ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า - Attack on Titan [Yuri] [Mikannie]

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนพิเศษ 2 การเดิมพันของมิคาสะ [S]

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 57


    ตอนพิเศษ 2 การเดิมพันของมิคาสะ [S]

    ย้อนกลับไปช่วงเกือบๆ 2 เดือนหลังจากที่แอนนี่ มิคาสะและไรเนอร์ต้องเข้าไปเป็นนักสู้ในโคลอสเซียม หรือประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนที่จะถึงงานเฉลิมฉลอง นักสู้ของอารีน่าแห่งนี้จะพักอยู่รวมกันภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างไว้เป็นส่วนเดียวกับสถาปัตยกรรมขนากยักษ์นี้ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าลองของเรียกวิญญาณนักรบเล่นกันแน่ๆ นั่นก็เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากร่างกายของนักรบไททันผู้โชคร้ายที่คอเตชหลอกให้สร้างผลึกขึ้นมาเป็นโคลอสเซียม แต่เมื่องานนี้เสร็จสมบูรณ์ คอเตชก็ฆ่าพวกเขาเพื่อบูชาเทพแห่งการสงครามที่เขานับถือ จึงเชื่อกันว่าดวงวิญญาณของนักรบที่ถูกหักหลังนั้นยังคงวนเวียนอยู่ ณ ที่แห่งนี้

    แต่เราไม่ได้อยากจะรู้เรื่องนั้นกันจริงไหม?

    “ฮ้า! ในที่สุด!” ไรเนอร์บิดขี้เกียจหลังจากการต่อสู้กับไททันวิปริตสองตัว เขาไม่มีปัญหาเลยที่จะต้องทุบหัวพวกมันจนแบะ รีไวล์แทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่ฆ่าไททันวิปริตอีกสี่ตัวที่ประโจนขึ้นมาจะงับคอของไรเนอร์ “ได้หยุดยาวตั้ง 2 สัปดาห์ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีช่วงเวลาแบบนี้อยู่จริง”

    “นั่นไม่ใช่เวลาสำหรับการเที่ยวเล่น” รีไวล์พูดหน้าตาย ก่อนจะเดินเข้าไปในที่พัก

    ซึ่งที่พักเหล่านี้ที่มีไว้สำหรับมนุษย์ปกติเท่านั้น มันเป็นห้องส่วนตัวที่เรียงต่อกันอยู่ 10 ห้อง 5 ห้องแรกเป็นของนักรบและคนดูแลโคลอสเซียม เว้นว่าง 2 ห้องเพราะถูกใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆของรีไวล์ ฮันซี่และมิคาสะ ทั้งอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติ ชุดเครื่องแบบและอาวุธ 1 ห้อง ...และอุปกรณ์พิลึกๆของฮันซี่อีก 1 ห้อง

    ก็ไม่รู้ว่าฮันซี่รอดมาได้ยังไงเหมือนกันในเมื่อชอบเอาตัวเข้าไปให้ไททันไล่งาบบ่อยเสียขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรฮันซี่เหมือนเป็นดาราสำหรับพวกคนดูในโคลอสเซียมไปแล้ว เพราะการแสดงของเธอไม่ใช่การฆ่าไททัน แต่เป็นการวิ่งล่อโหนล่อให้ไททันตะครุบเล่นคล้ายๆกับการแสดงมาธาดอร์ของสเปนที่ให้คนถือผ้าแดงไปวิ่งล่อวัวกระทิง

    แต่สำหรับเวลาอยู่นอกอารีน่าก็ดูเหมือนเธอจะเก็บตัวจนคนอื่นเกือบลืมไปแล้วว่าเธออยู่ที่นี่ นานๆครั้งจะวิ่งออกจากห้องเก็บของไปห้องพักตัวเองเพื่อหยิบของ จากนั้นก็วิ่งกลับเข้าไปในห้องเก็บของใหม่

    “แล้ว... ” ไรเนอร์เดินเข้าไปหาแอนนี่กับมิคาสะ “ไปฉลองกันไหม”

    “ไม่ได้ฟังที่หัวหน้าพูดเลยสินะ” มิคาสะเรียกรีไวล์ว่าหัวหน้าเพราะมันติดปากตามเอเลนไปแล้ว

