ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aevenhilde โรงเรียนแห่งตัวตน [ Fantasy ::: Yuri ]

    ลำดับตอนที่ #12 : บทคั่น 1 ราตรีมอดไหม้แห่งกาเมซัน

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 65


    บทคั่น 1 ราตรีมอดไหม้แห่งกาเมซัน

     

    15 ปีก่อน ต้นปีเทรเซนศักราช 5389 ::: ปราสาทกาเมซัน

    ขอเทพีลีฟโปรดประทานพรแห่งความรักแด่คู่หนุ่มสาว ผู้ถูกชักนำมาโดยสายใยแห่งพระองค์คำกล่าวของนักบวชเทรเซนก้องกังวานในโถงศักดิ์สิทธิ์ของวิหาร ซึ่งถูกสร้างติดกับปราสาทโบราณอายุนับพัน ๆ ปี

    ผู้คนมากหน้าหลายตามารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ราชาไรแอตและราชินีพรอนเดส

    ตัวข้า คาฟาร์ เอไรออส เจ้าหญิงแห่งเฮรอนน่า... จะเป็นดั่งโล่ของเจ้า ปกปักคุ้มครองตราบเท่าชีวาวายเด็กสาวผู้มีผมสีดำสนิทและดวงตาสีบุษราคัมเอ่ยคำสาบานต่อหน้ารูปสลักทวยเทพทั้ง 8 องค์

    ทว่าฝั่งเด็กหนุ่มกลับนิ่งเงียบ สายตาเหม่อมองไปยังใครบางคน ซึ่งเฝ้าดูการอภิเษกอันยิ่งใหญ่นี้จากบนระเบียงชั้นบน แอบอยู่เบื้องหลังวงนักร้องประสานเสียง

    ใครคนนั้น เด็กสาวผู้ถูกขนานนามว่านางพญาผมขาวและเพชรเม็ดงามแห่งแดนเหมันต์ เธอกำลังพยายามรั้งตัวเด็กชายผู้พยายามปีนราวระเบียงตามวัยที่ซุกซนเอาไว้ แม้ว่าตนจะกำลังตั้งครรภ์

    เด็กทั้งสองคนนั้น... คือลูกของเขา

    โรแวงคาฟาร์ส่งเสียงกระซิบ เรียกสติคู่หมั้นให้กลับมาสู่การปฏิญาณ โรแวงมองไปรอบ ๆ ผู้คนมากมายรอฟังคำสาบานของเขาอยู่ โดยเฉพาะองค์ราชา...

    ผู้เป็นคนบีบบังคับให้การคลุมถุงชนนี้เกิดขึ้น

    โรแวงเป็นถึงดยุก ในขณะที่สตรีผู้เป็นที่รักของเขานั้นเป็นเพียงสามัญชน ในทีแรกการแต่งงานระหว่างเขากับเธอถูกล่มทันทีที่ข่าวการตายของพี่ชายถูกส่งมาจากสนามรบ เขาถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นดยุกแทนและถีบหัวส่งเข้าสู่สงครามระหว่างคนเป็นและคนตายทันที ได้แต่หวังว่าเมื่อมันสิ้นสุดแล้ว เขาจะได้กลับมาแต่งงานกับเธอผู้เป็นที่รัก

    ทว่ามันกลับถูกทำลายอีกครั้งด้วยการคลุมถุงชนนี้

    ลอร์ดโรแวงสบตากับราชินีพรอนเดสอย่างขอร้อง เขาไม่เคยต้องการเกียรตินี้ มันกำลังทำลายชีวิตรักของเขา

    โรแวง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้รักข้า ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าและจะไม่มีวันรักกัน แต่เจ้าต้องเอ่ยคำสาบานตอนนี้คาฟาร์กระซิบอีกครั้ง แล้วหลังจากนี้ข้าจะไม่รั้งเจ้าอีกเลย

    ลอร์ดโรแวงพยักหน้าอย่างจำใจ

    ตัวข้าโรแวง แวนธีส ดยุกแห่งกาเมซัน... จะเป็นดั่งดาบของเจ้า กำจัดศัตรูร้ายตราบเท่าชีวาวายเด็กหนุ่มผู้มีผมสีเทาเข้มและดวงตาสีไพลินเอ่ยคำสาบานของตนในที่สุด

    +++

    ท่านทำอย่างนี้กับข้าได้ยังไง?!” เด็กสาวผมขาวพุ่งเข้ามาหาลอร์ดโรแวงทันทีที่พิธีสิ้นสุด ขวางระหว่างทางที่คู่ข้าวใหม่ปลามันจะต้องกลับไปยังเรือนหอ

