ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    &'BOX THE MAZE RUNNER l #Minewt #Kisang

    ลำดับตอนที่ #3 : SFㅣ DEPART (TMR)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 57







    DEPART {TMR}

    AUTHOR: JARKJY_

    RATE: PG

    PAIRING: MINHO x NEWT

    ( คำเตือน : อาจจะมีสปอยในหนังสือเล็กน้อยถึงปานกลางหรือเนื้อหาผิดไปจากบทเดิม)

     

     


     

    เสียงครืดคราดของกล่องเหล็กครูดตามกำแพง มินโฮยังจำได้ดีว่าตอนนั้นตัวเองตกใจและวิตกมาแค่ไหน ภายในกล่องมืดๆที่มีเสียงร้องของสัตว์คลอดังตลอดเวลาที่มันกำลังเคลื่อนขึ้นไปข้างบนคล้ายลิฟต์ก่อนที่มันจะหยุดลงและเปิดออก เสียงจอแจและแสงสว่างจ้าทำให้เขาต้องยกมือขึ้นมาบังไว้เพราะตายังไม่ชินกับแสง

     

    “เฮ้..เด็กใหม่”

     

    มินโฮมองคนที่โดดลงมาในกล่องเหล็กยักษ์ ผิวขาวๆตัดกับเสื้อกล้ามสีน้ำตาลเข้มสองข้างแก้มเลอะไปด้วยคราบดินเลยลงมาจนถึงต้นคอและไหปลาร้า

     

    “ไหวไหมเด็กใหม่”

     

    เขายื่นมือไปจับมือเล็กที่สัมผัสได้ถึงความหยาบกร้านเล็กๆ มินโฮขึ้นมาจากกล่องแล้วมองไปรอบๆด้วยสีหน้าตื่นตระหนกปนไม่เข้าใจ เขาหันไปมองผู้ชายหลายแปลกหน้าหลายคนที่จ้องมาทางเขาเช่นกัน

     

    “นิวท์ฝากเด็กใหม่กับนายด้วยแล้วกัน” อัลบี้พูดแล้วหันไปสั่งคนอื่นๆให้แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ

     

    นิวท์ ผู้ชายผิวขาว ตัวผอมบางกว่าเขามาก แนะนำหลายๆอย่างเกี่ยวกับทุ่งหรือเรียกกันว่าชาวทุ่งให้กับเขาฟังอธิบายถึงทุกอย่างที่เขาสงสัยโดยไม่รำคาญใจเลยสักนิด นิวท์บอกเขาเกี่ยวกับเขาวงกตที่อยู่นอกกำแพง เล่าถึงตัวกรีฟเวอร์ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นรวมไปถึงวิธีการออกไปจากที่นี่ก็ยังไม่มีใครคิดได้เพราะตั้งแต่มีคนตายก็มีกฏห้ามออกไปข้างนอกนั่น

     

    มินโฮจำชื่อตัวเองได้ในอีกสองวันต่อมา เขายังไม่ชินกับการใช้ชีวิตอยู่แบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขามีชีวิตอยู่แบบไหนเพราะมินโฮจำอะไรไม่ได้เลย แม้พยายามนึกมันก็เหมือนกับว่าสมองของเขาถูกควักออกไปทำความสะอาดจนเกลี้ยงไม่เหลือร่องรอยอะไรทิ้งไว้ยกเว้นชื่อ

     

    เขาจำได้ว่าถกเถียงกับชาวทุ่งคอเป็นเอ็นเรื่องการออกไปสำรวจวงกต โดยเฉพาะกับนิวท์ที่ตะคอกใส่หน้าเขาด้วยคำพูดหยาบโลนมากมาย กำปั้นหนักๆซัดเข้ามาข้างแก้มหลายครั้งจนทุกคนต้องมาจับนิวท์แยกออกไป เขาโกรธแต่ไม่คิดจะทำคืนเพราะรู้ว่านิวท์คงไม่อยากให้เขาไปตาย

     

    “นายต้องกลับมานะมินโฮ”

     

    นี่คือประโยคเดียวตลอดสามปีที่นิวท์พูดกับเขาในทุกๆเช้า เขากลายเป็นนักวิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ชาวทุ่งนับจากวันนั้น วิ่งสำรวจเส้นทางในวงกตจนคุ้นเคยและรู้ว่ามันซับซ้อนกว่าที่คิดและวิ่งมาจนรู้ว่ามันอาจจะไม่มีทางออก จนกระทั่งมีเด็กใหม่ถูกส่งมาอีกครั้งและครั้งนี้มันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวทุ่งไปตลอดกาล

