆบอกเราเป็นเด็กเสี่ยหรอ” คำถามของเจโน่ทำเอาแจมินยิ้มเจื่อน

    “ขอโทษนะเจโน่จริงๆเราไม่เชื่อหรอกว่าเจโน่จะเป็นเด็กเสี่ยอะไรนั่น เราก็แค่อยากถามให้มั่นใจเฉยๆไม่ต้องสนใจหรอก”

     

    เจโน่ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆก่อนจะมองหน้าแจมินอีกครั้งแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้นาแจมินตาค้างเหมือนเห็นผี

     

    “พวกนั้นพูดจริงไม่รู้แจมินจะเกลียดเรารึเปล่านะแต่เรามีคนเลี้ยงดูอยู่จริงๆตอนนี้”

    “ลีเจโน่!” นาแจมินเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง

    “ชู่เบาๆสิแจมิน”

    เจ้าของปิดปากก่อนจะย่นหัวคิ้วเข้าหากันเกือบเป็นโบว์จนเจโน่ต้องยื่นมือไปแตะเบาๆ

    “อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยลีเจโน่” แจมินพูดเสียงดุ

     

    เจโน่มองเพื่อนสนิทที่กำลังทำสีหน้าหงุดหงิดสลับกับทำคิ้วขมวด เขาไม่รู้หรอกว่าแจมินจะเข้าใจหรือเปล่าแต่ก็ยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่หรอกกับการเอาตัวเข้าแลกถึงจะยังไม่เสียตัวให้กับคุณมาร์คสักครั้งเลยก็ตาม

     

    “มันแปลกนะที่คนๆนั้นจะใจดีกับเจโน่ขนาดนี้” แจมินแสดงความคิดเห็นหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ

    “ตอนแรกเราก็คิดแบบแจมิน แต่ตอนนี้ไม่รู้สิเราแทบไม่คลางแคลงใจในความช่วยเหลือของคุณเขาเลย”

     

    แจมินถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขารู้ดีว่าลีเจโน่ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัวหรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง แต่ที่ไม่รู้เลยก็เรื่องที่เจโน่ไปสมัครเว็บบ้าบอนั่นแหละเพราะอีกฝ่ายไม่มาบอกเหมือนเรื่องอื่นๆ ทั้งโกรธ หงุดหงิด เขาเป็นเพื่อนสนิทแท้ๆควรจะต้องรู้ว่าเจโน่คิดทำอะไรแบบนี้แต่กลับไม่รู้เลย

     

    แล้วอีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องใครที่กำลังทำให้ลีเจโน่เชื่อใจ เมื่อก่อนแจมินคิดว่าตัวเองคือที่หนึ่งสำหรับเจโน่ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเจโน่ก็จะคุยกับเขาแต่ตอนนี้เจโน่เงียบๆไปเลยก็นึกว่ายุ่งๆกับงานพาร์ทไทม์แต่ไม่ใช่ ก็พอจะรู้เหตุผลหลังจากฟังทุกอย่างจากปากเจโน่จบ

     

    เหมือนกำลังเห็นลีเจโน่มีความสุขกับใครที่ไม่ใช่ตัวเอง

     

    “แจมินไม่รังเกียจเราใช่ไหมที่เราทำแบบนี้”

    เจ้าของชื่อส่ายหัวเอื้อมไปกุมมือที่เรียวที่กำลังบีบเข้าหากันอย่างประหม่า

    “เราคงเป็นคนสุดท้ายบนโลกนี้ที่จะเกลียดเจโน่นะ”

    “ขอบคุณนะแจมิน แจมินเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเราเลย”

     

    ถ้าเจโน่ตีความหมายประโยคนี้ของแจมินดีๆก็น่าจะพอรู้อะไรบ้างว่าเพื่อนสนิทที่คอยดูแลเจโน่และอยู่เคียงข้างมาโดยตลอดไม่ได้คิดกับอีกฝ่ายแค่เพื่อนสนิทอีกแล้ว

     

     

     

    ….

     

     

     

    มาร์คลีมองหน้าคนเด็กกว่าที่นั่งอยู่ข้างๆกันในรถอย่างสงสัย เพราะอีกฝ่ายเดี๋ยวก็ทำหน้ายุ่ง เดี๋ยวก็ทำหน้าเศร้าจนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าวันนี้เจโน่เจออะไรไม่ดีมาหรือเปล่า มือใหญ่เอื้อมไปจับมือที่กำลังส่งนิ้วเข้าปากแล้วกัดอยู่แบบนั้น มาร์คสังเกตหลายครั้งแล้วว่าเจโน่เวลาประหม่าหรือมีอะไรไม่สบายใจจะชอบกัดนิ้วหรือกัดเล็บ

     

