ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLOOD_KILL เกมนี้มีเเต่ตาย!?

    ลำดับตอนที่ #18 : บทสิบห้า// หัวใจที่กรีดร้อง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 55


    “อย่าเข้ามานะ ไม่นะ คุณนายน้อย ไม่ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!

    การทรมาณคนรับใช้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า......

    “คุณวริณปล่อยคนสวนจนๆอย่างผมไปเถอะ ไม่นะ ไม่ ไม่ ม่ายยยยยยยยยย!!!!

    ทุกชีวิตในคฤหาสน์กำลังจะมอดดับอย่างทรมาณ….

    “เมลล่า ฉันป้าด้วย ช่วยที นายน้อยค่ะ ไม่นะ ไม่ กรี๊ดดดดดดดดดด”

    ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าวันใดวันหนึ่งฉันต้องมอดดับเช่นนั้น.....

    “พี่เมลล่า รุ่นพี่เมลล่า ร่นพี่เมลล่า ช่วย ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย”

    โดยที่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย….

    เว้นแต่

    “พี่สาวครับ ดูสิ ดอกกุหลาบกำลังบานเต็มห้องผมเลย!!!

    “นั่นสินะค่ะ ท่านวริณ”

    ทำได้แค่เพียง ยิ้ม แต่จะ ฝืนเพียงใดก็ตาม

    ”พี่สาวชอบเหมือนผมใช่ไหมครับ!

    ทำได้เพียง ยอมรับคำโกหก แม้น้ำตาจะไหลอาบแก้ม

     “ใช่จ๊ะ..... มันสวยมาก สวยมากจริงๆ”

    ทำได้แค่ ลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้ทุกอย่างจะเด่นชัดตรงหน้า

    “พี่สาวน่ะ เหมาะกับดอกกุหลาบสีแดงพวกนี้ที่สุดเลย!

    ปฏิเสธทุกอย่างที่เกิดขึ้น......

    แต่ว่า......

    แม้จะลำบากเพียงใด ร้องไห้เพียงใด ฉันก็จะ.......

    ทำตามที่ท่านประสงค์ค่ะ

    “นายน้อย”

    .................

     

     

    เสียงกรีดร้องยังคงดังไปตลอดทาง เสียงนั้นโหยหวลไปทั่วคฤหาสน์จนดูราวกับมีวิญญาณร้ายมาหวีดร้องชวนในขวัญผวา ซึ่งคนทั้งหกที่หลงทางเเละกำลังเล่นเกมหนีตายอยู่ควรที่จะเดินกลับไปยังทางที่เป็ฯทางออก เเต่ไม่ พวกเขากลับเดินตามหาต้นเสียงนั้นด้วยท่าทีมุ่งมั่น ... ทำไมน่ะหรือ
    ก็ต้นเสียงกรีดร้องนั้นเป็น เพื่อนของพวกเขาไงล่ะ!
    "นาซิกกรีดร้องทรมาณ....เเบบนี้เเสดงว่าท่าจะไม่ดีเเล้ว"
    ทาเวียเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าซีดเผือกเพราะเสียเลือด เนื้อตัวยังคงมอมเเมมไปด้วยฝุ่นผงเเละเกล็ดเลือดเเห้งกรัง ตั่งเเต่เข้ามาเล่นเกมนี้ก็ผ่านพ้นไปเเล้วกว่าห้าชั่วมง ห้าชั่วโมงนี้มีคนตายไปเเล้วหลายคนเหลือรอดมาได้เพียงเเค่หกจากสิบ บุคคลหน้าที่จะตายก็คงเป็นนาซิก หากพวกเขายังไม่ไปช่วย เพื่อนคนนั้นคงต้องตาย ไปจากเกมนี้เป็นคนที่ห้า
    "...ต้องรีบหาทางไปช่วย ดูจากเสียงที่กรีดร้องนาน คงจะถูกทรมาณ...."
    อารัษว่าก่อนจะหอบเเฮ่ก เเล้วสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมือเสียงกรีดร้องนั้นดังขึ้นมาหนักอีกระลอกหบลังจกเงียบไปเป็นเเวบหนึ่ง เเละคาดว่าคงถูทรมาาณหนักกว่าครั้งเเรก เสียงนั้นดูคล้ายปีศษจเเบนซีเหลือเกิน ฟังเเล้วชวนให้รู้สึกหดหู่เสียจริง

    ซินเซียปิดหูตัวเอง ดวงตาสีแดงที่เคยมั่นใจสั่นระริก ราวกับกลัว ที่ผ่านมาก็น่าหดหู่หลายครั้งแล้วนี่อาจเป็นครั้งแรกที่เธอ “กลัว” เสียงกรีดร้องก็ได้

    “เสียงน่ากลัวจัง”

    กลายเป็ฯคาโอรุที่พูดขึ้น ท่าทีเคยทำเป็นผู้ชายเท่ดูมีมาดตอนนี้ก็กลับกลายเป็นเด็หนุ่มที่เคยบอบบางเสียเฉยๆ ความกลัวที่เกิดจากเสียงกรีดร้องเริ่มลุกลามในขั้วหัวใจ ดวงตาสีฟ้าประกายความหวาดกลัวไว้สั่นระริกเมื่อหยุดเดินมาพบกับบันไดวนเหล็กขึ้นสนิม

