ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BLOOD_KILL เกมนี้มีเเต่ตาย!?

    ลำดับตอนที่ #16 : บทสิบสาม //ไล่ตาม

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 55


     
    ฉันเจอกับท่านวริณตอนที่ฉันเพิ่งเป็นเมดใหม่ๆในคฤหาสน์ ตอนนั้นฉันเพิ่งอายุ15ปีเเละทำงานในคฤหาสน์ได้เพียงสามเดือนตอนนั้นท่านหญิงเเละท่านชายยังไม่ทิ้งคฤหาสน์ไป เเละ ท่านหญิงก็เพิ่งคลอดลูกชายฉันจึงได้เป็นผู้คอยรับใช้ท่านหญิงส่วนตัว
    "เมลล่า นี่วริณ ลูกฉันเองเพิ่งคลอดได้สามวัน"
    เสียงของนายหญิงดังขึ้นใกล้ฉันที่ยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมกับยื่นเด็กทารกคนหนึ่งมาให้ ฉันค่อยๆยื่นมือไปรับเขาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเเล้วดูใบหน้าขาวๆนั้น
    "น่ารักจังเลยค่ะ ท่านหญิง"
    "ใช่ไหมล่ะจ๊ะ ฉันที่ร่างกายอ่อนเเอยังมีลูกที่น่ารักได้ขนาดนี้"
    ท่านหญิงส่งรอยยิ้มหวานให้ฉันเเล้วค่อยๆยื่นมือมารับนายน้อยไปกอดที่อกพร้อมให้นมเด็กชายอย่างอ่อนโยน ฉันยิ้นหวาน อา ในที่สุดนายน้อยเเห่งตระกูลกรนทิวาคุณก็เกิดขึ้นมาเสียที คราวนี้ตระกูลก็มีผู้สืบทอดเเล้ว
    "เเต่ เมลล่า" ท่านหญิงพูดขึ้นมาเสียงเย็นๆ
    "ค่ะ..?"
    "ฉันขอฝากเขาไว้กับเธอนะ...เธอเป็นเเม่บ้านที่อายุน้อยที่สุดเเต่ทำงานดีที่สุดในคฤหาสน์ ฉันคิดว่าเธอดูเเลลูกชายฉันได้"
    ฉันพยักหน้ารับเเล้วส่งยิ้มหวานๆให้ท่านหญิงก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องเพราะท่านคงต้องการพักผ่อนเเละรอเวลาที่ท่านหญิงจะกลับมาเเข็งเเรงเเละพานายน้อยเดินรอบคฤหาสนืเพื่อให้เขารู้ว่าบ้านตัวเองเป็นเช่นไร
    เเต่ว่า ครั้งนั้นฉันคิดผิด
    หลังจากวันนั้นท่านหญิงก็หายไปจากคฤหาสน์ ทิ้งฉันให้ดูเเลนายน้อยเสียเอง.....

    ................

    "พี่สาวครับ!?"
    วริณตาเบิกค้างมองสาวรับใช้ที่ถูกตรึงอยู่กับหินงอกหินย้อย กระจกที่เคยอยู่ในมือร่วงลงสู่พื้นเเตกกระจาย เศษกระจกกระเโ้นไปปักคาอยู่ที่ขาเล็กๆของเด็กชาย ก่อนที่เด็กชายจะตะโกนขึ้นมาเสียงดังท่มกลางความเงียบงัน
    "พวกเเก พวกเเก พวกเเก! พวกเเกทำร้ายพี่สาว!!" ร่างเล็กเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง มือสองข้างยกขึ้นมาจิกผมเเน่นราวกับคนเสียสติ สายตาสีเเดงมองไปยังเหล่าตุ๊กตาที่ละตัวก่อนจะมาหยุดที่อารัษที่มือมีปืนM16
    "นายน้อย ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ"เสียงเเผ่วเบาของสาวรับใช้ทำให้เด็กชายละสายตามามองเธอเเทน
    "ทำปากดี"
    นาซิกกัดฟันกรอดพลางเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา เเต่เสียงเบานั้นกลับดังเข้าไปถงหูของวริณ
    "นาซิก เธอทำอะไรพี่สาว" วริณถลึงตาใส่เด็กหญิงพร้อมว่าจนนาซิกต้องเงียบปาก
    เด็กชายใช้ดวงตาสีเเดงกวาดมองไปทั่วบริเวณ มือที่จิกอยู่ที่ผมค่อยๆผ่อนเเรงลงริมฝีปากเหยียดขึ้นเผยรอยยิ้มผ้คุมเดมอีกครั้ง
    "ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าๆๆๆ"
    จู่ๆเด็กชายก็หัวเราะขึ้นมา มือข้างนึงยกขึ้นมากุมดวงตาที่มีผ้าพันเเผลปิด ท่ามกลางค่อยงุนงงของเหล่าตุ๊กตา วริรหัวเราะเสียงเเหลมยาวนานก่อนที่ร่างของเด้กชายจะทรุดลงไปกับพื้น
    "ฮะ ฮะ ฮะ ที่เเท้ ที่เเท้ก็กลัว กลัวที่จะเสียคนสำคัญ กลัว ...กลัวความตาย กลัวความมืดมิด กลัวการจากลา! ฮะฮะ ฮะ ไร้สาระ ไร้สาระ ไร้สาระที่สุด โลกใบนี้ช่างไร้สาระเสียจริง!!!!"
    ปัง!
    เสียงดังไปทัาวพื้นที่ ดวงตาสีเเดงสดเบิกกว้าง ลูกกระสุนเงินเจาะเข้าไปหัวไหล่ซ้ายของเด้กชาย ฝังลึกลงไปในกล้ามเนื้อเล็กๆนั้น เลือดสีเเดงสดราวกับดอกกุหลาบเเดงไหลทะลักออกมา เด็กชายนำมือไปเเตะปากเเผลนั้นก่อนจะเลื่อนมือนั้นไปยังปากเเผล เสียงเฃล็กๆที่ตอนเเรกหัวเราะลั่นเปลี่ยนมาเป็นกรีดร้องด้วยความเจ้บปวดทันที ตอนเเรกทุกคนนึกว่าเป็นอารัษที่มีปืน ผิดคาด กลับเป็น2105ผู้สงบนิ่งเสียเเทน
    "อ๊ากกกกกกกกก"
    "นายดูถูกมนุษย์มากเกินไป"
    2105เอ่ยเพียงเเค่นั้นก่อนจะลดปืนลง ตามด้วยเสียงซินเซียที่ดังขึ้น
    "ไร้สาระ ฉันว่านายต่างหากล่ะที่ไร้สาระ"
    หญิงสาวใช้สายตาราวกับตัวอิจฉามอง มือข้างหนึ่งถือมีดสั้นขนาดเล็กที่พกติดตัวเเล้วค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เด็กชายกัดฟันกรอดเเต่เพียงเเวบเดียวเด้กชายก็เผยรอยยิ้มยียวนขึ้นมา

