คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : happen ending 03
HAPPEN ENDING CH.3
เสียงจากทีวีดังไปทั่วห้องนั่งเล่นรายการโปรดคือหนังเก่าที่ชอบเอามาฉายยามดึก ถ้าเป็นปกติฮันบินจะชอบดูมันมากและแน่นอนจีวอนเองก็เป็นคนที่นั่งดูเป็นเพื่อนฮันบินตลอดเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่วันนี้เพราะหลังจากฮันบินเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายมาหมาดๆเขาก็นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ไม่แม้แต่จะปริปากพูดอะไรสักคำ
ฮันบินดูรู้ดีว่าเขาอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถจะเรียกร้องอะไรจากจีวอนได้ มันอาจจะมากกว่าเพื่อนแต่นั่นแหละเพราะมันมากกว่าเพื่อนแต่ไม่เคยเป็นได้มากกว่านั้นเลยต้องเจ็บปวดอยู่แบบนี้ ไม่เคยอยากร้องไห้ ไม่เคยแม้แต่จะคิดเรียกร้องความสนใจ ทุกอย่างที่แสดงออกมันคือความรู้สึกจริงๆ เขาเจ็บปวดเกินกว่าจะกักขังมันไว้ได้เหมือนเมื่อก่อน ในเมื่อจีวอนทั้งผลักและดึงเขาไปพร้อมกันมันเลยทำให้ฮันบินเป็นแบบนี้ รู้สึกว่าบางครั้งตัวเองก็สำคัญกับจีวอนที่สุด แต่บางทีก็เหมือนเป็นคนที่จีวอนไม่เคยแม้แต่จะสนใจความรู้สึกเลยด้วยซ้ำ
“ฮันบินหิวไหมเดี๋ยวฉันลงไปซื้ออะไรให้กิน” จีวอนเลื่อนมือไปกุมมือเรียวที่วางอยู่ข้างๆบีบมันเบาๆเพื่อให้ฮันบินหันมาสนใจ แต่ฮันบินเพียงแค่ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นจากโซฟา
“จะไปไหน” มือใหญ่ดึงรั้งแขนของฮันบินไว้ จีวอนมองหน้าฮันบินสีหน้าที่เขาไม่ชอบที่สุดก็ตอนที่หน้านั่นมองมาที่เขาแล้วทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน จีวอนรู้ดีกว่าเขาเห็นแก่ตัวกับฮันบินมากแค่ไหนแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เขาจะทำแบบนี้ ในเมื่อฮันบินเคยสัญญาและมันก็ไม่ได้แย่และตราบใดที่ยังไม่มีใครรู้ จีวอนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีซะอีก
“นอน” ฮันบินตอบสั้นๆก่อนจะใช้อีกมือหนึ่งจับมือของจีวอนออกแล้วเดินลากสลิปเปอร์เข้าห้องนอนไปโดยไม่หันกลับมามองคนที่มองตามหลังเลยสักนิด
อาการปวดหัวรุมเร้าฮันบินตั้งแต่ตอนกลางคืนเมื่อวานจนถึงเที่ยงของอีกวัน ตาเรียวมองที่ว่างข้างๆเตียงที่ไม่มีเจ้าของนอนอยู่แล้ว จีวอนโดนจินฮวานโทรตามให้ไปรับตั้งแต่เช้าที่เขารู้เพราะจีวอนปลุกเขาขึ้นมาให้กินข้าวและกินยา ฮันบินยังโกรธและน้อยใจแต่ก็ยอมโดยดีเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำร้ายร่างกายตัวเองโดยการไม่กินอะไรเพราะแค่หัวใจก็น่าจะพอแล้วกับความเจ็บพวกนี้
ฮันบินอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก จริงๆอยากจะนอนขลุกอยู่ที่ห้องมากกว่าแต่ฮงซอกดันโทรมาชวนไปหาอะไรกินและปรึกษาเรื่องงานที่ต้องทำคู่กัน แน่นอนว่าสำหรับฮันบินการเรียนมันสำคัญมากกว่าอาการป่วยตอนนี้ถึงจีวอนจะย้ำหนักย้ำหนาก่อนไปว่าห้ามให้เขาออกไปไหนจนกว่าจะหายดีหรือถ้าจะออกก็ให้โทรไปบอกด้วย แต่จะมีเหตุผลอะไรที่ฮันบินต้องโทรไปในเมื่อต่อให้เขาจะเป็นยังไงจีวอนก็ไม่สนใจอยู่ดี คิดแบบนั้นตอนนี้ก็เลยอยู่บนแท็กซี่ ฮันบินนั่งฟังเพลงจากไอพอตแสนรักเงียบๆลิสต์เพลงสนุกๆถูกข้ามแทนที่ด้วยเพลงเศร้าๆมันยิ่งทำให้หัวใจของฮันบินดิ่งลงไปอีก
“ฮันบินทางนี้” ฮงซอกโบกมือไปมา
“ทำไมนัดมาร้านนี้” ฮันบินมองไปรอบๆร้านที่โล่งจนเกือบไม่มีคนเลย ปกติฮันบินกับฮงซอกจะมีร้านประจำใกล้มหาลัยแน่นอนว่าคนเยอะมาก แต่ทุกอย่างในร้านรสชาติถูกปากฮันบินนั่นเป็นเหตุผลที่ยอมยกให้ที่นั่นเป็นร้านประจำ
“ก็คนมันเยอะไง นายไม่เบื่อหรอเวลาจะทำงานแล้วคนพูดกันเสียงดังไปหมด” ฮงซอกถามพลางแล้วดูดชาเชียวปั่นในแก้ว
ทั้งคู่เลิกคุยเรื่องสัพเพเหระแล้วมาตั้งใจปรึกษาแล้วหาข้อมูลเกี่ยวกับการงานที่ต้องส่งอาจารย์อาทิตย์หน้า ฮันบินปิดเสียงโทรศัพท์ทุกครั้งที่ทำงานนั่นทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลยสักนิด แม้ลึกๆจะหวังให้ใครบางคนโทรเข้ามาเพื่อถามว่าเขาเป็นยังไงแต่คงไม่มีวัน ฮันบินฟุบหน้าลงกับโต๊ะ อาการปวดหัวกลับมาเล่นงานเขาจนแทบจะทรงตัวอยู่ไม่ไหว
“วันนี้พอแค่นี้ก็ได้ ท่าทางนายไม่ไหวแล้วนะ” ฮงซอกเอื้อมมือไปแตะหน้าผากฮันบินเบาๆ “ให้ฉันโทรตามจีวอนให้เอาไหม”
ฮันบินส่ายหน้า
“อย่าโทรนะ! เดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่เองได้” คนพูดรีบเอื้อมมือไปตะครุบโทรศัพท์ฮงซอกออกจากมือ
“ทะเลาะกับจีวอนมารึไง” ฮงซอกเลิกคิ้วขึ้น
“เปล่า จีวอนไปหาพี่จินฮวาน ฉันไม่อยากให้โทรไปขัดจังหวะมัน” ฮันบินบอกแล้วถอนหายใจออกมาเหนื่อยๆ
“ถ้าเหนื่อย นายก็ต้องถอยออกมานะฮันบิน”
ฮันบินรู้ดีว่าที่ฮงซอกพูดถึงหมายความว่ายังไง นอกจากจะมีจีวรเป็นเพื่อนสนิทที่สุดรองลงมาก็เป็นฮงซอกแน่นอนว่าเขาอาจจะมีความลับที่บอกไม่ได้แต่ไม่ได้หมายความความรู้สึกที่ฮันบินมีให้จีจีวอนคนอื่นจะมองไม่เห็นมัน
