คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่13 ขอความสุขจงคืนกลับมา
“ข้าเป็นห่วงจางมีนี่นา เผื่อถ้ากาจางกลับมาแล้วไม่มีเลือดน่ะ”
“แต่ข้ากับองค์หญิงเพิ่งบอกให้เซียงกยองไปตามท่านเมื่อเช้านี้” กโยฮันบอก ดาเฮเบิกตากว้าง
“สวนกันอย่างนั้นหรือ โธ่ ข้าอุตส่าห์ไปลาออกมานะ” ดาเฮพึมพำ
“ไปลาออก? ลาออกอะไร”
“ข้าไปขอท่านแม่กับท่านพ่อแล้วก็จะมาขอท่านป้าท่านลุงว่าข้าจะลาออกจากการเป็นเจ้าหญิงค่ะ” สิ่งที่พูดทำเอาตกใจกันทั้งห้อง
“เพราะอะไร?” ซีวอนถาม
“โธ่ ท่านลุง ข้าจะยอมลาออกจากการเป็นเจ้าหญิง ทิ้งความสะดวกสบายทุกอย่างเพื่อคนที่ข้ารักค่ะ”
“ถ้าเจ้ายืนยันหนักแน่นขนาดนั้น ป้าอนุญาติ” ฮีชอลปลง เขารู้ว่าหลานคนนี้ดื้อแค่ไหน ถ้าเป็นเจ้าหญิงก็คงต้องหนีออกไปให้ได้อยู่ดี สู้อนุญาตเสียดีกว่า
“ขอบคุณค่ะ ท่านป้า รักท่านป้าที่สุดเลย” ดาเฮหอมแก้มป้าคนสวยก่อนวิ่งออกไปจากห้อง
“ทีอย่างนี้ ร่าเริงขึ้นมาทันทีเลยสิน่า” เมื่อสองสามวันก่อนเห็นจะเป็นจะตาย
“นี่ใกล้จะถึงรึยัง เฟอร์เร็ต”
“อีกไม่นานนักหรอก ข้ามีเซนส์บางอย่างว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะสามารถช่วยราชินีได้”
เซียงกยองรีบขี่ม้ากลับมาที่เมืองเพราะเมื่อไปถึงวังของราชาซีวอนแล้ว ทหารด้านหน้าวังก็บอกว่าองค์หญิงดาเฮเสด็จกลับไปอีกเมืองหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขาเลยไม่รู้จะทำยังไง จึงตั้งใจว่าจะกลับไปตั้งหลักที่บ้านเสียก่อน เขาผูกม้าเอาไว้นอกบ้านก่อนเดินเข้าไป แต่จู่ๆก็ ฟึ่บ! มีอะไรบางอย่างตกลงมาจากต้นไม้ เขายกมือรับเอาไว้ได้ทันท่วงที
“ได้เจอเจ้าจนได้ คิดถึงเหลือเกิน” คนในอ้อมแขนยิ้มแป้นบอก เซียงกยองวางดาเฮลงบนพื้นแล้วทำท่าเหมือนจะเข้าบ้าน
“อ้าวๆ เดี๋ยวสิ นี่ข้ามาง้อแล้วน้า ทำไมต้องเดินหนีด้วยล่ะ” ดาเฮคว้าแขนแกร่งเอาไว้ก่อน
“ข้าไม่ควรเสวนากับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์อย่างท่าน กรุณาปล่อยด้วย”
“นี่! ข้ามิใช่เจ้าหญิง ลาออกแล้ว เลิกพูดอย่างนั้นเสียที”
“ลาออก? ได้อย่างไร ข้าไม่เชื่อ”
“ก็บอกแล้วว่าไปลาออกแล้ว ไปบอกท่านพ่อท่านแม่ท่านป้าท่านลุงแล้วว่าขอลาออก”
“แล้วพวกท่านว่า?”
“ท่านป้าท่านลุงให้แต่ท่านพ่อท่านแม่ไม่รู้ ข้าหนีออกมาก่อน แหะๆ” ดาเฮหัวเราะแห้งๆ
“ท่านยอมทำเพื่อข้าขนาดนี้เลยหรือ?”
