คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
ชั้น2 ห้องพักผู้ป่วย
ทามะเดินอยู่ข้างๆแอมเบอร์มองสำรวจรอบๆ “ไหนหละผี เผอ ที่เธอว่า” เขาหันไปถาม แอมเบอร์ชี้ไปที่ห้องทางขวามือที่อยู่ไม่ไกล ทามะเดินไปห้องนั้นถูกปิดตายพร้อมกับมีคำที่เขียนด้วยเลือดว่า “ทุกก้าวมีความหมาย” ทันใดนั้นเหมือนกับมีเสียงร้องให้และกรีดร้องดังมาจากทั่วโรงพยาบาล ตามประตูห้องพักมีเงาสีดำจากภายในออกมากระแทกประตูกันอย่างรุนแรง ทามะก้าวถอยหลังได้ยินเสียงดัง แฉะ เขาก้มลงไปมอง มีรอยเลือดเขียนอยู่ว่า ‘ผิวหนังแข็งที่สุด’
“ทามะบันไดระหว่างชั้น 2 ขึ้นชั้น3 ขาด!” เสียงของแอมเบอร์ตะโกนบอก ทามะรีบวิ่งกลับไปที่บันได มีเลือดที่เจิ่งนองอยู่บนบันไดที่ขาดและตอนนี้มันกำลัง ไหลลงมาเรื่อยๆ ทามะหันไปมองด้านหลังที่ตอนนี้ประตูทุกบานดูเริ่มจะพังแล้ว เขาคิดอะไรอย่างหนึ่งได้ “แอมเบอร์!เธอกัดเล็บของเธอแล้วไปวางที่บันไดเดียวนี้” เขาพูดอย่างรีบเร่ง
“หา!นายว่ายังไงนะจะบ้าเหรอนี่ใช่เวลาจะเล่นไหม” แอมเบอร์แหวใส่ “ชั้นแค่เสนอความคิด หรือเธอจะยอมตายในชั้นนี้ กระดาษก็บอกอยู่ว่าเราต้องเสียสละแค่เล็บของเธอก็เสียไม่ได้เรอะไง” ทามะพูดเรียบๆ แอมเบอร์ขมวดคิ้วก่อนจะกัดเล็บ1 อันไปวางที่เลือดบนบันได้ ทันใดนั้นเลือดที่กองอยู่ก็ค่อยๆก่อตัวเป็นบันไดขั้นหนึ่ง
“มันได้ผล ทามะนายมาช่วยชั้นเดียวนี้!” ต่อไปนี้ก็เป็นภาพของชายหนุ่มและหญิงสาว2คนยืนกัดเล็บตรงหน้าบันไดและด้านหัลงก็มีเสียงกรีดร้องพังประตูอย่างดังนะครับ….
เล็บจากทั้ง20นิ้วของทั้ง2หมดลง…. ก็ยังต่อบันไดได้ไม่หมดทุกขั้นและไกลเกินกว่าที่จะกระโดดข้ามไปได้ “เอาไงละเล็บหมดแล้วคุณนางเอกจะทำไงต่อ ต้องเอาเล็บเท้าของชั้นด้วยไหมหละ” ทามะพูดประชดประชัน
“ชั้นก็ว่าน่าลองนะ…” แอมเบอร์พูดเบาๆแต่ดังพอที่ทามะจะได้ยิน “เฮ้ออนี่จะ บื้อก็ให้มันน้อยหน่อยเชิญเธอทำไปคนเดียวละกั…” ขณะที่ทามะกำลังพูดอยู่นั้นประตูห้องข้างแอมเบอร์ก็เปิดขึ้นมาพร้อมกับ มีมือถึง 5มือดึงแขนซ้ายของแอมเบอร์ไว้ “กรี๊ดด! ทามะช่วยชั้นด้วย” เธอร้องขอความช่วยเหลือขณะที่ ทามะค่อยๆถอยห่างออกมา แอมเบอร์เห็นดังนั้นจึงรู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ลนลาน เธอหยิบมีดสเต็กของเธอแทงลงที่แขนทั้ง5แต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้… “แขน..แขนชั้นมันเจ็บ…อย่าไม่นะกรี๊ดดดดดดดดดด!” ปรึ๊ด พรูด! แขนซ้ายของเธอขาดมือทั้ง5ดึงแขนของเธอเข้าไปในห้องและประตูก็ปิดตายลงอีกครั้ง พร้อมกับขั้นบันไดทีเหลือเชื่อมต่อกันจนเสร็จ ทามะไม่รีรอที่จะช่วยเหลือรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้น3 โดยที่แอมเบอร์เดินกุมไหล่กระเสือกกระสนตามไปอย่างช้าๆ..