ฮันบินให้แท็กซี่จอดที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆคอนโด เขารู้สึกปวดหัวและหิวนิดหน่อยถึงจะกินไม่ค่อยลงเพราะเจ็บคอแต่ท้องมันเอาแต่ร้องไม่หยุด อาหารเวฟคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฮันบินในตอนนี้ เจ้าตัวยืนคิดอยู่นานเพราะตอนนี้มันไม่อยากกินอะไรสักอย่างเลยเลือกยากกว่าตอนอยากจะกินมันซะอีก
“มานี่!” เสียงแหบๆกระซิบข้างหูฮันบินเบาๆ มือยาวเอื้อมไปหยิบข้าวในมือวางลงที่เดิมแล้วลากฮันบินออกไปจากร้านสะดวกซื้อท่ามกลางสายตาของพนักงานและหลายคนที่ยืนอยู่
“ปล่อยก่อนจีวอนฉันเจ็บ” ฮันบินพยายามดึงมือที่บีบต้นแขนเขาไว้แน่นออกแต่จีวอนกลับยิ่งบีบมันแรงขึ้นแล้วเปิดประตูรถให้ฮันบินเข้าไปนั่ง
ทั้งรถเงียบสนิทไม่มีแม้แต่เสียงเพลงจากวิทยุเหมือนเคย จีวอนไม่ได้เลี้ยวเข้าไปในคอนโดแต่ปลายทางกลับตรงออกไปไกลกว่านั้น ฮันบินไม่กล้าเอ่ยถามว่าที่จีวอนกำลังจะไปคือที่ไหนไม่กล้าถามว่าทำแบบนี้ทำไมด้วยซ้ำ ฮันบินเบื่อแล้วที่ต้องมาทะเลาะกับจีวอนซ้ำๆเหมือนทุกครั้ง
รถเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ฮันบินจำได้ว่านี่คือบ้านของจีวอนถึงจะไม่ได้มาเกือบปีเพราะจีวอนไม่ค่อยจะพาเขามาบ้าน มาครั้งล่าสุดก็คงวันคริสต์มาสที่จีวอนพามาเจอพ่อกับแม่แค่นั้น
“ลงมา” น้ำเสียงติดจะหงุดหงิดสั่งฮันบินก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านไม่รอคนที่เดินตามหลังมาเลยสักนิด
ฮันบินยืนนิ่งอยู่กลางบ้านหลังจากจีวอนออกคำสั่งให้รออยู่ตรงนี้ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมสีหน้าบึ้งตึงแล้วดึงแขนฮันบินให้เดินขึ้นบันไดไปด้วยกัน
“นอนซะ” จีวอนออกคำสั่งกับคนที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่โซฟาในห้องนอน
“จีวอนฉันจะกะ...อื้อออ”
จีวอนกระชากร่างที่เล็กกว่าตัวเองเข้ามาจูบ ริมฝีปากบดเบียดมันแรงๆเหมือนต้องการลงโทษ ฮันบินเข่าอ่อนจนเกือบจะล้มพับไปแต่จีวอนประคองไว้ทัน เขาถอนริมฝีปากออกก่อนจะมองคนที่หอบหายใจอยู่ในอ้อมแขน
“อย่าดื้อกับฉัน อย่ายั่วโมโหไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าไม่เตือน” จีวอนพูดขู่
ฮันบินจำใจสอดตัวเองลงไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่กลิ่นของมันหอมเหมือนเพิ่งถูกเอามาใช้งานหมาดๆถ้าให้เดาจีวอนคงโทรบอกที่บ้าน เปลือกตาสีน้ำนมปิดสนิทหลบหลีกสายตาของจีวอนที่ยังจ้องไม่ยอมออกไปไหน ฮันบินฟังเสียงประตูที่ถูกเปิดและปิดก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง‘จีวอนไม่อยู่แล้ว’
