คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
จิ๊บๆ จิ๊บๆ “เจ้าหญิงขอรับ เรามาถึงแล้วขอรับ” เสียงสารถีที่ดังมาจากหน้ารถ ปลุกให้เจ้าหญิงทั้ง 2 ตื่นขึ้นมาจากนิทรารมย์อันแสนสุข
“นี่น่ะหรือ เมืองที่เราจะต้องมาเจริญสัมพันธไมตรี” จางมีมองพระราชวังอันโอ่โถงแล้วอดคิดถึงวังของเธอไม่ได้ ทหารหน้าพระราชวังนำทั้ง 2 เข้ามาที่ท้องพระโรง ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเบาๆกระทบพื้นข้างหลัง เรียกสายตาสองคู่ให้หันไปมอง เขาเป็นผู้ชายท่าทางสง่างาม ผมสีน้ำตาลทอง รวบสูงปล่อยปอยข้างเคลียไหล่ เขายิ้มให้จนเห็นลักยิ้มเล็กๆที่มีเสน่ห์อยู่ตรงมุมปากอิ่มใส
“จางมีกับดาเฮใช่มั๊ยจ๊ะ ฉันลีทึกจ้ะ” เขาพูดอย่างใจดี
“ถวายความเคารพค่ะ องค์ราชินีลีทึก” เจ้าหญิงทั้งสองถอนสายบัวอย่างอ่อนช้อย
“ไม่ต้องราชาศัพท์กับข้าก็ได้ ขอให้คิดว่าข้าเป็นญาติผู้ใหญ่แล้วกันจ้ะ” ลีทึกตอบ
“ค่ะ ท่านป้า” เจ้าหญิงทั้ง2 ตึกๆๆๆ เสียงฝีเท้า2คู่ ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง
“ขออภัยที่สายครับ เสด็จแม่ ข้ามัวแต่จัดผมอยู่” กาจางวิ่งมาพร้อมโซรี
“เจ้ามัวแต่ชักช้านะ กาจาง นี่คือทูตสัมพันธไมตรีจากอาณาจักรของพระราชาซีวอน เจ้าหญิงจางมีและเจ้าหญิงดาเฮ” ลีทึกผามือไปทางเจ้าหญิงทั้ง 2
“ถวายความเคารพค่ะ เจ้าชาย” จางมีถอนสายบัวอีกครั้งทำเอากาจางโค้งกลับแทบไม่ทัน
“ฮ่าๆ เสด็จพี่ตลก” โซรีขำแบบไม่รักษามาด
“ทูตสัมพันธไมตรีต้องทำอะไรบ้างคะ” ดาเฮถาม
“นี่ราชินีฮีชอลยีงไม่บอกพวกเจ้าหรือว่าให้พวกเจ้าแค่มาเรียนรู้วิถีชีวิตที่นี่” ลีทึกถาม
“ยังค่ะ เสด็จแม่เพียงแต่ให้เรามาเท่านั้น” จางมีตอบอย่างนอบน้อม
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าทั้ง 4 ทำความรู้จักกันและสนิทสนมกันไว้นะ ข้าขอตัว” ลีทึกบอกทิ้งให้เด็กๆทั้ง 4 ทำความรู้จักกันไป
“เอ่อ..ข้ากาจาง มิต้องเรียกข้าว่าเจ้าชายก็ได้” กาจางเจาะจงพูดกับจางมีโดยเฉพาะ
“ข้าจางมีค่ะ” จางมีบอกก่อนยิ้มน้อยๆ
“ข้าโซรีนะ”
“ข้าดาเฮ” ดูเหมือนจอมแสบ2เมืองจะเข้ากันได้ดี
“เจ้าหญิง ท่านไม่ควรจะหนีมาแบบนี้” สิ้นเสียงก็ปรากฏร่างชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาในชุดองครักษ์
“ก็เจ้ามันน่ารำคาญ” โซรีทำหน้าเบื่อ
“ข้ากโยฮันขอรับ” ชายหนุ่มทำความเคารพ
“ทีกับข้านะ ดุเอาดุเอา กับคนอื่นสุภาพเชียว” โซรีแขวะ
“ก็เจ้าหญิงดื้อนิ ข้าก็จำเป็นต้องลงโทษ” ชายหนุ่มนามกโยฮันตอบ
“ช่างเจ้าเถอะ ข้าไม่คุยด้วยแล้ว ดาเฮ จางมี เจ้าตามข้ามา เดี๋ยวข้าจะพาไปที่ห้องพัก” โซรีไม่สนใจกโยฮันคว้ามือจางมีกับดาเฮเดินดุ่มๆไป
“นี่คือห้องของเจ้าทั้ง2 ห้องของเราทั้ง3จะเชื่อมติดกันโดยมีห้องตรงกลาง ห้องสีเขียวนี่ของเจ้า ดาเฮ ห้องสีน้ำเงินของเจ้านะจางมี” โซรีแนะนำห้อง