    เฮเลน! ใจเย็นก่อน! ฟังข้าก่อน!” ลอร์ดโรแวงพยายามควบคุมอารมณ์ของคนรัก ในขณะที่เจ้าหญิงคาฟาร์ยืนนิ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่ยกมือห้ามไม่ให้พวกทหารยามมาลากตัวเด็กสาวผู้ใจสลายไป

    ข้าอุ้มท้องลูกของเจ้าอยู่ โรแวง! ลูกของเจ้า! เจ้ากล้าแต่งกับนางทั้ง ๆ ที่ข้าอุ้มท้องลูกของเจ้าอยู่ได้ยังไง?!” เสียงกรีดร้องของผู้เป็นแม่ทำให้เด็กชายเริ่มหวาดกลัว เมอดอร์น้อยจ้องมองเจ้าหญิงคาฟาร์ไม่วางตา เขายังเด็ก แต่ก็โตพอจะเข้าใจว่าสตรีผู้นี้กำลังทำลายครอบครัวของเขา

    มันเป็นแค่การสร้างภาพเท่านั้น เฮเลนคาฟาร์เอ่ยออกมาในที่สุด หลังจากที่เธอไล่คนรับใช้และยามออกไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงองครักษ์ผิวเข้มคนเดียว

    อย่าริอ่านมาเรียกชื่อข้าสามัญชนผู้โกรธแค้นยกนิ้วชี้หน้าเชื้อพระวงศ์อย่างไม่กลัวนิ้วขาด เธออาจมีฐานันดรต่ำ แต่เธอก็เป็นศิษย์เก่าเอเวนไฮด์เช่นเดียวกับอีกฝ่าย เวทมนตร์ต่างหากที่จะตัดสินว่าใครอยู่เหนือกว่าใคร

    พวกเจ้ากำลังอยู่ในสงคราม กำลังพลของเจ้าไม่เพียงพอจะสู้กับคนตาย ส่วนข้ามีกำลังทหาร เจ้าก็น่าจะรู้ดี พวกเจ้าคือคนที่ถูกส่งเข้าไปเสี่ยงตายในสมรภูมิคาฟาร์เอ่ย ยิ่งมีคนน้อยก็ยิ่งเสี่ยงมากมิใช่รึ

    ใช่ เฮเลนรู้ เธอรู้ว่าราชวงศ์เอไรออสมีกองทัพพิเศษกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกที่พร้อมกลับมารับคำสั่งอยู่ตลอดเวลา แต่อาณาจักรเฮรอนน่าของพวกเขาล่มสลายไปนานแล้ว ราชาแห่งเอเวนเดรียจึงกลัวว่าเมื่อจบสงครามกับคนตาย พวกเขาอาจต้องปะทะกับกองทัพไร้แผ่นดินพวกนี้ต่อ

    การอภิเษกนี้จึงมีเพื่อลบความหวาดกลัวนั้น

    แค่คืนนี้ เฮเลน แล้วข้าจะกลับมาอยู่กับเจ้าลอร์ดโรแวงให้คำสัญญา และเกลี้ยกล่อมเฮเลนจนยอมเชื่อ

    เขาไม่รู้เลย... ว่ามันจะกลายเป็นคำโกหกที่เลวร้ายที่สุด

    +++

    ในรุ่งเช้าวันต่อมา เจ้าหญิงคาฟาร์ถูกลักพาตัวโดยพ่อมดชั่วร้ายกันติเนล ชากอล ผู้หันหลังให้กับเหล่าสิ่งมีชีวิตและข้ามไปเข้าฝ่ายกับพวกคนตาย

    ด้วยแรงกดดันจากราชินีพรอนเดส ลอร์ดโรแวงจึงต้องนำหน่วยไวท์วูฟ กองกำลังองครักษ์ส่วนตัวออกตามหาคู่สมรสของตน โดยทิ้งเฮเลนกับลูกไว้ที่ปราสาท

    การตามสะกดรอยนี้กินเวลาหลายเดือน รุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตของเหล่าคนตายในป่าวงกต สูญเสียนักล่าไปหลายคนจากการปะทะกับพวกโกเลม ซึ่งเป็นข้ารับใช้เวทมนตร์ของพวกจอมเวททั้งหลายที่หันไปเข้าฝ่ายคนตาย มันไม่ได้มีเพียงกันติเนลเท่านั้นที่ย้ายข้าง แต่มีเพียงเขาที่เป็นศัตรูอันตรายที่สุดเพราะเชี่ยวชาญมนต์ดำและคำสาปอันน่าสะพรึง

