ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aevenhilde โรงเรียนแห่งตัวตน [ Fantasy ::: Yuri ]

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 เด็ก ๆ ก็ไม่ซุกซน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 732
      47
      21 พ.ค. 63

    บทที่ 8 เด็ก ๆ ก็ไม่ซุกซน

     

    ช่วงหัวค่ำ ::: ห้องของคัลลัค บ้านบุหงาดำ

    คัลลัคกลับมาขังตัวเองอยู่แต่ในห้องด้วยความหวาดระแวง เธอได้คำตอบสำหรับสิ่งที่ตนสงสัยจากปากเมอดอร์แล้ว และมันก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีเลย

    ในปีเทรเซน 5390 ซึ่งคัลลัคยังอายุได้ไม่กี่เดือน ชาวเมืองคนหนึ่งอ้างว่าเห็นพ่อมดชั่วร้าย ศัตรูเก่าของลอร์ดโรแวงได้บุกทำลายปราสาทและเผาทุกคนในปราสาทจนตายทั้งเป็น ไม่เหลือรอดแม้สักคน ยกเว้นเมอดอร์ที่แอบหนีออกไปเที่ยวงานเทศกาลในตัวเมือง แล้วยังมีเดธิเลีย วีวี่และองครักษ์แม่นมที่อาสาพาเด็ก ๆ ไปเปิดหูเปิดตา

    คัลลัคพึ่งรู้ตอนเมอดอร์บอกนี่เองว่าวีวี่เป็นลูกชายแม่นมของเดธิเลีย เนื่องจากแม่ของเดธิเลียตายเพราะเสียเลือดจากการทำคลอด แม้บางคนจะเชื่อว่าตรอมใจตาย และคัลลัคเองก็เคยเจอแม่นมแล้ว อีกฝ่ายเป็นองครักษ์สวมเกราะหัวหมาป่าอยู่ข้างกายลอร์ดโรแวง เพราะอย่างนี้เดธิเลียจึงพอจะฟังคำพูดวีวี่บ้าง และยอมช่วยคัลลัคขึ้นจากน้ำก่อนโดนเงือกกิน บางทีลอร์ดโรแวงอาจจะเดานิสัยเสียของลูกสาวได้อยู่แล้วจึงส่งวีวี่มาด้วย

    อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอกังวล...

    พ่อมดชั่วร้ายที่ว่าต่างหาก คนอื่นไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของพ่อมดตนนั้น แต่เมอดอร์รู้...

    กันติเนล ชากอล

    ลุงกันตินี่คัลลัคเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะเชื่อใคร เพราะชื่อนั้นคือชื่อของชายผู้อุปการะเลี้ยงดูเธอ โรเดนและเรสเทลมาตั้งแต่จำความได้ ลุงทำอะไรลงไป

    แล้วตอนนี้ นามสกุลที่คัลลัคกำลังใช้ก็เป็นนามสกุลของเขา พ่อมดมนต์ดำผู้เป็นภัยร้ายแรงในสงครามระหว่างคนเป็นและคนตาย เธอเคยอ่านเจอเรื่องพ่อมดชั่วร้ายในตำราจากห้องสมุด แต่ไม่มีการบันทึกชื่อ ราวกับมีคนจงใจลบมันออกจากหน้าประวัติศาสตร์ คนที่รู้ชื่อพ่อมดดีจึงเป็นคนที่เคยเผชิญและรู้จักกันมาตั้งแต่อดีตอย่างลอร์ดโรแวง และเขาก็บอกต่อลูกชายลูกสาวของเขาด้วย

    เมอดอร์รู้จักชื่อสกุลนี้ดี แต่เพราะพ่อมดกันติเนลเป็นพวกแหกคอก ชื่อของเขาอาจทำลายวงศ์ตระกูล แต่ตระกูลของเขาก็ยังมีอยู่โดยที่ไม่ควรต้องมารับผิดชอบสิ่งที่เขาก่อ ได้แต่เนรเทศลูกชายนอกคอกและประกาศให้ผู้อื่นรับรู้ว่าตระกูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เมอดอร์จึงคิดว่าคัลลัคอาจจะแค่เป็นญาติกับคนอื่นในตระกูลที่แยกตัวไม่ข้องเกี่ยว