    "หึ ผมนะเหรอ ไม่มีทางล่ะ พี่สาวครับ จัดการเลย!!!"

    สิ้นคำสั่ง ร่างของเมดสาวที่เคยถูกมัดก็พุ่งเข้ามาหาซินเซีย พร้อมกับสันที่ฟาดเข้ามายังท้ายทอยของหญิงสาว เธอร้องขึ้นมาด้วยความตกใจก่อนที่จะล้มพั่บลงไปต่อหน้าต่อตาทุกๆคน

    "อะไรว่ะ ฉันมัดเธอเเน่นเเล้วนี่!!?" นาซิกตะโกนขึ้นมาเเละผงะถอยหลังไปตั้งหลักใกล้ไคโตะทันที ไม่นึกว่าคนตรงหน้าจะใช้เล็บจิกเชือดจนขาด มือของนาซิกจับมีดอีโต้เเน่นพร้อมที่จะฆ่าศัตรูได้ตลอดเวลา ุกคนกลังตะลึงกับทุกสิ่งตรงหน้าที่กลับตาลปัตร ผู้เคยจะถูกฆ่ากลับมาเป็นผู้ฆ่าอีกครั้ง เด็กชายยันตัวขึ้นจากพื้นเล้วถูกหยิงสาวอุ้มขึ้นมาในอ้อมอก เด็กชายหัวเราะเป็นผู้คุมเกมอีกครั้งเเละค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปหาสาวใช้เเล้วกระซิบข้างหู เมลล่าพยักหน้ารับคำสั่งเเละชายตามองเหล่าตุ๊กตาก่อนจะกระโจนตัวถอยหลังกลับไปในความมืดมิดอีกครั้ง
    เเต่คราวนี้ไม่ใช่!
    อารัษออกตัววิ่งตามคนเเรกตามด้วยตุ๊กตาคนอื่นๆ ความมืดมิดของถ้ๆค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อยๆ พืนดินกลายเป็นพื้นกระเบือง พนังถ้ำค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน กลิ่ยยาฟุ้งไปทั่วทางเดิน

    "อะไร!? ทางตัน!?"

    อารัษตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจเมือ่เห็นว่าเขาติดอย฿่ในห้องว่างเหล่าเเละไร้ซึ่งทางออกอีกเเล้ส เเถมวริณกับเมลล่าก็หนีไปเเล้วด้วยเช่นกัน
    "อีกเเล้ว"
    ทาเวียเอ่ยขึ้นมาอย่างประชดชีวิต มือข้างที่ไม่ถูกตัดขาดไป เลื่อนยกขึ้นมาตบกบาลอย่างหมดอารมณ์ ตามด้วยเสียงถอนหายใจยาวของเหล่าตุ๊กตาที่ละคน ยกเว้นเพียงแต่คาโฮรุที่กำลังมองไปรอบๆห้องสีขาวสะอาด และเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าห้องนี้ไม่มีเพดานแต่กลับเป็นทางสูงลิบขึ้นไป ดูเหมือนปล่องอะไรบางอย่างและที่ที่เขายืนอยู่ก็เป็นก้นปล่อง อีกทั้งในห้องก็ยังมีกลิ่นยาหรือสารเคมีอะไรบางอย่างเจือจางกับอากาศรอบข้างดูเหมือนกับ ห้องสำหรับทดลองอะไรบางอย่าง
    “ท่าทางเราจะเข้ามาติดในห้องนี้ซะแล้วล่ะ”
    หุ่นยนต์หนุ่มว่าแล้วมองไปยังทางที่เขาวิ่งมา ซึ่งตอนนี้มันก็มีกระจกใสมากั้นเอาไว้บอกได้เลยว่า พวกเขา ‘ติด’ ซินเซียเดินไปยังประตูกระจกใสแล้วใช้นิ้วเคาะเข้าสองสามทีก่อนจะพูดขึ้นมา
    “เหอะ หนามากๆ แบบเดียวยกับที่ใช้ในพิพิธพันธ์สัตว์น้ำเลย”
    “เอาล่ะ คราวนี้ท่าทางเด็กนั่นจะไม่สร้างทางออก ลับให้เราออกเลยล่ะ”
    ไคโตะเอ่ยขึ้นมาเบาๆ สายตามองไปข้างพนังที่มีแต่พนังปูนสีขาวเจือชมพูๆ อย่างหมดความหวัง เมื่อเขาเพ่งสายตาดูสีชมพูๆนั้นดีๆก็เผลอขนลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หากไม่มองให้ดี ก็จะเห็นว่าสีชมพูนั้นมันเป็นเพียงสีชมพูอ่อนๆออกแนวน่ารักๆที่ถูกทาไว้ … แต่มันไม่ใช่ น่ะสิ มันคือเลือดที่แห้งกรังและถูกขัดถูไปแล้ว แต่ยังเหลือคราบไว้จางๆ ซึ่งเมื่อมันผสมกับสีขาวของสีทาบ้านมันก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนๆ
    “ปีนลูกเดียว” อารัษเอ่ยขึ้นมาเมื่อมองทางที่สูงชะลูดขึ้นไป ทุกคนจึงเริ่มเดินไปหาอารัษเป็นวงเพื่อหาทางออก ยกเว้นแต่เพียง...นาซิก
    เด็กหญิงกำลังยืนครุ่นคิดกับกระจกเบื้องหน้าว่าจะหาทางออกจากที่นี้อย่างไร สายตาสีแดงมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก
    พี่นาซิก…..
    เสียงคุ้นหูดังขึ้นแว่วมา.. นาซิกสะดุ้งเฮือกในทันที หลุดจากห้วงความคิดไปชั่วครู่มองไปรอบๆตัว แต่ก็ไม่พบอะไรนยอกจากพนังสีขาวๆกระจกใสๆและภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก... สงสัย จะคิดว่าไปล่ะมั้ง? นาซิกคิดเข้าข้างตัวเองและใช้มือตบไปที่กระจกหน้านั้นแรงๆหวังให้มันสะดุ้งสะเทือนบ้าง จะได้หาทางดึงหรือผลักมันบ้าง เสียงเคาะกระจกดังขึ้นแต่กระจกก็ไม่มีแม้แต่จะสั่นเลย เธอเลยได้แต่ทอดถอนหายใจแล้วเอามือทาบลงไปกับกระจกนั้นเงียบๆ เด็กหญิงหลับตาลงพยายามคิดให้ออก และเธอก็ลืมตาขึ้นมา
    ภาพของตัวเธอเองที่สะท้อนกับกระจกปรากฏขึ้นในสายตาเด็กหญิง ใบหน้าตายด้านและเย็นชาปรากฏขึ้นมาบนกระจก ดวงตาสีแดงคล้ำราวกับเลือดที่สะท้อนออก มันเหมือนกำลังจ้องมองดวงตาของเธอราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อเจ้าของเงา แต่แล้ว เธอก็สะดุ้งเฮือกจนเผลอร้องขึ้นมา เมื่อร่างของตัวเองในกระจกกำลังแสยะยิ้มทั้งๆที่เธอไม่ได้ยิ้ม!!!
    พี่นาซิก พี่นาซิก พี่นาซิก……
    เสียงคุ้นหูดังขึ้นในหัว นาซิกยืนตัวแข็งทื่อและเธอเองก็เริ่มจำได้แล้วว่านั่นเป็นเสียงของใคร ... น้องสาวเพียงคนเดียวของเธอ... นาซ่า....
    พี่นาซิก .... ไปกันเถอะ...ตามที่พี่สัญญาไว้
    สัญญาอะไรฉันไม่ได้สัญญาอะไรเธอไว้!!!.
    นาซิกทรุดตัวลงกับพื้น ปิดหุปิดตาไม่รับฟังเสียงใดๆ แต่เสียงปริศนานั้นก็ยังคงก้องไปทั่ว ร่างกายสั่นสะท้านและหนาวราวกับมีคนนำน้ำเย็นๆมาราด วูบนึงก็เหมือนมีคนมาโอบกอดที่คอเธอไว้หลวมๆ
    ตาของนาซิกเบิกโพลง มองไปยังผู้ที่มากอดเธอไว้ แต่ก็หันไปไม่ถึงจึงได้แต่มองแขนขาวๆที่โอบลงมา จะว่าเป็นทาเวียก็ไม่ใช่เพราะแขนนั่นมือสองข้าง ถ้าเป็นซินเซียก็ควรจะมีถุงมือสีดำแดงและควรดูผู้ใหญ่กว่านี้ แต่นี่มันเป็นแขนสีขาวอวบและเล็ก สายตาเธอเหล่มองเห็นได้เพียงชายแขนเสื้อผู้ที่กอดเธอไว้เท่านั้น แต่ทว่า รอยขาดที่ชายแขนเสื้อนั่นก็ดูคุ้นตาเหลือเกิน ดูเหมือนกับเสื้อ...ของนาซ่า....
    อะ อะไรกัน
    เด็กหญิงคิดถ้อยคำที่คิดว่าตัวเองเอ่ยได้ออกไปเหงื่อแตกพยายามดิ้นให้หลุดจากบุคคลปริศนาที่กำลังค่อยๆออกแรงรัดคอเธอแน่นจนเธอหายใจไม่ออก มือไม้สะเปะสะปะตีแขนคนที่กำลังรัดคออยู่ไม่ยั้ง เล็บที่ไว้ยาวก็ดูเป็นประโยชน์ เธอใช้มันจิกและข่วนแขนนนั้นจนเป็นแผลลึกเลือดไหลออกมาแต่นั่นกลับไม่ทำให้บุคคลปริศนาปล่อยมือออกซ้ำยังรัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของนาซิกเริ่มเขียวเพราะขาดเลือดมาล่อเลี้ยงและเธอก็เริ่มหายใจไม่ออก กระทั่งลมหายใจสุดท้ายกำลังจะขาดห้วงไปนั้น เสียงของคาโอรุก็ดังขึ้นและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
    “นาซิก! เป็นอะไรรึเปล่า!!”
    มือที่ดูบอบบางกว่าผู้หยิงกระชากร่างของนาซิกให้ลุกขึ้น นาซิกที่ถูกปล่อยเป็นอิสระรีบสูดเอาอากาศเข้าไปเต็มปอดจนเธอถึงกับเผลอสำลักหน้าแดง คาโอรุมองเด็กหญิงตรงหน้าที่กำลังสำลักไร้สาเหตุอย่างงงๆ
    “เมื่อกี้ ใครบีบคอฉัน”
    “อะไร? เมื่อกี้ ผมกับพวกเรากำลังหาทางปีนกำแพงกันอยู่ ไม่มีใครมาที่เธอเลยนะ”
     
    หวังว่าจะไม่ใช่…..
     ความสามรถที่เธอเกลียดกำลังมุ่งมาทำร้ายเธออีกแล้ว.....

