คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 วันที่หิมะโปรย
24 ธันวาคม 2010 กรุงเบิร์น สวิสเซอร์แลนด์
ผมชื่อ ลูเซ่ แค่ ลูเซ่ เท่านั้นเพราะผมเป็นเด็กกำพร้าแต่ผมได้รับการดูแลในโบสถ์ได้รับความรักจากหลวงพ่อจากผู้คนในเมืองทำให้อยู่ได้โดยไม่มีพ่อแม่ดูแลเพราะทุกคนนั้นรักผมมากอยากจะบอกว่าผมนั้นมีชื่อเสียงในย่านนี้มากเชียวนะ
ด้วยความน่ารักของผมเนี่ยแหละอยากรู้ไหมว่าเป็นยังไง เดี๋ยวผมจะบอกให้ผมน่ะเป็นเด็กเก้าขวบที่น่ารักที่สุดด้วยผมสีเหลืองทองสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ที่ยาวมาถึงไหล่แต่ตอนนี้มัดเป็นเปียเล็กๆไว้ ตาสีส้มเจิดจ้าดูสดใส ปากนิดจมูกหน่อยเค้าโครงหน้าที่สวยงามแก้มสีแดงระเรื่อจากลมหนาว
จากทุกข้อที่บอกมาทำให้เด็กคนอื่นเทียบผมไม่ติดผมไม่ได้อวดหรอกนะคุณว่าไหม
แนะนำตัวแค่นี้ดีกว่าผมจะได้รีบไปทำงาน งานอะไรน่ะหรือก็งานพิเศษในตลาดวันคริสมาสเงินดีจะตายผมจะได้เอาไปซื้อของได้ แต่ผมไม่ได้ซื้อให้ตัวเองหรอกนะผมจะซื้อเป็นของขวัญคริสมาสให้หลวงพ่อกับ กับ …ไม่บอก ผมรีบไปทำงานดีกว่า
บรรยากาศทั้งสองข้างทางในยามบ่ายวันนี้นั้นช่างครึกครื้นดีจัง ร้านรวงต่างๆถูกประดับด้วยไฟสีต่างๆ ตุ๊กตาซานตาคลอสและรถเลื่อนที่ถูกลากด้วยกวางที่มีจมูกสีแดง
ระหว่างที่ผมวิ่งผ่านจตุรัสกลางเมืองนั้นผมก็ได้เห็นต้นคริสมาสขนาดใหญ่ที่ถูกประดับอย่างสวยงามและมีซานตาคลอสคอยแจกของขวัญให้เด็กอยู่ ผมจึงรีบเข้าไปรับทันทีสิ่งที่ผมได้มาเป็นกระดิ่งสีทองเล็กๆดูน่ารัก แต่ก่อนที่ผมจะเดินผ่านไปผมมองไปเห็นว่ารถซานต้านั้นมีชื่อองค์กรชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านการกุศลอยู่ที่ผมรู้จักองค์กรนี้ก็เพราะที่โบสถ์ที่ผมอยู่ก็ได้รับความช่วยเหลือมาเหมือนกัน
จากนั้นผมก็รีบไปที่ร้านเบเกอรี่เจ้าประจำโดยเร็วแล้วเปลี่ยนเป็นชุดของทางร้านโดยงานในวันนี้ของผมก็คือ พนักงานขายพิเศษนั่นเอง
"รับคุกกี้ ขนมปังอบใหม่มั้ยคร้าบ เค้กคริสมาสก็มีนะคร้าบ" ผมตะโกนโฆษณาอย่างสนุกสนานในวันนี้มีลูกค้าเยอะมาก สงสัยคงเป็นเพราะเทศกาลกับความน่ารักของผมแน่ๆเลยผมขายของได้ทั้งวันจนพระอาทิตย์เริ่มตกดินผู้คนเริ่มน้อยลงจนบางตา ผมจึงเก็บของหน้าร้านแล้วบอกลาคุณลุงเจ้าของร้าน
"คุณลุงคับผมเก็บของเสร็จแล้วนะคับ"
"แปปนึงนะเดี๋ยวหยิบของให้"คุณลุงเปิดลิ้นชักที่โต๊ะแล้วหยิบเงินมาให้ผมเป็นถุงเล็กๆหนึ่งถุงพร้อมกับกล่องใส่คัพเค้กสองสามชิ้น
"นี่ค่าจ้างกับของขวัญวันคริสมาสนะแล้วกลับดีๆนะ"
"ขอบคุณคับ"ผมขอบคุณคุณลุงแล้วเดินออกมาจากตัวร้าน ข้างนอกหิมะเริ่มตกแล้วผมจึงคิดจะรีบกลับแต่เมื่อผมออกมาก็มีรถหรูคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าผม เมื่อประตูรถเปิดออกทำให้ผมรู้ว่าคนที่ลงรถมานั้นก็คือ...
