ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยหมอโรคจิตกับนายวิปริตสุดหล่อ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ-เรื่องราวภายใต้ความเจ็บปวด(จบตอน)

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 51


           
          
                                  

               

    ผลการตรวจออกมาแล้วค่ะ นี่ค่ะ 

                   พี่พยาบาลสาวสุดสวยเดินเข้ามาหาฉันซึ่งนั่งตาใสแป๋วอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน  อันที่จริงฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนักหรอกนะ แต่ว่า มันไม่มีที่ไปดีๆนั่นเอง   >.<  อนาถดีไหมล่ะ..คนเรา  ญาติฉันซึ่งทำงานเป็นพยาบาลรุ่นพี่ก็เลยเอามาฝากที่นี่ ให้ฉันมองดูผู้ป่วยที่อาการหนักจริงๆแหละ เข้ามาแล้วผ่าตัด ฉันเสียดายมากมายที่พวกพี่ๆเขายืนบังกันหมด ทำให้ฉันมองไม่เห็นแผล เลยไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เสียทีว่ากลัวหรือไม่อย่างไร

               โชคดีที่เชื้อยังลามไปไม่ถึงกระดูกไม่งั้นเป็นเรื่องกว่านี้ค่ะ แต่ว่าผลเอ็กซเรย์ที่ได้นี่ขอเก็บเป็นตัวอย่างเป็นกรณีแรกที่เจอนะคะ

     

                    เอาเถอะค่ะ  พี่จะเอาผลไปทำอะไรก็ได้เถอะค่ะ แต่ตอนนี้หนูชักอยากนอนเต็มที

     

                เรรินา เดี๋ยวนอนที่นี่นะ คุณหมอสั่งให้อยู่ดูอาการก่อนน่ะ   นั่นไง ได้นอนสมใจจริงๆเลย คุณอาของฉันเดินเข้ามาหาหลังจากคุยเรื่องผลการตรวจของฉันจากใบเอ็กซเรย์เสร็จ ดีนะที่เมื่อวานหลังจากกลับจากไปต่างจังหวัดมา คุณพ่อก็ให้ฉันนอนค้างที่บ้านคุณอาเพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลได้สะดวก แล้วคุณอาก็ให้ฉันเตรียมเสื้อผ้ามาเผื่อด้วย

                     จะว่าไป ก่อนที่ฉันจะมาตรวจนี่นะ เมื่อคืนก่อนฉันก็ไปผ่าตัดมาที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ผ่าเสร็จก็เดินพอได้(มั้งนะ) ถ้าไม่ติดที่ว่าชานิดๆ  ถ้าบอกไปจะเชื่อไหมล่ะ ว่าฉันไม่กลัวเข็มอะไรเลย ไม่ร้องไห้ด้วยแหละ ^^  ฉันภูมิใจมากมายเลยล่ะ ฮะๆๆ  (ดีใจที่เป็นคนเก็บกดน่ะเหรอยะ : คนเขียน)  แต่ว่า พอตื่นเช้ามา โอ้ คุณพ่อขา ขาหนูน่ะ ทำไมมันเป็นเช่นนี้ -*-  จากที่เคยไปเรียนทุกวันๆ  กลับต้องนอนอยู่บ้าน ฮึ่ม..!!

     

                 ค่ะ   เรพยักหน้าตอบอย่างเหนื่อยใจ เพราะยังไงก็รู้ชะตากรรมชีวิตตัวเองอยู่แล้ว ก่อนจะต้องล้มตัวลงนอนบนเตียงเมื่อคุณอาบอกว่าจะมีคนมาฉีดน้ำเกลือให้ห้อยเป็นสายโยง

     

                  ไม่เจ็บใช่ไหมคะ ?   พี่พยาบาลที่พึ่งประทุษร้ายฉันไปหยกๆถามขึ้นพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆมาให้  เหอะ..   แต่แน่นอน  เด็กเรียบร้อยอย่างฉันต้องไม่ตอบไปอย่างนั้น

