ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLAYING WITH FIRE ♡ #เฉิงจัส #หนงคุน IdolProducer

    ลำดับตอนที่ #3 : PLAYING WITH FIRE : 2 (REWRITE)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 61








     

     

     

    จัสตินไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อแท้ๆจะกล้าขายเขาให้กับพวกแวมไพร์ สีหน้าของพ่อไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ทำ จำนวนเงินมากพอที่พ่อจะไปตั้งตัวใหม่ได้สบายวางอยู่ตรงหน้า เจ้าของเงินนั้นยืนกอดอกจ้องมองเจ้าลูกหมาที่ดูท่าว่าคงจะเสียใจไม่น้อย ดวงตาสุกใสสั่นสะท้านตอนที่เขาได้สบตา ปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง

     

    “พ่อ” ลูกหมาป่าเอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ

    “ไปให้พ้นๆหน้าฉันซะ ฉันขายแกแล้วต่อจากนี้ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”

     

    คำพูดร้ายกาจทำให้ลูกหมาป่าหัวใจสลาย จัสตินฮวงสำหรับฟ่านเฉิงเฉิงน่ะก็เป็นแค่ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่เปราะบาง เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้ตุ๊กตาตัวนี้แตกสลาย เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กกว่าบีบกระชับเบาๆ

     

    “ไปรอที่รถก่อน” เฉิงเฉิงสั่งคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาให้ลูกน้องเขาพาไปรอที่รถ

     

    ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองแผ่นหลังจนหายลับไปจากประตูก่อนจะกลับมาสนใจมนุษย์หมาป่าตรงหน้า เสียงถอนหายใจกับใบหน้าที่ดูยังไงก็เสียใจไม่แพ้กับลูกหมาป่าตัวจ้อยนั่นเงยขึ้นมองเขา

     

    “ฝากลูกชายผมด้วย อีกไม่นานเขาก็จะเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์”

    “ผมจะดูแลเขาเป็นอย่างดีไม่ต้องห่วง”

    “ถ้าจัสตินอยู่ที่นี่เขาคงไม่มีอนาคต พวกหมาป่าหลายตัวเล็งเขาไว้ผมไม่อยากบอกให้ลูกกลัว ผมเชื่อว่าถ้าลูกอยู่กับคุณเขาจะปลอดภัย” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “คุณจะดูแลเขาอย่างดีใช่ไหมคุณชายเฉิง”

     

    เจ้าของชื่อพยักหน้ารับ “ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลฮวงหมิงฮ่าวลูกชายของคุณให้ดีที่สุด”

     

    จัสตินร้องไห้สะอึกสะอื้นยามที่รถคันหรูค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปจากซอยช้าๆ ดวงตากลมจ้องมองประตูชั้นที่เคยอาศัยอยู่ พ่อเขากำลังมองลงมาจากบนนั้น แล้วความเข้มแข็งทั้งหมดของลูกหมาป่าก็พังทลาย เสียงร้องไห้กับตัวสั่นๆทำให้แวมไพร์หนุ่มไม่ชอบใจนัก เขาดันหัวของอีกฝ่ายเข้ากับอกของตัวเอง ลูบกลุ่มผมนุ่มช้าๆเพื่อปลอบประโลม

     

    “ไม่เป็นไรนะเจ้าลูกหมาฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”

     

     

    คฤหาสน์หรูตรงหน้าคงไม่ต้องบ่งบอกถึงราคาของมัน เงินที่แวมไพร์ต้นตระกูลจ่ายพ่อเขาคงเป็นแค่เศษเงินถ้าเทียบกับความมีอันจะกิน จัสตินทำตัวไม่ถูกเพราะเขารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ใครก็จะเข้ามาได้ เคยได้ยินพวกแวมไพร์พูดกันถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลฟ่านแต่ไม่คิดว่าจะใหญ่เหมือนวังขนาดนี้ ต้องรวยขนาดไหนถึงจะสร้างพวกนี้ขึ้นมาได้

     

    แรงดึงทำให้คนที่กำลังจ้องมองต้องเดินตามไป จัสตินไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรตรงนี้หรือโดนขายมาในฐานะอะไร แต่คนอย่างฟ่านเฉิงเฉิงยังไงซะทุกอย่างก็อาจจะเป็นธุรกิจ ในหัวเริ่มคิดถึงเรื่องแปลกๆ

     

    “นี่นาย” เสียงทักท้วงทำให้คนที่กำลังเดินต้องหันหลังไปมอง

    “อะไรเจ้าลูกหมา”

