คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
ตอนที่2
ขณะที่เขากำลังเดินไปรอบๆบ้าน เมื่อมาถึงด้านหลังเขาก็เห็นมินน่ากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ เขาใช้เวทมนตร์ทำให้ตัวเขาเปลี่ยนเป็นชุดของพ่อมด และร่ายมนตร์ให้ไม้กวาดปรากฏขึ้น
"สวย น่ารัก แถมขยันอีกต่างหาก" เขาคิด
เธอหันมามอง"อ้าว คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ" มินน่าถาม
"คือว่า ผมเห็นบ้านหลังนี้สวยดี ผมก็เลยเข้ามาดู ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนเข้ามานะครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บ้านนี้ไม่ใช่เขตหวงห้ามเข้ามาได้ค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
เธอพาเขาเดินชมรอบๆบ้าน จนกระทั่ง
"มินน่า แม่กลับมาแล้ว"
"ค่ะแม่ แล้วพ่อหล่ะคะ"
"พ่อไปประชุมที่องค์กรจ้ะ"
"งั้นเราทำอาหารไว้รอดีมั้ยคะ หนูซื้อของมาแล้ว"
"ได้จ้ะ อ้าว แล้วนั่นใครน่ะลูก"
"อ๋อ มิกกี้เขาเป็นเพื่อนหนูค่ะ หนูชนกับเขาตอนซื้อของกลับบ้าน เขาช่วยเก็บของให้ แล้วเขาก็บอกว่า บ้านเราสวยดีก็เลยขอเข้ามาดูอ่ะค่ะ"
"มิกกี้ นี่คุณแม่ของฉัน"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีจ้ะ เธอมาจากเมืองไหนหล่ะ"
"ถ้าผมบอกไปแล้วจะเชื่อกันมั้ยครับ"
"เชื่อจ้ะ"
คุณแม่ของมินน่าและมินน่าตอบ
"ผมมาจาก โลกเวทมนตร์ครับ และตัวผมเองก็เป็นพ่อมดด้วย"
"เธอแน่ใจนะ เธอเป็นพ่อมดจริงๆเหรอ"มินน่าถาม
"ใช่ ฉันเป็นพ่อมด ฉันจะแสดงให้ดู"
"สุดยอดไปเลย เธอรู้มั้ยว่า ฉันน่ะอยากมีเวทมนตร์มากเลยนะ"
"นี่เธอทำได้ยังไงน่ะ" คุณแม่ของมินน่าถาม
"ผมมีเวทมนตร์ตั้งแต่เกิด พ่อกับแม่ของผมก็เป็นพ่อมดและแม่มดเหมือนกันครับ"
"แล้วทำไมโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์ถึงไม่มีการติดต่อกันเลยหล่ะ"
มินน่าถามเขา
"ผมจะเล่าให้ฟัง เมื่อ500,000ปีที่แล้ว มนุษย์อยู่ร่วมกับพวกเรามานาน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขึ้น เมื่อมนุษย์ขับไล่พวกเราออกไปจากแดนของพวกเขาและให้เหตุผลว่าพวกเขาถูกทางฝ่ายของเราเอาเปรียบ แต่จริงๆแล้วพวกเราเชื่อว่า มนุษย์เป็นผู้ที่มีความรักที่บริสุทธิ์ จึงไม่คิดจะทำร้ายหรือเอาเปรียบแต่อย่างใด จนกระทั่งบัดนี้ มนุษย์ลืมวิธีการใช้เวทมนตร์ของตัวเองไปแล้ว สมัยก่อนมนุษย์ก็มีเวทมนตร์แต่เป็นเวทมนตร์ที่อ่อนกว่าของชาวโลกเวทมนตร์มาก หลังจากที่ขับไล่ชาวโลกเวทมนตร์ออกไปแล้วชาวโลกมนุษย์ก็ไม่ได้ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือ จนทำให้เวทมนตร์สลายหายไปจะมีก็แค่บางคนเท่านั้นที่ยังมีเวทมนตร์มาจนถึงบัดนี้"
"แล้วมนุษย์อย่างพวกเราเนี่ยมีความเป็นไปได้มั้ยว่าจะกลับมามีเวทมนตร์อีกครั้งน่ะ" มินน่าถาม