    “นี่มันอะไรกัน”

    คาโอรุเดินไปที่ตีนยันได พลางเงยหนน้าขึ้นไปมองเพื่อหาว่ายอดมันอยู่ตรงไหนกันแน่ เห็นแสงสีขาวจากไฟนีออนอที่ปลายยอดทำให้ชายหนุ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อยๆ

    “เหมือนจะเจอห้องที่นาซิกอยู่แล้วสินะ”

    เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องที่มีไฟนีออนนั้นนั่นแหละ คาโอรุหน้าซีดขึ้นมาเสียเฉยๆเมื่อนึกได้ว่าทางที่จะไปคือทางที่จะต้องเจอกับเลือด เสียงกรีดร้องและความอาลัย หนุ่มหน้าหวานถึงกับหน้าเสียแล้วเผยมือเป็นเชิงให้อารัษขึ้นไปก่อน อารัษยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินนำขึ้นไปก่อนโดยไม่พูดอะไร ไคโตะเดินตามมา คาโอรุก็นิ่งให้เขาเดินไปอีกคนพยายามเลี่ยงให้ตนเองเป็นคนท้ายๆ เพื่อที่จะได้ไม่เห็นภาพอันน่าเจ็บหัวใจเป็นคนแรก แต่ว่า

    “จะหนีความจริงทำไม นายหน้าหวานคาโอรุ”

    เสียงเครื่องกลที่มาจากเครื่องแปลงเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของคาโอรุ ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกจนหุ่นยนต์หนุ่มด้านหลังถึงกับนิ่งตาม 2105ทำหน้าตายส่งให้เมื่อเห็นว่าคาโอรุหันมาก่อนจะเอ่ยว่า

    “เลิกยื้อสักที ... เดินขึ้นไปซะ ฉันรั้งท้ายเอง กลัวเสียงนาซิกมาก ก็ปิดหูกลับตาซะ”

    ไม่พูดเปล่าหุ่นยนต์หนุ่มยื่นมือเข้ามาปิดหูอีก แม้จะข้างเดียวเพราะอีกข้างโดนหอกแทงเละเป็นซากไปแล้วก็แสดงความหมายของคำพูดดี

    ถ้ากลัว ก็ทำเป็นว่ามันไม่มีจริงซะ ง่ายๆคือ รับความจริง แล้วเลิกปิดกั้นตัวเอง อะไรเกิดมันก็ต้องเกิด

    “เฮ้ย! ดูแก่ไปไหมว่ะ”

    ซินเซียที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดไปได้ไม่กี่ก้าวก็เหมือนจะเข้าใจความหมายดีเช่นกันจึงหันมาตะโกนใส่ 2105ยังคงหน้าตายแต่ก็เอามือออกจากหูคาโอรุก่อนจะหันไปดันหลังอีกฝ่ายให้ขึ้นบันไดสนิมเขรอะตามซินเซียไป คาโอรุค่อยๆก้าวเดินหันไปหยิบสำลีกระจุกหนึ่งในกระเป๋าที่ชุ่มไปด้วยนน้ำจากที่เหวลึกแล้วนำมันมายัดใส่หูสองข้าง ดวงตาสีฟ้าเริ่มดูสบายขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเบาลง

    “...ทุกคนเสียงขาดห้วงไปแล้ว”

    ไคโตะเปรยขึ้นก่อนะหันกลับมามองทุกคนสลับกับประตูที่มีแสงไฟนีออนสาดส่อง ดวงตาสีแดงของหญิงสาวสองคนสั่ระริกเมื่อนึกได้ว่าหากเสียงหยุดมีโอกาสที่เพื่อนจะตายสูง อารัษทำหน้าไม่สู้ดีแล้วรีบก้าวขาขึ้นไปยังประตูนั้นอย่างเร็วที่สุด

    แปะ!

    เรองเท้าหนังของบริษัทเหยียบโดนของเหลวอะไรบางอย่างที่ไหลออกมาจากประตู อารัษอึ้งนิ่งงันก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอหวังไม่ให้เป็นอย่างที่เขาคิด ชายหนุ่มก้มลงมองที่พื้น แสงนีออนสีขาวที่สาดลงมาทำให้เขาเห็นมันเต็ฒตา

    สิ่งนั้นคือเลือด!

    อารัษเบิกตากว้าง ตัวเย็นวูบเหมือนมีคนมาราดน้ำเมื่อนึกได้ว่าสิ่งที่คิดมันกลายเป็นจริง เขาทำหน้าซีดก่อนจะเหลือบไปมองทุกคนด้วยหน้าซีดเผือก ไคโตะที่เห็ฯเลือดแล้วก็มีสีหน้าช็อคไม่แพ้กันก่อนจะหันไปหาทุกคนที่เหลืออย่างจะบอกแต่เสียงกลับไม่ออกมา

    “นาซิก....”