ทุกอย่างดูย่ำแย่กว่าที่ควรจะเป็นภายในเวลาไม่กี่เดือน ฮันบินอยากย้อนกลับไปตอนนั้นอย่างน้อยถ้าเขารู้ว่ามันจะแย่แบบนึ้คงไม่สัญญาอะไรออกไปแบบนั้น ถ้าจะหาคนผิดในเรื่องนี้อาจจะเป็นเขาเองที่ผิดที่สุด มันยากที่จะพูดออกไปว่าจีวอนผิด จีวอนเห็นแก่ตัว ก็มันเพราะเขาไม่ใช่หรอจีวอนน่ะทำตามที่เคยสัญญากันไว้ มันผิดแค่นิดเดียว
‘จีวอนไม่ยอมปล่อยให้ฮันบินออกจากกรงที่โดดเดี่ยวนี้เลย’
น้ำตาที่เหือดแห้งไปพาลจะไหลออกมาอีกรอบ ฮันบินพลิกตัวไปทางระเบียงห้องซุกหน้าลงกับหมอนข้างที่อยู่ข้างตัว แขนผอมกอดมันแน่นเหมือนต้องการระบายความเจ็บปวดในใจ
แล้วเมื่อไหร่กันที่ฮันบินจะเลิกเจ็บปวดเพราะจีวอนได้สักที
50%
จีวอนหงุดหงิดตั้งแต่กลับไปถึงห้องแล้วพบว่าฮันบินไม่ได้อยู่ที่นั่นแถมยังไม่โทรบอกเขา พอโทรไปก็ปิดเครื่องทำให้ต้องโทรไปหาฮงซอกยังไม่ทันจะคุยเสร็จดันเห็นหลังอีกคนไวๆเดินเข้าร้านสะดวกซื้อใกล้ๆคอนโดพอดี
จากตอนแรกที่คิดว่าจะพาคนป่วยกลับไปนอนแต่พอเห็นสีหน้าเหมือนไม่สนใจอะไรนั่นมันก็อดที่จะโมโหไม่ได้ แน่นอนว่าเป้าหมายถูกเปลี่ยนจากคอนโดเป็นบ้านของเขา จีวอนรู้ดีว่าช่วงนี้ฮันบินยังอยู่ในช่วงเสียใจและเปราะบางเกินกว่าจะทำร้ายด้วยคำพูดแรงๆหรือการกระทำร้ายๆ แต่จะให้ทำไงในเมื่อฮันบินไม่เชื่อที่เขาบอกเลยสักครั้ง
ฮันบินบทจะดื้อก็ดื้อยิ่งกว่าเด็กเล็กๆซะอีก
จีวอนสั่งให้แม่บ้านเตรียมอาหารสำหรับคนป่วยหลังจากคุยโทรศัพท์กับจินฮวานเสร็จ มันแปลกที่จินฮวานทำให้จีวอนรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยกันอาจจะเป็นเพราะว่าอีกคนตัวเล็กดูน่าปกป้อง จินฮวานน่ารักทั้งหน้าตาและนิสัยมันทำให้จีวอนรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้มองหน้าหรือพูดคุย ถ้าเอามาเทียบกับฮันบินก็ต้องบอกว่าคนละแบบกันอย่างเห็นได้ชัด ฮันบินเป็นพวกที่ไม่ค่อยยอมใครสักเท่าไหร่แถมบางครั้งนิสัยก็ตึงๆเหวี่ยงๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าเวลาอยู่กับฮันบินเขารู้สึกว่าเป็นตัวเองได้เต็มร้อย
คนป่วยหลับตาพริ้มแต่หัวคิ้วยังขมวดกันเป็นปม จีวอนเอื้อมมือไปคลึงเบาๆก่อนจะก้มลงจูบที่เปลือกตาขาวแผ่วเบา จะว่าปลอบประโลมก็คงจะใช่แต่คนที่นอนหลับจะรับรู้ไหมจีวอนว่าแบบนี้ก็ดีแล้วเพราะบางครั้งก็ไม่อยากจะดีกับฮันบินให้มากกว่านี้ ถ้าเกิดวันหนึ่งที่เขารักจินฮวานมากๆและสามารถปล่อยมือฮันบินได้ จีวอนก็หวังแค่ฮันบินจะเจ็บปวดเพราะเขาน้อยที่สุด แม้จะรู้ทุกอย่างแต่บางทีจีวอนก็อยากจะเบนสายตาหนีใบหน้าเศร้าๆนั่นเหมือนกัน เขาเองก็ไม่อยากทำร้ายฮันบินไม่ได้อยากจะรั้งฮันบินไว้แต่ตอนนี้แค่ยังไม่พร้อมจริงๆที่จะให้ฮันบินเดินไปกับใครที่ไม่ใช่ตัวเอง จะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ได้แต่จีวอนไม่ยอมเสียฮันบินไปแน่ๆ