    ในที่สุดพวกเขาก็พบที่ซ่อนของเจ้าหญิงคาฟาร์ เธอถูกวางไว้บนแท่นบูชายัญในพิธีกรรมซึ่งดำเนินมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ก่อนที่พิธีประหลาดนั้นจะสิ้นสุดลง

    ลอร์ดโรแวงก็ทำลายหนึ่งในเสาพิธีลง เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาไม่ใช่ผู้ใช้เวทมนตร์ เพียงแต่เชื่อว่าการทำลายวงเวทจะหยุดพิธีทั้งหมดได้

    ทว่ามันกลับกลายเป็นหายนะ มนต์ดำและคำสาปมากมายในเสาเหล่านั้นแตกกระจายออกมา และสังหารเหล่าผู้ทำพิธีไปหลายคน รวมทั้งหน่วยองครักษ์ของลอร์ดโรแวงทั้งหมดด้วย แท่นบูชายัญแห่งนั้นถูกคำสาปเหล่านั้นกัดกร่อนจนหลอมละลาย ทว่าลอร์ดโรแวงยังมีชีวิตรอด เพราะเขาอยู่ข้างตัวคาฟาร์

    เจ้าหญิงผู้เกิดมาพร้อมเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดออกไป ลอร์ดโรแวงจึงเข้าใจด้วยตัวเองว่าพลังของคาฟาร์หักล้างมนต์ดำอันเป็นอาวุธมหาภัยของฝ่ายคนตายได้ พวกศัตรูจึงต้องการจะทำลายแสงสว่างแห่งความหวังนี้

    คาฟาร์ ได้ยินข้าไหมลอร์ดโรแวงพยายามปลุกอีกฝ่าย เมื่อพวกกันติเนลพากันถอยหนีไปแล้ว คาฟาร์

    ไม่... นี่มันไม่ถูกต้องคาฟาร์ฟื้นขึ้นมาก็พึมพำในสิ่งที่ลอร์ดโรแวงไม่เข้าใจ แต่เขาไม่สนเพราะคิดว่าเธอแค่ตกใจ เขาแค่ต้องพาเธอออกไปจากที่นี่ ทำไมไม่ใช่ข้า...

    +++

    วันที่ 1 เดือนคันชั่ง ปีเทรเซนศักราช 5389

    เมอดอร์อายุ 5 ขวบในวันที่แม่ของเขาตรอมใจตาย

    ในอ้อมแขนของเฮเลนคือทารกแรกเกิดซึ่งกำนิ้วก้อยของพี่ชายไว้นิ่ง หลังจากทารกร้องไห้ไม่หยุดจนหมดแรงหลับไป เมอดอร์รับทารกน้อยมาอุ้มต่อ ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดปรากฏออกมาในวันนั้นจนข้ารับใช้พากันตั้งฉายาเขาว่า เจ้าชายน้ำแข็ง

    เดธิเลียชื่ออันเป็นนามของดอกไม้แห่งความตาย

    เมอดอร์เป็นคนตั้ง เพราะทั้งพ่อและแม่ล้วนไม่อยู่คอยตั้งชื่อให้ทารกน้อยที่นี่ แล้วข้ารับใช้ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำเขา

    ข้าอยู่กับเจ้าแล้ว เดธี่เมอดอร์ขับกล่อม เมื่อยามที่ทารกร่ำไห้เพราะไม่สามารถหาน้ำนมดื่มกิน ก็มีเมอดอร์ที่เลือกหาแม่นมมาให้ ซึ่งเป็นหนึ่งในองครักษ์ที่พึ่งมีลูกไปไม่นาน

    เมอดอร์ยังคงหวังว่าลอร์ดโรแวงจะกลับมาในเร็ววัน แต่ไม่ว่าจะในพิธีศพไปจนถึงการฝังโลงน้ำแข็ง พ่อของเด็กน้อยทั้งสองก็ยังไม่กลับมา

    แล้วเมื่อกลับมา... อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อหมอตำแยบอกว่าเจ้าหญิงคาฟาร์กำลังจะมีพระธิดา

    เมอดอร์รู้ได้ทันที... เด็กคนนั้นกำลังจะแย่งพ่อไปจากเขา

    +++

    วันที่ 5 เดือนมาร ปีเทรเซนศักราช 5389

    คาฟาร์ไม่เคยอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่ถูกวางร่างบนแท่นบูชายัญ ไม่เคยไขข้อข้องใจถึงสิ่งที่เธอพูดในวันนั้น เพราะเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...

