ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | SWITCH | YUGBAM

    ลำดับตอนที่ #1 : Whistle : prologue

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 61





     

    วงจรชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มันจะมีอะไรนักหนา เรียน ทำงาน กิน เที่ยว นอน อาจจะเพิ่มเซ็กซ์ไปด้วยอีกอย่าง วนลูปไปมาราวกับหน้าปัดนาฬิกาที่หมุนอยู่แบบนั้นทุกวันๆจะเปลี่ยนก็เพียงแค่วันเวลา ชีวิตของแบมแบมก็เหมือนกันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด เป็นชีวิตที่น่าเบื่อของนักศึกษาปีสองของมหาวิทยาลัยJ เขาไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนแต่ย้ายตามพ่อมาอยู่ที่นี่เมื่อห้าปีที่แล้ว พ่อของเขาเป็นท่านทูตแต่ตอนนี้ย้ายกลับไปประจำประเทศไทยแล้ว มีแต่เขาที่ยังหลงใหลในเมืองแห่งแสงสีและความทันสมัย

     

    การใช้ชีวิตแบบไม่มีครอบครัวคอยบงการมันดีมาก ทำอะไรก็ได้ตามอิสระเพราะแบบนั้นทุกคืนเลยมีสาวๆมากหน้าหลายตาที่ถูกหิ้วขึ้นมาบนห้อง อิสระที่กลายเป็นความเหงาจนบางทีก็ไม่อาจจะอยู่คนเดียวในบางค่ำคืนได้

     

    ความเหงาสำหรับแบมแบมมันน่ากลัว ยิ่งตอนที่มันคืบคลานเข้ามาในยามค่ำคืนยิ่งทวีความเหงาเข้าไปอีก แบมแบมเกลียดความเหงามันทำให้เจ้าตัวคิดถึงแม่ที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ความอบอุ่นจากอ้อมกอดอุ่นๆเหมือนมันกำลังจะเลือนหายไปในไม่ช้า ถึงมันไม่ควรเอาข้ออ้างที่แม่ตายมาทำตัวเสเพลแบบนี้แต่ให้ทำไงล่ะในเมื่อเขาก้าวผ่านความรู้สึกสูญเสียไปไม่ได้จริงๆ

     

    “แบมวันนี้ไม่เห็นมึงจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลย” คำถามที่ทำให้เจ้าของชื่อแค่ยักไหล่แล้วยิ้มมุมปากให้เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

    “ไร้น้ำยาแล้วมั้ง”

    “ปากดีว่ะแจฮยอนน้ำยากูยังมีอีกเยอะ มึงมากกว่าได้ข่าวว่าตามจีบพี่ยูตะนานแล้วไม่ติดสักที” แบมแบมลูบคางตัวเองพลางจ้องมองเพื่อนตัวสูงที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อถูกจี้ใจดำ “สงสัยจะไร้น้ำยาของจริง”

    “ความเชื่อใจมันต้องใช้เวลาเว้ย คนนี้กูก็จริงจังด้วย”

     

     

    ทุกคนเลยโห่เสียงดังกับประโยคนั้นของจองแจฮยอนไม่เว้นแม้แต่แบมแบม ใครมันจะไปเชื่อกันในเมื่อกลุ่มพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ตัวพ่อ สร้างความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนท์เป็นว่าเล่น แถมผู้หญิงในมหาลัยไม่น้อยเลยที่เคยมีความสัมพันธ์กับคนในกลุ่ม เอาดีๆบางทีก็เป็นผู้ชายเสียด้วยซ้ำ แม้แต่แบมแบมยังเคยลองถึงเขาจะดูผอมไปบ้างแต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายสักคน

     

    ค่ำคืนนี้แบมแบมรู้สึกตัวเองเมานิดหน่อยแต่ก็ยังพอขับรถกลับคอนโดไหว ทำแบบนี้ถ้าพ่อรู้เขาคงโดนบ่นหูชา พ่อคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เพลงโปรดดังไปทั่วรถนิ้วเรียวเคาะพวงมาลัยตามจังหวะขณะที่รถกำลังติดไฟแดง เลขกำลังนับถอยหลังไปเรื่อยๆ ปากอิ่มร้องเพลงตามเบาๆยิ้มขึ้นมาเฉยๆเมื่อมันเล่นถึงท่อนฮุก

     

    ไฟแดงกำลังจะสิ้นสุดและเลขสีแดงตรงหน้ากลายเป็นสีเขียว รถสีดำมุกออกตัวอย่างเร็วและในจังหวะเดียวกันรถของใครสักคนก็ฝ่าไฟแดงมา  

     

     

    โครม!

     

     

    ความปวดร้าวแล่นมาที่หัว แบมแบมพยายามมองภาพตรงหน้าแต่มันดูเลือนๆแถมตอนนี้เขายังรู้สึกถึงกลิ่นของคาวเลือดคละคลุ้งจนอยากอาเจียน มือพยายามแกะเข็มขัดนิรภัยออกแต่ไม่เป็นผล หูได้ยินเสียงหวอของรถพยาบาลก่อนภาพทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ

     

     

     

    ##

     

     

     

