ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic LSK : Love me, Masochist boy

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นของเทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นที่ 38

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 54


    �-[ THE BEGINNING ]-

    ����������� ข้าคือ ... เทพอัศวินอาร์เทมิสแห่งวิหารเทพแห่งแสงสว่าง ตัวแทนแห่งจันทรา

    ��������������� สิ่งที่อาจารย์ข้าหรือเทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นก่อนได้สอนเอาไว้มีเพียงเรื่องเดียวคือ “ความเย่อหยิ่ง” ... อะไรนะ! ใครพูดว่าแค่นั้นเอง? ถ้าเจ้าคิดอย่างนั้นแปลว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้วล่ะ ข้าจะพูดง่ายๆให้ฟังละกัน เจ้าลองคิดดูสิถ้าหากเทพอัศวินครีอุสจะกระทำสิ่งใดก็ตามก็ต้องทำด้วยความสง่างาม เช่นเดียวกันกับ ข้า เทพอัศวินอาร์เทมิสที่จะกระทำอะไรก็ต้องทำอย่างหยิ่งยโส ... เอาล่ะ ข้าเชื่อว่าเจ้าคงเข้าใจแล้วในระดับหนึ่ง

    ����������� ข้าจะเล่าเหตุการณ์ตอนคัดเลือกเทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นที่สามสิบแปดให้เจ้าฟัง ... มันไม่มีการประลองดาบหรืออะไรที่ยุ่งยากแบบนั้นแน่นอน

    ข้าเป็นเด็กจากตระกูลสูงศักดิ์�ตระกูลหนึ่งในเมืองใกล้แคว้นโยแลนด์ วันนั้นข้าตามท่านพ่อมาเพื่อร่วมพิธีสดุดีพระราชา ในขณะที่ข้าปะปนอยู่กับฝูงคนมากมาย ข้าก็หลงกับท่านพ่อ ข้าจึงเดินไปหาที่นั่งแถวนั้น วิหารที่นี่สวยจริงๆ แล้วในขณะที่ข้ากำลังชื่นชมสถานที่อยู่ในใจ เด็กคนหนึ่งก็มายืนอยู่หน้าข้าแล้วมองอย่างเหยียดหยาม

    “เจ้านี่น่าสมเพชจริงๆ คิดว่าใส่ชุดหรูหราแบบนั้นมาแล้วเจ้าจะได้รับเลือกหรอ ฮ่าๆๆๆ” เด็กคนนั้นพูดเสียงดังจนมีคนหันมามองอย่างสนใจ ข้าเพียงมองกลับด้วยสีหน้าเย็นชา เจ้าเด็กนี่ตาไม่ถึงเอาซะเลย ชุดของข้าเป็นเพียงชุดเรียบๆสีขาวแวววาวที่ทอด้วยเส้นไหมชั้นดี คลุมด้วยเสื้อกำมะหยี่สีดำขลิบทองประดับด้วยอัญมณีเม็ดเล็กๆ ซึ่งเป็นชุดรรมดาแบบที่ข้าใส่อยู่บ้านเป็นประจำต่างหาก ... หาใช่ชุดหรูหราไม่ !

    ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าพูดถึงอะไร แต่เจ้าชี้หน้าข้าแบบนี้ช่างไร้มารยาทยิ่งนัก!

    ข้าลุกขึ้นยืนมองด้วยหางตาแวบหนึ่งแบบที่ข้าใช้มองสุนัขขี้รื้อนที่เดินกระเผกไปมาข้างถนนแล้วเดินออกจากตรงนั้น ในขณะที่ข้ากำลังหงุดหงิดอยู่นั่นเอง ชายผู้หนึ่งก็ดึงตัวข้าเข้ากระโจมที่มีคนซึ่งน่าจะเป็นพวกที่เรียกว่าเทพอัศวินรายล้อมรอบ ข้าซึ่งถูกหิ้วคอมาได้แต่คิดในใจอย่างเกรี้ยวกราดว่า ทำไมที่นี่มีแต่พวกไร้มารยาท!

    และอีกอย่าง การตะโกนร้องโหวกเหวกโวยวายนั้นเป็นสิ่งที่ข้าจะไม่มีวันทำเด็ดขาด พ่อของข้าเคยบอกไว้ว่ามีเพียงพวกทาสชั้นต่ำเท่านั้นที่จะทำ ...

    และเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลคล้ายออกมาจากคนที่บ้านข้าก็แทรกเข้ามาในความคิด

    “คนที่สิบสองแล้วนะ เจ้าแน่ใจว่าเด็กคนนี้มีคุณสมบัติพอ”

    คนในกระโจมซึ่งนั่งอยู่บนที่สูงมองทอดต่ำลงมาเบื้องล่าง ... ไม่ใช่คนในบ้านข้าหรอกหรอ ข้ารู้สึกว่าเขาคล้ายกับพวกขุนนางที่ข้าเคยเจอ มือที่ดูน่าสัมผัสเหมือนได้รับการบำรุงแบบคนชั้นสูงโบกไล่คนอื่นๆออกไปหมดจนเหลือแต่เขากับข้าสองคน

    และบททดสอบของการคัดเลือกเทพอัศวินอาร์เทมิสก็เริ่มต้นขึ้นโดยที่ข้าไม่รู้เรื่องมาก่อน

    . . .