ชั้นที่3 ห้องวิจัย
ทามะเดินขึ้นมาเจอชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณหน้าบันได ขณะที่แอมเบอร์เดินตามขึ้นมาก็เห็น ดวงตาเธอเบิกกว้างพร้อมวิ่งเข้าไปหา “เมธัส! เมธัส! เธอเป็นอะไรตื่นซะที” “อื่ออ…” ร่างสูงนั้นค่อยมีการขยับตัวอย่างช้าๆ “แอมเบอร์ออกมาเดียวนี้” ทามะตะโกนบอก “ทำไมละ เธอคิดจะพูดอะไรกันแน่” แอมเบอร์หันไปมองทามะตาขวาง “เธอคิดว่านั้นเป็นเมธัสคนเดิมหรอ เธอไม่เห็นหรือไงว่าโรงบาลนี้มันทำอะไรกับเรา ตอนนี้มันจะเกิดอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” ทามะพูดขึ้นพร้อมกับถอยห่างจากทั้งสองแล้วหยิบไม้เบสบอลขึ้นมา แอมเบอร์ไม่สนใจหันกลับไปหาเมธัสแล้วพูดขึ้นว่า “อย่างน้อยชั้นก็เชื่อใจเขามากกว่านายตอนนี้แล้วละกัน” ทามะหางคิ้วกระตุกแต่ไม่ได้พูดอะไร
“อืออ…นั้นเสียงแอมเบอร์กับทามะพวกนาย..เป็นอะไร..อ๊ะแอมเบอร์แขนเธอ!” เมธัสที่หายจากอาการตาพร่ามัวพูดขึ้นพร้อมกับสีหน้าตกใจมองไปที่แอมเบอร์ก่อนจะหันไปมองที่ทามะ “นี่นายไม่คิดจะทำแผลให้เธอหน่อยหรอ” เมธัสถามพร้อมกับฉีกเสื้อนอกมาทำแผลให้เธอซึ่งตอนนี้เลือดยังไหลอยู่ “ก็เธอไม่ได้ขอนิ” ทามะยักไหล่ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วโยนขวดอันหนึ่งให้เมธัส “ชั้นมีมอร์ฟีน พึ่งนึกขึ้นได้แต่ไม่มีเข็มนายไปหาทางช่วยเธอเอาเองนะ” เมธัสรับมาพร้อมกับเปิดกระเป๋าของเขาที่ มีอุปกรณ์การแพทย์หยิบเข็มฉีดยาออกมา ฉีดยาเข้าไปที่แขนของแอมเบอร์ “ชั้นรู้สึกปวดน้อยลงแล้วหละ ขอบใจมาก” แอมเบอร์พูดกับเมธัส “นีแต่เลือดเธอยังไหลอยู่ ทามะนายชอบสูบบุหรี่ชั้นขอยืมไฟแช็คมาหน่อย คงจะเป็นพระคุณอย่างสูง” เมธัสแบมือขอโดยที่อีกมือกำลังกดแผลของแอมเบอร์ไว้ “เอาไปสิ ชั้นเหลืออีกเยอะ” ทามะโยนมาให้ “ฉันนึกว่านายจะพูดมากกว่านี้อีกนะ หึหึ” เมธัสพูดขึ้นแล้วรับไฟแช็คจากทามะ “ทนเจ็บหน่อยนะแอมเบอร์” เมธัสยิ้มให้ก่อนที่ค่อยๆนำไฟแช็คลนแขน “อึก” แอมเบอร์ร้องออกมาเบาๆพร้อมกับกัด ปกคอเสื้อไว้
ขณะที่พวกเขากำลังทำแผลอยู่ บนเพดานก็ค่อยๆมีน้ำเมือกเหม็นๆ ค่อยๆไหลออกมาจากเพดาน “เฮ้ย อีกแล้วหรอเนี่ย!” ทามะพูดขึ้นพร้อมกับถอยไปตั้งหลักที่บันไดพร้อมกับเมธัสและแอมเบอร์ “นายบอกว่าอีกแล้วแสดงว่าก่อนมาชั้นนี้นายเจออะไรเป็นเบาะแสงั้นเรอะ”เมธัสหันไปถาม ขณะที่ กำลังพยุงแอมเบอร์อยู่ “ที่ชั้น1 เราเจอใบกระดาษ ที่เขียนไว้ว่า ให้ตามหากลุ่มพวกเราให้ครบ โดยเราต้องมีการเสียสละ และคำใบ้บอกมาว่า มนุษย์เหมือนกับพืชต้องตัดแต่งสิ่งที่ไม่จำเป็นตลอดเวลา” แอมเบอร์ตอบ “แล้วชั้นทีแล้วเราก็รอดมาได้ด้วยการกัดเล็บมาทำเป็นบันไดและ..”ทามะมองไปที่แขนของแอมเบอร์
