ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทเก้า // ประตูบานสุดท้าย
"บัตรประชาชนของนายน้อยได้มาเเล้วนะค่ะ"
สาวใช้เอ่ยขณะรินน้ำชาลงในเเก้วยื่นให้เด็กชาย นายน้อยประจำตระกูลหันมามองด้วยสีนห้ามู่ทู่พลางมองสิ่งที่ถูกยื่นมาพร้อมถ้วยน้ำชา มันคือบัตรปีชาชนของราชอาณาจักรไทยที่คนในประเทศต้องทำทุกคนหลังจากมีอายุครบ15ปี
นายน้อยมองมันเเล้วใช้ปลายนิ้วเข่ยมันตกพื้นดินไป
"ผมไม่อยากเห็นมัน..."
เด็กชายพูดเเล้วยกชาขึ้นดื่มไม่สนใจสีหน้ามู่ทู่ของสาวใช้ นายน้อยเหลือบสายตาดูอย่างขำๆเเล้วหันไปยิ้มเยาะเย้ยใส่จนสาวใช้เห็นสายตาสีเเดงเลือดนั่นเเล้วถึงกับทำหน้าบอกบุญไม่รับ
"นายน้อยค่ะ รับความจริงเถอะค่ะ"
"ไม่"
เด็กน้อยเบือนหน้าเเกล้งด้วยรอยยิ้ม
"คิก"
"ขำอะไร"
เด็กชายหันขวับเเละเลื่อนตัวไปมองสาวใช้ที่ยิ้มหัวเราะคิกคัก โดยที่ตัวเขาเองไม่รู้ว่าสาวใช้ขำอะไรจนต้องถามออกไป
"ก็นายน้อย หันมายิ้มหัวเราะเเบบนี้เเล้ว ดิฉันก็ดีใจสิค่ะ"
นายน้อยคลี่ยิ้มพลางเลื่อนมือไปหยิบบัตรประชาชนที่ปักอยู่กับดินนุ่มๆมาดูก่อนจะนำมันวางลงข้างจานน้ำชาเเล้วพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าโล่งใจกับโรคตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนสาวใช้เผลอยิ้มกว้าง
"ตัวไม่มีวันโตเเบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ"
----------------------------------
"มืดจัง"
คาโอรุพูดเสียงเเผ่วเบาๆขณะใช้สายตาสีฟ้าตัวเองมองไปตามทางที่มืดสนิท เด็กสาวเเละหญิงสาวสองคนที่เดินตามมาเงียบสนิทพลางใช้มือลูบตามกำเเพงเพื่อเป็นตัวคำยันไม่ให้ตัวเองทรุดเพราะระยะทางที่เดินมานั้นก็ยาวมาเกือบจะเป็นกิโลเเล้ว จนกระทั่งชายหนุ่ม(?)ชนเข้ากับบานประตูสีดำสนิท
"ประตู?"
คาโอรุลูบจมูกของตัวเองเเล้วใช้มือนุ่มนิ่มลูบไปกับไม้ผิวขรุขระ นาซิกชะโงกหน้าออกมาเเล้วยื่นมือไปจับก่อนจะใช้เเรงผลักมันเข้าไปภายใน
"ทางออกเหรอ?"
