คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 BATTLE SCHOOL
ภายในห้องที่ถูกทาด้วยสีขาวทั้งห้อง และเตียง5-6เตียงเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ มีเด็กหนุ่ม 5 คนนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง
‘...ที่นี่ไหนกัน’กรค่อยๆลืมตาตื่นและหยีตาลง ตาที่ตี่อยู่แล้วก็เล็กลงไปอีกเนื่องจากแสงไฟบนเพดานสะท้อนแสงกับผนังห้องสีขาวบริสุทธิ์ เด็กหนุ่มตาตี่ลุกขึ้นมามองรอบๆพึ่งได้รู้ว่าตัวเองอยู่บนเตียงซึ่งอยู่ภายในห้องสีขาวทั้งห้องซึ่งเขาคาดว่าน่าจะเป็นห้องพยาบาล
“แล้วนี่ใครหว่า”เขาพยายามเพ่มองรอบๆอีกครั้งพบว่ามีเตียงที่มีคนนอนอยู่4คน แล้วหันไปมองเตียงทางข้างซ้ายเขา มีเด็กสาวสีผมบลอนเงินยาวลงมาละต้นคอนอนอยู่อย่างแน่นิ่ง
“แต่ว่าหน้าคุ้นๆแฮะ”กรคิดถึงหน้าของไนซ์
“แต่ว่าไม่น่าจะใช่แฮะเพราะนี่เป็นผู้หญิงนี่”กรส่ายหน้าไล่ความคิด
“เออจะว่าไปไอ้เตียงขวานี่ก็คุ้นๆแฮะ”กรหันไปมองเตียงฝั่งขวาเห็นเด็กหนุ่มนอนอยู่ ผมสีน้ำตาลเข้มที่ตั้งชี้โด่ชี้เด่ของเขาเวลานอนทำให้ไม่เป็นทรงและที่สำคัญมีใฝที่ใต้ตาซ้ายเหมือนเพื่อนของเขา
“วุ คิดมากอีกแล้วกุ”กรสะบัดหน้าหลายทีเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด และค่อยๆลุกจากเตียงจะไปหาห้องน้ำ
“แล้วห้องน้ำมันอยู่ตรงไหนวะเนี่ย”กรมองซ้ายมองขวาหาห้องน้ำเพราะยังไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย
“โอ๊ะ!!ขอโทษครับ”กรมัวแต่มองซ้ายมองขวาจึงเดินเข้าไปชนกับชายวัยกลางคน
“อืม ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่จะไปไหนหละ”ชายคนนั้นถามอย่างใจดีแววตาบ่งบอกถึงความอบอุ่น
“เอ่อห้องน้ำหนะครับ”กรบอกอย่างสุภาพอย่างที่ไม่เคยพูดมาก่อน
“เดินตรงไปข้างหน้าอีกนิดหน่อยแล้วมองซ้ายก็เจอแล้วนะ...”ชายคนนั้นบอกเสียงนุ่ม กรเดินสวนไป แต่ลืมขอบคุณแต่เมื่อกรหันไปขอบคุณก็ไม่เห็นซะแล้ว
“คนอะไรเดินเร็วจัง”กรเกาหัวแกรกๆก่อนจะเดินตามที่ชายแก่บอก
“เฮ้ยยยย!!ทำไมผมเป็นงี้วะ”เสียงกรตะโกนดังจากในห้องน้ำ เนื่องจาก กรไปส่องกระจกแล้วเห็นเงาตัวเอ็งซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นตัวเอง เพราะ สีตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดและยิ่งกว่านั้น ผมเขายาวขึ้นอย่างมาก ผมข้างหน้าของเขาตั้งเด่โดยไม่ยอมลงมาปรกหน้าผาก และสีผมก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวสดเช่นเดียวกับสีตา
“อ๊ากกกก ทำไมมันเป็นอย่างนี้เนี่ย”กรกวักน้ำมาขยี้หัวอีกครั้งแต่สีก็ยังไม่ออก
“เพื่อนก็หาย อันตัวเราก็เป็นแบบนี้ แล้วจะทำยังไงหนอ”กรรำพึงไปเหมือนกรขณะเดินกลับไปที่เตียงของเขา
“หวังว่ากลับไปคงมีคำตอบนะ”กรบ่น เมื่อใกล้เดินถึงที่นอนของเขา
พรึบ เด็กหนุ่ม3คนและเด็กสาว1คนหันมามองกรพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
