คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 นักโทษ
ตอนที่ 2 นักโทษ
มิคาสะถูกซัดตกจากหลังม้า โชคดีเท่าไหร่แล้วที่พวกไททันเอาแต่วิ่งไล่ตามแอนนี่ พวกมันวิ่งไปจนกระทั่งถึงตีนหน้าผาสูงชัน แอนนี่ปีนขึ้นไปด้วยนิ้วมือที่แข็งแกร่งกว่าเพชร ไม่นานพวกไททันวิปริตก็ถูกทิ้งไว้เบื้องล่าง และก็คงอีกไม่นานที่ไททันพวกนั้นจะหันมาเห็นมิคาสะ เธอซ่อนอยู่ระหว่างพุ่มไม้กับซากสิ่งก่อสร้าง
สิ่งก่อสร้าง?!
มิคาสะมองดูร่องรอยสิ่งก่อสร้างที่ดูคล้ายป้อมปราการเก่า และมองดูหน้าผาสูงอีกครั้ง นี่ไม่ใช่หน้าผา...มันคือกำแพงมาเรียส่วนที่ยังคงตั้งตระหง่านสูงขึ้นไปท้าทายท้องฟ้าสีเทาทมึฬ เมฆฝนเริ่มลอยเข้ามาปกคลุมเหมือนฟ้าเป็นใจ ยามที่ฟ้ามืดแสง เหล่าไททันจะเคลื่อนไหวช้าลง แม้จะไม่ใช่ทุกตัวที่อ้างอิงกับทฤษฎีของหัวหน้าหมู่ฮันซี่ได้ แต่อย่างน้อยในครั้งนี้มิคาสะก็โชคดี ไททันวิปริตเริ่มเชื่องช้าลงและเลิกพยายามที่จะปีนกำแพง พวกมันเพียงแค่ยืนรอ
มิคาสะมองไปรอบๆ ไม่ไกลนักมีรอยร้าวบนกำแพงมาเรีย ดูเหมือนเป็นที่พักอาศัยของสัตว์ป่าจำพวกชอบอาศัยในถ้ำอย่างหมีหรือเสือ เธอวิ่งเข้าไปในนั้นโดยเร็ว ไม่มีไททันตัวไหนเห็นเธอวิ่งผ่านไป และอย่างที่คาด รอยร้าวบนกำแพงมาเรียถูกหมีสีดำร่างใหญ่นอนจองพื้นที่ไว้เกือบจะปิดทางมิด มันหลับสนิท มิคาสะเดินต่อไปโดยไม่สนใจ รอยร้าวนี้ดูเหมือนจะทะลุไปอีกฝั่งของกำแพงได้เลย ติดที่ว่ามันแคบและเตี๊ยจนต้องคลานออกไป
“ฮื่อ... ” หมีดำละเมอพลิกตัวหงาย คราวนี้ทางออกถูกปิดจนมิด
ด้านหลังเป็นไททันขี้เซา ด้านหน้าเป็นหมีดำ มิคาสะไม่ยอมปล่อยแอนนี่ไปง่ายขนาดนั้น เธอพยายามแทรกตัวผ่านขนนุ่มนิ่มของเจ้าหมีนั้นไปให้เงียบและเบาที่สุด
“โฮกกก!!” มิคาสะเหยียบลงบนหางเล็กๆของมันพอดี เธอถอนหายใจ ก่อนจะไหวตัวหลบกรงเล็บทั้งสองข้างของมัน มันตะปบอีกครั้ง เธอก็หลบไปใต้วงแขนแล้วล็อกคอมันจากด้านหลัง
กร๊อก! คอของหมีบิดไปข้างหนึ่ง แน่นิ่ง ไม่ลุกขึ้นอีก มิคาสะเดินออกจากรอยร้าวของกำแพงไป จะไม่มีอะไรมาหยุดเธอได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นไททันหญิงหรือกองทัพไททันวิปริต
ตู้ม!!!!!! พื้นดินไหวสะเทือนเลื่อนลั่น ร่างของมิคาสะถูกแรงกระแทกให้ลอยขึ้นจากพื้นในจังหวะที่ร่างไททันหญิงของแอนนี่พุ่งจากด้านบนกำแพงมาเรียลงสู่พื้น มิคาสะนอนอยู่กับพื้นเพราะจุกกับแรงกระแทกนั้น ขณะที่ร่างของไททันหญิงค่อยๆกลายเป็นไอสีขาวฟุ้งกระจายไปทั่วจนบริเวณนั้นเหมือนถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา
“แอนนี่...เธออยู่ไหนนน” มิคาสะกัดฟันด้วยความโกรธ มือขวากำดาบคัตเตอร์ไว้แน่น แต่มือซ้ายกำมือจนเล็บจะจิกเนื้อตัวเองเป็นแผลเลือดออกอยู่รอมร่อ เธอพยายามมองหาในหมอกควันพวกนั้น แต่ก็หาไม่พบจนกระทั่งหมอกจาง มิคาสะก็เห็นแอนนี่กำลังจะปีนขึ้นหลังม้าสีขาวตัวใหญ่
มิคาสะพุ่งเข้าใส่ในทันที ก่อนที่แอนนี่จะทันได้ควบม้าออกไป มิคาสะกระโจนจากโขดหินใหญ่โขดหนึ่ง ฟันดาบในมือใส่ในตำแหน่งท้ายทอยอย่างที่เธอเคยทำกับท้ายทอยของไททันมานับร้อย
หัวของเอจะต้องหลุดจากบ่า!!!
