[Fic-Baramos] Tomorrow.. Say goodBye - [Fic-Baramos] Tomorrow.. Say goodBye นิยาย [Fic-Baramos] Tomorrow.. Say goodBye : Dek-D.com - Writer

    [Fic-Baramos] Tomorrow.. Say goodBye

    (แปลตามชื่อเรื่อง)...พรุ่งนี้ จะลาจาก (ยังคงอยู่ในwww.sun-tree.net)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,269

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.26K

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 มี.ค. 50 / 14:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       Tomorrow.. Say goodBye
      ช่วงเวลา: ก่อนจบปีสาม


      ดวงจันทร์กลมโตสีเหลืองนวลลอยอยู่โดนเดียวแต่โดดเด่น ท่ามกลางดาราระยิบระยับแพรวพราวบนท้องฟ้าที่มืดสนิทดังเอาผ้ากำมะหยี่มาปูแล้วโรยเพชรไว้ เวลาของราตรีที่มักมาคู่กับความเงียบวังเวง

      ... แต่ไม่ใช่สำหรับป้อมอัศวินปีสาม...


      "เมืองเกรดหนึ่งในเอเดนมีกี่เมือง"

      เสียงใสดังแว๊ดๆพูดกึ่งตะโกนกันให้ได้ยินทั่วทั้งห้องนั่งเล่น เจ้าของเสียงนั้นเป็นแม่มดสาวน้อยผมทอง ตากลมสีฟ้า กำลังนั่งบนโซฟาและมีหนังสือเล่มใหญ่อยู่ที่ตัก นาม แองเจลีน่า โรมานอฟ

      "ใครตอบได้ให้ยกมือ" คราวนี้เป็นเสียงของมาทิลด้า ซิลเวอร์ ผู้ยืนอยู่ทางขวาของแองเจลีน่า พูดขรึมๆพลางกวาดตามองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่กับพื้นเบื้องหน้าตน

      มือหนึ่งยกขึ้นโบกเร็วกว่าใครๆ แต่ไม่ใช่มือเด็กหนุ่ม

      "สี่เมืองครับผม!"

      สาวน้อยเสียงใสแสรงห้าว นาม เฟลิดโน่า เกรเดเวล ตะโกนขึ้น แล้วฉับพลันก็โดนสายตาของบุรุษชื่อ คาโล วาเนบลี ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไกลออกไปมองอย่างตำหนิ ส่วนคิลมัส ฟีลมัส นั่งขำอยู่ข้างๆเธอ

      "ถูกต้องค่ะ" เสียงหวานของเจ้าหญิงเรนอน ธีน็อท ทำเอาคนตอบถูก แย้มรอยยิ้มกว้าง เปลี่ยนบรรยากาศเครียดให้ดีขึ้น แต่บรรยากาศหวานๆก็ต้องหายไปเมื่อแองเจลีน่าตะโกนถามต่อ

      "มีเมืองไหนบ้าง"

      ซีบิลยกมือ "บารามอสครับ"

      จบจากนักบวชหนุ่ม ในห้องก็เงียบเป็นเป่าสาก จนมาทิลด้าต้องเรียกชื่อให้ตอบ

      "เจค" เจ้าของชื่อที่เป็นโจรสลัดหนุ่มสะดุ้ง แล้วตอบทันที

      "คาโนวาล"

      "ถูก!" มาทิลด้ากระแทกเสียง

      ชายหนุ่มในห้องต่างพากันลอบถอนใจ ก่อนจะตั้งใจลุ้นว่าใครจะเป็นผู้โชคดีรายต่อไป

      "ซอร์โร" ชื่อที่ทำเอานักดาบจอมหลับตื่นมาตอบ

      "แอเรียส"

      "ถูก" แองเจลีน่าพูด แล้วรายสุดท้ายที่สาวน้อยเรียกให้ คือ...

      "ครี๊ด"

      "อะ เอ่อ ... เอ่อ คือ...." เดอะ วอริเออร์ ออฟไนล์ ติดอ่างทันที "เว... เวอะไรหว่า... เวลา? เวนา? เวดา... เว เว่ เว้ เว๊ เว๋... เว... เวรล่ะ โอ๊ยยย!"

