ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLOOD_KILL เกมนี้มีเเต่ตาย!?

    ลำดับตอนที่ #4 : บทสอง //เกมสตาร์ต

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 56


    Lizzie Borden took an axe .And gave her mother forty whacks. And when she saw what she had done
    She gave her father forty-one.

    เสียงเพลงกล่อมเด็กของลิซซี่เบอร์เดนดังจากห้องนอนส่วนตัวของนายน้อยประจำตระกูลกรนทิวาคุณพร้อมกล่องเพลงที่กำลังเล่นเพลงเดียวกัน ในมือเด็กชายมีตุ๊กตาแมวสีฟ้าหม่นที่ไร้แขนขวาเนื่องจากโดนตัดออกไป ดวงตาสีเดงโลหิตเหม่อออกไปที่ท้องฟ้าที่มีฝนตกหนักราวกับพายุนอกหน้าต่างบานใหญ่

    “นายน้อยค่ะ มีแขกมาหาท่านค่ะ”

    สาวรับใช้คนสุดท้ายของคฤหาสน์เอ่ยเบาๆอย่างนอบน้อมหลังจากเดินข้ามประตูที่เปิดอ้าอยู่เข้ามาในห้องนอนและปิดประตูลงแล้ว ดวงตาเหม่อลอยเมื่อครู่ของเด็กชายเปลี่ยนดวงตาแห่งความตื่นเต้นแทบจะทันที เขากระโดดลงจากเก้าอี้ข้างหน้าต่างแล้ววิ่งมาหาสาวรับใช้

    “พี่สาวพาผมไปทีสิฮะ !

    “ได้ค่ะ ท่านวริณ”

    สาวใช้พูดด้วน้ำเสียงอบอุ่นและเอ็นดูเด็กชายก่อนจะจับมือของนายน้อยที่ยื่นมาแล้วจูงมือเดินออกจากห้องนอนส่วนตัวไป

    ............ ตุ๊กตาของผม ตุ๊กตาของผมมาหาผมแล้ว!!! ...........

     

     

    ณ ห้องโถงใหญ่ในคฤหาสน์กรนทิวาคุณ

    ห้องโถงใหญ่สไตล์โรมันกลางของคฤหาสน์กรนทิวาคุณที่ปกติจะไม่มีใครมาอยู่กันมากมายนักนอกจากสาวใช้ที่มักจะเดินผ่านไปผ่านมา แต่ในเวลานี้กลับมีคนที่ได้รับเชิญมาเป็น “ตุ๊กตา”มายืนออกันเต็มห้องโถงเพียงแต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากของใครเลย บรรยากาศรอบข้างของคนกลุ่มนี้เริ่มจากมาคุขึ้นเรื่อยๆ

    “พี่อารัษ...”

    เสียงแผ่วเบาจนเกือบกลายเป็นเสียงกระซิบของเด็กสาวตัวเล็กดังขึ้นข้างๆชายหนุ่มที่กำลังมองไปมาในห้องโถงทำเอาเจ้าตัวต้องหันมามองตามต้นเสียง

    “ทำไมเหรอริน?”

    “เมื่อไหร่คนที่ชื่อวริณจะมาเหรอค่ะ”

    เพียงแค่เด็กสาวพูดถามคำถามทุกคนในห้องโถงก็หันมาสนใจทันที ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามที่ไม่ว่าใครในตอนนี้ก็ต้องการจะถามเหมือนกัน อารัษทำหน้าอึกอักเล็กน้อยเมื่อมองลงมาที่ลูก(??)ที่กำลังทำหน้าลำบากใจ

    “พี่ว่าคงอีก ซักพัก..ล่ะนะ”

    “อือ.....”

    รินถึงกับส่งเสียงอือในคอแบบไม่พอใจเชิงงอนน้อยๆแล้วเกาะชายเสื้ออารัษพลางสำรวจไปรอบๆห้องเช่นเดียวกับอารัษที่กำลังมองไปที่ทุกอย่างในห้อง

    “ฉันเห็นด้วยกับเจ้าหนูนี่นะ เมื่อไหร่คนที่ชื่อวริณจะออกมา?”

