คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : PLAYING WITH FIRE : 3 (REWRITE)
ร่างของจัสตินลอยหวือก่อนจะกระแทกกับผนังอย่างแรงจนจุกไปหมด
เป็นคนธรรมดาก็อาจจะกระดูกหักไปแล้ว
สีหน้าเหยเกเรียกรอยยิ้มมุมปากของคนที่กำลังเดินตรงมาหาเด็กหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ดวงตาที่เปลี่ยนจากสีเข้มเป็นอ่อนสะท้อนเงาของเขาอยู่ในนั้น ร่างทั้งร่างถูกกระชากขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวก่อนที่มือเรียวของอีกฝ่ายจะยกขึ้นบีบคอจนจัสตินหายใจแทบไม่ออก
“รีบๆแปลงร่างเป็นหมาสิ
ฉันอยากเห็น” ยิ่งพูดก็ยิ่งออกแรงบีบต้นคอขาวที่ตอนนี้แดงเถือกยิ่งกว่าเดิม
จัสตินได้แต่ดิ้นไปมาจับข้อมือของแวมไพร์ตรงหน้าพยายามที่จะให้
‘ช่ายสวี่คุน’ ปล่อยมือจากต้นคอของเขา
ถึงความสูงจะพอๆกันแต่ถ้าเทียบขนาดตัวสวี่คุนน่าจะตัวใหญ่กว่าจัสตินนิดหน่อย
“ปะ ปล่อย อึก
ปล่อยฉัน”
“อย่าทำตัวอ่อนแอน่าเป็นถึงลูกหมาของฟ่านเฉิงเฉิงทั้งที”
น้ำเสียงนั่นติดเยาะเย้ย
ลมหายใจติดขัดเหมือนจะหมดแรงเอาดื้อๆ
จัสตินหลับตาลงไม่คิดจะสู้เพราะยังไงก็สู้พวกแวมไพร์ไม่ได้
โดยเฉพาะพวกแวมไพร์ที่มาจากชนชั้นสูงก็ยิ่งแล้วใหญ่ พวกนี้ถูกฝึกการต่อสู่
การเอาตัวรอดมาตั้งแต่เด็กๆ
“หยุดเดี๋ยวนี่นะสวี่คุน!”
เจ้าของชื่อปล่อยมือออกจากต้นคอหันไปยิ้มท้าทายเจ้าของลูกหมาที่แทบจะตรงดิ่งมาหักคอเขา
ใบหน้าหล่อนั่นดูไม่สบอารมณ์
ดวงตาสีเข้มเปลี่ยนเป็นสีอ่อนที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่เพราะดูเหมือนสิ่งที่จะทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงโกรธจัดเหมือนจะไม่ค่อยมี
แต่ตอนนี้สวี่คุนรู้แล้วว่าจุดอ่อนของต้นตระกูลคืออะไร
“ทำไมหมอนี่ไม่กลายร่างเป็นหมาป่าแปลกนะว่าไหม”
คำถามที่ทำให้เฉิงเฉิงถอนหายใจมองลูกพี่ลูกน้องที่ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำ
“ไม่ใช่ธุระของนาย”
เฉิงเฉิงตอบเสียงเข้มก่อนจะอุ้มจัสตินที่หมดแรงขึ้นมาแนบอก
“ลูกหมาของนายอ่อนแอและมันจะกลายเป็นจุดอ่อนของนายนะเฉิงเฉิง”
“ฉันดูแลคนของฉันได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอกสวี่คุน”
เฉิงเฉิงตอบก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นก้มมองดูใบหน้าขาวซีดที่ปรือตามองเขา
“จุดจบความรักของแวมไพร์กับหมาป่ามันไม่วันสวยงามหรอกจำไว้ฟ่านเฉิงเฉิง!” สวี่คุนตะโกนไล่หลัง
จัสตินนั่งมองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียงซึ่งมันผิดปกติไปจากทุกที