      คำตอบสองคำหลุดออกมาเนื่องจากเจอกับไม้เท้าพิฆาตของแม่มดสาวแองเจลีน่าฟาดหัว

      "เวนอลย่ะ เวนอล! ปกครองโดยจักรพรรดินี วิเวียน นานีย่า โบแต๊ง มีบ่อพลอยมากที่สุดในเอเดน"

      เสียงจุ๊ปากดังขึ้นจาก ทิวเดอร์ วาโดรัล เดอร์ปริ้นท์ ออฟ วิทซ์ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไกลออกไป

      "พรุ่งนี้แล้วนะที่จะสอบว่านายได้เรียนชั้นปีที่สี่หรือเปล่า" กัส โทนีย่า เดอะ พรีส ออฟ กิลดิเรก เอ่ย

      "ตั้งใจหน่อยสิ ติวเตอร์คอร์ดนี้สำหรับพวกนายนะ" โร เซวาเรสพูดบ้าง

      ความเงียบปกคลุมห้องอีกครั้ง แองเจลีน่ากระแอมเตรียมถามโจทย์ต่อไป แต่ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นซะก่อน

      "งั้นก็มะรืนนี้แล้วสินะ วันสุดท้ายที่พวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน"

      ประโยคนี้จากนิกส์ พรินส์วิล นักดนตรีแห่งเอเธน ทำเอาทั้งห้องเงียบ

       

      "มะรืนนี้แล้วสินะ"

      เสียงสาวน้อยเฟลิโอน่าที่นอนหงายอยู่บนเตียงกลางพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง ทั้งที่ยังมีอีกสองคนนอนอยู่ทั้งเตียงซ้ายและเตียงขวา แต่มันก็เงียบเหมือนอยู่คนเดียว

      "มะรืนนี้ วันสุดท้ายที่ทุกคนจะอยู่ครบ... มะรืนนี้... มะรืนนี้..."

      ในที่สุดคนทนไม่ไหวจำต้องลุกขึ้นมาด่า

      "แล้วแกจะบ่นทำไม นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีสอบ!"

      เสียงนักฆ่าคิลว๊ากขึ้นอย่างเหลืออด ขนาดคนเล่นๆอย่างเขาก็ยังเอาจริงเอาจังกับการสอบครั้งนี้

      "คิล สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวไหนดี" เฟรินถาม คิลเกาหัวแกรก มันไม่คิดเรื่องสอบเลยหรือไง

      "จะไปไหนก็ไป" ตอบปัดๆแบบขอไปทีเพราะง่วงนอนเต็มแก่ แล้วเจ้าตัวดีก็ยื่นข้อเสนอ

      "ไปบุกปราสาทขุนนางเอาม่ะ หรือจะให้ฉันโชว์การจีบหญิงสาวแถวทะเลสาบ"


      คิลที่หัวถึงหมอนเรียบร้อยกลับลุกขึ้นพรวดเหวี่ยงหมอนไปให้คนพูดมาก จึงเกิดเป็นสงครามหมอนเล็กๆเพราะไม่อยากจะกวนอีกบุรุษในห้อง แต่แล้วก็เอาเข้าจนได้

      "มันจะนอนไม่หลับหรือไงถ้าไม่ได้ออกกำลังกายก่อนนอน" น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้น "คิล นายไปนอนต่อ ส่วนเฟริน..." ตาสีฟ้าฉายแวววูบ "มานอนเตียงฉันนี่ จะได้ออกกำลังกายสมใจ"

      หน้าของคนฟังขึ้นสี คนหนึ่งอาย อีกคนกลับหัวเราะ

      "ไอ้บ้า โรคจิต"

      จบคำด่า ทั้งห้องก็เข้าสู่ความสงบ

       

       

       


      ....................................

      เวลา... มักจะเดินเร็วเมื่อเราอยากให้มันผ่านไปช้าๆ แต่จะเดินช้าเมื่อเราต้องการให้มันพ้นไป

      เวลา... ไม่ใช่ของใครคนหนึ่งคนเดียว ชีวิตจึงสั้นและต้องใช้ให้คุ้มค่า

       


      ครอก~ ฟี้~~

      เสียงที่แสนบรมสุขดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในห้องสอบจาก... เจ้าหญิงสองแผ่นดิน

      แองเจลีน่าที่นั่งอยู่ข้างหลังรู้สึกคันไม้คันมือยิ่งนัก

      "หืม... อืม? ง่ำๆ" เฟรินละเมอออกมาแล้วทำน้ำลายในปากหยดลงบนโต๊ะสองสามหยด ก่อนจะสะดุ้งพรวดเหมือนมีอะไรมาทิ่มท้ายทอย จึงหันกลับไปด้านหลัง

