คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : sugar daddy ♡ 03
Sugar
Daddy
03
นาแจมินได้แต่มองเพื่อนสนิทตัวเองอย่างไม่วางตาจนคนโดนมองถึงกับเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วใส่อย่างสงสัย
เพราะแจมินได้ยินเพื่อนๆพูดถึงเจโน่ในทางไม่ดีเท่าไหร่ถึงไม่เชื่อแต่ก็อยากมาถามให้แน่ใจว่าที่พวกเพื่อนๆในคณะพูดว่าเจโน่มีเสี่ยเลี้ยงอยู่มันมีมูลจริงหรือเปล่า
“แจมินมองหน้าเรามาเป็นชั่วโมงแล้วนะ”
เจโน่พูดขึ้นพร้อมทั้งปิดหนังสือตรงหน้าแล้วมองหน้าเพื่อนสนิทกลับ
“จริงๆเรามีคำถามอยากถามเจโน่
แต่ไม่รู้ว่าควรถามดีไหม”
“จะถามเราเรื่องที่เพื่อนๆบอกเราเป็นเด็กเสี่ยหรอ”
คำถามของเจโน่ทำเอาแจมินยิ้มเจื่อน
“ขอโทษนะเจโน่จริงๆเราไม่เชื่อหรอกว่าเจโน่จะเป็นเด็กเสี่ยอะไรนั่น
เราก็แค่อยากถามให้มั่นใจเฉยๆไม่ต้องสนใจหรอก”
เจโน่ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆก่อนจะมองหน้าแจมินอีกครั้งแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้นาแจมินตาค้างเหมือนเห็นผี
“พวกนั้นพูดจริงไม่รู้แจมินจะเกลียดเรารึเปล่านะแต่เรามีคนเลี้ยงดูอยู่จริงๆตอนนี้”
“ลีเจโน่!” นาแจมินเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง
“ชู่…
เบาๆสิแจมิน”
เจ้าของปิดปากก่อนจะย่นหัวคิ้วเข้าหากันเกือบเป็นโบว์จนเจโน่ต้องยื่นมือไปแตะเบาๆ
“อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยลีเจโน่”
แจมินพูดเสียงดุ
เจโน่มองเพื่อนสนิทที่กำลังทำสีหน้าหงุดหงิดสลับกับทำคิ้วขมวด
เขาไม่รู้หรอกว่าแจมินจะเข้าใจหรือเปล่าแต่ก็ยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่หรอกกับการเอาตัวเข้าแลกถึงจะยังไม่เสียตัวให้กับคุณมาร์คสักครั้งเลยก็ตาม
“มันแปลกนะที่คนๆนั้นจะใจดีกับเจโน่ขนาดนี้”
แจมินแสดงความคิดเห็นหลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ
“ตอนแรกเราก็คิดแบบแจมิน
แต่ตอนนี้ไม่รู้สิเราแทบไม่คลางแคลงใจในความช่วยเหลือของคุณเขาเลย”
แจมินถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
เขารู้ดีว่าลีเจโน่ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัวหรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง
แต่ที่ไม่รู้เลยก็เรื่องที่เจโน่ไปสมัครเว็บบ้าบอนั่นแหละเพราะอีกฝ่ายไม่มาบอกเหมือนเรื่องอื่นๆ
ทั้งโกรธ หงุดหงิด เขาเป็นเพื่อนสนิทแท้ๆควรจะต้องรู้ว่าเจโน่คิดทำอะไรแบบนี้แต่กลับไม่รู้เลย
แล้วอีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องใครที่กำลังทำให้ลีเจโน่เชื่อใจ
เมื่อก่อนแจมินคิดว่าตัวเองคือที่หนึ่งสำหรับเจโน่
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเจโน่ก็จะคุยกับเขาแต่ตอนนี้เจโน่เงียบๆไปเลยก็นึกว่ายุ่งๆกับงานพาร์ทไทม์แต่ไม่ใช่
ก็พอจะรู้เหตุผลหลังจากฟังทุกอย่างจากปากเจโน่จบ
เหมือนกำลังเห็นลีเจโน่มีความสุขกับใครที่ไม่ใช่ตัวเอง
“แจมินไม่รังเกียจเราใช่ไหมที่เราทำแบบนี้”
เจ้าของชื่อส่ายหัวเอื้อมไปกุมมือที่เรียวที่กำลังบีบเข้าหากันอย่างประหม่า
“เราคงเป็นคนสุดท้ายบนโลกนี้ที่จะเกลียดเจโน่นะ”
“ขอบคุณนะแจมิน
แจมินเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเราเลย”
ถ้าเจโน่ตีความหมายประโยคนี้ของแจมินดีๆก็น่าจะพอรู้อะไรบ้างว่าเพื่อนสนิทที่คอยดูแลเจโน่และอยู่เคียงข้างมาโดยตลอดไม่ได้คิดกับอีกฝ่ายแค่เพื่อนสนิทอีกแล้ว
….