"เป็นไปไม่ได้อีกแล้วหล่ะเพราะตอนนี้มนุษย์มีวิทยาศาสตร์สิ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่เชื่อในเรื่องของเวทมนตร์ ทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องงมงายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"
"ฉันเชื่อ และฉันก็คิดมาตลอดว่า โลกของฉันจะต้องมีแต่ก๊าซพิษแบบนี้เพราะว่าวิทยาศาสตร์นั่นแหละที่เป็นตัวการ ถึงแม้ว่าคุณพ่อและคุณแม่ของฉันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันทั้งคู่ แต่พวกเราก็ไม่คิดว่าวิทยาศาสตร์จะช่วยทำให้โลกดีขึ้นเลยสักนิดกลับทำให้โลกแย่ลงเรื่อยๆมากกว่า" มินน่าบอก
"อืมแล้วคืนนี้เธอจะพักที่ไหนหล่ะ"คุณแม่ของมินน่าถาม
"ยังไม่รู้เลยครับเพราะว่าเพิ่งหลุดออกมาจากมิติเมื่อเช้านี้เองครับ"
"งั้นพักบ้านน้าก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ ถ้าหาทางกลับได้แล้วค่อยไปนะ มินน่า พาเขาไปห้องหนูนะแล้วหนูมานอนกับแม่"
"ค่ะ"
มินน่าพามิกกี้ไปที่ห้องของเธอ
"นี่ห้องของฉันนะ ข้างๆนี่เป็นห้องน้ำ เสื้อผ้ามีมั้ย"
"ผมเสกเอาก็ได้ครับ"
"ลืมไปว่าเป็นพ่อมด งั้นฉันไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็นที่ห้องอาหารนะ"
พอมินน่าเดินออกไปปุ๊บ มิกกี้ก็ล้มตัวลงนอนพร้อมกับคิดว่า
"ทำไมเธอถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ ถ้าเธอเป็นแม่มดก็ดีสิ เราจะได้รักกันได้ เฮ่อ แย่จัง"
ที่มิกกี้กลุ้มใจนั้นเพราะว่าเคยมีหญิงชายคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นพ่อมด เขาหลงรักหญิงสาวชาวโลกมนุษย์ ทั้งสองรักกันมากและมีลูกด้วยกัน แต่เมื่อทางสภาสูงของดินแดนเวทมนตร์รู้เข้าก็เข้าไปขัดขวางและแยกทั้งสองออกจากกัน มิกกี้จึงคิดว่าถ้าเขาเป็นอย่างนั้น เขาจะพามินน่าหนีมาอยู่ที่โลกมนุษย์แทน
"โอ๊ยคิดบ้าอะไรเนี่ยเรา ยังไม่ได้รักกันเลยคิดไปไกลแล้วเหรอเนี่ย" ทางฝ่ายมินน่า
"มิกกี้เขาก็เป็นคนเรียบร้อยดีนะ น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษ แถมเป็นพ่อมดอีกต่างหาก"
"คิดอะไรอยู่จ๊ะลูกสาวแสนสวยของแม่"
"เปล่าค่ะแม่"
"เอแม่ว่ามิกกี้เขาก็น่ารักดีนะลูก"
"แม่พูดอะไรอ่ะคะ"
"ลูกแม่โตเป็นสาวแล้วทำไมแม่จะไม่รู้ แม่เห็นสายตาเขาเวลาที่เขามองมาที่หนูนะ มันเหมือนตอนที่พ่อกับแม่รักกันใหม่ๆเลย ลูกน่ะเวลามองตาเขาก็อายม้วนเลย"
"แม่อ่ะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็แค่คิดว่า เขาก็เป็นคนเรียบร้อย น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษเท่านั้นเองค่ะ"มินน่าบอกแม่
"นั่นแหละ ลูกชมเขามากกว่าชมฮีโร่ในดวงใจซะอีก"
ฮีโร่ในดวงใจของเธอนั้นก็คือ นักเขียนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เชื่อว่าในโลกนี้ยังมีเวทมนตร์หลงเหลืออยู่