      เธอเห็นสายตาของแองเจลีน่าที่กำลังแผ่รังสีมาให้ ถัดไปอีกหน่อยเป็นยิ้มขำๆจากเรนอนที่ตรงข้ามกับการแยกเขี้ยวของมาทิลด้า พอเหลียวไปข้างซ้ายจึงเจอกับคาโลมุ่นหัวคิ้วส่งตาวาวๆให้หนาวๆร้อนๆ ส่วนขวามือก็มีคิลและโรพยายามกลั้นเสียงหัวเราะสุดฤทธิ์

      "เฟลิโอน่า" อาจารย์ผู้คุมสอบพูดขึ้น "ทำข้อสอบเสร็จก็ออกไปได้"

      "ฮะ" เฟรินรับคำแล้วเดินออกจากห้องไป ไอ้ข้อสอบที่น่าปวดหัวนั่นเธอไม่อยากเสียเวลากันมันแล้ว เปลืองพลังงานสมองเปล่าๆ อีกอย่างเพราะชักรู้สึกขายขี้หน้าถึงแม้มันจะหนาก็เหอะ

      พอเธอก้าวออกมาพ้นธรณีประตูห้องสอบนั้น เฟรินรู้สึกอยากจะกลับไปนั่งที่เดิมอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่เธอไม่สามารถกลับไปได้ จึงจำใจฉีกยิ้มให้คนที่อยู่ตรงหน้า

      "ตามฉันมา" ลอเรนซ์ออกคำสั่งแล้วออกเดิน

      "เอ่อ... แล้วพี่ลูคัสไม่มาด้วยล่ะฮะ" เฟรินถามอย่างสงสัย พลางมองหาแฝดอีกฝาที่มักจะมาคู่กันเหมือนช่วงโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง

      ... สงสัยคงหมดโปรโมชั่นซะแล้ว ....

      "มันสอบอยู่"

      ...อืม พี่ลูคัสสอบอยู่... ถ้างั้นพี่ลอเรนซก็...

      "แล้ว...."

      "ฉันโดดสอบ"

      "ฮ้า!"

      เฟรินอุทานลั่นทางเดินแคบๆ นี่พี่ลอเรนซ์อุตส่าห์โดยสอบมาเพื่อ... รอเธอ?

      หญิงสาวอ้าปากแล้วหุบคล้ายปลาทอง เพราะมีคำถามที่อยากถามแต่ไม่กล้า พอดีกับลอเรนซ์พูดขึ้นมาเหมือนรู้ใจ

      "ไม่ต้องถาม ตามมา เดี๋ยวเธอก็รู้ ฉันเลือกวันนี้เพราะสามารถสะบัดเจ้าลูคัสไปได้พ้นๆไป แล้วอีกอย่าง... มันอาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้เจอเธอ... ก็เป็นได้"

      ... เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย พูดอย่างนี้ มัน...

      เจ้าตัวดีหยุดเดิน ตีสีหน้ายุ่ง

      "ผมว่า... เรารอคิลกับคาโลสอบเสร็จแล้วค่อยไปพร้อมกัน ดีกว่าไหมฮะ"

      "ไม่! ฉันต้องการอยู่กับเธอเพียงสองต่อสอง"

      เฟรินก้าวถอยหลังเตรียมเผ่นแต่ลอเรนซ์ไวกว่า เขาคว้าต้นแขนเธอแล้วออกแรง... ลาก

      หญิงสาวพยายามสะบัดและต่อต้านแต่ไม่สามารถสู้แรงชายได้ จึงใช้วิธีสุดท้าย

      "ผ่าปฐพี"

      ยังไม่ทันที่เธอจะรับดาบใหญ่ ลอเรนซ์ก็เหวี่ยงเธอลงกับพื้นแล้วรับดาบไว้เสียเอง

      "ไม่ต้องรีบร้อน เจ้าหญิงเฟลิโอน่า"

      "รุ่นพี่จะทำอะไรผม"

      เฟรินถามสอดขึ้นมาทันที สภาพของเธอตอนนี้นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่กับพื้น เพราะไอ้กระโปรงบ้าๆนี่แหละทำให้เธอต้องมานั่งอย่างนี้ พลางใช้ตากลมโตจ้องมองลอเรนซ์ที่ยืนค้ำหัวอยู่