แผ่นหลังกว้างมองจากตรงนี้ดูเหงาจนคิดไม่ออกเลยว่าระหว่างเฉิงเฉิงกับสวี่คุนมีอะไรกันหรือเปล่า
เหมือนจะจ้องแผ่นหลังกว้างนั่นนานไปหน่อยมันนานจนเจ้าของแผ่นหลังหันกลับมามองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
ประตูระเบียงเปิดออกเจ้าของแผ่นหลังเดินมานั่งที่ปลายเตียง
สบตากันกับเขาอยู่หลายนาที เป็นจัสตินที่เอ่ยถามอะไรบางอย่างที่ทำให้แวมไพร์ตรงหน้าขมวดคิ้วยุ่ง
“ดูเหมือนนายกับหมอนั่นจะมีอะไรระหว่างกันนะ”
“ดูง่ายขนาดนั้นเชียวหรอ”
เฉิงเฉิงเอ่ยถาม
“ถ้าวันนี้ไม่โดนแบบเมื่อกี้ยังคิดว่าตัวเองคิดมากไป
แต่พอมองตาของสวี่คุนเหมือนเขาจะชอบนายมากๆ”
คำตอบของจัสตินเหมือนจะสะกิดอะไรบางอย่างในใจของแวมไพร์หนุ่ม
เฉิงเฉิงลุกขึ้นเดินไปข้างเตียงเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมสีดำนั่นจนยุ่งเหยิง
“ฉลาดขึ้นแล้วนะเจ้าลูกหมา”
จัสตินปัดมือใหญ่ทิ้ง
“บอกว่าไม่ใช่เจ้าลูกหมาไง”
“แล้วจะเป็นอะไรแม่หมาหรอแต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ผสม—”
“หุบปากไปเลย!”
…
เฉินลี่หนงมองเพื่อนตัวเล็กที่ใจลอยมาตั้งแต่เช้าดูเหมือนจะมีเรื่องให้คิดเยอะ
สีหน้ายุ่งเหยิงเดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวถอนหายใจ
จนพักกลางวันก็ยังทำสีหน้าพวกนั้นไม่เลิก แต่ลี่หนงคิดว่าการเป็นลูกครึ่งแบบเพื่อนตัวเล็กกว่าคนนี้ถ้าเป็นเหมือนกันคงมีเรื่องให้คิดตลอดปีนั่นแหละ
“ลี่หนง”
“ว่า”
ตอบรับสั้นๆพลางยกน้ำในขวดขึ้นดื่ม
“เฉิงเฉิงกับสวี่คุนเคยคบกันหรอ”
“แค่กๆ!”
น้ำในปากแทบจะพุ่งออกมาเมื่อได้ยินคำถาม
หน้าของลูกจ่าฝูงเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เขาจ้องหน้าจัสตินฮวงก่อนจะยกมือขยี้ผมของตัวเองแรงๆ
“อย่าบอกนะว่าที่นายนั่งหน้ายุ่งทั้งวันเพราะเรื่องนี้”
ลี่หนงถาม
“ก็มันอยากรู้
สองคนนั้นดูมีอะไรแปลกๆไม่รู้ดิ…มันแค่รู้สึก”
จัสตินตอบแล้วถอนหายใจ
“เคยคบกันช่วงนึงมั้ง”
คำตอบของเฉินลี่หนงทำให้จัสตินเบิกตากว้างตบโต๊ะเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามอง
จัสตินยิ้มแห้งเมื่อโดนมองด้วยสายตานิ่งๆ แล้วกระซิบกระซาบกับเพื่อนตัวสูงเบาๆ
“ทำไมถึงเลิกกัน”
คำตอบของเฉินลี่หนงมันทำให้จัสตินเข้าใกล้ฟ่านเฉิงเฉิงมากกว่าเดิม
แถมยังได้รู้ความลับของลี่หนงจนเจ้าเพื่อนตัวโตที่นั่งมองท้องฟ้าอยู่ข้างๆกำชับไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร
จัสตินไม่เคยมีความรักนอกจากรักครอบครัวแล้วก็ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับความรักระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว
