Aevenhilde โรงเรียนแห่งตัวตน [ Fantasy ::: Yuri ]

ลำดับตอนที่ #48 : เชิงอรรถ II โรงเรียนเอเวนไฮด์

เชิงอรรถ II โรงเรียนเอเวนไฮด์

โรงเรียนเอเวนไฮด์คือโรงเรียนเวทมนตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในทวีปแอซโทเปีย ถูกก่อตั้งขึ้นในปีเทรเซนศักราช 4000 โดยครูใหญ่คนแรกซึ่งเป็นที่ปรึกษาคนสนิทของราชินีอสูร ริเริ่มจากการว่าจ้างครูชาวบาพีร่า 1 คนเพื่อสอนนักเรียน 1 คนและยืมอาคารเรียน 1 หลังจากโรงเรียนเอเวนดรอสราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนกฎหมายและศาสนามาแต่เดิม

โรงเรียนเอเวนดรอสราชวิทยาลัยยุติการสอนในปีเทรเซนศักราช 4006 เนื่องด้วยความขัดแย้งระหว่างศาสนาในหลักสูตร อันเป็นผลพวงจากการที่จอมเวทผู้มีพลังมากจากโรงเรียนเอเวนไฮด์เล่นพรรคเล่นพวกเป็นผู้พิทักษ์ศาสนาของตนเอง และในท้ายปีนั้น โรงเรียนทั้งสองจึงถูกควบรวมกันทั้งหลักสูตร นักเรียนและสถานที่ ในชื่อของโรงเรียนเอเวนไฮด์

ปีเทรเซนศักราช 4049 ได้มีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งครูใหญ่ครั้งแรกและครั้งเดียว ส่งต่อให้กับธารีส เซย์ พร้อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงทั้งหลักสูตร จุดประสงค์และระบบการเรียนการสอนทั้งหมดภายในโรงเรียนตลอดร้อยปีให้หลัง เกิดสมาคมศิษย์เก่าขึ้นและมีการคัดเลือกครูวิชาเวทมนตร์จากสมาคมนี้

เทรเซนศักราช 4203 สมาคมศิษย์เก่าเริ่มเสื่อมถอยลง ผู้ใช้เวทมนตร์เริ่มหมดความสนใจที่จะค้นคว้าสิ่งใหม่ หลงเหลือพลังไว้เพียงแค่เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน กระทั่งเกิดข่าวจอมเวทตายเพราะโจรป่า จนผู้คนหมดความศรัทธาและความหวั่นเกรงต่อผู้ใช้เวทมนตร์ในที่สุด

กฎอัยการศึกในปี 4224 ทำให้โรงเรียนเอเวนไฮด์งดการเรียนการสอนลงและจำต้องส่งศิษย์เก่าทั้งหมดเข้าร่วมการรบ เพื่อหยุดยั้งการรุกรานของกองทัพคนตาย นำโดยราชินีฟราน รากูน ผู้หวนคืนจากความตายโดยไม่ทราบเหตุที่มา และด้วยสงครามในครั้งนั้นทำให้โรงเรียนเอเวนไฮด์เกือบล่มสลายเพราะสูญเสียครูกับนักเรียนไปแทบทั้งหมด

รวมถึงปฐมครูของเอเวนไฮด์ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกนักเรียน ได้ไม่เกิดความบาดหมางต่อครูใหญ่ธารีสในการตัดสินใจ ณ ชั่วจังหวะนั้น ทำให้เกิดการต่อสู้กันเองระหว่างจอมขมังเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 2 คน ปฐมครูเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้และหนีไป ทว่ายังคงส่งจดหมายถึงโรงเรียนเกี่ยวกับนักเรียนที่สมควรได้เข้าเรียนอยู่เสมอมา

ก่อนที่โรงเรียนเอเวนไฮด์จะได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 4321 เมื่อเพลิงแค้นของเหล่าคนตายเริ่มมอดลงในที่สุด

ตลอดระยะเวลา 97 ปีของสงคราม 4224 นั้น ได้มีการรวมตัวของเหล่าผู้รักสันติ จากกลุ่มอัศวินผ่านศึกและจากสมาคมศิษย์เก่าเอเวนไฮด์ เกิดเป็นศาสนาบริสุทธิ์ซึ่งสืบทอดปณิธานในการยุติสงครามและส่งคนตายสู่วัฏจักรอันควรจะเป็น โดยไม่สนใจว่าจะด้วยวิธีการใด

หนึ่งในวิธีอันผิดต่อหลักกฎหมาย ก็คือการสืบทอดวิชาเวทมนตร์ โดยไม่ผ่านการควบคุมดูแลของโรงเรียนเอเวนไฮด์ ถ่ายทอดเรียนรู้กันเองจนเกิดเป็นวิชาเวทมนตร์ต้องห้ามและกลุ่มผู้เรียนเวทมนตร์ที่เก่งกว่านักเรียนเอเวนไฮด์รุ่นหลัง

เรียกกันว่า นักเรียนแห่งอัตตา

ปีเทรเซนศักราช 4399 สภาเวทมนตร์อาวุโสและตัวแทนจากออสคาส มหาวิทยาลัยเวทมนตร์แห่งบาพีร่าเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของโรงเรียนเอเวนไฮด์ แล้วติดต่อเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับศาสตร์มนตรา ทว่าชาวแอซโทเปียยังล้าหลังทวีปบาพีร่าอยู่มาก ไม่สามารถทำประโยชน์ใดให้กับคู่พันธมิตรได้แม้แต่น้อย