“ใช่สิ เจ้าใจร้าย หันหลังหนีข้า ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงหรือเป็นดาเฮก็คนเดิมนั่นแหละ มันก็คือคนที่รักเจ้าอยู่ดี..” เซียงกยองคว้าตัวเจ้าหญิงจอมยุ่งของเขามากอดแล้วก้มลงจูบหน้าผากไล่เรื่อยมาจนถึงริมฝีปากจิ้มลิ้มที่พูดไม่หยุด
“อื้อ...” ดาเฮครางในลำคอเบาๆ เซียงกยองรู้สึกว่าสิ่งใดในโลกนี้ก็ไม่อร่อยเท่าสิ่งที่เขาได้ชิมอยู่ตรงหน้านี้ ดาเฮเริ่มดิ้นเมื่อหายใจไม่ออก
“จะให้ข้าหมดแรงเลยรึไงกัน” ดาเฮรำพึง
“แต่งงานกับข้านะ ดาเฮ” เซียงกยองคุกเข่าลง
“ในที่สุด สรรพนามเดิมๆก็กลับมาเสียที”
“ตอบข้ามาเถิด ดาเฮ”
“โธ่ เจ้าไม่น่าถาม ข้าตกลงอยู่แล้วนั่นแหละ บอกรักเจ้าไปกี่ครั้งแล้ว” ดาเฮตอบอย่างน่ารัก เซียงกยองจึงลุกขึ้นพลางอุ้มดาเฮหมุนไปมาอย่างมีความสุขไปในบ้าน
“ท่านพ่อ ท่านแม่!” ดาเฮร้องอย่สงตกใจแล้วรีบกระโดดลงจากอ้อมกอดเซียงกยอง ถอนสายบัวเคารพ
“หนีทาไม่บอกเลยนะ ดาเฮ” คิบอมพูดนิ่งๆ
“ข้าขอโทษค่ะ ท่านพ่อ อีกอย่างข้าลาออกจากการเป็นเจ้าหญิงแล้วนะคะ”
“แม่กับพ่อยังไม่อนุญาตนี่จ๊ะ” ดงแฮยิ้มบางๆ
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ถ้าลูกไปแล้วใครจะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์”
“ลูกของจางมีค่ะ”
“เรารอไม่ไหวหรอกจ้ะ ลูกต้องกลับไปสืบทอดราชบัลลังก์”
“แต่ข้ารักเซียง” ดาเฮเบะปาเหมือนจะร้องไห้
“พ่อรู้ แต่หน้าที่ของบ้านเมืองย่อมสำคัญกว่าหัวใจ”
“พอได้แล้วน่า คิบอม ลูกจะร้องไห้อยู่แล้ว เลิกแกล้งเถอะ” ดงแฮที่ทนไม่ไหว ตีแขนของสามีไป1ที
“เอ๋? นี่ท่านพ่อ ท่านแม่แกล้งข้าหรือ? ใจร้ายที่สุด”
“พ่อเขาแค่อยากให้ลูกรู้น่ะ ว่าเขาเป็นห่วง”
“แต่เรื่องที่ลูกต้องไปครองบัลลังก์น่ะ เรื่องจริง”
“อ้าว?”
“แต่ข้าจะแต่งตั้งให้หานเซียงกยองเป็งขุนนางคนสนิทขององค์ราชา และเมื่อลูกต้องเป็นราชินี...เซียงกยองก็จะเป็นพระราชาของเมืองเราคนต่อไป” คิบอมยิ้มยางๆให้ลูกสาวที่ตาโตเท่าไข่ห่าน
“พวกข้าสองคนต้องขอบคุณแทนลูกชายข้าเป็นอย่างมากที่ท่านเอ็นดูและเมตตาขนาดนี้” ฮันคยองโค้ง
“ไม่เป็นไรหรอก ต้องขอบใจลูกชายท่านมากกว่า เจ้าด้วยนะ ฮยอกแจ ที่คุมลูกสาวจอมเที่ยวเล่นของข้าให้กลับมามีความรับผิดชอบได้” ดงแฮยิ้มให้เพื่อนเก่า
“ท่านพ่อ ท่านแม่เข้าวังกันเถอะค่ะ ถ้ากาจางกลับมาจะได้มิต้องรอเลือดจากข้า”
“ผมของจางมีเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินทั้งหมดแล้ว พวกเราจะทำอย่างไรดี” ฮีชอลเริ่มลนลาน
“ถ้ายังไม่ออกมานอกหนามที่นางสร้างไว้ ยังไม่เป็นอะไรแต่ว่า..”