    เสียงของหญิงสาวผมยาวเกือบลากพื้นดังขึ้น อารัษและหลายคนสะดุ้งเฮือก หญิงสาวพูดอย่างไม่พอใจน้อยๆแล้วเดินมาหาริน “ฉันชื่อซินเซีย ยินดีที่ได้รู้จักนะ”เธอพูดเสียงเบาๆแล้วยิ้มให้เด็กสาวที่มองมาที่เธอเช่นกัน ก่อนจะตะโกนลั่นห้องโถง

    “คุณวริณ กรนทิวาคุณ! ถ้าคุณไม่ออกมาฉันจะกลับบ้านแล้วนะค่ะ!!!

    วี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!

    “เหวอ!

    เสียงวี๊ดของลำโพงดังขึ้นแทบจะทันทีหลังจากเสียงของซินเซียตะโกน อารัษมาไปรอบๆห้องหาที่มาของเสียงขณะเอามืออุดหูไม่ให้เสียงวี๊ดน่ารำคาญนั่นเอามาในหูแล้วดวงตาสีน้ำตาลก็ไปเจอกับลำโพงสีดำที่ติดอยู่ที่ใต้บันได

    คึดครึดวี๊ด..ซ่า... “ฮัลโหลๆๆ 1 2 3 มีใครได้ยินผมบ้างฮะ”

    ลำโพงมีเสียงครึกครั่กออกมาซักพักก็เป็นเสียงเด็กชายในดังออกมาจากลำโพง ซินเซียยิ้มขึ้นมาที่มุมปากน้อยๆแล้วยืนกอดอกแบบราชินี

    “ใครได้ยินผมบ้างฮะ!? ได้ยินเสียงผมเล้วตอบกลับมาหน่อยสิฮะ!! เสียงจากลำโพงดังขึ้นอย่างชัดเจ๋ว หลายคนในห้องเริ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยๆ

    “ได้ยินค่ะ!

    รินตะโกนเสียงดังแข่งกับลำโพงแล้วเกาะชายเสื้ออารัษแน่นกว่าเดิมด้วยความรู้สึกตื่นเต้น อารัษเผลอยิ้มกับความไร้เดียงสาของลูกบุญธรรมที่มีศักดิ์เหมือนน้องส่าวแล้วหันซ้ายหันขวาหากล้องวงจรปิด

    “เอาล่ะนะครับ ผม วริณ กรนทิวาคุณนะครับ เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงโวยวายจากห้องโถงเลยรู้ว่าทุกคนมาแล้ว ตอนนี้ผมจับตาดูทุกคนอยู่ แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าผมแอบอยู่ที่ไหน”

    คำพูดกวนประสาทดังขึ้นจากลำโพง กว่าสิบคนในห้องที่ยืนฟังอย่างเงียบๆเริ่มหลุดขำและส่งเสียงเคืองออกมาบ้าง ซินเซียตะโกนอีกครั้งเสียงดังด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ

    “คุณให้พวกเรามาแต่คุณกลับไม่ออกมาปรากฏตัว นี่มันไม่แฟร์นะค่ะ คุณวริณ โปรดออกมาแสดงตัวให้ฉันและคนอีกเก้าคนเห็นด้วยค่ะ ไม่งั้นจะถือว่าคุณไม่ยุติธรรมแก่ตุ๊กตาที่คุณเลือกมา”

    เกิดเสียงอื้ออึงซักพักวริณก็เงียบลง แล้วเสียงครืดๆก็ดังขึ้นก่อนจะหายไปเป็นการปิดไมล์ ซินเซียยิ้มมุมปากน้อยๆแล้วหันไปมองคนด้านหลังที่ยืนมองซินเซียอย่างอึ้งๆ

    แปะ แปะ แปะ

    “คุณพูดได้ถูกใจผมดีจังนะครับ.....”

    ชายหนุ่มตบมือเบาๆแล้วพูดให้ซินเซียได้ยิน คนที่ยืนอยู่ด้านหลังหันมามองทั้งคู่งงๆ

    “คุณ....ถ้าจำไม่ผิดคงเป็น คุณไคโตะสินะค่ะ?”