      ชายหนุ่มแย้มรอยยิ้ม... รอยยิ้มจากนักบวชแห่งป้อมอัศวินที่หาได้ยากยิ่งนัก... ก่อนจะปาดาบใหญ่ที่ถืออยู่ไปปักพื้นด้านหลังเขา

      เกิดความเงียบที่น่าอึดอัด เฟรินใช้เวลาสั้นๆกวาดตามองรอบๆห้อง... โรงฝึกดาบ

      "ฉันอยากแก้มือ"

      เสียงลอเรนซ์ดังขึ้น ดึงสติของเฟรินกลับไปยังเขา

      "ผลการสู้ครั้งที่แล้วไม่แน่ชัดเพราะโร เซวาเรส มาขวาง แต่คราวนี้..."

      "อยู่กันสองต่อสอง" เฟรินลุกขึ้นหัวเราะหึ "ถ้าใครมาได้ยิน ผมเสียหายแน่.."

      ลอเรนซ์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เจ้าตัวดีถอดใจปล่อยให้มันผ่านไป

      "แล้วดาบของผมล่ะ"

      นักบวชแห่งป้อมอัศวินหุบยิ้ม แต่กล่าวคำที่ทำให้เธอกลับยิ้มออกมาแทน

      "ไปเอาเองสิ"

      ดาบเล่มหนึ่งจากบริเวณนั้นอยู่ในมือของลอเรนซ์ เขาพร้อมแล้ว

      เฟรินเอื้อมมือไปหยิบดาบที่เกลื่อนเต็มพื้น เธอก็พร้อมเหมือนกัน

       


      ……………………………..
      "เฮ้อ... อิจฉาเฟรินหว่ะ" ครี๊ดบ่น "ได้นอนในห้องสอบแถมยังออกก่อน"

      โร กำลังทยอยเดินออกจากห้องพร้อมกับคนอื่น หันกลับมาพูด

      "แล้วนายอิจฉาท่านอนน้ำลายยืดของเฟรินด้วยหรือเปล่า"

      ครี๊ดส่ายหน้า ทำท่าพูดต่อแต่โดนคิลตัดบท

      "โร... นายเห็นเฟรินหรือเปล่า"

      "ฉันก็พึ่งออกจากห้องสอบพร้อมๆกับนายนี่แหละ คนอัจฉริยะออกเร็วได้ไง"

      เสียงฝีเท้าหนักๆของคาโลย่ำพรวดตามทางเดิน ก่อนจะมีเสียงของเจ้าตัวที่กล่าวกับโร

      "เฟรินอยู่ไหน" โรขมวดคิ้วกับคำถาม

      "ฉันเพิ่งบอกคิลไปว่าไม่เห็น"

      "แต่นายรู้ว่าเฟรินอยู่ที่ไหน" คาโลพูดเสียงเย็น กลับกันโรรู้สึกสนุกที่ถูกยั่ว

      ... สงสัย ... เราอยู่กับเฟรินมากไปหน่อย

      โรหัวเราะหึๆในลำคอเป็นคำตอบ เพราะแน่ใจในความปลอดภัยของตัวเองที่ไม่โดนดึงไปจูบทำโทษแบบบางคนแน่ๆ

      บรรยากาศเริ่มมีประกายไฟที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้จากการเล่นเกมจ้องตาของสองหนุ่ม คิลจึงเอ่ยแก้สถานการณ์

      "เอ่อ.. งั้นฉันไปกินข้าวรอที่โรงอาหารนะ"

      และมันกับครี๊ดก็รีบผละออกไปด้วยกลัวลูกหลง

      เสียงฝีเท้าของนักฆ่าจากไปแล้ว แต่เกมจ้องตายังไม่เลิก

      เจ้าห้องสมุดเคลื่อนที่คงงี่เง่าน่าดูถ้าเล่นเกมนี้นานๆ จึงส่งยิ้มแล้วถาม

      "ทำไมนายถึงคิดว่าฉันรู้ที่อยู่ของเฟรินล่ะ"

      คาโลไม่ตอบ หมุนตัวเดินจากไปพร้อมคำพูดสั้นๆ

      "งั้นไม่กวนล่ะ"

