ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทสี่ // ทางเเยกของชีวิต
"ท่านวริณ น้ำชาค่ะ"
เสียงสาวใช้ดังขึ้นข้างเก้าอี้ที่มีร่างของนายน้อยประจำตระกูลกรนทิวาคุณ พร้อมกับน้ำชาในเเก้วเเบรนด์ดังจากฝรั่งเศสที่วางลงข้างเด็กชาย
"ขอบคุณฮะ พี่สาว" เด็กชายเงยหน้ามองสาวใช้เเล้วหันไปสนใจจอเเอลซีดีที่ต่อกับกล้องวงจรปิดที่ฉายภาพมุมต่างๆของคฤหาสน์ต่อ ด้วยรอยยิ้ม เห็นก็บอกให้รู้ได้เลยว่าเขากำลังมีความสุขมากๆ สาวใช้ถึงกับยิ้มต่างอย่างดีใจที่นายน้อยมีความสุข
"คุณอาเรีย ไม่น่าเดินหลงทางไปที่ห้องเก็บบาปเลยนะค่ะ เเถมมือยังพลาดไปโดนปมกิโยตินร้างนั่นอีก น่าสมเพชจริงๆ"
สาวใช้รำพึงเเล้วค่อยๆวางขนมเค้กวานิลาไวท์ช็อกโกเเลตของโปรดวริณลงข้างน้ำชา
"นั่นสิฮะ เเต่เหมือนเกมมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างงดงามเเล้วสิ" เด็กชายยิ้มหวานเเล้วชี้ไปที่ทีวีก่อนจะหัวเราะคิกคัก
"นั่นสินะค่ะ เริ่มเเผนที่สองกันเลยดีกว่าไหมค่ะ?"
สาวใช้พูดพึมพำ
.........
เสียงฝีเท้าดังขึ้นประชิดใกล้กลุ่มของอารัษมากเรื่อยๆ.... ไคโตะที่กำลังถือไฟฉายตามหลังหันไปมองด้วยสีหน้าคิ้วขมวดเล็กน้อยเพราะเสียงฝีเท้า ก่อนจะพูดขึ้นให้ทุกคนที่เดินอยู่ในความมืด พวกเขาเเทบไม่รู้ว่าอยู่ส่วนในคฤหาสนืเดาว่าอยู่ระหว่างทางที่จะไปสิ้นสุดที่ห้องใดห้องหนึ่งซึ่งห้องนั้นต้องเป็นที่สำคัญมากๆ เพราะทางเดินดูเลิศหรูมากเกินกว่าจะประมาณค่าได้
"ผมได้ยินเสียงฝีเท้า..." ไคโตะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเครียดๆ
"อะไรนะ?" ทาเวียสะดุ้งน้อยๆเเล้วหันไปหาไคโตะที่เดินรั้งท้าย
"เสียงฝีเท้าเหรอ..." ซินเซียเงียบ มีเสียงจริงๆอย่างที่ไคโตะบอก
ทั้งกลุ่มหยุดเดินเพื่อหาที่มาของเสียงที่วิ่งมาหาพวกเขา รินที่ถือตะเกียงไฟรีบยกไฟส่องไปตามทางที่มืดสนิทก่อนจะพบสิ่งมีชีวิตสองอย่างกำลังวิ่งมา พวกเขาเห็นเป็นเงาๆดำกำลังวิ่งมาเรื่อยๆ อารัษถึงกับยกปืนที่เเอบไปที่กระเป๋าหลังมาจ่อเผื่อเป็นคนร้ายก่อนจะเอาตัวบังริน
"คาโอรุ...นาซิก..."
ไคโตะพูดเบาๆเเบบอึ้งๆ เมื่อเห็นคนที่วิ่งมานั้นได้ชัดขึ้น รินทำตาโตเเบบดีใจเเล้ววิ่งไปเกาะขานาซิกเเทบจะทันที หลายคนถอนหายใจเเบบโล่งอกนึกว่าเขาทั้งสองจะตายไปเพราะฝีมือของวริณซะเเล้ว
"อ่ะ...พะ พี่นาซิก...."
เสียงดังขึ้นเบาๆจากรินจนทุกคนหันไปมองรินที่กำลังเกาะขานาซิก อารัษเป้นคนที่ตกใจที่สุดเพราะไม่คิดว่าคนอย่างรินจะไปเกาะใครง่ายๆ
"เลือดนี่...."
