ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า - Attack on Titan [Yuri] [Mikannie]

    ลำดับตอนที่ #33 : ตอนที่ 29 สู่ยุคสมัยของมนุษย์

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 57


    ตอนที่ 29 สู่ยุคสมัยของมนุษย์

    “แอนนี่อยู่ไหน!” มิคาสะถาม พลางเขย่าคอเสื้อชาช่า

    “อ..เอ่อๆ แปลงร่างลงไปสู้กับไททันสองตัวแล้วก็เข้าไปสู้กับไอ้ตัวสีดำๆ” ชาช่าพยายามแกะนิ้วมิคาสะออก

    “ฉันล่วงหน้าไปก่อนนะ” ไม่รอคำตอบ มิคาสะก็กระโดดลงจากหลังเอ็ปไป

    “เดี๋ยวสิมิคาสะ” แจนร้องห้าม แต่ก็ไม่ทันแล้ว

    “ฉันไปด้วย” คริสต้าบอก ใต้กระโปรงเจ้าหญิงที่ดูราวกับสุ่มไก่นั้นมีอุปกรณ์เคลื่อนที่สามมิติอยู่ เตรียมไว้ใช้ในเวลาคับขัน แต่ดูเหมือนครั้งนี้เธอจะได้ใช้ในโอกาสอื่น คริสต้าฉีกกระโปรงทิ้งก่อนจะกระโดดตามลงไป

     

    “มิคาสะ?” ไรเนอร์เรียกชื่ออีกฝ่ายเมื่อเห็นเธอเข้ามาใกล้ๆ

    “ไรเนอร์?!” มิคาสะเหมือนจะเป็นคนที่แปลกใจที่สุดที่เห็นไรเนอร์ยังไม่ตาย “เออะ เห็นแอนนี่ไหม”

    “ไม่... ” ไรเนอร์ก็เหมือนจะเพิ่งนึกออกว่าเขาเห็นแอนนี่ในร่างไททันระหว่างสู้กับคอเตช ร่างไททันของแอนนี่สลายไปแล้ว และไม่มีใครเห็นตัวเธอหรือศพของเธอ “แต่ทางซากปราสาทตรงนั้น ฉันเห็นไททันของแอนนี่ล้มไปตรงนั้น”

    มิคาสะวิ่งออกไปทันที ปล่อยให้ไรเนอร์จัดการกับพวกนักรบที่ยอมจำนน นั่นรวมถึงเบลทรูทด้วย เขาไม่ยอมพูดอะไร แค่ยอมจำนนแต่ไม่มีคำว่าขอโทษ ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนของพวกเขาได้สิ้นสุดลงไปนานแล้ว

    “ยูมิล!” คริสต้าโหนตัวลงมาข้างๆไรเนอร์ แต่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความสนใจที่คริสต้าจะหันมามองไรเนอร์ ปล่อยให้นักรบผู้อกหักยืนมองท้องงฟ้าอย่างประชดชีวิตต่อไป

    “คริส...ฮิสตอเรีย” ยูมิลเรียกชื่ออีกฝ่าย ตอนนี้มาเรียหลับไปแล้วเพราะใช้พลังของไททันมากเกินไป เธอจึงส่งตัวมาเรียให้คนของเธอดูแลต่อไปแล้วหันไปหาคริสต้า “ขอโทษนะที่ปิดบังเรื่อง... อุ้บ!? เหวอ!!!

    คริสต้าไม่ได้ฟังคำแก้ตัวของยูมิล เธอกระโจนเข้าไปกอด แต่เพราะยูมิลไม่ได้ตั้งตัว ทั้งคู่จึงหงายท้องลงไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นดินที่มีเศษหินขรุขระ ยูมิลทำท่าแกล้งตายตอนกระแทกพื้นแกล้งให้คริสต้าตกใจเล่น แต่พอเธอจับไต๋ยูมิลได้ หมัดเล็กๆที่ไม่น่าจะแรงก็ทุบลงบนท้องของยูมิลเล่นเอาอีกฝ่ายกุมท้องตัวงอ

    “ฮะๆๆ” คริสต้าหัวเราะออกมา ทั้งๆที่นึกว่าหลังจากเปิดเผยความจริงเรื่องชื่อฮิสตอเรียแล้ว เธอจะไม่หัวเราะออกมาอย่างจริงใจอีกแล้วเสียอีก แต่เจอยูมิลทีไรมันก็ทำให้มีความสุขได้ทุกครั้งสิน่า

     

    “แอนนี่!” มิคาสะวิ่งไปดูตามซากปรักหักพังของตัวปราสาท ทว่าก็ไม่มีวี่แววของแอนนี่เลย เธอเริ่มผลักซากพวกนั้นออกไปด้วยมือเปล่า “แอนนี่! อยู่ไหนน่ะ! ส่งเสียงออกมาหน่อยสิ!