    “ไปสิ” แอนนี่ตอบ

    “เยี่ยม ฉันได้ยินจากมาร์คัสมาว่าโถงทางตะวันตกน่ะมีร้านอาหารอร่อยๆด้วย ไปกันเถอะ” ไรเนอร์ชี้ไปทางห้องโถงกว้าง โถงตะวันตกนั้นดูราวกับอยู่ห่างไปเกือบๆครึ่งกิโลฯเพราะตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในโถงตะวันออก

    “มาร์คัส?” มิคาสะทวนชื่อ

    “ใช่ ทำไม” ไรเนอร์ถาม

    “เปล่า” มิคาสะตอบ สำหรับที่นี่ คนชื่อซ้ำคงเป็นเรื่องปกติ “นายแปลงร่างสิ”

    ไรเนอร์จัดให้ตามขอ เขากลายร่างเป็นไททันสวมเกราะก่อนจะพาทั้งสองคนเดินข้ามไปโถงตะวันออก โดยที่พวกคนเดินเท้าก็หลบออกข้างให้ไททันเดินผ่านไปผ่านมาได้สะดวก เพียงไม่ถึง 10 ก้าวสั้นๆของไททัน พวกเธอก็มาถึงแถบร้านค้าแล้ว ภายในห้องโถงนั้นสำหรับนักสู้มันคือคุก พวกเขาออกไปจากห้องนี้ไม่ได้

    ข้าวของที่นำมาซื้อนำมาขายจึงเป็นของจากตลาดมืดที่คนรู้จักหรือนักพนันที่ชอบเชียร์นักสู้ที่นี่เอามาขายให้ถูกๆ แลกกับในบางครั้งที่มีการสู้กันระหว่างนักสู้ก็จะมีการเตี๊ยมกันไว้ก่อนว่าใครจะยอมแพ้จะได้พนันถูกฝั่ง ส่วนเงินของนักสู้ทั้งหลายนั้นก็จะได้จากการสู้ชนะ โคลอสเซียมจะแบ่งเงินให้บางส่วน ซึ่งไม่ไม่ใช่ทุกคนจะชนะ เงินที่พวกแพ้บ่อยๆใช้กันจึงมาจากการพนันเรื่องอื่นกับพวกที่ชนะบ่อยๆชนะทุกรอบ

    ไรเนอร์เป็นเจ้ามือในมื้อนี้ เขาได้เงินมาจากการสู้ชนะไม่ใช่น้อยเพราะคู่ของเขาเหมือนเป็นคู่ดาวเด่นของโคลอสเซียม บนโต๊อาหารนี่มีทั้งอาหารหรูๆราวกับส่งมาจากภัตตาคาร เหล้าไวน์หลายขวด พอแอนนี่มองๆไปก็นึกถึงเรื่องเมื่อช่วงก่อนที่พวกเธอต้องมาอยู่ที่นี่ขึ้นมา

    “นี่ไรเนอร์ เชื่อไหมว่ามิคาสะคออ่อน” แอนนี่ถาม มิคาสะที่นั่งกินสเต็กอยู่นี่ถึงกับสำลัก ไหงอยู่ๆแอนนี่ถึงได้นึกอยากเอาเรื่องของเธอขึ้นมาเล่ากันล่ะเนี่ย ยิ่งตอนนั้นเธอจำไม่ได้อยู่ด้วยว่าเธอไปทำอะไรไว้บ้าง

    “หา? คนอย่างมิคาสะเนี่ยนะ” ไรเนอร์ถามทั้งๆที่อาหารเต็มปาก

    “แอนนี่... ” มิคาสะส่งเสียงขู่

    “หือ?” แอนนี่ส่งเสียงตอบ “หรือไม่จริง”

    “ไม่จริง” มิคาสะตอบ โกหกหน้าตาย

    “ฮะๆๆ ชักสงสัยแล้วสิว่าพวกเธอสองคนนี่ใครคอแข็งกว่ากัน” ไรเนอร์พูดขึ้นอย่างนึกสนุก

    “ฉัน!/ฉันสิ” ทั้งสองคนตอบก่อนจะหันไปมองหน้าอีกฝ่าย สนุกแน่!

