ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLAYING WITH FIRE ♡ #เฉิงจัส #หนงคุน IdolProducer

    ลำดับตอนที่ #4 : PLAYING WITH FIRE : 3 (REWRITE)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 61









     

     

    ร่างของจัสตินลอยหวือก่อนจะกระแทกกับผนังอย่างแรงจนจุกไปหมด เป็นคนธรรมดาก็อาจจะกระดูกหักไปแล้ว สีหน้าเหยเกเรียกรอยยิ้มมุมปากของคนที่กำลังเดินตรงมาหาเด็กหนุ่มได้เป็นอย่างดี ดวงตาที่เปลี่ยนจากสีเข้มเป็นอ่อนสะท้อนเงาของเขาอยู่ในนั้น ร่างทั้งร่างถูกกระชากขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวก่อนที่มือเรียวของอีกฝ่ายจะยกขึ้นบีบคอจนจัสตินหายใจแทบไม่ออก

     

    “รีบๆแปลงร่างเป็นหมาสิ ฉันอยากเห็น” ยิ่งพูดก็ยิ่งออกแรงบีบต้นคอขาวที่ตอนนี้แดงเถือกยิ่งกว่าเดิม

    จัสตินได้แต่ดิ้นไปมาจับข้อมือของแวมไพร์ตรงหน้าพยายามที่จะให้ ช่ายสวี่คุนปล่อยมือจากต้นคอของเขา ถึงความสูงจะพอๆกันแต่ถ้าเทียบขนาดตัวสวี่คุนน่าจะตัวใหญ่กว่าจัสตินนิดหน่อย

    “ปะ ปล่อย อึก ปล่อยฉัน”

    “อย่าทำตัวอ่อนแอน่าเป็นถึงลูกหมาของฟ่านเฉิงเฉิงทั้งที” น้ำเสียงนั่นติดเยาะเย้ย

     

    ลมหายใจติดขัดเหมือนจะหมดแรงเอาดื้อๆ จัสตินหลับตาลงไม่คิดจะสู้เพราะยังไงก็สู้พวกแวมไพร์ไม่ได้ โดยเฉพาะพวกแวมไพร์ที่มาจากชนชั้นสูงก็ยิ่งแล้วใหญ่ พวกนี้ถูกฝึกการต่อสู่ การเอาตัวรอดมาตั้งแต่เด็กๆ

     

    “หยุดเดี๋ยวนี่นะสวี่คุน!

     

    เจ้าของชื่อปล่อยมือออกจากต้นคอหันไปยิ้มท้าทายเจ้าของลูกหมาที่แทบจะตรงดิ่งมาหักคอเขา ใบหน้าหล่อนั่นดูไม่สบอารมณ์ ดวงตาสีเข้มเปลี่ยนเป็นสีอ่อนที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่เพราะดูเหมือนสิ่งที่จะทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงโกรธจัดเหมือนจะไม่ค่อยมี แต่ตอนนี้สวี่คุนรู้แล้วว่าจุดอ่อนของต้นตระกูลคืออะไร

     

    “ทำไมหมอนี่ไม่กลายร่างเป็นหมาป่าแปลกนะว่าไหม” คำถามที่ทำให้เฉิงเฉิงถอนหายใจมองลูกพี่ลูกน้องที่ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำ

    “ไม่ใช่ธุระของนาย” เฉิงเฉิงตอบเสียงเข้มก่อนจะอุ้มจัสตินที่หมดแรงขึ้นมาแนบอก

    “ลูกหมาของนายอ่อนแอและมันจะกลายเป็นจุดอ่อนของนายนะเฉิงเฉิง”

    “ฉันดูแลคนของฉันได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอกสวี่คุน” เฉิงเฉิงตอบก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นก้มมองดูใบหน้าขาวซีดที่ปรือตามองเขา

    “จุดจบความรักของแวมไพร์กับหมาป่ามันไม่วันสวยงามหรอกจำไว้ฟ่านเฉิงเฉิง!” สวี่คุนตะโกนไล่หลัง

     

     

    จัสตินนั่งมองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียงซึ่งมันผิดปกติไปจากทุกที แผ่นหลังกว้างมองจากตรงนี้ดูเหงาจนคิดไม่ออกเลยว่าระหว่างเฉิงเฉิงกับสวี่คุนมีอะไรกันหรือเปล่า เหมือนจะจ้องแผ่นหลังกว้างนั่นนานไปหน่อยมันนานจนเจ้าของแผ่นหลังหันกลับมามองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