    ถ้ามีคนอื่นรู้ว่าคัลลัคเกี่ยวข้องกับพ่อมดชั่วร้ายโดยตรง... พวกเขาคงปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายเลยทีเดียว

    แล้วนั่นก็ไม่ใช่แค่ปัญหาเดียว เพราะเธอกลับไปใช้นามสกุลแวนธีสไม่ได้ด้วย ไม่ใช่เพราะจะโดนเมอดอร์ยำเละ แต่เพราะในคืนนั้นที่เมอดอร์รอดมาได้ แม่นมองครักษ์บอกกับลอร์ดโรแวงว่าเห็นกลุ่มคนลอบเข้าไปในปราสาทด้วย

    มีนักฆ่าถูกส่งเข้าไปในปราสาทนั้น

    แม่นมไม่ได้เข้าไปช่วยใครเพราะตนติดพันมีเด็กชายกับทารกทั้งสองที่ต้องดูแล ลอร์ดโรแวงไม่กล่าวโทษเธอ ไม่ประกาศใด ๆ กับเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นข่าวลือไร้มูล ก่อนจะสืบหาร่องรอยของนักฆ่าด้วยตัวเอง

    แล้วหาเจอไหมคัลลัคถามเมอดอร์ตอนนั้น

    จะเจอหรือไม่...เมอดอร์เริ่มแสดงความเป็นปรปักษ์ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่สายเลือดพ่อมดชั่วแบบเจ้าต้องรู้

    คัลลัค แวนธีส ใครบางคนต้องการลบชื่อนี้ออกไป โดยเล็งเธอแค่คนเดียวเท่านั้น ตราบใดที่เธอไม่กลับไปใช้ตัวตนจริง บางทีนักฆ่าในเงามืดเหล่านั้นอาจจะยอมปล่อยให้เธอมีชีวิตต่อไป

    เมอดอร์โดนคิวแคนดุหลังจากนั้นเพราะทำให้น้องกลัว แต่เขาก็ยังคงไม่ชอบหน้าคัลลัคตั้งแต่แนะนำนามสกุลจนถึงตอนนี้ ราวกับว่าเธอจะไม่สามารถญาติดีกับชายคนนี้ได้ ไม่ว่าจะใช้นามสกุลใด

    จะชากอลหรือแวนธีส สองพี่น้องคู่นี้ล้วนเกลียดเธอ

    +++

    กลางดึก ::: บ้านหอกราตรี

    คัลลัคไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะมาที่นี่จริง ๆ แต่เธอจำเป็นต้องรู้และต้องติดต่อกับลุงกันตินี่ให้ได้

    เอเวนไฮด์มีพื้นที่โรงเรียนกว้างใหญ่ที่สุดเท่าที่จะมีได้สำหรับโรงเรียนเวทมนตร์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองขนาดย่อม แต่มันก็ยังไม่กว้างพอจะไม่เอะใจกับกฎเหล็กของเอเวนไฮด์ได้

    กฎข้อที่ 1 คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

    มันเป็นกฎข้อบังคับที่มีโทษหนัก นักเรียนและบุคลากรล้วนไม่สามารถออกจากเขตกำแพงโรงเรียนได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากครูใหญ่ธารีส เช่นเดียวกับคนนอกที่เข้ามาไม่ได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขาเสียก่อน มีเพียงพื้นที่ย่านร้านค้าเท่านั้นที่คนจากทั้งสองฝั่งจะเชื่อมถึงกัน แต่ก็มีการตรวจคนเข้าออกด้วยเหมือนกัน

    แล้วการขออนุญาตเพื่อเข้าออกไปไกลกว่านั้นก็ง่ายเสียที่ไหน หากไม่มีเหตุจำเป็นคอขาดบาดตายหรือคนขอมีอิทธิพลจริง ๆ ก็ไม่มีทางเลยที่จะได้รับการอนุมัติ

