ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Code Geass : Back to December

    ลำดับตอนที่ #1 : chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 56


     

     

    CHAPTER 1

     

    I’m  so  glad  you  made  time  to  see  me

    How’s  life ?  Tell  me,  how’s  your  family ?

    I  haven’t  seen  them  in  a  while

    . . .

    You’ve  been  good,  busier  than  ever

    We  small  talk,  work  and  the  weather

     

     

                บนลานน้ำพุใจกลางโรงเรียนเอชฟอร์ด  เด็กหนุ่มผู้มีเส้นผมสีดำสนิทกำลังนั่งรอคอยอะไรบางอย่างอยู่  เขากำลังหลับตา  ลมหายใจนั้นเข้าออกเป็นจังหวะ  ดูนิ่งสงบเหมือนกำลังอยู่ในห้วงนิทรา  แม้แต่สภาพอากาศก็ดูเหมือนจะเป็นใจด้วยท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งและสายลมที่พัดเอื่อยๆ ตลอดเวลา

                ทว่า  ในใจของเขานั้นกำลังปั่นป่วนด้วยอารมณ์ความรู้สึก  ทั้งยินดีแต่ก็โกรธแค้น  กราดเกรี้ยวแต่ก็ยังคงความเยือกเย็นอยู่

                ...  มาสักทีสิ

              แม้จะคิดอย่างนั้นแต่อันที่จริงเขาเองก็ไม่รีบร้อนอะไร  เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อไปด้วยจังหวะเดิม

                แต่แล้วสายลมก็กรรโขกแรงพัดเอาใบไม้หลุดจากกิ่งปลิวว่อนไปทั่ว  และยังปลิวไปโดนใบหน้าของเด็กหนุ่มจนต้องใช้มือปัดออก  เปลือกตาที่เปิดขึ้นเผยให้เห็นถึงนัยน์ตาสีม่วงสวยที่วาววับดุจอเมธิสต์

    แล้วนั่นก็ทำให้เขาได้เห็นถึงการปรากฏตัวของคนที่เขากำลังรออยู่

              ...  มาแล้วสินะ

              ริมฝีปาของเขาเผยออกเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวแต่ก็หายไปในพริบตา 

    อีกฝ่ายมีร่างที่สูงกว่าเขา  ร่างกายดูสมส่วน  แข็งแรง  ไม่ขี้โรคและเหมือนไม่มีวันจะล้มลง  ซึ่งต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง  เส้นผมสีน้ำตาลดูยุ่งเล็กน้อยแต่เจ้าตัวก็ไม่มีที่ท่าว่าจะใส่ใจ  ใบหน้าดูเคร่งขรึม  อาจเพราะด้วยกำลังเม้มปากและดวงตาที่ถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดด

    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาผู้มาเยือนพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร  เขาทักทายและเอ่ยชื่อของคนๆ นั้นออกมา

                ไม่ได้เจอกันนานนะ  สุซาคุ

                อีกฝ่ายถอดแว่นกันแดดออกทำให้เห็นใบหน้ารุ่นราวคราวเดียวกัน  และแม้จะยิ้มตอบแต่นัยน์ตาสีมรกตก็ปราศจากซึ่งร่องรอยแห่งความรู้สึกโดยสิ้นเชิง  เสียงแหบพร่าตอบรับเบาๆ 

    นั่นสินะ  ลูลูช

    เขาเดินนำหน้าแล้วจึงเรียกให้สุซาคุตามมา  หรืออีกจุดประสงค์หนึ่งเพื่อซ่อนรอยยิ้มแสยะอย่างกลั้นไม่ได้

    ...

    ...

              ฉันรู้ว่านายต้องมาหาฉัน  คุรุรุกิ  สุซาคุ

              ...

              ฉันรู้ว่านายต้องมาสักวัน 

    ฉันรอนายมานานมาก

    ...

    ในที่สุดนายก็มา  ฉันล่ะดีใจจริงๆ  เจ้าคนทรยศ

    ...