      "ได้ไง" โรรีบพูด "นายจะไปโดยไม่ฟังคำตอบฉันก่อนหรอ"

      "ว่ามา" คาโลหยุดแล้วหันกลับ

      โรยิ้มในใจอย่างพูดเป็นต่อ ก่อนออกคำสั่ง "ตามมา"

      เดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีผู้ร่วมเดินทางอีกคน... ซาตานลูคัสซึ่งกำลังหาตัวนักบวชลอรี่

      "ไง คาลี่ โรรี่ กำลังจะไปโรงฝึกดาบหรอ งั้นไปด้วยกันนะ ฉันจะไปหาลอรี่พอดี"

      "ครับ" โรตอบยิ้มๆ

      สองหนุ่มต่างค่อยๆก้าวกันอย่างเชื่องช้า ตรงข้างกับใจที่ร้อนระอุของคาโลผู้กำลังสงสัยและกังวลใจว่า เจ้าคนขโมยหัวใจเขากับนักบวชหายไปพร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่

       


      ยิ่งเดินเข้าไปใกล้โรงฝึกดาบเท่าไหร่ เสียงการต่อสู้ก็ยิ่งดังขึ้นเป็นเท่าตัว พอมองเห็นประตูทางเข้า คาโลแทบอยากจะวิ่งไปดูด้วยความร้อนใจ แต่ช้ากว่าลูคัสที่กระโดดแวบเดียวก็ถึงประตูแล้ว

      "ไง ลอรี่" ซาตานตัวป่วนยื่นหัวเข้าไปทัก "ป้อมอัศวินมีกฎห้ามว่ารุ่นพี่รุ่นน้องห้ามสู้กันนะ"

      ดาบเล่มหนึ่งบินออกมาจากโรงฝึก ลูคัสรับมันไว้ได้

      "ฉันกำลังฝึกฝีมือ แกไปไกลๆเลยไอ้ลูคัส" ลอเรนซ์ตอบ

      การฝึกฝีมือที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ เพราะสภาพของผู้ฝึกทั้งสองที่ชุ่มไปด้วยเลือด อีกทั้งกำแพงยังมีรอยดาบนับไม่ถ้วน

      "นายมาก็ดีแล้วคาโล" เฟรินในร่างสาวน้อยชุ่มเลือดถือดาบใหญ่พูดขึ้น "จะได้มีคนทำแผลให้"

      "......สู้กันทำไม" คำถามที่เฟรินยิ้มรับ

      "ฝึกมือไงเล่า ไอ้โง่" พูดจบสาวน้อยก็ยกดาบวิ่งเข้าปะทะกับลอเรนซ์

      เคร้ง! เสียงโลหะปะทะกันก่อนจะตามด้วยเสียงหักของดาบที่เล็กกว่า

      "พอเถอะเฟรี่ ร่างของเธอไม่ไหวแล้ว" ลูคัสบอกพลางเหวี่ยงดาบในมือทิ้ง

      "แก... ลูคัส อย่ามาสอด!" ลอเรนซ์ว๊ากขึ้น "ฉันจะตัดสินกับเจ้าหญิงให้ชัดๆไปเลย"

      ลูคัสทำหูทวนลม เดินเข้าไปลากลอเรนซ์ออกจากโรงฝึก

      "จิตใต้สำนึกของฉันมันบอกให้พานายกลับเพราะร่างกายของนายก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ไปกันเถอะ"

      แล้วคู่หูตัวแอลก็พากันถูลู่ถูกังออกไป

      "น่าขนลุกว่ะ" เฟรินพูดขึ้น "เพราจิตใต้สำนึกบอกเนี่ยนะ"

      โร ชำเลืองมองเฟรินที่มีคาโลค่อยรักษาให้แล้วเอ่ย

      "เพราะจิตใต้สำนึกของพี่ลูคัสมีปฏิสัมพันธ์กับพี่ลอเรนซ์ ทั้งสองจึงต่างรู้ว่าใครอยู่ที่ไหน และทำอะไร... ก็เหมือนฉันที่สามารถหานายได้ไงล่ะเฟริน"

      เจ้าตัวดีสะดุ้งเฮือก ใบหน้าขึ้นสีเข้มก่อนจะแปรเป็นปกติ

      "ไอ้บ้า แกอย่าพูดอะไรที่ทำให้ฉันขนลุกดิวะ"

      คาโลรักษาเฟรินจนพอใจ ถอดเสื้อนอกให้เธอใส่ขณะพูดกับโร

      "ฉันหมดธุระกับนายแล้ว ขอตัว"

      แล้วเจ้าชายแห่งคาโนวาลก็จับต้นแขนของเจ้าหญิงแห่งบารามอสและเดมอสพาเดินออกไป ปล่อยให้ขอทานผู้รอบรู้ยืนหง่าวบ่นกับตัวเองคนเดียว

      "เหลือพรุ่งนี้อีกแค่วันเดียว"

       


      ……………………………..