    ทาเวียเอ่ยเปรยขึ้นมาก่อนจะรีบเบี่ยงตัวไปเตะประตูอย่างคุมตัวไม่หยนุดเมื่อนึกได้ว่าเธอต้องเสียเพื่อนไป ประตูไม้เก่าๆเปิดออกทันทีที่เธอเตะ คราบเลือดเหล่านั้นไหลตามพื้นเป็นทางราวกับว่านาซิกถูกลากไปตามพื้นอย่างงั้น ทาเวียเบิกตากว่งด้วยความตะลึงแล้วใช้ตามองไปยังความมืดมิดตรงหน้าหวังเจอนาซิกนอนนั่งบาดเจ็บอยู่อาณาบริเวณนั้นแต่ก็ไม่พบอะไรนอกเสียจากความมืดมิด จนกระทั่งไฟดวงหนึ่งได้เปิดขึ้นราวกับรอพวกเขาไว้แล้ว

     

    เสียงปรบมือดังขึ้นเบาๆ

    นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมที่มีไว้โชว์พวกคุณโยเฉพาะ! เจ้าเหล่าตุ๊กตาอันน่าสมเพซ!!!

    เสียงเจ็บแค้นของเด็กชายดังขึ้นจากลำโพงสีดำสนิทในห้องที่ตกแต่งด้วยแนวโกธิค ตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ห้อยระโยงระยางบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของได้เป็นอย่างดี กลางเพดานประดับด้วยเซนเดอเรียเชิงเทียนเก่าแก่และมีกล้องวงจรปิดสีดำสนิทอันเล็กที่เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กชายเห็นเหล่าตุ๊กตาได้อย่างชัดเจน เหนือสายตาไปอีกนิดเป็นระเบียงไม้มีตุ๊กตาหุ่นเชิดหญิงสาวงดงามในชุดเดรสสีแดงดำตัวหนึ่งยืนอยู่ในท่าตรึงคล้ายพระเยซู ต่ำลงมาที่ผนังมีประตูบานเลื่อนสีน้ำตาลและมีลำโพงสองอันสีดำสนิทติดอยู่ข้างๆ ไคโตะสะดุ้งเมื่อไฟสปอตไลท์ที่อยู่บนเพดานจับมาที่ตนเป็นคนแรก เสียงเล็กหวีดชวนสยองดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เสียงจะเงียบลงกลายเป็นเสียงที่ทำให้ผู้ฟังมีความรู้สึกว่าตนนั้นน่าสมเพซเป็นที่สุด

    ตุ๊กตาแอนนาเบลที่มีขาและหลอกหลอนคนอื่นไปทั่ว ...ไคโตะ

    แสงไฟสปอตไลท์สีขาวเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินทันทีที่จับมายังร่างของเด็กหนุ่ม ไคโตะยืนนิ่งขาชาวูบเมื่อได้ยินคำของวริณ

    ตุ๊กตาฮาโรลด์ ที่สามารถขยับนิ้วก้อยได้เอง.... อารัษ

    ไฟเปลี่ยนสีอีกครั้ง คราวนี้เป็นสีส้มอมซีเปียชวนหดหู่ อารัษสะดุ้งเฮือกด้วยความไม่นึกว่าคนต่อไปจะเป็นตน

    ตุ๊กตาคิคุโกะ ที่มีวิญญาณเด็กสาวสิงสถิต...คาโอรุ

    สีแดงอมชมพูเหมือนสีของกิโมโนบันรากุฉายลงมายังร่างของคาโฮรุ ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายยามต้องแสงก่อนที่มันจะวูบลงเมื่อสปอร์ตไลท์เปลี่ยนไปจับซินเซียแทน

    ตุ๊กตาเอมิเลียแสนน่ารังเกียจ คุณซินเซีย

    ซินเซียยืนจังก้าสู้แสงสีไม่สนคำพูดประชดประชันก่อนจะทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่กล้องที่ดำอันเล็กที่ติดอยู่บนโคมไฟ ก่อนที่แสงนั้นจะเปลี่ยนไปวูบไหวใส่ทาเวียแทน

    ตุ๊กตาลิซซี่เบอร์เดน ผู้มีพลังขวานอันน่าอัปยศฆ่าได้แม้แต่ผู้มีพระคุณ.....คุณทาเวีย

    ทาเวียสะดุ้งกึกก่อนจะตวาดแว๊ดไม่สนใจใครด้วยความกลัวใส่กล้องตัวที่ซินเซียยิ้มใส่ ดวงตาสีแดงเริ่มมีน้ำตารื้อขึ้นมา แต่วริณไม่สนใจกลับเคลื่อนสปอตไลท์ไปหาหุ่ยนตืหนุ่มที่ยืนข้างๆคาโอรุแทน

     คุณหุ่นยนต์ที่ดีแต่ทำลายสิ่งของและชีวิตเพื่อเจ้านายที่รัก ... 2105 ไซเรน

    2105ทำหน้าตายไร้อารมณ์แล้วพยักหน้ารับ ไฟสีเงาดำอมดำสาดลงมาทำให้แขนที่มีสายไฟโลหะห้อยประโยงระยาง

    และ.....

    เด็กชายเว้นวรรคเล็กน้อยก่อนที่ไม้กางเขนสีดำสนิทจะถูกหย่อนลงมาแขวนกลางห้อง ไฟสีแดงส่องมายังสิ่งนั้นอย่างกับถูกตั้งระบบไว้อยู่แล้ว เลือดสีแดงสดไหลออกาไม่ขาดสายราวกับภาพความโหดร้ายของพระนางอลิซาเบธ บาโธรี่ ทันทีไฟจับสิ่วที่ถูกตรึงไว้ก็ปรากฎ

    ตุ๊กตาอลิซาเบธบาโธรี่...นาซิก!!!!

