คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 โชคร้ายที่มากับโชคชะตา
พอจางมีอ่านจดหมายจบ เธอหยิบปากกาขึ้นมาจรดอักษรลงไป
ถึงเสด็จแม่ที่รัก
ลูกสบายดีค่ะ กาจางดูแลลูกดีมาก ลูกคิดถึงเสด็จแม่กับเสด็จพ่อนัก อยากพอเจอแต่ภารกิจเชื่อมสัมพันธไมตรีครั้งนี้ ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ลูกฝากสวัสดีเสด็จพ่อด้วยค่ะ
จางมีพับจดหมายส่งให้เหยี่ยวที่บินหายลับไป ก็อกๆๆๆๆๆ
“จางมี ท่านลุงท่านป้าจะมาน่ะ!” ดาเฮวิ่งมาแจ้งข่าว
“แต่เสด็จแม่ไม่เห็นบอกอะไรข้าเลย” จางมีสงสัย
“ท่านป้าคงอยากทำให้เจ้าประหลาดใจหรอก ถึงได้ไม่บอก เจ้าต้องไปบอกท่านป้าทึกกี้แล้ว”
“ข้าจะบอกอยู่แล้วล่ะ เจ้าไปกับข้าหน่อยได้หรือไม่?”
“คงไม่ได้ ข้าติดภารกิจน่ะ ให้กาจางไปเป็นเพื่อนเถอะ” ดาเฮยิ้มแห้งๆ เธอจะเปิดโอกาสให้จางมีอยู่กับกาจางให้มากที่สุด
“เจ้าจะไปไหนหรือ ดาเฮ ไปเที่ยวอีกแล้วหรือ?” จางมีหรี่ตามอง
“เปล่านะ ข้าว่าข้าจะไปเรียนกับโซรีเสียหน่อย อ๊ะ! กาจางมานั่นแล้ว ข้าไปก่อนนะ” ดาเฮผลุบหายไป
“ โธ่ ดาเฮ” จางมีถอนหายใจให้กับญาติสาวจอมซนของเธอ
“เห็นดาเฮบอกข้าว่าเจ้าจะไปหาเสด็จแม่ของข้าหรือจางมี” กาจางถาม
“ใช่จ้ะ แต่ดาเฮไม่ยอมไปเป็นเพื่อนข้าน่ะ” จางมีหันมาหา
“ถ้าอย่างนั้นไปกับข้าแล้วกัน ข้ากำลังว่างพอดี”
“อย่างนั้นหรือ ขอบคุณเจ้ามากนะ เจ้าดีกับข้าเหลือเกิน” จางมีพูดอย่างซาบซึ้งใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าสำหรับเจ้า ข้ายินดีเสมอ” กาจางกุมมือนิ่มของจางมีไว้แล้วเดินไปด้วยกัน จางมีมองมือที่ถูกกุมด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เวลาถูกกาจางกุมมือ เธอรู้สึกอบอุ่นและถูกปกป้อง หัวใจของเธอเต้นแรง บางที ถ้านี่คือความรัก เธออาจจะรักกาจางเข้าแล้วจริงๆ จางมีอมยิ้มอย่างสุขใจ ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไป กาจางเองอยากยืดเวลานี้ออกไปให้นานเช่นกัน ยิ่งรู้ว่าจางมียิ่งไม่ปฎิเสธ ไม่ดึงมือออก เขายิ่งดีใจ มันเหมือนจางมีเอง รู้สึกเหมือนเขา คือรัก...
“เสด็จแม่ อยู่ด้านในรึเปล่าครับ” กาจางส่งเสียงถามเข้าไปก่อน
“อยู่จ้ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“คือจางมีอยากคุยกับท่านแม่น่ะครับ” กาจางบอก ประตูค่อยๆแง้มออก
“จางมี มีอะไรจะคุยกับป้าหรือจ๊ะ” ราชินีลีทึกถามอย่างใจดี
“คือว่าเสด็จแม่ของข้าจะมาที่นี่น่ะค่ะ ท่านป้าจะขัดข้องหรือไม่?”
“ราชินีฮีชอลแจ้งมาแล้วน่ะจ้ะ เดี๋ยวป้าจะจัดการต้อนรับให้จ้ะ” ลีทึกตอบยิ้มๆ
“ขอบคุณท่านป้าที่กรุณาค่ะ” จางมีถอนสายบัวอย่างงดงาม
“ไม่ต้องพิธีรีตรองหรอกจ้ะ เดี๋ยวเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” ลีทึกพูดอย่างมีเลศนัย
“คะ?” จางมีได้ยินไม่ถนัดนัก
“ช่างเถอะจ้ะ คนแก่พูดไปเรื่อยแหละจ้ะ” ลีทึกส่ายหน้าปฎิเสธ ภารกิจเชื่อมสัมพันธไมตรีจะจบลงต่อเมื่อกาจางกับจางมีรักกันและแต่งงานกัน
“อย่างนั้นผมลาล่ะครับ ท่านแม่ จางมีไปกันเถอะ” กาจางกระตุกมือให้จางมีเดินตามไป
“ลาค่ะ ท่านป้า” จางมียอมเดินตามกาจางไปเงียบๆ
“เดี๋ยวเสด็จแม่เจ้าจะมาหรือจางมี” กาจางถาม
“ใช่จ้ะ เสด็จพ่อและเสด็จแม่กำลังจะมา”
“แล้วคู่หมั้นของเจ้าล่ะ?”