    "มี...อะไร รึเปล่า"
    นาซิกพยายามทำให้เสียงไม่สั้นก็ก็สั่นจนได้ คาโอรุเคียงคอถามอย่างงงๆใบหน้างดงามเหมือนผู้หญิงสบัดหน้าน้อยๆเเล้วค่อยๆจับมือเด็กหญิงพลางลากไปรวมกลุ่ม นาซิกที่ตัวอ่อนเเรงก็ถูกลากไปได้ไม่ยากเย็นเเม้ว่าจะขัดขืนบ้างก็ตาม
    "นาซิกเธอสามารถไต่ขึ้นคออารัษไปจับไอตรงนี้ได้ไหม"ซินเว๊ยว่าเสียงเซ็งๆ
    "เอ๋...?"
    นาซิกเเหงนคอมองตรงนี้ที่ซินเซียบอก เเล้วค่อยๆหันมามองซินเซียก่อนจะพยักหน้ารับ อารัษยิ้มฝืนๆก่อนจะให้เด็กหญิงไต่ขึ้นมายืนอยู่ตรงบ่าอารัษ พยายามจับส่วนที่ยื่นออกมาจากผนังเเล้วก็พบว่ามันเป็นที่ยืนจึงถือวิสาสะดันตัวไปจับที่ยืนนั้นไป
    "มันเป็นที่ยืน อารัษทำไมนายไม่สูงกว่านี้อีกหน่อยเนี่ย" นาซิกว่าเเล้วทำหน้าเซ็งก่อนจะหันไปทำท่าจะดันไปตัวขึ้นไปอยู่ข้างบน เเต่เขย่งสุดตัวเเล้วก็โผล่มาได้เเค่หัวมองเห็นได้เเต่ทางเดินไม่เห็นโดยรอบ

    "ขอโทษครับ.... มันเป็นที่ยืนสำหรับผมคนเดียว"
    เสียงคุ้นหูดังขึ้น นาซิกตาโตเเล้วก็ลื่นตกลงจากไหล่ของอารัษเพราะโดนเจ้าของเสียงนั้นเหยียบเข้าที่นิ้วที่เกาะอยู่ที่ขอบผนัง ไคโตะตกใจเผลอผงะไปชนเข้ากับ2105เมื่อเห็นว่ามันคือคนที่เขากำลังตามหา
    "ไอเด็กเปรต!!!"
    ซินเซียตะโกนขึ้นมา เมื่อถอยหลังกลับไปไกลๆเพื่อมองคนที่พูดขึ้นมา วริณในชุดสีดำสนิทตัวยาวบังลงมาถึงต้นขาเเละกางเกงสีเทาม่นๆข้างใน ที่ไหล่มีผ้าพันเเผลที่เกิดจากกระสุนของ 2105 ดวงตาสีเเดงโลหิตจ้องมองพวกเขา ก่อนที่ริมฝีปากเล็กของเด็กชายจะเหยียดยิ้มขึ้นเเล้วเอ่ยเสียงเรียบ
    "สารเคมีบางชนิดน่ะ สามารถทำให้คนเสียชีวิตได้นะ?"
    "หะ"
    "อย่างเช่น อย่างนี้น่ะ"

    วริณหยิบกระป๋องสีทองเหลืองขึ้นมาบนมือ เรียกความสนใจจากเหล่าตุ๊กตาก่อนจะค่อยๆเหยียดยิ้มแล้วเขวี้ยงกระป๋องนั้นลงสู่พื้นเบื้องล่าง

    แก๊ง!

    เมื่อกระป๋องนั้นตกลงพื้นดังแก๊งใหญ่ ควันสีขาวก็พ่วยพุ่งออกมาจากกระป๋องนั้น เหล่าตุ๊กตาทั้งหลายสะดุ้งโหยงมองควันสีขาวที่กำลังคลุมพื้นที่เต็มพื้น ส่งกลิ่นแปลกๆที่ทำให้หลายนในกลุ่มถึงกับเวียนหัวแล้วเริ่มทรุด แต่ก็ยังทรุดไม่ได้หากวริณไม่พูดขึ้นมา

    ทุกคนในนี้รู้ใช่ไหมครับ ? ว่าตอนสมัยที่ฮิตเล่อร์ยังเป็นผู้นำของพรรคนาซี เค้าได้ขับไล่และจับชาวยิวในเมืองเยอรมันและประเทศข้างเคียงมาทรมาณที่ค่ายต่างๆในประเทศ และที่โด่งดังที่สุดคือค่ายเอาชวิต์โยที่ หนึ่งในวิธีกำจัดชาวยิวที่อ่อนแอคือจับเข้าห้องแก๊สพิษ โดยที่แก๊สพิษที่ใช้ก็คือ แก๊ส....

    ไซยาไนด์!?”

    เด็กชายเผยยิ้มขึ้นมา สายตาจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังนำมือตะครุบปากตัวเองแน่น

    คุณซินเซียตอบถุกต้องครับและรู้ไหมว่าใช้เวลาประมาณกี่นาที?