    เด็กหญิงที่เคยห้าวหาญตอนนี้กลับถูกตรึงบนไม้กางเขนสีดำรัตติกาล ในท่าพระเยซู  ดวงตาสีแดงจ้องมองต่ำลงมาที่พื้นเบื้องล่างราวกับแกะที่ถูกรับโทษโหดให้ประหารทั้งเป็น แขนและขาถูกลิ่มเหล็กอันใหญ่แทงทะลุจนเลือดไหลมาไม่หยุด ตามร่างกายมีรอยแผลถูกตีและเเผลบาดจากการถูกมีดฟันเป็นแผลเหวอะแหวะชวนให้ขนลุก

    นาซิก!!!

    ซินเซียตะโกนลั่นแล้วหันไปหยิบปืนที่พกไว้ข้างหลังขึ้นมาหวังยิงให้โซ่หลุดแต่ก็ชะงักเมื่อเห็นว่าไม้กางแขนนั้นแกว่งไปมาชวนให้คิดว่าหากมันหล่นจะเกิดอะไรขึ้น

    ทันทีที่ซินเซียชักปืนขึ้นมา พื้นก็แยกออก ปรากฏแทงเหล็กแหลมนับพันที่พ้นพื้นขึ้นมาประมาณหนึ่งเมตร เหล่าตุ๊กตากลืนน้ำลายดังเอื๊อกด้วยความกลัวก่อนที่จะรีบหันไปห้ามซินเซียไม่ให้ยิง ไม่งั้นมีหวังนาซิกต้องตายอย่างทรมาณกว่าที่เห็นแน่ๆ

    ถ้าคุณกล้ายิงก็ลองสิ ผมจะปล่อยเขาลงพื้นให้ดูเลย คิกคิกคิก

    ไอ้!!!อารัษถึงกับสบถลั่นไม่กล้าขยับจนกระทั่งไม้กางขนนิ่งลง เสียงหัวเราะของวริณก็ดังขึ้นแทน

    ผมจะทำให้ที่มีเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบ คิกคิกคิก คงสวยน่าดูเนอะ...คุณนาซิก

     

    วริณเอ่ยพูดกับนาซิกที่ถูกตรึงไม้กางแขนสีดำรัตติกาล

    เด็กหญิงที่สติเลือนรางเข้าทุกทีๆสะบัดหน้าไปมาแผ่วเบาเชิงตอบคำถาม เธอยกใบน้าไร้สีเลือดตัวเองขึ้นมาจ้องมองทุกคนอย่างกับจะพูดว่า ช่วยด้วย

    คิก เอาล่ะ ลองใช้สมองของคุณ คิดดูสิครับว่าต้องทำยังไงถึงจะช่วยเพื่อนได้

    วริณเอ่ยขัดความคิดที่ว่างเปล่าของทุกคน  2105สะบัดหน้าน้อยๆแล้วระบายยิ้มเหี้ยม  ดวงตากลสีเทากลอกไปมาก่อนจะมาหยุดที่กล้องวงจรปิดสีดำเครื่องเล็ก แล้วเอ่ยเสียงเหี้ยมไม่แพ้กับรอยยิ้มให้กล้อง

    ก็ฆ่านายไงล่ะ!

    ฮ่าๆ ถูกต้องครับ ฆ่าผม” 2105ยิ้มเมื่อคำตอบของตนเองนั้นถูกต้องแต่ก็ถูกขัดขึ้นมาเสียก่อน

    แล้วจะฆ่าผมยังไงล่ะครับ?”

    ครึ่ก!

    โซ่ที่ใช้แขวนไม้กางเขนสีดำของนาซิกหล่นลงมา1ข้อทำเอาทุกชีวิตตรงนั้นสะดุ้งเฮือก ไคโตะทำหน้าเลิกลั่กแล้วหันไปมองทาเวียข้างๆ เด็กหญิงส่งสายตาทำตัวไม่ถูกกลับมาแล้วเดินเข้าไปอยู่เยื้องๆไคโตะก่อนจะเอ่ยเรียบแผ่วโดยทำสีหน้าปกติด้วยความแนบเนียน

    “...เอางี้ไหม

    หะ

    เด็กหนุ่มสะดุ้งเบาๆเมื่อได้ยินเสียงเด็กหยิงที่ยืนเยื้องอยู่ข้างหลัง ดวงตาสีฟ้าที่มีเพียงข้างเดียวใช้หางตาเหลือบไปมองด้วยความสงสัย

    นายมีความว่องไวสูง นายเอาคาตานะที่ฉันซ่อนไว้ในตัว2105ไป มันเห็นเราด้วยวงจรปิด นายก็ทำลายกล้องซะสิจะได้จบๆ

    ไคโตะไม่พูดแต่ก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะใช้ความเนียนและความว่องไวอย่างที่ทาเวียว่าไปยืนหลบมุมมืดข้าง2105โดยที่ไม่ให้วริณรู้ หุ่นยนต์หนุ่มใช้หางตามองไคโตะก่อนจะเอ่ยเบาๆ

    มีอะไร

    คาโอรุทำหน้างงแล้วหันไปมองตามเสียง2105แต่ก็ถูกอารัษจนต้นคอไว้ไม่ให้หันไป อารัษทำหน้าเหมือนกลัวว่าความจะแตกแล้วโน้มตัวลงมากระซิบ