หรือว่าความรักระหว่างคนสองคน
สีหน้าของลี่หนงไม่ได้แสดงออกว่าเศร้า
แต่ดวงตาที่ทอดมองแผ่นฟ้าเบื้องหน้าเหมือนเจือไปด้วยความเจ็บปวด
“ทำไมถึงได้รักเขาล่ะ
เขากับนายดูมันคนละเรื่องเลยนะทั้งเผ่าพันธุ์ ทั้งนิสัย”
ลี่หนงหันกลับมายิ้มให้จัสติน
เขาอยากจะอธิบายความรู้สึกให้จัสตินเข้าใจแต่เพื่อนตัวเล็กคนนี้คงไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอก
ขนาดคนที่เขาอยากให้เข้าใจมากที่สุดยังไม่เคยเข้าใจเลย
“นายเชื่อเรื่องโชคชะตาไหมล่ะ”
จัสตินพยักหน้าขึ้นลง
“ก็เชื่อแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”
“ฉันชอบพี่เขาตั้งแต่ตอนพี่เขายังเรียนอยู่ที่นี่
เป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครพอๆกันกับคุณชายเฉิงนั่นแหละ ทุกคนก็กลัวพี่เขาหมดเพราะเวลาโกรธใครห้ามก็เอาไม่อยู่
ตอนแรกฉันก็ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้หรอกเลยเอาแต่มองว่าคนแบบนี้จะใช้ชีวิตยังไง
รู้ตัวอีกทีฉันก็รักพี่เขาไปแล้ว”
จัสตินเอื้อมมือไปตบไหล่ของเพื่อนสนิทเบาๆเหมือนต้องการปลอบใจ
“ชอบมานานมากแค่ไหน”
“นานพอจะรู้ว่าพี่สวี่คุนแอบชอบคุณชายเฉิง
ก่อนสองคนนั้นจะคบกัน”
จัสตินรู้จักฟ่านเฉิงเฉิงได้ไม่กี่ปีหลังจากที่เจอกันที่ร้านสะดวกซื้อที่เขาทำงานอยู่
ตอนนั้นมันเป็นวันที่ฝนตกหนักจัสตินยืนมองฝนห่าใหญ่พวกนั้นอยู่ในร้านจนกระทั่งมีผู้ชายตัวสูงเดินเข้ามาในร้านเปียกไปหมดทั้งตัว
ดวงตาสีเข้มดูเศร้าตอนที่บังเอิญสบตากัน
กลิ่นแปลกๆที่ออกมาจากตัวของผู้ชายตัวสูงทำให้จัสตินกลัว แต่สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็เดินออกไปตอนที่ฝนซาแล้ว
เพลงช่วยให้ร้านสะดวกซื้อไม่เงียบเหงาจนเกินไปในเวลาตีสอง
เสียงประตูทำให้จัสตินละความสนใจจากลูกค้าผู้หญิงตรงหน้าเพื่อหันไปมอง
ผู้ชายตัวสูงเมื่อวานกำลังเดินเข้ามาสบตากับเขาอีกครั้งพ่วงด้วยกลิ่นแปลกๆเหมือนครั้งแรก
กลิ่นแปลกๆที่จัสตินมารู้ทีหลังว่ามันคือกลิ่นของแวมไพร์
กลิ่นประจำตัวมันไม่ได้เหม็นหรือว่าฉุน กลิ่นมันเย็นๆจนรู้สึกว่ามันน่ากลัว
แล้วจากนั้นก็ไม่ได้เห็นชายหนุ่มคนนั้นอีกเป็นเดือนจนกระทั่งอีกฝ่ายโผล่มาในวันที่ฝนตกหนักเหมือนครั้งแรก
แต่วันนี้ไม่ได้เปียกไปทั้งตัวแถมยังใส่สูทดูดีเหมือนหลุดออกมาจากในนิตยสาร
จัสตินแอบมองแล้วประเมินเสื้อผ้าพวกนั้นในใจ
มันคงราคาสูงกว่าเงินเดือนเขาทั้งปีพอคิดได้แบบนั้นถึงได้ยิ้มกับตัวเองที่เผลอแอบจินตนาการว่ากำลังใส่ชุดพวกนั้น
“ยิ้มอะไร”
น้ำเสียงนั่นเรียบนิ่งจนน่ากลัว
จัสตินส่ายหน้าไปมาเพราะเขาคงไม่กล้าบอกว่าแอบนินทาอีกฝ่ายอยู่ในใจ