    ลูลูชเดินนำหน้าพร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนตลอด 1 ปีที่ผ่านมาให้คนข้างหลังฟัง  แต่เสียงที่ตอบกลับมานั้นเป็นเพียงคำรับสั้นๆ ที่ฟังดูเย็นชา  เฉยเมย  และไร้อารมณ์ซะเหลือเกิน  จนเมื่ออยู่หน้าตึกของสภานักเรียนลูลูชก็หยุดเดินและหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง

    สุซาคุ  นายโกรธอะไรฉันอยู่รึเปล่า”  ลูลูชถามพลางจ้องหน้าสุซาคุเขม็ง

    ฝ่ายที่ถูกถามชะงักไปชั่วครู่แล้วจึงหัวเราะออกมาเบาๆ ตอบกลับไปว่า  ฉันแค่อิจฉานายน่ะ  อยู่ที่กองทัพไม่ค่อยมีเรื่องสนุกๆ นักหรอก

    เมื่อได้ฟังเช่นนั้ลูลูชจึงถอนหายใจด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย  เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่อว่าเล็กน้อย

    เจ้างี่เง่าเอ๊ย  ฉันเป็นห่วงแทบแย่  ...  นั่นสินะ  ฉันก็เอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว  นายล่ะเป็นไงบ้าง

    ลูชูชถามแล้วก็เดินต่อ  สุซาคุเองก็เดินตามพร้อมกับเล่าเรื่องของตนเองบ้าง  น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่กระด้างเช่นตอนแรก

    ฉันอยู่ที่กองทัพก็สบายดีน่ะนะ  ส่วนใหญ่ก็จะขับไนท์แมร์แล้วก็ทำภารกิจตามที่ได้รับคำสั่งมา  ...

    ลูลูชพูดขัดขึ้นมา  เรื่องนั้นฉันรู้น่า  เรื่องอื่นล่ะ

    ...  บางครั้งก็ได้เจอกับองค์รัชทายาทด้วย”  สุซาคุพูดต่อเหมือนไม่ใส่ใจ  แต่แววตานั้นแข็งกร้าวขึ้นมา 

    เขาทำท่าเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้จึงเอ่ยขึ้นมา  “แล้วน้องสาวนายล่ะ  เป็นไงบ้าง

    ลูลูชที่กำลังก้าวขึ้นบันไดหยุดเดิน  เขารู้สึกถึงรังสีคุกคามจากคนข้างหลัง  แต่ก็หันกลับมาสบตากับนัยน์ตาสีเขียวที่มีแววคาดคั้นด้วยรอยยิ้มขบขัน

    นายคงฝึกมากไปจนลืม  ฉันมีแต่น้องชายนะ  สุซาคุ

    นั่นสินะ

    สุซาคุก้มลงเป็นฝ่ายหลบสายตาซะเอง 

    ที่ EU หนาวมากเลยล่ะ  ...  “  เขาเล่าเรื่องของเขาต่อ  แต่กระนั้นแววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความระแวดระวังที่จ้องมองไปยังแผ่นหลังของลูลูช

    จนกระทั่งทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าห้องสภานักเรียน

    ...

    ...

    นายยังกล้าพูดถึงนันนาลี่กับฉันอีกงั้นหรือ 

    ...

    ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉันไม่ได้เจอน้องสาวมานานแล้วแท้ๆ

    ...

    ทั้งๆ ที่นายเป็นคนทำให้มันเป็นอย่างนั้นเองแท้ๆ

    เจ้าคนหน้าด้าน

     

     

    Your  guard  is  up,  and  I  know  why

    Because  the  last  time  you  saw  me

    Is  still  burned  in  the  back  of  your  mind

    . . .

    You  gave  me  roses,  and  I  left  them  there  to  die

     

               

    ประตูห้องสภาเปิดออกทำให้คนที่อยู่ข้างในซึ่งกำลังเตรียมพร้อมขยับตัวทันที

                พลุอันเล็กถูกยิงออกเมื่อสุซาคุก้าวเข้าไปในห้อง  ริบบิ้นหลากสีลอยอยู่เหนือหัวและร่วงลงมาติดอยู่บนเส้นผมสีน้ำตาล

    เหล่าสภานักเรียนตะโกนออกมาพร้อมกัน

    ยินดีต้อนรับกลับ

                สุซาคุยิ้มกว้าง  แต่หลังจากนั้นรีวัลก็กระโดดรัดคอสุซาคุเต็มแรงจนล้มลงไปทั้งคู่  แล้วประธานนักเรียนมิเร  แอชฟอร์ด  ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับของในมือที่วินาทีต่อมาได้ประทับอยู่บนใบหน้าเขา  แล้วสองคนนี้ก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