    อย่าเพิ่งขยับ กำลังหาทางช่วยนาซิกอยู่

    “...อะ อืมชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะหันไปโต้ตอบกับวริณเพื่อเรียกความสนใจจากเด็กชายผู้คุมเกม จังหวะเดียวกันกับที่2105ใช้มือกลยื่นคาตานะให้ไคโตะข้างหลัง ไคโตะที่ได้คาตานะไว้ในมือแล้วยิ้มเล็กๆแล้วหายพลุ่บไปกับผ้าม่านสีดำที่ถูกกั้นระหว่างห้อง

    ซินเซียที่ยืนนิ่งหัวเราะในลำคอเล็กๆก่อนจะเอ่ยให้เด็กชาย นี่ไอเด็กโรคจิต

    หืม?”

    วริณส่งเสียงในลำคอขึ้นมาหลังจากโต้วาทีกับคาโฮรุอยู่นาน ดวงตาสีแดงสดของหญิงสาวจ้องไปยังกล้องวงจรปิด

     เมื่อกี้แกถามว่า ฉันจะฆ่าแกยังไงใช่ไหม?”

    วริณขำเสียงแหลมขึ้นมาแล้วตอบ ใช่ครับ

    ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก

    ข้อโซ่ถูกชักขึ้นไปก่อนจะถูกชักลงมาสามข้อพร้อมแกว่งแรงกว่าเก่าราวกับว่าวริณกำลังสนุกที่เห็นพวกเขามีสีหน้าจริงจัง เด็กชายหัวเราะหึหึก่อนจะเงียบไปเมื่อเสียงอารัษดังขึ้นต่อคำพูดของหญิงสาว

    งั้นฉันขอตอบว่า....

    “....”

    ทั้งห้องเงียบโดยพลัน อารัษก้มหน้าลงไปที่พื้นมือข้างที่ไม่หักยกขึ้นมากลั้นหัวเราะจนทุกคนในห้องหันมามองอย่างเฝ้ารอคำตอบจนกระทั่งเงาดำๆผลุ่บผ่านสายตาไปวูบหนึ่งอารัษจึงจะเงยหน้าขึ้นมา

    บุกมันไปตรงๆเลย!

    ฉับ!!!

    เสียงดังฉับดังขึ้นหลังจากเสียงของอารัษเงียบหายไป ร่างของไคโตะโหนอยู่ที่เซนเดอเรียหรูท่าราวกับนักมายากลโหนตัวในคณะละครสัตว์ ปากคาบคาตานะญี่ปุ่นของทาเวียไว้ ดวงตาสีฟ้าหันมาขยิบให้ทุกคนก่อนที่เขาจะตลบร่างขึ้นไปยืนอยู่โคนเชิงเทียน เท้าที่มีรองเท้าหนังหุ้มส้นเขี่ยกล้องที่ติดอยู่ให้หล่นลงไปที่พื้นที่มีเหล็กแหลม  กล้องวงจรปิดอันนั้นเสียบทะลุคาเหล็กแหลมตามที่คาด

    “เรียบร้อย”

    ไคโตะตะเบ๊ะแล้วแกว่งเซนเดอเรียให้ไปใกล้ระเบียง แล้วดีดร่างตัวเองไปที่ระเบียง เหยียบเข้าที่ตุ๊กตาเต็มๆ ไม้กางแขนที่ใช้แขวนนาวฺกหยุดแกว่งลงแล้วเพราะไม่มีผู้ควบคุม เสียงปรบมือดังขึ้นตามเสียงหวาน

    “เยี่ยมมาก”

    ซินเซียปรบมือชื่นชม แล้วเดินเข้าไปที่ดงเหล็กแหลมหวังฉุดขานาซิกให้ลงมา แต่ ฉากดีๆในละครมักมีน้อยเสมอ....

     

    ฟุ่บ!! ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก

    เหล็กที่ใช้แขวนถูกดึงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ซินเซียตาโตด้วยความตกใจก่อนจะได้สติเมื่อเสียงเรียกของคาโอรุและทาเวียดังขึ้น หญิงสาวรีบดึดตัวออกจากตรงนั้นทันทีด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาสีแดงกวาดไปมองหาร่างของไคโตะที่กำลังวิ่งไปตามระเบียงก่อนจะหายไปในม่านดำอย่างรวดเร็วราวกับแมวดำ

    “อะไร.....กัน.......ค....รับเ....นี่ย เล่นซะ....ผม....ตกใจเชียว....”