มาร์คลีมองหน้าคนเด็กกว่าที่นั่งอยู่ข้างๆกันในรถอย่างสงสัย
เพราะอีกฝ่ายเดี๋ยวก็ทำหน้ายุ่ง เดี๋ยวก็ทำหน้าเศร้าจนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าวันนี้เจโน่เจออะไรไม่ดีมาหรือเปล่า
มือใหญ่เอื้อมไปจับมือที่กำลังส่งนิ้วเข้าปากแล้วกัดอยู่แบบนั้น
มาร์คสังเกตหลายครั้งแล้วว่าเจโน่เวลาประหม่าหรือมีอะไรไม่สบายใจจะชอบกัดนิ้วหรือกัดเล็บ
“อย่ากัดสิ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะกุมมือเรียวเอาแน่นแล้วบีบเบาๆ
“มันชินแล้วหนิครับ”
เจโน่ตอบกลับ
“ชินเพราะมีเรื่องกลุ้มใจบ่อยหรือไงกัน”
คำถามของคนแก่กว่าทำเอาเจโน่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าแล้วหันไปมองคนข้างๆ
รอยยิ้มเล็กบนใบหน้าหล่อเหลาทำเอาเจโน่รู้สึกเขิน เป็นผู้ชายที่ดูดีทุกครั้งที่ยิ้มจริงๆ
“ทำไมคุณมาร์คคิดแบบนั้นล่ะครับ”
เจโน่ตั้งสติได้ก่อนจะเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย
“ไม่รู้ตัวหรอว่าเวลาเธอประหม่าหรือว่าคิดมากจะชอบกัดนิ้วกัดเล็บน่ะ
มืออยู่ไม่สุขเลยทุกครั้งที่ฉันมองเธอเป็นแบบนี้บ่อยมากเลยนะ”
“ขนาดนั้นเลยหรอครับ”
มาร์คพยักหน้า
“วันนี้มีเรื่องไม่ดีหรือไงที่มหา’ลัยน่ะ”
“ก็ไม่เชิงครับแต่คงไม่ใช่เรื่องไม่ดีสำหรับผมแต่สำหรับคนอื่นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เล่าได้ไหม”
เสียงใสเอ่ยเล่าด้วยน้ำเสียงและอาการทางสีหน้าที่ดูไม่ดีเท่าไหร่
ท่าทางเด็กตัวขาวนี่จะกังวลกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไม่แน่อาจจะเป็นยัยพี่สาวตัวแสบที่เอาข่าวลือของเจโน่ปล่อยเสียๆหายๆ
เพราะดูจากสีหน้าท่าทางวันนั้นก็รู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเจโน่เข้าไส้
มาร์คลีดึงลีเจโน่เข้ามากอดลูบหลังปลอบอีกฝ่ายเบาๆ
ถึงแม้เจโน่จะไม่พูดว่าต้องการคำปลอบโยนอะไรก็ต้องตามแต่เขาต้องการจะให้ลีเจโน่รู้ว่าไม่ได้มีแค่ตัวเจโน่เองที่อยู่บนโลกใบนี้คนเดียว
“แยกกันอยู่ไหมฉันมีคอนโดใกล้ๆมหา’ลัยของเธอ ไปกลับเองได้หรือจะให้ฉันเอารถให้ขับก็ได้นะอยากได้รุ่นไหน
เอายังไงดีที่เธอจะไม่ต้องคิดมากแบบนี้”
เจโน่ส่ายหน้าไปมาฝังใบหน้าลงบนอกแกร่ง
เขาไม่ต้องการหาทางออกแบบนี้เพราะตอนนี้เจโน่เริ่มชินที่จะมีคุณมาร์คอยู่ข้างๆ
ถึงแม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเบื่อเจโน่เมื่อไหร่เพราะเจโน่ไม่ได้มีอะไรเลยมาตั้งแต่ต้น
คุณมาร์คเพียบพร้อมทุกอย่างถ้าจะมีความรักดีๆเจโน่ก็จะสนับสนุน
เจโน่เงยหน้าขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่มาร์คลีก้มหน้าลงมา
ดวงตาของคุณมาร์คสีสวยมันเป็นเหมือนสีของเปลือกไม้เข้มๆ
ดุดันแต่อ่อนโยนทุกครั้งที่เจโน่มองเข้าไปสะท้อนเงาตัวเอง
“ผมจะไปก็ต่อเมื่อคุณมาร์คไล่ผม”
เจโน่พูดเบาๆ
มาร์คลียกยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าไปมา
บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าเด็กตัวขาวตรงหน้าจะรู้ไหมว่าการเงยหน้ามองในระยะที่ใกล้ขนาดนี้
แล้วพูดอะไรแบบนี้มันน่า ‘จูบ’ ให้หายมันเขี้ยวถึงจะไม่ควรรู้สึกแบบนี้ในตอนนี้ก็เถอะ
แต่ทำไงได้ก็ลีเจโน่ตอนที่ทำหน้าเหมือนแมวน่ะมันน่ามันเขี้ยวจริงๆ
“ถ้างั้นชาตินี้เธอคงติดแหง็กอยู่กับคนแก่อย่างฉันไปจนแก่ตายแน่ๆ”