    แก๊ก... เพราะไม่ได้คอยระวัง มีดเล่มหนึ่งจึงเข้ามาประชิดตัวและจ่อลำคอของมิคาสะไว้

    “อยู่เฉยๆ” เสียงของคนที่ล็อกตัวมิคาสะไว้จากด้านหลังพูด เสียงนั้นฟังดูอู้อี้เหมือนมีผ้าปิดปากจนฟังไม่ออกว่าเสียงผู้ชายหรือผู้หญิง รู้แต่ว่าพอมิคาสะขยับ มีดนั้นก็กดลงบนลำคอของเธอมากขึ้น

    “ไม่ฆ่าซะล่ะ” มิคาสะถาม มองไปรอบๆเผื่อจะมีอะไรช่วยเธอจากสภาพถูกล็อกตัวไว้ได้

    “ไม่ห่วงตัวเองสินะ” เสียงนั้นถาม “แล้วถ้าผู้หญิงผมบลอนด์นั่นล่ะ ฆ่าได้ไม่เป็นไรใช่ไหม”

    เท่านั้นล่ะ เหมือนอะไรบางอย่างในสมองมิคาสะขาดผึง เธอคว้าบิดตัวคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายที่ด้านหลังโดยไม่สนใจว่าจะถูกแทงคอตายรึเปล่า ก่อนจะทุ่มอีกฝ่ายลอยข้ามหัวด้วยแรงทั้งหมดที่มี อีกฝ่ายก็ลอยไปกระแทกกับกำแพงที่ยังไม่ถล่มก่อนจะร่วงลงมากระแทกพื้น อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่รู้เพราะเธอหรือเขานั้นก้มหน้าอยู่ บนหัวก็สวมฮู้ดสีขาวทับไว้

    “แอนนี่อยู่ไหน! แกทำอะไรกับเธอ!” มิคาสะตวาด คว้ามีดที่ตกพื้นอยู่ขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้ามาหาศัตรู

    “เอ๋ ห่วงกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย” อีกฝ่ายลุกขึ้นแต่ยังก้มหน้าไม่ให้เห็นว่าเป็นใคร

    “แก!!!” มิคาสะคว้าลำกคออีกฝ่ายแล้วกระแทกอีกฝ่ายกับกำแพง “หะ?!

    ฮู้ดสีขาวร่วงไปด้านหลังเปิดเผยใบหน้าของคนที่มิคาสะคิดว่าเป็นศัตรูออกมา ผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้าจับจ้องมาที่มิคาสะ อีกฝ่ายเลิกคิ้วทักทายและพยายามแกะนิ้วของมิคาสะออกจากลำคอ

    “ทักทายกันได้แรงไม่เปลี่ยนนะ” แอนนี่พูด แต่มิคาสะไม่หายตกใจ เธอเผลอออกแรงบีบจนแอนนี่เริ่มดิ้น “อึก... มิคาสะ ฉันหายใจไม่ออก ...ปล่อย”

    มิคาสะเหมือนเพิ่งได้สติ รีบปล่อยแอนนี่ลงทันที แอนนี่ก็ยืนพิงกำแพงและพยายามหายใจเข้าปอดให้มากที่สุดราวกับว่าหลังจากนี้จะไม่มีโอกาสให้หายใจอีกแล้ว

    “เล่นบ้าอะไรของเธอ ฉันเกือบแทงเธอแล้วนะ” มิคาสะบอก

    “แต่ก็คุ้มนะ” แอนนี่ยืดตัวขึ้น วาดแขนสองข้างขึ้นไปโอบคอมิคาสะ “เป็นห่วงฉันขนาดนั้นเลย?”