คนที่กำลังลงจากรถคันหรูมานั้นเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ14ย่าง15 มีผมสั้นสีน้ำตาลดำดูเรียบร้อย หน้าตาสะอาดหมดจด ดวงตาสีดำคล้ำเสื้อผ้าดูดีมียี่ห้อ ไม่ต้องบอกบอกก็รู้ว่าเป็นคนรวย อยากรู้ไหมทำไมผมอธิบายได้ขนาดนี้ก็เพราะเขาเป็นเพื่อนของผมนั่นเอง
"สวัสดียามเย็นนะลูเซ่"ฟิลลิปถามผมด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
"สวัสดีคับพี่ฟิลลิปมีอะไรหรอคับ"ที่ผมเรียกเค้าว่าพี่เพราะเราสนิทกันมาก
"ฉันไปที่โบสถ์มาแล้วหลวงพ่อบอกว่านายมาทำงานที่นี่เลยจะมารับ"
"เย้ดีใจจังเลย" ผมนี่โชคดีจริงๆวันนี้มีคนมารับด้วย
"ไปก่อนนะครับ" ฟิลลิปกับผมบอกลาคุณลุงขายขนมปังแล้วขึ้นรถคันหรูเพื่อจะตรงไปสู่โบสถ์ชานเมืองที่ผมอาศัยอยู่ ในขณะที่ผมนั่งรถอยู่ผมก็คอยดูบรรยากาศวันคริสต์มาสข้างทางตลอดเพราะฟิลลิปเป็นคนพูดน้อยผมก็เลยไม่ค่อยได้ชวนเขาคุย จนมาถึงที่หมายผมกับฟิลลิปจึงรีบเข้าไปในโบสถ์เพื่อที่จะเข้าไปทำพิธีสำคัญในวันคริสต์มาสในระหว่างที่เราสองคนเดินเข้าไปในโบสถ์ผู้คนต่างก็ทักทายผมและฟิลลิปอยู่ตลอดเป็นหลักฐานยืนยันว่าผมน่ารักที่สุด เราเข้าไปในโบสถ์ก็เจอหลวงพ่อพอดี
"กลับมาแล้วเหรอลูเซ่ขอบคุณนะฟิลลิปที่พามาส่ง"หลวงพ่อกล่าวขอบคุณกับฟิลลิป
"ไม่เป็นไรหรอกครับลูเซ่ก็เหมือนน้องของผม ผมดูแลเขาอย่างดีอยู่แล้วครับ"ฟิลลิปตอบหลวงพ่อไปอย่างสุภาพ แต่แต่
"ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ" ผมบอกทั้งสองคน แต่พวกเค้าก็เอาแต่ยิ้มผมโกรธจริงๆนะเนี่ย
"ได้เวลาแล้วหรือเนี่ย ลูเซ่ ฟิลลิปประจำที่ได้เลยนะ" หลวงพ่อบอกพวกเราให้เตรียมตัวสำหรับพิธีที่กำลังจะเริ่มขึ้น
เราสองคนไปอยู่ที่ที่นั่งหน้าสุดในโบสถ์ผู้คนก็ทยอยเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆจนเต็มแล้วรอจนพิธีเริ่มขึ้นหลวงพ่ออ่านบทสวดไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาของผมกับฟิลลิปที่ต้องแจกขนมปังกับเหล้าองุ่นพวกเราเดินแจกกันอย่างรีบร้อนแล้วมาประจำที่เดิม แต่ที่มือผมไม่ใช่เหล้าองุ่นแต่เป็นน้ำองุ่นสำหรับเด็กที่ฟิลลิปยื่นมาให้ด้วยเหตุผลว่าผมยังเป็นเด็กอยู่ไม่ควรดื่มของมึนเมา
เมื่อเสร็จพิธีผมกับฟิลลิปก็ไปยืนส่งแขกที่หน้าประตูแทบทุกคนที่เดินออกไปต่างก็ให้ของขวัญผมและฟิลลิปผมดีใจมากเลยที่รู้ว่าเด็กกำพร้าอย่างผมมีคนรักขนาดนี้จนผู้คนออกไปจนหมดผมจึงขอหลวงพ่อออกไปเดินเล่นกับฟิลลิป
"ไปเถอะที่เหลือเดี๋ยวพ่อเก็บเอง"
"ขอบคุณคับ" หลวงพ่ออนุญาตให้ผมออกไปได้ผมจึงรีบจูงมือฟิลลิปออกมายังส่วนที่เป็นแปลงดอกไม้ใกล้ๆห้องของผม
"ลูเซ่ชั้นมีเรื่องจะบอกกับนายอย่างหนึ่ง"ฟิลลิปบอกผมขณะเรากำลังเดินผ่านแปลงดอกไม้
"มีอะไรหรอคับพี่ฟิลลิป"ผมถามเขาไปอย่างสงสัย
"คือ ฉัน..."
จบบท
ความคิดเห็น