คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 บ้านใหม่
ข้างในชั้นแรกของตัวบ้านก็เหมือนบ้านธรรมดาทั่วๆไปมีห้องนั่งเล่นห้องครัว ห้องน้ำ โต๊ะกินข้าวแต่ที่ไม่เหมือนใครก็คงเป็นบันไดวนที่ตั้งอยู่กลางบ้านไม่ใช่ด้านข้าง
พวกเราห้าคนตรงไปนั่งเรียงกันที่โซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นก่อนที่กิตติจะให้ทุกคนแนะนำตัวโดยเริ่มจากผู้หญิงผมแดงก่อนเธอชื่อว่า นาคามูระ ยูมิ อายุสิบห้าเหมือนกิตติมาจากประเทศญี่ปุ่น คนถัดมาชื่อว่าซีล แลนอายุสิบสี่ มาจากอังกฤษ ส่วนคนสุดท้ายที่เป็นเด็กผมดำชื่อว่า โซน่าเคลียสอายุสิบสามถือว่าน้อยกว่าคนอื่นแต่ก็มากกว่าผมอยู่ดีเขามาจากอเมริกา พอพวกเขาแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้วถึงตาผมต้องแนะนำตัวบ้าง
พอผมแนะนำตัวเสร็จทุกคนก็พึ่งจะสังเกตเห็นว่าแขนเสื้อของกิตติเละไปด้านหนึ่ง"มัวแต่ห่วงเด็กใหม่ไม่ห่วงหัวหน้าบ้างเลยนะ" "แหมก็นายไม่บอกเองนิ"พวกเราคุยเล่นกันอย่างมีความสุขจนดึกจึงเตรียมตัวเข้านอน
พอขึ้นมาจากบันไดวนตรงกลางบ้านมาดูห้องนอนที่ชั้นสองก็เห็นว่าจากบันไดขึ้นมาก็เห็นห้องสี่ห้องตามทิศบ้านหน้าห้องทุกห้องมีป้ายชื่อแขวนอยู่
ห้องข้างหน้าเป็นของกิตติด้านขวาเป็นของซีลด้านซ้ายเป็นของโซน่าด้านหลังเป็นของยูมิกิตติบอกให้ผมไปนอนซีลเพราะห้องเขาเต็มส่วนห้องของโซน่าสกปรกมากอย่าเข้าไป
"ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย"ประตูห้องของโซน่าแง้มออกมาผมเห็นเสื้อใส่แล้วแง้มออกมาก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปปิดประตูห้องตัวเอง
"ให้มานอนห้องชั้นก็ได้นะ"ยูมิเปรยออกมาแต่ก็ถูกกิตติตอบกลับว่า"เป็นผู้หญิงจะมานอนร่วมห้องกับผู้ชายได้ยังไง"ยูมิสลดลงทันทีก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเองไปผมจึงตามซีลเข้าไปในห้องของเขา
ห้องของซีลนั้นเข้าไปแล้วจะเจอโต๊ะอยู่ชิดผนังกลางห้องมีเตียงอยู่ด้านซ้ายกับตู้เสื้อผ้าอยู่ชิดผนังฝั่งประตูส่วนด้านขวาเป็นห้องอาบน้ำที่ติดป้ายว่าเคาะก่อนไม่งั้นโดน โดยยูมิสุดน่ารัก "ห้องน้ำใช่ร่วมนะระวังหน่อยละกัน"ซีลเตือนผมก่อนจะถอดดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวไปพิงไว้กับโต๊ะดูเหมือนมันจะดิ้นได้ตอนโดนวางแล้วซีลก็หยิบผ้าเช็ดตัวจากตู้ผืนหนึ่งออกให้ผมไปอาบน้ำผมจึงคิดได้ว่ากระเป๋ายังอยู่ข้างล่างจึงขอตัวลงไปหยิบมาก่อน
ผมเดินลงมาข้างล่างไปหยิบกระเป๋าที่อยู่ที่โซฟาแล้วเดินกลับไปข้างบนระหว่างจะเดินขึ้นไปก็เห็นโซน่าอยู่ในห้องครัวกำลังดื่มนมพร้อมกันสามกล่องแล้วถามผมว่าเอาซักกล่องไหมผมบอกได้แล้วเข้าก็โยนนมกล่องหนึ่งมาให้ผมอย่างแม่นยำ
ผมดื่มนมจนหมดกล่องก่อนเข้าห้องเห็นซีลกำลังเอาผ้ามาปูที่พื้นสำหรับให้ตัวเขานอนเพื่อที่ผมจะได้นอนบนเตียงผมหยิบข้าวของเครื่องใช้แล้วเข้าไปอาบน้ำ
