คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่10 ความจริงที่ยอมเปิดเผย
“โอ๊ย!” กาจางร้อง เฟอร์เร็ตกลิ้งหลุนๆไปไกล
“อุ๊บ!” มันเอาเล็บจิกพื้นเอาไว้ได้
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ล่ะ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่เท่าไหร่” กาจางลุกขึ้นช้าๆ ตอนนี้ระบมไปหมดทั้งตัวแต่เมื่อนึกถึงจางมี เขาก็ ฮึบ! ลุกขึ้นมาได้
“มาเร็วๆสิ เจ้าปีศาจหิน!” เฟอเร็ตต์เรียก
“เฮ้ย! เจ้าไปเรียกมันทำไม เดี๋ยวมันก็มาจริงๆหรอก”
“อ้าว? ถ้ามาเร็วๆจะได้ช่วยราชินีได้เร็วๆ”เฟอเร็ตต์จอมยุ่งกระโดดหยองแหยงไปมา
“ข้าไม่สนแล้ว ในเมื่อกุหลาบพันปีอยู่ตรงหน้านั้นแล้ว” กาจางเดินดุ่มๆเข้าไปหากุหลาบพันปีที่โตมานานมากจนมันกลายเป็นกุหลาบหิน
“ เจ้าเดินดุ่มๆเข้าไปอย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากร้องเรียกปีศาจหรอก จี๊ด!” เฟอร์เร็ตรู้สึกว่าตัวค่อยๆลอยสูงขึ้นรวมทั้งพื้นที่อยู่ใต้เท้าด้วย!
“เฮ้ย!” กาจางมองเห็นปีศาจหินตัวใหญ่มโหฬารโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินทันทีที่เขาเด็ดดอกกุหลาบพันปีออกมา
“เหวอ!!!” เฟอร์เร็ตเกาะหัวมันแน่น ตึง!มันใช้มืออันใหญ่โตทุบลงบนพื้นข้างๆที่กาจางยืนทำให้เขาต้องกระโดดหลบแล้วกลิ้งหลุนๆ โดยไม่ลืมที่จะถนอมกุหลาบพันปีไว้ด้วย กาจางชักดาบออกมาฟันขาของปีศาจหินแต่ไม่เข้าแถมดังแกร๊งอีก
“ใช้ดาบก็ไม่ได้แล้วจะจัดการมันยังไงดีเนี่ย” กาจางพึมพำพลางวิ่งหนี มือใหญ่โตของปีศาจไปด้วย
“ข้าจะลองหาทางเข้าไปข้างในตัวมันดูอาจกัดตับไตไส้พุงขาดได้บ้าง” จบคำ เฟอร์เร็ตก็มุดผ่านรูจมูกของปีศาจหินเข้าไปโดยกาจางก็เรียกไว้ไม่ทัน โธ่ มันเป็นหินจะมีตับไตไส้พุงได้ยังไงเล่า กาจางกระโดดเกาะขาของปีศาจหินแล้วไต่ขึ้นไป บางทีอาจต้องเล่ยนงานจากข้างในอย่างที่เฟอร์เร็ตบอก แต่เข้าทางจมูกคงไม่ไหว ทางปากแล้วกัน กาจางเหนี่ยวตัวลื่นบรึ๊บเข้าไปในตัวของปีศาจหิน ฟิ้ว ตุ้บ
“โอ๊ย ทำไมมันแข็งอย่างงี้เนี่ย” กาจางสำรวจว่าเขาตกลงมาตรงไหน โชคดีที่ตกลงมาเจอหัวใจของปีศาจหินพอดี ว่าแต่จะทำลายมันยังไง กาจางเอาดาบแทงสวบ เลือดพุ่งปรี๊ดออกมา
“สำเร็จ!” กาจางเตรียมจะปีนออกแต่ในเมื่อหัวใจถูกแทง ปีศาจหินก็ล้มลงกระแทกพื้นตาย
“ตายให้มันเบาๆหน่อยไม่ได้รึไง กระเทือนหมดแล้ว” กาจางปีนออกทางปากของปีศาจหินเหมือนเดิม
“เฟอร์เร็ต” กาจางเรียก เฟอร์เร็ตจึงวิ่งดุ๊กๆออกมา ตัวเปียกปอนไปหมดจนขนลู่แนบตัว
“เจ้าไปโดนอะไรมาเนี่ย ทำไมสภาพเป็นอย่างนี้?” กาจางถามขำๆ
“ข้าโดนน้ำมูกน่ะสิ เน่าไปหมด” เฟอร์เร็ตพูดอย่างหงุดหงิด
“ไปกันได้แล้ว วันนี้คงต้องพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยหาต่อ” กาจางเดินนำออกไป
“ผมจางมีเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเพิ่มอีกแล้ว กลีบกุหลาบก็ร่วงโรยมากขึ้น ป่านนี้กาจางจะเป็นยังไงบ้าง” ฮีชอลพึมพำอย่างกลัดกลุ้ม
“ใจเย็นๆนะ ซิน ลูกข้ารักจางมี ยังไงเขาก็ต้องช่วยจางมีได้” ลีทึกปลอบใจเพื่อนรักก่อนมองไปที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่เป็นสีแดงสดกับผิวที่ขาวราวหิมะ ปอยผมสีน้ำเงินเข้มมีมากขึ้นจนเป็น1ใน4 ของผมทั้ง
“จางมี ฟื้นเร็วๆนะ” ดาเฮนั่งมองญาติสาวผ่านม่านน้ำตาที่ไหลเพิ่มขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บรรยกาศเต็มไปด้วยความหดหู่
“ขอออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ” ดาเฮเดินซึมๆออกไป เธอหวังว่าจะช่วยจางมีได้ ทำไมคนที่นอนอยู่ตรงนั้นถึงไม่เป็นเธอแทน เธอไม่ใช่ทายาทราชินีองค์ต่อไป ไม่มีความสำคุญเท่ากับชีวิตของจางมี ดาเฮเดินไร้ชีวิตเข้ามาในตลาด หวังว่าบรรยกาศความร่าเริงในตลาดจะช่วยให้เธอสบายใจขึ้นบ้าง ดาเฮมานั่งซึม น้ำตาหยดแหมะๆอยู่ริมทะเลสาบ ตอนนี้คนที่เธอคิดถึงก็คือเซียงกยองแต่เขาอยู่ที่ไหนกัน
“ดาเฮ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง ดาเฮหันกลับไปมอง
“ดาเฮ! เป็นอะไร”
“เซียง!” ดาเฮโผเข้ากอดเซียงกยองแน่นพลางปล่อยน้ำตาไหลออกมา เซียงกยองกอดปลอบลูบหลังดาเฮเบาๆ เขาสงสัยนักว่าอะไรทำให้ดาเฮคนร่าเริงของเขาต้องมีน้ำตา
“ไม่เป็นไรนะ ใจเย็นๆ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” เซียงกยองปลอบเหมือนปลอบเด็ก
“เอ่อ-////- ข้าดีขึ้นแล้วล่ะ” ดาเฮยันตัวเองออกจากอ้อมกอดเบาๆ
“เป็นอะไร บอกข้าได้มั๊ย?” เซียงกยองถาม
“จางมี...โดนพิษกุหลาบ ถ้ากาจางหายามารักษาไม่ทัน จางมีก็ต้องตาย ฮึก...” ดาเฮเริ่มสะอื้นอีก เซียงกยองเลือกที่จะปล่อยเรื่องสรรพนามให้ผ่านไปก่อน
“ใจเย็นๆ ยังไงญาติเจ้าก็ต้องหาย” เซียงกยองปลอบ
“อื้อ ข้าสบายใจขึ้นแล้วล่ะ ขอบคุณมากนะ” ดาเฮยิ้มบางๆ ณ วินาทีนั้น เซียงกยองตัดสินใจพูดขึ้น
“แต่งงานกับข้าไหม ดาเฮ”
“อะไรนะ? แต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะเซียง” ดาเฮถึงกับช็อก
“ข้าคิดมาดีแล้ว”
“แต่เจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข้าเลยนะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าเป็นใคร” ดาเฮก้มหน้าลง
“แค่เจ้าเป็นเจ้าอย่างนี้ มันก็ดีที่สุดสำหรับข้าแล้ว”
“เจ้าก็พูดได้สิ เพราะเจ้ายังไม่รู้ความจริง”
“ความจริงคืออะไร เจ้าก็บอกข้ามาสิ”
“แม่ข้าชื่อคิมดงแฮเป็นน้องสาวแท้ๆของราชินีฮีชอล ส่วนพ่อข้าชื่อคิมคิบอมเป็นญาติขององค์ราชาซีวอน...ข้าเป็นญาติของเจ้าหญิงจางมี...”
