ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLAYING WITH FIRE ♡ #เฉิงจัส #หนงคุน IdolProducer

    ลำดับตอนที่ #1 : PLAYING WITH FIRE : prologue (REWRITE)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 61









    Prologue

     

    Now burn baby burn

     

     

    ใครๆก็รู้ว่าพวกแวมไพร์น่ะไม่ค่อยถูกกับพวกสัตว์หน้าขนสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่ต่างฝ่ายต่างวิ่งเข้ากันราวกับไฟและน้ำมัน ต่อสู่กันไม่รู้จักจบจักสิ้นถึงมันจะผ่านไปเป็นพันๆปี แต่ตอนนี้ ณ ปัจจุบันในโลกที่มนุษย์มีวิวัฒนาการในด้านต่างๆสามารถประดิษฐ์สิ่งของขึ้นมาราวกับว่าสิ่งเหล่านั้นมีชีวิต พวกนักล่าเลิกสนใจพวกแวมไพร์ทิ้งไว้เพียงความหลังเหลือเพียงการใส่หน้ากากเข้าหากันเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งที่สำคัญกว่านั่นก็คือ “เงิน” และ “อำนาจ”

     

    ส่วนการต่อสู้ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ แวมไพร์ และ มนุษย์หมาป่า กลายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระเพราะต่างฝ่ายก็ต่างเลิกสนใจที่จะฆ่ากัน ไม่จำเป็นต้องสูญเสียชีวิตเพื่อที่จะได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่ เพราะตอนนี้การจะเป็นใหญ่ในระหว่างเผ่าพันธุ์ได้ก็แค่การกุมอำนาจด้วยการใช้เงินซื้อทุกอย่าง บริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศมหาอำนาจอย่างจีนถึงได้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แถมมันยังลามไปยังส่วนต่างๆในโลก

     

    เมื่อมีอำนาจก็ต้องมีผู้กุมอำนาจ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของตระกูลฟ่านที่ใครๆต่างก็เกรงกลัวเพราะเป็นตระกูลเก่าแก่หนึ่งในตระกูลแวมไพร์ที่ทรงอำนาจ ยิ่งตอนนี้ลูกสาวคนโตเป็นที่รู้จักในเรื่องของความงดงามแต่กลับซ่อนไปด้วยความน่ากลัวภายใต้ใบหน้าราวเจ้าหญิง เป็นแวมไพร์สาวที่มีอิทธิพลในหลายๆด้านเมื่อเธอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ความงามที่ไม่มีลดลงมีแต่เพิ่มขึ้นจนถูกคนทั้งโลกจับตามอง

     

    และลูกชายคนเดียวไม่มีใครได้เห็นพี่น้องคู่นี้อยู่ด้วยกันสักเท่าไหร่ แต่ชื่อเสียงของ ฟ่านเฉิงเฉิง กลับเป็นที่รู้จักไปทั่วในโลกของแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า ความหล่อเหลาที่สามารถสะกดให้แวมไพร์สาวหลงใหลราวกับต้องมนตร์สะกด รูปร่างสูง ผิวขาวซีด ดวงตาสีเข้ม ใบหน้าหล่อเหลา  หรือแม้แต่การขึ้นเป็นใหญ่ในฐานะต้นตระกูลลูกชายคนเดียวของตระกูลฟ่านในอนาคต

     

    ใครบ้างล่ะไม่อยากจะครอบครองหัวใจแวมไพร์หนุ่มตนนี้

     

    “ทำไมพวกสัตว์หน้าขนอย่างนายถึงได้มาอยู่ในเขตของฉัน” น้ำเสียงนิ่งๆกับดวงตาคมทอดมองลูกหมาป่าที่กำลังขู่ด้วยน้ำเสียงเล็กๆ

    “แล้วนายมายุ่งอะไรด้วยพวกผีดูดเลือด”

    “มันผิดกฎไม่รู้รึไงกันฮวงหมิงฮ่าว”

    เจ้าของชื่อแทบจะถลาจากแวมไพร์สองตนที่จับแขนเอาไว้ไปหาเจ้าชายแห่งรัตติกาล ที่กำลังทำหน้ายียวนกวนประสาทจนอยากข่วนให้ใบหน้าดูดีนั่นเป็นรอยเล็บ

    “ชื่อนั่นมีไว้สำหรับคนสนิทเรียก พวกผีดูดเลือดแบบนายไม่มีสิทธิ์จำไว้!