    จนกระทั่งรู้ตัวว่าตนตั้งครรภ์

    เด็กคนนี้เป็นเด็กต้องสาปคาฟาร์พูดเสียงแผ่วเบา เมื่อลอร์ดโรแวงได้อุ้มลูกสาวของพวกเขา เขาทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าคาฟาร์อ่อนเพลียจนเพ้อหรือพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง เขาจึงไล่คนอื่นออกไป เหลือเพียงเขาและเธออยู่ตามลำพัง

    ข้าไม่เข้าใจลอร์ดโรแวงเอ่ย ข้ารู้ว่าทารกที่เกิดเดือนมารจะมีร่างกายไม่แข็งแรง แต่นั่นไม่ได้แปลว่านางจะต้องสาป

    ไม่ นางต้องสาปตั้งแต่อยู่ในท้องข้าแล้ว ข้าไม่รู้... ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่านางจะเกิดมาคาฟาร์พูดอย่างอ่อนเพลีย แต่ก็พยายามจะบอกกับลอร์ดโรแวงให้ได้ ข้าไม่ได้จะถูกฆ่าบนแท่นบูชานั่น โรแวง... ข้ากำลังจะช่วยพวกเขา พวกคนตาย

    ลอร์ดโรแวงนิ่งไปด้วยสีหน้าหวาดหวั่น

    เจ้ากำลังจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ใช้มนต์ดำเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสาพิธีถึงมีมนต์ดำอัดแน่นขนาดหลอมทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้าง หากนับรวมเสาที่เหลือซึ่งไม่ถูกทำลายแล้ว มันมากพอจะดับแสงสว่างในตัวคาฟาร์ได้เลย เจ้าทำแบบนั้นทำไม?!”

    พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ โรแวงคาฟาร์ตอบ มากเสียยิ่งกว่าที่พวกเจ้าต้องการ

    เจ้าทรยศพวกเรา!” ลอร์ดโรแวงลุกขึ้นยืน แต่ยังคงอุ้มคัลลัคน้อยเอาไว้

    หากเจ้าได้รู้ว่าจุดเริ่มต้นของมันอยู่ที่ไหน...คาฟาร์เอ่ย บางทีเจ้าก็อาจเปลี่ยนใจเช่นเดียวกับข้า

    เจ้ารู้ไหมว่าข้าพลาดอะไรไปในตอนที่ออกตามหาเจ้า?!” ลอร์ดโรแวงตะคอกถาม เขาพยายามเก็บความเศร้าโศกไว้แล้ว ตั้งแต่ที่กลับมาและพบว่าคนรักของเขาได้ตายจากไป ข้าสูญเสีย...! แต่เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าเต็มใจไปนอนบนไอ้แท่นนรกนั่นเองน่ะรึ?!”

    คาฟาร์มีสีหน้าสลดลง

    เจ้าไม่น่าตามหาข้าเลย โรแวงเธอตอบ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นความเศร้าโศกในสายตาเขา ลอร์ดโรแวงส่งลูกสาวให้กับสาวรับใช้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

    แล้วไม่ย้อนกลับมาหาภรรยาของเขาอีกเลย

    +++

    ลอร์ดโรแวงไม่เคยบอกใครว่าคาฟาร์หักหลังฝ่ายคนเป็น เขากักตัวเธอไว้ ให้องครักษ์ฝึกหัดรุ่นใหม่คอยเฝ้า ไม่เข้าไปพบ แต่ก็ยังเข้าไปหาคัลลัคน้อยในห้องเด็กเป็นครั้งคราว จนกระทั่งในวันที่ทารกน้อยลืมตา เขาจึงเข้าใจคำพูดที่ว่าคัลลัคคือเด็กต้องสาป

    ดวงตาข้างขวาของเธอเป็นสีเงิน

    ในตอนที่ลอร์ดโรแวงเข้าไปทำลายพิธีกรรมนั้น มนต์ดำและคำสาปได้เข้าไปในตัวคาฟาร์นานแล้ว ทว่าเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ของคนแม่มีมากเกินไป สิ่งชั่วร้ายจึงแทรกซึมเข้าไปในตัวอ่อนทารกที่ไร้พิษสงแทน และมันก็นำพาโชคร้ายมาสู่ตัวคัลลัค ตั้งแต่วันแรกที่เกิดมาในเดือนต้องสาปเลย

    ทารกที่เกิดมาพร้อมตาเงินมักอายุไม่ยืน คนส่วนใหญ่จึงปล่อยให้ทารกตาย เหมือนกับเวลาที่ให้กำเนิดบุตรพิการออกมา พวกเขาจะไม่เก็บเด็กไว้