“ขอบคุณเจ้านะ” จางมีและดาเฮตอบ มิตรภาพค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละนิดๆ
“ไปกินอาหารกันเถอะ ท่าทางพวกเจ้าเดินทางมาเหนื่อยๆ คงจะหิว” กาจางเดินตามมาเพื่อเรียก
“ไปๆ ข้าหิวแล้ว” โซรีเดินนำไปที่ห้องอาหาร ทั้งหมดทรุดนั่งลง มีชายท่าทางสง่างามน่าเกรงขาม นั่งอยู่หัวโต๊ะ แขนบึกบึนโบกเชื้อเชิญ
“ถวายความเคารพเจ้าค่ะ องค์ราชา” จางมีกับดาเฮทำความเคารพ
“ไม่ต้องพีธีรีตรองนักหรอก ทำตัวตามสบายเถอะ” คังอินยิ้มทำให้ใบหน้านั้นลดความน่ากลัวลงไปโข
“ขอบพระทัยค่ะ องค์ราชา” เจ้าหญิงทั้งสองค้อมหัว ครืด เสียงลากเก้าอี้ของราชีนีลีทึก เขายืนขึ้นตบมือ2ครั้ง นางกำนัลทั้งหลายยกอาหารมากมายเข้ามาวางบนโต๊ะ
“แหมๆจะกินกันไม่รอเลยนะ” ชายร่างเล็กผอมบางในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าผมปล่อยสยายเดินควงคู่มากับชายร่างสูงแก้มป่องในชุดที่คล้ายกับองค์ราชาเดินมา
“อ้าวเยซอง เรียวอุค ข้ากำลังจะให้คนไปตามพวกเจ้าอยู่พอดี” องค์ราชาตบบ่าชายร่างสูงนามเยซอง
“ท่านพ่อ ท่านแม่” โซรียิ้มแห้งๆ
“โซรี เจ้าหายไปทั้งวันเลยนะ”
“โธ่ ท่านแม่ก็...”
“อ้าวๆ พวกเจ้าก็แนะนำตัวสิ เจ้าหญิงทั้งสองงงหมดแล้ว” ลีทึกแหย่
“ข้า เรียวอุค ส่วนนี่สามีข้า เยซอง น้องชายขององค์ราชา” เรียวอุคทักอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ” ทั้งคู่รับคำ
มื้ออาหารเป็นไปอย่างร่าเริง ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้ลูกไม่รู้สึกแปลกแยกเลย เสด็จพ่อเสก็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ลูกสบายดีและมาถึงได้อย่างปลอดภัย ตอนที่ลูกำม่อยู่ เสด็จพ่ออย่าทรงงานหนักมากนะคะ เสด็จแม่ช่วยดูแลเสด็จพ่อแทนลูกด้วย
รักและเป็นห่วง
จางมี
จางมีพับจดหมายสีขาวผูกไว้กับข้าของนกพิราบเพื่อให้มันบินไปส่งที่พระราชวังของเธอ จางมีนั่งมองเมฆสีขาวที่บดบังดวงอาทิตย์ เธออยู่ในห้องของเธอ กำลังพักผ่อนหลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆ ป่านนี้เสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะทำอะไรอยู่หนอ ลูกอยากรู้นัก น้ำตาเม็ดโตแวววาวราวกับเพชรหยดลงมาผ่านแก้มนวลโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมา เจ้าหญิงคนเรียบร้อยเดินไปเปิดประตู เห็นกาจางยืนอยู่
“นี่เจ้าร้องไห้หรือ!” กาจางตกใจ
“ข้าร้องงั้นหรือคะ”จางมีเอามือปาดน้ำตา เธอแค่เศร้าแต่ไม่นึกว่าน้ำตาจะไหล
“ใช่สิ โอ๋ๆ ไม่ต้องร้องนะ ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง” กาจางรั้งร่างบอบบางมากอดแล้วลูบหัวปลอบ จางมีรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอกำชายเสื้อของเขาไว้หลวมๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลโดยไม่ปิดบัง กาจางลูบเรือนผมนิ่มสลวยในมืออย่างปลอบโยน