    “อย่ากัดสิ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะกุมมือเรียวเอาแน่นแล้วบีบเบาๆ

    “มันชินแล้วหนิครับ” เจโน่ตอบกลับ

    “ชินเพราะมีเรื่องกลุ้มใจบ่อยหรือไงกัน”

     

    คำถามของคนแก่กว่าทำเอาเจโน่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าแล้วหันไปมองคนข้างๆ รอยยิ้มเล็กบนใบหน้าหล่อเหลาทำเอาเจโน่รู้สึกเขิน เป็นผู้ชายที่ดูดีทุกครั้งที่ยิ้มจริงๆ

     

    “ทำไมคุณมาร์คคิดแบบนั้นล่ะครับ” เจโน่ตั้งสติได้ก่อนจะเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย

    “ไม่รู้ตัวหรอว่าเวลาเธอประหม่าหรือว่าคิดมากจะชอบกัดนิ้วกัดเล็บน่ะ มืออยู่ไม่สุขเลยทุกครั้งที่ฉันมองเธอเป็นแบบนี้บ่อยมากเลยนะ”

    “ขนาดนั้นเลยหรอครับ”

    มาร์คพยักหน้า “วันนี้มีเรื่องไม่ดีหรือไงที่มหาลัยน่ะ”

    “ก็ไม่เชิงครับแต่คงไม่ใช่เรื่องไม่ดีสำหรับผมแต่สำหรับคนอื่นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

    “เล่าได้ไหม”

     

    เสียงใสเอ่ยเล่าด้วยน้ำเสียงและอาการทางสีหน้าที่ดูไม่ดีเท่าไหร่ ท่าทางเด็กตัวขาวนี่จะกังวลกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไม่แน่อาจจะเป็นยัยพี่สาวตัวแสบที่เอาข่าวลือของเจโน่ปล่อยเสียๆหายๆ เพราะดูจากสีหน้าท่าทางวันนั้นก็รู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเจโน่เข้าไส้

     

    มาร์คลีดึงลีเจโน่เข้ามากอดลูบหลังปลอบอีกฝ่ายเบาๆ ถึงแม้เจโน่จะไม่พูดว่าต้องการคำปลอบโยนอะไรก็ต้องตามแต่เขาต้องการจะให้ลีเจโน่รู้ว่าไม่ได้มีแค่ตัวเจโน่เองที่อยู่บนโลกใบนี้คนเดียว

     

    “แยกกันอยู่ไหมฉันมีคอนโดใกล้ๆมหาลัยของเธอ ไปกลับเองได้หรือจะให้ฉันเอารถให้ขับก็ได้นะอยากได้รุ่นไหน เอายังไงดีที่เธอจะไม่ต้องคิดมากแบบนี้”

     

    เจโน่ส่ายหน้าไปมาฝังใบหน้าลงบนอกแกร่ง เขาไม่ต้องการหาทางออกแบบนี้เพราะตอนนี้เจโน่เริ่มชินที่จะมีคุณมาร์คอยู่ข้างๆ ถึงแม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเบื่อเจโน่เมื่อไหร่เพราะเจโน่ไม่ได้มีอะไรเลยมาตั้งแต่ต้น คุณมาร์คเพียบพร้อมทุกอย่างถ้าจะมีความรักดีๆเจโน่ก็จะสนับสนุน

     

    เจโน่เงยหน้าขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มาร์คลีก้มหน้าลงมา

     

    ดวงตาของคุณมาร์คสีสวยมันเป็นเหมือนสีของเปลือกไม้เข้มๆ ดุดันแต่อ่อนโยนทุกครั้งที่เจโน่มองเข้าไปสะท้อนเงาตัวเอง

     

    “ผมจะไปก็ต่อเมื่อคุณมาร์คไล่ผม” เจโน่พูดเบาๆ

     

    มาร์คลียกยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าไปมา บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าเด็กตัวขาวตรงหน้าจะรู้ไหมว่าการเงยหน้ามองในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ แล้วพูดอะไรแบบนี้มันน่า จูบให้หายมันเขี้ยวถึงจะไม่ควรรู้สึกแบบนี้ในตอนนี้ก็เถอะ แต่ทำไงได้ก็ลีเจโน่ตอนที่ทำหน้าเหมือนแมวน่ะมันน่ามันเขี้ยวจริงๆ

     

    “ถ้างั้นชาตินี้เธอคงติดแหง็กอยู่กับคนแก่อย่างฉันไปจนแก่ตายแน่ๆ”

     

    เจโน่หัวเราะจนตาหยีกับประโยคที่เหมือนจะเป็นมุกตลกของคนแก่กว่า ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจมูกโด่งๆของอีกฝ่ายแตะเข้าที่แก้มของตัวเองเบาๆ