    คัลลัค ห้องเด็กกับห้องของคาฟาร์อยู่ติดกัน เธอจะรู้ ถ้าลอร์ดโรแวงเข้ามาในห้องเด็ก ชื่อของนางคือคัลลัค

    คัลลัค ภาษาเอลธันคาแปลว่าโชคร้าย เจ้าจะไม่สงสารเด็กสักหน่อยรึโรแวงพูดคุยผ่านกำแพงห้อง

    ฟาดเคราะห์ไงคาฟาร์เอ่ยตอบอย่างเชื่อสนิทใจว่ามันจะช่วยได้ เผื่อว่าลูกข้าจะไม่ดึงดูดโชคร้าย

    นางเป็นพวกตาเงินลอร์ดโรแวงเอ่ยทำใจเสียเถอะ

    โรแวงเสียงคาฟาร์ดุดันขึ้น ถ้าคัลลัคเป็นอะไรไป...

    ลอร์ดโรแวงหยุดนิ่งและเงียบฟัง แม้ว่าในมือข้างหนึ่งจะอุ้มทารกเอาไว้... ส่วนอีกข้างหนึ่งถือมีด

    ข้าจะเผาปราสาทนี่ทั้งหลัง และฆ่าเจ้าเสียคาฟาร์เป็นจอมขมังเวทที่โดดเด่นเป็นอันดับสองของรุ่น รองจากเฮเลน

    เธอทำแน่ ถ้าต้องทำ

    ลอร์ดโรแวงจึงยอมเก็บมีดไป

    +++

    หลายเดือนผ่านไป ปีเทรเซนศักราช 5390

    ลอร์ดโรแวงยังคงเศร้าโศกกับความสูญเสีย เขายึดติดกับการตายของเฮเลนจนไม่ได้สนใจลูก ๆ ของเขาเลย แล้วการปกครองในเขตของเขาก็เริ่มอ่อนลง จนมีข่าวแว่วไปถึงหูของใครบางคน

    ใครบางคนที่มาปรากฏตัวต่อหน้าลอร์ดโรแวงในยามดึกสงัด ในสภาพร่างที่ดูราวกับผู้นำทางในโลกหลังความตาย เหมือนดวงวิญญาณดำมืดที่ถือไม้เท้าห้อยตะเกียงไฟ

    หากเจ้าปรารถนาสิ่งนั้นยื่นข้อเสนอกับเขา ข้าจะนำคนรักของเจ้ากลับคืนมาจากความตาย

    อะไรเล่าจะน่ากลัวไปกว่าการทำสัญญากับปีศาจนิรนามที่โผล่มาหาชายผู้สิ้นหวัง

    ข้อแลกเปลี่ยนเล่าลอร์ดโรแวงถาม

    เจ้าหญิงคาฟาร์สิ่งนั้นเอ่ยตอบ แค่นางคนเดียว

    ลอร์ดโรแวงเผยรอยยิ้มออกมาและตอบโดยไม่ต้องคิด

    เอาไปเลย

    +++

    แล้วค่ำคืนนั้น ลอร์ดโรแวงก็ควบม้าออกไปจากปราสาทตามลำพัง เมื่อเห็นว่าพ่อไม่อยู่ เมอดอร์ก็หนีเที่ยวจนลำบากแม่นมต้องหอบเดธิเลียน้อยและลูกชายของนางตามเมอดอร์ไปด้วย เพราะแม้จะรับหน้าที่แม่นมเพิ่ม แต่เธอก็เป็นหน่วยองครักษ์คนเดียวที่ยังเหลืออยู่ นับจากเหตุการณ์ที่แท่นบูชายัญ

    ในค่ำคืนแห่งโศกนาฏกรรม มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่น้อยคนนักจะได้รับรู้

    ท่านเรียกหาข้าใช่ไหม องค์หญิงองครักษ์เฮรอนน่าผิวเข้ม ซึ่งเคยอารักขาคาฟาร์มาตลอดถือโอกาสที่ลอร์ดโรแวงไม่อยู่ กระทืบทหารยามฝึกหัดจนสลบคาประตู เพื่อเข้ามาพบเจ้าหญิงของตน ข้ามาแล้วขอรับ

    กำลังรออยู่เลยคาฟาร์ยิ้มรับ ก่อนจะลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าอย่างร่าเริง เจ้าไปเตรียมรถม้าเลย เดี๋ยวข้าจะไปรับลูกสาวของข้า แล้วพวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่กันเสียที

