ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บท สิบเอ็ด // ประตูลับสู่ขุมนรกของตุ๊กตา
"นายน้อยค่ะ สุดท้ายก็ไม่เลือกใครสักคนเป็นคู่หมั้น ระวังขึ้นคานนะค่ะ!"
สาวรับใช้พูดเสียงดังขณะยกชาเสิร์ฟเด็กชายบนโต๊ะน้ำชาในสวนที่กำลังเย็บตุ๊กตาเนื้อคนในมือ เด็กชายเงยหน้ามายิ้มหวานๆใส่สาวใช้ก่อนจะหันไปหยิบเศษเนื้อเเขนมาเย็บติดกับกระดูก
"ครับ ผมอายุเเค่20เองนะครับ"
"อีกเเค่สิบปีเองนะค่ะ นายน้อย"
สาวใช้พูดเสียงงอนๆเเล้วเช็ดเลือดที่เปราะตามใบหน้าเด็กชาย เด็กชายหันมายิ้มน้อยๆเเล้วหันมาเเกล้งเอาเข็มจิ้มใส่เเขนสาวใช้จึ้กหนึ่งจนเลือดออก
"นาย น้อย ค่ะ!!!!!!"
สาวใช้เเหกปากลั่นด้วยความโมโหเเล้ววิ่งไล่เด็กชายที่โยนตุ๊กตาในมือทิ้งเเล้ววิ่งหนีเธอออกไปข้างนอกสวนเเล้ว สาวใช้รีบวิ่งทักๆตามเด็กชายไปในสวนดอกกุหลาบสีดำท่ามกลงเสียงหัวเราะเเหลมของนายน้อยที่ดังก้องสวน
ถึงจะเหนื่อยเเต่ก็สนุก.....
หญิงสาวคิดในใจอย่างขำเเล้วสาวเท้าตามหาเด็กชายที่เริ่มหลบเธอตามพุ่มไม้เเล้ว หญิงสาวยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งไปหาพุ่มดอกพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวก่อนจะเเหวกมันออกเเละพบกับสีหน้าทะเล้นของเด็กชายที่กำลังคุดคู้เหมือนยอมเเพ้ หญิงสาวอุ้มเด็กชายขึ้นมาในอ้อมกอดก่อนที่จะได้ยินเสียงของเเม่บ้านคนหนึ่งวิ่งมาใกล้ด้วยสีหน้ากระหือกระหอบ
"ขออนุญาตค่ะ จดหมายตอบรับจากคนที่นายน้อยเชิญไปมาเเล้วค่ะ"
เด็กชายยื่นมือสั้นๆไปหยิบมันมาเปิดเองเเล้วเเสยะยิ้มให้สาวใช้ หญิงสาวยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้าไม่บ้านให้ออกไป ดวงตาสีเเดงสดของเด็กชายสบตากับดวงตาสีน้ำตาลเเก่ของสาวรับใช้ที่มีศักดิ์เป็นพี่สาว เขาเเสยะยิ้มกว้างเหมือนโรคจิตอีกครั้งเเล้วพุดเสียงเเผ่วเบา
"ตุ๊กตาผมกำลังจะมาเเล้วฮะ"
-------
ว๊ากกกกกกกกกกกกกก
เสียงร้องโหยหวนของคาโอรุดังมาจากประตูบานเล็กก่อนที่เสียงจะเบาลงเรื่อยๆจนหายไป ทุกคนที่ยืนรอรับคำตอบหน้าซีดไปตามๆกันก่อนที่ไคโตะจะค่อยๆคลานตามเข้าไปพร้อมไฟฉายกระบอกเล็กๆเข้าไป
"มันเป็นทางลาดครับ...."
"ทางลาด สไลด์โลดสิเฮ้ย!!!"