เช้ง! ในการฝึกทหารไม่มีการฝึกฟันดาบ แต่ในนาทีนี้แอนนี่จำต้องปรับวิชาทั้งหมดที่มีมาใช้ ดาบประดาบ ร่างแอนนี่ร่วงตกจากหลังม้า ข้อเท้ากระแทกพื้นหินแข็ง ขณะเดียวกับที่มิคาสะกระโจนเข้ามา มือหนึ่งถือก้อนหินฟาดใส่ศีรษะแอนนี่เข้าจังๆจนเลือดไหนอาบ ดาบในมือขวาก็แทงซ้ำลงมา แอนนี่ปล่อยฮุกขวาสวนไปซัดมิคาสะล้มกลิ้งไปบนทางลาดของเนินหิน แอนนี่ลุกขึ้นได้แล้วแม้จะปวดหัวจะเป็นจะตาย
มิคาสะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ดาบของเธอตกอยู่ที่ขาของแอนนี่ ขณะที่แอนนี่มีอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติอยู่กับตัว ทั้งดาบใหม่คมกริบสองเล่ม ทั้งใบมีดพร้อมเปลี่ยน เธอไปเอาของพวกนี้มาจากไหนกัน?!
“ตายยากนะ” แอนนี่พูดหน้าตาย พยายามกลั้นความรู้สึกปวดหัวเอาไว้ “เอเลนไปไหนซะล่ะ”
“เธอเหยียบเขา! เธอเหยียบเขาตายคาเท้าของเธอ!!!” มิคาสะคำรามด้วยความโกรธ เธออยากพุ่งเข้าไปหักคอของแอนนี่เสียเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ติดปลายดาบคมกริบที่ชี้จ่อมาทางเธอ
“อ้าวเหรอ” แอนนี่แสดงท่าทางแปลกใจนิดหน่อย แต่ไม่นานก็กลับสู่โหมดปกติ
“กรอดด..ด... ” มิคาสะส่งเสียงรอดไรฟัน แอนนี่ไม่รู้สึกผิดสักนิด
“ช่างเถอะ เขาไม่จำเป็นกับเราแล้ว” แอนนี่บอก
“เป็นไปได้ด้วยเหรอ... ”
“???” แอนนี่มองมิคาสะอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ถ้าแอนนี่เก่งที่สุดเรื่องการต่อสู้มือเปล่า นั่นก็เพราะเธอกับมิคาสะไม่เคยประมือกันตรงๆ มีแค่พวกเพื่อนๆทหารฝึกหัดพยายามเทียบพวกเธอจากจินตนาการเท่านั้น
“เป็นไปได้เหรอที่เธอจะไม่มองทางที่เธอวิ่งผ่าน” มิคาสะจ้องตอบด้วยแววตาของนักล่า แน่นอนว่าเหยื่อคือแอนนี่ มิคาสะก้าวเข้ามาโดยไม่กลัวคมดาบ มิคาสะก้าวรุก แค่ชั่วครู่ที่แอนนี่เผลอจ้องดวงตาคู่นั้น เธอกลัวมัน ขาซ้ายก้าวถอยไปครึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ “เธอหนีอะไรมา... เธอกลัวอะไร... ”
“..........” แอนนี่เงียบ ชั่ววินาทีหนึ่งเธอเผลอหลบสายตาคู่นั้นของมิคาสะ
“ฉันไม่อยากรู้หรอก” มิคาสะอาศัยจังหวะนั้นเตะสูงใส่โคนของคมมีดดาบของแอนนี่จนดาบนั้นหักจากด้าม แอนนี่ตอบสนองต่ออันตรายทันที ฟันดาบอีกเล่มใส่ตำแหน่งศีรษะ แต่มิคาสะก้มต่ำโผเข้ามาคว้าคอเสื้อกับข้อมือที่ยังมีดาบไว้ เธอกระชากแอนนี่ล้มคว่ำ ก่อนจะพยายามดึงแขนแอนนี่มาข้างหลังให้หักในครั้งเดียว