     

    ประตูระเบียงเปิดออกเจ้าของแผ่นหลังเดินมานั่งที่ปลายเตียง สบตากันกับเขาอยู่หลายนาที เป็นจัสตินที่เอ่ยถามอะไรบางอย่างที่ทำให้แวมไพร์ตรงหน้าขมวดคิ้วยุ่ง

     

    “ดูเหมือนนายกับหมอนั่นจะมีอะไรระหว่างกันนะ”

    “ดูง่ายขนาดนั้นเชียวหรอ” เฉิงเฉิงเอ่ยถาม

    “ถ้าวันนี้ไม่โดนแบบเมื่อกี้ยังคิดว่าตัวเองคิดมากไป แต่พอมองตาของสวี่คุนเหมือนเขาจะชอบนายมากๆ”

    คำตอบของจัสตินเหมือนจะสะกิดอะไรบางอย่างในใจของแวมไพร์หนุ่ม เฉิงเฉิงลุกขึ้นเดินไปข้างเตียงเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมสีดำนั่นจนยุ่งเหยิง

    “ฉลาดขึ้นแล้วนะเจ้าลูกหมา”

    จัสตินปัดมือใหญ่ทิ้ง “บอกว่าไม่ใช่เจ้าลูกหมาไง”

    “แล้วจะเป็นอะไรแม่หมาหรอแต่ตอนนี้เรายังไม่ได้ผสม

    “หุบปากไปเลย!

     

     

    เฉินลี่หนงมองเพื่อนตัวเล็กที่ใจลอยมาตั้งแต่เช้าดูเหมือนจะมีเรื่องให้คิดเยอะ สีหน้ายุ่งเหยิงเดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวถอนหายใจ จนพักกลางวันก็ยังทำสีหน้าพวกนั้นไม่เลิก แต่ลี่หนงคิดว่าการเป็นลูกครึ่งแบบเพื่อนตัวเล็กกว่าคนนี้ถ้าเป็นเหมือนกันคงมีเรื่องให้คิดตลอดปีนั่นแหละ

     

    “ลี่หนง”

    “ว่า” ตอบรับสั้นๆพลางยกน้ำในขวดขึ้นดื่ม

    “เฉิงเฉิงกับสวี่คุนเคยคบกันหรอ”

    “แค่กๆ!

    น้ำในปากแทบจะพุ่งออกมาเมื่อได้ยินคำถาม หน้าของลูกจ่าฝูงเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาจ้องหน้าจัสตินฮวงก่อนจะยกมือขยี้ผมของตัวเองแรงๆ

    “อย่าบอกนะว่าที่นายนั่งหน้ายุ่งทั้งวันเพราะเรื่องนี้” ลี่หนงถาม

    “ก็มันอยากรู้ สองคนนั้นดูมีอะไรแปลกๆไม่รู้ดิมันแค่รู้สึก” จัสตินตอบแล้วถอนหายใจ

    “เคยคบกันช่วงนึงมั้ง”

    คำตอบของเฉินลี่หนงทำให้จัสตินเบิกตากว้างตบโต๊ะเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามอง จัสตินยิ้มแห้งเมื่อโดนมองด้วยสายตานิ่งๆ แล้วกระซิบกระซาบกับเพื่อนตัวสูงเบาๆ

    “ทำไมถึงเลิกกัน”

    คำตอบของเฉินลี่หนงมันทำให้จัสตินเข้าใกล้ฟ่านเฉิงเฉิงมากกว่าเดิม แถมยังได้รู้ความลับของลี่หนงจนเจ้าเพื่อนตัวโตที่นั่งมองท้องฟ้าอยู่ข้างๆกำชับไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร จัสตินไม่เคยมีความรักนอกจากรักครอบครัวแล้วก็ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับความรักระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว หรือว่าความรักระหว่างคนสองคน

     

    สีหน้าของลี่หนงไม่ได้แสดงออกว่าเศร้า แต่ดวงตาที่ทอดมองแผ่นฟ้าเบื้องหน้าเหมือนเจือไปด้วยความเจ็บปวด