นาซิกถีบไคโตะเข้าไปเเรงๆจนเขาสไลด์หน้าคว่ำไปตามทางเสียงร้องว๊ากเเสบหูพอๆกับเสียงของคาโอรุดังลั่นไปตามทางเล็กสะท้นกึกก้องไปทั่วห้องจนทำให้สามสาวที่เหลือเหงื่อตกเพราะน้ำเสียงของเขาทั้งสองดูตกใจมากกว่าที่คิด ซินเซียหันขวับมาหานาซิกทันที
"เอาไงล่ะว่ะค่ะ?"
ซินเซียพูดเสียงเครียดพลางกุมขมับเเน่นหลังจากเสียงไคโตะเงียบไปเเล้ว นาซิกมองหน้าสวยๆของซินเซียเเล้วพยักหน้างึกงักเเบบว่า "ไปสิฟร่ะ"ก่อนที่ตัวเองจะหย่อนขาเเล้วสไลด์ลงไปเงียบๆมีเพียงเสียงร้องเเย้กเบาๆเท่านั้น ทาเวียกลืนน้ำลายลงคอน้อยๆก่อนจะพยักหน้าทำใจเเล้วค่อยๆย่อตัวเตรียมเป็นสไลด์มหาวิบากกรรมอีกคน
"มันก็เหมือนเล่นสไลด์เดอร์เเถวบ้านนั่นน่ะล่ะ"
ทาเวียพูดให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะผลักร่างให้ลงไปข้างล่างอันมืดมิด
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
"..."
เอาเเล้วไงล่ะ ซินเซียยยยยย
เสียงในจิตใจของซินเวียดังลั่น เธอถอนหายใจเเล้วมองซ้ายขวาก่อนจะย่อตัวเตรียมหย่อนลงไปอีกคนเเล้วเสียงเล็กเเหลมก็ดังขึ้นจากม่านเเดงขณะที่เธอกำลังหย่อนตัวลงไป
"ปลากินเบ็ดสินะครับ?"
วูบ
เด็กสาวหันขวับไปตามเสียงเพียงเพื่อหาต้นตอเเต่ไม่ทันเพราะร่างของเธอกำลังสไลด์ไปตามทางลาดชัน ความมืดมิดรอบตัวทำเอาเธอกลัวหัวใจเด็กสาวเต้นรัวพร้อมกับเเสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาตามช่องตามทางลาดเเล้วจู่ๆความมืดก็ปกคลุมอีกครั้ง เเล้วมือซินเซียที่ลื่นสไลด์ไปตามก็สัมผัสได้ถึงน้ำกลิ่นคาวๆอะไรบางอย่างเเล้วพลันเท้าก็สัมผัสโดนทางเรียบจนร่างที่กำลังอยู่ในสภาพลาดก็เด้งหน้าคว่ำหมดสวยลงกับพท้นพรมชุ่มน้ำอะไรบางอย่างเสียงดังเเผละ
"เเหวะ เลือดนี่หว่า "
"เป็นไงล่ะ รับรู้ยังว่าทำไมผมถึงเเหกปาก?"