    “กระเป๋าแฟบแหงเลย” ไรเนอร์พูดแล้วก็เหงื่อตก คิดผิดคิดถูกเนี่ยที่ท้า แต่ยังไงเขาก็ได้เงินมาจากการต่อสู้ทุกรอบอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นอะไรกับแค่ค่าเหล้าแค่นี้ “พี่ๆ ขอเพิ่มเหล้า 4 ขวด เอาแบบแรงๆนะ”

    “ไม่คิดจะถอนตัวสินะ” มิคาสะพูดข่ม

    “ฉันไม่กลัวคนที่ดื่มเหล้า 2 แก้วแล้วเมาแอ๋หรอก” แอนนี่ตอบ

    “เธอแพ้แน่” มิคาสะขู่

    “พนันกันไหมล่ะ” แอนนี่ท้า

    “เอาสิ พนันด้วยอะไรล่ะ” มิคาสะรับคำท้า ไรเนอร์มองทั้งคู่อยู่เงียบๆให้สมกับที่เป็นตัวประกอบฉาก อยากจะบอกว่าเหล้ามาแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปขวางพวกเธอตอนนี้

    “อะไรก็ได้” แอนนี่ตอบ

    ไรเนอร์เทเหล้าใส่แก้วไว้ให้ ทั้งคู่ก็หยิบไปกระดกหมดแก้วอย่างรวดเร็วจนเขาเทแก้วใหม่ให้แทบไม่ทัน รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นบ๋อยคอยเสริฟเครื่องดื่มในร้านอาหารยังไงชอบกล

    แก้วที่ 1 ไม่เกิดอะไรขึ้น

    แก้วที่ 2 แอนนี่สำลักเพราะมิคาสะแกล้งเคาะแก้วตอนเธอดื่ม

    แก้วที่ 3 มิคาสะหัวโนเพราะพอแอนนี่ดื่มหมดแก้วก็ปาแก้วที่ทำจากโลหะใส่หัวมิคาสะ

    แก้วที่ 4 ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันชั่วคราว

    แก้วที่ 5 มิคาสะสะอึกเพราะดื่มเร็วไป

    แก้วที่ 6 ...

    ..........

    แก้วที่ 11 ...ไรเนอร์ยอมแพ้ ทั้งสองคนดื่มกันเข้าไปคนละตั้ง 3 ขวดแล้วยังไม่มีใครหัวทิ่มโต๊ะ เขาแนะนำให้หาวิธีอื่นพิสูจน์ว่าพวกเธอเมากันไปรึยัง...ที่ไม่ใช่การสั่งเหล้ามาเพิ่ม เพราะเขายังไม่อยากต้องไปล้างจานหลังร้านให้ใคร

    มิคาสะดูตาเยิ้ม หน้าแดงและหายใจเร็ว แต่แน่นอนว่าเธอไม่ยอมรับว่าตัวเองเมาแล้ว ส่วนแอนนี่ยังไม่ออกอาการอะไรแม้แต่น้อย ไม่รู้เพราะคอแข็งหรือเธอเก็บสีหน้าได้ดีกว่าก็ไม่รู้ ไรเนอร์บอกให้ไปลองวิ่งดู ใครวิ่งเอียงแปลว่าเมาแล้ว แต่พอให้เริ่มออกตัวก็กลายเป็นว่าแอนนี่ล้มโครมไปกับพื้นเพราะมิคาสะแกล้งผลักเธอออกไป

    “อ้าว ลงไปคลานเป็นหมาทำไมนั่นน่ะ ...หรือว่าเมาจนลุกไม่ขึ้นกันล่ะ” มิคาสะพูดอย่างไม่ดูสภาพตัวเอง

    “ตลกตาย” แอนนี่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากตัว

    “รอบนี้ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้ไรเนอร์” มิคาสะบอก ก่อนจะเดินไปสั่งเหล้ามาเพิ่มเอง ให้เธอกับแอนนี่คนละแก้ว ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ โดยพยายามไม่เดินเซไปก่อน “อ้อ แล้วก็ฝากซื้อของให้หน่อยสิ”

    แอนนี่ลุกกลับมานั่งโต๊ะงงๆ มองไรเนอร์ที่ถูกมิคาสะไล่ไปเนียนๆก่อนจะหันหลับมามองมิคาสะ นี่อีกฝ่ายวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า หรือว่าเชื่อจริงๆว่าตัวเองคอแข็งกว่าเธอ ถึงเธอจะเริ่มมึนๆนิดๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามิคาสะเกือบจะน็อกคาโต๊ะอยู่แล้ว ไม่มีทางที่เธอจะสลบไปก่อนมิคาสะแน่

    เจ้าของร้านยกเหล้ามาเสริฟให้พวกเธออีกคนละแก้ว แอนนี่ก็เลิกสนใจเรื่องที่ตัวเองสงสัยก่อนจะดื่มเหล้าในแก้วไปจนหมด เช่นเดียวกับมิคาสะ และก็อีกเช่นเคย ยังไม่มีใครยอมใครง่ายๆ

    ง่วง...?!

