ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Arthos Fantasy Tales. ผจญภัยต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 : ต่างโลก

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 57


                    แสงแดด เสียงนกร้อง และธรรมชาติอันสงบสุข ที่แห่งนี้มัน....

     

                    “เฮ้ยๆๆ”ชายหนุ่มร้องออกมา แล้วมองไปรอบๆด้วยความงุนงง “ที่นี่ที่ไหนวะ”

     

                    เขายืนอยู่ในสถานที่แปลกๆแห่งหนึ่ง มันเป็นเหมือนกับป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณอายุเกินร้อยปี พูดง่ายๆคือขนาดของต้นไม้นี่ประมาณสิบยี่สิบคนโอบเป็นอย่างต่ำเกือบทุกต้น เหมือนกับโลกในจินตนาการ โลกในเกม โลกในนิยาย อะไรแบบนี้เลยละ

     

                    ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือเขากำลังเมาตุปัดตุเป๋เนื่องจากฉลองงานวันแต่งงานของเพื่อน แล้วคุ้นๆว่าได้สาวควงไปนอนที่โรงแรม หลังจากเสร็จกิจธุระเสร็จก็ตั้งใจว่าจะขอนอนซักตื่นก่อน แต่พอตื่นขึ้นมานี่ก็พบว่าตัวเองกำลังนอนกอดกับก้อนหินก้อนหนึ่งอยู่ แล้วตื่นขึ้นมาในถ้ำตื้นๆที่พอเดินออกมาก็เป็นป่าแห่งนี้นี่แหละ!!!

     

                    แล้วยังชุดอีก!!

     

                    เขาสำรวจตัวเองอย่างคร่ำเคร่ง จำได้ว่าตอนนอน ตูเปลื้องผ้าไม่ใช่เหรอวะ แล้วทำไมชุดที่ใส่มานี่มันอะไรเนี่ย กางเกงผ้าสีดำจากหนังสัตว์ตัดเย็บลวกๆไร้รสนิยม เสื้อฝ้ายปอนด์ๆสีเทา แล้วก็เสื้อหนังสัตว์ที่สวมทับนี่ก็แปลกๆ แถมใส่รองเท้าบูธด้วย

     

                    ข้างกายมีดาบเก่าๆเล่มหนึ่งทิ้งอยู่ ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบเก็บมาถือเอาไว้ทันที ในโลกแปลกๆนี้ อย่างน้อยของมีคมก็ทำให้อุ่นใจได้ระดับหนึ่งละ คำปลอบโยนในใจตัวเองดังขึ้นเบาๆ แล้วเหลือบไปเห็นของแปลกๆอย่างหนึ่งบนพื้นพอดี

     

                    มันอยู่ข้างๆดาบที่ทิ้งไว้กับพื้น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาอ่าน เป็นหินขนาดสี่เหลี่ยมสีดำสนิทใหญ่เท่าไพ่ใบหนึ่ง สลักอักษรแปลกๆเอาไว้ในนั้น แต่น่าแปลกคือทำไมเขาถึงอ่านมันออก และเข้าใจความหมายในอักษรอย่างง่ายดาย

     

                   

    ชื่อ : วศิน อาทิตยาทิพย์

    ระดับ : 1

     

    แต้มค่าสถานะพิเศษที่คงเหลือ : 0

     

    สถานะปัจจุบัน

    กล้ามเนื้อ : 8

    ความคล่องตัว : 17

    พละกำลัง : 16

    ความเร็ว : 15

    การฟื้นฟู/ความอึด : 22

    ประสาทการตอบโต้ :

    สมาธิ : 14

    พลังพิเศษ : 4

     

     

    สกิลพิเศษติดตัว

    (Unique)โลกที่เวลาแทบจะหยุดเดิน : เพิ่มความสามารถในการตอบโต้ให้ถึงสุดขีดของความสามารถ สามารถมองเห็นทุกอย่างช้าลงหรือแทบหยุดเวลาลงไป และหากผู้ใช้มีความสามารถเพียงพอก็จะสามารถตามความเร็วที่ตัวเองมองเห็นได้