พอผมออกมาจากห้องน้ำก็เห็นซีลหลับไปแล้วผมจึงค่อยๆเดินไปปิดไฟแล้วลงตัวนอนที่เตียงพอหัวผมลงหมอนผมก็ผล็อยหลับลงทันทีด้วยความเหนื่อย
"กริ้งๆๆๆ"เสียงนาฬิกาปลุกตั้งโต๊ะดังขึ้นส่องแสงในความมืดบอกเวลาตีห้าครึ่งทำให้ผมตกใจมากจนตกลงมาจากเตียงซีลมาพยุงตัวผมขึ้นแล้วบอกว่าจะไปออกกำลังกายยามเช้าขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจแล้วเขาก็หยิบดาบแล้วออกไปจากห้องด้วยความเจ็บจากการตกเตียงทำให้ผมตาสว่างนอนต่อไม่ไหวผมจึงไปอาบน้ำทันทีพอผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็จัดการเก็บเตียงให้เรียบร้อยก่อนจะลงไปสูดอากาศข้างนอก
พระอาทิตย์กำลังขึ้นตัดกับหิมะที่กำลังละลายทำให้นอกบ้านดูสดใสถนนตลอดแนวเต็มไปด้วยบ้านคนแต่ส่วนใหญ่จะยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่ไม่มีผู้ใหญ่ซักคนบ้านในถนนนี้มีขนาดและรูปร่างไม่เหมือนกันบางบ้านก็ใหญ่มากบางบ้านก็เล็กนิดเดียวผมมองไปรอบๆผู้คนเริ่มทำกิจวัตรยามเช้ากันแล้วผมจึงเข้าบ้านไปในบ้านเห็นกิตติกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวผมจึงเข้าไปช่วยจนกลิ่นอาหารเริ่มโชยยูมิก็เดินลงมาพลางหวีผมไปด้วยวันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีชมพูโดยมีเสื้อหนาวบางๆทับอยู่กับกระโปรงสั้นแค่เข่าเธอเห็นพวกเราทำอาหารอยู่จึงเข้ามาช่วยเราอีกแรงถึงเวลาเจ็ดโมงซีลก็กลับเข้ามาในบ้านแล้วนั่งรอที่โต๊ะอาหารจนอาหารเสร็จเรียบร้อยเตรียมวางที่โต๊ะโซน่าก็เดินงัวเงียลงมาทั้งชุดนอนแล้วมานั่งที่โต๊ะบนโต๊ะมีนมกับน้ำส้มกล่องใหญ่วางอยู่ ขนมปังคนละสามแผ่นไข่ดาวคนละสองฟองกับไส้กรอกจำนวนหนึ่งกับขวดซอสหลายชนิดยูมิกับโซน่ากินด้วยความรวดเร็วเหมือนอดข้าวมาหลายวันส่วนกิตติกับซีลก็กินกับแบบไม่รีบร้อนผมเห็นอย่างนั้นจึงค่อยๆกินไม่เหมือนโซน่าที่ตอนนี้ขนมปังติดคออยู่เนื่องจากรีบกินเกินไป
เมื่อเรากินเสร็จโซน่ากับซีลก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อนพวกผมจึงช่วยกันเก็บโต๊ะแล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนที่กิตติจะหยิบแผนที่อันใหญ่มาให้ผมดู
มันเป็นแผนของเกาะนี้กิตติอธิบายว่าที่สวนอีเดนประกอบด้วยเกาะห้าเกาะโดยมีตำแหน่งและการใช้งานต่างกันเกาะทิศเหนือที่ตอนนี้เราอยู่เป็นเขตของโรงเรียนและที่พักของนักเรียนเกาะทิศใต้เป็นเขตอาศัยของคนทั่วไปเกาะทิศตะวันออกเป็นเขตการค้าเกาะทิศตะวันตกเป็นเขตขององค์กรทั้งสี่เกาะมีสะพานเชื่อมกันอยู่ส่วนเกาะที่ห้าเป็นสวนอีเดนของแท้มีทางเค้าทางเดียวคือด้านหลังโรงเรียน
พอกิตติอธิบายจบโซน่ากับซีลก็ลงมาพอดีกิตติจึงตัดสินใจพาผมเดินดูเกาะและซื้อสิ่งของจำเป็นด้วย