เอวาถามคาโอรุเสียงห้าวๆเเล้วใช้มือเตะไปที่ไหล่ของชายหนุ่มจนคาโอรุสะดุ้งเฮือก ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาสบัดหน้าเชิงว่าไม่รู้ นาซิกชิงเดินเข้าไปในห้องก่อนจะคลำหาสวิชต์ไฟ จนกระทั่งพบมัน เด็กสาวกดมันไปทันทีเเล้วไฟในห้องที่มีสีเเดงส้มก็ติดขึ้น
"ห้องอะไรกันล่ะเนี่ย"
เอวาเกาหัวเเกร็กๆ ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆจนคาโอรุที่กลัวใจจะขาดหันไปมอง เอวาสบตากับตาสีฟ้าน้ำทะเลของอีกฝ่ายเเล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
"คาโอรุสินะ"
"ครับ"
"เธอโชคดีนะรู้ไหม"
"เอ๋ โชคดี โชคดีอะไหรอ?"คาโอรุทำหน้างง
"โชคดีที่นายไม่ถูกฉันจับขย้ำเลือดหมดตัวไปตั่งเเต่เเรก"
ชายหนุ่มหน้าเสียเเล้วรีบเผ่นไปอยู่อีกทีเเบบไม่ต้องคิด เเวมไพร์สาวหัวเราะคิกคักเเล้วสำรวจห้องที่เธอได้เข้ามาห้องโถงกว้างถูกไฟสาดส่องไปทั่ว เชนเดอเลียที่ทำจากเเร่ธาตุอะไรบางอย่างติดอยู่กลางเพดานเป็นจุดเด่นของห้อง รอบห้องเต็มไปด้วยตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ถูกจัดให้อยู่ท่าต่างๆ กลางห้องมีพรมสีเเดง นาซิกเกินไปยังกลางห้องเเล้วหยิบมีดเล่มใหญ่มาถือป้องกันตัว
"ไอหนู ทำท่าอย่างกับจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ"
เอวาตะโกนให้นาซิกที่อยู่กลางห้อง เเล้วใช้ตาสีเเดงของเเวมไพร์สาดส่องไปทั่วห้องเเต่ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆนอกจากพวกเขา� นาซิกหันไปมองเอวาด้วยสีนห้าเบ็นๆพลางมองไปรวบๆห้องเเต่ก็ไม่พบอะไร
"จะเอายังไงต่อ?" นาซิกถามคาโอรุเสียงเเห้งๆพลางเหวี่ยงมีดอีโต้เล่นเป็นเด็กๆ คาโอรุมองไปรอบห้องอย่างเกร็งๆพลางกอดตุ๊กตาเเน่น
"หาทางออกล่ะมั้งครับ?"
"ทางออกน่ะ อาจจะไม่มีก็ได้นะ"เอวาพุดเเล้วใช้มีดเขี่ยตุ๊กตาหุ่ยเชิดให้ล้มตึงเสียงดังนาซิกหันขวับมายังหญิงสาวที่ใส่ชุดเเนวโกธิคโลลิต้าผิดกับตัวเองที่ใส่เเค่เสื้อกันลมเเละกางเกงเลย์ เเล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ามู่ทู่เเทบจะทันที คาโฮรุนิ่งเงียบเเล้วก้าวขาไปหาทางออกเงียบๆตรงม่านเเดง เขาคลี่ผ้าม่านสีเเดงเลือดนกออกเเล้วพบว่ามันคือหน้าต่างบานใหญ่ส่องให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายนอก ที่จริงเขาจะเอาตุ๊กตาพังหน้าต่างเเล้วหนีออกไปก็ยังได้ เเต่ว่านอกหน้าต่างนั่นมันคือหน้าผาทีก้าวขาลงไปก็ลงเหวได้ทันที ฝนที่ตั้งเค้ามาตั่งเเต่ตอนเย็นตกกระหน่ำลงมายังคฤหาสน์หรู ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลมองไปยังทิวเขาเเละป่าไม้อุดมสมบูรณ์เบื้องหน้าเเล้วถอนหายใจเสียงดังจนมีคนเดินมาหา
"อ้าว ตรงนี้เป็นหน้าต่างเหรอ?"
เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของชายหนุ่มจนเขาสะดุ้งกึก คาโอรุหันไปมองคนด้านหลังเเล้วก็พบว่าเป็นนาซิก
"ครับ เเต่ตรงนี้หนีไปไม่ได้หรอกนะครับ มันติดเหวลึก ตอนผมขึ้นรถชาวบ้านมาที่คฤหาสน์เห็นว่าเหวนี้ลึกตั้ง25เมตรเเหน่ะครับ"คาโอรุพูด
"เหรอ.....งั้นก็หนีไม่ได้สินะ"
นาซิกพูดเสียงอ่อยๆเเววตาที่ดูก้าวร้าวตอนเเรกส่อเเววตาอ่อนตาโลกทันที คาโอรุมองเด็กสาวข้างๆเเล้วถึงกับหน้าเสียเเล้วจู่ๆนาซิกสบัดหน้าหนีไปกระโดดถีบตุ๊กตาหุ่นเชิดตามกำเเพงต่อเพื่อหาทางออก ชายหนุ่มมองเด็กสาวเเบบงงๆก่อนจะยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
เด็กซึนเดเระดีๆนี่เองเนอะ......