    แอนนี่สะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะฟุบลงไปบนโต๊ะ มิคาสะยังคงนั่งเท้าคางมองอาการที่ผิดปกติของแอนนี่ยิ้มๆ ไม่รู้เพราะอีกฝ่ายเมาหรืออะไร แต่มิคาสะดูเหมือนกำลังสนุกเอามากๆ

    “เหล้า... มิคาสะ! เธอใส่อะไรลงในเหล้า..ขอ..ง... ” แอนนี่พยายามคุมสติไม่ให้วูบหลับไปก่อน แต่ก็ฝืนความง่วงที่ถาโถมเข้ามาไม่ได้ มือพยายามจะค้ำตัวเองกับโต๊ะ แต่สติก็วูบหายไปทั้งยืน

    “ยานอนหลับไง” มิคาสะตอบ เข้าไปประคองแอนนี่ไว้จากด้านข้างไม่ให้หน้าทิ่มพื้นไปก่อน พอดีกับที่ไรเนอร์กลับมาพร้อมกับข้าวกล่องในมือ

    “อ้าว” ไรเนอร์มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงงๆ ดูยังไงมิคาสะก็เมาแล้วแน่ๆ แต่กลายเป็นแอนนี่ที่นอนสลบอยู่บนเก้าอี้ มิคาสะรับของในมือไรเนอร์ไปก่อนจะส่งเงินค่าเหล้าให้ไรเนอร์จัดการต่อเอง “ไม่ต้องไปส่งเหรอ”

    “ไม่ต้อง” มิคาสะหิ้วแอนนี่พาดไหล่ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องพักในโถงตะวันออก ทิ้งไรเนอร์ให้นั่งง่อยกินอยู่คนเดียว จะว่าสงสารก็น่าสงสารเพราะเขาไม่มีเบลทรูทมานั่งก๊งเหล้าด้วยแล้ว แต่ถ้าถามมิคาสะ...สนใจทำไม?

     

    แอนนี่ตื่นขึ้นมาในห้องพักของมิคาสะ เห็นอีกฝ่ายรื้อข้าวของที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหน นั่นคือแส้เฆี่ยนม้าที่ปกติเห็นได้ทั่วไปในหมู่นักขี่ม้าเพื่อการแสดง หรือพวกนักฝึกม้า ...อย่าบอกนะว่ามิคาสะจะเอาคืนที่เธอเคยทำไว้ แอนนี่รีบลุกพรึ่บขึ้นจากเตียงก่อนที่มิคาสะจะทันรู้ว่าเธอตื่นแล้วด้วยซ้ำ

    แต่มันก็ช้าไปเมื่ออยู่ต่อหน้ามิคาสะ แม้อีกฝ่ายดูเหมือนจะยังไม่สร่างเมา แต่มิคาสะก็คว้าเสื้อแอนนี่ไว้ก่อนที่เธอจะวิ่งถึงประตู แล้วจับแขนบิดก่อนจะกดเข้าหากำแพง

    “อรุณสวัสดิ์” มิคาสะทัก “ถึงมันจะเป็นเวลากลางคืนก็เถอะนะ”

    “เจ็บ... ” แอนนี่ร้องออกมาเมื่อมิคาสะดึงข้อมือของเธอสูงขึ้น

    “เห...? รู้ด้วยเหรอ...ว่ามันเจ็บน่ะ” มิคาสะกระซิบที่ข้างหูของแอนนี่ ก่อนจะดึงมือแอนนี่ให้สูงขึ้นอีก

    “อึก!” แอนนี่พยายามกัดฟันไม่ส่งเสียงร้องออกมา “ ...ปล่อย..นะ... ”

    “เธอแพ้เดิมพัน” มิคาสะเตือน “จำได้ไหมว่าเธอเคยทำอะไรฉันไว้บ้าง”