คาโอรุยืนอยู่ตรงหน้าซินเซีย ใบหน้าเเละเสื้อผ้ากว่าครึ่งชุ่มโชกไปด้วยเลือดเขาหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดตามใบหน้าออกก่อนจะโยนผ้านั้นทิ้งลงพื้นไม่ไยดี หญิงสาวพยุงตัวขึ้นนั่งเเล้วยืนพลางมองเสื้อผ้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดอย่างเสียดายก่อนจะหันไปเห็นอีกสามคนที่ยืนเปียกเลือดไม่เเพ้เธอยู่ไม่ไกล
"สะใจดีเนอะ เห็นสาวสวยชุ่มเลือด"
นาซิกพูดเเบบกัดฟันเบาๆ เเล้วลูบใบหน้าที่เลือดอาบของตัวเองก่อนจะหันขวับไปหาเจ้าตัวที่ถูกเเซว ซินเซียยิ้มเเห้งๆเเล้วลุกขึ้นบิดเลือดที่ชายกระโปรงตัวเอง
"ไปกันได้เเล้วล่ะ ทางออกอยู่อีกไม่ไกลเเล้วมั้ง"
"มั้ง"
ทาเวียทวนคำเเบบเซ็งๆทำเอาซินเซียที่เป็นคนพูดหน้าเเตกน้อยๆก่อนจะหันไปเลิกผ้าขาวที่ตรงชายเปื้อนเลือดเเดงชุ่มโชกออกจนสิ่งที่อยู่หลังม่านปรากฏสู่สายตา
ห้องทดลองสีขาวครีมชุ่มไปด้วยเลือด ชั้นวางของเเละโต๊ะต่างๆมีโหลเเก้วดองสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างมากกมายเเละชวดยาน่ากลัวจำนวนหนึ่งพร้อมเข็มฉีดยาหลากสไตล์ เเต่ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นเงาตะคุ่มเหมือนคนที่อยู่หลังผ้าม่านใกล้ที่วางขวดยา เสียงจากเครื่องวัดลมหายใจดังเป็นจังหวะจากห้องทดลอง พื้นกระเบี้ยงสีขาวเต็มไปด้วยเลือดเเห้งกรังเเละหยดเลือดสีเเดงสดที่ยังไม่เเห้งดี ดวงตาสีเเดงของทาเวียเบิกโพลงเหมือนเห็นสิ่งที่น่าช็อกที่สุดในชีวิตจนเผลอทำผ้าที่ถืออยู่ลุ่ยกลับไปที่เดิมโดนไคโตะเข้าจนเลือดที่ชายผ้าเข้าตาเขาเต็มๆ
"ทาเวีย เลือดเข้าตาเลย"
ไคโตะร้องขึ้นมาเบาๆ
"อะ ขอโทษค่ะ"
ทาเวียพูดเสียงตกใจเพราะเพิ่งได้สติหลังจากช็อกกับห้องทดลองสยองขวัญเมื่อครู่ เด็กหนุ่มปาดเลือดที่เข้าตาออกน้อยๆก่อนจะเลิกผ้าออกไปพาดกับราวไม่ให้มันร่วงลงมาปาดใส่ตาอีก
เหล่าตุ๊กตาทั้งหลายเดินเข้าไปในห้องทดลองนั้นก่อนจะค่อยๆมองไปตามสิ่งต่างๆในห้องด้วยสีหน้าตะลึง
"ห้อทดลองผีสิง.....ชัดๆ"
คาโอรุว่าขณะจ้องไปยังสิ่งที่อยู่ในโหลเเก้ว มันคือดวงตาของมนุษย์หลากขนาดที่ถูกดองไว้ ชายหนุ่มวางมันลงที่เดิมเเล้วมองไปยังโหลต่อไปอย่างสนใจเพราะดุท่าว่าาพวกมันจะเป็นสิ่งที่สะสมมานานเกินกว่าจะคาดได้บางอย่างดูดองไว้ก่อนเขาจะเกิดซะอีก สายตาของชายหนุ่มที่สาดไปยังทุกอย่างบนชั้นสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง เงาตะคุ่มเหมือนคนอยู่หลังผ้าม่านขาว....มือเรียวจับข้างผ้าเเละเตรียมกระชากมันออก....
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!"
เสียงกรี๊ดของทาเวียดังขึ้นจนชายหนุ่มสะดุดเเละหันเหไปสนใจอย่างอื่น ไปยังเด็กสาวที่กำลังยืนตะลึงกับสิ่งที่อยู่บนโต๊ะเหล็กที่มีเลือดท่วม ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าดูอย่างใจเย็นเเม้ใจจริงตัวเองก้อยากจะเปิดผ้านั้นออกใจจะขาดเเต่เพราะเสียงร้องนั้นมันเกินกว่าจะเรียกว่าตกใจเขาจึงเหมาดู
คาโอรุดันไหล่ของไคโตะออกเพื่อดูของที่อยู่บนโต๊ะที่อดีตมันเคยมีผ้าสีดำห่อไว้เเต่ตอนนี้กลับไม่มีผ้าดำที่ว่าเเล้ว มีเพียงสิ่งที่ถูกห่อไว้ เลือดจากสิ่งที่เคยมีผ้าห่อไว้ไหลหยดลงมาใส่พื้นกระเบียงจนเเดงชุ่ม
สิ่งเหล่านั้นก็คือ เศษซากของมนุษย์ที่เพิ่งถูกฆ่าสดๆ
เเละ พวกมันก็คือสึกิเเละอาเรีย....