    เด็กไอเด็กโตแต่อายุ ! นี่ไม่ใช่เวลาเล่นเกมทายปัญหานะ! แกต้องการให้พวกเราตายช้าๆทำไมต้องให้ยาไซยาไนด์ที่ออกฤทธิ์แรงขนาดนี้กันล่ะ!!?” อารัษตะโกนใส่แสกหน้าวริณที่ยืนอยู่ข้างบนขณะค่อยๆกุมหน้าอกที่เริ่มแน่นเพราะฤทธิ์ไซยาไนด์

    ผมอยากเห็นว่าพวกคุณจะเอาตัวรอดยังไงครับ

    เด็กชายว่าแล้วยืนพิงผนังรอดูละครหาทางหนีจากแก๊สพิษของเหล่าตุ๊กตาโดยเลิกสนใจคำตอบที่เขาถามไป เพราะรู้อยู่แล้วว่าแก๊สนี้ทำลายร่างกายและสามารถทำให้คนตายได้ในกี่นาที

    แก ต้อง การ อะ อะ แค่ก เสียงจากนาซิก เสียงของเธอเริ่มติดขัดและยังพูดไม่จบประโยคดีก็เริ่มสำลักอ้าปากพะงาบๆราวกับปลาขาดน้ำ

    ก็บอกไปแล้วครับ คุณนาซิก แต่ว่า อย่าพูดมากดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะตายก่อนเวลาที่ผมคิดไว้

    ทุกคนในกลุ่มพากันเงียบกริบ บางคนในกลุ่มทรุดลงไปนอนอยู่ที่พื้น ในตอนนี้มีเพียง2105เท่านั้นที่ยังคงเดินไปเดินมารอบห้องหวังหาทางออกจากห้องนี้ ก่อนที่ทุกๆคนจะเสียชีวิตจากฤทธิ์แก๊สที่สามารถทำให้คนตายได้ในเวลาที่ยังไม่ถึงห้านาที แต่แล้วหุ่นยนต์หนุ่มก็สัมผัสได้ถึงทางลมทีระบายออกมาจากผนัง 2105ค่อยใช้มือแข็งกระด้างของตนตบไปแรงๆตรงผนังบริเวณนั้นแล้วก็แน่ใจแล้วว่ามันสามรถใช้ระเบิดพังได้

    สิ้นคำคิด มือของ2105 ก็แปรเปลี่ยนคลายเป็นปืน เขามองไปยังทุกคนที่กำลังทรมาณบางคนถึงกับเริ่มหน้ามืดแล้วกำลังจะหมดสติ ซึ่งแปลว่าพวกเขากำลังใกล้จะตายแล้ว

    ตูม!!!

    เสียงระเบิดดังขึ้นมา วริณสะดุ้งเฮือกหันขวับมายังหุ่นยนต์หนุ่มที่ระเบิดผนังส่วนนั้นจนแหลกเละ อากาศเย็นที่พากลิ่นฝนมาด้วยพุ่งเข้ามาสู่ในห้องทันที เจือจางแก๊สพิษในอากาศจนเกือบหมดทำให้คนที่กำลังจะตายกลับมาได้อากาศายใจอีกครั้ง บางคนที่เป็นเพียงนิดเดียวอย่างคาโอรุก็ลุกยันกายขึ้นมาโดยพิงร่างกับกระจกหนาแล้วยิ้มให้วริณ

    ผมบอกแล้ว แฮ่ก ว่าอย่าลืมคนจืดจางอย่าง2105!”

    เด็กชายกัดกรอดมองเหล่าตุ๊กตาที่ถูกหุ่นยนต์หนุ่มอุ้มขึ้นมาวางบ่าบ้างอุ้มบ้าง สายตาเรียบเฉยของหุ่นยนต์หนุ่มจ้องมายังวริณ ก่อนที่เขาจะกระตุกยิ้มเย็นใส่เด็กชายแล้ววิ่งหนีเข้าไปยังทางที่เขาระเบิดไว้ทันที โดยที่ ทิ้งเด็กหญิงคคนหนึ่งที่ใกล้จะตายและไม่อาจช่วยได้แล้วคนหนึ่งไว้.....นาซิก

     

    .......................................

    ฉันจำได้ดี วันที่ฉันได้ทำสิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งวิปริตทุกอย่าง

    อ๊าย นาซ่า ทำไมลูกเป็นสาวเร็วแบบนี้ล่ะ! แบบนี้แม่ก็ต้องเอาเสื้อลูกให้นาซิกอีกแล้วน่ะสิ!?”

    ฉันก้าวเข้าบ้านมาไม่ถึงสองก้าวก็ได้ยินเสียงแม่ที่ดังออกมาจากห้องรับแขก

    โธ่แม่~ หนูก็ไม่ได้สาวอะไรแบบนั้นนี่ พี่นาซิกออ่ะสาวกว่าอีก

    ไม่ต้องถ่อมตัว มานี่เลย มาให้แม่วัดส่วนสูงหน่อย

    ฮ่าๆ อย่างนี้ก็ดีแล้วนี่แม่ แม่จะได้แยกหนูกับพี่นาซิกออก

    ฉันค่อยๆก้าวขาเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจะเดินผ่านห้องรับแขกหวังจะขึ้นบันไดไปห้องตัวเองโดยพยายามไม่สนใจคำพูดของแม่ลูกที่ไม่มีการเกี่ยวข้องกันโดยสายเลือดเลยสักนิด แต่แล้วเสียงแหลมที่ทำให้ฉันรำคาญของน้องสาวต่างพ่อก็ดังขึ้นมาพร้อมร่างเล็กสูงยาวเข่าดีที่พุ่งเข้ามากอดคอฉันข้างหลัง

    พี่นาซิ๊กกกกก กลับมาแล้วเหรออออ

    น่ารำคาญจริง...
    อืม ฉันขานรับเบาๆ สายตาเย็นชาสีแดงที่ได้มาจากพ่อเหล่มองปอยผมสีน้ำตาลอมดำของนาซ่า

    พี่นาซิก โดนครูฝ่ายปกครองอีกแล้วเหรอ?