    ทำได้ใช่ไหมคัลลัคเอ่ยถามผ่านรั้วลูกกรงของบ้านหอกราตรี คุยกับใครบางคนที่กำลังหน้าบึ้งในความมืด

    ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอิลตอบ เขาทำเป็นวางท่า แม้จะมีรอยช้ำบวมบนใบหน้า เหมือนพึ่งไปมีเรื่องชกต่อยกับใครมา ก็แค่ติดต่อพ่อมดชั่วร้ายแห่งศตวรรษโดยไม่ให้ผู้ผดุงความยุติธรรมจับได้ แค่นั้นใช่มะ

    ข้าอยากเจอเขาต่อหน้าด้วย ไม่ใช่แค่ติดต่อผ่านจดหมายคัลลัคพูดเสริม

    เรียกร้องขนาดนี้นี่มีอำพันพอจ่ายใช่ไหมอิลถาม

    ถ้าข้าจ่ายเป็นสิ่งของแทนได้ไหมคัลลัคถามกลับ

    เช่น...? ” อิลแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็ก ๆ

    เช่น... แก้ปัญหาให้เจ้าในบางเรื่องคัลลัคตอบ พลางพยักพเยิดไปที่รอบช้ำ หน้าเจ้าโดนอะไรมา

    โดดรับน้องบ้าน แต่โดนลากออกมาจากห้องนอนอิลส่งเสียงคำรามอย่างหัวเสีย รุ่นพี่นรก พวกมันคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าบ้าน แล้วจะเป็นเจ้าของทุกอย่างในบ้านด้วย

    งั้นข้าก็โชคดีสิที่ไม่มีรุ่นพี่ในบ้านเลยคัลลัคแปลกใจ เพราะปกติเธอไม่ค่อยมีโชค

    เจ้าเลือกบ้านเอง ไม่ได้โชคดีเสียหน่อยอิลอิจฉา

    ข้าทำยารักษาให้เจ้าได้นะคัลลัคเสนอข้อแลกเปลี่ยน จะได้ไม่ต้องเจียดอำพันไปซื้อยาเอง

    ข้าไปขอห้องพยาบาลเอาก็ได้อิลว่า

    ครูจะถามว่าเจ้าไปโดนอะไรมาคัลลัคเดาได้เลย เจ้าคิดว่ารุ่นพี่นรกที่ซ้อมรุ่นน้องแค่เพราะโดดไปนอน พวกเขาจะทำยังไงกับคนปากโป้งกันนะ

    ข้าก็แค่สร้างเรื่องโกหกไปอิลว่า

    ที่นี่คือโรงเรียนเวทมนตร์ เป็นหน้าเป็นตาของทวีปนะคัลลัคตอบ พวกเขาไม่ปล่อยให้มีชื่อเสียหลุดรอดไปหรอก ครูจะจับผิดเจ้าได้ เจ้าอยากจะเสี่ยงรึ

    อิลกอดอกยอมนิ่งฟัง

    ยิ่งครูลงโทษรุ่นพี่แรงเท่าไหร่ มันก็จะไปลงที่เจ้าแรงเป็นเท่าตัวคัลลัครู้ดี การลงโทษไม่สามารถสร้างนิสัยดี ๆ ขึ้นในตัวอันธพาลได้ เดธิเลียก็ดูจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

    ข้าจะติดต่อให้ แค่นั้น แต่ต้องได้ยาก่อน แล้วยาต้องใช้ได้ดีไม่งั้นข้าไม่รับงานอิลตอบ ถ้าข้าจะต้องหาโอกาสให้พวกเจ้าเจอหน้ากันจริง ๆ ข้าต้องได้ของตอบแทนดีกว่านี้