เราทุกคนหยิบเสื้อหนาวมาสวมแล้วออกมาข้างนอกแล้วกิตติกับซีลก็ลากรถม้าแบบไม่มีหลังคาออกมาจากหลังบ้าน"แล้วม้าละคับ" "ไม่ต้องห่วง"กิตติก้มตัวเอามือแตะพื้นในสนามแล้วเริ่มร่ายเวทย์ออกมา"จิตวิญญาณแห่งธรณีจงก่อตัวขึ้นม้าธนู"พื้นดินค่อยๆยกตัวขึ้นแล้วบิดตัวเป็นรูปม้าสีดินที่มีแผงหลังเป็นต้นอ่อนของหญ้าสองตัวแล้วพวกเราก็ขึ้นไปนั่งจนครบแล้วออกเดินทางโดยไม่ต้องมีคนขับ
รถค่อยเคลื่อนผ่านบ้านหลายหลังไปสู่สะพานที่จะข้ามไปสู่ย่านการค้าสะพานทำจากก้อนหินสวยงามมีโคมไฟตั้งอยู่ตามทางเราลอดผ่านประตูกั้นเข้าไปเจอเมืองที่มีผู้คนเดินซื้อของมากมายจากที่ผมมองเห็นร้านส่วนใหญ่เป็นบ้านสองชั้นที่ชั้นล่างไว้ขายของไม่มีตึกสูงเสียดฟ้าแบบในเมืองตึกสูงที่สุดในแถบนี้อย่างมากก็แค่สี่ชั้นทำให้เมืองดูโล่งสบายตาเมื่อรถของเราผู้คนก็ต่างหันมามองเหมือนเห็นซานตาคลอสแบบใหม่แต่ไม่มีใครแปลกใจกับม้าที่ทำจากดินเพราะผู้คนในเมืองต่างก็ใช้พลังพิเศษทำงานเหมือนกันอย่างที่ผมเห็นก็ของลอยได้โดยไม่ต้องถือ หรือน้ำรดน้ำต้นไม้ลอยอยู่ในอากาศ
"ทุกคนทำอย่างนี้ได้หมดเลยหรอคับ"
"ได้ทุกคนนั่นแหละแต่พลังอ่อนมากคนที่มีพลังพอก็จะต้องไปทำงานที่องค์กรส่วนคนอื่นๆก็อาศัยอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัย"กิตติตอบผมมาก่อนจะโบกมือให้เด็กๆที่เดินตามพ่อแม่ซื้อของอยู่แบบซานตาคลอส
เรามาถึงใจกลางเกาะที่ขายของเฉพาะไปโรงเรียนของที่ผมต้องซื้อคือเสื้อผ้ากับหนังสือเรียนพอผมวัดตัวเสร็จแล้วกิตติก็ไปคุยกับเจ้าของร้านว่าของจะให้ไปส่งที่บ้านเราจึงออกมาโดยไม่ต้องแบกของกลับ
เราเดินทางต่อไปที่ร้านเสื้อผ้าด้วยเหตุผลของยูมิว่าเสื้อผ้าผมน้อยเกินทุกคนต่างเอาเสื้อผ้าแบบต่างๆมาให้ผมลองทั้งเสื้อเชิ้ตเสื้อยืด เสื้อคอปกชุดว่ายน้ำ ชุดสาวใช้ชุดเดรส ผมว่าอันหลังๆเริ่มไม่ใช่แล้วนะ
ผมได้เสื้อมาหกตัวโดยกิตติเป็นคนออกเงินให้ก่อนส่วนยูมิเสียใจอยู่ที่ไม่ได้ซื้อเดรสให้ผมใส่เราเดินออกมานอกร้านเพื่อที่จะไปร้านต่อไปแต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังสนั่นมาจากถนน
มีดาบเล่มยาวพุ่งเข้ามาที่กิตติแต่ซีลก็เอาดาบของตัวเองมารับไว้ได้ทัน"อันตรายนะครับ"ซีลพูดพลางยิ้มตอบให้คนที่โจมตีมา
"ใครไม่เกี่ยวหลบไปฉันมีธุระกับเจ้าอ้วนนั่นคนเดียว"คนพูดเป็นผู้หญิงผมเหลืองมัดเป็นมวยอยู่ข้างหลังอายุรุ่นราวเดียวกันกับยูมิเธอใส่เสื้อผ้าที่ดูแพง
"วิคกี้รอด้วยสิ"คนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของเธอตะโกนเรียงมาจากด้านหลังทุกคนเหนื่อยหอบจากการที่วิ่งตามเพื่อนของเธอที่มาโจมตีพวกเราพวกเธอเป็นกลุ่มหญิงล้วนห้าคนโดยมีคนที่ชื่อวิคกี้เป็นผู้นำซึ่งตอนนี้เธอยกดาบขึ้นมาชี้ไปทางกิตติ
"หากวันนี้ฉันไม่ได้อัดนายจนน่วมก็อย่าหวังจะรอดไปเลย"
จบบท
ความคิดเห็น