ตอนที่2
ขณะที่เขากำลังเดินไปรอบๆบ้าน เมื่อมาถึงด้านหลังเขาก็เห็นมินน่ากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่
"สวย น่ารัก แถมขยันอีกต่างหาก" เขาคิด
เธอหันมามอง"อ้าว คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ" มินน่าถาม
"คือว่า ผมเห็นบ้านหลังนี้สวยดี ผมก็เลยเข้ามาดู ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนเข้ามานะครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บ้านนี้ไม่ใช่เขตหวงห้ามเข้ามาได้ค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
เธอพาเขาเดินชมรอบๆบ้าน จนกระทั่ง
"มินน่า แม่กลับมาแล้ว"
"ค่ะแม่ แล้วพ่อหล่ะคะ"
"พ่อไปประชุมที่องค์กรจ้ะ"
"งั้นเราทำอาหารไว้รอดีมั้ยคะ หนูซื้อของมาแล้ว"
"ได้จ้ะ อ้าว แล้วนั่นใครน่ะลูก"
"อ๋อ มิกกี้เขาเป็นเพื่อนหนูค่ะ หนูชนกับเขาตอนซื้อของกลับบ้าน เขาช่วยเก็บของให้ แล้วเขาก็บอกว่า บ้านเราสวยดีก็เลยขอเข้ามาดูอ่ะค่ะ"
"มิกกี้ นี่คุณแม่ของฉัน"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีจ้ะ เธอมาจากเมืองไหนหล่ะ"
"ถ้าผมบอกไปแล้วจะเชื่อกันมั้ยครับ"
"เชื่อจ้ะ"
คุณแม่ของมินน่าและมินน่าตอบ
"ผมมาจาก โลกเวทมนตร์ครับ และตัวผมเองก็เป็นพ่อมดด้วย"
"เธอแน่ใจนะ เธอเป็นพ่อมดจริงๆเหรอ"มินน่าถาม
"ใช่ ฉันเป็นพ่อมด ฉันจะแสดงให้ดู"
เขาใช้เวทมนตร์ทำให้ตัวเขาเปลี่ยนเป็นชุดของพ่อมด และร่ายมนตร์ให้ไม้กวาดปรากฏขึ้น
"สุดยอดไปเลย เธอรู้มั้ยว่า ฉันน่ะอยากมีเวทมนตร์มากเลยนะ"
"นี่เธอทำได้ยังไงน่ะ" คุณแม่ของมินน่าถาม
"ผมมีเวทมนตร์ตั้งแต่เกิด พ่อกับแม่ของผมก็เป็นพ่อมดและแม่มดเหมือนกันครับ"
"แล้วทำไมโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์ถึงไม่มีการติดต่อกันเลยหล่ะ"
มินน่าถามเขา
"ผมจะเล่าให้ฟัง เมื่อ500,000ปีที่แล้ว มนุษย์อยู่ร่วมกับพวกเรามานาน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขึ้น เมื่อมนุษย์ขับไล่พวกเราออกไปจากแดนของพวกเขาและให้เหตุผลว่าพวกเขาถูกทางฝ่ายของเราเอาเปรียบ แต่จริงๆแล้วพวกเราเชื่อว่า มนุษย์เป็นผู้ที่มีความรักที่บริสุทธิ์ จึงไม่คิดจะทำร้ายหรือเอาเปรียบแต่อย่างใด จนกระทั่งบัดนี้ มนุษย์ลืมวิธีการใช้เวทมนตร์ของตัวเองไปแล้ว สมัยก่อนมนุษย์ก็มีเวทมนตร์แต่เป็นเวทมนตร์ที่อ่อนกว่าของชาวโลกเวทมนตร์มาก หลังจากที่ขับไล่ชาวโลกเวทมนตร์ออกไปแล้วชาวโลกมนุษย์ก็ไม่ได้ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือ จนทำให้เวทมนตร์สลายหายไปจะมีก็แค่บางคนเท่านั้นที่ยังมีเวทมนตร์มาจนถึงบัดนี้"
"แล้วมนุษย์อย่างพวกเราเนี่ยมีความเป็นไปได้มั้ยว่าจะกลับมามีเวทมนตร์อีกครั้งน่ะ" มินน่าถาม