“จ๊ะ? คู่หมั้นของฉันหรือ ไม่มีนะจ๊ะ” ไปเอามาจากไหนเนี่ย
“ถ้าอย่างนั้นดีเลย ข้าเองก็ไม่มีเช่นเดียวกัน” กาจางยิ้มดีใจ จางมีเบือนหน้าหนีนิดๆ ซ่อนความเขินอาย
“นั่นใช่เสด็จแม่ของเจ้าหรือเปล่าน่ะ” กาจางชี้ลงไปด้านล่าง
“ใช่จริงๆด้วยจ้ะ ไปรับเสด็จแม่กันเถอะนะจ๊ะ” จางมีเป็นฝ่ายจับข้อมือกาจางแล้วดึงไปด้วยความตื่นเต้น ดีใจ
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ซิน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” ราชินีลีทึกจับข้อมือบางของเพื่อนรัก ราชินีฮีชอล ใช่ พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่แรกแต่ทั้งสองต่างต้องไปเป็นราชินีของแต่ละเมือง จึงไม่ได้เจอกัน ได้เพียงเขียนจดหมายเท่านั้น
“ข้าสบายดี เจ้าล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง?” ราชินีทั้งสองกอดกัน
“สบายดี ลูกสาวของเจ้าน่ารักมากไ ข้าคิดว่าแผนคงสำเร็จได้ในอีกไม่นาน”
“เสด็จแม่!!!” จางมีวิ่งเข้ามาสวมกอดเสด็จแม่ของเธอด้วยความคิดถึง
“จางมีลูกแม่” ฮีชอลปล่อยลีทึกเพื่อมากอดลูกสาว ราชาซีวอนเดินมากอดไว้อีกชั้นหนึ่ง
“ลูกคิดถึงเสด็จแม่กับเสด็จพ่อเหลือเกิน” จางมีพูดเสียงสั่นเครือ
“พ่อคิดถึงลูกเช่นกัน”
“แม่ด้วย ลูกอยู่ที่นี่ สุขสบายดีหรือไม่?”
“สบายดีค่ะ ทุกคนดูแลลูกเป็นอย่างดี”จางมียิ้มหวาน
“ถวายความเคารพครับ องค์ราชาซีวอน องค์ราชินีฮีชอล” กาจางโค้ง
“ไม่ต้องพิธีรีตรองหรอก เดี๋ยวเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” ฮีชอลพูดเหมือนกับลีทึก
“ครับ” กาจางเงยหน้าขึ้นมา
“ดีนะ ทึกกี้ ลูกของเจ้าหล่อมากๆ” ฮีชอลหันไปพูดกับลีทึก
“ใช่ไหมล่ะ พ่อแม่หน้าตาดีนี่นา” ลีทึกหัวเราะคิก
“นี่รู้จักกันมาก่อนหรือครับ?”
“ไม่ใช่แค่รู้จักนะ สนิทกันมากก่อนจะแยกกันไปเป็นราชินีของแต่ละเมืองนี่ละจ้า” ฮีชอลเป็นฝ่ายตอบ เมื่อเห็นหน้าสงสัยของทั้งสอง
“แล้วทำไมต้องเชื่อมสัมพันธไมตรีด้วยล่ะคะ? ในเมื่อสนิทกันอยู่แล้ว” จางมีเริ่มเอะใจ
“เอ่อ...คือ...แม่อยากให้ลูกรู้จักกับกาจางน่ะจ้ะ” ฮีชอลยิ้มอ่อนๆให้ดูน่าสงสาร ทำให้จางมีเชื่อสนิทใจ
“แต่เสด็จแม่บอกลูก ไม่ต้องมาก็ได้นี่คะ” จางมีตัดพ้อ
“แม่ขอโทษนะจ๊ะ” ฮีชอลเริ่มรู้สึกผิดจริงๆ จางมีคลี่ยิ้มบางๆ เธอไม่ได้โกรธจริงๆหรอก
“ลูกไม่โกรธเสด็จแม่หรอกค่ะ ลูกรู้ว่าแม่หวังดีต่อลูกถึงได้ทำ” ฮีชอลทำหน้าเหมือนได้นางฟ้ามาเกิดเป็นลูก
“จางมี” กาจางเรียกอย่างเกรงใจ
“มีอะไรหรือ กาจาง”
“เปล่าหรอก ข้าแค่เห็นว่าเจ้ายังไม่ได้ทานอะไร กลัวจะหิว จึงจะพาไปกินข้าว”
“อ๋อจ้ะ จริงด้วย ข้าลืมไปเลยจริงๆ เสด็จแม่ ท่านป้า ไปทานด้วยหันหรือไม่คะ?”