     

    “ทำไมถึงได้รักเขาล่ะ เขากับนายดูมันคนละเรื่องเลยนะทั้งเผ่าพันธุ์ ทั้งนิสัย”

     

    ลี่หนงหันกลับมายิ้มให้จัสติน เขาอยากจะอธิบายความรู้สึกให้จัสตินเข้าใจแต่เพื่อนตัวเล็กคนนี้คงไม่เข้าใจอะไรแบบนี้หรอก ขนาดคนที่เขาอยากให้เข้าใจมากที่สุดยังไม่เคยเข้าใจเลย

     

    “นายเชื่อเรื่องโชคชะตาไหมล่ะ”

    จัสตินพยักหน้าขึ้นลง “ก็เชื่อแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด”

    “ฉันชอบพี่เขาตั้งแต่ตอนพี่เขายังเรียนอยู่ที่นี่ เป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครพอๆกันกับคุณชายเฉิงนั่นแหละ ทุกคนก็กลัวพี่เขาหมดเพราะเวลาโกรธใครห้ามก็เอาไม่อยู่ ตอนแรกฉันก็ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้หรอกเลยเอาแต่มองว่าคนแบบนี้จะใช้ชีวิตยังไง รู้ตัวอีกทีฉันก็รักพี่เขาไปแล้ว”

    จัสตินเอื้อมมือไปตบไหล่ของเพื่อนสนิทเบาๆเหมือนต้องการปลอบใจ

    “ชอบมานานมากแค่ไหน”

    “นานพอจะรู้ว่าพี่สวี่คุนแอบชอบคุณชายเฉิง ก่อนสองคนนั้นจะคบกัน”

     

    จัสตินรู้จักฟ่านเฉิงเฉิงได้ไม่กี่ปีหลังจากที่เจอกันที่ร้านสะดวกซื้อที่เขาทำงานอยู่ ตอนนั้นมันเป็นวันที่ฝนตกหนักจัสตินยืนมองฝนห่าใหญ่พวกนั้นอยู่ในร้านจนกระทั่งมีผู้ชายตัวสูงเดินเข้ามาในร้านเปียกไปหมดทั้งตัว ดวงตาสีเข้มดูเศร้าตอนที่บังเอิญสบตากัน กลิ่นแปลกๆที่ออกมาจากตัวของผู้ชายตัวสูงทำให้จัสตินกลัว แต่สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็เดินออกไปตอนที่ฝนซาแล้ว

     

    เพลงช่วยให้ร้านสะดวกซื้อไม่เงียบเหงาจนเกินไปในเวลาตีสอง เสียงประตูทำให้จัสตินละความสนใจจากลูกค้าผู้หญิงตรงหน้าเพื่อหันไปมอง ผู้ชายตัวสูงเมื่อวานกำลังเดินเข้ามาสบตากับเขาอีกครั้งพ่วงด้วยกลิ่นแปลกๆเหมือนครั้งแรก

     

    กลิ่นแปลกๆที่จัสตินมารู้ทีหลังว่ามันคือกลิ่นของแวมไพร์ กลิ่นประจำตัวมันไม่ได้เหม็นหรือว่าฉุน กลิ่นมันเย็นๆจนรู้สึกว่ามันน่ากลัว

     

    แล้วจากนั้นก็ไม่ได้เห็นชายหนุ่มคนนั้นอีกเป็นเดือนจนกระทั่งอีกฝ่ายโผล่มาในวันที่ฝนตกหนักเหมือนครั้งแรก แต่วันนี้ไม่ได้เปียกไปทั้งตัวแถมยังใส่สูทดูดีเหมือนหลุดออกมาจากในนิตยสาร จัสตินแอบมองแล้วประเมินเสื้อผ้าพวกนั้นในใจ มันคงราคาสูงกว่าเงินเดือนเขาทั้งปีพอคิดได้แบบนั้นถึงได้ยิ้มกับตัวเองที่เผลอแอบจินตนาการว่ากำลังใส่ชุดพวกนั้น

     

    “ยิ้มอะไร” น้ำเสียงนั่นเรียบนิ่งจนน่ากลัว จัสตินส่ายหน้าไปมาเพราะเขาคงไม่กล้าบอกว่าแอบนินทาอีกฝ่ายอยู่ในใจ