    “ค..ใครห่วงเธอกัน” มิคาสะเบนหน้าหนี

    “ยัยปากแข็งเอ้ย” แอนนี่พูด มิคาสะก็หันมาเหมือนจะเถียง แต่แอนนี่ก็ปิดปากของมิคาสะไว้ก่อน

    “?!?!” มิคาสะยืนแข็งเป็นหิน จะไม่ให้แข็งได้ไงในเมื่อแอนนี่ปิดปากมิคาสะด้วยปากของเธอเอง

    ฟุบ... แอนนี่ถอนจูบออก เธอใช้แขนยกตัวเองขึ้นไปนานๆไม่ไหว ก็มิคาสะตัวสูงซะขนาดนั้น แล้วไม่ยอมก้มลงมาอีก เธอเขย่งอย่างเดียวมันไม่ถึงนี่นา

    “หือ?!” แอนนี่เตรียมจะฟังคำบ่นจากมิคาสะอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับเชยคางของเธอขึ้นแล้วก้มลงมาจูบต่อ ราวกับจูบที่แอนนี่ให้ไปมันไม่พอ มิคาสะผลักตัวแอนนี่ถอนไปติดกำแพงโดยที่แอนนี่ก็ไม่ได้ขัดขืน

    “ปล่อยฉันนะเว้ย อู้!!” เสียงแจนดังมาจากที่ไกลๆ แต่ชาช่า โคนี่และคู่ยูมิลคริสต้าก็คว้าเขาไว้แล้วลากไปปิดปากที่อื่น คนเขากำลังแอบดูคู้รักกันอยู่ดีๆ เจ้าแจนดันโผล่หัวมาเจอแล้วจะเข้าไปขัดซะนี่

    “หึ” มิคาสะหันไปมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้น การทะเลาะกันของพวกเขาเหล่าอดีตทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104 ราวกับว่าโลกนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์กำแพงชิน่าแตก ราวกับว่ากำแพงโรสไม่เคยแตกด้วยซ้ำ พวกเขายังมีชีวิตอยู่ และอนาคตที่มีความสุขก็กำลังมาเยือน มันจบแล้วสำหรับยุคของไททัน ยินดีต้อนรับสู่ยุคของมนุษย์

    “ไปกันเถอะ” แอนนี่บอก เธอเดินไปรวมกลุ่มกับพวกชาช่าโดยมีมิคาสะคอยพยุง เท้าเธอเคล็ดเพราะมิคาสะทุ่มเธอไปเมื่อครู่ แต่เจ็บแค่นี้มันก็คุ้มแล้วใช่ไหมล่ะ

    แอนนี่แอบหันไปมองมิคาสะ ...หวานจังเลย

     

    เผ่านักรบทั้งหมดได้ยอมจำนนลงแล้ว ผู้พิทักษ์กำแพงหรือก็คือไททัน 40 เมตรทั้งหมดคืนร่างกลับเป็นมนุษย์และคอยคุมเผ่านักรบไว้ระหว่างที่มีการเจรจาสงบศึก เบลทรูทถูกส่งมาเป็นตัวแทนเจรจาเพราะเขาเป็นนักรบที่เก่งที่สุดในตอนนี้ เผ่านักรบนั้นเชื่อเรื่องความเก่งกาจมากกว่ามันสมอง เบลทรูทยอมรับข้อเสนอทุกอย่างของยูมิล

    ยุคสงครามที่ยาวนานมากว่าสองพันปีนั้นได้ถูกหยุดลงเพียงแค่นี้ นครแห่งขุนเขาจะถูกซ่อมแซมและสร้างขึ้นใหม่ มันกว้างขวางเพียงพอให้กลุ่มผู้พิทักษ์กำแพงและชาวลาสวู้ดที่เหลืออยู่ทั้งหมดมาอาศัยได้ กลุ่มผู้พิทักษ์กำแพงยินดีรับข้อเสนอนั้นเพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ธรรมดาอีกสักครั้ง ถึงแม้ว่ายูมิลจะปฏิเสธที่จะหลบซ่อนอยู่ในหุบเขาเช่นเดียวกับเมื่อสองร้อยปีก่อน แต่ในครั้งนี้ ความบาดหมางระหว่างพี่น้องได้จบลงแล้ว ต่างฝ่ายต่างยอมรับการตัดสินใจของแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากเดินตามเส้นทางที่มีผู้กำหนดให้

    เอ็ปทดลองตัวยาของคริชาต่อ ถึงแม้ว่าตัวอย่างยาจะถูกเผาทำลายไปจนหมด แต่โชคดีที่คริสต้าเก็บตัวอย่างยาเอาไว้ได้ส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ในเข็มฉีดยา การคืนร่างมนุษย์ให้แก่ไททันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นได้ในทันที แต่ในอนาคตข้างหน้า สักวันหนึ่ง โลกนี้จะกลับคืนมาเป็นโลกของมนุษย์อย่างแท้จริง