     

    ความอยากรู้อยากเห็นของโทมัสเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเป็น มินโฮมองโทมัสเหมือนมองตัวเองเมื่อสามปีก่อน เขารู้ว่าความไม่เข้าใจทำให้มนุษย์อยากลองและอยากรู้จะมีก็แต่มนุษย์บางจำพวกที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและไม่อยากลองหรืออยากรู้อะไรเหมือนเช่นกัลลี่ โทมัสทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปทำให้ไฟที่มอดดับในใจเขาลุกโขนขึ้นมาอีกครั้งและความหวังที่ว่าต้องพาชาวทุ่งทุกคนและนิวท์ออกไปจากที่นี่มันเริ่มเป็นจริง

     

    “ถ้าออกไปได้นายอยากทำอะไรเป็นอย่างแรก”

     

    นิวท์ถามเขาในคืนหนึ่งก่อนที่พรุ่งนี้จะเดินทางออกจากที่นี่ เขาจำได้ว่าตัวเองครุ่นคิดอยู่นานสองนานเพราไม่รู้ว่ามันมีอะไรที่เขาอยากทำมากที่สุดนอกเหนือจากการออกไปจากไอ้วงกตบ้าๆแห่งนี้

     

    “ไม่รู้สิแค่ออกไปจากที่นี่ได้โดยที่ทุกคนปลอดภัยก็พอแล้วมั้ง”

     

    บทสนทนาจบลงแค่นั้นเขาไม่ได้ถามอะไรนิวท์ต่อแม้จริงๆอยากจะถามกลับว่าแล้วนายอยากจะทำอะไร แต่เพราะอยู่ด้วยกันมานานรู้จักนิสัยใจคอและเรียนรู้ซึ่งกันและกันมาหลายปีมินโฮเดาว่านิวท์ก็คงคิดไม่ต่างจากเขา

     

    เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มินโฮแทบไม่เชื่อว่าเขาและชาวทุ่งหลายคนรอดมาได้จากเขาวงกตแต่ก็มีเรื่องน่าเศร้าที่ชัคและกัลลี่ต้องตาย รวมไปถึงคนอื่นๆที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาเพื่อใช้ชีวิตต่อไป แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเมื่อเรื่องราวที่เขาคิดว่าจบมันกลับไม่จบทุกอย่างดูวกวนและซับซ้อนกว่าเดิมไม่ใช่วงกตแต่เป็นใจคน

     

    เขานอนมองนิวท์ที่นอนเอามือกายหน้าผากอยู่บนเตียงข้างๆ สีหน้าไม่สู้ดีนักทำให้เขาเองก็รู้สึกไม่ดีไปด้วยจนต้องหาอะไรมาแกล้งอีกคนให้สถบด่าเขาเหมือนทุกที

     

    “อย่าคิดมากเลยน่า เราต้องรอดเชื่อฉันสิ”

     

    มินโฮเป็นผู้นำในการเดินทางตามที่ได้ตกลงไว้กับไอ้หน้าหนูคนหนึ่งที่โผล่พรวดเข้ามาตอนที่พวกเขากำลังเดินอยู่ในตึก และข้อตกลงที่ทำให้เขาหัวเสียและอยากจะวิ่งไปต่อยไอ้หน้าหนูผีสักหมัดสองหมัดแต่ก็ทำได้แค่คิด พวกเขากำลังจะกลายเป็นพวกแคร้งเพราะเชื้อไข้ที่ได้รับมาตอนไหนไม่รู้

     

    บางทีมินโฮก็อยากจะหยุดเรื่องทั้งหมดไว้แค่นี้แต่พอเขามองหน้านิวท์ในใจลึกๆก็บอกว่าเขาต้องรอด อย่างน้อยก็รอดไปเพื่อใช้ชีวิตใหม่กับใครสักคนและคนๆนั้นเขาก็อยากให้เป็นนิวท์ ผู้ชายคนแรกที่เขาเห็นในท้องทุ่ง

     

    สมรภูมิบ้าบอที่ทำเอาพวกเขาแทบไม่เป็นผู้เป็นคนและคร่าชีวิตชาวทุ่งบางคนไปอีกพร้อมกับรู้ข้อมูลอะไรมากขึ้นว่าการทดลองครั้งนี้มันโคตรจะเสียสติมีแยกเป็นกลุ่มเอและกลุ่มบี มีแยกเป็นผู้ชายกับผู้หญิง รวมไปถึงปัญหามากมายนับไม่ถ้วนที่ถาโถมเข้ามาให้คิดแต่พวกเขาก็รอดมาได้