"อาเรีย สึกิ!!!?"
คาโอรุอุทานมาอย่างไม่เชื่อสายตา เขารู้ว่าอาเรียตายไปเพราะกิโยตินที่ห้องใต้ดืนตอนที่เธอวิ่งหนีหายไปจากกลุ่มเเต่สึกิเข้าไม่รู้เพราะตอนที่เอวาพาเขาเหินเวหามายังห้องเเละเจอกับซินเซีย ทาเวีย เเละไคโตะ มันไม่มีเเม้เเต่ร่องรอยศพของสึกิเลยเเม้เเต่นิดเเยวราวกับว่ามันถูกเสกให้หายไปหรือไม่ก็มันไม่เคยมีในห้องนั้นด้วยซ้ำ
"เธอสองคนตายไปตั่งเเต่ตอนเริ่มเกมเเรกๆ"
นาซิกพูดเเล้วหันไปหยิบห่อผ้าไปคลุมศพก่อนที่เธอจะอ้วกออกมาทำลายผลงานอันโรคจิตของไอเด็กเเก่เเดดที่โตเเต่อายุ
ไคโตะหันไปสบตากับคาโอรุน้อยๆก่อนจะเดินปลีกออกมาเพราะในวงนั้นมีเพียงเด็กผู้หญิง พวกเขาหันมาสนใจพวกยาในห้องทดลองเเทนเเล้วคาโอรุก็เดินไปที่เดิมที่เขากำลังจะเปิดห่อผ้านั้นออก ชายหนุ่มเลื่อนมือไปจับผ้านั้นอีกครั้งก่อนจะกลืนน้ำลายหนืดลงคออย่างอยากลำบากเพราะความกลัวเเละความตื่นเต้นที่ผสมปนเปกัน
พรึ่บบบบ!!!!!!!!
ผ้าสีขาวที่คลุมสิ่งที่น่าสงสัยไว้ถูกเปิดออกเสียงดัง ปรากฏให้เห็นสิ่งที่อยู่ใต้ผ้านั้น เกือบทุกคนในห้องนั้นหันหน้ามาตามเสียงด้วยความสนใจ
"เฮ้ย...." ชายหนุ่มอุทานขึ้นมาเสียงดังเมื่อพินิจเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
ร่างของสตรีสาวในสภาพเปลือยเปล่าเเละอย่ในท่าขดราวกับเด็กในท้องของเเม่ในโดมเเก้วหนาปรากฏเเก่สายตาของคาโอรุ เสียงของเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจส่งเสียงร้องเป็นจังหวะบอกให้รู้ว่าคนในโดมเเก้วนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ ใบหน้าเรียวรูปไข่เเละใบหน้าสวยงามราวกับตุ๊กตาหลับตาพริ้มปล่อยให้เเผงขนตายากับผมสีน้ำตาลอ่อนอมสีทองธรรมชาติยาวนั้นลอยเเละเคลื่อนไหวไปตามเเรงของน้ำล่อเลี้ยงโดมเเก้วที่ไหลเวียนอยู่ภายในจนดูราวกับปีกของนางฟ้าเมื่อมันต้องกับเเสงสีขาวภายนอกเเละยังเปล่งประกายสวยงาม ผิวพรรณขาวซีดเผือกราวกับไม่เคยต้องเเสงเเดดเลยเเม้เต่นิดมีรอยเย็บอย่างประณีตเต็มไปทั้งตัว คาโอรุยืนนิ่งหน้าโดเเก้วนั้นราวกับต้องมนตร์สะกดก่อนที่เสียงของเด็กสาวจะดังขึ้นข้างกายลากเขาให้กลับมามีสติดังเดิม