     

    คนที่ถูกเรียกเป็นผีดูดเลือดยกยิ้มยามมองใบหน้าหวาน ลูกชายคนเดียวของตระกูลฮวงแถมยังเป็นลูกครึ่งแวมไพร์ครึ่งหมาป่าอีกต่าง และการมีสองสายเลือดในร่างเดียวทำให้คนตรงหน้ากลายเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ไร้ความหมาย ถึงสองเผ่าพันธุ์จะไม่ฆ่ากันแล้วแต่การมารักกันไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก ไหนจะเรื่องที่ลูกหมาป่าตรงหน้าไม่สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าจริงๆได้แถมยังกินเลือดมนุษย์เป็นอาหารอีกต่างหาก

     

    “นายอย่าลืมสิว่านายก็กินเลือดแบบที่ฉันกิน”

    จัสตินฮวงอยากจะจับไอ้ต้นตระกูลจอมกวนประสาทนั่นมาฉีกเป็นชิ้นๆ เพราะความโกรธทำให้ใบหูเล็กๆผุดขึ้นมาจากผมสีเข้ม

    “ว้า ทำลูกหมาโกรธซะแล้วสิ” นิ้วเรียวยาวลูบคางพลางยิ้มเยาะนั่นยิ่งทำให้คนที่กำลังโกรธกลับยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก

    “ใครลูกหมา แน่จริงมาสู้กันตัวต่อตัวสิไอ้ต้นตระกูลบ้า ไอ้ลูกแวมไพร์ ไอ้ ไอ้”

    “พวกนายปล่อยเจ้าลูกหมามามันคงคันฟันจะแย่อยู่แล้วมั้ง” ตวัดสายตามองลูกน้องสองคนที่ทำหน้ากล้าๆกลัวๆ “เดี๋ยวนี้”

     

    จัสตินกระโดดขึ้นไปยืนประจันหน้ากับแวมไพร์หนุ่ม อีกฝ่ายไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยสักนิดถึงตอนนี้จัสตินจะโกรธสุดๆ แต่ถ้าเทียบความเป็นจริงแวมไพร์ต้นตระกูลอย่างฟ่านเฉิงเฉิงใครก็แทบจะสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันค้ำคอจะให้กลัวเหมือนที่คนอื่นๆกลัวไม่มีซะหรอก

     

    “นึกว่าตัวเองเป็นต้นตระกูลจะทำอะไรกับใครก็ได้หรอ”

    แวมไพร์หนุ่มยักไหล่น้อยๆ

    “ก็ไม่เคยคิดแบบนั้นนะจนได้เจอนาย”

    “งั้นวันนี้ฉันจะฉีกนายให้เป็นชิ้นๆเลยไอ้ผีดูดเลือด!

     

    ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะแต่สิ่งที่จัสตินฮวงทำได้คือนอนอยู่ใต้ร่างใหญ่กว่าเกือบครึ่ง ใบหน้าหวานยับยู่ยี่ตอนที่โดนแวมไพร์หนุ่มยักคิ้วให้อย่างกวนๆ หน้าหล่อค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจนรับรู้ได้ถึงไอความเย็นจากตัวอีกฝ่าย

     

    “ไหนว่าจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆไงเจ้าลูกหมา” มือเรียวไล้ไปตามกรอบหน้า ปัดปอยผมสีเข้มที่บดบังใบหน้าดูดีของลูกครึ่งหมาป่าออกเบามือ

    “ฉันทำแน่ ถ้านายเผลอเมื่อไหร่นายตายแน่” จัสตินพูดเสียงดังแต่น้ำเสียงนั่นเจือด้วยความกลัวนิดๆ

    “งั้นก็แย่สิ ฉันคงจะต้องชิงกัดนายก่อน”

    ไม่พูดเปล่าก็ก้มลงมาคลอเคลียกับซอกคอขาวที่มีเส้นเลือดเต้นตุบๆล่อตา ล่อใจ จนอยากฝังคมเขียวลงบนคอขาวๆให้รู้แล้ว รู้รอด ถ้าอีกฝ่ายเป็นแค่แวมไพร์ตัวคงเย็นเฉียบแต่พอมีเลือดหมาป่ามันเลยทำให้คนตรงหน้าตัวอุ่นๆคล้ายกับมนุษย์

     

    ลิ้นร้อนไล้เลียแถมยังขบเม้มจนลูกครึ่งหมาป่าร้องลั่นด้วยความเจ็บ คมเขี้ยวครูดไปตามผิวขาวจัดจนเลือดซิบ เฉิงเฉิงลิ้มรสเลือดหวานๆ

     

    “ปล่อยนะเว้ย ฉันไม่ใช่คนนะเลือดก็ไม่อร่อยด้วย เฉิงเฉิงปล่อยอย่ากัดนะ!

    แวมไพร์หนุ่มเคลื่อนไปข้างใบหูนิ่มกระซิบบางอย่างที่ทำให้ลูกหมาป่าขนลุกซู่

    “รู้ไหมว่าเล่นกับไฟ ไฟมันจะเผานายในสักวันฮวงหมิงฮ่าว โดยเฉพาะไฟอย่างฉันรู้ไว้ซะเจ้าลูกหมาป่า”

     

     



     

    tbc.

     

     





    สวัสดีค่ะเราคุณแม่ของจัสตินและแม่ยายของน้องเฉิงเฉิงเอง 5555

    ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ คิดพล็อตไว้เยอะแล้วมาจบที่อันนี้

    หวังว่าเรือลำเล็กจะกลายเป็นยานอวกาศในวันข้างหน้า

    เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ได้เดด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

    คอมเม้นท์หรือสกรีมแท็ก #เล่นกับไฟเฉิงจัส 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×