"เฮ้ย ฉันพบอะไรด้วยล่ะ!"
เอวาตะโกนให้ทุกคนได้ยินเเล้ววิ่งมารวมตัวกัน เอวาพลักตุ๊กตาหุ่นเชิดเท่าคนจริงสามตัวออกไปไกลๆจนพบกับประตูสีเเดงเหลี่ยมทองดูหรูหรา นาซิกยิ้มคาโอรุก็ยิ้ม มือที่มีถุงมือของเอวาเลื่อนไปบิกลูกบิดประตู เเล้วหญิงสาวก็ยิ้มระรื่นขึ้นมาทันที
"ฮะฮะฮะ ท่าทางคนที่รอดเเล้วตายคนสุดท้ายจะเป็นกลุ่มพวกเราน่ะ"
ทางเดินปูพรมสีเเดงหรูปรากฏเเก่สายตาเขาทั้งสาม เอวาก้าวเท้าออกไปเหยีบกับพรมสีเเดงก็ได้กลิ่นเลือดคลุ้งเข้าจนรีบปิดจมูก นาซิกดูพรมเเล้วเอียงคอเเก้ปวดเมื่อยดูก็รู้ว่ามันเคยเป็นสีขาวเเล้วถูกเลือดสีเเดงสดชโลมไปจนเเดงชุ่ม เอวาส่งเสียงจิ๊กจ๊ะไม่พอใจกับรสนิยมกุโระโรคจิตเกินวัยของนายน้อยเล็กน้อย คาโอรุมองพรมเเล้วถึงกับหน้าซีด เเต่ทั้งสามก็เดินไปเรื่อยๆจนสิ้นสุดที่ประตูสีเเดงสดอีกบาน
"ประตูที่นี่เยอะจริงเนอะ!!"
นาซิกพูดประชดชีวิตก่อนจะไปเปิดประตูบานนั้นออกกพบกับห้องมืดสนิทอีกห้องหนึ่ง คาโอรุกดสวิชต์ไฟข้างๆประตูเเล้วก้าวเข้าไปคนเเรกหลังจากมองเอวาที่ตาเริ่มเป็นสีเเดงสดขึ้นเรื่อยๆ
ห้องนอนกว้างถูกชโลมไปด้วยสีเเดงเลือด หน้าต่างสไตล์โรมันเเละตู้เตียงเเนวโรมันปรากฏเเก่สายตาของนาซิก เตียงนอนสีขาวมีรอยเลือดขนาดใหญ่เเห้งกรัง ข้างๆกันนั้นมีตู้เก็บตุ๊กตาหลากสไตล์ที่เปื้อนเลือดจนเป็นสีเเดงเข้มดูน่าสยดสยอง กลางห้องมีตุ๊กตาเนื้อคนตัวเท่าเด็กสีขวบวางอยู่เป็นที่สะดุดตาเเก่ทั้งสามคน
"ห้องนอนเเบบนี้ต้องเป็นนายน้อยสินะ"
เอวาเเสยะยิ้มกว้างเเล้วหอบเสียงดังเพราะเลือดปีศาจที่มีอยู่ในตัวกำลังไหลพล่านจากการได้กลิ่นเลือด คาโอรุเดินเข้าไปในห้องหนีเอวาที่หอบหายใจหนักฟันเขี้ยวเล็กๆพ้นโผล่มาจากริมฝีปากเรียวที่ถูกเม้มกันเเน่น ชายหนุ่มกลัวว่าหากหญิงสาวด้านหลังตอนนี้ทนไม่ไหวขึ้นมาจะกระโดดงับคอเเล้วดูดเลือดเขาจนหมดตัวตายก่อนจะได้ออกจากห้องลับยิ่งกว่าเขาวงกตนี้