     

     

                    “เฮ้ยยยยยย”เขาตะโกนออกมา “ไอ้สกิลที่เหมือนในเกมนี่มันอะไรวะ แถมยังโกงบรรลัยด้วย”

     

                    วศิน อาทิตยาทิพย์ นั่งทิ้งตัวขัดสมาธิบนพื้นหินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถ้าลองสมมุติดูว่านี่เป็นความฝันก็คงจะดีหรอก แต่วศินเคยฝันเป็นตุเป็นตะมาก่อน ความรู้สึกความทรงจำจะต่างกับความรู้สึกเหมือนจริงแบบนี้มาก นี่มันเหมือนกับชีวิตจริงมากกว่า

     

                    “สมมุติ นะสมมุติ”วศินสูดลมหายใจ พูดกับตัวเอง “ว่านี่เป็นความฝัน ก็ถือว่าดีไป.. แต่ให้คิดถึงแง่ร้ายที่สุดก่อนว่านี่เป็นโลกแฟนตาซีแบบนิยายต่างมิติที่เคยอ่านตอนเด็กๆอะไรแบบนี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน”

     

                    ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ ถ้าฝันก็ดีไป ถ้าเรื่องจริงก็ถือว่าซวยไป ค่อยมานั่งจิตตกทีหลัง ท่ามกลางจิตใจที่สับสน วศินตัดสินใจแน่วแน่อย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นคนคิดเร็วทำเร็วแต่เด็ก พอโตขึ้นมาก็ยังคงลักษณะนิสัยนี้ไว้ไม่เปลี่ยน แต่ที่มีเพิ่มขึ้นมาคือความสามารถในการยอมรับเหตุการณ์ ที่ถูกฝึกมาจากการเรียนรู้สังคมในวัยทำงานนั่นแหละ

     

                    วศินกลับมาพิจารณาสถานะในแผ่นหินสีดำอีกครั้ง ไอ้ค่าสถานะที่ขึ้นๆมาทั้งหมดน่ะ ตัวเขาทุกอย่างเลยยกเว้นค่าพลังพิเศษ กับ ประสาทการตอบโต้ ที่อันนึงไม่ควรมีในโลกนี้ อีกอันก็คือโกงเกินไป ไอ้เครื่องหมายอินฟินิตี้หน่ะ มันจะสุดยอดเกินไปไหม

     

                    ส่วนค่าสถานะอย่างอื่นถ้าวัดกันก็จะเห็นตามจริง วศินเป็นชายหนุ่มที่หมั่นเข้าฟิตเนส และที่เขาชอบเล่นไม่ใช่กล้ามเนื้อ แต่เป็นประเภทคาดิโออย่างวิ่งเป็นส่วนใหญ่ แล้ววันเสาร์อาทิตย์ วศินก็ชอบวิ่งเป็นเวลานานๆที่สวนสาธารณะด้วย ดังนั้นค่าสถานะที่เห็นนี่น่าจะเป็นของจริงได้

     

                    แล้วระดับละ

     

                    วศินถามตัวเองอย่างข้องใจ หรือว่าโลกแห่งนี้จะพัฒนาตัวเองจากการเพิ่มระดับ เก็บเลเวล ฆ่ามอนสเตอร์ ? แล้วก็เอาแต้มไปอัพค่าสถานะ แบบนี้จะเพิ่มกล้ามเนื้อจากการยกน้ำหนัก เพิ่มความเร็วจากการฝึกวิ่ง อะไรแบบนี้ไม่ได้เลยเรอะ?

     

                    แต่คิดไปก็ปวดหัว ตอนนี้เขาไม่มีกุญแจที่ใช้ไขคำตอบอยู่ในมือ ดังนั้นลองทดสอบสิ่งที่ง่ายที่สุดก่อน ก็คือทักษะประจำตัว นั่นก็คือทักษะโลกที่เวลาแทบหยุดเดิน ไม่รู้ว่ามันใช้ยังไง

     

                    วศินกะน้ำหนักไพ่หินสีดำในมือ แล้วโยนขึ้นไปสูงๆ เลยระดับสายตาเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดว่า

     

                    “โลกที่เวลาแทบหยุดเดิน”

     

                    ตุบ....