เจโน่หัวเราะจนตาหยีกับประโยคที่เหมือนจะเป็นมุกตลกของคนแก่กว่า
ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจมูกโด่งๆของอีกฝ่ายแตะเข้าที่แก้มของตัวเองเบาๆ
“อย่าทำให้ฉันเอ็นดูเธอมากนักสิ
อดใจไม่ไหวขึ้นมาคนที่จะแย่ก็คือตัวเธอเองนะ”
เหตุการณ์บนรถเมื่อชั่วโมงที่แล้วทำเอาเจโน่ไปไม่เป็นตอนนี้หัวใจยังเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาอยู่เลย
ตุ๊กตาหมีตัวโปรดถูกกอดจนจมไปกับอกเจโน่ทำตัวไม่ถูกยิ่งตอนนี้จะให้ออกไปเจอหน้าคนที่นั่งดูข่าวอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอย่าหวังเลย
คงได้ทำตัวเหมือนสาวน้อยให้คนแก่กว่าได้แซวเขาเล่นนั่นแหละ
ประตูเปิดออกก่อนคนที่เจโน่ไม่อยากเจอหน้าตอนนี้จะเดินมาพิงประตูห้องแล้วจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
รอยยิ้มที่เจโน่เคยชมว่าหล่อของคุณมาร์คตอนนี้มันแอบผสมความเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะแต่เคาะเรียกแล้วเธอไม่ตอบก็นึกว่าเขินจนเป็นลมไปแล้ว”
แซวแถมยังหัวเราะให้เจ้าของห้องหน้าขึ้นสีจนต้องก้มลงไปซุกแก้มแดงๆกับตุ๊กตาหมีในอ้อมกอด
“ไม่เอาน่าถ้าแค่นี้เขินแล้วเมื่อไหร่ฉันกับเธอจะใกล้กันมากกว่านี้ล่ะ”
เจโน่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าอีกฝ่าย
เลิกลั่กที่จะพูดเรื่องนี้ถึงคุณมาร์คจะไม่บอกว่าใกล้กันแบบไหนแต่ในฐานะที่ถูกซื้อมาในเรื่องแบบนั้นเจโน่ก็ตีความไปแบบนั้น
“คุณมาร์คต้องการหรอครับ”
เจโน่ถามออกไปซื่อๆ
“ต้องการอะไรฉันจะได้ตอบให้ถูก”
มาร์คถามกลับแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
เจโน่อึกอักไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบไหน
“ก็หมายถึง…” เงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “ต้องการตัวผม”
มาร์คลีอยากหัวเราะเพราะเมื่อกี้เขาเห็นท่าทางประหม่าของเจโน่มันดูน่ารักดี
ยังไม่เคยเจอใครพูดเรื่องแบบนี้แล้วหน้าแดงเหมือนลูกมะเขือเทศได้เท่าคนตรงหน้าเลยให้ตายสิ
ทั้งน่าขันและน่าเอ็นดู
“ผู้ชายก็ต้องมีความต้องการอยู่แล้วล่ะเจโน่ยิ่งเป็นคนแบบเธอแล้วฉันก็ยิ่งรู้สึก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องการแค่ตัวของเธอหรอกนะ”
“แต่ผมเป็นหนี้บุญคุณของคุณมาร์คแล้วก็คุณมาร์คซื้อผมมาเพราะต้องการเรื่องแบบนั้นด้วยไม่ใช่หรอครับ”
เจโน่พูดออกมาอย่างที่ใจคิด
เขาก็กลัวอยู่หรอกแต่ไม่ต้องการเอาเปรียบคุณมาร์คอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้
“เอาเป็นว่าถ้าวันนั้นมาถึงเธอจะได้ใช้หนี้ที่ว่าได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน
แต่ตอนนี้ออกมากินข้าวได้แล้วสั่งพิซซ่ามาไม่รู้ว่าเธอจะชอบรึเปล่า”
เจโน่พยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าใจ
“คุณมาร์คเหมือนคุณพ่อเลยตอนนี้”
มาร์คลีหัวเราะหึในลำคอก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆเด็กตัวขาวที่นั่งหัวเราะกับประโยคที่หลุดออกจากปากของตัวเอง
“ถ้าหมายถึงพ่อที่แปลว่าแดดดี๊ก็คงใช่”
tbc.
คุณมาร์คลี!!!!!!!!!!!
อกอิแป้นนแดดดี๊ที่ไม่ใช่พ่อก็มีอยู่อย่างเดียว แค่กๆ
อาจจะไม่ได้แต่งบ่อยๆแต่พยายามแต่งบ่อยที่สุดค่ะ
ขอบคุณที่ชอบกันนะคะ
หลังๆมาร์คลียูโซฮอตมากก
ติชมได้เลยค่ะขอบคุณค่ะ
แท็ก
#sugardmn
ความคิดเห็น