    ในชีวิตของมนุษย์มันไม่มีความยุติธรรมอะไรที่แท้จริงเลยสักนิด เชื่อจริงๆหรอว่าทำดีแล้วมันจะได้ดี เอาจริงๆก็ไม่มีทางหรอก ชีวิตมันไม่ได้เหมือนในหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตีกันโครมๆแล้วสุดท้ายจะกลายเป็นพระเอก ไม่มีรอยขีดข่วนสักนิดขนาดว่าโดนเหวี่ยงไปกระแทกผนัง ตัดภาพมาที่ชีวิตจริงสิ หมัดหนักๆที่ปะทะเข้าข้างแก้มเจ็บจนชาหนึบไปหมด กลิ่นเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในปากนี่อีก ยังไม่นับรอยช้ำม่วงใต้ร่มผ้า คิมยูคยอมไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าโลกนี้มีความยุติธรรม

     

    ดวงตาสีเข้มพยายามจ้องมองหน้าของเพื่อนร่วมคณะที่จ้องมองตัวเขาเองเช่นกันแต่พวกนั้นคงมองเขาด้วยความสมเพช แขนสองข้างถูกขึงด้วยเพื่อนร่วมคณะที่ไม่ได้สนิทเลยสักนิดก่อนใครสักคนจะตบข้างแก้มขาวเบาๆ

     

    “วันนี้มึงไม่ยอมทำรายงานส่งอาจารย์ให้กู” น้ำเสียงติดจะฉุนนิดๆจนยูคยอมไม่อยากคิดว่าต่อจากนี้คนตรงหน้าจะทำอะไรเขา

     

    มือสากบีบแก้มที่ชาหนึบจนเจ็บไปหมด ดวงตาสีเข้มที่ยูคยอมเกลียดสะท้อนเงาตัวเขาเองในตอนนี้ ตัวเขาที่อ่อนแอ ไม่สู้คน

     

    “เพราะฉะนั้นวันนี้กูจะให้มึงได้รับบทเรียนที่สาสม”

    ยูคยอมพยายามเปล่งเสียงแหบแห้งแม้มันแทบจะไม่มีเสียงออกมาเลยก็ตาม

              “ยะ อย่า”

    “แล้วต่อไปติ๋มๆอย่างมึงจะได้รู้ว่าเล่นอยู่กับใคร”

     

    ร่างผอมแต่สูงโปร่งถูกลากเข้าไปในรถที่ถูกแต่งไว้อย่างสวย เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มพอๆกับเสียงเชียร์ของผู้ชมรอบๆ ยูคยอมหูอื้อไปหมด เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายน่ารำคาญ ตาคมปิดลงไม่อยากมองภาพข้างหน้า

     

    ปรี๊ด!

     

    เสียงนกหวีดดังขึ้น

     

    รถทะยานออกไปไวจนนั่งแทบไม่ติดเบาะ เลี้ยวหักโค้งจนล้อเสียดสีกับถนนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด มือใหญ่จับเข็ดขัดนิรภัยแน่น เสียงหัวเราะของคนขับกำลังเยาะเย้ยความขลาดของเขา คืนที่เงียบสงบในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย รถวิ่งฝ่าไฟแดงไปหลายจุดอย่างไม่กลัวกฎหมาย

     

    “ปล่อยผมลงเถอะครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร”

     

    คำขอถูกตอบด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม ยูคยอมยังไม่อยากตายตอนนี้แม้โลกนี้มันจะห่วยบรม ไม่ว่ายังไงก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่อยากทำ เขาเพิ่งอยู่ปีสองยังไม่ทันจะได้ทำงานที่ชอบ แม้กระทั่งได้เดตหรือคบกับผู้หญิงสักคน

     

    ดวงตาสีเข้มพยายามเปิดเพื่อมองภาพตรงหน้า ไฟเขียวที่ไม่ถึงสามวิก็จะกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง หัวใจเต้นตุบๆเหมือนมันจะหลุดออกมา

     

    “เฮ้ย! ระวัง”

     

     

    โครม!

     

     

    ร่างกายชาดิกแถมยังขยับไม่ได้ ยูคยอมเกือบสติแตกถ้าไม่เห็นร่างของคนขับรถที่นอนจมกองเลือดอยู่ไม่ไกล กระจกหน้ารถทะลุจากแรงกระแทก คิดดูสิว่าคนไม่คาดเข็มขัดอย่างหมอนั่นจะไปเหลืออะไร

     

    ในใจได้แต่ภาวนาให้รถพยาบาลมาถึงเร็วๆ เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดเริ่มทวีขึ้นเรื่อยๆจนทนแทบไม่ไหว ทั้งแผลเก่า แผลใหม่ นัยน์ตาสีเข้มปิดลงเสียงลมหายใจค่อยๆผ่อนลงช้าๆ ทุกอย่างอาจจะเป็นความฝัน เปลือกตาปิดสนิทพร้อมกับสติที่ดับวูบไป

     

     

    “มีคนเจ็บอยู่ในนี้อีกคน”

     

     

     

     

     

    tbc.

     

     


    สวัสดีค่ะนักเขียนคนเดิมเพิ่มเติมคืออะไรไม่รู้

     ใครสังเกตมั่งคะว่าน้องแบมในฟิคเรื่องนี้ออกแนวเผ็ชๆหน่อย 555

    ส่วนเจ้าคยอมก็จะติ๋มๆหน่อย นั่นแหละค่ะพล็อตหลัก ยังไงก็ขอฝากแม่ๆยูคแบมทุกคนไว้ด้วยนะคะ

    ถ้าชอบก็เฟบแล้วก็คอมเม้นท์ให้ด้วย หรือจะสกรีมได้ที่แท็กในทวิต #สลับยูคแบม

    เป็นกำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

     

    เลาเอง <3

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×