                  ค่ะ

                  เก่งจังเลย   โธ่ พี่คะ  หนูน่ะไม่ใช่เด็กประถมแล้วนะคะ เรื่องแค่นี้สำหรับหนูน่ะ จิ๊บๆค่ะ

     

                        ซักพัก หลังจากที่ทุกอย่างพร้อม คนเข็นเตียงก็เดินเข้ามาเข็นฉันไปขึ้นไปยังตึกใหม่ของโรงพยาบาลนั้น ไปยังหน้าห้องที่ญาติฉันทำงานแหละ สะดวกดีไหมล่ะ เส้นใหญ่ชะมัดเลยเนอะ ^^ และแล้วร่างบอบบางของเด็กสาวก็ถูกเคลื่อนลงเตียงโดยตัวเธอเอง ก็ฉันยังปกติดีอยู่นี่นา ถ้าไม่นับที่เท้านะ  ยังไงก็ อย่าเอาฉันไปรวมกับคนพิการสิ มันไม่ดีนะ

     

                    เร นอนตรงนี้นะ  แล้วพรุ่งนี้จะให้ลุงมาหาเปล่า ? จะได้โทรไปบอกให้เอาเสื้อผ้ามาเพิ่มอีก  อ่ะ มีโทรศัพท์เปล่า ? โทรไปบอกลุงนะ

                   มาก็ได้ค่ะ เรมีมือถืออยู่ในกระเป๋าเล็กอ่าค่ะ

                   อืม กระเป๋านี่ใส่ลิ้นชักตรงหัวเตียงไว้นะ จะเอาอะไรก็กดออดนะ ไปทำงานต่อก่อนละ

                   ค่ะ

                   แล้วพอตอนหมอมาตรวจ อย่าลืมบอกเขาด้วยนะว่าเป็นอะไร

                   ค่ะ

                   แล้วอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม   เรพยักหน้ารับ ก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบหนังสือนิยายที่ถือติดมือมาหนึ่งเล่มมาเปิดอ่าน หลังจากคุณอาฉันเดินไปทำงานต่อ...

     

             หลายวันผ่านไปไวเหมือนโกหก ถ้าไม่ได้ไปนั่งๆนอนๆอยู่บนเตียงที่แทบไม่มีอะไรเลยล่ะนะ หนังสือนิยายหนึ่งเล่ม สมุดเปล่า 1 เล่ม ปากกา 1 แท่ง หนังสือธรรมะจากคุณป้าที่เป็นพยาบาลอีก 1 เล่ม  นอกนั้นก็ เหยือกน้ำเปล่า แก้ว 1 ใบ  โคมไฟบนหัวนอนที่ฉันเปิดไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงต่อ 1 วัน เวลานั่งอ่านหนังสือ ไม่ก็แต่งนิยายมันก็เพลินดีเหมือนกัน ถ้าไม่นับว่าจะติดสายน้ำเกลือไปหน่อยหรอกนะ  อ้อ จะเล่าหน่อยดีไหมล่ะ ว่าตอนที่โดนแทงเข็มเข้าเนื้อไปน่ะ พี่พยาบาลเค้าแทงผิดไป 3 รอบมั้ง นับรวมทั้งหมด เดี๋ยวใหญ่เกิน ไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่บ้าง เฮ้ออ..  และแล้ว ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องจากสถานที่แห่งนี้ไป หลังจากที่..