    ทหารอาสาต่างหากันกลับไปสู้นครแห่งทะเลสาบบ้านเกิดของพวกเขา หลายชีวิตที่เสียไปและหลายชีวิตที่หายสาบสูญ ไม่มีใครพบศพของเซียและเรเวน แต่ท่ามกลางการต่อสู้ของเหล่าไททัน มีทหารอาสามากมายหายสาบสูญไปโดยที่ไม่สามารถค้นหาและเก็บกู้เศษชิ้นส่วนของร่างกายกลับมาได้

    เหล่าอดีตทหารทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104 ต่างปักหลักอาศัยกันภายในนครแห่งขุนเขาแห่งนี้ อาจจะยกเว้นแค่ยูมิล เธอกลับไปดูแลชายป่าลาสวู้ดอย่างที่เคยเป็น แต่นานๆครั้งเธอก็จะกลับมาหาคริสต้าพร้อมของฝากแปลกๆจากโลกภายนอก สถานที่ซึ่งมนุษย์มีอิสระอย่างใจฝันและมีชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยทุกสิ่งที่มี แม้แต่รีไวล์และฮันซี่ก็เลือกที่จะไปอาศัยอยู่กับชาวลาสวู้ด ทั้งนี้เพื่อสำรวจและเริ่มบุกเบิกดินแดนนอกหุบเขาอย่างจริงจังเพื่อว่าสักวันมนุษย์จะสามารถออกไปเหยียบย่ำในโลกภายนอกได้โดยไม่ต้องรอคอยการคุ้มครองจากไททันหรือทหาร

    เกิดเส้นทางการค้าขึ้นมากมายหลังจากที่นครแห่งขุนเขากลับมางดงามดังเดิม ทูตจากเกาะอังกฤษเดิมทางมาเจริญสัมพันธไมตรี โชคร้ายนิดหน่อยที่ทูตคนนั้นแอบมาจีบคริสต้าซึ่งถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้ปกครองนครแห่งขุนเขาแทนคอเตช คริสต้าจึงไล่ตะเพิดทูตชาวอังกฤษคนนั้นออกจากวังไป ทางเกาะอังกฤษต้องไม่ชอบแน่ แต่คริสต้าก็ไม่สน เธอไม่กลัวพวกคนที่ไม่เคยได้ประมือกับไททันตัวเป็นๆหรอก

    ไรเนอร์กลายเป็นทหาร เช่นเดียวกับเบลทรูท แม้เพื่อนๆจะพยายามทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับมาเหมือนเดิม แต่แก้วที่แตกไปแล้ว จะต่อยังไงมันก็ยังคงเหลือรอยร้าวทิ้งไว้อยู่ดี

    แจนรับราชการภายในวังหลวง ส่วนโคนี่ก็ไปเป็นนายพรานตามที่ชาช่าชวน พวกเขาออกไปล่าหมูป่ายักษ์ที่นอกหุบเขาบ่อยๆ มันไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้วในเมื่อมีชาวลาสวู้ดย้ายมาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากด้านนอกหุบเขานัก

    แล้วแอนนี่กับมิคาสะล่ะ...

     

    “ระวังหัว!” โครม! ลูกบอลหนังลอยไปกระแทกหัวแอนนี่เข้าเต็มๆ ส่งเธอลงไปนั่งก้นกระแทกพื้น ไม่นานร่างของสัตว์ขนฟูสี่ขาก็วิ่งตามมา หมาป่าสีเทาที่มิคาสะเก็บมาเลี้ยงจนมันตัวโตพอจะตะครุบกวางได้ก็ตะครุบร่างแอนนี่ลงไปนอนกับพื้นแล้วเลียหน้าเหมือนเห็นแอนนี่เป็นลูกอม

    “วูฟ ออกไป” แอนนี่ผลักวูฟออกแล้วเช็ดน้ำลายที่ย้อยเต็มหน้าเธอออก

    “ขอโทษที” มิคาสะบอกแล้วลากวูฟออกมา ตอนนี้มิคาสะกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมเหมือนที่ก่อนกำแพงมาเรียจะแตก เก็บฟืนและตัดไม้ หาของป่าและบางครั้งก็พาวูฟออกไปล่าสัตว์