    ข้าล่ะสงสัย ทำไมท่านถึงไม่บุกออกมาเลยองครักษ์เอ่ยถาม เพราะคาฟาร์เป็นถึงจอมเวท ทหารยามโง่ ๆ ขวางทางเธอไม่ได้อยู่แล้ว

    คาฟาร์ไม่ตอบ เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าขุมกำเนิดพลังของเธอถูกสลายไปแล้ว นับตั้งแต่ที่พิธีกรรมผิดพลาดที่แท่นบูชายัญ พลังส่วนที่เหลืออยู่นั้น หากใช้ไปจะไม่ฟื้นกลับคืน เธอจึงเลือกจะเก็บมันไว้ในวินาทีเสี่ยงตายดีกว่า

    ทว่าเมื่อแยกทางและคาฟาร์ไปถึงห้องเด็ก เธอกลับเจอแขกไม่ได้รับเชิญคนอื่นที่เข้ามาร่วมวง กลุ่มนักฆ่าโครงกระดูก พวกมันกำลังสู้กับพ่อมดชั่วร้ายที่แอบเข้ามาขโมยตัวทารกน้อย

    ผัวะ! หัวนักฆ่าโครงกระดูกตนหนึ่งถูกฟาดจนหลุดกระเด็นด้วยเหล็กเขี่ยเตาผิงที่คาฟาร์คว้ามาได้ เธอฝ่าวงล้อมเข้าไปโดยไม่สนใจว่าจะโดนแทงไหม แต่เมื่อเข้าไปใกล้พอจะเห็นสิ่งที่พ่อมดอุ้มอยู่

    ห่อผ้าของทารกนั้นย้อมไปด้วยเลือด

    “ไม่!” พ่อมดร้องลั่น เพราะความตกใจของคาฟาร์ทำให้เธอหยุดชะงักและถูกนักฆ่าโครงกระดูกรุมแทงเข้าใส่

    เธอทรุดลง ร้องไห้ออกมาโดยไร้เสียง

    เจ้าหญิงคาฟาร์... ใช้พลังเวทมนตร์ที่เหลือทั้งหมดเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าด้วยความโกรธแค้นและโศกเศร้า เพราะเวทมนตร์นั้นขึ้นลงตามอารมณ์เจ้าของ หากไร้การควบคุมแล้ว พลังศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ ก็กลายเป็นหายนะได้ทั้งนั้น

    พวกนักฆ่ากลายเป็นขี้เถ้า ส่วนพ่อมดรีบกลับหลังหัน กระโดดออกไปทางหน้าต่าง ก่อนจะร่วงตกลงไปในกองหิมะสูงที่โกยมากองกัน แต่หิมะพวกนั้นละลายในทันทีที่เขาวิ่งออกมา และปราสาทก็เริ่มถล่มทลายจากความร้อน ฆ่าทุกคนที่ยังติดอยู่ข้างในอย่างไร้ความปรานี

    จบตำนานปราสาทสองพันปีลงสู่ซากปรักหลอมละลาย

    พ่อมดรีบแกะห่อผ้าทารกในอ้อมแขนตนออกมา เขาพลาดไปตอนที่สู้กับพวกโครงกระดูก ลืมไปว่าสิ่งที่เขาอุ้มคือชีวิตน้อย ๆ ที่ยังป้องกันตัวเองไม่ได้ คมดาบของศัตรูจึงปาดโดนผิวหนังบอบบางที่ต้นคอจนเลือดสาด

    ทารกน้อยไม่ร้อง เพราะเธอกำลังจะตาย

    “ไม่สิ เจ้าต้องไม่ตาย” กันติเนลเททุกอย่างเท่าที่จะนึกได้ออกมาจากกระเป๋าย่ามไร้ก้น ยาวิเศษ ม้วนวงเวทมากมายที่เขาชอบสะสม เขาใช้ทุกอย่างเพื่อจะยื้อชีวิตของทารกน้อย หลังจากที่ไม่สามารถช่วยเจ้าหญิงคาฟาร์ได้ทัน

    แต่อาการของคัลลัคไม่ได้ดีขึ้นเลย ชีวิตน้อย ๆ ดวงนี้กำลังจะตาย รอยมีดที่แทงลงไปคือตำแหน่งกล่องเสียง

    พ่อมดไม่สนใจว่าใครจะเห็นเขาในคืนนั้นไหม เขาพยายามห้ามเลือดและใช้ทุกความรู้ที่ตนมีเพื่อช่วยชีวิตทารกน้อย ทั้งวิชาแพทย์และพลังเวท ทว่าเขาไม่สามารถใช้เวทเยียวยาเพราะเป็นศาสตร์ขั้วตรงข้ามกับมนต์ดำที่เขามี

