ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยหมอโรคจิตกับนายวิปริตสุดหล่อ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 – รางวัลปลอบใจ(จบตอน)

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 51



           ..
    I remember when we were angels, when we dreamed about us All my days were happy just like a snowy christmas I wish i'd have them always..

                    เสียงเพลงที่ดังขึ้นแบบสายเรียกเข้า ดังขึ้นเป็นเพลงประกอบหนังที่เรชอบ ทำให้เรที่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออยู่อย่างมีสมาธิละสายตาจากหนังสือ ก่อนหันไปรับสาย

                ..สวัสดีค่ะ

                เร !!  เป็นไงบ้างอ่ะ ได้ข่าวว่าเข้าโรงพยาบาล  หายดียัง เสียงที่ดังแว้ดมาแต่ไกล จนทำให้คนที่เอาโทรศัพท์แนบหูต้องยกห่างออกเบาๆ ก่อนนึกถึงอานุภาพของเสียงเพื่อนสาวคนนี้อย่างหนักใจ พลางส่ายหน้า เธอไปนอนค้างมาตั้ง 4-5 วัน พึ่งจะติดต่อมาวันที่กลับถึงบ้านแล้วอ่ะนะ

                 อืม ก็พอไหว ครบ 32 ประการ แต่เนื้อเยื่อบางส่วนก็หายไป

                 ยังมีหน้ามาพูดตลกอีกนะ ผ่าตัดเลยนะ เรอืม ก็จริง แต่ว่า.. ไม่มีอะไรอ่ะ ผ่าตัดน่ะ ไม่เจ็บเลย เจ็บตอนฉีดยาชามากกว่า แล้วคิดดูนะคะ เรต้องผ่าตรงข้อเท้าน่ะค่ะ T^T เศร้าใจ 

            อ้อ ลืมแนะนำไปเลยค่ะ  นี่ เพื่อนของเรเอง ชื่อ จินะ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น เหมือนๆเรที่เป็นลูกครึ่งอังกฤษ แต่ว่า ถึงจะมีเชื้อสายไทยนิดหน่อย และ รักประเทศไทยมาก ก็ไม่เคยได้ไปอยู่นานเกิน 1 ปี เพราะบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่อังกฤษนี่มาตลอด ตั้งแต่เข้า primary school ก็ได้เจอกับ จินะ นี่แหละค่ะ เพื่อนสมัยเก่ากึก  พอเวลาจะกลับไปที่ประเทศไทย ไปเที่ยวบ้าง หรือ คุณพ่อไปดูกิจการของบริษัทของคุณพ่อเรบ้าง ก็จะขอตามไปด้วย  ส่วนคุณพ่อคุณแม่ของจินะซัง ก็มาประกอบธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ต่างประเทศนี่แหละค่ะ เป็นอันส่งผลให้เราได้มารู้จักกัน ^^ …

                    ก็แหม.. เธอก็น่าจะรู้นี่นา ว่าฉันน่ะเป็นคนยังไง

                    หยิ่ง เย็นชา อวดดี ..เฉพาะต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก  สุภาพ อ่อนโยน ใจดี มีเมตตา กับเพื่อนที่สนิท และ มีนิสัยดีพอให้เธอทำตัวดีด้วย ..ฉันนะ ท่องจำได้จนขึ้นใจแล้วย่ะ

                    ก็ดีนี่ เรว่าพลางหัวเราะเบาๆ

                    แล้วมีอะไรเหรอ ?