    “ฉัน...ไม่ได้แพ้ อึก!” แขนของแอนนี่เหมือนจะหลุดออกจากข้อต่อเมื่อมิคาสะออกแรงเพิ่ม “ขี้โกงนี่”

    “หึ อยากสู้ตัวต่อตัวรึไงถึงจะยุติธรรม” มิคาสะปล่อนแอนนี่เป็นอิสระ ก่อนจะโยนมีดให้แอนนี่เล่มหนึ่ง ในมือของเธอยังมีอีกเล่มหนึ่ง “อยากออกจากห้องนี้ไปก็ผ่านฉันไปให้ได้...แค่นั้นเอง”

    แอนนี่หยิบมีดขึ้นมาด้วยมือซ้าย ขณะที่แขนขวาปวดตุบๆเพราะการจับบิดของมิคาสะเมื่อครู่ ให้ยกขึ้นมาตั้งการ์ดตามปกติยังทำไม่ได้เลย ยุติธรรมซะไม่มีล่ะ แอนนี่มองไปทางประตูทางออกด้านหลังมิคาสะที่ถูกลงกลอนเอาไว้ อย่าหวังเลยว่าจะมีใครบุกห้องพักของมิคาสะ แอคเคอร์แมนเข้ามาโดยบังเอิญตอนนี้

    มีแต่ต้องหนีออกไปเอง

    มิคาสะควงมีดเล่นในมืออย่างไม่ค่อยสนใจว่าแอนนี่จะตอบโต้เมื่อไหร่ แอนนี่จึงถือโอกาสที่มิคาสะประมาทบุกเข้าใส่ก่อน เธอพยายามจะปลดอาวุธมิคาสะด้วยวิชาการต่อสู้มือเปล่า แต่เหมือนอีกฝ่ายตั้งใจรอเธออยู่แล้ว มิคาสะก้าวหลยจากรัศมีวงแขนของแอนนี่ ก่อนจะตวัดมีดกรีดไปบนร่างกายอีกฝ่ายโดยไม่ให้ลึกเกินไป แอนนี่สะดุ้งและถอยออกมา บนหน้าท้องและต้นขาซ้ายของเธอมีรอยกรีดตื้นๆ ไม่สาหัสแต่มันกลับลดความเร็วในการต่อสู้ของเธอลง

    “อ้าว ไม่สู้แล้วเหรอ” มิคาสะถาม หัวเอียงไปทางหนึ่งและเกือบหัวทิ่มเพราะฤทธิ์เหล้า ไม่อยากเชื่อว่าทักษะการต่อสู้ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย “ถ้า..งั้น...ฉันบุกล่ะนะ”

    มิคาสะบุกเข้ามาพร้อมมีดในมือ พยายามจะกรีดไปบนแขนและขาของแอนนี่ แต่เธอหลบได้และใช้มีดตัวเองปัดมีดของอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทาง ทว่ามิคาสะก็จับมือข้างนั้นไว้และชกใส่กรามซ้ายของแอนนี่เต็มแรง แอนนี่ล้มลงไปนั่งพิงอยู่ข้างเตียงขณะที่มิคาสะทรุดตัวลงไปนั่งคร่อมเอาไว้ พลั่ก! แอนนี่ถีบใส่ท้องน้อยของอีกฝ่ายเต็มแรงจนมิคาสะงอตัวเพราะความเจ็บ แอนนี่รีบคลานหนีออกมาจากตัวมิคาสะ แต่แรงแค่นั้นไม่มีทางหยุดอีกฝ่ายได้

    มิคาสะเหวี่ยงแขนฟาดใส่หลังแอนนี่อย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มลงไปนอนคว่ำกับพื้น แอนนี่รีบลุกก่อนมิคาสะจะมาถึงตัว แต่ก็ช้าไป มิคาสะดึงผ้าพันคอของเธอออกมาแล้วมัดแขนทั้งสองข้างของแอนนี่ไพล่หลัง แอนนี่ทั้งดิ้นทั้งกระชาก แต่ก็ไม่สามารถหลุดจากพันธนาการได้ มิคาสะจับหัวแอนนี่ขึ้นก่อนจะจับโขกลงไปกับพื้นห้องที่ปูพรม มิคาสะเดินไปหยิบเศษผ้ามามัดรอบปากแอนนี่ไว้ขณะที่อีกฝ่ายยังมึนเกินกว่าจะสู้แล้วจับแอนนี่โยนขึ้นไปบนเตียง
     