“อย่าเลยจ้ะ ไปทานกันเถอะ แม่จะคุยกันราชินีลีทึกเสียหน่อย” ฮีชอลยิ้ม
“แน่ใจนะคะ?”
“แน่จ้ะ”
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวไปกับกาจางก่อนนะคะ” จางมีถอนสายบัวก่อนเดินออกไปกับกาจาง
“ทึกกี้ กาจางดูเป็นห่วงจางมีดีนะ” ฮีชอลยิ้มเอ็นดู
“ข้าว่า ลูกข้าถูกศรรักปักอกเข้าแล้วล่ะ” ลีทึกตอบ
“เจ้าอยากทานอะไรหรือจางมี” กาจางถาม
“ข้าทานอะไรก็ได้จ้ะ แล้วแต่เจ้าเถอะ”
“อย่างนั้นหรือ ลงไปที่ครัวกันไหม?”
“เอาสิจ๊ะ ข้าอยากเห็นโรงครัวของที่นี่” กาจางจึงพาจางมีเดินลัดเลาะลงไป เพื่อจะไปให้ถึงโรงครัว
“ครัวของเจ้าต้องเดินไปไกลเหมือนกันนะจ๊ะ”
“เจ้าเมื่อยหรือ? ให้ข้าอุ้มไหม?”
“บ้า! กาจาง เจ้าก็พูดเล่นไปเรื่อย-/////-“ จางมีตีไหล่แกร่งเบาๆอย่างเขินอาย
“ข้าหวังดีนะเนี่ย” กาจางหัวเราะ
“ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้วดีกว่า” จางมีรู้สึกหน้าร้อนแทบระเบิด จึงเร่งฝีเท้าเดินนำเดินนำไป ฟึ่บ! ผ่านสวนที่อยู่ทางหลังวัง หนามของกุหลาบดอกใหญ่ที่อยู่ในสวน เกี่ยวกับแขนบอบบางเข้าจนมีเลือดไหลซึมออกมา
“โอ๊ย!” จางมีร้องเบาๆ
“จางมี เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” กาจางวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่เป็นอ...” จางมียังพูดไม่ทันจบ ร่างบอบบางก็ล้มลงโดยมีกาจางรับไว้ได้ทัน
“จางมี เจ้าเป็นอะไร จางมี!!” กาจางรีบอุ้มร่างบางกลับไปที่พระราชวัง
“เสด็จแม่!! ช่วยจางมีด้วย” กาจางเปิดประตูเข้าไปอย่างรีบร้อน
“จางมี!” ฮีชอลวิ่งเข้ามาหาลูกสาวในอ้อมกอดของกาจาง
“รีบวางนางลงบนลงบนเตียงเลยกาจาง” ลีทึกสั่งก่อนรีบวิ่งเข้ามาดู
“จางมี!! ไปโดนอะไรมาลูก” ลีทึกถาม
“ข้าพาจางมีเดินลัดเลาะลงไปที่โรงครัวแล้วแขนนางไปเกี่ยวกับหนามกุหลาบในสวนลับเข้า” กาจางรับเล่าให้ฟัง
“ดอกไหน กาจาง” ลีทึกภาวนาอย่าให้ใช่ดอกนั้นเลย
“ดอกใหญ่สีน้ำเงินครับ เสด็จแม่” คำตอบที่ได้รับทำให้ลีทึกทรุดลงบนเก้าอี้ เขาไม่อยากจะรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้น
“ดอกนั้นมันทำไม ทึกกี้ ลูกข้าจะเป็นอย่างไร” ฮีชอลปราดเข้ามาหา เขาไม่อยากเสียลูกสาวไป ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรเขายอมทั้งนั้น
“จางมีถูกพิษกุหลาบที่ร้ายแรงที่สุดเข้าไป ถ้าไม่รีบรักษาจะต้องตายแต่ถ้าหาย อาจกลับกลับร้ายให้เป็นดีได้ กาจาง ลูกต้องรีบไปนำดอกกุหลาบนั้นมา ถ้าดอกกุหลาบดอกนั้นถูกทำลาย หมายถึงชีวิตของจางมีและหากกลีบของมันร่วงหมดนั่นก็หมายเวลาของจางมีด้วยเช่นกัน” สิ่งที่ลีทึกพูดออกมาทำให้กาจางรีบขยับตัววิ่งกลับไปในสวนเพื่อนำดอกกุหลาบนั้นมาให้เร็วที่สุด คอยข้าก่อนนะจางมี ข้าจะหาทางรักษาเจ้าให้หายให้ได้ ตื่นมาฟังข้าบอกรักนะ จางมี
ความคิดเห็น