      คาโลพาเฟรินกับมายังห้องของหัวหน้าชั้นปี ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย และไม่ได้เอ่ยอะไรจนกระทั่งบัดนี้ ที่เธอนั่งอยู่บนเตียงกลางและเขายืนพิงประตู

      ...เอาว่ะ สงครามจิตวิทยา... เฟรินคิด ลุกขึ้นเพื่อจะไปหาเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนพร้อมๆกับจะหลบหน้าเพราะรู้สึกผิดขึ้นนิดๆจากการไม่ตั้งใจทำข้อสอบให้สมกับความหวังของเพื่อนๆที่ช่วยติวให้

      จู่ๆคาโลก็ถามขึ้น

      "หลบฉันทำไม"

      "ไม่ได้หลบ" หญิงสาวปฏิเสธทันควันโดยไม่หันไปตอบ "ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ... หรือนายอยากดู"

      "เอาสิ หันมาทางนี้ด้วย"

      "ไอ้ทะลึ่ง" เฟรินด่าลั่น คำพูดที่กะจะทำให้คนขี้เก๊กรู้สึก แต่มันดันย้อนกลับมาหาตัวเอง

      "สู้กับพี่ลูคัสทำไม" คาโลยังยิงคำถามไม่เลิก

      "ก็... ก็... ก็พี่เขาบังคับ ฉันก็เลยรับคำท้า"

      "แล้วทำไมไม่รอฉัน!" หางเสียงเหมือนจะตวาด ทำเอาอุณหภูมิอารมณ์ของเฟรินสูงขึ้นตาม

      หันขวับกะจะโวยบ้าง แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นคาโลมายืนใกล้ๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นัยน์ตาสีฟ้าสวยมีแววเป็นห่วงกรุ่นด้วยความโกรธ

      ...มันมาหาฉันพร้อมพี่ลูคัสกับโร มันคงถามฉันว่าโรอยู่ไหน คนอย่างคาโลยอมไปถามโร...

      "ตอบมาเฟริน เธอตั้งใจจะหลบฉันเพราะทำข้อสอบไม่ได้หรืออะไร"

      เจ้าชายคาดคั้น แต่เจ้าหญิงยังเงียบ

      ก๊อก ก๊อก ก๊อก

      เสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วคิลโผล่เข้ามา

      "พวกนายไปกินข้าวหรือยัง ฉันหิวแล้ว... อ้าว เฟริน ทำอะไรทำไมเสื้อถึงได้รุ่งริ่งอย่างนั้น..."

      "หรือว่า..." คิลทำตาโต "หรือว่าคาโล.. นายกับเฟรินจะ..."

      "เฮ้ย ไอ้คิล" เฟรินว๊ากขึ้น "พูดอะไรอัปมงคล"

      "ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่า" คิลว่าแล้วกระโดดมากลิ้งเล่นบนเตียง "ฉันได้ยินพวกนายพูดกันนิดหน่อย เฟริน แกไม่รอให้ฉันสนุกด้วยเลย รู้งี้ไม่เอาข่าวมาบอกดีกว่า"

      "ข่าวอะไร"

      "ลงทะเบียนสอบซ่อม"

      "จริงอ่ะ มีหรอ... จริงป่ะคิล" เจ้าตัวดีผลักคาโลกระเด็นแล้ววิ่งไปหาคิลที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงพลางเขย่าคอนักฆ่าถามไปด้วย

      คาโลถอนใจอย่างหน่ายๆ

      "นายไม่น่าบอกมัน คิล"

      "หืม ทำไมอ่ะ" คิลถามขณะที่ตาเหลือกเพราะถูกเฟรินเขย่าคออย่างสนุกสนาน

      "ฉันจะเก็บค่าข่าวจากร่างกายของมัน"

      "เฮ้อ!" คิลสูดลมหายใจลึกๆหลังจากที่เฟรินปล่อยมือจากคอเขาไปกุมหน้าที่ร้อนผ่าว "ฉันไม่ยอมให้เพื่อนฉันมีตำหนิไปมากกว่านี้ก่อนส่งถึงมือเจ้าบ่าวหรอกนะ"

      พูดจบแล้วหนุ่มทั้งสองก็หัวเราะฮ่าขึ้น ขณะที่สาวน้อยหน้าขึ้นสีพลางสงสัยลึกๆว่าไอ้พวกนี้มันเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

       


      ...............................................