    ได้คัลลัครับปาก ง่ายเหมือนปอกกล้วย

    +++

    คาบเรียนที่ 3 วิชาภาษาเอลธันคา ::: ห้องเรียนปี 1

    ครูกินราเป็นคนสอนวิชานี้และเธอไม่ว่าอะไร หากจะมีนักเรียนหลับคาชั่วโมงเรียน เพราะมันเป็นวิชาที่น่าเบื่อเอามาก ๆ ทุกคนต้องมาเรียนการขับลำนำร้อยแก้วร้อยกรอง ไม่ได้มีอะไรตื่นตาฟู่ฟ่าอย่างในวิชาเมื่อวาน

    แล้วครูก็ไม่ว่าอะไรถึงจะมีคนโดดเรียนด้วย

    เมื่อมีคนขอไปเข้าห้องน้ำ คัลลัคก็ขอตามไปด้วย ก่อนจะแอบย่องเข้าไปในห้องปรุงยาที่ใช้เรียนกับครูดูโคคาบบ่ายเมื่อวาน ไม่มีใครใช้ห้องในช่วงนี้ ไม่มีวี่แววของครูประจำห้องด้วย จะมีก็แค่เต่ากระดองหนามตัวหนึ่งที่หดหัวหลับอยู่บนโต๊ะครู

    คัลลัคจึงเดินสบายใจเข้าไปหยิบหม้อต้มยา

    ใครอนุญาตให้มาหยิบจับอุปกรณ์การเรียนในห้องปรุงยาเสียงทักทำให้คัลลัคสะดุ้งโหยง เธอแน่ใจว่าไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า เมื่อหันกลับไปก็เห็นครูดูโคนั่งประจำโต๊ะครู โดยที่เต่ากระดองหนามตัวนั้นหายไปแล้ว

    ครู... เป็นเต่า?” คัลลัคอดที่จะทักเรื่องนั้นไม่ได้

    คิดจะเอาหม้อยาไปทำอะไรครูดูโคถาม

    ก็...คัลลัครีบคิดคำโกหก ต้มซุป

    แน่นอนว่าคำตอบนั้นทำให้ครูดูโคเดือด เขาไล่ตะเพิดคัลลัคออกไปจากห้องปรุงยาและปิดประตูตามหลังดัง ปึง!

    อ้าว ๆ ดูซินี่ใครเสียงหนึ่งทักจากระเบียงทางเดิน นึกยังไงถึงจะเอาหม้อปรุงยาไปต้มซุปกันล่ะนั่น

    เดธิเลีย... เพโลวีและเผ่ายักษ์ 2 ตน

    ไม่ใช่เรื่องของเจ้าคัลลัคตอบ ก่อนจะขมวดคิ้ว เพราะเห็นรอยฟกช้ำตามแขนของเพโลวีที่ยืนหงอด้านหลัง

    ใจกล้าดีจริงนะเดธิเลียเดินเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มที่ดูไม่เป็นมิตร เจ้าทำข้าไว้แสบ... คิดว่าพวกเราจะจบกันแค่ในวันสอบเท่านั้นรึ? น้องสาวที่รัก

    คัลลัคกลืนน้ำลาย เธอรับรู้ได้ถึงอันตราย ก่อนจะรีบกลับหลังหันและวิ่งหนีกลับไปยังห้องเรียน ปล่อยเดธิเลียให้ยืนหัวเราะกับท่าทีของอีกฝ่าย

    พักเที่ยงลากมันมาให้ข้าเดธิเลียสั่งพวกยักษ์

    +++

    ปากทางเข้าโพรงมืด พื้นที่กักบริเวณ เขตเหนือ

    ปล่อยข้านะ...! ” คัลลัคกรีดร้องเสียงแผ่ว เพราะมึนงงจากการโดนยักษ์สูง 3 เมตรจับขาให้ห้อยหัวลง

    ไทเตส หน้านางแดงหมดแล้วนะเพโลวีเอ่ยเตือน

    แต่คุณหนูเดธิเลียยังไม่ได้สั่งให้ปล่อยยักษ์ใหญ่ตอบ

    ไอ้พวกบื้อคัลลัคก่นด่าอย่างวอนหาเรื่อง ตัวก็มหึมา ทำไมกลัวแค่มนุษย์ผู้หญิงคนเดียว