    “เป็นบ้าหรอ” แล้วคำถามต่อมาทำให้จัสตินต้องขมวดคิ้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์

    “เป็นพวกหมาหรอ กลิ่นนายไม่ค่อยเหมือนหมาเท่าไหร่”

    เป็นครั้งแรกที่มีคนรู้ว่าจัสตินเป็นครึ่งหมาป่าครึ่งแวมไพร์เพียงเพราะกลิ่น เหมือนสีหน้าของเขาจะทำให้อีกฝ่ายมั่นใจในคำตอบของตัวเอง

    “ลูกครึ่งสินะ ไม่ค่อยเห็นพวกลูกครึ่งมานานแล้วกลิ่นแปลกดี”

    “คุณเป็นใคร” จัสตินเอ่ยถาม

    “ฉันชื่อเฉิงเฉิงก็เป็นแวมไพร์ทั่วๆไป” อีกฝ่ายตอบพลางยักไหล่ให้เขาแถมยังล่วงกระเป๋าเสื้อหยิบเอาบุหรี่ยี่ห้อแพงหูฉี่ขึ้นมาจุดสูบต่อหน้าเขาอีก

    “จัสตินฮวง ฉันคุ้นๆชื่อนายนะ”

    “ผมก็คุ้นๆชื่อคุณ”

     

    กว่าจะรู้ว่าเฉิงเฉิงชายหนุ่มที่ชอบมาวนเวียนในวันฝนตกคือต้นตระกูลลูกชายคนเดียวของตระกูลฟ่านก็ตอนที่จัสตินเผลอไปชกหน้าอีกฝ่ายเพราะหมอนั่นดันปล้นจูบแรกของเขานั่นแหละ ผู้ติดตามเดินมาดึงร่างของเขาจนหงายหลังแถมพวกนั้นยังจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง

     

    “มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายคุณชายเฉิง”

    จัสตินไม่แปลกใจที่ฟ่านเฉิงเฉิงเป็นคุณชายเพราะทุกครั้งเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายใส่มาบ่งบอกถึงฐานะได้อยู่แล้ว

    “ถ้าท่านรู้ว่านายชกหน้าต้นตระกูลนายแย่แน่ไอ้หนู”

     

    นั่นแหละที่ทำให้จัสตินไม่อยากยุ่งกับฟ่านเฉิงเฉิง พวกต้นตระกูลหรือแม้กระทั่งพวกจ่าฝูงของหมาป่างี่เง่าในสายตาของเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ย่างสิบห้า ใครคิดกฎบ้าบอพวกนั้นที่ห้ามรักกันจนแม่เขาต้องมาตาย ทั้งที่ปากบอกว่าปรองดองกันก็โกหกทั้งเพ

     

     

     

    ลี่หนงมองจัสตินที่นิ่งไปนานอีกฝ่ายเก็บความรู้สึกเกินกว่าเขาจะมองออกว่าจัสตินชอบหรือไม่ชอบฟ่านเฉิงเฉิง ใบหน้าเรียบนิ่งแต่ดวงตาสีเข้มนั่นก็ยิ่งนิ่งกว่าเหมือนมหาสมุทรที่สงบแต่ยิ่งสงบก็ยิ่งน่ากลัวในความรู้สึกของลี่หนง

     

    “ถ้านายรู้สึกอะไรบางอย่างกับคุณชายก็ควรแสดงออกไปนะ”

    จัสตินหัวเราะหึในลำคอเบาๆ “มันจะเหมือนแมงเม่าที่บินเข้าไปในกองไฟรึเปล่าล่ะลี่หนง”

    “เหมือนฉันหรอ” ลี่หนงย้อนถามพลางหัวเราะตัวเอง

    “ฉันคงตายแน่ๆเชื่อไหม ยิ่งรู้ว่าเขารักคนอื่นและอาจจะยังรักอยู่หัวใจของฉันเหมือนกำลังโดนไฟเผาจริงๆ”

    “เร่าร้อนดีเนอะความรักของพวกเรา” ประโยคประชดพวกนั้นทำเอาจัสตินหลุดขำ

    “ร้อนจนไหม้แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ”

     

     