    1.       เตียงของคนตรงข้ามด้านหลังฉันเสียไปเมื่อคืนก่อน

    2.       ฉันนอนค้างอย่างน่าเบื่อมาแล้ว 5 วัน 4 คืน อยากเรียนมาก ขนาดพ่อเอาหนังสือเรียน ชีทมาให้อ่านแล้วนะ

    3.       วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ญาติฉันกลับต่างจังหวัดเช่นเคย ฉันเลยอยู่อย่างไม่มีใคร

    4.       คนรอบข้าง เตียงอื่นๆ เขาเข้ามาแล้วออกไปก่อนฉัน 2-3 รายแล้ว

    5.       เตียงตรงข้ามเยื้องๆ คืนหนึ่ง เกิดหัวใจล้มเหลว ต้องปั๊มตั้งนาน ฉันตื่นมาดูด้วยความตื่นเต้นประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ถึงตีหนึ่ง

    6.       ฉันต้องเดินอย่างคนแก่ไม่ก็ใกล้พิการเต็มที่ เพราะใช้ walker ช่วยเดิน ที่มันมี 4 ขาน่ะ สะดวกดีมากเลย เอาเหอะ ดีกว่าใช้ไม้เท้าธรรมดาละกัน

     

                      ฉันหวังอย่างยิ่งว่า คงไม่ต้องสาธยายความที่มันฟังไม่ขึ้นให้ฟังหรอกนะคะ แล้วฉันก็ได้กลับบ้านสมใจ ด้วยรถคันหรูของบ้าน  ในที่สุด.. คอมจ๋า เน็ตจ๋า  เรรินากลับมาแล้วน้า (คุยไว้อย่างดีว่าอยากเรียน แต่กลับถามถึงแต่ของเล่นก่อนนี่นะ ใช้ไม่ได้เลย หนูเรรินา : คนเขียน)

     

           ณ คฤหาสน์หลังงาม

           

                  หวัดดีฮะ พี่สาว เรรินากลับมาแล้ว เย้~ ”

                  ซ่าได้ไม่เปลี่ยนเลยนะ แล้วเป็นไงบ้างล่ะ พี่สาวสุดสวยเงยหน้าขึ้นจากแป้นพิมที่กำลังพิมจึ๊กๆอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มาทักทายเรที่เดินกะเผลกๆเข้าบ้านมา

                   อ๊ะ แน่นอนอยู่แล้ว ..โอ๊ยยยยย  เจ็บ เด็กสาวแหกปากตะโกนสุดเสียงเมื่อเหยียบขอบประตูที่เป็นบานกระจกเลื่อนกั้นห้องคอมไว้เต็มๆ ก่อนจะหันไปมองมันอย่างอาฆาต -*-

                   เหอๆๆ ไม่ทันไรเลย น้องเรา

                   โห่ พี่ ไม่ต้องเลย นี่ เล่นบ้างดิ

                   ..ไปอ่านหนังสือเรียนไป ^^ ”  เชอะ เด็กน้อยโดนไล่ ไปก็ได้ฟะ  

     

            ว่าแล้วก็เดินจากไปอย่างเคืองๆ  ช่างเหอะ หาไรทำอย่างอื่นก็ได้   ลัล ล้า~  ฟุตฟิตๆๆ นั่นกลิ่นไรเอ่ย หอมจังเลย  อะฮ้า จมูกฉันไวเหมือนหมาเลยใช่ไหมล่ะ (ภูมิใจดีไหมเนี่ย)

                   ป้าคะ วันนี้ตอนเย็นมีอะไรเหรอคะ   เรเดินกะเผลกๆต่อเข้าไปในครัวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  ก็แหม มันหอมขนาดนี้ ใครจะไปอดใจไหวกัน               

                   อ้าว คุณหนู ป้าได้ยินเหมือนกันว่าออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว อย่าไปวิ่งซนที่ไหนอีกนะคะ เดี๋ยวต้องโดนผ่าตัดอีก ป้านี่เสียววาบแทนเลย แล้วไปโดนอะไรมาเหรอคะ

                    ไม่รู้ค่ะ  ต่อให้แผลหนูหายเลย หนูก็คงตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นอะไร -*- รู้แต่ว่า อยู่ดีๆ ก็มีตัวอะไรมากัด แล้วมันก็คัน คันแล้วมันก็เกาสนุกเลย ฮะๆ จากนั้นมันก็บวมๆ จนหนูเดินไม่ได้ค่ะ ปวดขาไปหมดเลย ขึ้น-ลงบันได ลำบากมากกก..