นำมาสู่การท้าประลองด้านศิลปะเวทมนตร์ เพื่อทดสอบความก้าวหน้าของโรงเรียนเอเวนไฮด์ในปี 4406 ให้สภาของบาพีร่าหาข้อสรุปได้ว่าทวีปแอซโทเปียล้าหลังพอให้นำมาเป็นดินแดนอาณานิคมได้หรือไม่ แน่นอนว่านักเรียนเอเวนไฮด์แพ้ทุกการประลอง ครูใหญ่ธารีสจึงขอโอกาสในการเตรียมตัวอีกครั้ง

นักเรียนเอเวนไฮด์ถูกกดดันอย่างหนักตลอดเวลา 3 ปี กระทั่งการประลองหวนกลับมาอีกครั้งในปี 4409 จากจำนวนการประลองทั้งหมด 3 ประเภทหลักและ 4 ประเภทรอง นักเรียนเวทมนตร์ของทวีปแอซโทเปียสามารถชนะได้เพียงการประลองหลักประเภทเดียว นั่นคือการประลองเวทมนตร์ด้านความสวยงาม อีกทั้งเด็กคนนั้นเป็นนักเรียนอัตตาที่ลอบเข้ามาร่วมการประลองด้วย ไม่ใช่นักเรียนเอเวนไฮด์เอง

แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้สภาบาพีร่าประหลาดใจได้ พวกเขาจึงเสนอทุนการศึกษาให้นักเรียนอัตตาไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยบาพีร่า แล้วเสนอให้จัดการประลองขึ้นอีกทุก ๆ 3 ปี จนกลายเป็นประเพณีสืบต่อมา โดยนักเรียนคนใดที่ชนะการประลองหลักจะได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่บาพีร่าหลังเรียนจบจากเอเวนไฮด์

มันคือการเด็ดปีกโรงเรียนเอเวนไฮด์ไปทีละข้าง

นักเรียนที่ได้รับทุนไปเรียนต่างทวีปล้วนแล้วแต่ไม่เคยกลับมา พวกเขามีความสุขกับแดนศิวิไลซ์มากกว่าจะย้อนกลับมาช่วยดึงรากเหง้าของตนขึ้นจากโคลนตม

หลักสูตรของเอเวนไฮด์จึงเริ่มเปลี่ยนอีกครั้งในปี 4444 พร้อมกับวิธีการรับนักเรียน แทนที่จะตามหาเด็กที่มีพลังเวทเพื่อรับเข้าเรียน เด็กเหล่านั้นต้องอยากมาเรียนและมาสมัครแข่งขันด้วยตัวเองเพื่อให้รู้สึกว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเข้าได้ ยกเว้นแต่เพียงรายชื่อในจดหมายของปฐมครูที่ครูใหญ่ธารีสยังคงเดินเรื่องเชิญมาเรียนเป็นกรณีพิเศษอยู่ทุกปี

เมื่อการเปลี่ยนแปลงผ่านพ้นไปกลายเป็นภาพจำ ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยบาพีร่าก็ไม่ดึงดูดใจเท่าแต่เดิม บางคนก็ไปเรียนต่อ บางคนก็ไม่ไป แต่เมื่อมันยังไม่เพียงพอจึงมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในปี 4567 คนนอกไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...แต่ศิษย์เก่าเอเวนไฮด์ที่จบออกไป ไม่ว่าจะไปเรียนต่อหรือไม่ก็ตาม พวกเขาจะกลับมาช่วยเหลือโรงเรียนเสมอ ไม่ว่าครูใหญ่ธารีสจะเรียกร้องในช่วงเวลาใดก็ตาม

ปีเทรเซนศักราช 5368 จดหมายของปฐมครูได้เชิญผู้ถือครองมนต์ดำแต่กำเนิดคนแรกมาเรียนในเอเวนไฮด์ กันติเนล ชากอล คือตาเงินผู้มีพรสวรรค์ด้านศาสตร์และข่าวลือชื่อเสียงที่แพร่กระจายออกไปก็ทำให้กองทัพคนตายเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง จากแต่เดิมที่มีการปะทะเพียงแค่ชายแดน ทว่าในปี 5370... กองทัพคนตายก็แหกแนวป้องกันจนเข้าประชิดนครฐานรากของมหาพฤกษาได้ในที่สุด ในการบุกไปที่นั่น ตลอดเส้นทางล้วนมีแต่การนองเลือด แต่เมื่อกันติเนลปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับคนตาย การโจมตีทั้งหมดก็จบลงเพราะนักเรียนและบุคลากรเอเวนไฮด์ทั้งหมดหนีขึ้นไปตามกิ่งก้านสาขาของต้นเอิร์กร่า

กองทัพคนตายไม่สามารถปีนตามขึ้นไปได้เพราะมีพลังคุ้มครองของมหาพฤกษา ฝ่ายเอเวนไฮด์จึงเริ่มโต้กลับและไล่กองทัพคนตายให้ถอยร่นกลับไปยังดินแดนเดิมได้ในที่สุด และเพื่อเป็นรางวัลแก่นักเรียนทุกคนที่ผ่านศึกนั้นมา พวกเขาล้วนได้รับการแต่งตั้งเป็นเควียและอนุญาตให้จบการศึกษาได้โดยไม่ต้องผ่านพิธีใดอีก

ปีเทรเซนศักราช 5404 จดหมายจากปฐมครูได้เชิญผู้ถือครองมนต์ดำแต่กำเนิดคนที่ 2 มาสู่โรงเรียนเอเวนไฮด์