    จัสตินไม่เจอหน้าของแวมไพร์ที่เอาเขามาทิ้งไว้ที่คฤหาสน์มาเป็นอาทิตย์ แถมยังไร้วี่แววของช่ายสวี่คุนจนดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ คำบอกเล่าของเฉินลี่หนงดังขึ้นในหัวเหมือนอะไรบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นในใจ

     

    สองคนนั้นรักกันมากดูจากสายตาสวี่คุนก็รู้ กับฟ่านเฉิงเฉิงดูยากแต่จัสตินก็พอเดาได้ว่าคงไม่ต่างกัน เอาจริงๆทั้งคู่ก็ดูเหมาะกันดีเหมือนที่ลี่หนงบอกเขา ไม่มีใครกล้าแทรกกลางระหว่างทั้งคู่เพราะเหมือนทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน

     

    นัยน์ตาสีเข้มของลูกหมาป่าสั่นไหว ความเงียบในยามรัตติกาลยิ่งกระตุ้นให้จัสตินฮวงฟุ้งซ่าน ความรักที่เร่าร้อนบางทีก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ จัสตินกลัวว่าเรื่องของเขากับฟ่านเฉิงเฉิงจะกลายเป็นแค่หมอกจางๆในตอนจบและไม่อยากมีจุดจบเหมือนพ่อกับแม่

     

    ถ้าจัสตินเป็นลูกหมาของฟ่านเฉิงเฉิงจริง

     

    แล้วฟ่านเฉิงเฉิงจะเป็นของจัสตินได้ไหมล่ะ ?

     

    หมับ!

     

    “คิดอะไรอยู่หน้าเศร้าจัง” คนมาใหม่กระซิบข้างหูเบาๆแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น

    จัสตินจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายยกมือแตะข้างแก้มขาวซีด มองนัยน์ตาสีเข้มที่มีภาพสะท้อนของตัวเองอยู่ในนั้น

    “นี่ฟ่านเฉิงเฉิงถ้านายแค่อยากมีเซ็กซ์กับฉันนายทำตอนนี้เลยก็ได้นะ”

     

    ฟ่านเฉิงเฉิงผละออกจากเอวคอดกระชากแขนเล็กให้ตามเข้ามาในห้อง ประโยคที่ออกมาจากปากอิ่มทำให้เขารู้สึกโมโห แผ่นหลังเล็กแนบไปกับเตียงก่อนที่แวมไพร์หนุ่มจะตามมาคร่อมทับเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆก้มลงจูบลงบนหน้าผากมน

     

    “รู้ไหมว่าฉันดุมากเวลาอยู่บนเตียง” เฉิงเฉิงบอกด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

     

    มือใหญ่เคลื่อนไปตามลำตัวลูบผ่านเสื้อนอนสีเรียบจนหายไปในร่มผ้า ผิวหนังนุ่มลื่นมือแถมยังแทบไม่มีไขมันส่วนเกินจับตรงไหนก็ดูจะพอดีไปหมด ถึงเอวจะคอดจะติดผอมไปเสียหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้เฉิงเฉิงรู้สึกว่าลูกหมาป่าตรงหน้ามีตำหนิ

     

    กลิ่นครีมอาบน้ำหอมฟุ้งติดตามตัวยามที่สูดดมผสมกับกลิ่นของจัสตินเองก็ยิ่งทำให้เขาอยากกดจมูกและลากมันไปทุกส่วนของร่างนี้

     

    “แต่ฉันทำนายตอนนี้ไม่ได้” เฉิงเฉิงกระซิบบอกแล้วเคลื่อนไปประทับริมฝีปากอีกคนแผ่วเบา

    “เพราะมันไม่ใช่แค่เซ็กซ์ มันมากกว่านั้นมากกว่าที่นายคิดอีกฮวงหมิงฮ่าว”

     

     

     

     

     

     

     

     

    tbc.

     

     

     

    ยืนยันว่ามันไม่ได้ดาวพระศุกร์ขนาดนั้น

    ต่อไปมันจะมีบู้ๆบ้างและมีตัวละครตัวใหม่ด้วยนะคะ

    ฝากติดตามด้วย ขอกำลังใจด้วยนะคะ เม้นท์เป็นกำลังใจอย่างดีมากในการแต่งต่อ

    ขอบคุณที่สละเวลาค่ะ #เล่นกับไฟเฉิงจัส

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×