    “จับมันอาน้ำบ้างก็ดี” แอนนี่พูดพลางดมกลิ่นตัวเองที่เพิ่งถูกวูฟฟัดมา

    “นี่จะไปไหนเหรอ” มิคาสะถาม มองแอนนี่ที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องแบบ ปกติเวลามิคาสะไปล่าสัตว์เธอก็จะใส่เครื่องแบบไปไหนมาไหนเหมือนกับวันนี้ แต่ถ้าเป็นแอนนี่ เธอจะสวมชุดที่ใส่สบายไว้ก่อน พอหันกลับมาใส่ชุดเครื่องแบบทหาร มันจึงดูผิดปกติไป แอนนี่ลุกขึ้นและปัดเสื้อผ้า

    “ไปด้วยกันไหมล่ะ”
     

    ***********************************************************************
     

    >>>หลังฉาก<<<

    มิคาสะ : นึกว่าไรท์จะทำ Bad Ending
    ไรท์เตอร์ : อ้าวเหรอ เคยพูดไว้แบบนั้นเหรอ //เกาหัวแล้วนึก
    แอนนี่ : ใช่
    มิคาสะ : เล่นเอาใจหายหมด
    แอนนี่ : กลัวฉันตายเหรอ //กอดคอ
    มิคาสะ : เออสิ //ดึงแอนนี่ขึ้นมาขี่หลัง
    ไรท์เตอร์ : หวานกันเข้าป๊าย //นั่งมอง
                      แต่ไรท์ก็แต่ง Bad Ending ไปแล้วนะ
    มิคาสะ : หือ? แต่งตอนไหน
    ไรท์เตอร์ : ตอนที่ไรท์โดนกระทืบตายตรงหลังฉากไง //ยิ้ม
    มิคาสะ : อยากตายอีกรอบไหม
    ไรท์เตอร์ : อะจะอะ //เผ่น

    ไรท์เตอร์ : รีดเดอร์อาจจะงงว่าทำไมไรท์เปลี่ยนมาจบ Happy ซะอย่างนั้น
                      ที่ไรท์บอกว่าจะจบ Bad น่ะไรท์โกหกจ้า //ยอมรับผิดหน้ายิ้ม
                      จริงๆวางพล็อตให้จบดีตั้งแต่แรกแล้ว...แกล้งรีดเดอร์นี่มันสนุกอย่างนี้นี่เอง 5555
                      สำหรับรีดเดอร์คนไหนที่อยากอ่านปวดตับจนจบจริงๆก็ขอโทษละกัน
                      ไรท์แต่งโหดร้ายขนาดนั้นไม่ไหว เดี๋ยวตับไรท์พังหมด
    แจน : นี่ๆไรท์
    ไรท์เตอร์ : อะไรเหรอ
    แจน : พร้อมรึยัง
    ไรท์เตอร์ : เอ่อ... พร้อมสำหรับอะไร //เหลือบมองสายตาอาฆาตเกือบสิบคู่ที่ด้านหลังแจนแล้วเหงื่อตก
    แจน : Bad Ending สำหรับไรท์ไง //ยิ้มหน้าเหี้ยมแล้วจับดาบ
    ไรท์เตอร์ : //เผ่นไปแล้วโดยไม่รอฟังคำตอบ
    ทุกคน : ไรท์! อย่าหนีนะ!!! //ถืออาวุธครบมือก่อนจะวิ่งไล่ฆ่าไรท์แบบไม่ดับอนาถไม่เลิกราโดยเด็ดขาด
    ไรท์เตอร์ : ช่วยด้วย โฮ... 
                      จะแต่งให้จบปวดตับก็โดนด่า พอแต่งให้จบดีก็โดนไล่ฆ่า
                      นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรเนี่ย //วิ่งหนีต่อไป

    ไรท์เตอร์ : อีก 1 ตอน! เป็นไปได้ด้วย?! //พูดอย่างคนที่ไม่เคยแต่งนิยายยาวจบมาก่อนในชีวิต
                      ก่อนจะขึ้นในตอนต่อไป บ้านใครมีมดระวังไว้ให้ดี คืนนี้อาจโดนรุมตอมรุมกัดจนผิวหนังพรุน
                      ตอนสุดท้าย 6 โมงเย็นเจอกัน //ไปปั่นต่อ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×