    ปล่อยลงมาเสียงเดธิเลียซึ่งเดินตามมาทีหลังเอ่ยสั่ง ไทเตสจึงปล่อยคัลลัคร่วงลงมากระแทกพื้นคอแทบหัก ทำเอาเธอนอนมึนอยู่กับพื้นไปพักใหญ่

    เจ้าสงสัยรึว่าทำไมพวกมันต้องฟังข้าเดธิเลียเอ่ยถาม พลางเอาเท้าเขี่ยหัวของคนที่นอนแผ่หลา ตระกูลแวนธีสคือผู้ปกครองอาณาเขตกาเมซัน ดินแดนฤดูหนาวรอบเทือกเขาเรเวนธีส ส่วนเผ่ายักษ์น้ำแข็งอย่างพวกมัน...

    เดธิเลียชายตามองคู่ยักษ์ชายหญิงที่หลุบตาต่ำ ไม่กล้าสบตากับเธอ แม้ว่าไทเตสจะเป็นยักษ์สีม่วงที่สูง 3 เมตร และพิชเป็นยักษีลูกครึ่งมิโนทอร์ที่สูง 2 เมตร

    ไม่มีใครกล้าหือกับเดธิเลียทั้งสิ้น

    ก็แค่พวกหัวทึบ อ่านหนังสือไม่ออก ฉลาดได้แค่เท่าเด็ก 7 ขวบ ใช้เวทมนตร์ได้แค่พื้นฐานเดธิเลียพูดออกมาด้วยสายตาเอือมระอา แล้วก็มีสัญญาทาสติดที่ดินอยู่

    แต่ข้าก็เป็นแวนธีสคัลลัคคลานถอยไปเมื่อได้สติ

    งั้นรึ แต่ในรายชื่อนักเรียนเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้นนะเดธิเลียยิ้มเยาะ คัลลัค ชากอล นังเด็กเหลือขอจากสลัมที่บังเอิญตกถังข้าวสาร

    ประตูหินถูกไทเตสและพิชช่วยกันผลักเปิด เผยโพรงมืดด้านในที่ปล่อยกลิ่นอายชวนขนลุกออกมา

    และบังเอิญว่าในถังข้าวสารนั้นมีอสรพิษนอนรอของว่างอยู่เดธิเลียพูดต่อ รู้ไหมว่าโพรงนี้คืออะไร

    พื้นที่กักบริเวณคัลลัคเอ่ย เธอรู้จากตอนที่ร็อตกับฮันนิบาลทะเลาะกันจนโดนส่งเข้าไปช่วงเย็นวาน แล้วเมื่อออกมา พวกเขาก็หน้าซีดตื่นกลัวและเอาแต่กักตัวเองไว้ในห้องจนถึงตอนนี้

    ไม่ว่าอะไรอยู่ในโพรงมืด มันไม่ใช่ข่าวดีแน่

    โพรงมืดเป็นอาณาเขตเวทมนตร์ มันจะแสดงสิ่งที่เหยื่อหวาดกลัวที่สุดออกมาเดธิเลียกระชากคอเสื้อคัลลัคขึ้นมาจนตัวลอย

    เหอะ ข้าไม่กลัวตัวอะไรทั้งนั้นแหละคัลลัคพยายามคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ ไม่ให้โยนเธอเข้าไป

    แล้วใครบอกว่าจะมีแต่สิ่งมีชีวิตกันล่ะเดธิเลียพยักหน้าให้ไทเตส ยักษ์ม่วงก็กระชากคัลลัคจากที่ยึดเกาะ แล้วโยนเธอเข้าไปในความมืดมิด ล็อกประตู

    เดธิเลีย!” เสียงเด็กสาวเรียกให้หัวโจกหันไปมอง อีกฝ่ายคือริสต้ากับไฮโอ ทั้งสองเหมือนจะพึ่งสังเกตว่าเพื่อนตัวเองโดนหิ้วหายไปจากโรงอาหาร โพรงมืดไม่ใช่ของเล่นของเจ้านะ