    เสียงยานคางของเด็กชายโรคจินคนเดิมดังขึ้น ใบหน้าของทุกคนซีดมากว่าเดิมก่อนที่กล้องสองตัวจะโผล่มาจากผนังสองข้างระเบียง เสียงหัวเราะดังขึ้นทุกคนในตรงนั้นถึงกับนิ่งราวกับมีความผิด ก่อนที่ประตูใต้ระเบียงจะเปิดออก ดวงตาสีเเดงของผู้คุมเกมวาวโรจน์ในม่านหมอกที่พวยพุ่งออกมา ก่อนที่วริณจะพูดขึ้นมา
    "เอาล่ะ......มาเล่นเกมนี้ให้จบๆเหมือนที่คุณทาเวียพูดดีกว่าไหมครับ?"
    เด็กชายยิ้มหวานผิดกับสถานการ์ณก่อนจะหันไปมองไม้กางเขนสลับกับใบหน้าของเหล่าตุ๊กตาที่กำลังกลัวทีล่ะคน
    "นายต้องการอะไร"
    2105พูดเสียงดังให้เด็กชาย วริณยิ้มเลือดเย็นเเล้วกางเขนออกดวงตาสีเเดงวาวโรจน์ดุจโลหิต เเล้วตะโกนตอบอย่างไม่ต้องสงสัย
    "ตุ๊กตาไงครับ!"
    ทันทีที่เด็กชายพูดจบ เหล่าตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ห้อยระโยงระยางบนเพดานก็หล่นลงมา ตุ๊กตาหุ่นเชิดที่หล่นลงมาเปลี่ยนท่าทีเป็ฯท่าเต้นรำก่อนที่มันจะเริงระบำไปรอบๆห้อง 2105ยิ้มเเล้วก้าวเท้าออกไปเพื่อก้าวไปหาเด็กชาย
    ครึ่กกกกกก

    เสียงโซ่ตรวนกระทบกันดังขึ้นทำให้หุ่นยนต์หนุ่มชะงัก ดวงตากลเงยขึ้นไปมองไม้กางเขนสีดำที่ถูกปลายลงมาจากสุดเพดานสูงก่อนที่จะถูกฉุดจนลิ่มที่ใช้ปักที่เเขนของนาซิกคว้านเอาเเผลเปิด เลือดไลออกมาเป็นสายราวกับสายฝน ซินเซียมองไม้กางเขนนั้นเเล้วถึงกับขมวดคิ้ว หยาดเหงื่อผุดพรายทั่วไปหน้า เด็กชายผู้คุมเกมหัวเราะคิกเเล้วเอ่ยกับตุ๊กตา
    "ผมขอเตือน ถ้าใครคิดจะเดินหรือขยับเล็กน้อย ผมจะทำให้เธอทรมาณเเน่ๆ!"
    วนายน้อยพูดเสียงจริงจัง เเล้วชี้นิ้วไปยังนาวิกที่เเขวนอยู่อย่างสะใจที่เห็ฯเหล่าตุ๊กตามีสีหน้าหวาดกลัว 2105หุบเท้ากลับลงมายืนในท่าสงบนิ่งไม่ขัดคำสั่งใดๆ
    "ตุ๊กตาของผมน่ะ ต้องเป็ฯคนที่สิ้นหวังทีสุด ปผมอยากให้คุณเหนภาพอันน่าิสิ้นหวังที่สุดตอนนี้เลย"
    นายน้อยตอบเเล้วดีดนิ้วดังเพี้ย! เพื่อเรียกให้เหล็กเเหลมกลับลงไปที่พื้นดังเดิม

    โซ่ตรวนใหญ่กระทบกันดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างของเด็กหญิงที่ถูกปล่อยลงมาจากไม้กางเขน ร่างกายอันบอบช้ำของเด็กหญิงตกลงพื้น ไอจางๆของฝุ่นที่ปลิวตามแรงลมก็ฟุ้งเป้ฯควันฝุ่นจางๆ วริณยิ้มพอใจกับภาพที่เห็นก่อนจะกวาดสายตามองเหล่าตุ๊กตาอีกครั้ง

    “คำถามแรกของผม....?”อลิซาเบธ บาโธรี่เคยทำอะไรกับสาวโรงนาแถวคฤหาสน์

    ไม่มีคำตอบจากเหล่าตุ๊กตา มีเพียงเสียงลมหายใจถี่รัวใกล้ตายของนาซิกเท่านั้น เด็กชายยิ้มแล้วพลางเอามือเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นมา แล้วตะโกนถามอย่างเหลืออดอีกครั้ง

    “ผมถามว่า!!!! อลิซาเบธ บาโธรี่เคยทำอะไรกับสาวโรงนาแถวคฤหาสน์!!!!!!!!

    “อลิซาเบธ บาโธรี่ นำเด็กสาวพวกนั้นมารีดเลือดเพื่ออาบแทนน้ำเพราะคิดว่มันทำให้ความงดงามของหล่อนคงอยู่ตลอดกาล”

    เป็นเสียงของอารัษ ชายหนุ่มที่ขาหักไปแล้วข้างหนึ่ง เขาเอามือข้างที่ไม่หักปาดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าผากออกขณะที่พูด ดวงตามองไปยังเด็กชายที่เบิกตากว้างมองพวกเขา ทาเวียมองคนที่อยู่ข้างๆด้วยใบหน้าซีดเผือกแล้วก็หันไปมองดวงตาขอคความช่วยเหลือจากนาซิก ที่จริงหากเธอเอาปืนขึ้นยิงเด็กชายก็ยังได้ แต่ว่ามันก็มีโอกาสสูงที่เหล็กแหลมพวกนั้นจะถูกสั่งให้ยืดขึ้นมาแทงนาซิกได้อีก เธอจึงดูเชิงไปก่อนเพื่อความปลอดภับของผู้ร่วมชะตากรรม

    “งั้น..คำถามสอง เธอใช้อะไร”