    วินาทีหนึ่งเขาอยากร้องไห้อย่างสิ้นหวัง แต่ไม่รู้ทำไมถึงร้องออกมาไม่ได้ ไม่มีเสียงใดแว่วออกมาแม้ว่าไหล่จะสั่นโยก แล้วเขาก็นึกออก สิ่งที่ตัวเองทำได้ เขาสร้างโกเลมมาไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว อวัยวะของพวกมันบางตัวนั้น เขาออกแบบให้ใกล้เคียงมนุษย์จนเรียกได้ว่าเกือบจะสร้างมนุษย์มาแล้ว

    พ่อมดจึงหยุดที่จะพึ่งพาตัวช่วยที่สิ้นหวัง มองว่าร่างน้อย ๆ นี้คือโกเลมของเขา และสิ่งที่เขาต้องทำก็มีเพียง... ซ่อมมัน มือของเขาหยุดสั่นเพราะเริ่มคุ้นชินกับสิ่งที่ทำอยู่ ร่ายมนต์ดำอัมพาตแทนยาชาและร่ายมนต์ดำเชิดหุ่นเพื่อควบคุมการไหลเวียนของเลือดให้ไปในทางที่ต้องการ ใช้ชิ้นส่วนของโกเลมที่มีแทนผิวหนังและกล่องเสียงที่เสียหายของทารก

    กระทั่งเย็บแผลจนเสร็จ พวกชาวบ้านก็เริ่มพากันมาดับไฟที่ปราสาทและมีคนตะโกนโหวกเหวกเมื่อเห็นตัวเขา พ่อมดชั่วร้ายจึงรีบอุ้มทารกน้อย แล้วหนีหายไปในความมืดมิด

    ชายหนุ่มเฝ้าดูอาการของคัลลัคน้อยทั้งคืนจนรุ่งสาง ลมหายใจและชีพจรของเธอเต้นเบาจนดูราวกับตายไปแล้ว เมื่อแสงแรกจากดวงอาทิตย์มาเยือน มันดูราวกับเช้าที่สิ้นหวัง ชายหนุ่มผู้สูญเสียเพื่อนอย่างเจ้าหญิงคาฟาร์ไปได้แต่กอดห่อผ้าทารกอย่างหดหู่ใจ หากสิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดนั้นไร้ผล ก็คงไม่มีสิ่งใดที่เขาจะทำได้เพื่อช่วยทารกน้อยอีกแล้ว

    แต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงร้องใดแว่วจากร่างทารกทั้งนั้น

    พ่อมดถอนหายใจ เตรียมตัวที่จะอุ้มร่างน้อย ๆ นี้ไปทำพิธีศพตามที่ควรจะมี ทว่าในวินาทีที่เขาลุกขึ้น เครารุงรังของเขากลับถูกดึงกระตุกจนเผลอร้องโอ๊ยออกมา

    เขาก้มกลับลงไปมอง คัลลัคน้อยจ้องกลับมาตาแป๋ว ก่อนจะยิ้มหัวเราะออกมาโดยไร้เสียง

    เธอยังไม่ตาย เพียงแต่ว่าเรื่องที่ไม่สามารถสร้างได้นั้นคงต้องหาทางรักษากันอีกยาวเลย

    แต่ว่า... แค่นี้ก็ดีมากแล้วจริง ๆ

    ว่าไงเจ้าโกเลมน้อย พ่อมดยิ้มออกมาในที่สุด ยกมือขึ้นเช็ดรอยน้ำตาจากดวงตาบวมตุ่ย “เจ้าโชคดีมากเลย  รู้ตัวไหม โชคดีมาก ๆ เลย”

    พ่อมดตัดสินใจแล้ว

    เขาไม่สนใจว่าตนจะถูกใส่ร้ายเช่นไร ไม่สนใจว่าข่าวลือจะสร้างความเคียดแค้นให้ลอร์ดโรแวงขนาดไหน เขาจะไม่มีทางส่งคืนเด็กคนนี้กลับไปให้พ่อผู้ไม่สนใจใยดีลูกตัวเองเด็ดขาด และตัดสินใจเลี้ยงคัลลัคเอาไว้เอง โดยสร้างโกเลมกลุ่มใหม่ขึ้นมาเป็นเพื่อนให้เธอ

    ไม่ว่าใครจะมองคัลลัคเป็นอย่างไร เด็กตาเงิน เด็กต้องสาป เด็กผู้นำพามาซึ่งความโชคร้าย เขาไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เพราะเธอคนนี้เป็นแบบเดียวกับเขา