    ข้ามองหน้าเขา เขามองหน้าข้า ลักษณะท่าทางนั้นทำให้ข้ารู้สึกว่าเรามีอะไรคล้ายกัน นั่นก็คือ 'ความไม่สนใจใคร' แม้ว่าข้าจะเป็นคนที่ถูกลากมา และเขาอาจจะเป็นคนที่สั่งให้คนลากข้ามาก็ตาม

    ��������������� ข้ากับเทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นที่สามสิบเจ็ดทำท่าทางแบบ�'ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา'ทั้งที่ข้าและเขาต่างก็กำลังมองหน้ากันอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง ... และในที่สุด ท่านก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คล้ายกับยิ้มเยาะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับดูถูกว่า

    “ลูกเอ๋ย ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องเป็นเทพอัศวินอาร์เทมิสที่สมบูรณ์แบบได้แน่ๆ”

    “...”

    “...”

    ข้ารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ผู้ชายคนนี้แม้จะดูดีแต่ต้องไม่ใช่ชนชั้นสูงอย่างแน่นอน สิ่งที่ควรกล่าวในเวลานี้ไม่ใช่การพล่ามไร้สาระแบบที่เขาเพิ่งกระทำ... แต่ถึงอย่างไร ข้าควรตอบรับเขารึเปล่านะ? ไม่สิ! ข้าควรจะบอกวิธีสร้างปฏิสัมพันธ์แรกพบแบบผู้ดีให้แก่เขาถึงจะถูก !

    “ตามมารยาทอันดีงาม ท่านควรจะแนะนำตัวและบอกจุดประสงค์ที่พาข้ามาที่นี่ก่อนไม่ใช่หรือ”

    “...”

    “...”

    ผู้ชายคนนั้นไม่พูดกล่าวเพียงแต่มองข้าอย่างทึ่งๆ ...
    �� � � � �โอ ไม่นะ หรือที่จริงข้าถูกนำตัวมาขังร่วมกับคนสติฟั่นเฟือน
    ! เทพอัศวินทั้งหลาย พวกท่านเข้าใจข้าผิดแล้วล่ะ ... ว่าแต่นี่ช่างเป็นที่คุมขังที่โอ่อ่าหรูหราดีเหลือเกิน

    ต้องเป็นเพราะข้าเผลอหลุดกริยาดั่งพวกเศษเดนมนุษย์ออกมาสินะ พวกเทพอัศวินที่สง่างามจึงทำโทษข้าด้วยการคุมขังร่วมกับกลุ่มผู้ไร้สติปัญญาเช่นนี้ ... หรือความเพียบพร้อมในการเป็นมนุษย์ของข้ายังไม่ดีพอกันนะ?!

    “ข้าคือเทพอัศวินอาร์เทมิส หนึ่งในหัวหน้าเทพอัศวินทั้งสิบสององค์ของวิหารเทพแห่งแสงสว่าง สังกัดฝ่ายโคลด์บลัด เป็นผู้ที่มีเส้นผมสีม่วงเข้มเงางาม ผิวขาวซีดเหมือนหินอ่อน นัยน์ตาสีม่วงวาววับประดุจเพชรอเมทิส คติประจำตัวคือ ตัวข้าสูงส่งที่สุด ... แต่ประเด็นสำคัญที่ข้าต้องการจะกล่าวคือ เจ้าจะต้องมาเป็นลูกศิษย์ของข้าด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนในการเป็นเทพอัศวินอาร์เทมิสตามที่พูดมา”

    ผู้ชายคนนี้ช่างไร้มารยาทจริงๆ ไม่มีคนเคยบอกหรือว่าหากคู่สนทนากำลังแสดงท่าทีมีการครุ่นคิดอยู่นั้นห้ามพูดแทรกเด็ดขาด แถมยังเมินคำแนะนำในการสร้างปฏิสัมพันธ์แรกพบแบบผู้ดีของข้าอีกด้วย เขาพูดว่าอะไรนะ จะมาเป็นอาจารย์ข้าอย่างนั้นรึ? กำลังล้อเล่นอยู่รึไง? �

    แต่เทพอัศวินอาร์เทมิสที่ผู้ชายคนนี้พูดมามีรูปลักษณ์คลับคล้ายกับที่เคยได้ยินมาจริงๆด้วย ... เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าเขาผู้ที่จะมาเป็นอาจารย์ของข้าคือเทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นที่สามสิบเจ็ดองค์ปัจจุบันที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้า นั่นแสดงว่าความจริงเทพอัศวินอาร์เทมิสเป็นคนฟั่นเฟือนงั้นรึ !?

    เทพอัศวินอาร์เทมิสรุ่นที่สามสิบเจ็ดต้องมองทะลุเข้าไปในใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ ลึกเข้าไปในแววตาที่ไม่แสดงความรู้สึก ล้วงเข้าไปในจิตใจถึงจะเห็นความงงงวยของเด็กชายตรงหน้าได้ จากนั้นจึงพูดตัดบท ยุติความคิดทั้งหมดของข้า

    “ดูท่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ สงสัยเราคงต้องคุยกันอีกยาว”

    . . .

    (90% ---- Fin)

    และแล้วข้าก็กลายเป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็น ว่าที่เทพอัศวินอาร์เทมิส หลังจากนั้นเมื่อข้าถามท่านอาจารย์ว่าทำไมถึงเลือกข้า เขาเพียงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คล้ายกับยิ้มเยาะเหมือนที่เขาทำให้ข้าเห็นครั้งแรก และข้าก็ส่งรอยยิ้มแบบเดียวกันกลับไป


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×