คนป่วยพลิกตัวเพราะเหมือนจะนอนในท่าที่ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่นัก จีวอนใช้หลังมือแตะที่หน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ก่อนจะเบาใจลงหน่อยเพราะฮันบินเหมือนจะดีขึ้นแล้ว จะมีก็แค่ตาบวมช้ำนี่แหละที่ยังทิ้งหลักฐานให้จีวอนได้รู้สึกผิดทุกทีที่เห็นฮันบินร้องไห้
“อื้อ...แม่ครับ” ฮันบินละเมอออกมา
ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเนียนขาวแล้วนั่งลงข้างๆ ฮันบินเหมือนเด็กตัวน้อยในยามหลับ ปากจิ้มลิ้มอมชมพู จมูกโด่งรั้น ผิวขาวๆ มันดูดีไปหมด
“จีวอน...”
เปลือกตาขาวกระพริบถี่ ตากลมจ้องมองจีวอนแล้วเขยิบหัวเข้าไปหนุนตักอุ่นๆ จีวอนเองก็ตอบสนองการกระทำนั้นโดยการลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆ
“ปวดหัวไหม ตอนนี้เป็นไงบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยถามอาการคนป่วยที่ทำท่าเหมือนลูกหมากำลังอ้อนเจ้านายของตัวเอง
ฮันบินส่ายหัว
“ดีขึ้นแล้วล่ะ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยตอบจีวอนออกไป
“งั้นก็ดี อย่าดื้ออีกนะฮันบิน” จีวอนพูดทีเล่นทีจริงแต่สีหน้าและแววตามันดูเหมือนเป็นคำสั่งเสียมากกว่า
เสียงโทรศัพท์ทำให้จีวอนต้องละสายตาออกจากใบหน้าหวานที่กำลังจ้องเขาเขม็ง ชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้ฮันบินต้องหันไปสนใจก่อนจะกลับมาจ้องหน้าจีวอนอีกครั้ง
“อย่ารับสายได้ไหมจีวอน”
ประโยคที่ออกจากปากฮันบินทำให้ทั้งห้องเงียบสนิทจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน จีวอนนิ่งเงียบสลับกับก้มมองดวงตาที่กำลังมองมาเหมือนร้องขอ ตาคมแค่เบนหนีมันออกไปดื้อๆก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ฮันบินเกือบจะร้องไห้
“ขอโทษนะฮันบินแต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ”
รอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้าหวาน ฮันบินพยักหน้าซ้ำๆก่อนจะดันตัวลุกขึ้นมานั่ง ไม่รู้ทำไมทั้งที่ใบหน้านั่นก็มีรอยยิ้มแบบที่จีวอนต้องการ แต่รอยยิ้มที่มองเห็นและสัมผัสได้ตอนนี้มันฝืนและเศร้าเหลือเกิน
“เข้าใจแล้วล่ะ”
.
.
.