                เชอร์ลี่กอดอกขมวดคิ้วบ่นเบาๆ  ประธานนี่ล่ะก็  ลูลู่อุตส่าห์ทำ

                ลูลูชที่ยืนอยู่ข้างหลังสุซาคุในตอนแรกก้าวเข้ามาในห้อง  แค่เห็นใบหน้าที่มุ่ยลงของเชอร์ลี่ก็รู้ว่าเธอนั้นกำลังคิดอะไรอยู่

                ไม่เอาน่า  ยังมีอีกตั้งเยอะ  ลูลูชกล่าวอย่างไม่จริงจัง  แต่เชอร์ลี่ก็อดบ่นต่อไม่ได้  ก็แหม  เสียดายนี่นา

                ลูลูชยิ้มอย่างขำๆ  เขาโยกหัวเชอร์ลี่เบาๆ  ยัยบ๊อง

    สุซาคุที่ยังคงมึนงงอยู่ยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วปาดสิ่งที่ติดอยู่บนใบหน้าออก  มันคือครีมสีขาวที่มีรสหวานและแยมสีแดงที่เลอะอยู่บนแก้ม

    เค้กนี่นา

    ถูกต้องจ้า

    มิเรขยิบตาให้สุซาคุ  เธอชี้นิ้วออกมาแตะครีมที่ยังติดอยู่จรงมุมปากของสุซาคุแล้วจิ้มเข้าปากเป็นเชิงชิม

    เห  หวานกำลังดีเลยนี่ลูลูช

    ลูลูชยิ้มกว้างกอดอกรับคำอย่างภาคภูมิใจ

    แน่นอนสิครับ  ฝีมือของผมนั้นไม่มีใครทาบได้  ถ้าประธานทำก็คง  ...

    แล้วรอยยิ้มนั้นก็ถูกปิดทับด้วยเค้กอีกก้อนโดยฝีมือรีวัลที่กำลังโวยวายอยู่  บนมือของเขายังมีเค้กอีกจาน  “ห้ามว่าประธานนะ!”

    เชอร์ลี่ที่ยืนอยู่ข้างลูลูชอกมาห้ามปรามก่อนที่จะมีสงครามเค้ก  เนื่องจากมิเรเองก็กำลังทำท่าจะโยนเค้กอีกครั้ง  เธอเดินเข้าไปหาสุซาคุแล้วพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มจริงใจของเธอ

    ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะ  พวกเราดีใจจริงๆ ที่เธอกลับมา  โดยเฉพาะลูลู่ถึงกับอาสาเป็นคนทำเค้กให้เลยนะ

    ลูลูชน่ะหรอ

    เชอร์ลี่พยักหน้ารับแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อมิเรก็ปรบมือเรียกความสนใจ  อ้าวๆ  อย่าเพิ่งคุยกัน  มาจัดโต๊ะกันเถอะ

    ทุกคนเริ่มขยับตัวอีกครั้ง  สุซาคุเดินเข้ามาหาลูลูชที่ยังคงเช็ดหน้าเช็ดตาของตนอยู่โดยไม่สนใจสิ่งอื่น

    ขอบใจนะ ลูลูช

    เป็นครั้งแรกที่สุซาคุเผยรอยยิ้มที่เขาคุ้นเคยที่สุดนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน  ลูลูชหันหน้าหนีกล่าวเหมือนไม่ใส่ใจ 

    เรื่องเค้กน่ะเหรอ  เล็กน้อยน่า

    มิเรโผล่เข้ามาแทรกกลางแล้วดันตัวสุซาคุไปที่โต๊ะ  เธอน่ะ  ไปนั่งรอซะ

    หลังจากนั้นมิเรและรีบัลจึงไปยกจานเค้กในห้องครัวออกมา  ในขณะที่ลูลูชชงชาโดยมีเชอร์ลี่จัดวางถ้วยอยู่ข้างๆ 

    สุซาคุทำได้เพียงนั่งรออย่างจำใจ  เขาชำเลืองมองไปทางลูลูชที่ดุเชอร์ลี่จนหน้ามุ่ยแล้วหัวเราะออกมาว่า  เธอนี่นะ

      สุซาคุพูดกับตนเองเบาๆ

                แบบนี้น่ะ  ดีสำหรับนายแล้ว  ลูลูช

                …

              คนที่ถูกพูดถึงเหมือนจะได้ยินเสียงคนที่นั่งอยู่เรียกชื่อตนเองจึงหันไปมอง  แต่สุซาคุกำลังคุยโทรศัพท์อยู่เขาจึงหันกลับไปโดยที่พยายามเงี่ยหูฟัง