"คน"
ทาเวียเดินเข้ามาสัมผัสที่เเก้วนั้นเบาๆก่อนที่จะต้องฉุดมือออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบของเเก้ว คาโอรุมองเด็กสาวที่มีมือเพียงข้างเดียวข้างกายด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเบือนไปมองเเป้นวัดชีพจรที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
"มีชีวิติยู่ได้ยังไงน้ำในเเก้วนั้นเย็นเกือบ -15องศา ป่านนี้น้ำมันน่าจะเป็นน้ำเเข็งไปนานเเล้วด้วยเเถมรอยเย็บทั้งตัวนั้นหมายความว่าอะไรกัน"
ไคโตะว่าขณะมองไปยังเเป้นนั้นราวกับเห็นสิ่งที่เเปลกที่สุดของโลก(มันก็เเปลกจริงๆนั่นเเหละ)คาโอรุเดินเข้ามากอดคอไคโตะน้อยๆก่อนจะก้มมองเเป้นนั้นอย่างสนใจ
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่า ไอด็กนั่นทำกับผู้หญิงคนนั้นให้อยู้รอดในอุณหภูมิเย็นขนาดนั้นได้ยังไงเเต่ตอนนี้เราต้องหาทางออกก่อน"
คาโอรุพูดเสียงเครียดก่อนจะเอามือที่ตอนเเรกกอดคอไคโตะมารัดคอเเล้วลากมาหาทางออกด้วยกัน ผู้หญิงในห้องพากันมาดูร่างของหญิงสาวคนนั้น
"ชื่ออะไรอ่ะ สวยจัง" ซินเซียเดินเบียดเข้ามาขณะพินิจร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่ยังหลับตาพริ้มเหมือนเจ้าหญิงนทราจนทำให้คนพูดเริ่มรู้สึกอิจฉา ทาเวียมองไปยังโดมเเก้วก่อนจะเลื่อนสายตาไปพบกับป้ายสีทองด้านล่าง
"....ลาติน่า เทเลสต้า เมดรับใช้ประจำห้องโถง สายเลือดอังกฤษ...."
"เมดรับใช้"
"อืม"
นาซิกที่เงียบไปนานเอ่ยอืมขึ้นมาตอบรับขณะมองไปยังผู้ชายสองคนเริ่มรื้อนู่นรื้อนี่หาทางออกจากห้องทดลองก่อนที่จะค่อยๆช่วยกันพร้อมใจจะถล่มตู้เก็บขวดยาอันตรายเพื่อหาทางออก เด็กสาวมองพวกเขาด้วยสีหน้าเยบเฉยก่อนจะเลื่อนสายตามายังผู้หญิงสองคนที่ยังคงจ้องใบหน้าสวยนั้น
"สวยเนอะ เป็นเเค่เมดรับใช้เเท้ๆ"ทาเวียเอ่ยพลางลูบเเผลที่เเขนที่ถูกตัดไปเบาๆ
"อืม อยากเห็นตาจังคงจะสวยไม่น้อย"
ซินเซียเอาหน้าเข้าไปใกล้กระจกใสเพื่อดูใบหน้าราวกับนางฟ้านั้นใกล้ๆพลางจินตการยามที่เธอคนนี้ใส่ชุดเมด เเล้วดวงตาของร่างที่อยู่ในโดมเเก้วก็เปิดออกกว้างถลึงตาใส่พวกเธออย่างดุร้าย!!!
"กรี๊ด!!!"