    “ฉันมีชื่อ!” จัสตินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    “ก็นายเป็นลูกหมาของฉัน ฉันจะเรียกอะไรก็ได้จะเรียกฮวงหมิงฮ่าวยังได้เลย” ยักคิ้วกวนประสาทเจ้าลูกครึ่งไปทีจนโดนมองตาขวาง

    น่าเอ็นดูซะไม่มี

    “โอ๊ะ! ว่าแล้วกลิ่นหมาหึ่งเลย”

     

    เสียงทักทายของคนมาใหม่ทำให้จัสตินต้องผละจากใบหน้าหล่อของแวมไพร์เพื่อไปมอง เอ่อแวมไพร์อีกตนที่ยืนกอดอกมองมาที่เขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ ดวงตาสีเข้มกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน เขี้ยวยาวโผล่ขึ้นมาจากปากยามที่อีกคนอ้าปากแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก

     

    “อาหารหรอเฉิง”

    “ยุ่งน่าสวี่คุณ”

     

    เจ้าของชื่อหัวเราะแล้วจ้องมองลูกหมาป่าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะผละออกไปหาลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลกัน

     

    “ถ้างั้นเด็กคนนี้เป็นอะไรล่ะ เจอมาหรอหรือว่าเสนอตัวมาเอง”

     

    ประโยคที่ติดจะดูถูกทำให้จัสตินเริ่มโมโห ลูกหมาป่าได้แต่บ่นในใจอย่างฟึดฟัดอยากจับพวกแวมไพร์นั่นมาฉีกเป็นชิ้นๆให้หมดเลย!

     

    “หมาของฉัน”

    คำว่า ของฉันทำให้ช่ายสวี่คุนรู้ดีว่ามันหมายความว่าอะไร ตวัดตามองลูกหมาป่าแล้วหายกลับเข้าไปข้างในคฤหาสน์

     

    จัสตินขืนตัวเองไว้ขณะที่ถูกลากขึ้นมาชั้นบนแถมยังรำคาญน้ำเสียงหัวเราะสุดแสนจะกวนประสาทของเจ้าแวมไพร์งี่เง่า

     

    ห้องนอนกว้างปรากฏตรงหน้า ทุกอย่างดูดีเหมือนในหนังหลายๆเรื่องที่เคยดู มันหรูหราสมกับฐานะของคุณชายตระกูลฟ่าน แต่จัสตินก็ยังคิดถึงห้องเช่าเล็กๆเตียงนอนแข็งๆของตัวเองอยู่ดี สีหน้าของลูกหมาป่าสลดลงจนเจ้าของห้องต้องเดินมาลูบหัวเบาๆ

     

    “พ่อนายทำเพราะความจำเป็น”

    จัสตินส่ายหน้าไปมา

    “พ่อแค่เกลียดฉัน”

    “พวกหมานี่ปากไม่ตรงกับใจกันรึไงไม่รู้”

    จัสตินเงยหน้ามองตาขวาง

    “พวกแวมไพร์ก็งี่เง่าพอกันนั่นแหละ”

    ฟ่านเฉิงเฉิงยักไหล่พลางหัวเราะ

    “ก็อาจจะจริง”

     

    งี่เง่าไม่งี่เง่าก็ดูสิ่งที่ฟ่านเฉิงเฉิงทำก็แล้วกัน จัสตินอยากจะกลับไปข่วนเจ้าบ้านั่นให้เสียโฉมกล้าดียังไงมาลาออกจากโรงเรียนแถมยังบังคับให้ไปเรียนโรงเรียนใหม่ที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ ไม่รู้รึไงว่าสังคมแบบนี้น่าอึดอัดจะตาย ยิ่งตอนลงจากรถทุกสายตาหันมาจ้องเหมือนเข้าเป็นตัวประหลาดก็ยิ่งทำให้รู้สึกแย่เข้าไปอีก

    สุดท้ายชื่อของลูกหมาป่าก็ดังกระฉ่อนไปทั่วโรงเรียน ทุกคนให้ความสนใจกับการที่จัสตินเข้ามาเรียนที่นี่กลางเทอม ทั้งที่โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนแบบไม่ใช่ใครทุกคนก็สามารถเข้ามาเรียนได้ มีมนุษย์อยู่ไม่ถึงครึ่งนอกนั้นก็แวมไพร์ไม่ก็พวกมนุษย์หมาป่าชนชั้นสูง ลูกของพวกจ่าฝูงอะไรประมาณนั้น