    “ครับ คุณซินเซีย”

    จู่ๆบรรยากาศมาคุก็เกิดขึ้นเล็กๆระหว่างสองคนอย่างไร้สาเหตุ จนหลายคนแถวนั้นสงสัยขึ้นมาไม่ได้

    พวกเอ็งรู้จักกันตอนไหนว่ะ.....

    “ขอโทษ...คือฉันก็ไม่ได้อะไรมากหรอกนะ แต่เราควรจะรู้จักชื่อกันไว้ จะได้คุยกันไม่งง....”

    เป็นเสียงของเด็กสาวผมยาวที่กำลังติดผ้าปิดตาให้เรียบร้อยเดินเข้ามาในวงบรรยากาศมาคุทำให้บรรยากาศมาคุหมดลงแทบจะทันที หลายคนพยักหน้าหยึกหยักเชิงเห็นด้วย เพราะตั่งแต่มาที่ปราสาทก็มองกันไปมองกันมาจะทักก็ไม่ได้ แถมไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำไป

    “ฉัน สึกิ ตุ๊กตา เมอร์ซี่”

    เธอพูดเป็นคนแรกขณะมัดโบว์ที่ท้ายทอย

    “ผม ไคโตะ ตุ๊กตาเเอนนาเบล” ไคโตะพูดขึ้นมาแล้วชี้มาที่ตัวเอง

    “ฉัน ซินเซีย ตุ๊กตาเอมิเลีย”ซินเซียพูดแล้วโค้งตัว

    ดวงตาสีโกแมนเข้มหันไปมองเด็กสาวอีกสองสามคนที่ยืนอยู่จนทั้งคู่สะดุ้งเฮือก

    “ผม คาโอรุ ตุ๊กตา คิคุโกะ”

    “อ้าว คุณไม่ใช่ผู้หญิงเหรอค่ะ” เด็กสาวข้างๆสะดุ้งเมื่อคนข้างๆแนะนำตัว คาโอรุยิ้มบางๆ ให้ความไม่เข้าใจของเด็กสาวข้างๆ ไม่เข้าใจผิดก็แปลกล่ะนะ ก็เขาใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงมานี่...

    “เอ๊ะ ฉะ ฉัน อาเรีย ตุ๊กตา พระนางแอนน์ โบลีน”

    อาเรียพูดตะกุกตะกักแล้วโค้งตัวคำนับ ก่อนจะหันไปขอโทษคาโอรุที่เข้าใจผิดยกใหญ่จนอีกฝ่ายต้องยกมือเงไม่เป็นไร

    “ฉัน นาซิก ตุ๊กตาอลิซาเบธ บาโรรี่”

    เด็กสาวที่นั่งหลบในมุมมืดมาตั่งแต่เข้าคหาสน์เดินออกมายืนข้างอาเรียจนอาเรียสะดุ้งเฮือก

    “ผมชื่ออารัษ นี่ ริน น้องสาวผม ตุ๊กตา ฮาโรลด์กับตุ๊กตาอลิส” อารัษยิ้มไปพูดไปขณะอุ้มรินขึ้นหลัง

    “เหลือใครอีกล่ะ?”

    ไคโตะยิ้มกริ่มแล้วหันไปหันมารอบห้องแล้วห็นคนที่ยืนนิ่งๆเป็นเสาให้แมลงวันตอมเล่นอยู่คนหนึ่ง

    “คุณ....คุณชื่ออะไรครับ?”

    “มา....ยุ่งอะไรกับผม แกเกี่ยวอะไรด้วย ผมไม่ได้....แก ผม....ชื่อ หมายเลข 2105”

    ไคโตะคิ้วขมวดน้อยๆกับคูดอันสับสนของคนที่กำลังลูบหัวแล้วทึ้งหัวตัวเองเอาเป็นเอาตาย

    โรคจิต....ไคโตะคิดอย่างหวาดกลัวแล้วเลิกสนใจหันไปมองอีกคนที่ยืนเงียบดูแล้วปกติกว่าท่ามกลางคนที่เริ่มหันไปคุยกัน

    “ข้า เอวา ตุ๊กตาแวมไพร์”

    ซะที่ไหนล่ะ?