รินทำตาโตเเล้วเงยหน้ามองนาซิกอย่างหวาดกลัว กลัวว่าสิ่งที่เธอคิดจะเป็นจริง คาโอรุถึงกับเบือนหน้าหนี มือปิดปากด้วยสีหน้าซีดเผือก ทุกคนตกใจไปตามๆกัน
"ไม่ใช่เลือดพี่หรอก ริน" นาซิกกัดฟันพูดเบาๆพยายามข่มความกลัว
"คาโอรุ อาเรียไปไหน..."
เอวาพูดขัด เเล้วรีบปิดจมูกไม่ให้กลิ่นคาวเลือดที่รองเท้านาซิกทำเธอคลั่ง ก็ว่ามันเเปลกๆอยู่สองคนนี้ไม่มีเเผลเเต่มีกลิ่นเลือดเด็กสาวพรหมจรรย์ฉุนจมูก
"....อาเรีย เธอ ตาย เเล้ว...."
...........
ความเงียบปกคลุมทันที นาซิกที่เป็นคนเห็นศพถึงกับพยายามตบหน้าตัวเองให้ลืมๆมันไปซะ ไคโตะที่เงียบมานานพูดขึ้นเสียงเบา
"เกมนี้ทุกคนต้องรอด เพราะงั้นเราไปกันเถอะ...”
ไคโตะเอ่ยแล้วยกไฟฉายส่องไปตามทางเดินที่เลิศหรู ทุกคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินต่ออย่างไม่ละความพยายาม
ความพยายามที่จะมีชีวิตรอด.....
........
เหล่าตุ๊กตาทั้งหมดที่เหลือรอดเดินตามทางเดินที่มีแต่ความมืด ไม่มีเสียงพูดคุยใดนอกจากเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินไปเรื่อยๆตามทางที่เหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด พวกเขาทั้งเก้าเดินมานานจนเทียนและถ่านไฟฉายหมดลงมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทราเต็มดวงที่ลอดผ่านโถงบันไดมา ข้างทางเดินที่พวกเขาเดินอยู่เป็นสวนดอกกุหลาบและดอกไม้นานาพันธุ์ แต่หากว่าความสวยในสวนกลับไม่ทำให้จิตใจของหลายๆคนเบ่งบาน
หน้าตาของและคนตอนนี้มีทั้งกลัว โกรธ เฉยๆ หรืออีกมากมายไม่มีคนใดดูสนุกสนานเลยซักนิด เรี่ยวแรงที่มีอยู่ก็เริ่มหดหายไปกับการเดิน จนกระทั้งมาหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่ง
“ห้องสาปแช่งชีวิต?”
เอวาพูดฃื่อห้องอย่างงๆ ตาสีแดงสดลุกวาวน้อยๆเพื่อใช้ในการอ่านชื่อห้องเพราะสายตาคนทั่วไปคงมองไม่เห็นต้องพึ่งปีศาจอย่างเธอ เธอหันไปมองทุกคนประมาณว่า “จะเปิดแล้วนะ” ซึ่งทุกคนก็พยักหน้ารับ เอวาเอามือไปจับลูกบิดประตูก่อนจะบิดเปิดประตูออก กลิ่นคาวเลือดมากมายพวยพุ่งออกมาจากห้องสาปแช่งชีวิตจนเอวาต้องรีบกระโดดเด้งออกจากห้องเพราะกลิ่นเลือด หลายคนถึงกับปิดจมูกเพื่อไม่ให้เมากลิ่นคาว ก่อนที่ร่างของรินที่ปิดจมูกจะไปเตะประตูให้เปิดออกระบายกลิ่นเลือดทิ้งไปจนเจือจางลงไปในอากาศ
ทาเวียเดินไปเปิดไฟในห้องมืดจนไฟสีส้มหรูตามคฤหาสน์หรูจะติดขึ้น ทุกคนเดินเข้ามาในห้องแล้วพบว่าห้องนี้มีเพียวงประตูสามบาน บานแรกสีแดง บานที่สองสีขาว และ บานที่สามสีดำ พร้อมคราบเลือดที่ฝาหนังและพื้นเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นสิ่งของประดับเช่นกะโหลกและตุ๊กตา
คงต้องแยกไปสามทาง...