"เป็นไปไม่ได้อีกแล้วหล่ะเพราะตอนนี้มนุษย์มีวิทยาศาสตร์สิ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่เชื่อในเรื่องของเวทมนตร์ ทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องงมงายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"
"ฉันเชื่อ และฉันก็คิดมาตลอดว่า โลกของฉันจะต้องมีแต่ก๊าซพิษแบบนี้เพราะว่าวิทยาศาสตร์นั่นแหละที่เป็นตัวการ ถึงแม้ว่าคุณพ่อและคุณแม่ของฉันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันทั้งคู่ แต่พวกเราก็ไม่คิดว่าวิทยาศาสตร์จะช่วยทำให้โลกดีขึ้นเลยสักนิดกลับทำให้โลกแย่ลงเรื่อยๆมากกว่า" มินน่าบอก
"อืมแล้วคืนนี้เธอจะพักที่ไหนหล่ะ"คุณแม่ของมินน่าถาม
"ยังไม่รู้เลยครับเพราะว่าเพิ่งหลุดออกมาจากมิติเมื่อเช้านี้เองครับ"
"งั้นพักบ้านน้าก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ ถ้าหาทางกลับได้แล้วค่อยไปนะ มินน่า พาเขาไปห้องหนูนะแล้วหนูมานอนกับแม่"
"ค่ะ"
มินน่าพามิกกี้ไปที่ห้องของเธอ
"นี่ห้องของฉันนะ ข้างๆนี่เป็นห้องน้ำ เสื้อผ้ามีมั้ย"
"ผมเสกเอาก็ได้ครับ"
"ลืมไปว่าเป็นพ่อมด งั้นฉันไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็นที่ห้องอาหารนะ"
พอมินน่าเดินออกไปปุ๊บ มิกกี้ก็ล้มตัวลงนอนพร้อมกับคิดว่า
"ทำไมเธอถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ ถ้าเธอเป็นแม่มดก็ดีสิ เราจะได้รักกันได้ เฮ่อ แย่จัง"
ที่มิกกี้กลุ้มใจนั้นเพราะว่าเคยมีหญิงชายคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นพ่อมด เขาหลงรักหญิงสาวชาวโลกมนุษย์ ทั้งสองรักกันมากและมีลูกด้วยกัน แต่เมื่อทางสภาสูงของดินแดนเวทมนตร์รู้เข้าก็เข้าไปขัดขวางและแยกทั้งสองออกจากกัน มิกกี้จึงคิดว่าถ้าเขาเป็นอย่างนั้น เขาจะพามินน่าหนีมาอยู่ที่โลกมนุษย์แทน
"โอ๊ยคิดบ้าอะไรเนี่ยเรา ยังไม่ได้รักกันเลยคิดไปไกลแล้วเหรอเนี่ย" ทางฝ่ายมินน่า
"มิกกี้เขาก็เป็นคนเรียบร้อยดีนะ น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษ แถมเป็นพ่อมดอีกต่างหาก"
"คิดอะไรอยู่จ๊ะลูกสาวแสนสวยของแม่"
"เปล่าค่ะแม่"
"เอแม่ว่ามิกกี้เขาก็น่ารักดีนะลูก"
"แม่พูดอะไรอ่ะคะ"
"ลูกแม่โตเป็นสาวแล้วทำไมแม่จะไม่รู้ แม่เห็นสายตาเขาเวลาที่เขามองมาที่หนูนะ มันเหมือนตอนที่พ่อกับแม่รักกันใหม่ๆเลย ลูกน่ะเวลามองตาเขาก็อายม้วนเลย"
"แม่อ่ะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็แค่คิดว่า เขาก็เป็นคนเรียบร้อย น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษเท่านั้นเองค่ะ"มินน่าบอกแม่
"นั่นแหละ ลูกชมเขามากกว่าชมฮีโร่ในดวงใจซะอีก"
ฮีโร่ในดวงใจของเธอนั้นก็คือ นักเขียนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เชื่อว่าในโลกนี้ยังมีเวทมนตร์หลงเหลืออยู่