    “อื้อ!? อะอำอะไออ่ะ” แอนนี่หันมามองมิคาสะอย่างระแวงสุดๆ แค่มิคาสะขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงด้วยแอนนี่ก็แทบจะถีบอีกฝ่ายตกเตียงไปอยู่แล้ว พลั่กๆๆๆ มิคาสะพยายามคว้าขาทั้งสองข้างไว้จนได้หลังจากถูกถีบจนแทบกระอัก

    “เล่นแรงนะเนี่ย” มิคาสะกระซิบ มัดขาแอนนี่ไว้ด้วยผ้าคาดเอวของตัวเอง ก่อนจะปีนขึ้นไปคร่อมร่างอีกฝ่ายไว้โดยไม่ทันได้ระวังตัว โป๊ก!!! แอนนี่เอาหัวโขกใส่เธอเต็มแรงจนมิคาสะถอยออกมานั่งคุกเข่า แต่แอนนี่ก็ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ ถีบขาคู่ที่ถูกมัดไว้ใส่มิคาสะจนอีกฝ่ายหงายท้องตกเตียง โครม!! “เจ็บบ... ”

    แอนนี่พยายามแก้มัดตัวเองอย่างยากลำบากขณะที่มิคาสะนอนมึนอยู่บนพื้น แน่นอนว่าไม่ทันการณ์ มิคาสะลุกขึ้นมาพร้อมกับชกคืนที่แอนนี่ถีบเธอไปหลายชุด จนแอนนี่หมดแรงจะดิ้น นอนนิ่งๆอยู่บนเตียง

    “เฮ้ อย่าเพิ่งสลบไปก่อนสิ” มิคาสะจับหัวของแอนนี่ให้หันมาทางเธอ “เรื่องสนุกมันหลังจากนี้ต่างหาก”

    มิคาสะเอามีดกรีดขึ้นมาตามต้นขาพลางเอานิ้วฉีกแผลที่ต้นขาซ้ายของอีกฝ่ายเล่น แอนนี่พยายามดิ้นหนีทั้งๆที่ไม่เหลือแรง กรีดร้องแต่แทบไม่มีเสียง มิคาสะเงยหน้าขึ้นมาประจันหน้ากับแอนนี่ที่นอนน้ำตาคลอเบ้าพลางฉีกยิ้มด้วยความสะใจ แอนนี่พยายามหันหนีขณะที่มิคาสะก้มลงไปเหมือนจะกระซิบอะไรบางอย่าง แต่เปล่า...มิคาสะก้มลงไปเป่าลมใส่หูแอนนี่ เล่นเอาแอนนี่ร้องครางออกมาและพยายามหลบจนแทบจะตกเตียง

    มิคาสะดึงตัวแอนนี่กลับมาตรงกลางเตียง ก่อนอีกฝ่ายจะร่วงไปจูบพื้นพรม แอนนี่ซึ่งหมดแรงจะขัดขืนก็ได้แต่หันหน้าหนีเพียงเท่านั้น มิคาสะมองอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจก่อนจะก้มลงไปใกล้ๆหูของแอนนี่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอกัดใส่ใบหูอีกฝ่ายเต็มแรงจนแอนนี่รีบหันกลับมา เพื่อให้มิคาสะปล่อยหูเธอไป

    “อร่อยดีนะ” มิคาสะพูด แลบลิ้นเลียมุมปากที่มีเลือดจากใบหูของแอนนี่เปรอะติดมา

    “ยัย...โรคจิต... ” แอนนี่ดิ้นจนผ้ามัดปากหลุดไปอยู่ที่คาง เธอพูดออกมาทั้งๆที่แทบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว

    “แล้วฉันต่างจากเธอตรงไหนล่ะ” มิคาสะพูด เมื่อตอนที่พวกเธอยังอยู่ที่สนามประลองแห่งเดิม แอนนี่ก็ทำมิคาสะไว้เจ็บแสบไม่ใช่ย่อย ทั้งเฆี่ยนจนเนื้อช้ำ ทั้งเล่นสนุกอะไรอีกสารพัด จะมาว่าเธอโรคจิตคนเดียวได้ที่ไหน ยิ่งปลอกคอที่แอนนี่เอามาใส่ให้มิคาสะจนป่านนี้ยังเอาออกไม่ได้เลย เพราะกุญแจนั้นได้หายไปในระหว่างการหลบหนีของพวกเธอ