“แสดงว่าเจ้าก็เป็นเจ้าหญิงอย่างสินะ” เซียงกยองพูดนิ่งๆ
“ใช่ ข้าเป็นเจ้าหญิง”
“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่แรก”
“ถ้าข้าบอกแล้วจะยอมเป็นเพื่อนกับข้าไหม จะยอมสนิทกับข้าไหม?”
“เจ้า ไม่สิ เจ้าหญิงไม่ควรหลอกข้าแต่แรก”
“ข้าขอโทษ อย่าใช้สรรพนามห่างกับข้าเลยนะ” ดาเฮจวนเจียนจะร้องไห้อีกครั้ง
“เราไม่ควรมายุ่งกันอีก ข้าขอลา” เซียงกยองหันหลังเดินไป
“เซียง! ข้ารักเจ้า” ดาเฮวิ่งไปกอดเซียงกยองด้านหลัง
“ข้าก็รักเจ้าดาเฮ แต่ไม่ใช่ เจ้าหญิงดาเฮผู้สูงศักดิ์ ข้าไม่คู่ควรกับท่าน ข้าเป็นแค่คนธรรมดาสามัญชนเท่านั้น” เซียงกยองพูดอย่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้ารักเจ้า เซียง ได้ยินไหม” เซียงกยองแกะมือดาเฮบอกเบาๆ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามือใหญ่กำจนขึ้นข้อ ดาเฮทรุดลงร้องไห้ปานจะขาดใจ เธอค่อยๆพาหัวใจอันบอบช้ำกลับไปที่วัง เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วนั่งซึมอยู่ข้างๆร่างของญาติสาว
“ดาเฮ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” โซรีเดินมานั่งข้างๆ หน้าเธอเองก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก
“เธอนั่นแหละ เป็นอะไรหรือเปล่า โซรี” ดาเฮถาม
“คือว่า...” ย้อนกลับไปที่โซรีลักโยฮันก่อนดาเฮออกไป
“แย่ที่สุดเลยที่จางมีเป็นแบบนี้” โซรีถอนหายใจ
“ข้าถามองค์หญิงหน่อย เมื่อไหร่จะให้คำตอบข้าสักที” กโยฮันถาม
“เรื่องอะไร?” โซรีหันกลับมามอง
“เรื่องที่องค์หญิงติดไว้ว่าจะคบข้าน่ะสิ”
“เจ้ายังมีอารมณ์มาพูดเรื่องนี้อีกอย่างนั้นเหรอ” โซรีตวัดสายตาใส่อย่างหงุดหงิด
“ข้าไม่มั่นใจว่าองค์หญิงรักข้าอย่างที่ข้ารักหรือเปล่า?”
“ข้าไม่อยากให้คำตอบตอนนี้!” โซรีตะโกนใส่หน้ากโยฮัน
“หึ ก็ได้! ถ้าองค์หญิงไม่ได้รักข้าจริงๆ ข้าจะไม่รบกวนอีก ขออภัยที่ทำให้รำคาญ” กโยฮันหมุนตัวเดินจากไป
“กโย ข้ารักเจ้า แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังเศร้าอยู่ ข้าไม่สามารถมีความสุขอยู่คนเดียวได้จริงๆ โปรดเข้าใจ” โซรีเล่าจนจบอย่างเศร้าๆ
“โซรี เจ้าใจเย็นๆนะ ข้าว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง” ดาเฮปลอบอย่างเศร้าไม่แพ้กัน
“แล้วเจ้าล่ะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้เศร้าอย่างนี้” โซรีถามกลับ ดาเฮจึงเล่าให้ฟัง
“น่าแปลกจริงนะที่เราทั้ง3คน เกิดเรื่องร้ายๆพร้อมกัน”
“แล้วเราก็จะผ่านมันไปด้วยกัน...”
ความคิดเห็น