ตอนที่2
ขณะที่เขากำลังเดินไปรอบๆบ้าน เมื่อมาถึงด้านหลังเขาก็เห็นมินน่ากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่
"สวย น่ารัก แถมขยันอีกต่างหาก" เขาคิด
เธอหันมามอง"อ้าว คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ" มินน่าถาม
"คือว่า ผมเห็นบ้านหลังนี้สวยดี ผมก็เลยเข้ามาดู ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนเข้ามานะครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บ้านนี้ไม่ใช่เขตหวงห้ามเข้ามาได้ค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
เธอพาเขาเดินชมรอบๆบ้าน จนกระทั่ง
"มินน่า แม่กลับมาแล้ว"
"ค่ะแม่ แล้วพ่อหล่ะคะ"
"พ่อไปประชุมที่องค์กรจ้ะ"
"งั้นเราทำอาหารไว้รอดีมั้ยคะ หนูซื้อของมาแล้ว"
"ได้จ้ะ อ้าว แล้วนั่นใครน่ะลูก"
"อ๋อ มิกกี้เขาเป็นเพื่อนหนูค่ะ หนูชนกับเขาตอนซื้อของกลับบ้าน เขาช่วยเก็บของให้ แล้วเขาก็บอกว่า บ้านเราสวยดีก็เลยขอเข้ามาดูอ่ะค่ะ"
"มิกกี้ นี่คุณแม่ของฉัน"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีจ้ะ เธอมาจากเมืองไหนหล่ะ"
"ถ้าผมบอกไปแล้วจะเชื่อกันมั้ยครับ"
"เชื่อจ้ะ"
คุณแม่ของมินน่าและมินน่าตอบ
"ผมมาจาก โลกเวทมนตร์ครับ และตัวผมเองก็เป็นพ่อมดด้วย"
"เธอแน่ใจนะ เธอเป็นพ่อมดจริงๆเหรอ"มินน่าถาม
"ใช่ ฉันเป็นพ่อมด ฉันจะแสดงให้ดู"
เขาใช้เวทมนตร์ทำให้ตัวเขาเปลี่ยนเป็นชุดของพ่อมด และร่ายมนตร์ให้ไม้กวาดปรากฏขึ้น
"สุดยอดไปเลย เธอรู้มั้ยว่า ฉันน่ะอยากมีเวทมนตร์มากเลยนะ"
"นี่เธอทำได้ยังไงน่ะ" คุณแม่ของมินน่าถาม
"ผมมีเวทมนตร์ตั้งแต่เกิด พ่อกับแม่ของผมก็เป็นพ่อมดและแม่มดเหมือนกันครับ"
"แล้วทำไมโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์ถึงไม่มีการติดต่อกันเลยหล่ะ"
มินน่าถามเขา
"ผมจะเล่าให้ฟัง เมื่อ500,000ปีที่แล้ว มนุษย์อยู่ร่วมกับพวกเรามานาน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงขึ้น เมื่อมนุษย์ขับไล่พวกเราออกไปจากแดนของพวกเขาและให้เหตุผลว่าพวกเขาถูกทางฝ่ายของเราเอาเปรียบ แต่จริงๆแล้วพวกเราเชื่อว่า มนุษย์เป็นผู้ที่มีความรักที่บริสุทธิ์ จึงไม่คิดจะทำร้ายหรือเอาเปรียบแต่อย่างใด จนกระทั่งบัดนี้ มนุษย์ลืมวิธีการใช้เวทมนตร์ของตัวเองไปแล้ว สมัยก่อนมนุษย์ก็มีเวทมนตร์แต่เป็นเวทมนตร์ที่อ่อนกว่าของชาวโลกเวทมนตร์มาก หลังจากที่ขับไล่ชาวโลกเวทมนตร์ออกไปแล้วชาวโลกมนุษย์ก็ไม่ได้ฝึกฝนและพัฒนาฝีมือ จนทำให้เวทมนตร์สลายหายไปจะมีก็แค่บางคนเท่านั้นที่ยังมีเวทมนตร์มาจนถึงบัดนี้"
"แล้วมนุษย์อย่างพวกเราเนี่ยมีความเป็นไปได้มั้ยว่าจะกลับมามีเวทมนตร์อีกครั้งน่ะ" มินน่าถาม