    อยากเข้าไปช่วยเพื่อนไหมล่ะเดธิเลียยิ้มเยาะ พลางผายมือเชื้อเชิญริสต้าให้ตามคัลลัคเข้าไป

    ข้าจะไปตามครูไฮโอเอ่ยบอก แต่ก่อนจะไป เขาบีบต้นแขนริสต้าแน่น ริสต้า... ห้ามเข้าไป เด็ดขาด

    งั้นก็...เดธิเลียมองตามหลังไฮโอไป บอกลาเพื่อนของเจ้าได้เลย ต่อให้ไม่ล็อก นางก็ไม่ออกมาหรอก

    ทำไมคิดอย่างนั้นเล่าริสต้าถาม

    เพราะสิ่งที่นางกลัว... อยู่นิ่งไว้เป็นดีที่สุด

    +++

    พวกนรกคัลลัคก่นด่าทันทีที่ได้สติ เธอถูกโยนเข้ามาแรงมากจนกระแทกกับผนังขรุขระ ทั้งจุกทั้งชาจนไม่รู้ว่าร่างกายยังอยู่ครบรึเปล่า อีกทั้งภายในนี้มืดสนิทจนไม่เห็นอะไร แสงเดียวจากปากทางก็หายไปแล้ว แต่ก็ยังพอเดาทิศได้อยู่

    คัลลัคเดินกะเผลกกลับไปยังทางออกเท่าที่จะเร็วได้

    คัลลัคเสียงผู้หญิงแว่วมาจากความมืด แต่เมื่อคัลลัคหันกลับไปก็ไม่เห็นอะไรสักอย่าง ชื่อของนางคือคัลลัค

    นั่นใครพูดน่ะ?!” คัลลัคถามออกไป

    คัลลัค ภาษาเอลธันคาแปลว่าโชคร้าย เจ้าจะไม่สงสารเด็กสักหน่อยรึคราวนี้เสียงที่แว่วมาเป็นเสียงผู้ชาย

    ฟาดเคราะห์ไงเสียงผู้หญิงตอบ พวกเขาคุยกันเองโดยไม่ได้ยินคัลลัค เผื่อว่าลูกข้าจะไม่ดึงดูดโชคร้าย

    นางเป็นพวกตาเงินเสียงผู้ชายเอ่ย ทำใจเสียเถอะ

    ครึก!

    เห้ย!” ทั้งที่ในโพรงนั้นน่าจะเป็นพื้นที่เรียบ แต่คัลลัคกลับเหยียบไปเจอขอบหน้าผาเปราะบางเข้า ข้อเท้าของเธอพลิก ก่อนจะเสียหลักร่วงตกลึกลงไปหลายเมตร อึก... โอย

    คัลลัคพยายามคลำไปบนพื้นอย่างระมัดระวัง เธอสำรวจในความมืดไปจนพบว่าตัวเองหลงมาอยู่ที่ขอบผาเล็ก ๆ ฝั่งหนึ่งคือผาสูงที่เธอตกลงมา ส่วนอีกฝั่งเป็นหลุมโล่งที่ไม่รู้ว่าลึกขนาดไหน แล้วเธอก็ไม่กล้าเอื้อมมือลงไปสำรวจต่อด้วย

    คัลลัค!” เสียงริสต้าแว่วลอยมาเหมือนสัญญาณช่วยชีวิต เธอเข้ามาในโพรงพร้อมกับหินส่องแสงนำทาง

    ริสต้า!” คัลลัคพยายามชะโงกมองขึ้นไปบนผาข้างบนและโบกมือเรียก แต่แล้วกลับมีมือยื่นมาจับเอวจากด้านข้างแทน ทำเอาเธอสะดุ้งจนเกือบชกเข้าให้

    นี่ข้าเอง เจ้า เอ่อ...ริสต้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้วน ๆ แถวดวงตา ผ้าปิดตาของเจ้าหายไปนะ