                    เพื่อนเป็นห่วงไม่ได้เลยหรือไงกัน ห๊ะ เร

                    สงสัยเฉยๆจ้า เพราะปกติ ฉันเป็นคนโทรไปไม่ใช่เธอโทรมา เพราะกลัวเรื่องสตางค์ค่าโทรศัพท์น่ะสิ  ฮะๆๆ  จริงไหมจ้ะ จินะซัง ^^ ”

                     เฮอะ ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็งกเหมือนกันแหละ ยายงก !! ’

                      ..เอาเหอะ ฉันขอยอมรับโดยสดุดี ขี้เกียจเถียง อืม จินะ ว่างๆมาเยี่ยมบ้างก็ได้ จะได้มาเล่นกัน เพราะฉันคงเดินไม่สะดวกอีกนาน อย่าลืมนะจ้ะ

                      จ้า แล้วจะไปหาพรุ่งนี้ โทรมาบอกแค่นี้แหละ เปลืองตังค์ชะมัดเลยเรหลุดยิ้มออกมากับประโยคสุดท้าย  ท้ายที่สุด ใครงกกว่ากันแน่เนี่ย เฮ้อ

                      บายค่ะ แล้วเจอกันนะ

               เรกดวางสาย  ก่อนยกมือขึ้นเสยผมอย่างไม่มีอะไรจะทำ  มือบางเอื้อมไปปิดโคมไฟที่หัวโต๊ะ ก่อนเคลื่อนตัวลงมานอนที่เตียงนุ่มแล้วนึกถึงความทรงจำเก่าๆระหว่างเพื่อน  ไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้เธอดูเหมือนไม่ค่อยมีความรับผิดชอบหรือเปล่า ที่ยึดติดกับสิ่งใดมากเกินไป ทั้งที่รู้อยู่ว่ายังมีเส้นทางเดินในอนาคตอีกมากมายให้เราก้าวต่อไปยังข้างหน้า  เรยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ พร้อมพลิกตัวขึ้นมาท่องทบทวนสิ่งที่อ่านจากหนังสือเมื่อสักครู่ต่อภายใต้แสงสว่างอันน้อยนิดของห้อง

            วันรุ่งขึ้น

                     เร.. เร  เรรินา !! ”  เสียงเรียกชื่อเธอดังลอดเข้ามาในโสตประสาทอันเลือนราง แต่เอ๊ะ ใครบ้านไหนจะมาเรียกเธออย่างงี้ ตะโกนแหกปากอยู่ได้

                เรกระพริบตาปริบๆ ปรับสายตาให้ชินกับแสงจากหลอดไฟบนเพดานที่มีคนเปิดไว้ แต่แล้วความเข้าใจก็ฉายชัด ว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของใคร เมื่อเห็นเพื่อนตัวดียืนกอดอกส่งยิ้มหวานมาอย่างหมั่นไส้   จะนอนกินบ้านกินเบืองไปอีกนานไหมยะ ยัยเร

                    ..อย่างกับฉันมีปัญญาทำอย่างนั้นได้น่ะ ถ้าเธอยังยืนหัวโด่อยู่อย่างนี้ เสียงพึมพำเบาๆดังลอดออกมาจากริมฝีปาก แต่ก็ไม่สามารถพ้นระยะหูของคนหูดีที่คบกันมาแต่เด็กได้

                    หน็อย ว่าใคร ห๊ะ !! ”  จินะที่ตอนนี้เปลี่ยนมายืนเท้าเอวอย่างเคืองๆ หันมามองคนที่ชอบกวนประสาทคนอื่นด้วยสีหน้าเรียบ แต่ก็ยังคงความกวนไว้ไม่หาย ที่กำลังหยิบชุดและอุปกรณ์อาบน้ำออกจากตู้เสื้อผ้า

                    ก็เธอไง จินะ นาคาจิม่า สาวอึด ถึก โฉด ฮ่าๆๆ

            เรกล่าวทิ้งท้ายไว้ แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว (และลืมว่าตัวเองขาเจ็บอยู่) โดยมีเสียงบ่นเป็นชุดตามปิดท้ายมา

     