                     ค่ะ หายเร็วๆนะคะ  เพื่อเป็นการฉลอง ป้าทำของโปรดคุณหนูให้ทานดีไหมคะ มีซุปข้าวโพดด้วย แล้วก็เนื้ออบกับสลัดนิดหน่อยค่ะ  อ้อ แถมมันบดด้วยดีไหมคะ ?

                      เย้  หนูรักป้าที่สุดเลย  เอ่อ..หนูขอไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะ

              คุณป้าที่เป็นแม่ครัวประจำคฤหาสน์เรรินาตั้งแต่เด็ก หันมามองอย่างแปลกใจพลางเอ็นดู

                      เอ๋ ?  ให้คนอื่นทำก็ได้นี่คะ  คุณหนูน่าจะไปนั่งพักผ่อน ไม่ต้องเดินให้มากหรอกค่ะ ป้าพึ่งสังเกต ขายังบวมๆอยู่เลยนี่คะ

                       ไม่เป็นไรค่ะ หนูสบายอยู่แล้ว แหม.. ป้าทำอย่างกับหนูเป็นคนป่วยน่ะค่ะ ไปก่อนนะคะ    เรรีบส่ายหน้าก่อนจะจ้ำพรืดๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโดนดูแลแบบเด็กอีกต่อไป แต่หูเจ้ากรรมแสนดีก็ยังได้ยินอีกแน่ เยี่ยมจริงๆ

                        ค่ะ อย่าไปซนให้มากนะคะ ..คุณหนูเรรินา

     

              แสงแดดอ่อนๆยามเย็นส่องลอดมาทางหน้าต่างของบ้านกระทบเข้ากับใบหน้าของเด็กสาวยามที่ฉันผลักประตูเข้าไป ชุดเครื่องนอนพร้อมผ่าม่านสีขาวๆครีมๆที่เป็นสีโปรดสะท้อนเข้าสู่สายตา อ่า.. ห้องนอนอันแสนสุขที่เธอเริ่มนอนคนเดียวตั้งแต่ฉันอายุ 10 ขวบ  เรยิ้มให้กับตัวเองนิดๆ แล้วต้องถอนหายใจยาวอีกหลายเฮือกเมื่อเหลือบไปมองกระเป๋าและกองหนังสือที่เหลือค้างไว้ต้องจัดการให้เสร็จ  สมองก็คิดได้หรอกนะว่า ควรเอาของออกจากกระเป๋าให้หมดก่อนแล้วค่อยจัดการหนังสือทีหลัง แต่ก็.. หนังสือมันน่าสนใจกว่านี่เนาะ  แล้วมือน้อยๆอันแสนซนของเรก็เอื้อมไปหยิบเข้าจนได้ 

                         หลักการปกครองที่ดีโดย...

                  หญิงสาวอ่านชื่อเรื่องอย่างประหลาดใจ ก่อนจะโดนขัดจังหวะเพราะเสียงพี่สาวที่ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง แถมดูเหมือนจะใกล้ขึ้นมาทุกทีแล้วสิ

                          เร รื้อกระเป๋าเสร็จยัง ?

                          “ … ”  เรมองหลักฐานที่ถืออยู่คามือก่อนตัดสินใจอ่านต่อไป ในเมื่อมันได้ประโยชน์กว่านี่นา ( โง่เปล่าเนี่ย จะโดนฆ่าอยู่แล้ว ไม่รู้เหรอไง : คนเขียน )

                          ..เรรินา  ทำไมไม่รีบทำให้เสร็จก่อน หนังสือเดี๋ยวค่อยอ่านก็ได้ มันไม่หายไปไหนหรอก รีบๆรื้อเข้าสิ เดี๋ยวปล่อยไว้นาน เสื้อผ้าหมักหมมเดี๋ยวขึ้นราอีก แล้วจะซักยาก ลำบาก มีเรื่องขึ้นอีกเยอะ รีบๆทำเข้าด้วย  อ้อ  ถ้าจะอ่านหนังสือ นู่น ชีววิทยา ไม่ใช่จิตวิทยา !! ”