ทุกคนในนั้นคิดขึ้นมาทันทีแต่ไม่มีใครเอ่ยออกมา นอกจากคาโอรุ
“คงต้องแยกกันแล้วล่ะครับ”
คาโอรุพูดแล้วปั้นหน้านิ่ง พลางกอดตุ๊กตาในมือแน่นด้วยความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านหลังจากเหยีบย่างเข้ามาในห้องนี้ อาจจะเพราะความกลัวก็ได้
“ประตูล่ะสาม ...”
หมายเลข 2105พูดเสียงแผ่วหลังจากเงียบมานานสองนานเป็นเพราะในชิฟข้อมูลตอนนี้กำลังครุ่นคิดกับการหาทางออกไปหามาสเตอร์ที่เขาจงรักภักดี
จู่ๆ..ทุกคนก็แบ่งกันเป็นสามคนในแต่ละประตูทันทีโดยไม่ต้องคิดตามที่2105พูด
บานสีแดง – อารัษ ริน ไคโตะ
บานสีขาว – 2105 ทาเวีย ซินเซีย
บานสีดำ – เอวา นาซิก คาโอรุ
“แล้วเจอกันนะครับ หวังว่าเรายังมีชีวิตกันนะ” อารัษพูดปากเสียให้ซินเซียและเอวา ก่อนจะถูกรินชกเข้าที่ท้องแล้วลากหายเข้าไปในประตู
ถ้ายังมีชีวิตอยู่...?
“คุณนาซิกค่ะ ฉันรู้ว่าคุณรู้ว่าศพอาเรียอยู่ไหน เพราะฉะนั้นถ้าเรารอด คุณพาเธอออกมาจากที่นั่นด้วยนะค่ะ” ทาเวียพูดแล้วโค้งแล้วเดินเข้าไปในประตู
ปัง....ปัง...
เสียงปะตูดังขึ้นไล่เลี่ยกัน ทั้งสามคนที่เหลือมองหน้ากันน้อยๆแล้วพูดคุยกันเบาๆ
“คุณเอวา คุณเป็นแวมไพร์ งั้นคุณช่วยปกป้องผมด้วยนะครับ”คาโอรุพูดแบบยอมแพ้ให้ความตาย
“.....อืม” เอวามองคาโอรุที่หน้าสวยเหมือนผู้หญิงแล้วพยักหน้า ก่อนจะก้มไปมองนาซิก
“เธอล่ะ จะพูดอะไรก่อนเดินไปในทางมืดไหม?”
“ฉันอยากมีชีวิตอยู่”
“นั่นสินะ”
คาโอรุลู่สายตาลงไปที่พื้นแล้วเปิดประตูเดินหายไปในประตูสีดำมืด พร้อมเอวาและนาซิก
คาโอรุลู่สายตาลงไปที่พื้นแล้วเปิดประตูเดินหายไปในประตูสีดำมืด พร้อมเอวาและนาซิก
........แต่มีใครรู้บ้าง ว่าปีศาจที่เรียกว่าความตายกำลังอาละวาดและพร้อมจะกินทุกคนอยู่น่ะ.....
.
.
.
.
.
ดวงตาสีเเดงของผู้ตุมเกมวาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด
"พี่สาวฮะ คนที่จะเป็นตุ๊กตาคนต่อไปของผมคือ ...... "
............
หมดเวลาห้องคอม
ผมจะมาอัพนะครับ
ขอสารภาพ ที่มาอัพครั้งนี้เป็นเพราะโดนเอวาเตะก้นบอกให้รีบอัพ (ผมกับเอวารู้จักกันที่โรงเรียนครับ -_-;;)
.
.
.
.
.
ดวงตาสีเเดงของผู้ตุมเกมวาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด
"พี่สาวฮะ คนที่จะเป็นตุ๊กตาคนต่อไปของผมคือ ...... "
............
หมดเวลาห้องคอม
ผมจะมาอัพนะครับ
ขอสารภาพ ที่มาอัพครั้งนี้เป็นเพราะโดนเอวาเตะก้นบอกให้รีบอัพ (ผมกับเอวารู้จักกันที่โรงเรียนครับ -_-;;)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น