    ทุกคนเงียบเช่นเคย แต่เด็กชายกลับไม่มีท่าทีดุร้ายเช้นตอนแรกกลับยกมือขึ้นมากลั้นขำเสียเฉยๆทำให้คนในห้องนิ่ง ประตูใต้ระเบียงถูกเปิดออกพร้อมควันสีขาวที่มาพร้อมกลิ่นยาชวนเวียนหัว นาซิกมองควันที่ลอยเข้ามาใกล้ด้วยความสงสัยจนกระทั่งก๊าซที่ว่าเข้าไปสู่ร่างกายเธอก็ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

    พลันร่างกายของเด็กสาวก็กระตุกเกร็งเลือดที่ไหลอาบก็หยุดไหลอย่างกะทันหัน เลือดไหลขึ้นวูบที่ใบหน้าจนเด็กหญิงหน้าแดงก่ำ ดวงตาสีแดงโกเมนเหลือกขึ้นด้านบนอย่างทรมาณ นาซิกกัดฟันกรอดเมื่อรู้สึกราวกับทั้งร่างกำลังถูกบีบรัดด้วยมือที่มองไม่เห็น วริณหัวเราะคิกในลำคอพลางเผยมือไปทางเด็กหญิงที่เริ่มกรีดร้องโหยหวนเมื่อได้รับยา

    “เอาล่ะ! ขอเชิญดูโชว์ต่อไปนี้เลยครับ!

    สิ่งที่แหวกดงม่าฃนหมอกกลิ่นยาเหียนนั้นคือ ไออ้อนเมนเดน...

    “ใครก็ได้บอกฉันทีว่านี่ คือฝันร้าย”

    เสียงเลือนลอยดังขึ้นจากซินเซีย ไออ้อนเมนเดนที่ปรากฏขึ้นส่งกลิ่นเลือดคาวคลุ้งทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นเวียนหัวเมื่อมันมาผสมปนเปกับกลิ่นยาชวนเหียนนั้น ไคโตะขยี้ตาก่อนจะมองสิ่งของที่เลื่องชื่อด้านฆาตกรรมตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองพร้อมกับเอ่ยเสียงแผ่วเบา

    “คงงั้นมั้ง.........ฮ่ะ อ่ะ”

    ภาพตรงหน้าเริ่มทวีความรุนเรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างของนาซิกถกูเด็กชายที่มีอายุเกินร่างกายดึงขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ที่ถูกวางอยู่ท่ามกลางดงหนามแหลมในไออ้อนเมนเดน ดวงตาของเด็กหยิงเหลือกด้านบนแต่ก็กระตุกลงมามองอย่างทรมาณ มือเล็กเรียวที่เปื้อนไปด้วยเลือดยื่นมาข้างหน้าราวกับคาดหวังให้ใครสักคนช่วย แต่ว่าก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นนอกจากเสียงของวริณที่ขู่ตลอดเวลา ดวงตาของนาซิกวูบไหวอย่างหวาดผวาเมื่อเห็นหนามแหลมที่คมกริบ

    ชวนให้นึกถึงตอนที่เธอถูกเชิญมาร่วมเกมนี่จริงๆ

     

    ............................

    สภาพร่างกายฉันตอนนี้คงเรียกได้ว่า โชกเลือด

    มือและร่างกายฉันเต็มไปด้วยสีแดงสดของเลือด ดวงตาสีโลหิตที่ได้มาจากพ่อของฉันก็แดงก่ำเพราะร้องไห้เช่นกัน

    อ่อนแอเสียจริง ...ฉันเนี่ย

    ฉันค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากสน.เขตที่ตำรวจผู้รับผิดชอบงานของนาซ่าประจำอยู่ ฉันยกมีดอีโต้ในมือขึ้นมาปาดเลือดทิ้งออกอย่างไม่ใส่ใจแล้วค่อยๆเก็บมันเข้าไปสอดอยู่ใต้เสื้อแหนบกับเข็มขับหนังสีดำที่มีที่เก็บเฉพาะ  เวลาตอนนี้ก็ปาเข้าไปตีสามเข้าไปแล้ว แสงไฟริมถนนในยามนี้ไม่มีอีกแล้วเหมือนทางรัฐบาลจะดับไฟในบริเวณนี้เมื่อล่วงเลยเที่ยงคืนไป ฉันเลยได้พรางตัวที่โชกเลือดไปกับความมืดรอบตัว

    “เฮ่อ....”

    ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเดินมาถึงซอยกันดารที่สุดในหมู่บ้านซึ่งบ้านหลังในสุดก็คือบ้านของฉัน  ผู้คนในซอยนี้ดูเหมือนจะหลับกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงแสงนวลที่ติดๆดับๆของไฟข้างถนนริมทาง ฉันกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตากับแสงไฟเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในซอยอย่างไม่คิดอะไร

    ต้องจัดการเลือดกับสิ่งที่เปื้อนเลือดทั้งหมดในบ้าน....

    ต้องอาบน้ำ ซักผ้าแล้วจัดตารางสอน แล้วต้องให้แม่มารับหน้าบ้าน

    แม่...?

    แม่ถูกฉันฆ่าไปแล้วนี่นา......