     

    “ขอโทษนะเจ้าค่ะ”

    เสียงแผ่วเบาดังขึ้นขัดในห้องโถง เป็นเสียงของเมดสาวคนหนึ่งที่เดินมาจากหลังบันไดหรู ทุกคนหันไปมอง

     

     

     

     

     

     

    “ท่านวริณไม่ว่างมาต้อนรับขอให้ทุกท่านไปที่ห้องรองรับกันก่อนเถอะค่ะ เรื่องกระเป๋าเดินทางทางคฤหาสน์จะจัดการเอง”

     

     

    “ครับ”
    ทุกคนพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบกุญแจที่สาวใช้ก่อนจะแยกย้ายไปตามล่ะห้อง เหลือแต่หมายเลข 2105 ที่ยืนนิ่งเป็นคนสุดท้ายแล้วเดินตามพวกตุ๊กตาไป สาวใช้ยิ้มที่มุมปากน้อยๆแล้วหันไปมองกล้องที่แอบอยู่เหนือห้องโถง
    “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ทำตามแผนต่อไปได้”
    .........................
    กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆคลุ้งไปทั่วห้องอาหารใหญ่ เหล่าตุ๊กตานั่งเรียงกันโต๊ะอาหารหลังจากถูกเรียกให้มาที่ห้องอาหารเป็นทานดินเนอร์ก่อน “เกม”จะเริ่มขึ้น โต๊ะอาหารที่ทำจากไม้สักตัวยาวแกะสลักเป็นรูปแมกไม้ตามขอบโต๊ะถูกคลุมด้วยผ้าคลุมกำมะหยีสีแดงเลือดหมู บนโต๊ะประดับไปด้วยดอกกุหลาบสีดำเข้มและเทียนที่ยังไม่ถูกจุด กับอาหารที่ยังมีฝาสแตนเลสแววาวปิดอยู่ สภาพห้องอาหารใหญ่แทบจะเรียกได้ว่ามืดสนิท มีเพียงแสงสลัวๆจากโคมไฟดวงเล็กๆบนเพดานที่พอทำให้เห็นสิ่งต่างๆรอบห้องได้ พนังห้องเป็นสีแนวเอิร์ธโทนมีรูปคนกำลังเต้นรำเป็นรูปนูนดูแล้วเหมือนกับว่ารูปเหล่านั้นกำลังเต้นกันอยู่จริงๆ ความเย็นยะเยือกจากแอร์เล็กๆตามบริเวณต่างๆของห้องทำให้หลายคนขนลุกขึ้นมาเป็นครั้งๆ หน้าโต๊ะอาหารใหญ่มีเวทีดำแดงหรูหรา ม่านแดงปิดสนิทเหมือนกับจะมีการแสดงอะไรบางอย่าง ทาเวียหันไปมารอบๆห้องด้วยสีหน้าเย็นๆราวกับหาใครบางคนที่เป็นตัวหลักในการดินเนอร์ครั้งนี้
    “คุณมีอะไรรึเปล่าครับ?” อารัษพูดเบาๆแล้วหันไปมองทาเวียที่มองไปรอบๆห้องหลายครั้ง
    “คุณวริณนี่ชอบให้เรารอจังนะค่ะ”
    เสียงเบาๆแทรกขึ้นมาเป็นเสียงของนาซิกที่กำลังเขี่ยดอกกุหลาบดำเล่นทาเวียหันไปมองนาซิกสีหน้าเย็นชาแล้วนั่งลงที่เดิมก่อนจะค่อยมองไปยังเวทีใหญ่
    แอ๊ด.....
    เสียงประตูไม้สักใหญ่ดังขึ้นเบาๆเรียกให้คนในห้องอาหารหะนไปมองเป็นตาเดียว ราชาตุ๊กตากำลังเข้ามาแล้วแต่ว่า
    พรึ่บ!!!