ซินเซียส่งเสียงกรีดร้องลั่นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวในโดมเเก้วนั้นกำลังจ้องมองพวกเธออย่างดุร้าย เลือดสีเเดงสดไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของหยิงสาวในโดมเเก้ว เธอเเหกปากกรดร้องลั่นอย่างทรมาณปล่อยให้เลือดในตัวไหลทะลักออกมาเเปดเปื้อนน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกายจนน้ำนั้นเเดงไปทั่วโดม มือไม้ของหญิงสาวในโดมเเก้วหงิกงอเเละปัดไปมาสะเปะสะปะราวกับคนทรมาณขาดอากาศหายใจก่อนที่เสียงของเครื่องวัดชีพจรที่ปกติในตอนเเรกจะดังลั่นไปทั่วห้องทดลองเเละยังถี่ขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งหายไปพร้อมกับเสียงดังตื๊ด......ยาวนานเป็นสัญญาณบอกให้คนในห้องนั้นรู้ว่าเธอตายไปเเล้ว
"อ่ะ อ่ะ"
ร่างของซินเซียทรุดลงกับพื้น..... ใบหน้าสวยซีดเผือกไร้สีเลือดของหญิงสาวสั่นระริกเมื่อมองเหตุการ์ณตรงหน้าที่จบลงอย่างน่าสมเพซ
"เกิดอะไรขึ้น!!!?"
ไคโตะวิ่งเข้ามาอย่างรอ้นรนเมื่อเห็นโดมเเก้วนั้นเต็มไปด้วยเลือด คาโอรุวิ่งตามเข้ามาติดๆ เขาวิ่งเข้าไปหวังจะไปเพิ่มออกซิเจนให้คนในโดมเเต่เมื่อมิงเเป้นชีพจรก็ถึงกับหมดความหวังเมื่อเห็นเส้นชีดตรงไม่มีชีพจรเต้นอีกต่อไป
"เหมือนคำเตือน...."
ไคโตะพูดเสียงเเผ่ว สายตาเเหล่มองคนที่นั่งทรุดอยู่ที่พื้นซินเซียชี้ไปยังโดมเเก้วที่มีสีเเดงขุ่นคลั่กเเล้วหันมาอมองพวกเขาอย่างหวาดกลัว "อะ ดะ เดี๋ยวสิ นี่มันอะไรกัน"
"คำเตือน"
คาโอรุตอบเเทนไคโตะเเล้วกวาดตามองไปยังทุกคนในห้องก่อนจะพูดขึ้น "มีคนในห้องนี้กำลังจะตายเป็นคนที่สาม"
ตูม!!!!!!
กำเเพงส่วนใดส่วนหนึ่งของห้องเเตกกระจายเป็นรูโหว่ใหญ่ส่งเสียงดังลั่นไปทั่วห้องทดลอง นาซิกเเละทุกคนในห้องทดลองหันขวับไปยังรูโหว่ยักษ์นั้นอย่างตกใจ
"เเค่กๆ ช่วยได้นี่หว่าไอหุ่นยนต์!"
น้ำเสียงยียวนคุ้นหูดังขึ้นจากรูโหว่ยักษ์ตามด้วยเสียงเด็กหญิงอีกคนที่ดังลอดขึ้นมาจากกลุ่มควันเเละเศษปูนหนาทึบ "เงียบเถอะค่ะ พี่อารัษ เเขนหักอีกท่อนเเล้วยังจะปากดีอีก"
"พวกเเกทั้งสองคนหยุดกันได้เเล้วครับ ผมว่ารีบออกจากรูนี้ไปห้องอีกห้องเร็วๆเถอะ"
"ริน อารัษ 2105!!!!!???"
นาซิกเเละไคโตะตะโกนขึ้นมาเมื่อจำเสียงอันคุ้นหูเหล่านั้นได้ ผู้ที่ถูกเรียกชื่อหันขวับมายังคนที่ตะโกนเรียกชื่อก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจเเละยินดี
"อ้าว พวกเธอ ครบเลยนี่!?" อารัษพูดขึ้นมาเสียงดีใจ
"นาย มาอยู่ที่นี้ได้ไง!?"