                          ค่ะ ชี-วะ-วิด-ทะ-ยา

         

                 พี่เฟลินาขยับยิ้มอย่างเหี้ยมๆ แล้วเดินมานั่งบนเตียงนุ่มของเธอ ช่วยรื้อกระเป๋า หยิบเอาชุดที่ใส่แล้วออกไปใส่ไว้ในตะกร้าสำหรับให้แม่บ้านซัก ส่วนชุดที่เหลือก็ใส่ไม้แขวนแขวนไว้ในตู้อย่างดี ไม่ก็ พับเก็บไว้เป็นส่วนๆ  พี่เฟน่ะ ชอบเรื่องแบบนี้เสมอแหละ เธอน่ะ ชอบดูพี่เขาทำงานจะตาย

                          เราน่ะ รู้ว่าเจ็บตัวแล้วก็ยังจะดันทุรังทำดื้ออีก ขยับตัวไม่สะดวกก็บอกพี่สิ

                          ก็พี่ไม่ว่างอยู่นี่นา อีกอย่าง เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก เสียงเถียงจากคนที่ดูเหมือนจะสำนึกดังขึ้นมาอ่อยๆ แต่ก็รีบแก้ตัว ก่อนที่จะถูกคนมองไปในทางแง่ดีอีกครั้ง

                          เดี๋ยวเถอะ.. เร ดูแลตัวเองบ้างสิ เราน่ะโตแล้วนะ

                          ค่ะ เรก็ช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งเยอะนี่นา จานก็ล้างได้ บ้านก็กวาดได้ ถูได้ ผ้าก็ซักได้ ตากได้ พับได้ รีดได้ ไม่จริงเหรอคะ พี่เฟ

                           ใช่ เรื่องนั้นเราต้องทำให้ได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะอยู่สบายเป็นคุณหนูก็เถอะ แต่พี่ไม่ยอมให้เรทำงานบ้านไม่เป็นหรอก แต่เรื่องนี้ พี่หมายถึงให้เราดูแลตัวเองดีๆ สุขภาพร่างกายน่ะ อีกไม่กี่สิบปีก็จะต้องเป็นหมอเต็มตัวอยู่แล้วนะ

                           ..แค่ตัวเองยังดูแลไม่ได้ แล้วคนไข้อีกมากมายจะดูแลได้ไง ใช่ไหมคะ ใบหน้าที่ง้ำลงของเรเพราะโดนดุขยับยิ้มนิดๆกับประโยคที่เคยได้ยินมาแล้วนับสิบๆครั้ง

                           จำได้แล้วก็ดีนี่  พี่เฟ หยุดพูดพร้อมกับที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เอาล่ะ กระเป๋านี่พี่เก็บไว้ตรงนี้น่ะ  เรก็อ่านหนังสือไปละกัน อาหารเย็นจะเอายังไง ฮะ สาวน้อย

                           เรลงไปกินเองได้ค่ะ ค่อยๆเกาะลงไปก็ได้ เรยิงฟันใส่พี่สาวที่ทำท่าจะออกไป

                           จ้า ขยันเข้านะ

     

                พี่เฟไปแล้ว พร้อมกับความเงียบสงบที่ครอบคลุมห้องอีกครั้ง  เด็กสาวทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือของตน  มือบางไล้ไปตามกรอบรูปของตนกับกลุ่มเพื่อน รอยยิ้มจริงใจที่มักไม่ค่อยได้แสดงออกมาประดับอยู่บนใบหน้างามยามดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังภาพที่เก็บความทรงจำเก่าๆเอาไว้  เวลาหลายนาทีผ่านไป ก่อนเธอจะสำเหนียกตนได้ว่าควรทำไร หนังสือวิทยาศาสตร์กองโตจึงถูกเปิดขึ้นทีละหน้า ..และทีละหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×