    ไฟในห้องดับลงทันทีที่เสียงไม้สักดังขึ้น อาเรียเผลอกรี๊ดออกมาเบาๆผิดกับนาซิกและอีกหลายๆคนที่ยิ้มมุมปาก  “มารอกันแล้วเหรอ?” เสียงเบาๆดังขึ้นในความมืด เสียงรองเท้าดังขึ้นมาใกล้โต๊ะเรื่อยๆ พร้อมเสียงครืดคราดของเก้าอี้ก่อนมาเงียบลง เสียงประตูไม้สักปิดเสียงดังไม่แพ้เสียงหัยวใจของทุกคนใน ณ ที่นี้ ไฟที่ดับไปเมื่อครู่ก็เริ่มกลับมาสว่างสลัวๆอีกครั้งแต่ครั้งนี้กลับมืดกว่าเดิมเล้กน้อย สายตาของทุกคนมองไปทางหัวโต๊ะที่เคยว่างอยู่ก็ปรากฏกายของผู้คุมเกมขึ้นมา
    เด็ก....??
     “คุณ คุณ...เป็น?”อารัษที่นั่งใกล้สุดถึงกับตาโตแล้วชี้ไปทางวริณด้วยสีหน้าไม่คอ่ยเชื่อ
    “ครับ ผมวริณ กรนทิวาคุณ” วริณเอยเบาๆแล้วยิ้มสดใสใส่ทุกคน เสียงอื้ออึงดังขึ้นครู่นึงแต่เพียงแวบเดียวก็เงียบลงทันทีเมื่อ วริณหยิบมีดมาวางข้างจานอาหาร สายตาสีแดงเลือดมองไปตามทุกคนทีล่ะคน
    “ผมจำได้ว่ามาคราวนี้มีคนที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วย คือคุณสินะครับ?” วริณพูดแล้วชี้ไปทางหมายเลข 2105 เจ้าตัวก็หันมามองวริณเช่นกัน
    “ตุ๊กตาที่น่าสงสาร...” วริณพูดขึ้นมาแบบหลุดขำพลางหยิบตุ๊กตามากอด หลายคนเริ่มมองหน่ากันแบบไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร หมายเลข 2105 มองวริณแล้วทำตาเขียวปั๊ด
    “เหรอครับ แกมายุ่งอะไรกับผมด้วยล่ะ? ผมเป็นมนุษย์ที่ซื่อสัตย์ของเจ้านาย ไม่ใช่ตุ๊กตา” หมายเลข2105พูดเสียงแผ่ว
    “คถณคิดว่า มาสเตอร์คุณรักคุณเหรอครับ คิดดีๆ คุณถูกสร้างไว้เป็น”ข้ารับใช้”ของมาสเตอน์ใช่ไหม? หมายความว่า คุณคือตุ๊กตาที่ถูกเลี้ยงให้เชื่องเมื่อเค้าเบื่อคุณ เค้าก็คงโยนทิ้งคุณไปเป็นตุ๊กตาที่หน้าเบื่อหน่ายแล้วหาตุ๊กตาตัวใหม่ขึ้นมาเเทนที่ของคุณ คุณเป็นแค่ของเล่นที่ถูกตกขึ้นมาแก้ขัดเท่านั้นแหละ ถ้าเค้ารักคุณจริง เค้าคงไม่นำคุณมาทิ้งไว้ที่นี้หรอก” วริณตอบพลางหยิบไม้ขีดไฟมาจุดเทียนที่แท่นวางตรงหน้าจนไฟติดความสว่างก็เริ่มมาเยือนโต๊ะอาหาร หมายเลข2105หน้าซีดเพราะคำพูดวริณทันทีเครื่องยนต์ในหัวของ2105ทำงานหนัก
    “ท่านวริณ...อาหารมาแล้วค่ะ”
    สาวใช้ที่ยืนอยู่หลังเก้าอี้ใหญ่พูดขัดเบาๆ แล้ววางอาหารให้วริณก่อนจะเดินไปเปิดฝาสแตนเลสให้ทุกคนที่ล่ะจาน ในจานเป็นสเต๊กเนื้อสันเกรดเออย่างดีวางอยู่ “ขอให้ทุกคนในที่แห่งนี้ทานอาหารกันอย่างมีความสุขนะครับ” วริณยิ้มหวานใส่ทุกคนอีกครั้ง(เเต่คนที่ถูกยิ้ให้กลับไม่ยิ้มตอบ) ก่อนจะหันไปซุบซิบกับสาวใช้น้อยๆซึ่งสาวใช้ก็พยักหน้ารับคำสั่งเดินหายไปในความมืดหลังบานผ้าม่าน หลายคนเริ่มลงมือกินอาหารวริณก็เช่นกันมีเพียงอาเรียที่กลัวความมืดจนแทบะกินอะไรไม่ลงก็คาโอรุที่ดื่มแต่ไวท์ขาว