ไคโตะพูดขึ้นมาเเล้วผละจากเเป้นชีพจรที่หยุดนิ่งไปเเล้วนั้นเเล้วสบตาดับดวงตาไร้อารมณ์ของ2105 เเล้วร่างของรินที่อยู่บนคอของหุ่นยนต์ในร่างชายหนุ่ม
"ก็2105ถล่มทางให้นะสิ"
"อารัษ"
"เออ ก็ได้ว่ะ"
อารัษเลิกต่อล้อต่อเถียงกับ2105ก่อนจะเดินก้าวเบาๆมาหาซินเซียที่นั่งอยู่ที่โดมเเก้วเเล้วช่วยเธอพยุงตัวยขึ้นนั่ง รินพูดขึ้นมาเสียงดัง
"ตอนนี้ตุ๊กตาทั้งหมดอยู่กันครบหมดเเล้วสินะค่ะ?"
ทุกคนในห้องเงียบนิ่งเมื่อคิดว่าใครในกลุ่มตายไป ในมโนความคิดของคาโอรุ ไคโตะ เเละสามสาวคิดถึง เอวาเป็นอันดับเเรก
"ไม่ค่ะ คุณเอวาเสียไปเเล้ว"
ทาเวียเอ่ยขรธลูบบาดเเผลที่ข้อศอก อารัษขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะยิ้มสมเพซขึ้นมาบางๆอย่างกับจะพูดว่า "น่าสงสาร" สายตาสีน้ำเงินน้ำทะเลอ่อนมองยังโดมเเก้วยักษ์อย่างสงสัยก่อนที่รินจะชี้ไปยังโดมเดียวกันเเล้วพุดิงขึ้นมาก่อน
"นั่นอะไรเหรอ?"
"โดมเเก้วน่ะ มันเคยมีคนอยู่ด้านในเเต่ตอนนี้เธอตายเเล้ว" คาโอรุตอบโดยไม่เหลือบมองเเป้นชีพจรที่ส่งเสียงปี๊บยาวนานไม่หยุด "อ่ะ เหรอ" รินพูดเเล้วกำผมบนหัว2105เล่นอย่างสนุกสนานไม่สนใจสีหน้านิ่งที่เริ่มมีเส้นเลือดฝอยปุดขึ้นมาบ้างเเล้ว
ปิ๊บ ปี๊ป ปี๊ป ปี๊ป ป๊บ ปี๊บๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!!!
เสียงจากเครื่องชีพจรดังขึ้นมาลั่นไปทั่วห้อง อารัษเเละทาเวียที่อยู่อยู่หน้าโดมรีบหันไปยังเเป้นชีพจรนั้น คาโอรุที่อยู่ใกล้เเป้นนั้นหันไปดูอุณหภูมิที่ปรากฏอยู่บนเเป้นอย่างสงสัยก่อนที่ตาของเขาจะเบิกกว้างเเละรีบหาปุ่มลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
อุณหภูมิในโดมสูงขึ้นมาเกือบ 100 องศา!!!!
ทุกคนมัวงวนอยู่กับเสียงเเป้นนั้นโดยไม้สังเกตุโมเเก้วทีมีรอบร้าว น้ำเลือดในดมค่อยๆปริไหลออกมาจากรอบเเตกร้าว "โธ่เว้ย!!!!" คาโอรุตะโกนขึ้นมาลั่นเเละรีบหาทางปิดเครื่องเร่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่ง
เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!! ซ่าาาาา!!!!!
น้ำเเละโดมเเก้วใสเเตกออก ส่งผลให้คนที่อยู่บริเวณนั้นเปียกไปด้วยน้ำเลือดเเละน้ำสีใสร้อนผ่าวที่อยู่ในโดมเเก้ว ร่างไร้ชีวิตของหญิงสาวผู้โชคร้ายที่อาศัยอยู่หล่นฮวบลงมาจากโดมเเก้วใสดังพลั่ก อารัษทำหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นร่างนั้นเเละรีบกระเถิบร่างหนีพร้อมกับลากวินเซียออกมาก่อนจะหันไปมองมองไคโตะที่กำลังทำหน้าปลงชีวิตอยู่อย่งต้องการคำตอบ
"หน้อย"
รินกระโดดลงมาจากคอของ2105เเล้วรีบเดินปรี่เข้ามาหานาซิกที่ยืนตะลึงอยู่ก่อนที่เด็กสาวจะพูดขึ้นมา
"พี่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นเเน่บอกมาเถอะค่ะ!"