                  ไม่นานนัก  ร่างบางในชุดเสื้อสเวตเตอร์คอเต่าสีเหลืองอ่อน กับกระโปรงสั้นเหนือเข่าลายสก็อตสีน้ำตาล มีเสื้อโค้ทสีขาวคลุมด้านนอกที่ยาวเกือบถึงเข่า ก็เดินออกมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่  เรยืนดูสภาพที่น่าสมเพชของตัวเองแล้วอดถอนหายใจไม่ได้เมื่อเหลือบมองผ้าก๊อตที่ปิดอยู่ตรงข้อเท้าด้านขวา  มือบางใช้หวีหวีผมลวกๆอย่างพอเป็นพิธี แล้วรีบเดินลงไปข้างล่าง เพราะคาดว่า ทุกคนคงรอเธออยู่ด้านล่าง เนื่องจากออกมาก็ไม่เห็นจินะรออยู่แล้ว

                        “ Good morning , everyone ”  เรทักด้วยสำเนียงอังกฤษอย่างปกติเช่นทุกวัน แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างจินะ ที่นั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมรออยู่

                         เร็วดีนี่  คำพูดเหน็บแนมที่ลอยมาตามลม ที่เรลองทำเป็นไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา แล้วใช้มีดหั่นอาหารเช้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างสนุกมือ

                         อืม จินะ เมื่อกี๊เธอพูดว่าอะไรเหรอ อาหารอร่อยใช่ไหมล่ะ

                         เปล่าซักหน่อย แค่ชมเธอว่าอาบน้ำเร็วดี  จินะพูดพร้อมหันมาส่งยิ้มพิฆาตให้ เรแสร้งพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนกัดตอบด้วยถ้อยคำเจ็บๆแสบๆแบบที่ถ้าไม่ใช่เธอคงทำไม่ได้

                          จะประชดก็บอกมาเถอะ ไม่มีใครว่าหรอกน่า จินะก็ ฮะๆๆ

                จินะได้แต่ส่งสายตาดุไปให้ เพราะทำอะไรไม่ได้มาก ก็ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นเจ้าบ้านอย่างเร ตอนนี้นี่นา แล้วคนร่วมโต๊ะนอกจากเธอกับเรแล้วก็ยังมี พี่เฟ คุณพ่อและคุณแม่ของเร แล้วอย่างเงี้ย จะให้เธอทำหน้ายังไงล่ะ

                          เร จำมารยาทบนโต๊ะอาหารได้ไหมจ้ะ น้องรัก เสียงเย็นของพี่เฟดังขึ้นแทรก บททะเลาะระหว่างสองสาวตัวป่วนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

                          “ … ”  คำตอบที่ได้กลับคือ ..เงียบ ซึ่งเรคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับตอนนี้  เธอยังจำได้ดี ในตอนนั้นที่ เธอแหย่กันไปมากับจินะ ระหว่างเวลาทานอาหารเช่นนี้ ทำให้เรต้องไปคัดมารยาทบนโต๊ะอาหารใส่กระดาษรายงาน 10 แผ่นเต็มหน้ากระดาษคนเดียว เพราะจินะซัง ถือว่าเป็น แขก ...  ใช่ แขก ไม่มีส่วนเอี่ยวในการลงโทษเช่นนี้  เรได้แต่ขบเขี้ยวในใจอย่างแค้น

                           ดีมาก เร คงจำได้ดีสินะ ฮิๆๆ

                                     เสียงหัวเราะอย่างร้ายกาจ ที่เธอกับจินะนึกกลัวอยู่ในใจ

                       ...เสียงหัวเราะที่ดังขึ้น พร้อมกับที่เธอเห็นหางปีศาจขนาดจิ๋วงอกออกมาทางด้านหลังของพี่เฟ ไม่วาย มีเขาโผล่มาอีก 2 ข้าง เอื๊อก  จะเอายังไงดีหว่า

                   เรรีบกลืนอาหารในปากให้หมดก่อนคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างขวาขึ้นจิบอย่างพอสง่างาม(ตามที่พี่เฟเคยบังคับไว้) แล้วฉีกยิ้มรับ ค่ะ

                            อะแฮ่ม.. เสียงกระแอมจากคุณพ่อที่นั่งทานอยู่หัวโต๊ะ ทำให้สาวๆรีบสงบปากสงบคำทันที  พ่อมีเรื่องดีจะประกาศด้วยแหละ ตั้งใจฟังกันนะ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว

                             คือว่า.. เสียงทุ้มที่เว้นจังหวะไปนิดนึง ทำให้เรชักคันปากยิบๆ อยากจะว่าก็ว่าไม่ได้ พ่อนะพ่อ ชอบทำให้ลุ้นอยู่เรื่อยเลย  เป็นการชดเชยความสุขให้กับคนป่วย ว่าพลางผายมือมายังเธอที่นั่งหน้าบูดอยู่

                             หนูไม่ได้ป่วยขนาดนั้นนะคะ คุณพ่อ

                              จุ๊ๆๆ  ตั้งใจฟังสิครับ สาวน้อย พ่อยกนิ้วขึ้นมาทำท่าจุ๊ๆที่ปาก แล้วพูดต่อด้วยสายตาดุแกมเอ็นดู  เพราะตอนที่เรนอนโรงพยาบาลไม่มีคนเฝ้าเลย และคงไม่สนุกแน่ แหงล่ะ ใครมันจะไปสนุกกันล่ะ ต้องนอนติดแหง็กอยู่ที่นั่น - -

                              พ่อก็เลยจะให้เรไปเที่ยวต่างประเทศกับจินะกัน 2 คน ดีไหมครับ

                               จริงเหรอคะ คุณลุง ไปประเทศอะไรเหรอคะ จินะยิ้มรับอย่างดีใจ เพราะยังไงก็ถือเป็นการฆ่าเวลาไปในตัว แล้วยังได้อยู่กับเรตลอดด้วย อะไรจะมีความสุขเท่ากับได้อยู่กับเพื่อนสนิทกันนะ

                               ประเทศไทย ลุงจะให้เรไปทำบุญกับเขาซะบ้าง เผื่อจะโชคดีขึ้นหน่อย 555

                               คุณพ่อ.. เรที่หน้าบูดอยู่แล้วยิ่งบูดกว่าเดิม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเนือยๆ แล้วจะให้ไปติดต่อธุรกิจอะไรอีกล่ะสิคะเนี่ย ประจำเลย

                                เปล่านะ พ่อแค่อยากให้เรกลับบ้านเกิดเมืองนอนซะบ้าง อยู่ที่นั่นอากาศก็อบอุ่น สบายกว่าที่อังกฤษนี่ตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ แล้วก็ไปเดินช้อปปิ้งกับหลานจินะ ไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ ไม่ดีเหรอ

                    เรครุ่นคิดตามคำบอกของผู้เป็นพ่อ นัยน์ตาสีน้ำตาลทองฉายประกายเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแล้วจางหายไป เธอแสร้งทำท่าถอนหายใจออกมา พูดด้วยน้ำเสียงติดจะงอนๆว่า บ้านเกิดหนูที่ไหนคะ คุณพ่อ หนูน่ะ ก็เกิดที่นี่ โตที่นี่ไม่ใช่เหรอคะ

                                อ่ะครับ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ติดกับ เรคิดพลางยิ้มในใจ แต่ว่า ก็เป็นบ้านเกิดของคุณแม่เขานา ไม่อยากไปเยี่ยมญาติบ้างเหรอ

              ..อึ้ง  จากรอยยิ้มดีใจกลายเป็นรอยยิ้มเหี่ยว

                   จากตอนนี้ ผู้อ่านทุกท่านคงงงสิคะ ทำไมสาวเรของเราจึงมีอาการเช่นนี้ ลืมบอกไปค่ะ คุณแม่ของเรที่เป็นคนไทยได้ลาโลกนี้ไปแล้วตั้งแต่เรยังเด็กค่ะ ตอนนี้เรก็อยู่กับคุณพ่อ และพี่สาว พร้อมทั้งคนรับใช้(พี่เลี้ยง)อีกเต็มบ้าน บางครั้งเรก็ดูเหงาๆบ้างค่ะ