     

    แต่มินโฮไม่เคยรู้ เขาไม่เคยแม้แต่จะฉุกคิดว่าวันหนึ่งจะมีเรื่องอะไรที่เศ้ราไปกว่าการติดอยู่ในวงกตหรือต้องมาเป็นหนูทดลองอะไรบ้าๆนี่มากกว่าการตายของนิวท์ ขายังจำได้ว่าตัวเองดีใจแค่ไหนที่ผ่านอะไรมาได้หลายอย่างและไม่กลายเป็นพวกแคร้งเสียก่อน แต่ไม่มีใครรู้ว่านิวท์เป็นคนเดียวในนี้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน

     

    “นายจำได้ไหมที่นายเคยถามว่าถ้าฉันออกไปได้ฉันอยากทำอะไร”

    นิวท์หันมามองแล้วพยักหน้าหงึกๆ “จำได้ทำไมวันนี้นายคิดออกแล้วรึไง”

    “ฉันว่าฉันอยากอยู่กับนาย” เขาพูดออกไปตรงๆ

     

    นิวท์ไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ยกยิ้มแล้วต่อยเข้าที่แขนเขาเหมือนอายๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกที่คงไม่ต่างจากที่เขาจ้องมองอีกคน มันไม่ใช่คำพูดว่าสัญญาแต่มันเป็นการมองตาแล้วสัญญาว่า

     

    เราจะอยู่ข้างกันและกันไปจนสุดทาง

     

    มินโฮรับรู้ถึงความเจ็บปวดสุดท้ายของนิวท์ เขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองร้องไห้ในวันที่นิวท์จากไปแบบไม่มีวันกลับมา ความเจ็บปวดรวมกันอยู่ในก้อนเนื้อข้างซ้าย เขาอยากจะฆ่าทุกคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้หรือไม่ก็อยากจะขอให้เป็นตัวเองที่ตายไม่ใช่นิวท์

     

     ไม่ใช่คนที่เขารัก

     

    เรื่องทุกอย่างจบลงแม้ไม่สวยนักเขากลับมาที่ทุ่งอีกครั้งพร้อมโทมัสและคนที่รอด เรื่องทุกอย่างมันหมุนเวียนเข้ามาเหมือนหนังที่เคยเปิดดูฉายซ้ำวนเวียนไปมา รอยยิ้มของนิวท์มันวนเวียนอยู่ในหัวเขา คำสถบด่าหรือแม้กระทั่งร่องรอยของอ้อมกอดที่ยังติดอยู่ในใจมันทำให้เขารู้สึกคิดถึงและทรมาน มันเหมือนความทรมานที่กัดกินอยู่ในหัวใจเขาไม่รู้จักจบจักสิ้น เหมือนคุกที่ไม่มีทางออก

     

     

    บางทีเขาก็มีคำถามกับตัวเองว่าระหว่างการติดอยู่ในวงกตนี่ตลอดไปกับการไม่มีนิวท์อันไหนแย่กว่ากัน

    แต่วันนี้พอได้กลับมาที่นี่อีกครั้งก็ได้คำตอบว่า

    การอยู่ในที่บ้าๆนี่ยังดีเสียกว่าหรือจริงๆจะให้เขาอยู่ที่ไหนก็ได้จะน่ากลัว ลำบากแค่ไหนก็ได้

    ขอแค่มีนิวท์แค่นั้น….ขอแค่มีคนที่เขารักต่อให้ต้องอยู่ที่วงกตไปจนตายมันยังดีกว่า

     

    การที่รู้ว่ารุ่งเช้าของทุกวันที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือยามค่ำคืนที่พระจันทร์ส่องแสงต่อให้มันวนเวียนไปอีกกี่ร้อยกี่พันวันตราบจนเขาตาย

     

     

    มันก็ไม่มีนิวท์ไม่มีอีกแล้ว

     





    End 






    ขออภัยในความมั่ว ...
    แม้อ่านหนังสือแล้วก็ยังจำได้ลางๆเลือนๆ
    แต่รู้ว่าเศร้ามาก T_T ทำไมพระเจ้าช่างโหดร้าย
    มันเหมือนชีวิตจริงเลย คนไม่อยากตายต้องตาย
    คนที่ยังอยู่ก็เจ็บปวด...อิอิ ไปนอนดีกว่า ฝันดีค่ะ
    enjoy reading 





     

    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×