"อ่ะ ฉันก็ไม่รุ้เหมือนกัน เรื่องมันยาว ถ้าออกไปได้จะเล่าให้ฟั...."
ตูม!!!!
เสียงระเบิดดังลั่นไปทั่วห้องทดลอง นาซิกเเละรินหันขวับไปยังโดมเเก้วใสที่เครื่องยนตร์กำลังมีควันขึ้นขโมง คาโอรุเเละไคโตต้องรีบวิ่ออกมาจากบริเวณเพราะควันนั้นมีพิษ
"ทุกคน รีบออกจากที่นี้!!! เครื่องยนตร์ด้านหลังกำลังจะระเบิด!!"
เมื่อได้ยินคำว่าระเบิดวินเซียก็รีบลากสังการร่างกายตนที่เปียชุ่มเเละร้อนผ่าวไปทาวที่พวกรินเเละอารัษมาทันที ตามด้วยทุกคนในห้องนั้นก่อนที่เสียงระเบิดจะดังกึกก้องไปทั่วคฤหาสน์
..........
"สนุก สนุกจริงๆ"
เสียงหัวเราะคิกคักของวริณดังขึ้นซ้ำๆจากโต๊ะตัวเล็กเสียงหัวเราะชวนปวดหัวนั้นดังร่วนขึ้นไม่หยุดเมื่อเด็กชายได้มองภาพวงจรปิดที่ปรากฎรูปของเหล่าตุ๊กตาที่กำลังวิ่งหนีระเบิดจ้าละหวั่น ในอ้อมกอดของเด็กชายมีส่วนศีรษะของอาเรีย เด้กชายกำลังใช้มีดพกเลาะเอาผมสีน้ำตาลอมดำขลับของตุ๊กตาตัวนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี สาวรับใช้ยิ้มมุมปากให้เด็กชายน้อยๆก่อนจะค่อยๆหันไปหยิบเอกสารสีครีมบนโต๊ะขึ้นมาอ่านรายงานให้นายน้อยฟัง "นายน้อยค่ะ ส่วนต่อไปที่ท่านต้องการคืออะไรค่ะ เรามีส่วนศีรษะ อวัยวะถายในเเล้ว"
เด็กชายหันหน้ามาพร้อมกับโยนลูกตาสีฟ้าม่วงของอาเรียในมือทิ้งเเล้วเเสยะยิ้มให้สาวรับใช้ นัยย์ตาทั้งสองข้างอาเรียกลิ้งหลุนๆมายังปลายเท้าของสาวรับใช้
"พี่เมลล่า ผมต้องการนั่นล่ะครับ"
"ค่ะ"
เมลล่ายิ้มรับคำสั่งเเล้วค่อยๆโน้มตัวลงไปหยิบนัยย์ตาทั้งสองข้างนั้นมาไว้ในกำมือก่อนจะลงมือบีบมันให้เละคามือ เด็กชายหันมายิ้มให้ก่อนจะหัวเราะเสียงเเหลมลั่นห้องมืด
"งั้นเอาเป็นคุณ.......ดีไหมค่ะ? นายน้อย....."
-------------
สาวรับใช้ชื่อเมลล่านะครับ เหอๆ ;w;
จบไปอีกตอนครับ! ' ผมคิดไว้เเล้วนะว่าใครจะตายคนต่อไป ใครจะตายคนสุดท้าย ฮะ ฮะ ฮะ!
เพราะงั้น สารภาพบาปมาซะว่าจิ้นคู่วายในเรื่องนี้ อย่ามาซึนเดเร๊ะ!!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น