      เมื่อสามสหายก้าวเข้าสู่ห้องนั่งเล่นของชั้นปีที่สามก็พบว่าเพื่อนๆทั้งสิบห้าคนนั่งคุยกันเฮฮาอยู่ในห้องนี้ทั้งหมด

      "ไง เฟริน ข้อสอบง่ายไหมว่ะ" เดดตะโกนข้ามห้อง

      ...มันเป็นคำถามเหมือนพาเธอขึ้นเขียง…

      "ง่ายใช่ไหมค่ะคุณเฟริน" เรนอนเจ้าหญิงแสนงามถามด้วยความคาดหวัง

      "เฟริน~~~น" แองเจลีน่าและมาทิลด้าเริ่มคำราม

      เจ้าตัวดีตอนนี้กำลังหัวเราะแหะๆ ปั้นหน้ายิ้มระรื่น แต่เหงื่อแตกพลั่กเต็มหลัง

      แล้วคำตอบจากสวรรค์ก็ประทานลงมา

      "ก็เห็นๆอยู่ว่าเฟรินมันทำเสร็จก่อนก็เลยออกก่อน" โรพูด "จะคาดคั้นอะไรกับมันหนักหนา"

      "ทำเสร็จหรือมั่วเสร็จ" ครี๊ดถาม เฟรินยิ้มแผล่

      "คนอย่างเฟริน เดอเบอร์โรว์ มีหรือจะมั่วข้อสอบง่ายอย่างนี้"

      ...ก็แน่ละสิ ไม่ได้ทำเลยต่างหาก ไอ้ข้อสอบที่ทำแล้วชวนหลับเนี่ย...

      เสียงโห่พร้อมกับสายตาไม่อยากเชื่อของหลายๆคนมอง แต่ก็ผ่านไป

      ยกเว้นแต่...

      "เฟริน" แองเจลีน่าเรียก "ข้อที่ยี่สิบเอ็ดตอบว่าอะไร"

      เจ้าตัวกวนแสร้งหัวเราะฮ่าๆ ระหว่างนั้นก็ส่งซิกถามคิล

      นักฆ่าตัวแสบกระซิบบอกว่า

      "ข้อนั้นฉันไม่ได้ทำ เสียใจด้วยหว่ะเฟริน"

      ตอนนี้เสียงหัวเราะฮ่าๆของเฟรินเริ่มจางลง และมีเสียงฮือๆแทรกมาเป็นระยะ เพราะคุณชายคาโลปลีกตัวไปนั่งคุยกับซีบิลซะแล้ว

      "เธอจะตอบเราได้หรือยัง เฟริน" มาทิลด้าถาม ทำเอาเจ้าตัวดีสติแตก

      "หน้อย หน่อย นะ หน่อย หนอย หน้อย ชะเอิงเอ้ย... เจค! เอาเหล้ามากินดิ ฉลองสอบเสร็จ"

      "ได้เลยเฟริน" เจคตะโกนรับ พลางชูขวดสีหม่นที่อยู่ในมือสามขวด

      แองเจลีน่าตะโกนแว๊ด

      "เฟริน ตอบคำถามมาก่อนนะ"

      แล้วแม่มดสาวก็ถือคทาวิ่งไล่เด็กสาวจากแดนปีศาจที่ถือขวดเหล้าวิ่งรอบห้อง

       


      .... พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ไม่ใช่วันนี้ ....

      .... เพราะพรุ่งนี้ มันไม่มีทางมาถึง ....





      ท่านผู้อ่านเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่>>>
      ดูเหมือนยิ่งแต่งตันหาราคะจะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ลอรี่บ้ากาม # -# คาโล... ฯลฯ เป็นฟิคอำลาที่สุดยอดจริงๆ บางมุกแอบชอบน้า - Crucify

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×