    มิคาสะเขี่ยหน้าแอนนี่เล่น เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบโต้ เธอก็ก้มลงไปกัดต้นคอขาวของอีกฝ่ายราวกับสัตว์ป่ากระหายเลือด แอนนี่ร้องเจ็บและพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีผลทั้งนั้น เมื่อคนที่อยู่ต่อหน้าเธอคือมิคาสะ แอคเคอร์แมนคนนี้ มิคาสะขบเขี้ยวลงบนผิวขาวๆนั้นจนกลายเป็นแผลแดงเรียกเลือดให้ไหลเปรอะไปทั่ว

    แอนนี่เลิกคิดที่จะขัดขืน แต่มิคาสะไม่มีท่าทีว่าจะยอมหยุด จนถึงวันพรุ่งนี้แผลพวกนี้ก็ไม่เหลือแล้วเพราะความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองของแอนนี่ อาจจะไม่มีใครสงสัยด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น และถ้าหากเอาไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่จะว่าไปเรื่องแบบนี้มันไม่น่าเล่าที่สุดเลย นี่แอนนี่จะต้องเจอมิคาสะแบบนี้ทุกวันเลยรึเปล่าเนี่ย

    สติของแอนนี่เลือนรางลงไปทุกที แต่ก็ไม่ยอมสลบไปสักทีทั้งๆที่เจ้าตัวอยากจะไม่ต้องจดจำเรื่องพวกนี้อีกต่อไปแท้ๆ ดูเหมือนมิคาสะก็มองออกว่าแอนนี่กำลังจะหลับไปซะก่อน เธอจึงลุกไปหยิบอาหารที่ฝากไรเนอร์ซื้อมา เปิดกล่องและยื่นอาหารหน้าตาแปลกๆแต่แอนนี่รู้จักมันอย่างดี ทั้งวาซาบิกับเม็ดพริกหลากสีนั้นด้วย ทำไมจะไม่รู้จักล่ะในเมื่อเธอเป็นคนเอาอาหารพวกนี้ไปแกล้งมิคาสะในงานเลี้ยง เสียแต่ว่าครั้งนี้มันไม่มีอย่างอื่นมาให้กินแก้เผ็ดนี่สิ

    “อ้าปาก” มิคาสะสั่ง

    “...........” แอนนี่หุบปากสนิท

    “ไม่ยอมกินใช่ไหม” มิคาสะก้มหน้ามาใกล้ๆ ซึ่งสำหรับแอนนี่แล้ว มันเหมือนหายนะมาเยือน แอนนี่หันหน้าหนี แต่มิคาสะก็จับหน้าแอนนี่ให้หันกลับมา

    “อื้อ?!!!” แอนนี่ได้แต่ส่งเสียงประท้วงในลำคอ เมื่อริมฝีปากถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย ยิ่งดิ้นประท้วงเมื่อรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างแทรกเข้ามาในปาก

    กึด! แอนนี่กัดใส่ลิ้นของมิคาสะเต็มแรงจนรู้สึกได้ถึงรสเลือด แต่มิคาสะเพียงแค่ขมวดคิ้ว ทว่าไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไป แอนนี่ทั้งดิ้นทั้งถีบเพราะขาดอากาศ มิคาสะจึงปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระอย่างเสียดายนิดๆ แอนนี่รีบอ้าปากสูดหายใน แต่ก็แทบสำลักเมื่อมิคาสะยัดก้อนวาซาบิใส่ปากและปิดปากเธอไว้ไม่ให้คาย

    อึก...แอนนี่กลืนวาซาบิลงคอไปอย่างยากลำบาก ฉุนกึกและตื่นเต็มตาในทันที “แค่กๆๆ”

    “ดี ไม่ง่วงแล้วใช่ไหม” มิคาสะถาม

    แอนนี่นอนนิ่งไว้อาลัยตัวเอง 3 วิฯ ...ดูเหมือนค่ำคืนนี้มันจะไม่จบลงได้ง่ายๆซะแล้ว

     