ยังไงก็ต้องเป็นเขาสินะ”
แผ่นหลังนั่นลับตาฮันบินไปแล้ว มันเหมือนกับว่าจีวอนกระชากหัวใจของตัวเองไปจากฮันบินอีกครั้งซึ่งก็ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ ฮันบินคิดอยู่เสมอว่าจริงๆเขายอมจีวอนไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายที่ตรงนี้ก็ไม่มีเขาอยู่แล้ว เขาไม่ใช่ตัวแทนของจินฮวานแต่ก็ไม่เคยเป็นสักอย่างในสายตาของจีวอน บางครั้งฮันบินก็ไม่เข้าใจว่าจะเอาหัวใจไปให้คนที่เขาไม่รักทำไมในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่เคยรักและคิดอยากจะได้มันเลย
ฮันบินเงยหน้าพยายามกลั้นน้ำตาที่คลออยู่ที่หน่วยตา ปากเล็กยกยิ้มเหยียดตัวเองในความเขลาที่ไม่จบไม่สิ้นของตัวเอง ถ้าจีวอนเป็นมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ฮันบินก็คงเป็นคนโง่ที่กระโดดลงไปในมหาสมุทรนั้นด้วยความเต็มใจ
##
ฮันบินกลับมาเรียนอีกครั้งหลังจากพักผ่อนจนหายดี หลังจากวันนั้นฮันบินก็พยายามทำตัวปกติเหมือนอย่างที่เขากับจีวอนเคยเป็นกันมา แม้จะเศร้าแค่ไหนแต่ฮันบินมองไม่เห็นประโยชน์ที่เขาต้องร้องไห้ให้จีวอนทุกครั้งที่พูดถึงจินฮวาน มันไร้ประโยชน์ที่ฮันบินจะพยายามเอาชนะในสิ่งที่ไม่มีวันชนะ
ฮงซอกถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นอาการของฮันบิน ร่างโปร่งไม่อยากจะเข้าไปสนใจมากนักเพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนแต่บางทีฮงซอกก็นึกเคืองจีวอนอยู่เหมือนกันที่ชอบใจร้ายใส่ฮันบิน จำได้ว่าสองคนนี้เคยทะเลาะกันหนักๆเมื่อหลายเดือนก่อนเพราะจีวอนหิ้วผู้หญิงมานอนที่ห้องร้อนถึงรูมเมทอย่างฮันบินที่ทำงานกลุ่มอยู่ห้องเขา พอเจ้าตัวได้ข่าวก็บึ่งกลับไปชนิดที่ว่าฮงซอกคิดว่าเอาไว้ว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามซะแล้ว ฮันบินกลับมาอีกทีในตอนเช้าพร้อมใบหน้าเรียบเฉยไม่กี่นาทีต่อมาก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเขื่อนจะแตก
ฮันบินไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น... ฮงซอกน่ะรู้ดี
แต่สิ่งที่เขาไม่ค่อยเข้าใจก็คือใจของฮันบินมากกว่า รู้ทั้งรู้ว่าต้องเสียใจทำไมถึงปล่อยให้จีวอนทำร้ายซ้ำๆอยู่ได้ ยิ่งเห็นฮันบินแอบร้องไห้เพราะจีวอนบ่อยเท่าไหร่ก็พูดได้เต็มปากเลยว่าเริ่มเกลียดขี้หน้าจีวอนมากขึ้นเท่านั้น
“ทำหน้าเหมือนคนจะตายเลยวะ” ฮงซอกเอ่ยทักพลางเท้าคางมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าหน่ายๆ
“เปล่าซะหน่อย” ฮันบินตอบทันควันแล้วเบนสายตาหนีเรดาร์จับผิดของฮงซอก
“เฮ้อ ฉันเป็นเพื่อนนายมากี่ปีฮันบินนานพอๆกับที่นายเป็นเพื่อนจีวอน ทำไมเรื่องแค่นี้จะดูไม่ออกจริงๆมันดูง่ายมากเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่เข้าใจเว้ยทั้งๆที่จีวอนหวงนายยังกับอะไรดีแต่ดูสิ่งที่มันทำใส่นายแต่ละครั้งดิ่” ฮงซอกบ่นยาวเหยียด นึกแล้วเข้าอยากจะต่อยหน้าจีวอนหลายๆทีให้สาแก่ใจ