    คัลลัคแข็งทื่อยิ่งกว่าตอนยืนขอบผาเสียอีก เธอไม่ทันเอะใจว่าผ้าปิดตาหลุดไปตอนถูกขว้าง เพราะในนี้มืดแปดด้านจนไม่เห็นอะไรเลย นอกจากแสงอ่อน ๆ จากจี้หินในมือริสต้า

    รู้อะไรไหม ตอนนี้ข้าเห็นดวงตาของเจ้าเป็นสีเงินด้วยล่ะริสต้ายิ้ม แต่คัลลัครู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังฝืน

    คือข้าอธิบายได้...คัลลัคพยายามนึกหาคำพูด

    ไม่ต้องหรอก ข้ารู้อยู่แล้วริสต้าเอ่ย

    รู้แล้ว...? ” คัลลัคแปลกใจ ไฮโอบอกเธอแล้วงั้นเหรอ

    ใช่ ข้าเป็นคนบอกเจ้าเองนะ ข้าต้องรู้อยู่แล้วสิว่าโพรงมืดจะแสดงสิ่งที่เหยื่อกลัวที่สุดออกมาริสต้าตอบ ส่วนคัลลัครู้สึกผิดหวังนิด ๆ มันคงดีกว่าถ้าเธอจะได้คุยเรื่องตาเงินกับริสต้าไปตรง ๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่าตนเห็นตาเงินเพราะผลของอาณาเขตเวทมนตร์

    แล้วเป็นไง ข้ามีตาสีเงินแล้วสวยไหมคัลลัคทำเป็นยิ้มและพูดไหลไปเรื่อย

    ข้าชอบตอนที่ตาของเจ้าเป็นสีอำพันมากกว่า ถึงจะไม่เคยเห็นตาอีกข้างของเจ้าก็เถอะริสต้าตอบ เริ่มไม่ฝืนแล้วเมื่อคัลลัคทำให้มันดูเป็นเรื่องตลก

    สีเงินทั้งสองข้างเลยรึคัลลัคแปลกใจ

    ใช่สิริสต้าตอบ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นผลของอาณาเขตจริง ๆ ทำให้แทนที่จะเห็นความจริงข้างเดียวกลายเป็นเห็นทั้งสองข้าง แต่ข้าไม่คิดว่ามันสวยหรอกนะ

    เจ้ากลัวพวกตาเงินรึคัลลัคถือโอกาสถาม ขณะที่เดินตามริสต้าไปยังทางออก เมื่อพวกเธออยู่ด้วยกัน ความกลัวจากภาพลวงหลอกของอาณาเขตโพรงมืดก็ดูเบาบางลง

    อืมริสต้าตอบเสียงแผ่ว พอจะเดาได้ว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ คัลลัคจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

    ข้าไม่เคยเห็นสร้อยนั่นเลยคัลลัคทัก

    ของดูต่างหน้าจากพ่อข้าน่ะ มันเป็นหินเครื่องราง ใช้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ได้ผลกับความกลัวด้วยริสต้าตอบ นั่นเองคือเหตุผลที่โพรงมืดดูจะไม่อยากยุ่งกับแสงนี้

    โอ้ พ่อของเจ้า...คัลลัคเกาท้ายทอย ไม่รู้ทำไมเธอช่างเลือกหัวข้อสนทนาได้แทงใจขนาดนี้

    พ่อของข้าเป็นนักผจญภัย แล้วก็นักทำแผนที่ แต่พ่อใจกล้าบ้าบิ่นเกินไป เมื่อสิบปีก่อนเขาลอบเข้าไปในนครลาสเดธ เพื่อพิสูจน์ว่าพวกตาเงินไม่ได้เกิดจากการเป็นพาหะนำคำสาป แต่เป็นกรรมพันธุ์บกพร่องอะไรนี่แหละริสต้ากำหินเครื่องรางแน่น ระหว่างที่เล่า เขากลับมาพร้อมกับดวงตาที่กลายเป็นสีเงิน แล้วก็เด็กผู้หญิงผมแดงคนหนึ่ง