นาซิกเดินเข้าไปในห้องเเล้วใช้มือรวบตัวตุ๊กตาเนื้อคนขึ้นมาดูอย่างเงียบๆพลันเธอก็โยนมันลงกับเตียงดังปุใหญ่ไม่สนใจ เด็กสาวเดินมาถึงตู้หนังสือขนาดใหญ่เเล้วรีบเปิดลิ้นชักจนกระดาษที่อัดเเน่นอยู่ภายในปลิวออกมาเกลื่อนกลาด
"หวา! นาซิกเธอทำอะไรน่ะ!"คาโอรุกระโจนเข้ามาเก็บกระดาษที่จะปลิวไปภายนอกห้องอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มวิ่งไล่เก็บกระดาษตามพื้นก่อนจะรวบมันเป็นกองเดียวกันจนกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบใบหยน้าตื่นๆของเด็กสาว นาซิกมองกระดาษในมือเเล้วหันมามองหน้าคาโอรุ
"นายคาโอรุ....ไอเด็กที่ชื่อวริณน่าจะอายุเท่าไหร่กันน่ะ?" นาซิกถามสีหน้าตื่นๆ
"ดูๆเเล้ว ไม่พ้นอายุ14ล่ะมั้ง?"
คาโอรุตอบเสียงมั่นใจเเล้วยัดกระดาษกองนั้นลงไปทีลิ้นชักดังเดิม จู่ๆกระดาษในมือของเด็กสาวก็ร่วงกราวบินว่อนรอบห้องคาโอรุเห็นดังนั้นถึงกับโมโหขึ้นมาเบาๆจนต้องหันไปมองนาซิกหวังจะสั่งสอนเเต่กลายเป็นว่าเขาต้องอึ้งเเทน
�นาซิกหน้าซีดเผือก จ้องมาที่คาโอรุดวงตาสีเเดงโลหิตค้างอยู่กับกระดาษในมือที่ยังไม่ถูกปล่อยลงจากมือเเละถูกนาซิกกำเเน่นจนข้างกระดาษยับยูยี่
"เป็นอะไรไปไอหนู?"
เอวาที่หยิบหน้ากากอนามัยมาใส่กันกลิ่นเลือดที่โชยไปรอบห้องถามขึ้นเเล้วเดินเข้ามาเเตะบ่าเด็กสาว พลางจ้องมองไปที่กระดาษในมือ
"อะไรกันว่ะเนี่ย!!! "เอวาตาโตเเล้วมองไปที่กระดาษอย่างไม่เชื่อจนคาโอรุต้องลุกขึ้นมาอ่านอย่างสงสัย
�
"...."
"ท่าทางไอเด็กคนนี้จะไม่ธรรมดาเเล้วล่ะ...."
คาโอรุพูดเเล้วหันไปเจอกับบัตรอะไรบางอย่างที่ตกเเทบเท้า ก่อนจะพบว่ามันเป็นบัตรประชาชน ชายหนุ่มคลำกระเป๋าตัวเองเเบบงงๆก่อนจะพบว่ามันไม่ใช่ของเข้า เขาจึงถือวิสาสะพลิกบัตรมาอ่านเผื่อเป็นของเอวาที่กำลังจะฉีกใบรับรองที่เขาเพิ่งอ่านทิ้ง
"เอ๊ะ?...."
วริณ กรนทิวาคุณ......อายุ 21 ปี.....