    ขอบตาฉันร้อนผ่าว น้ำใสๆไหลคลอที่ขอบตาฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้เมือนึกถึงแม่ขึ้นมาซะเฉยๆ ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้ว แม้แต่แม่ แมวก็ไม่มีแล้ว คนเดียวแล้วจริงๆ

    ฉันยื่นมือไปหยิบกุญแจรูปกระต่ายซึ่งเป็นกุญแจบ้านขึ้นมาก่อนจะใช้มันเปิดบ้านเข้าไป

    ให้ตายสิ ฉันรู้เลยว่าสิ่งตรงหน้าคืออะไร

    บ้านที่เลอะไปด้วยเลือดแดงๆ ศพของโซเฟีย กระถางที่แตก แจกันดอกไม้ร่วงกราวเต็มพื้น และกลิ่นคาวคละคลุ้ง

    ถงตอนนี้ฉันหลับตาลงแล้วค่อยๆก้าวเข้ามาในบ้าน สะบัดหน้าเล็กๆแล้วลืมตาขึ้นเพื่อนพบความเป็นจริง

    “เอ๊ะ”

    “ยินดีต้อนรับค่ะ คุณนาซิก”

    เมดสาวยืนอยู่ตรงหน้าฉัน หล่อนใส่ชุดเมดเหมือนในหนังคุณหนูที่พ่อเคยเปิดให้ดู ดวงตาสีฟ้าเหมือนลูกครึ่งจ้องมาที่ฉัน สภาพบ้านเบื้องหลังก็เรียบร้อย เรียบร้อยจนเสียคิดว่าไม่ใช่บ้านฉัน พื้นถูกขัดถูอย่างดีจนเป็นเงา นี่อย่าบอกนะว่าหล่อนทำน่ะ....

    “ฉันชื่อเมลล่าค่ะ มาจากคฤหาสน์กรนทิวาคุณ ฉันยากเชิญคุณร่วมงามเลี้ยงในค่ำคืนของนายน้อยที่คฤหาสน์ค่ะ นี่คือตั๋วรถทัวร์และวิธีขึ้นมาที่คฤหาสน์นะค่ะ”

    “เดี๋ยวสิ! ฉัน”

    “ยังไงคุณก็ไม่มีที่ไปแล้วนี่ค่ะ คุณนาซิก...ไม่คิดไปพบชีวิตเหรอค่ะ นายน้อยสนใจคุณมากที่สุดเลยนะรู้ไหม”

    “นายน้อยอะไรกัน เธอเข้ามาในบ้านฉันได้ไง “

    “คุณนาซิกค่ะ สภาพยังงั้นยังคิดจะหนีความจริงอีกเหรอค่ะ”

    “...อึก คุณ.....ฉัน จะ....ไ..ป ไปก็ได้ ฉันยากหลุดพ้นจากชีวิตเส็งเคร็งนี้ ฮือ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันอยากไปที่อื่น”

    ฉันทรุดไปที่พื้น ร้องไห้ออกมาเสียงดังยาวนาน คุณเมลล่าเดินเข้ามากอดฉันเบาๆจนเลือดที่อาบร่างเปื้อนชุดเมดสวยของคุณเมด

    ฉันอยากไปจากที่นี่แล้ว ไม่อยากเจอ

    บาดแผลทางใจ นี่อีกต่อไปแล้ว

     

    ...................

    แล้วยังจะขอร้องชีวิตกลับไปยังที่นั้นอีกหรือ นาซิก

    เด็กหญิงคิดในใจเมื่อมองหนามแหลมที่บีบเข้ามาใกล้เรรื่อยๆ เสียงโหวกเหวกของเหล่าตุ๊กตาว่า”ให้ถีบประตูออกมา”ไม่เข้าในโสตประสาทของเธอเลยแม้แต่น้อย นาซิกหลับตาลง ยกมือที่กระตุกเกร็งขึ้นพนมกลางอกอย่างลำบากแล้วเอ่ยเบาๆให้กับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต น้ำตาเธอไหลอาบแก้มเพื่อเป็นการส่งวิญญาณเธอลงสู่ก้นบึ้งของจิตใจ

    “แม่ นาซ่า พ่อ .......”

    แอ๊ด.... ไออ้นเมนเดนกำลังปิดลงอย่างช้าๆ หนามแหลมทิ่มแทงร่างนั้นที่ล่ะน้อย นี่คงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากที่นั้น บาดแผลทางใจกำลังจะถูกล้างไปด้วย “ชีวิต”ของเธอเอง

    “ถีบประตูออกมาสิ!!!!!

    เสียงของคาโอรุดังขึ้นผสมกับเสียงขอเหล่าตุ๊กตาคนอื่นๆ นาวิกยิ้มเล็กๆแล้วเอ่ยเสียงแผ่วคำสุดท้าย

    คำสุดท้ายของชีวิตที่เธออยากจะพูดกับพ่อแม่เธอมากที่สุด

    “หนูขอโทษค่ะ.....”

    ปั๊ก!

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”

    เลือดสีแดงทะลักออกมาจากไออ้อนเมนเดน ดวงตาของเหล่าตุ๊กตาเบิกโพลงด้วยความตกใจผสมกับความกลัว

     

    “นาซิกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!

     


     

    ........---------------

    ประกาศค่ะ




    กลับมาเเล้วค๊า T^T กินเวลาเเต่งไล่นานมาก PORT วิชาต่างๆไหลมาไม่หยุด รวมทั้งหมดก็12งานน่าจะได้ T^T ขอบคุณสำหรับเเฟนคลับที่ตามมาถึงเฟซนะค่ะ


    รักค่ะ ;3  จาก ไรท์เตอร์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×