     

                    ศิลตกกลับมาอยู่ในมือของเขา ชายหนุ่มขมวดคิ้วเพราะไม่ได้ผล หรือว่าต้องแบบในหนัง ตั้งสมาธิเพ่งสายตาเอาไว้ หรือที่เรียกว่า Focus

     

                    วศินเคยได้ยินว่านักเทนนิสระดับโลกนั้นตอนที่จะตั้งรับลูกเสิร์ฟของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะลูกที่เร็วระดับ 200กิโลเมตรขึ้นนั้นต้องมีพลังสมาธิและพลังสายตาสูงมาก บางทีเหมือนชั่วขณะหนึ่งอยู่ในโลกที่ช้าลง มองเห็นเส้นทางการเคลื่อนที่ของลูกเทนนิสได้เลยก็มี

     

                    โดยส่วนตัวแล้วทฤษฏีนี้น่าสนใจกว่ามาก วศินสูดลมหายใจลึกๆ ตั้งสมาธิจดจ่อสายตาไปกับไพ่หินสีดำ ก่อนที่จะโยนขึ้นไปอีกครั้ง คราวนี้เหมือนว่าเขาจะเห็นมันชัดเจนขึ้นและหินค่อยๆลอยขึ้นและลงช้าลง แต่ก็ยังไม่มาก ระดับพวกนี้เหมือนกับพวกที่คนทั่วไปเพ่งสมาธิหน่อยก็ทำได้

     

                    “อาจจะเป็นการหลอกตัวเอง ลองอีกหลาบๆรอบ”เขาสรุปอีกครั้ง

     

                    วศินลองหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการโยนหิน ปล่อยดาบให้ตกลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง พอทำหลายครั้งเข้าก็มั่นใจขึ้นว่านี่ถูกทางแล้ว แถมยิ่งทำวศินยิ่งรู้สึกเหมือนตอนหัดปั่นจักรยาน พอเริ่มปั่นเป็นแล้วเขาเองก็เหมือนจะรู้ว่าจะใช้งานยังไง

     

                    เพราะตอนนี้เขาทำได้ถึงขั้นทำให้ภาพกลายเป็นแบบสโลว์โมชั่นเหมือนในหนังได้แล้ว ถ้าได้ถึงขั้นนี้ก็คงจะพอหากินได้ระดับนึงละ

     

                    วศินยิ้มในใจ แล้วคว้าดาบในมือมาถือ ลองเอาดาบหวดลมประมาณสิบครั้งให้รู้สึกชินมือ เมื่อก่อนสมัยนักเรียนเขาเคยเรียนเคนโด้มาจนถึงขั้นอาจารย์ให้ลองไปแข่งในระดับเขตดู ถึงจะผ่านไปแค่สองคน ก่อนที่จะจอดไม่ต้องแจวในคนที่สามก็ตามเหอะ แต่ก็ถือว่าพอมีพื้นฐานละนะ

     

                    “ลองดูแล้วกัน”

     

                    วศินเดินช้าๆตั้งท่าจับดาบด้วยมือข้างเดียวอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเคยเกณฑ์ทหารมาก่อนทำให้พอมีวิชาติดตัวพอสมควรในการเอาตัวรอด แต่พอเดินไปได้ไม่ไกลนัก เขาก็ได้ยินเสียงเดินแหวกหญ้าดังขึ้นเบาๆ

     

                    วศินตื่นตัวทันที ประสาทสัมผัสบอกเขาเองว่ามีบางสิ่งที่รูปร่างใหญ่โตสี่ขากำลังกระโจนมาทางเขา และทางหลบของเขาคือด้านซ้ายมือเท่านั้น ถ้าไปด้านขวาจะติดต้นไม้

     

                    โลกค่อยๆช้าลง วศินเอี้ยวตัว ใช้ขาข้างนึงยันต้นไม้ อีกข้างยันพื้น แล้วถีบตัว แล้วเขาก็มองเห็นไอ้ตัวที่กำลังจะมาล่าเขา มันคือ...