ชายหนุ่มเขวี้ยงมันลงกับพื้นเเล้วหันไปมองรอบๆห้องเเทน เพราะนึกขึ้นได้ว่าที่เขามาอยู่ตรงนี้เพื่อหาทางออกไม่ใช่มารับรู้เรื่องโรคประหลาดของเด็กชายผู้คุมเกม เขาเดินวนไปรอบๆห้องอย่าสงสับสนก่อนจะหันขวับไปยังประตูโรมันบานใหญ่ เขาวิ่งไปเปิดมันเสียงดังพื้นระเบียงขนาดใหญ่ปรากฏเเก่สายตาชายหนุ่ม เขามองไปยังสายฝนเเล้วเหวผาลึก
"ทางนี้อานจจะออกไปก็ได้นะ!?"
คาโอรุเดินไปกลางระเบียงมองรอบข้างกาย ฝนที่ตกเทลงมากระหน่ำลงไปบนร่างของเขาจนเปียกชุ่มเเต่ก็ไม่เห็นอะไรมากกว่าเสื้อสีฟ้าเข้มที่เขาใส่ทับไว้อีกที ระบียงสีฟ้าอ่อนที่อยู่ไม่ไกลจากที่เขาอยู่
เอวาเดินเข้ามายังระเบียงมองไปยังระเบียงที่อยู่ไม่ไกลด้วยดวงตาที่มีความหวัง
ทางออกงั้นเหรอ?
หญิงสาวคิดในใจอย่างมีความหวังเเล้วปีกค้างคาวสีดพสนิมก็ฉีกเนื้อเเละเสื้อผ้าออกมากลางหลัง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ถึงกับผงะเเล้วเผลอร้องว้ากออกมา หญิงสาวหันไปมองคาโอรุเเล้วยิ้มมีเลศนัยก่อนจะมองไปที่นาซิกที่เดินออกมาข้างนอกตอนไหนก็ไม่รู้�เด็กสาวมีสีหน้างง เเละสีบสนอยู่บ้าง�
"พร้อมจะบินข้ามไปอีกทางเเล้วรึยัง?"
เอวาถามขึนเเล้วหันมากระชากมือคาโอรุเเละนาซิกคนล่ะข้าง ก่อนจะเหยียบไปบนระเบียงเเล้วใช้ปีกค้างคาวเหินเวหาไปทางที่มีระเบียงที่คาดว่าเป็นทางออก คาโอรุร้องลั่นเเล้วมองไปยังพื้นเบื้องล่างที่เป็นทะเลสาปเเละป่าเบญจพรรณท่ามกลางสายฝน เเถมดีไม่ดีในอีกไม่นานหากยังไม่ถึงระเบียงอีกฝั่งล่ะก็ในป่านั้นอาจจะมีศพเป็นหนุ่มไทย-ญี่ปุ่นหน้าตาดูดีคนนึงตกลงไปนอนอืดในทะเลสาปไม่ก็เป็นศพไม้ทิ่มเละก็เป็นได้ หรือหากเขาตกลงไปจริงๆก็อาจจะรอดด้วยดวงดีสุดชีวิตเเต่ยังไงไม่พ้นถูกเสือคาบไปรับปะเเ_กอยู่ดี
�� จนกระทั่งรองเท้าส้นสูงสีเเดงเลือดยืนอยู่บนระเบียงอีกฝั่งอย่างปลอดภัย คาโอรุก็หยุดเเหกปากร้องว๊ากเสียselfทันที
"เธอทำอะไรน่ะ!"