    เด็กแบบ... มีชีวิตเหรอคัลลัคถาม เพราะนครลาสเดธคือดินแดนของเหล่าคนตาย

    เด็กคนนั้นก็ดูไม่เหมือนคนตายนะ แต่พ่อของข้ายืนกรานว่านางคือเจ้าหญิงแห่งนครลาสเดธริสต้าส่ายหัว พ่อของข้าเริ่มกลายเป็นบ้าเพราะตาเงินนั่น เขาเริ่มพูดว่ามองเห็นแสงวิบวับแปลก ๆ บอกว่าเห็นวิญญาณภูตผี แล้วก็ควันสีดำ

    แล้วเด็กคนนั้นล่ะคัลลัคถาม

    นางหนีไปริสต้าตอบเพียงแค่นั้น

    ทั้งสองเดินออกมาทางประตูที่แง้มน้อย ๆ ไฮโอกับครูดูโคเป็นคนเปิดให้ คัลลัคใช้วิธีหลับตาขวาหาผ้าปิดตาจนเจอตกอยู่แถวที่โดนจับห้อยหัว ตอนที่ครูดูโคมาถึง กลุ่มอันธพาลก็ไม่อยู่แล้ว เมื่อครูเรียกพวกนั้นมาคุย มันจึงเกิดเสียงโต้แย้งเป็นสองทาง เพราะเดธิเลียอ้างว่าตัวเองอยู่ในโรงอาหารตลอดพักเที่ยง โดยมียักษีที่ชื่อดัฟเฟตยืนยันให้

    ครูเอาผิดเดธิเลียไม่ได้ เธอยังคงลอยนวลต่อไป

    +++

    ในวิชาภาษาไอดัส เด็กปี 1 ได้เรียนกับครูต่างชาติที่ดูจะติดตลกหน่อย ๆ เขาชื่อแคลมาจากไอดัส เช่นเดียวกับอิล แต่ครูแคลนิสัยดีกว่ากันเยอะ เขาถามเสมอว่ามีใครตามไม่ทันที่เขาสอนไหม ให้ยกมือขึ้นบอก เขาจะไม่ดุด่าอะไร แต่จะทวนซ้ำให้ใหม่ นักเรียนหลายคนจึงยกมือกันเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็เรียนไปได้ไม่ถึงไหนกันทั้งชั้น

    บางคนที่หัวไวจึงเริ่มจะเขม่นคนที่ยกมือ

    เช่น เจ้าหญิงซาร์ธีน ฮันนิบาล แฟเรลและร็อต ผู้ซึ่งกำลังจ้องคัลลัค เดธิเลีย เพโลวี แล้วก็พวกยักษ์หัวทึบทั้งสาม จนในที่สุดคัลลัคกับเดธิเลียก็เลิกยกมือเพื่อจะไม่ตกเป็นเป้าสายตา แต่พวกที่เหลือคือหัวทึบเกินเยียวยาจริง ๆ

    นักเรียนหลายคนจบวันด้วยสภาพมึนเบลอ เพราะภาษาไอดัสเป็นความรู้ใหม่ เริ่มต้นจากศูนย์สนิท ไม่เหมือนภาษาเอลธันคาที่พอจะรู้พื้นฐานที่ใช้พูดในชีวิตประจำวันอยู่บ้าง แค่ต้องเรียนรากศัพท์โบราณและการเขียนสะกดคำเพิ่ม

    คัลลัคกลับมาถึงบ้านบุหงาดำก็ซ้อมตายด้วยท่านอนแผ่แบบไม่สนโลกทันที เธอหลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูเลื่อนเบา ๆ เธอจึงเปิดออกไปดู

    แต่ใครที่ไหนจะไปคิดล่ะว่าสิ่งที่เคาะประตูห้องเธอ... มันจะเป็นเสือดาวหิมะขนปุยที่คาบหม้อต้มซุปมาด้วย

    ส..สวัสดีคัลลัคทักทายเสือเสียงสั่น

    เข้าไปได้ไหมเสือดาวหิมะถามด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย

    เจ้าคือ... เพโลวี?” คัลลัคอุทาน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×