     

                    แรปเตอร์!!

     

                    โลกนี้มีไดโนเสาร์ด้วยเว้ย

     

                    แต่เป็นไดโนเสาร์ที่อืดเป็นเต่าคลานเป็นบ้า เหมือนกับร่างกายของเขาที่ค่อยๆเคลื่อนที่ช้าๆเช่นกัน วศินตวัดดาบสวนไปตามเส้นทาง หวัดให้ฟันคอให้ขาดด้วย น่าประหลาดที่ดาบมีความเร็วกว่าความเคลื่อนไหวอย่างอื่นมาก เพียงพริบตาเดียวดาบก็ตัดฉับผ่านคอของมัน พร้อมกับร่างของวศินกลิ้งขลุกๆอยู่บนพื้นหญ้า

     

                    “โอ้ย นี่สินะที่เรียกว่าฝืนกล้ามเนื้อ”วศินร้องออกมา พลางบิดไหล่ไปมาหลายครั้งเพราะปวดเมื่อยจากแรงที่ฟันเมื่อกี้ “ฝืนฟันดาบด้วยความเร็วขนาดนั้น คงเร็วจนเจ้าแรปเตอร์นั่นได้แค่มองตาถลนละมั้ง”

     

                    ชายหนุ่มเหลือบมองเจ้าไดโนเสาร์ที่ขนาดตัวยาวสองเมตร บัดนี้คอของมันขาดตกใกล้ๆ ส่วนตัวของมันล้มลงข้างๆหัวของมัน

     

                    วศินหยิบเอาแผ่นศิลาขึ้นมาดูอีกครั้ง

     

                   

    ชื่อ : วศิน อาทิตยาทิพย์

    ระดับ : 2

     

    แต้มค่าสถานะพิเศษที่คงเหลือ : 1

     

    สถานะปัจจุบัน

    กล้ามเนื้อ : 8 (+)

    ความคล่องตัว : 17 (+)

    พละกำลัง : 16 (+)

    ความเร็ว : 15 (+)

    การฟื้นฟู/ความอึด : 22 (+)

    ประสาทการตอบโต้ :

    สมาธิ : 14 (+)

    พลังพิเศษ : 4 (+)

     

     

    สกิลพิเศษติดตัว

    (Unique)โลกที่เวลาแทบจะหยุดเดิน : เพิ่มความสามารถในการตอบโต้ให้ถึงสุดขีดของความสามารถ สามารถมองเห็นทุกอย่างช้าลงหรือแทบหยุดเวลาลงไป และหากผู้ใช้มีความสามารถเพียงพอก็จะสามารถตามความเร็วที่ตัวเองมองเห็นได้

     

                    “เลเวลขึ้นจริงๆด้วยแหะ ส่วนไอ้ + ข้างหลังนั่นคงเป็นการเพิ่มค่าสถานะสินะ”ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ แล้วตัดสินใจลองจิ้มเพิ่มไปที่ความเร็ว

     

                    แสงสว่างสีฟ้าลุกวาบขึ้นจากไพ่สีดำ ก่อนที่จะไหลเข้ามาในมือของวศิน ส่วนความเร็วก็เปลี่ยนกลายเป็น 16 แทนชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกทางปาก มองแต้มที่เหลือ 0 ก่อนแล้วก็ถือดาบตวัดไปมาอีกหลายรอบ ก็พบว่าตัวเองเหวี่ยงดาบได้เร็วขึ้นจริงๆ พอใจแล้วก็เก็บการ์ดหินสีดำเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ก่อนจะนึกขึ้นได้

     

                    “เอาละ เริ่มเดินทางต่อโลด”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×