     

    แล้วการที่จัสตินเข้ามาด้วยชื่อของต้นตระกูลแวมไพร์ยิ่งทำให้เป็นจุดสนใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกมองไปหมด

     

    “ไงจัสตินฮวง”

     

    จัสตินที่กำลังหั่นชิ้นเนื้อเงยหน้ามองใครก็ไม่รู้ที่รู้จักชื่อตัวเอง รอยยิ้มเหมือนหมาแล้วดูท่ากลิ่นอีกฝ่ายก็จะเป็นหมาจริงๆเสียด้วย

     

    “ฉันเฉินลี่หนง” มือใหญ่ยืนมาตรงหน้าแถมยังพยักหน้าให้จัสตินเอามือไปจับอีกต่างหาก พอเห็นรอยยิ้มเหมือนหมาก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเอามือไปจับ

     

    “นายเป็นคนของคุณชายเฉิงหรอ”

    จัสตินถอนหายใจยาว

    “เปล่า”

    “อ่าว ก็เห็นเขาบอกฉันมาแบบนี้”

     

    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเจ้าหมาตรงหน้าทำให้จัสตินแปลกใจ แวมไพร์คบหมาป่าเป็นเพื่อนด้วยหรอหรือว่าคนตรงหน้าเขาจะเป็นลูกน้อง

     

    “นายคบกับพวกแวมไพร์ด้วยหรอ”

    “ใช่ แบบฉันชอบแวมไพร์ด้วย”

    ให้ตายสิจัสตินอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆ หมอนี่ไม่รู้รึไงว่าสองเผ่าพันธุ์รักกันไม่ได้

    “เธอสวยหรอนายถึงได้ชอบ”

    ลี่หนงหัวเราะก่อนจะโบกมือปฏิเสธ

    “เป็นผู้ชาย”

     

    เพื่อนคนแรกในโรงเรียนใหม่อัธยาศัยดีตามประสาหมา พูดเก่งมากทำให้จัสตินไม่เหงาแถมยังดูเป็นคนที่เพื่อนๆให้ความเคารพอีกต่างหาก คนแบบไหนที่จะสนิทกับคุณชายฟ่าน เพื่อนเกรงใจ แต่หน้าตาเหมือนหมาตัวใหญ่ๆที่ไม่ใช่หมาป่า

     

    การเป็นประเด็นตั้งแต่เข้ามาเรียนวันแรกทำให้เหนื่อยที่จะตอบคำถามของเพื่อนๆ ดูท่าคุณชายเฉิงจะเป็นที่รู้จักดีแถมยังฮอตในหมู่พวกผู้หญิงจนทำจัสตินปวดหัวไปหมด รถทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบคนที่จัสตินกำลังนินทาก็หันหน้ามามอง

     

    “เพื่อนที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง”

    จัสตินยักไหล่

    “ก็ดีแต่มันจะดีกว่านี้ถ้าฉันได้อยู่โรงเรียนเดิม”

    แวมไพร์หนุ่มหัวเราะเขาชอบหน้าตาตอนที่เจ้าลูกหมาป่าดูไม่สบอารมณ์ ดวงตากลมฉายแววโมโหนิดๆ แต่ปากอิ่มเล็กๆนั่นน่ากัดชะมัด

    “นายสนิทกับลี่หนงหรอ”

    “ก็พอตัว”

    “ทำไมสนิทกัน หมาป่ากับแวมไพร์จะเป็นเพื่อนกันได้ไง”

    และคำตอบที่ออกจากปากแทบทำให้คนที่กำลังหาวเพราะความง่วงตื่นขึ้นมาได้ทันที

    “อ่าวเจ้าหมอนั่นไม่ได้บอกหรอว่าตัวเองเป็นลูกของจ่าฝูง”

     

    จัสตินหงุดหงิดไอ้เจ้าหมาบ้านั่นไม่บอกสักคำ ก็ว่าทำไมพวกนักเรียนถึงได้ให้ความเคารพนักพอคิดแบบนั้นก็อยากเอาหัวเขกผนังห้องน้ำให้ตายไปข้าง แบบนี้ยิ่งจะไม่เป็นที่สนใจเข้าไปใหญ่หรอ เขาไม่อยากใช้ชีวิตท่ามกลางสายตาเป็นร้อยๆคู่ ไม่ใช่ไอดอลนะเว้ย

     

    เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดจนแห่งก่อนจะสวมชุดคลุมเพราะลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามาเปลี่ยน ผมเปียกลู่ไปกับใบหน้าถูกขยี้ด้วยผ้าจนยุ่งเหยิง

     

    “เป็นลูกหมาที่เซ็กซี่ดีนะ”

     

    ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อมองเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของคนที่นั่งกดมือถืออยู่บนเตียง นัยน์ตาสีเข้มดูแพรวพราวแถมยังยกยิ้มมุมปากให้จัสตินต้องรีบกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำให้มิดชิด

     

    “ประสาท”

     

    คนถูกต่อว่าหัวเราะหึในลำคอแล้วลุกขึ้นมาใกล้ ใกล้ขนาดที่ว่าเนื้อตัวแนบชิดกัน แถมยังรู้สึกถึงไอเย็นจากแวมไพร์หนุ่มตรงหน้าอีกต่างหาก มือเรียวยกขึ้นแย่งชิงผ้าเช็ดหัวในมือไปถือแล้วบรรจงเช็ดผมเปียกให้เขา เพราะสูงกว่าทำให้อีกฝ่ายได้เปรียบ

     

    หัวใจเต้นตุบๆยามที่สบเข้าดวงตาสีเข้มเหมือนสีของรัตติกาล ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนลงมายามที่มือประคองสองข้างแก้มของลูกหมาเอาไว้

    ริมฝีปากกดจูบลงบนหน้าผากมนแล้วค่อยๆเลื่อนลงมาที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ซ้ายที ขวาที ก่อนจะลงมาที่ปลายจมูกแล้วจบลงที่ริมฝีปากอิ่ม แค่กดจูบลงไปเบาๆไม่ได้ล่วงเกินหรือรุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก

     

    “อีกไม่นานนายจะอายุสิบเจ็ดแล้ว แถมตอนนั้นก็เข้าฤดูผสมพันธุ์ของพวกหมาป่า”

    ดวงตาสั่นไหวยามที่ถูกสะกดเอาไว้ด้วยดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้น ริมฝีปากเอื้อนเอ่ยบางอย่างที่ทำให้หัวใจสั่นระรัว

    “พวกลูกหมาที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นรู้ใช่ไหมว่ากลิ่นที่ออกมาจากตัวมันจะหอมเป็นพิเศษโดยเฉพาะกับพวกหมาด้วยกัน”

    “ละ ละ แล้วทำไมล่ะ”

    “ถึงตอนนั้นฉันจะไม่ปล่อยให้หมาตัวไหนเข้าไปอยู่ในตัวนายหรอกนะฮวงหมิงฮ่าว เพราะคนที่มีสิทธิ์จะได้ผสมพันธุ์ ไม่สิ

    มือเรียวเคลื่อนผ่านแผ่นหลังไปที่สะโพกกลมกลึง บีบเบาๆก่อนจะฟาดลงไปเสียงดัง

    “ต้องใช้คำว่าร่วมรักหรือเปล่านะ กับนายมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นจำเอาไว้ล่ะเจ้าลูกหมา”

     

    ฟ่านเฉิงเฉิงอาจจะเหมือนไฟจริงๆ จัสตินไม่เคยรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้เท่านี้มาก่อน เหมือนกำลังถูกไฟเผาให้มอดไหม้ รุ่มร้อน ละลาย จนหยุดหัวใจที่สั่นระรัวดวงนี้ไม่ได้เลย

     

     

     


     

     

    tbc.



     

     

    หึ! คุณชายเฉิงยอมจ่ายเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของลูกหมาคนเดียว

    ฮื้ออ แต่งเองก็เขินเอง #เดี๋ยวนะ คิดดูตอนน้องถูกกินแล้วมีหู ครางหงิงๆ

    แม่ต้องตายแน่!!! TvT  

    สวัสดีค่ะคนแต่งเอง ดีใจที่มีคนเข้ามาอ่าน แต่ขอเม้นท์หน่อยได้ไหมคะ

    อยากทำเสียงแบบน้องลิซ่า ฟิคหนูไม่สนุกหรอ ไม่ชอบหรอคะ ฮรึกก

    ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ไม่ได้ลงทุกวันช่วงนี้รออาจารย์ตรวจวิจัยเลยว่างนิดนึง

    ฝากด้วยนะคะ #เล่นกับไฟเฉิงจัส ขอบคุณค่ะ

    ปล. เรื่องนี้มีอีกคู่คือ หนงคุนนะคะ หนงหนง x สวี่คุน

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×