แต่อาวุธของแอนนี่ไม่ได้มีแค่ดาบ เธอบิดตัวตามแรงที่แขนหันอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติมาทางมิคาสะ และยิง? ฟ้าว! ฉัวะ! มิคาสะเบี่ยงตัวหลบในวินาทีสุดท้าย ทว่าคมฟันเลื่อยของตัวเชือกก็พุ่งเฉือนสีข้างของเธอไปเป็นแผลลึกไม่เบา แอนนี่สลัดการจับกุมจนหลุด กระแทกข้อศอกเข้าที่ใต้คางแล้วถอยมาตั้งหลัก
“ฉันชนะด้วยมือเปล่ายังได้เลย” แอนนี่บอก ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายได้เปรียบ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ แต่ถือว่าโชคเข้าข้างมิคาสะ เธอลุกขึ้นยืนในท่าเตรียมต่อสู้ ไม่มีอาการบ่งบอกถึงการบาดเจ็บ ราวกับแผลที่สีข้างนั้นไม่มีอยู่จริง
“แล้วเธอจะเสียใจ” มิคาสะพุ่งเข้าใส่ด้วยท่าเตะตัดขา หลายครั้งที่เธอเห็นแอนนี่ใช้ท่านี้จัดการกับคนที่ตัวโตกว่า เหมือนมิคาสะอยากลองของ เธอตัวใหญ่กว่าแอนนี่ ฉะนั้นแอนนี่ก็ต้องใช้ท่าเดียวกันเพื่อจัดการเธอ
วืด! มิคาสะก้มหลบทันที เพราะแทนที่แอนนี่จะเตะตัดขาสวนมา เธอกลับกระโดดขึ้นแล้วเตะตำแหน่งศีรษะ ทันทีที่แอนนี่เหยียบถึงพื้น เธอหมุนตัวอีกครั้งและเตะตัดขา จับมิคาสะเหวี่ยงคว่ำเอาหัวกระแทกพื้น
“ไม่เห็นเสียใจเลย” แอนนี่ตอบ ก่อนจะซัดหมัดใส่มิคาสะ แต่มีเหรอที่มิคาสะจะแพ้ง่ายๆ เธอดีดตัวลุกขึ้น ถีบเท้าคู่ใส่ท้องของแอนนี่จนอีกฝ่ายหงายหลัง ไม่รอให้แอนนี่ลุก มิคาสะกระโจนขึ้นคร่อมแล้วชกคืนบ้าง แอนนี่ได้แต่ปัดป้องหมัดของอีกฝ่ายโดยไม่มีทางหนี มิคาสะตัวหนักเกินไป เธอผลักอีกฝ่ายออกไปไม่ได้
พลั่ก! มิคาสะล้มลงทับแอนนี่เหมือนหุ่นกระบอกถูกตัดสาย แอนนี่ดันเธอออกไปข้างๆ
“เห็นว่าช้า เลยมาตาม” ไรเนอร์บอก เขายืนอยู่ด้านหลังมิคาสะสักพักแล้ว แต่มิคาสะไม่รู้ตัวเพราะความโมโหบังตา เอาแต่จะอัดแอนนี่ให้ตายด้วยมือเปล่า
“โหย...เยิน” เบลทรูทพูดเบาๆ กลัวแอนนี่จะได้ยิน ซึ่งที่จริงเธอได้ยิน แต่ไม่ได้สนใจ มองร่างมิคาสะที่สลบอยู่ข้างๆ แม้แต่ตอนสลบ สีหน้าอีกฝ่ายยังคงมีคราบของปีศาจที่บ้าคลั่งอยู่
“เอาไงกับเธอล่ะ” ไรเนอร์เอาเท้าเขี่ยขามิคาสะอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าอีกฝ่ายสลบจริงรึเปล่า
ผัวะ! พลั่ก! กลับเป็นแอนนี่ที่ลุกขึ้นมาแล้วซัดไรเนอร์จนคว่ำ
“ฉันทำอะไรผิด” ไรเนอร์พูด เบลทรูทส่ายหน้าไม่รู้อย่างกลัวๆ นานๆครั้งจะเจอเวลาแอนนี่อารมณ์แปลปรวน
“พากลับไปด้วย” แอนนี่ตอบ หยิบเชื่อจากกระเป๋าสัมพาระบนหลังม้ามามัดมือมัดเท้ามิคาสะไว้ก่อน เพราะถ้าเธอตื่นมาตอนยังอยู่บนหลังม้าโดยไม่มัดไว้ นั่นหมายถึงคราวชะตาขาดของคนขี่