                                ให้ไปเยี่ยมญาติคุณแม่เหรอคะ นี่คือจุดหมายที่แท้จริงของคุณพ่อรึเปล่าเนี่ย

                      ผู้เป็นพ่อส่งยิ้มเจื่อนมาให้ พร้อมหัวเราะ แหะ ๆ น่า ไม่ใช่หรอก ยังไง พ่อก็จะให้เรไปค้างบ้านญาติของคุณแม่อยู่แล้วแหละ จะได้มีคนคอยดูแล

                                แต่ว่า ที่ไทยก็มีคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลอยู่บ้างไม่ใช่เหรอคะ คุณพ่อ

                                ไม่มีคนไปอยู่นาน ฝุ่นจับนิดหน่อยน่ะ ลูกรัก

                                 ก็ให้คนไปทำความสะอาดได้นี่คะ หนูน่ะ ไม่ได้เรื่องมากซะหน่อย

                                 พนักงานที่นู่นเขาลาหยุดกันน่ะ เร ไม่ได้หรอก

                                 งั้นก็ให้คนของที่นี่สิคะ ยังไงพ่อก็ต้องให้พวกเขาตามหนูไปอยู่แล้วนี่นา

                                 เขาก็มีงานของเขาสิ พ่อก็บอกแล้วนี่ว่า ลูกไปกับจินะ แค่ 2 คนน่ะ

                 ให้มันได้งี้สิ !!

                                  งั้นเดี๋ยวหนูทำเองได้ค่ะ คุณพ่อ พี่เฟสอนมาหมดแล้ว หนูทำเป็นทุกอย่างหมดทั้ง กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ตากผ้า รีดผ้า พับผ้า ทำอาหาร เก็บผ้า นะคะ !! ”

                                   เอ่อ..

                                   ไปอยู่บ้านคุณลุง พาลจะรบกวนเอาเปล่าๆ บ้านเราก็มีนี่คะ คุณพ่อ หนูก็พอดูแลตัวเองได้แล้วนะคะ ยังไงก็มีจินะอยู่ เรเริ่มเบาเสียงลง ก่อนจะใช้กลวิธีค่อยๆตะล่อม

                                   มันก็จริง เย้  เสร็จแล้ว ขึ้นหนึ่ง แต่ว่า..

                                   ว่า.. ?

                                   มันก็ไม่มีผู้ใหญ่คุมอยู่ดีนี่ เร อันตรายออก โจรใต้ยิ่งชุมอยู่ไม่ใช่เหรอ

                  โธ่ ไรกัน กับเรื่องแค่เนี้ย

                                   คุณพ่อคะ บ้านเราอยู่กรุงเทพนะคะ ไม่ใช่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

                                   เฮ้อ ตกลง ได้ก็ได้ ให้เรอยู่ที่คฤหาสน์ของเรากับจินะได้ แต่ว่า ห้ามซนเป็นอันขาด ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้น รีบติดต่อคนของเราทางนู้นทันที ถึงเขาจะลางาน แต่ถ้ามีเรื่องด่วน พ่อว่าเขาคงช่วยลูกได้นะ

                   เย้ !!!!  ไม่มีอะไรจะแฮปปี้เท่านี้แล้ว โฮะๆๆ ในที่สุดฉันก็จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับจินะกัน 2 คน  ที่ไทยจะเป็นยังไงบ้างน้า ไม่ได้กลับไปนานแล้ว ยังมีคฤหาสน์สีขาวหลังงามอีก คิดถึงจังเลย ตอนนี้ก็เดือนเมษายนอยู่ กว่าโรงเรียนจะเปิดก็นู่น เดือนหน้า พฤษภาคม ยังมีเวลาเหลือให้เที่ยวอีกตรึม ครั้งนี้จะไปเที่ยวให้คุ้มเลย ( ไปถ่ายรูปแต่ของแล้วไม่ซื้อกลับมาสิไม่ว่า : คนเขียน )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×