    ....อืม

    พี่อ่ะ เลิกทำตัวเบบนี้ที่ได้ไหม ถามคำตอบคำ เชอะ~”

    นาซ่าผละออกจากตัวฉันแล้ววิ่งไปหาแม่ที่เพิ่งออกมาจากห้องรับแขก ก่อนจะวิ่งไปกอดแขนแม่ด้วยความร่าเริงจนน่าหมั่นไส้ ก่อนที่แม่จะพูดขึ้นมาเสียงเย็นชา ในดวงตาไม่มีเค้าแววของความห่วงใยอยู่เลยสักนิด

    ทำไมกลับช้า?

    ฉันหันมายืนต่อหน้าแม่ตรงๆ เพื่อจะตอบแม่แต่นาซ่าก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

    ก็แม่ พี่นาซิกน่ะ มีงานเยอะนะ เมื่อเย็นหนุก็เห็นพี่นาซิกระบายสีอยู่ที่บอร์ดอาจาร์ยอยู่เลย

    ฉันตวัดสายตาไปมองนาซ่าและแม่ที่ตอนนี้เริ่มหันมาคุยกันเองอย่างขมขื่น ก่อนจะค่อยๆเดินขึ้นบันไดท่ามกลางเสียงหัวเราะของแม่และนาซ่าที่ลืมฉันไปแล้ว ฉันเดินขึ้นมาที่ห้องของตัวเองแล้วปิดประตูขังตัวเองไว้ในห้อง สายตาสีแดงเหม่อลอยไปยังห้องส่วนตัวที่เต็มไปด้วยหนังสือจิตวิทยามากมายที่วางกองเต็มพื้นและร่างของแมวสีดำที่นอนกระดิกหางต้อนรับฉันที่เป็นเจ้าของ ก่อนที่ฉันจะค่อยๆลงไปนั่งพึงประตูบานนั้นราวกับคนสิ้นหวัง แล้วค่อยๆปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆ

    ทำไมแม่ไม่รักฉันแล้วล่ะ สายตาเย็นชานั่น คำพูดไร้อารมณ์นั้น ทำไมแม่ต้องสนใจแต่ยัยนั่นด้วย

     

    เมี้ยว....

    เสียงของโซเฟียตดังขึ้นมา ก่อนที่มันจะเดินมาเลียน้ำตาที่แก้มของฉันราวกับจะปลอบใจ ฉันค่อยเชยตาไปมองมันน้อยๆก่อนจะหันไปอุ้มมันมากอดแน่น มันกระดิกหางไปมาซื่อๆ

    แต่... ฉึก!

    เลือดสีแดงสดจากร่างของโซเฟียไหลทะลักออกมาละเลงเต็มเสื้อนักเรียนของฉัน มันส่งเสียงกรีดร้องเสียงแหลมเมื่อฉันกระชากมีดทำครัวปลายแหลมออกมาจากแผ่นหลังเล็กๆนั้น

    เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ฉัน อ่อนแอ ฉันจึงต้องทำลายทุกสิ่งที่อย่างที่ทำให้ฉัน อ่อนแอ ....

    ฉันลุกขึ้นเอามือที่ชุ่มไปด้วยเลือดปาดน้ำตาออกก่อนจะหันเอาเท้าไปเขี่ยศพโซเฟียข้างเท้าออกให้พ้นทางแล้วก้าวขาเข้าไปกลางห้องหวังว่าจะจัดการเหล่าหนังสื่อจิตวิทยาทั้งหลายให้เข้าที่ หากแต่มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาในห้อง

    “ พะ พี่นาซิก พี่ทำอะไร... พี่ทำอะไรโซเฟีย....”

    นาซ่าที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องฉันว่าเสียงสั่นขณะเดินมาอุ้มร่างของโซเฟียที่กำลังครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้างประตู ฉันไม่สนใจร่างของแมวที่ใกล้จะตายแต่กำลังไปสนใจนาซ่าแทน ฉันก้าวขาไปหาน้องสาวต่างพ่อตรงหน้าที่กำลังช็อคค้างเมื่อเห็นว่าที่มือฉันยังคงมีมีดที่เปื้อนเลือดจนแดงชุ่ม และค่อยๆผงะทำท่าจะวิ่งลงไปหาแม่ข้างล่าง

    “ไม่ให้หนีหรอก”

    ฉันว่าและยิ้มมุมปาก ก่อนจะกระชากร่างของนาซ่าแรงๆจนนาซ่ากระเด็นเข้ามาในห้อง ฉันจึงรีบกดลงกลอนทันที

    “พี่นาซิก พี่จะทำอะไรฉัน!” นาซ่าว่าขณะตะกายตัวถอยหลังไปติดผนังห้อง

    “ก็ทำให้... เหมือนเจ้าแมวตัวนี้ไงล่ะ...”

    ฉันว่าแล้วค่อยๆยกร่างของโซเฟียที่ไร้ลมหายใจไปแล้วโยนใส่อกของคนที่เพิ่งถามไปจน อกเสื้อของนาซ่าแดงชุ่มไปด้วยเลือด เธอส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมาเมื่อเห็นร่างของแมวได้ถนัดชัด เพราะดวงตาของโซเฟียจากสีฟ้าอ่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำดูน่ากลัวสำหรับเด็กที่ไม่เคยแม้แต่ดูหนังสยองขวัญเกรดต่ำ

    “พี่จะ จะ ฆ่าหนูเหรอ”

    “ก็เธอพรากความสุข พรากพ่อแม่ พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน ฉันเลย “แก้แค้น” ไงล่ะ”

    ฉันว่าแล้วเดินเข้าไปหานาซ่า ดวงตาสีแดงสดที่ได้มาจากพ่อจ้องมองลงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของน้องสาวต่างพ่อ ฉันกระชับมีดในมือแน่นก่อนจะลงไปเอามีดจ่อคอคนที่กำลังตัวสั่นราวกับลูกนก

    “ฉันไปแย่งพ่อแม่จากพี่ตอนไหน พี่นั่นแหละอ่อนแอ! ไม่ยอมไปเจอหน้าพ่อแม่เอง!