นาซิกตะโกนด่าเอวา ขณะกำลังรวบรวมความกล้าใช้เท้ายันขอบระเบียงเพื่อให้พ้นจากความสูงเกือบ
26เมตรเเละลมเเรงๆ จนเธอสามารถมายืนหมดเเรงเเละเสียขวัญบนระเบียงได้
"นั่นสิ เธอคิดได้ยังไง!"คาโอรุเป็นลูกคู่ตะโกนตอบขณะนั่งกุมอกตัวเองเเละรวบรวมขวัญที่หนีไปหมด
เเล้วให้กลับมา เเต่เอวากลับไม่สนใจเเถมเดินไปที่ประตูที่ปิดอยู่โดยไม่มีหันมาสนใจเขาทั้งสองเลย
เเกร๊กๆ
"ล็อกว่ะ" เเวมไพร์สาวพูดขณะเก็บปีกของตัวเอง คาโอรุเดินเข้ามาหาเอวาก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ที่หัวมาถือ
"ผมจัดการเองครับ"
เขาถือกิ๊ปสีดำสนิทในมือเเน่นก่อนจะเเยกมันออกเป็นเส้นตรงพลางเเหย่มันเข้าไปในลูกบิดประตูเเล้วบิดไปบิกมา จนครู่หนึ่งมันจึงส่งเสียงดังเเกร๊กเเล้วมันก็เปิดออกได้ เหล่าตุ๊กตาทั้งหลายเดินเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดออกจนพบกับม่านเเดงผืนใหญ่ นาซิกเดินเข้ามาเลิกผ้าออกก่อนจะก้าวเข้าไปเมื่อเห็นว่ามีเเสงสีส้มเเดงอยู่ภายใน
�ทันทีเขาท้งสามเดินเข้าไป สิ่งที่อยู่ในห้องก็ทำให้พวกเขาอึ้งไปตามๆกัน
ทาเวีย ซินเซีย ไคโตะ ........
เเต่ ทาเวียไม่มีเเขนข้างขวา.......
เอวาดูจะช็อกที่สุด เมื่อเห็ฯว่าสถานที่ที่เธอพาเหล่าเพื่อนร่วมชะตากรรมมามันคือสถานที่ที่อันตรายเเละไม่มีทางออก เเถมเธอในตอนนี้ก็เเทบจะไม่มีเเรงบินหนี เพราะไม่ได้ลิ้มรสเลือดมานานเกิน5ชั่วโมง
".......พวกเธอ......."
ซินเซียอึ้งขณะค่อยพยุงตัวขึ้นมามองด้วยความลำบากเพราะถาดน้ำชาที่ฟาดมาไปโดนตรงกกหุเเละลามไปถึงต้นคอ ทำให้เกิดการช็อกไปพักหนึ่ง คาโอรุมองไปยังเด็กชายที่นอนเลือดอาบอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าอึ้งๆ ผ้าพันเเผลที่เคยพันอยู่ถูกดึงจนเเทบจะไม่เหลือไว้บังดวงตาทั้งยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด อาจเป็นเพราะได้รับการกระทบกระเทือนมากเกินไป เเต่ที่เป็นจุดสนใจเเก่เขาที่สุดคงเป็นรอยเเผลเป็นใหญ่อัปลักษณ์บริเวณใต้ตาเเละเหนือตา เด็กชายร้องโอดโอยเสียงดังสลับกับเสียงหอบเจือจางคละกับเสียงหัวเราะจนดูเหมือนกับคนโรคจิต
"อ๊า อ๊าก เจ็บ เจ็บ...... คา..คาโอรุ ช่วย ช่วยฉันด้วย"
ทาเวียถูกปล่อยในกองอยู่กับพื้นในสภาพน่าสมเพซ ใบหน้าซีดเซียวราวกับศพสั่นไปมา น้ำตาไหลออกมาอาบเเก้มเด็กสาว ชายหนุ่มมองเธออย่างอ้ำอึ้งจะไปช่วยดีหรือไม่เพราะสาวใช้ส่วนตัวเเสนโรคจิตที่เป็นคนตัดเเขนทาเวียกำลังเดินไปหยิบเเขนของทาเวียเบื้องหน้าเขา จนสุดท้ายชายหนุ่มก็ยืนนิ่งๆปล่อยให้สาวใช้เอาเเขนของทาเวียไป สาวใช้หันมาหาคาโอรุเงียบๆก่อนจะเดินก้าวขาไปยังเด็กฃายที่นอนกุมดวงตาคลานไปคลานมาพึมพำไม่เป็นภาษา สาวใช้ค่อยๆหันไปนั่งคุกเข่าเเล้วยื่นเเขนขวาของทาเวียให้เด็กชาย เด็กชายมองเเขนนั่นด้วยคราบน้ำตาเเล้วยื่นเเขนไปโอบคอสาวใช้ เธอยิ้มบางๆเเล้วหันไปอุ้มนายน้อยมาไว้ในอ้อมกอด
นาซิกมองไปยังภาพเบื้องหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ไม่อยากเชื่อ...ว่าไอเด็กที่ถูกอุ้มนั่น อายุ 21 ปี!!!!!