ฮันบินหัวเราะกับท่าทางโมโหของฮงซอกที่ดูจะจริงจังกว่าเขาซะอีก หลายครั้งที่ฮงซอกต้องการจะไกล่เกลี่ยให้เขาแทนแต่ฮันบินก็ปฏิเสธเพราะรู้ดีว่าจีวอนคงจะโมโหเอาซะเปล่าๆ ฮงซอกเป็นเพื่อนฮันบินแต่ก็ใช่ว่าจะสนิทกับจีวอนซะที่ไหนเขาไม่อยากให้ทั้งคู่ผิดใจกัน เหตุผลที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้มันอาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้คือเรื่องของเขากับจีวอนถ้ามันจะจบก็ไม่เขาหรือจีวอนนี่แหละที่จะเป็นคนจบมัน
“นายว่าถ้าเรารักใครๆมากก็ควรจะปล่อยเขาไปใช่ไหมคุกกี้” ฮันบินถามพลางมองหน้าคนที่กำลังทำหน้าหน่ายๆใส่ฮันบิน
ฮงซอกส่ายหน้า
“ที่เราควรปล่อยใครไปไม่ใช่เพราะเรารักเขามาก แต่เพราะเขาไม่รักเราต่างหากล่ะ”
เหมือนฮงซอกจะทำให้ฮันบินนิ่งไปอีกครั้งด้วยคำพูดที่ตรงใจ ฮันบินทบทวนตัวเองเสมอในเวลาที่อยู่กับจีวอน บางครั้งก็เหมือนเขาหลอกตัวเองว่าเขายอมปล่อยจีวอนไปได้เพราะรักจีวอนมากแต่เหตุผลจริงๆเพราะเขาแพ้ต่างหาก แพ้ที่จีวอนไม่ได้รักเลยหาเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุด
“อ่าวฮันบิน”
คนถูกเรียกหันหลังไปตามเสียงก่อนจะเจอจินฮวานยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล ในมือมีแก้วเครื่องดื่มหวานเย็นของโปรดจีวอนฮันบินจำได้พร้อมถุงขนม
“หวัดดีครับพี่จินฮวาน” ฮันบินเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“วันนี้กลับเร็วรึเปล่า” คนตัวเล็กถามพลางเลิกคิ้วน้อยๆเพื่อรอคำตอบ
ฮันบินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัว
“วันนี้จะไปทำงานที่บ้านห้องฮงซอกคงกลับดึกๆไม่ก็ไม่กลับยังไม่รู้เลย พี่จินฮวานมีอะไรรึเปล่าครับ”
“อ่า..วันนี้พี่จะไปที่คอนโดของจีวอนนึกว่าฮันบินจะกลับเร็วจะได้ทำมื้อเย็นเผื่อด้วย เนี่ยจีวอนก็รออยู่ข้างนอก” จินฮวานบอกแล้วเพยิดหน้าออกไปข้างนอกร้าน
ฮันบินพยักหน้านิดๆ
“งั้นฝากบอกมันด้วยว่าผมอาจจะไม่กลับเพราะมีงานนะครับ”
“ได้สิ งั้นพี่ไปก่อนนะน้ำจะละลายหมดแล้ว ไว้คราวหลังพี่จะทำให้ทานนะ” จินฮวานบอกแค่นั้นแล้วยิ้มให้ฮันบินกับฮงซอกก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไปจากร้านจนลับส่ายตาของทั้งคู่
ฮันบินหันกลับมาที่เดิมแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆจนฮงซอกต้องยื่นมือมาแตะไหล่ ฮันบินยิ้มแล้วส่ายหน้าเชิงว่าตัวเองไม่เป็นอะไร
“นายทำถูกแล้วฮันบิน เลี่ยงที่จะไม่เห็นซะบ้างจะได้ไม่อกแตกตายเพราะไอ้บ้านั่นซะก่อน”
อย่างที่ฮงซอกพูดก็ถูก เขาควรจะอยู่ห่างจากจีวอนบ้างให้ตัวเองได้คิดทบทวนและไม่ต้องเห็นในสิ่งที่ทำร้ายหัวใจซ้ำๆ
##
ฟิคยังกับคลับฟรายเดย์อ่ะ ไม่ถนัดเลยยTVT
ใครยังตามอยู่ขอบคุณมากนะคะ <3
ความคิดเห็น