                ครับ  ...  ดูเหมือนจะยังครับ  ...  แต่ผมยังไม่แน่ใจ  ...  ครับ

                แม้จะได้ยินแค่นั้นแต่เขาพอจะรู้ว่าสุซาคุกำลังพูดถึงอะไร  และยิ่งแน่ใจเมื่อเห็นภาพสะท้อนบนช้อนเงินว่าสุซาคุแอบชำเลืองมองมาทางเขา

                ลูลูชบีบแก้วในมือด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านจนเชอร์ลี่ที่สังเกตเห็นถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

                ลูลู่  เป็นอะไรรึเปล่า

                และคำถามนี้เรียกความสนใจจากสุซาคุได้เป็นอย่างดี  เขาลุกขึ้นยืนทำท่าว่าจะสาวเท้าเข้ามาหา  ลูลูชรู้สึกถึงรังสีคุกคามนั้นอีกครั้ง  เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นและยิ้มตอบให้เชอร์ลี่

                ชามันขมไปน่ะ  เดี๋ยวขอชงใหม่ก่อน  เธอไปนั่งรอก่อนก็ได้

                จ้ะ

                สุซาคุที่เห็นดังนั้นจึงถามเชอร์ลี่ที่เดินเข้ามาในทันที  เขาและเธอนั่งลงพร้อมกัน

    ลูลูชเป็นอะไรหรอ

    ไม่มีอะไรหรอก  ชาขมไปน่ะจ้ะ

    สุซาคุพยักหน้ารับแล้วเหลือบไปมองอีกครั้งหนึ่ง  เชอร์ลี่จึงพูดทับอีกครั้ง  “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ้ะ

    มิเรและรีวัลที่จัดการส่วนของจนเรียบร้อยก็นั่งบ้าง  แล้วสุดท้ายลูลูชจึงเสิร์ฟชาให้ทุกคนและนั่งลงระหว่างสุซาคุและที่ว่างของใครอีกคนหนึ่ง

    รีวัลถามหาคนที่ยังไม่มา

    ลูลูช  แล้วโรโล่ล่ะ

    ...  โรโล่  แลมเพอรูจ

    เมื่อเช้าแห็นบอกว่าอาจารย์วิเลตต้าเรียกตัวน่ะ  เดี๋ยวฉันไปหาหน่อยดีกว่า

    ลูลูชทำท่าจะลุกขึ้นแต่รีวัลที่นั่งถัดไปคว้าแขนเสื้อเค้าไว้  ลูลูชนี่ล่ะก็  ทำเหมือนน้องชายจะหลงทางได้ตลอดเวลา  โรโล่เองก็อยู่ที่นี่นานแล้วนะ

    น้องชายฉันยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ อยู่ต่างหาก

    ลูลูชบ่นออกมาแต่ก็ยอมนั่งลงโดยดี  เขาควักมือถือออกมากดโทรออกอย่างรวดเร็ว

    ทุกการกระทำนั้นล้วนอยู่ในสายตาของสุซาคุตลอดเวลา

    ฉันจะเชื่อนายไม่ได้ลูลูช

    ไม่สิ  จะเชื่อซีโร่จอมโกหกหลอกลวงไม่ได้เป็นอันขาด!

    ...

    โรโล่ตัดสายฉัน!”  ลูลชทุบเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นอย่างไม่ฟังเสียงห้ามปราม 

    ลูลูชก้าวอย่างเร่งรีบแต่เมื่อเปิดประตูออก  คนที่เขากำลังจะไปหาก็พุ่งเข้ามาพอดีทำให้หน้าผากของทั้งสองคนชนกันและล้มลงไปทั้งคู่

    พี่ฮะ 

    น้องชายผู้คร่อมตัวอยู่ด้านบนดึงปกเสื้อของผู้เป็นพี่ขึ้นมาทำให้ใบหน้าทั้งสองใกล้ชิดกัน  แล้วเมื่อมองจากมุมของคนที่นั่งอยู่ซึ่งเห็นแต่เพียงด้านหลังแล้วภาพนั้นมันช่าง  ...