เอวาวิ่งไปยังเด็กสาวที่นอนครวญครางอยู่ที่พื้นเเล้วพยุงเธอขึ้นมา คาโอรุวิ่งไปยังไคโตะที่ยืนอยู่เเล้วไปพยุงหญิงสาวอีกคนที่เริ่มหน้ามืด ทั้งหกมายืนประจันหน้ากับผู้คุมความเป็นความตายที่มีร่างเป็นเด็กอย่างพร้อมเพรัยง
"เอาล่ะ เธอจะเอายังไงต่อล่ะ?"
ซินเซียกัดฟันพูดเสียงเบาๆให้สาวใช้ เเต่เธอก็ยังอุ้มเด็กชายหน้าเรียบเฉยไม่เเสดงคามรู้สึกใดๆออกมา จู่ๆเธอก็ปริปากพูด
"คุณท่านทั้งหลายค่ะ.... นายน้อยท่านกำลังกลัวอยู่นะค่ะ...."
"หึ นายน้อย? หล่อนเเน่ใจว่าไม่ใช่ 'คุณชาย' น่ะ?" เอวาเอ่ยเสยงเเข็ง ดวงตาสัเเดงของเเวมไพร์สว่างวาบขึ้นมา
".....คุณรู้ได้ยังไงกันค่ะ?" สาวรับใช้ตาโตเเล้วกอดนายน้อยในมือเเน่น
"นี่ไงล่ะ ยัยเเม่บ้าน" นาซิกพูดขึ้นมาบ้างเเล้วหยิบกระดาษเปื้อนเลือดขึ้นมาชูให้สาวใช้เห็น คาโอรุเห็นดังนั้นถึงกับสงสัยว่าเธอเอามันมาตอนไหน พวกที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้เเต่เงียบๆยืนฟัง มีเพียงไคโตะที่กำลังฉีกเเขนเสื้อมาทำผ้าพันเเผลให้เด็กสาวที่เเขนขาดไปเพราะมีดเล่มใหญ่ในมือสาวใช้
"พวกคุณ...!!!!"
"อายุ21ปี เเต่ยังทำตัวเป็นเด็กสิบขวบเเบบนี้ ไม่ดีเลยนะครับ?"
คาโอรุตอบเสียงหวานเชิงเยาะเย้ย สาวใช้กัดริมฝีปากจนเลือดไหลซิบมาให้ลิ้มรส สุดท้ายเธอก็ทำได้เเค่กอดนายน้อยที่กำลังสั่นเหมือนลุกนกให้เเน่นๆหวังปลอบให้เด็กชายหายกลัว
"เรื่องของนายน้อย พวกคุณไม่รู้อะไรอย่ามาพูดเลยดีกว่า!!"
เเววตาของสาวใช้เปลี่ยนไป มีดในมือของเธอถูกเขี้ยงไปบนเพดานห้อง เเละยังไปตรงกับเชนเดอเลียหรูที่เป็นสิ่งที่ทำให้ห้องสว่างไสว จนโซ่เเละสายไฟที่เก่าเเก่อายุเท่าคฤหาสน์ขาดลงได้ง่ายๆ
"ระวัง!!!!"
เป็นเสียงของคาโอรุ หลังจากความมืดเเละเชนเดอเลียตกลงมาหาพวกเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้ใครรอดใครตายใครอยู่ ทุกคนต่างพากันวิ่งหนีไปคนล่ะทิศ คำนิยามที่ไพเราะที่สุดในตอนนี้คงจะเป็น....วงเเตก
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!"
เป็นเสียงของเอวา.....
++++++++
ขยันเเม้นกันดีจริงๆ (เเละผมก็ขยันอัพ(ที่ล่ะนิด)จริงๆT^T)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น