“ขอบคุณเจ้ามากนะ” จางมีดันตัวออกเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ข้าพูดจริงนะ เหงาเศร้าอะไรบอกข้าได้เสมอ” กาจางยิ้มแล้วยิ้มอีก
“จะไม่เป็นการรบกวนเจ้าหรือ” จางมีถาม มันก็ดีนะที่มีเพื่อนคอยปลอบเวลารู้สึกแย่แต่ก็เกรงใจ
“ไม่หรอก ข้าก็ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ฮ่าๆ” จางมีรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้สดใสเสียเหลือเกิน
“เป็นเจ้าชายแต่ไม่มีกิจอะไรให้ทำหรือ?” จางมีสงสัย
“ประมาณนั้นแหละ ข้าเป็นเจ้าชายแบบพิเศษไง” กาจางพูดอย่างภาคภูมิใจ
“พิเศษ? ว่างเป็นพิเศษงั้นหรือ”
“อะฮ้า! เจ้าเดาถูกด้วย เก่งนี่นา” กาจางตบมือฉาด จางมีร่วมหัวเราะไปด้วย คนๆนี้ตลกดี
“หัวเราะได้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องเศร้าหรอก อยู่กับข้า ไม่ต้องกลัว ใครทำอะไรบอก ข้าจะไปจัดการให้” กาจางแอ๊คเคร่งขรึมแต่มันตลกมากกว่า
“เจ้านี่ดูไม่เครียดดีนะ” จางมีบอกขำๆ
“จะเครียดไปทำไม ระวังหน้าแก่ล่ะ” กาจางพูดเหมือนหลอกเด็ก
“ได้ ข้าจะจำไว้แล้วกันนะ กาจาง งั้นข้าขอตัวเข้าไปในห้องนะ” จางมีบอกก่อนถอยหลังเข้าประตูห้องไป
“ได้เลย”กาจางเดินไปตามทางเดิน
จิ๊บๆ จิ๊บๆ นกเหยี่ยวสีขาวของราชินีฮีชอลบินมาเกาะไหล่จางมี
“ขอบคุณเจ้ามากนะ กลับไปหาเสด็จแม่เถอะ” จางมีให้เจ้านกเหยี่ยวทานน้ำและอาหารให้อิ่มก่อนจะบินกลับไป เธอจะได้อ่านจดหมายสักที
ถึงจางมี
แม่ดีใจที่ได้ข่าวจากลูกว่าสบายดี แม่ก็สบายดีเช่นกัน แต่เสด็จพ่อของเจ้าน่ะสิ เอาแต่ทำงาน แม่ก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไรแล้ว สิ่งที่แม่อยากรู้ที่สุดตอนนี้ก็คือ ลูกเจอเจ้าชายกาจางหรือยัง แล้วเขาน่ารักไหม
จากแม่สุดสวยที่สุดในสามโลก
ฮีชอล
จางมีอ่านแล้วยิ้มนิดๆ เสด็จแม่ของเธอเป็นอย่างนี้เสมอ นี่สินะ ที่ทำให้เสด็จพ่อรักน่ะ นกพิราบสีขาวอีกตัวบินผ่านห้องของเธอไปที่ขามีจดหมายเสียด้วยสิ ใครส่งกันนะ ข้อสงสัยของจางมีก็ถูกตอบโดยองค์ราชินีลีทึกที่กำลังกอดอกมองนกสีขาวที่บินลับตาไป คนที่เขาเขียนถึงก็คือ ราชินีฮีชอล เพื่อนรักตั้งแต่สมัยเมื่อนานมาแล้ว
ถึงซิน
ลูกสาวเจ้าน่ารักมาก ข้าว่าแผนของเราคงสำเร็จได้ในอีกไม่ช้า ข้าจะพยายามทำให้มันสำเร็จ อยากเจอเจ้ามากๆ
คิดถึงจากใจ
ลีทึก
ลีทึกมีรอยยิ้มซุกซนอยู่บนใบหน้า
“เจ้ายิ้มอะไรของเจ้าน่ะ” คังอินถาม
“เปล่าหรอก ข้าแค่เขียนจดหมายถึงสหายรักเท่านั้น”
“สหายรักอย่างนั้นหรือ ผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ผู้ชาย”
“เจ้า!!...”
“ฟังก่อน เขาก็เป็นเหมือนข้านี่แหละ ไม่ต้องหึงหวงข้าหรอก” ลีทึกบีบจมูกคังอินเบาๆ
“โธ่ ก็เจ้าเป็นเมียข้านี่ ไม่ให้หึงเมียแล้วจะให้เห็นผู้ใด” คังินลูบหัวลีทึก
“เจ้าก็นะ -///-“ ลีทึกเขินไปไม่ถูกเลยทีเดียว...
ความคิดเห็น