    เสียงนกร้องดังขับขานบ่งบอกถึงเช้าวันใหม่ มิคาสะลืมตาตื่นขึ้นภายในห้องของตัวเองตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอต่างหาก แอนนี่ดูเหมือนจะตื่นก่อนมิคาสะนานแล้ว แต่หนีไปไหนไม่ได้เพราะถูกมัดเอาไว้ มิคาสะมองภาพตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะรีบแก้มัดแอนนี่ให้

    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” มิคาสะมองสภาพเสื้อผ้าอีกฝ่ายที่มีเลือดแห้งเปรอะไปทั่ว แม้แต่เตียงของเธอก็ด้วย แต่ในตัวแอนนี่กลับไม่มีรอยบาดแผลใดๆทั้งสิ้นเพราะความสามารถในกรฟื้นตัวของเธอ

    “มิคาสะ... ” แอนนี่ก้มหน้า มือลูบข้อเท้าและข้อมือที่ถูกมัดแน่นเป็นเวลานาน

    “ฮื้อ?”

    “เตรียมใจไว้แล้วใช่ไหม....” แอนนี่พูด

    “???” มิคาสะได้แต่นั่งงง เพราะฤทธิ์เหล้าทำให้ภาพเหตุการณ์ที่เธอทำกับแอนนี่ไว้เมื่อคืนจึงไม่ได้หลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเธอเลยแม้แต่น้อย สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือไรเนอร์ชวนไปฉลองวันหยุด ตอนนี้มิคาสะจึงหารู้ไม่ว่าบทลงทัณฑ์กำลังมาเยือนเธอแล้วในไม่ช้านี้

     

    “อรุณสวัสดิ์แอนนี่” ไรเนอร์ทักทาย แต่แอนนี่เดินผ่านเขาไปเฉยๆ จนเธอไปไกลแล้วเพิ่งจะสังเกตว่าชุดที่แอนนี่ใส่ไม่ใช่ชุดเดิมแต่เป็นเครื่องแบบสำรองของมิคาสะที่มีตราของทีมสำรวจ

    “เอ่อ...ไรเนอร์” เสียงมิคาสะเรียกจากมุมที่เป็นสวนริมหน้าผา ไรเนอร์ชะโงกหน้าไปดูอย่างไม่ได้เอะใจกับท่าทีของแอนนี่จนได้เห็นตัวมิคาสะ “ช่วยหน่อยสิ”

    “..........”
     

    ********************************************************************************
     

    >>>หลังฉาก<<<

    มิคาสะ : ทำไมฉันไปอยู่ท่านั้นได้ล่ะ //จำไม่ได้สักนิดว่าไปทำอะไรไว้
    ไรท์เตอร์ : ไม่รู้สิ
    แอนนี่ : สมน้ำหน้า //พูดลอยๆ
    ไรท์เตอร์ : เรื่องนี้ไรท์จะไม่ยุ่ง //เดินหนี
    มิคาสะ : ปล่อยฉันลง
    ไรเนอร์ : รอเดี๋ยว
    แอนนี่ : ห้ามปล่อย!
    ไรเนอร์ : เอ่อ...
    มิคาสะ : ปล่อยฉันลง!!
    แอนนี่ : ไรเนอร์...! ห้ามปล่อย...
    มิคาสะ : บอกให้ปล่อย!!
    ไรเนอร์ : ไรท์คร้าบบบ ผมจะทำยังไงดี
    ไรท์เตอร์ : //ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

    แอนนี่ : ทำไมต้องวาซาบิ //หักนิ้วดังกร๊อบๆ
    ไรท์เตอร์ : เอ่อ... เพื่อความฮาของไรท์น่ะ //เหงื่อตก
    แอนนี่ : เหรอ... //จ้องแบบโกรธสุดๆ
    ไรท์เตอร์ : จ๊ะ... //เผ่น
    แอนนี่ : //ลากคอไรท์กลับมากระทืบทิ้ง
    ไรท์เตอร์ : เอื้อ!!! ฝากลูกเมียข้าด้วย!!! //นอนตายคากองเลือด

    อาร์มิน : ไปกับผมเถอะนะไรท์ //มาในร่างวิญญาณล่องลอย
    ไรท์เตอร์ : ไม่ดีกว่า //กลับเข้าร่าง
    แอนนี่ : ตายยากสินะ
    ไรท์เตอร์ : โน่ววววว!!!! //หนีไปหลบหลังรีดเดอร์ ช่วยไรท์เตอร์ด้วย!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×