“เป็นบ้าหรอ”
แล้วคำถามต่อมาทำให้จัสตินต้องขมวดคิ้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์
“เป็นพวกหมาหรอ
กลิ่นนายไม่ค่อยเหมือนหมาเท่าไหร่”
เป็นครั้งแรกที่มีคนรู้ว่าจัสตินเป็นครึ่งหมาป่าครึ่งแวมไพร์เพียงเพราะกลิ่น
เหมือนสีหน้าของเขาจะทำให้อีกฝ่ายมั่นใจในคำตอบของตัวเอง
“ลูกครึ่งสินะ
ไม่ค่อยเห็นพวกลูกครึ่งมานานแล้วกลิ่นแปลกดี”
“คุณเป็นใคร”
จัสตินเอ่ยถาม
“ฉันชื่อเฉิงเฉิงก็เป็นแวมไพร์ทั่วๆไป”
อีกฝ่ายตอบพลางยักไหล่ให้เขาแถมยังล่วงกระเป๋าเสื้อหยิบเอาบุหรี่ยี่ห้อแพงหูฉี่ขึ้นมาจุดสูบต่อหน้าเขาอีก
“จัสตินฮวง
ฉันคุ้นๆชื่อนายนะ”
“ผมก็คุ้นๆชื่อคุณ”
กว่าจะรู้ว่าเฉิงเฉิงชายหนุ่มที่ชอบมาวนเวียนในวันฝนตกคือต้นตระกูลลูกชายคนเดียวของตระกูลฟ่านก็ตอนที่จัสตินเผลอไปชกหน้าอีกฝ่ายเพราะหมอนั่นดันปล้นจูบแรกของเขานั่นแหละ
ผู้ติดตามเดินมาดึงร่างของเขาจนหงายหลังแถมพวกนั้นยังจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง
“มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายคุณชายเฉิง”
จัสตินไม่แปลกใจที่ฟ่านเฉิงเฉิงเป็นคุณชายเพราะทุกครั้งเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายใส่มาบ่งบอกถึงฐานะได้อยู่แล้ว
“ถ้าท่านรู้ว่านายชกหน้าต้นตระกูลนายแย่แน่ไอ้หนู”
นั่นแหละที่ทำให้จัสตินไม่อยากยุ่งกับฟ่านเฉิงเฉิง
พวกต้นตระกูลหรือแม้กระทั่งพวกจ่าฝูงของหมาป่างี่เง่าในสายตาของเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ย่างสิบห้า
ใครคิดกฎบ้าบอพวกนั้นที่ห้ามรักกันจนแม่เขาต้องมาตาย
ทั้งที่ปากบอกว่าปรองดองกันก็โกหกทั้งเพ
ลี่หนงมองจัสตินที่นิ่งไปนานอีกฝ่ายเก็บความรู้สึกเกินกว่าเขาจะมองออกว่าจัสตินชอบหรือไม่ชอบฟ่านเฉิงเฉิง
ใบหน้าเรียบนิ่งแต่ดวงตาสีเข้มนั่นก็ยิ่งนิ่งกว่าเหมือนมหาสมุทรที่สงบแต่ยิ่งสงบก็ยิ่งน่ากลัวในความรู้สึกของลี่หนง
“ถ้านายรู้สึกอะไรบางอย่างกับคุณชายก็ควรแสดงออกไปนะ”
จัสตินหัวเราะหึในลำคอเบาๆ
“มันจะเหมือนแมงเม่าที่บินเข้าไปในกองไฟรึเปล่าล่ะลี่หนง”
“เหมือนฉันหรอ”
ลี่หนงย้อนถามพลางหัวเราะตัวเอง
“ฉันคงตายแน่ๆเชื่อไหม
ยิ่งรู้ว่าเขารักคนอื่นและอาจจะยังรักอยู่หัวใจของฉันเหมือนกำลังโดนไฟเผาจริงๆ”
“เร่าร้อนดีเนอะความรักของพวกเรา”
ประโยคประชดพวกนั้นทำเอาจัสตินหลุดขำ
“ร้อนจนไหม้แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ”
…
จัสตินไม่เจอหน้าของแวมไพร์ที่เอาเขามาทิ้งไว้ที่คฤหาสน์มาเป็นอาทิตย์
แถมยังไร้วี่แววของช่ายสวี่คุนจนดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ
คำบอกเล่าของเฉินลี่หนงดังขึ้นในหัวเหมือนอะไรบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในใจ
สองคนนั้นรักกันมากดูจากสายตาสวี่คุนก็รู้
กับฟ่านเฉิงเฉิงดูยากแต่จัสตินก็พอเดาได้ว่าคงไม่ต่างกัน
เอาจริงๆทั้งคู่ก็ดูเหมาะกันดีเหมือนที่ลี่หนงบอกเขา
ไม่มีใครกล้าแทรกกลางระหว่างทั้งคู่เพราะเหมือนทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน
นัยน์ตาสีเข้มของลูกหมาป่าสั่นไหว
ความเงียบในยามรัตติกาลยิ่งกระตุ้นให้จัสตินฮวงฟุ้งซ่าน ความรักที่เร่าร้อนบางทีก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ
จัสตินกลัวว่าเรื่องของเขากับฟ่านเฉิงเฉิงจะกลายเป็นแค่หมอกจางๆในตอนจบและไม่อยากมีจุดจบเหมือนพ่อกับแม่
ถ้าจัสตินเป็นลูกหมาของฟ่านเฉิงเฉิงจริง
แล้วฟ่านเฉิงเฉิงจะเป็นของจัสตินได้ไหมล่ะ
?
หมับ!
“คิดอะไรอยู่หน้าเศร้าจัง”
คนมาใหม่กระซิบข้างหูเบาๆแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
จัสตินจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายยกมือแตะข้างแก้มขาวซีด
มองนัยน์ตาสีเข้มที่มีภาพสะท้อนของตัวเองอยู่ในนั้น
“นี่ฟ่านเฉิงเฉิง…ถ้านายแค่อยากมีเซ็กซ์กับฉันนายทำตอนนี้เลยก็ได้นะ”
ฟ่านเฉิงเฉิงผละออกจากเอวคอดกระชากแขนเล็กให้ตามเข้ามาในห้อง
ประโยคที่ออกมาจากปากอิ่มทำให้เขารู้สึกโมโห
แผ่นหลังเล็กแนบไปกับเตียงก่อนที่แวมไพร์หนุ่มจะตามมาคร่อมทับเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆก้มลงจูบลงบนหน้าผากมน
“รู้ไหมว่าฉันดุมากเวลาอยู่บนเตียง”
เฉิงเฉิงบอกด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
มือใหญ่เคลื่อนไปตามลำตัวลูบผ่านเสื้อนอนสีเรียบจนหายไปในร่มผ้า
ผิวหนังนุ่มลื่นมือแถมยังแทบไม่มีไขมันส่วนเกินจับตรงไหนก็ดูจะพอดีไปหมด
ถึงเอวจะคอดจะติดผอมไปเสียหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้เฉิงเฉิงรู้สึกว่าลูกหมาป่าตรงหน้ามีตำหนิ
กลิ่นครีมอาบน้ำหอมฟุ้งติดตามตัวยามที่สูดดมผสมกับกลิ่นของจัสตินเองก็ยิ่งทำให้เขาอยากกดจมูกและลากมันไปทุกส่วนของร่างนี้
“แต่ฉันทำนายตอนนี้ไม่ได้”
เฉิงเฉิงกระซิบบอกแล้วเคลื่อนไปประทับริมฝีปากอีกคนแผ่วเบา
“เพราะมันไม่ใช่แค่เซ็กซ์
มันมากกว่านั้นมากกว่าที่นายคิดอีกฮวงหมิงฮ่าว”
tbc.
ยืนยันว่ามันไม่ได้ดาวพระศุกร์ขนาดนั้น…
ต่อไปมันจะมีบู้ๆบ้างและมีตัวละครตัวใหม่ด้วยนะคะ
ฝากติดตามด้วย
ขอกำลังใจด้วยนะคะ เม้นท์เป็นกำลังใจอย่างดีมากในการแต่งต่อ
ขอบคุณที่สละเวลาค่ะ
#เล่นกับไฟเฉิงจัส
ความคิดเห็น