    อ่อนแอ....

    ฉันยกมีดขึ้นสูงเหนือศีรษะ...

    “พี่สัญญาว่าจะตามน้องไป นาซ่า....”

    ฉึก.....

    ....................................

    .................

    ...

    .

    นาซิกลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องห้องหนึ่งในคฤหาสน์กรนทิวาคุณ ดวงตาสีแดงเลือดเบิกกว้างทันทีที่ลืมตาตื่นเหงื่อไหลอาบแก้ม หัวใจเต้นรัวราวกับกลองตี ก่อนที่เธอจะพยุงตัวลุกขึ้นนั่งมองไปรอบกายแล้วพลันเธอก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นหูที่เธอไม่อยากเจอมันอีกแล้วดังขึ้นมาจากข้างหลัง

    “ฟื้นแล้วเหรอครับ?”

    เสียงเด็กชายดังขึ้นมาจากข้างหลัง นาซิกหันขวับไปยังต้นเสียงดวงตาสีแดงสอดประสานกันชั่ววูบก่อนที่นาซิกจะลุกขึ้นยืนเอามีดมาตั้งการ์ดป้องกันทันที วริณยิ้มหวานให้นาซิกก่อนจะพูดขึ้นมา

    “คิก ผมไม่ฆ่าคุณตอนนี้หรอกครับ คิก คิก”

    “แล้วแกจะทำอะไรฉันก่อนจะฆ่าล่ะ!” นาซิกตวาดลั่นแล้วถอยกลับมาอีก1ก้าวเมื่อเห็นว่าวริณเดินเข้ามาใกล้ เด็กชายยิ้มแล้วเดินก้าวเข้ามาใกล้อีกนิดซึ่งแน่นอนว่านาซิกก้ถอยห่างไปอีก1ก้าวเหมือนเดิม

    “โอเค ผมไม่แกล้งคุณล่ะ....”

    วริณหยุดเดินก่อนจะนั่งลงกับพื้น ทำท่าเชื้อเชิญให้นาซิกนั่งลง เด็กหญิงพยักหน้าอย่างระแวงๆก่อนจะนั่งลงให้ห่างจากวริณพอสมควร เพื่อให้แน่ใจว่าคนตรงหน้าจะไม่เอามีดมาจ้วงเธอตาย

    “นายจะทำอะไรฉัน?”

    “ก็....คุย ไงล่ะครับ?”

    เด็กชายตอบเสียงใส และไร้เดียงสา นาซิกมองสำรวจไปทั่วร่างของวริณและเพิ่งเห็นว่าเด็กชายถือกระดานและตัวหมากหมากรุกมาด้วย เด็กชายยิ้มขึ้นมาเมื่อสังเกตได้ว่านาซิกกำลังจ้องไปที่กระดานหมากรุก แล้วเขาก็หันมาวางกระดานหมากรุกลงตรงกลางระหว่างเขาและนาซิก ก่อนที่เด็กชายจะเอ่ยขึ้นมานิ่งๆ

    “ขาว หรือ ดำ  ครับคุณนาซิก?”

    “ดำ...”นาซิกตอบขึ้นมาเสียงไม่ไว้ใจ ในมือกระชับมีดแน่น

    วริณวางตัวหมากลงตามหลักสากล ก่อนจะยิ้มให้นาซิก เด็กชายผายมือให้เด็กหญิงเป็นเชิงว่า เชิญก่อนเลยครับ นาซิกมองวริณน้อยๆก่อนจะว่าขึ้นมา

    “ 1.E4

    “ตาผม 2.E5

    “ฉัน 3. B.4

    “เหมือนคุณจะเน้นแต่เลข 4 นะครับเนี่ย” วริณว่า

    ทั้งสองเล่นหมากรุกไปเงียบๆจนกระทั่งตัวหมากในกระดานพากันย้ายไปตามกระดานผิดกับตอนแรกที่อยู่กับที่เสียส่วนใหญ่ นาซิกชะเง้อมองกระดานเล้กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

    “46. บิชอฟ C.5

    “คิก....47. เรือ H.8 รุกจน”

    “จบเกม”

    นาซิกว่าเสียงแข็งราวกับกัดฟันพูดตอบวริณ เด็กชายระบิดหัวเราะออกมาก่อนจะกวาดกระดานออกไปไกลๆแล้วพูดเสียงขำๆ

    “เปิดซะว่างเลยนะครับ ฮ่าๆ เอาล่ะๆ มาคุยกันจริงๆดีกว่า”

    “...”

    เล่นถามได้ตอบได้นะครับ ... ถ้างั้นเชิญคุณก่อนครับ”

    นาซิกมองวริณเล็กน้อยแล้วถามขึ้นมา

    “นายต้องการอะไรกับเกมนี้?”

    “ก็... ตุ๊กตาไงครับ?”