     

    “อย่าทำให้ฉันเอ็นดูเธอมากนักสิ อดใจไม่ไหวขึ้นมาคนที่จะแย่ก็คือตัวเธอเองนะ”

     

     

    เหตุการณ์บนรถเมื่อชั่วโมงที่แล้วทำเอาเจโน่ไปไม่เป็นตอนนี้หัวใจยังเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาอยู่เลย ตุ๊กตาหมีตัวโปรดถูกกอดจนจมไปกับอกเจโน่ทำตัวไม่ถูกยิ่งตอนนี้จะให้ออกไปเจอหน้าคนที่นั่งดูข่าวอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอย่าหวังเลย คงได้ทำตัวเหมือนสาวน้อยให้คนแก่กว่าได้แซวเขาเล่นนั่นแหละ

     

    ประตูเปิดออกก่อนคนที่เจโน่ไม่อยากเจอหน้าตอนนี้จะเดินมาพิงประตูห้องแล้วจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย รอยยิ้มที่เจโน่เคยชมว่าหล่อของคุณมาร์คตอนนี้มันแอบผสมความเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้

     

    “ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะแต่เคาะเรียกแล้วเธอไม่ตอบก็นึกว่าเขินจนเป็นลมไปแล้ว” แซวแถมยังหัวเราะให้เจ้าของห้องหน้าขึ้นสีจนต้องก้มลงไปซุกแก้มแดงๆกับตุ๊กตาหมีในอ้อมกอด

    “ไม่เอาน่าถ้าแค่นี้เขินแล้วเมื่อไหร่ฉันกับเธอจะใกล้กันมากกว่านี้ล่ะ”

     

    เจโน่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าอีกฝ่าย เลิกลั่กที่จะพูดเรื่องนี้ถึงคุณมาร์คจะไม่บอกว่าใกล้กันแบบไหนแต่ในฐานะที่ถูกซื้อมาในเรื่องแบบนั้นเจโน่ก็ตีความไปแบบนั้น

     

    “คุณมาร์คต้องการหรอครับ” เจโน่ถามออกไปซื่อๆ

    “ต้องการอะไรฉันจะได้ตอบให้ถูก” มาร์คถามกลับแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

    เจโน่อึกอักไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบไหน

    “ก็หมายถึง” เงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “ต้องการตัวผม”

     

    มาร์คลีอยากหัวเราะเพราะเมื่อกี้เขาเห็นท่าทางประหม่าของเจโน่มันดูน่ารักดี ยังไม่เคยเจอใครพูดเรื่องแบบนี้แล้วหน้าแดงเหมือนลูกมะเขือเทศได้เท่าคนตรงหน้าเลยให้ตายสิ ทั้งน่าขันและน่าเอ็นดู

     

    “ผู้ชายก็ต้องมีความต้องการอยู่แล้วล่ะเจโน่ยิ่งเป็นคนแบบเธอแล้วฉันก็ยิ่งรู้สึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องการแค่ตัวของเธอหรอกนะ”

    “แต่ผมเป็นหนี้บุญคุณของคุณมาร์คแล้วก็คุณมาร์คซื้อผมมาเพราะต้องการเรื่องแบบนั้นด้วยไม่ใช่หรอครับ” เจโน่พูดออกมาอย่างที่ใจคิด เขาก็กลัวอยู่หรอกแต่ไม่ต้องการเอาเปรียบคุณมาร์คอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้

    “เอาเป็นว่าถ้าวันนั้นมาถึงเธอจะได้ใช้หนี้ที่ว่าได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน แต่ตอนนี้ออกมากินข้าวได้แล้วสั่งพิซซ่ามาไม่รู้ว่าเธอจะชอบรึเปล่า”

    เจโน่พยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าใจ

    “คุณมาร์คเหมือนคุณพ่อเลยตอนนี้”

     

    มาร์คลีหัวเราะหึในลำคอก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆเด็กตัวขาวที่นั่งหัวเราะกับประโยคที่หลุดออกจากปากของตัวเอง

     

    “ถ้าหมายถึงพ่อที่แปลว่าแดดดี๊ก็คงใช่”

     

     




    tbc.

     



    คุณมาร์คลี!!!!!!!!!!! อกอิแป้นนแดดดี๊ที่ไม่ใช่พ่อก็มีอยู่อย่างเดียว แค่กๆ

    อาจจะไม่ได้แต่งบ่อยๆแต่พยายามแต่งบ่อยที่สุดค่ะ ขอบคุณที่ชอบกันนะคะ

    หลังๆมาร์คลียูโซฮอตมากก

    ติชมได้เลยค่ะขอบคุณค่ะ

     

    แท็ก #sugardmn

     

     

     


    CRYSTAL TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×