"เป็นไปไม่ได้อีกแล้วหล่ะเพราะตอนนี้มนุษย์มีวิทยาศาสตร์สิ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่เชื่อในเรื่องของเวทมนตร์ ทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องงมงายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"
"ฉันเชื่อ และฉันก็คิดมาตลอดว่า โลกของฉันจะต้องมีแต่ก๊าซพิษแบบนี้เพราะว่าวิทยาศาสตร์นั่นแหละที่เป็นตัวการ ถึงแม้ว่าคุณพ่อและคุณแม่ของฉันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันทั้งคู่ แต่พวกเราก็ไม่คิดว่าวิทยาศาสตร์จะช่วยทำให้โลกดีขึ้นเลยสักนิดกลับทำให้โลกแย่ลงเรื่อยๆมากกว่า" มินน่าบอก
"อืมแล้วคืนนี้เธอจะพักที่ไหนหล่ะ"คุณแม่ของมินน่าถาม
"ยังไม่รู้เลยครับเพราะว่าเพิ่งหลุดออกมาจากมิติเมื่อเช้านี้เองครับ"
"งั้นพักบ้านน้าก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ ถ้าหาทางกลับได้แล้วค่อยไปนะ มินน่า พาเขาไปห้องหนูนะแล้วหนูมานอนกับแม่"
"ค่ะ"
มินน่าพามิกกี้ไปที่ห้องของเธอ
"นี่ห้องของฉันนะ ข้างๆนี่เป็นห้องน้ำ เสื้อผ้ามีมั้ย"
"ผมเสกเอาก็ได้ครับ"
"ลืมไปว่าเป็นพ่อมด งั้นฉันไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็นที่ห้องอาหารนะ"
พอมินน่าเดินออกไปปุ๊บ มิกกี้ก็ล้มตัวลงนอนพร้อมกับคิดว่า
"ทำไมเธอถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ ถ้าเธอเป็นแม่มดก็ดีสิ เราจะได้รักกันได้ เฮ่อ แย่จัง"
ที่มิกกี้กลุ้มใจนั้นเพราะว่าเคยมีหญิงชายคู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นพ่อมด เขาหลงรักหญิงสาวชาวโลกมนุษย์ ทั้งสองรักกันมากและมีลูกด้วยกัน แต่เมื่อทางสภาสูงของดินแดนเวทมนตร์รู้เข้าก็เข้าไปขัดขวางและแยกทั้งสองออกจากกัน มิกกี้จึงคิดว่าถ้าเขาเป็นอย่างนั้น เขาจะพามินน่าหนีมาอยู่ที่โลกมนุษย์แทน
"โอ๊ยคิดบ้าอะไรเนี่ยเรา ยังไม่ได้รักกันเลยคิดไปไกลแล้วเหรอเนี่ย" ทางฝ่ายมินน่า
"มิกกี้เขาก็เป็นคนเรียบร้อยดีนะ น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษ แถมเป็นพ่อมดอีกต่างหาก"
"คิดอะไรอยู่จ๊ะลูกสาวแสนสวยของแม่"
"เปล่าค่ะแม่"
"เอแม่ว่ามิกกี้เขาก็น่ารักดีนะลูก"
"แม่พูดอะไรอ่ะคะ"
"ลูกแม่โตเป็นสาวแล้วทำไมแม่จะไม่รู้ แม่เห็นสายตาเขาเวลาที่เขามองมาที่หนูนะ มันเหมือนตอนที่พ่อกับแม่รักกันใหม่ๆเลย ลูกน่ะเวลามองตาเขาก็อายม้วนเลย"
"แม่อ่ะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็แค่คิดว่า เขาก็เป็นคนเรียบร้อย น่ารัก เป็นสุภาพบุรุษเท่านั้นเองค่ะ"มินน่าบอกแม่
"นั่นแหละ ลูกชมเขามากกว่าชมฮีโร่ในดวงใจซะอีก"
ฮีโร่ในดวงใจของเธอนั้นก็คือ นักเขียนชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เชื่อว่าในโลกนี้ยังมีเวทมนตร์หลงเหลืออยู่
-s b-
ความคิดเห็น