    “พี่สาวฮะ เปิดการแสดงเลย”วริณพูดขึ้นมา ทุกคนที่กำลังลงมือทานอาหารอยู่เงยหน้ามามองวริณอย่างงงๆ เวทีใหย่ยักษ์เปิดม่านออกจนเห็นเป็นฉากของโอเปร่าสวยงาม....ตุ๊กตาหุ่นเชิดขนาดเท่าคนจริงและเหมือนคนจริงๆค่อยๆถูกเชิดออกมาเต้นรำที่กลางเวทีที่ละตัวก่อนจะค่อยๆเต้นอย่างสนุกสนาน วริณยิ้มพลางหยิบน้ำเปล่ามาดื่มเพราะเป็นเด็กจึงดื่มเครื่องดื่มแอกกอฮอลล์ไม่ได้
    “สวยดีนะ”
    เอวาพูดแล้วมองวริณตาสีแดงฉานของแวมไพร์สว่างขึ้นเล็กน้อย “ครับ”วริณตอบเสียงใสแล้วกระตุกยิ้มบางๆทำให้เอวาเริ่มอารมณ์เสีย หลายคนละสายตาจากเวทีมามองวริณเเละเอวา
    “กรี๊ด!!!!
    อาเรียกรี๊ดขึ้นมาเสียงดังลั่น เรียกสติทุกคนที่กำลังฟังบทสนทนาระหว่างเอวาและวริณต้องรีบหันมามองเวทีใหญ่ที่อดีตเคยนมีตุ๊กตาสวยงามมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน คราวนี้กลับไม่ใช่..เเต่งต่างจากครั้งเเรกมากๆ...บนเวทีมีตุ๊กตาที่สวยงามที่สุดตัวหนึ่งกำลังเดินไปมาเป็นเวทีใหญ่ในมือของตุ๊กตามีขวานสีแดงสดอยู่พร้อมกันนั้นตุ๊กตาที่เต้นรำอยู่ก็ถูกบั่นหัวไปที่ละตัวๆจนหมดสิ้น เลือดที่มีที่มาไร้สาเหตุพุ่งออกมาจากหัวของตุ๊กตาที่ถูกบั่นหัวทิ้งจนเลือดเละไปทั่วเวทีใหญ่ หลายคนตาโตตะลึง กลิ่นคาวเลือดและเสียงหัวเราะแหลมจากลำโพงที่เป็นตัวแสดงเสียงพูดดังลั่น ไม่แตกต่างจากหนังฆาตกรรมในโอเปร่าจนวริณหัวเราะตามอย่างชอบใจ
    “นี่มันการแสดงอะไรกัน!?
    ไคโตะลุกพรวดแล้วมองไปทางวริณมือก็ปิดจมูกไม่ให้กลิ่นคาวเลือดทำให้เขามึนหัวไปมากกว่านี้
    “แสดงละเลงเลือดไง เราก็กำลังจะแสดงละครแบบนี้แหละ ทุกคนต้องเป็นตุ๊กตาที่น่ารักของผม!!!
    วริณยิ้มเหยียดแล้วลุกจากเก้าอี้หายไปกับผ้าม่านแดง ทุกคนไม่สนวริณเเล้ว กลับลุกขึ้นเตรียมหนีจากคฤหาสน์นี้ทันที “ไอเด็กโรคจิต!” ซินเซียตะโกนลั่นก่อนจะเดินไปทางประตูไม้สักใหญ่เพื่อหนีแต่ประตูกลับไม่เปิด
    -เกม START-
    วริณพูดขึ้นเบาๆจากลำโพง
    .
    .
    .
    .
    เกมแห่งความตายเริ่มขึ้นแล้วสินะ ใครจะเป็นตุ๊กตาคนแรกของผมนะ คิก คิก คิก!!!!

     

    ..........................................................

    คอมโรงเรียนผมกากจริงๆสินะ - -''

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×