“เอาจริง?” ไรเนอร์พยายามลุกจากท่าหัวทุ่มดิน “หัวหน้าต้องไม่ชอบแน่ๆ”
“อย่าให้รู้สิ” แอนนี่ตอบ แล้วพยายามแบกมิคาสะขึ้นม้า ซึ่งยากเกินไปเพราะอีกฝ่ายหนักไม่ใช่เล่น จนไรเนอร์ต้องเข้ามาช่วย ทั้งสามคนขึ้นม้า มิคาสะถูกมัดไว้กับม้าสีขาวของแอนนี่
ทั้งสามคนไม่ยอมใช้พลังของไททันด้วยเหตุผลบางประการ หลังจากเบลทรูทปฐมพยาบาลแผลที่หัวให้แอนนี่แล้ว ม้าของทั้งสามคนมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ เลียบกำแพงชั้นในของกำแพงมาเรียไปเรื่อยๆจนกระทั่งพลบค่ำ พวกเขาก็หยุดพักกันในหมู่บ้านร้าง ซากส่วนใหญ่พังทลายลงเพราะไททันมากกว่าเสื่อมตามกาลเวลา ไรเนอร์ขี่ม้าลาดตระเวณรอบๆจนแน่ใจว่าไม่มีไททันอื่นแถวนี้ เบลทรูทเข้าไปสำรวจในหมู่บ้าน หาที่พักใต้หลังคา ส่วนแอนนี่ไปเอาสัมพาระลงจากหลังม้า กระเป๋าหกใบกับคนหนึ่งคน เธอมองสัมพาระอย่างสุดท้ายอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
มิคาสะยังไม่ตื่น...?
แอนนี่วางกระเป๋าลงแล้วแก้เชื่อที่มัดมิคาสะไว้กับม้า... กึด! แอนนี่สะบัดมือถอดออกห่างทันที มือซ้ายของเธอเลือดอาบเพราะเขี้ยวของมิคาสะ ดูเหมือนเธอตื่นอยู่นานแล้วและรู้ตัวว่าถูกมัดจึงนิ่งไว้แล้วรอโอกาส มิคาสะดันตัวลงจากหลังม้า มือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลัง แต่ขาไม่ได้ถูกมัดด้วย แอนนี่นึกโทษความสับเพร่าของตัวเอง
ต่างฝ่ายต่างยืนจ้องหน้ากันในความมืด
แอนนี่เดินเข้าหาก่อนช้าๆ ส่วนมิคาสะที่พยายามแก้เชือกกอยู่ก็หยุด หันมาระวังเท้าของอีกฝ่าย แอนนี่ถนัดการต่อสู้มือเปล่า และทุกคนรู้ว่าเธอมักจะออกลูกเตะก่อนเสมอ
ไม่ใช่ครั้งนี้
แอนนี่รู้ว่ามิคาสะระวังอะไร เธอปล่อยหมัดเข้าที่ท้อง มิคาสะถอยหลบแล้วเตะใส่ต้นแขนเธออย่างแรง ตามด้วยพุ่งเข้าใส่ เอาตัวกระแทกซี่โครง แอนนี่หลบออกข้าง ทำให้อีกฝ่ายเสียหลัก เธอคว้าเชือกที่มัดมือมิคาสะแล้วจับกระแทกพื้น
“ยอมรับเถอะมิคาสะ” แอนนี่กระซิบที่ข้างหู “ครั้งนี้เธอแพ้”
“กรอดด..ด... ” มิคาสะแม้ไม่อยากยอมรับก็ตาม แอนนี่พูดถูก เธอแพ้แล้ว ไม่มีโอกาสสักนิด แอนนี่ลากเธอเข้าไปในกระท่อมร้างที่เบลทรูทเลือกไว้พักพร้อมกระเป๋าสัมพาระสองใบ ส่งตัวมิคาสะให้เบลทรูทที่ทำท่ากลัวๆมัดขามิคาสะเพิ่มอีก ก่อนที่แอนนี่จะเดินเข้าเดินออกขนกระเป๋ากับไรเนอร์
ในรอบสุดท้ายแอนนี่เดินออกไป และไม่กลับเข้ามา...
ความคิดเห็น