     เด็กชายตอบอย่างใสซื่อ ดวงตาสีเเดงสดฉายเเววไร้เดียงสา นเด็กหยิงวูบหนึ่งคิดว่าเขาคงไม่ได้มีผิดสงอะไร เเต่นึกดีๆเเล้ว...ภาพศพของรินก็ผุดขึ้นมาเสียเฉยๆ เด็กหญิงสบัดหน้าทำลายความคิดที่เเสนจะงี่เง่าของตน เขาจะเป็นคนฆ่าทุกๆคนนะ
    "ตุ๊กตา...."
    เเต่ในขณะที่เด็กชายกำลังอยู่ในภาวะไร้เดียงสา เด็กหญิงจึงค่อยๆถามเรื่องทีล่ะอย่างด้วยใจหวั่นวิตก หากเขาหยิบมีดที่ซ่อนไว้ใต้ชายเสื้อยาวนั้นเเล้วเอามาฆ่าเธอล่ะ? เเล้วถ้าเธอฆ่าเขาก่อนล่ะ...?
    "ตุ๊กตาที่ว่านี่......."
    "คิก ก็พวกพี่ทุกคนจะต้องตายเเล้วมาเป็นตุ๊กตาไงครับ..."
    วูบนึง เหมือนเธอเห็ฯว่าเด็กชายมีท่าทีเปลี่ยนไปราวคนล่ะคน... เดี๋ยวสิ.... ราวกับคนล่ะคน.....
    เเล้วท่าทีของเด็กชายก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เด็กหญิงนั่งกุมมือที่เริ่มเย็นของตนเองน้อยๆก่อนจะเชิดใบหน้าขึ้นมองเพดานที่เป็นเหมือนเพดานไม้เเล้ะปูนที่ผสมกันเเต่ก็มีน้ำซึมเข้ามาตามรอยเเตก บ่งบอกเลยว่า พายุเริ่มตกลงมาอีกครั้งเเล้ว

    ราวกับคนล่ะคน.... ตุ๊กตา... พี่สาว... พวกคุณ..... ร้องไห้...กรีดร้อง.....เย้ยหยัน... หัวเราะ...ยิ้ม...เด็ก ..ผู้ใหญ่...21 ..... 10

    ความคิดที่สับสนอยู่ในหัวของนาซิกก่อนที่เด็กหญิงจะค่อยๆลืมตาขึ้นโพล่งเมื่อนึกอะไรออก
    ถ้าไม่ใช่เป็นโดยธรรมชาติ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับโรคจิตตามใบรับรองเเพทย์ที่พบในห้องนอน อาการของโรคไม่ใช่เเค่ร่างกายไม่มีวันเติบโตเเต่เป็นโรคสองบุคลิกหรือComplex Patial Seizure ไม่ก็โรคใดโรคหนึ่งในเครือของ  Dissociative Disorder ที่เป้นโรคที่กระทบกับจิตใจ สำหรับเด็กชายตรงหน้าคงมีคนหนึ่งที่อายุ10ขวบเเละอีกคนหนึ่งที่อายุ21 เเล้วทั้งสองในร่างนั้นอยู่ในภาวะของโรค ไซโคมาติก ดิสออดอร์ (โรคจิต)...เเค่นั้น...คดีก็จบ!!

    "....วริณ"
    "ครับ?"
    "ไม่ใช่นาย...เเต่เป็น นาย วริณ กรนทิวาคุณ อายุ21ปี ในร่างนาย!"
    "....อ่ะ...."

    วูบ...
    เเววตาไร้เดียงสาของเด็กชายเปลี่ยนไปตามคาด ดวงตาที่ดูไร้เดียงสาพลันเปลี่ยนเป็นเเววตาฆาตกรในร่างของเด็กชายน้อย รอยยิ้มเย้ยเยาะปรากฏขึ้นบนใบหน้าดูไปดูมาคนที่เธอเจอในห้องอาหารนั้นก็อาจจะเป็นคนคนนี้ก็ได้ เด็กหญิงหรี่ตาลงเเล้วยันกายลุกขึ้นพลางกระชับมีดอีโต้ในมือฃอเเน่น สายตาสาดไปตามห้องเเคบเพื่อหาทางที่สามารถปลีกไปได้ หากห้องนี้เป็นห้องปิดตายจริงๆเด็กชายเเละเธอคงเข้ามาไม่ได้ เเล้วถ้ามีทางเข้าก็ต้องมีทางออก เเต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหน เธอคงต้องต่อสู้ไป...ตามหาทางออกไปสินะ...?


     

    ............

    เหยดดดดดดดด เล่นคอมได้เเปปเดียวเวลาเรียนพิเศษหมดเเล้ว ;;[];;


    เอาเหอะ..ดีกว่าไม่ได้อัพ.... TwT b
    มาบอกทุกคนนะค่ะ ว่าข้าน้อยยังบ่เดี้ยง (  . .) ทำไมกลับบ้านไปกลับมาอีกทีมีเเต่คนทักว่ายังไม่ตายเหรอๆ (เด็กป.6ที่เป็นรุ่นน้องก็ทัก) โอ๊ย... TwT ข้ายังอยู่ ยังพร้อมจะมาอัพนิยายเสมอ เเต่ตอนนี้มือข้าเเข็งเรียบร้อย....เเอร์ตกตรงที่นั่งพอดี เเว๊ก... # เริ่มบ่น
    ขอบคุณที่ทุกคนมาอ่านมาเม้นเสมอนะค่ะ TTwTT //ซาบซึ้งน้ำตาจะเล็ด
    ให้ดีขอให้ช่วยโหวตด้วยค่ะ คะเเนนเท่าไหร่ไม่เป็ฯไรขอเเค่ทุกคนเม้นก็พอ อยากมีกำลังใจ อยากมีความรักกับนิยายเรื่องนี้มากๆ รักทุกคนที่เป็ฯนักอ่านนะค่ะ ^^

    เหยดดดดดดดดดดด คอมโรงเรียนมันจะเสือกมีพร๊อกซี่ไว้ทำพร่องส์อะไร อย่างนี้กรูก็ลงเกมไม่ได้สิฟร๊ายยยยย 12หางของตรูว์!!!!!!!
     //โดนเอวาฟาดยับ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×