    พี่ไม่เป็นไร  เราปลอดภัยก็ดีแล้ว  ...  ลุกขึ้นก่อนเถอะ

    เอ่อ  ขอโทษฮะพี่

    คนที่มองอยู่รู้สึกราวกับว่ารอบกายสองพี่น้องแลมเพอรูจมีออร่าเปล่งประกายออกมา  หนึ่งในผู้ที่มองอยู่นั้นอดกระแอมออกมาอย่างขัดเขินมิได้  เท่านี้ก็มากันครบแล้วสินะ

    ขอโทษที่มาช้าฮะ  โรโล่ก้มหัวลงเล็กน้อย  เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่ามีใครอีกคนที่เขาไม่เคยเจอในห้องนี้นั่งอยู่ด้วย  ลูลูชพยักหน้าไปทางนั้นแล้วหันกลับมา  จำได้ไหม

    ฮะ  ...  คุรุรุกิ  สุซาคุ สินะ” 

    คนที่ถูกเรียกชื่อพยักหน้ารับด้วยใบหน้าที่ขรึมลง  บรรยากาศเริ่มน่าอึดอัดอย่างประหลาด  จนกระทั่งลูลูชที่นั่งลงแล้วดึงตัวโรโล่ให้นั่งเช่นกัน 

    น้ำเสียงของลูลูชเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเมื่อพูดกับน้องชายของเขา  ทุกคนต่างรับรู้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของลูลูชที่มีต่อโรโล่เป็นอย่างดี  มีเรและเชอร์ลี่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

    มากินกันเถอะ

    สุซาคุก้มลงมองเค้กที่เคลือบด้วยครีมสีขาวซึ่งแต่งด้วยครีมสีชมพูและแดงเป็นรูปดอกกุหลาบที่ประณีต  มันทำให้เขานึกถึงใครบางคน  โดยเฉพาะยามที่พี่ชายของคนๆ นั้นนั่งอยู่ข้างๆ

    ยูฟี่

    เสียงกระซิบแผ่วเบาทำให้ลูลชที่กำลังป้อนเค้กให้โรโล่นั้นชะงัก  ความเสียใจฉายเข้ามาในแววตาแล้วจางหายไปทิ้งไว้เพียงความหม่นหมองในดวงตาสีม่วงคู่นั้น

    พี่ฮะ  โรโล่เรียกเบาๆ เมื่อช้อนคันเล็กนั้นยังไม่ถูกดึงกลับ

    หืม  อร่อยมั๊ย

    ฮะ” 

    โรโล่แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

    บรรยากาศรอบข้างนั้นยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  ยกเว้นก็แต่คนสองคนที่แม้จะยิ้มนั้นแต่ภายในตรงข้ามโดยสิ้นเชิง  …  ลูลูชสบตากับสุซาคุที่หันมามองเขาพอดี  นัยน์ตาสีมรกตนั้นมีแววรวดร้าวอยู่ภายใน  ซึ่งไม่ต่างจากจิตใจของเขาในเวลานี้แม้แต่น้อย

    รูปวาดของสวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงในความทรงจำวัยเยาว์ผุดขึ้นมา

    เขาในยามเด็กที่ยืนดูอยู่นิ่งเฉย  กับยูเฟเมียที่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มที่คลี่ออก  ...  เป็นดั่งดอกกุหลาบที่งดงามที่สุด

    ...

    ...

    ยูเฟเมีย

    ...

    ทั้งๆ ที่เธอไว้ใจฉันแท้ๆ

    แต่กลับเป็นฉันที่ทำให้เธอต้องตาย

    ...

    ขอโทษ

    ...

     

    ในค่ำคืนที่น่าจะเป็นวันแห่งความสุข  คนสองคนกำลังคิดทบทวนในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น  ...เพื่อน?  มิตรภาพ?  ความสัมพันธ์?  ความไว้ใจ?  การลวงหลอก?  คนทรยศ?  ...  ไม่ว่าอดีตนั้นจะขมขื่นเพียงใด  มันยังมีอดีตที่หอมหวานซ่อนอยู่เช่นกัน

    แต่ทว่า  ภาพสุดท้ายก่อนที่จะปิดตาลงยังคงเป็นวันที่ความสัมพันธ์นั้นถูกสะบั้นลง  วันที่เหมือนมือทั้งสองข้างสะบัดออกจากกันและเป็นปืนสองกระบอกที่ถูกหันเข้าหากันแทน

    คำถามสุดท้ายที่ยังเพียรเฝ้าถามตนเองนั้นคือ  เขาคือคนผิดหรือ ?  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×