    กันติเนล ชากอล เขาคือพ่อมดดำ ผู้มีดวงตาสีเงิน

    +++

    ลอร์ดโรแวงไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังไล่ตามอะไรอยู่ มันดูเหมือนภูตผี แต่กลับทิ้งรอยเท้าไว้บนหิมะ ผู้นำทางวิญญาณนั้นนำเขามาถึงสุสานชาวกาเมซัน สถานที่ซึ่งน้ำแข็งไม่มีวันละลาย

    ณ ที่แห่งนี้มีโลงน้ำแข็งของเฮเลนถูกตั้งเอาไว้

    ข้าปลุกได้เพียงผู้ที่ยังไม่หมดห่วง หรือเคียดแค้นในบางสิ่งจนมิอาจยอมตายตาหลับ หรือผู้ที่นรกไม่ยอมต้อนรับ เจ้าแน่ใจไหมว่าอยากให้นางตื่นขึ้นมาอีกครั้งผู้นำทางวิญญาณเอ่ยถาม

    เฮเลนคือผู้เป็นที่รักของใครหลายคน นางไม่ควรต้องจบชีวิตลงเร็วขนาดนี้ลอร์ดโรแวงเอ่ย

    หลายคนรักนาง แต่ดูจะมีเจ้าเพียงผู้เดียวที่ไม่ยอมปล่อยนางไปสินะอีกฝ่ายถาม

    ได้โปรดลอร์ดโรแวงคุกเข่าลงข้างโลงน้ำแข็งของสตรีผู้เป็นที่รัก ข้าเพียงแค่อยากได้ยินเสียงนางอีกสักครั้ง อยากกล่าวขอโทษนางในสิ่งที่ข้าทิ้งไป

    เช่นนั้น...ผู้นำทางวิญญาณเอ่ย

    เฮเลนถูกปลุกขึ้นมาในที่สุด ก่อนหน้านี้เธอถูกนำใส่โลงไปพร้อมกับเสื้อผ้าสีขาวงดงาม ดาบสีขาวสลักลายกุหลาบและโล่ไม้สีน้ำเงิน แล้วเมื่อลืมตาตื่น ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงเลือด

    ดวงตาของปีศาจ ตัวตนก้ำกึ่งระหว่างมีและไม่มีชีวิต

    เฮเลน โอ้เฮเลนที่รัก นี่ข้าเอง จำข้าได้ไหม โรแวงลอร์ดโรแวงเข้าไปอุ้มร่างคนรักออกมาจากโลง

    ฉัวะ ! ทว่าคมดาบกุหลาบขาวในมือเฮเลนกลับแทงเข้าที่ท้องของดยุกหนุ่ม กดเสียบจนมิดด้ามและทิ้งให้ร่างของเขาหงายลงไปนอนรอความตายอยู่บนพื้นหิมะ

    ทำไมข้าจะจำไม่ได้ล่ะโรแวงเฮเลนค่อย ๆ ก้าวออกมาจากโลงน้ำแข็ง ก่อนจะคุกเข่าลงกระซิบ พลางลากมือป้ายเลือดจากบาดแผลฉกรรจ์ขึ้นมาป้ายหน้าของอดีตคนรัก เจ้าทิ้งข้า

    ลอร์ดโรแวงพยายามกดแผลห้ามเลือด หน้าซีดเผือดเพราะไม่คิดว่าจะถูกหญิงที่ตนรักที่สุดแทง

    เจ้าเลือกนางเฮเลนลุกขึ้นยืน ก่อนจะถอยไปยืนคู่กับผู้นำทางวิญญาณ ไปกันเถอะ

    เฮเลน...ลอร์ดโรแวงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ได้โปรดให้ข้าได้อธิบาย

    หากเจ้ารอดเฮเลนมองดูผืนหิมะที่กลายเป็นสีแดงฉาน แล้วพวกเราค่อยพบกันใหม่อีกครา


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    Thumbnail Seller Link
    Aevenhilde โรงเรียนแห่งตัวตน : ภาค I ปฐมบทสู่เรื่องเล่าขาน เทอม 1
    ChaoSera
    www.mebmarket.com
    คัลลัคคือเด็กต้องสาปเธอเกิดมาพร้อมชีวิตอันเจือปนด้วยโชคร้ายแต่แล้ววันหนึ่ง โลกของเธอก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อจดหมายเชิญจากโรงเรียนเอเวนไฮด์ถูกส...
    Get it now
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×