“ชั้นเข้าใจละถ้านายบอกว่าเราต้องเสียสละอะไรสักอย่างในการเปิดทางในชั้นนี้ มนุษย์ก็เหมือนกับต้นไม้งั้นหรอ…ก็นอกจากเล็บ ต้นไม้ก็ต้องมีการแต่งกิ่ง ชั้นว่าเส้นผมก็อาจเป็นคำตอบทีถูกต้องนะ” เมธัสใช้ความคิดแล้วพูดออกมาอย่างสบายๆ “โอ้ยเจ็บนะ!” แอมเบอร์ร้องออกมาอย่างตกใจกับการที่ทามะ ไปกระชากผมของเธอแล้วตัดมันออกมาทันที “นี่นาย!?” เมธัสหันไปหาทามะที่ตอนนี้เดินไปโปรยผมของแอมเบอร์ลงบนบันได ซึ่งมันได้ผลและกำลังก่อตัวเป็นบันไดขึ้นไปในชั้น4 “หึ นายอย่าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษไปหน่อยเลยเมธัส หรือนายอยากตายจมกองน้ำเน่าอยู่ชั้นนี้” ทามะมองดูบันได้ที่ก่อตัวได้แค่ครึ่งเดียวแล้วหันมามองหน้าเมธัส “หึ ครั้งนี้ชั้นยอมให้นายจริงๆ แต่ชั้นไม่ใช่พวกหัวรุนแรงกระชากหัวผู้หญิงแบบนายหรอกนะ” เมธัสพูดพลางเอามีดพับของเขาตัดผมที่ยาวเลยต้นคอไปโรยบ้าง บันไดก่อตัวไปเหลืออีก3ขั้นจะเชื่อมกันทามะไม่รอที่จะกระโดดข้ามไปและขึ้นไป
“นี่ถ้านายปอดไม่กล้าโดดข้ามมาชั้นจะทิ้งแล้วนะ” ทามะพูดเหยียดๆ “นี่คือคำพูดของคนที่สูง167พูดกับคนสูง185หรือ ทามะ” เมธัสถามกลั้วหัวเราะพร้อมกับเดินข้ามบันได3ก้าวโดยที่แทบไม่ต้องออกแรงกระโดด แล้วหันมาหาแอมเบอร์ที่ยังอยู่ระหว่างชั้น3และ4 “โดดมาเลยเชื่อชั้นสิจะไม่ปล่อยมือเธอเลย” เมธัสพูดพร้อมยื่นมือออกไป “พวกนายไปเถอะฉันรอตรงนี้เอง ไปก็เป็นตัวถ่วงปล่าวๆ”แอมเบอร์พูดพร้อมกับก้มหน้าลง
“เธอบอกเองไม่ใช่หรอว่า จะไปหาพวกเราให้ครบทุกคนนี่ก็จบครบแล้ว ชั้นมั่นใจว่าไดอาน่าต้องอยู่ชั้นบนเราแน่นอน แล้วไม่มีใครไม่มีประโยชน์หรอกนะมีแต่คนที่ไม่ยอมเอาประโยชน์ของตัวเองออกมาใช้ต่างหาก ชั้นขอรับรองว่าเธอและคนอื่นๆต้องได้ออกไปแน่นอน” เมธัสพูดพร้อมกับยิ้ม “หึ น้ำเน่าสิ้นดี” ทามะยืนกอดอกสูบบุหรี่อยู่ข้างหลัง แอมเบอร์ลุกขึ้นจากนั้นก็กระโดดถีบตัวออกมาแต่เนื่องจากเสียเลือดมากทำให้แรงเธอไม่พอที่จะข้ามไป ทำให้เธอกำลังจะร่วงลงสู่…
หมับ!
เสียงคว้าแขนขวาของเธอไว้เธอเงยหน้าขึ้นไปเจอเมธัสที่กำลังดึงเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียว “ชั้นบอกแล้วว่าเชื่อใจชั้นได้เสมอ เอ้าขึ้นมา ฮึบ” ขณะที่เธอขึ้นมาได้ครึงตัวก็มีอีกมือมาจับเอวของเธอไว้แล้วช่วยดึงขึ้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นมือของทามะนั่นเอง “ชิ ชักช้าเสียเวลาจริงๆ” ทามะพูดขึ้น “เอาหละไปกันได้แล้ว” เขาก็หันหลังพร้อมกับ เดินนำขึ้นไปที่ชั้น 4 โดยมี เมธัสและแอมเบอร์ตามหลังมา
ความคิดเห็น