ปัง! “ข้ากลับมาแล้ว” กาจางโผล่พรวดเข้ามาในห้องพร้อมกับเฟอร์เร็ตที่วิ่งตามมาด้วย
“กาจาง นำวัตถุดิบมาให้ข้า” เรียวอุคร้องเรียก ตอนนี้หนามกุหลาบที่ครอบจางมีเริ่มขยับแล้ว เรียวอุคนำวัตถุดิบมาใส่ทีละอย่าง เริ่มจากเกศาราชินี ฮีชอลรีบดึงมาให้ ตาน้ำแห่งป่าใส่ลงไปต่อด้วยน้ำตา
“เหลือโลหิตบริสุทธิ์”
“ต้องเอาโลหิตของราชินีกุหลาบ” กาจางรีบวิ่งไปที่เตียงของจางมีเพื่อขอเลือดเพียงเล็กน้อย กาจางชักมีดฟันฉับไปที่หนามกุหลาบ ร่างของจางมีกระตุกเฮือก พลันปรากฏบาดแผลและเลือดแดงฉานบนแขนขาวเนียนทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
“อย่าทำร้ายกุหลาบ ราชินีจะเจ็บไปด้วย” เฟอร์เร็ตต์ร้องบอก กาจางจึงเอาชามไปรองเลือดที่ไหลออกมาไปให้เรียวอุคที่เทใส่ถ้วยแล้วนำกุหลาบพันปีมาขยี้รวมเป็นกระษัยยา
“เหลือแต่สายเลือดราชวงศ์ ดาเฮอยู่ที่ไหน”
“ข้ามาแล้วค่ะ!” ดาเฮที่บนแขนมีรอยกรีดเลือดหยดวิ่งฉิวมา และบีบแผลเพื่อให้เลือดหยดลงบนส่วนผสม
“จะนำยาให้จางมีดื่มได้อย่างไร เมื่อมีหนามกุหลาบล้อมรอบมากมายขนาดนี้”
“เพราะถ้าตัดจะเป็นการทำร้ายจางมี” ทุกคนเครียด แต่จู่ๆหนามกุหลาบที่ครอบจางมีก็ขาดกระจายไปในทิศต่างๆ จางมียังคงนอนนิ่ง กาจางจึงเดินเข้าไปอ้าปากจางมีเบาๆและเทยาลงไป
“ทำไมไม่เกิดอะไรขึ้นเลยล่ะครับ” กาจางร้อนใจ เขาเพิ่งจะสังเกตว่าจางมีดูงามขึ้น เย้ายวนขึ้น มีเสน่ห์มากขึ้น
“ยานี่จะกระตุ้นให้ร่างกายของจางมีปรับตัวกับพิษกุหลาบและควบคุมมันได้ อาจต้องใช้เวลาสักพัก”
“ว่าแต่เฟอร์เร็ตตัวนี้เป็นใคร ลูกพามาด้วยหรือ”
“เฟอร์เร็ตบอกว่านางเป็นสัตว์คู่บุญของจางมuครับ และบอกว่าจางมีจะต้องกลายเป็นราชินีกุหลาบ”
“เอาเถิด ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยกันมามากแล้ว ไปพักเถิด”
“แต่ว่าตอนนี้ที่สำคัญที่สุด เมื่อไหร่จางมีจะฟื้น” กาจางถอนหายใจกลัดกลุ้ม
ความคิดเห็น