‘มองไรกันวะ’กรคิดในใจแล้วเดินไปนั่งเตียงของเขา
ทั้ง5คนมองหน้ากันไปมาเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอก
ชายวัยกลางคนผมสีน้ำตาลอ่อนตั้งขึ้นข้างบน ใบหน้าของเขาไม่สามารถเดาอายุได้เลย นัยน์ตาสีดำสนิทอยู่ภายใต้แว่นเหลี่ยมกรอบดำทำให้ดูแก่ลง
“เอ้าคุณ!!”กรเห็นหน้าคุ้นๆจึงนึกได้ว่าเจอกันก่อนไปเข้าห้องน้ำ และชี้ไปที่ชายวัยกลางคนนั้น
“อืม ผมเอง”ชายคนนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตร
“นี่ๆนายๆรู้จักกับเค้าด้วยหรอ”เด็กสาวแต่เสียงผู้ชายเตียงขวาสะกิด ถามกร
“อืม ฮะ นะ...นายเป็นผู้ชายหรอ”กรถามอย่างตกใจ
“ผมสั้นๆงี้เห็นเป็นผู้หญิงหรือไง”เด็กสาว(หรือเด็กหนุ่ม)คนนั้นตอบ
“กระจกมั้ย”กรหยิบกระจกจากโต๊ะข้างเตียงยื่นให้ดู
“เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้”เด็กหนุ่มคนนั้นร้องโวยวาย
“เอาหละๆใจเย็นๆเดี๋ยวเราจะอธิบายเรื่องทั้งหมดเอง”ชายวัยกลางคนเดินมาระหว่างกลางของเตียงเด็กหนุ่มทั้ง5พร้อมกระดิกนิ้วเล็กน้อยเก้าอี้ข้างๆก็เลื่อนมาให้เขานั่งทันทีทั้ง5มองด้วยความตกตะลึง
“เอ่อแล้วคุณชื่ออะไรหละครับ”เด็กหนุ่มหน้านิ่งผมสีฟ้ายาวลงมาปรกหน้าเล็กน้อยทำให้ดูหน้าได้ไม่ค่อยชัดนัยตาสีฟ้าของเขานิ่งเสียจนจับอารมณ์อะไรไม่ได้เลยเอ่ยถาม
“อ้อลืมไป เราชื่อ ฟรานเชส ฟาเบกัส โซเลอร์ เป็นอาจารย์ใหญ่ของ โรงเรียน แบ็ทเทิล สคูล”ฟาเบกัสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้วตามมาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
‘ชื่อเหมือนนักฟุตบอลที่เราชอบเลยวุ้ย’กรคิดในใจแอบยิ้มเล็กน้อย
“แล้วโรงเรียนแบ็ทเทิลสคูลมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราหละครับ”เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มฟูตั้งหลังการตื่นนอน นัยน์ตาสีกรมดวงนั้นดูไปเหมือนเหมือนใจเย็น ที่อยู่เตียงข้างๆเด็กหนุ่มหน้านิ่งเอ่ยถามขึ้น
“เรื่องนั้นเดี๋ยวอธิบายที่หลัง แต่ ขอแนะนำก่อน จำเพื่อนตัวเองกันไม่ได้จริงๆหรอ”ฟาเบกัสถามแบบยิ้มๆ
เด็กหนุ่มทั้ง5มองหน้ากันแล้วยิ้มเล็กน้อย
“อ๋อออออ”ทั้ง5ร้องอ๋อพร้อมกัน
“ไอ่ต๊ะ”เด็กหนุ่มหน้าสวยชี้ไปที่เด็กหนุ่มหน้านิ่ง
“ไอ่ไนซ์”กรชี้ไปที่เด็กหนุ่มหน้าสวย
“ไอ่กร”ต๊ะชี้ไปที่กร
“ไอ่จ้าน”เด็กหนุ่มผมยุ่งชี้ไปที่เด็กหนุ่มที่มีใฝใต้ตา
“ไอ่ฟิล์ม”จ้านชี้ไปที่เด็กหนุ่มผมยุ่ง
“อืมเท่านี้ก็รู้กันแล้วสินะ”ฟาเบกัสยิ้ม
“เดี๋ยวก่อนนะครับ แล้วที่นี่มันที่ไหน พ่อแม่เรารู้รึปล่าว แล้วทำไมพวกเราถึงได้กลายเป็นแบบนี้หละ”จ้านกระหน่ำยิงคำถามเป็นชุดๆใส่ฟาเบกัส
“เราบอกไปแล้วนะว่า เรา เป็น ผอ.ของโรงเรียน บีเอส หรือ แบ็ทเทิลสคูลนั่นเองและที่นี่คือ โรงพยาบาลของโรงเรียน แบ็ทเทิลสคูล พ่อแม่ของเธอก็เคยเรียนที่นี่และอนุญาตให้พวกเธอศึกษาต่อที่นี่ได้ และ คำถามสุดท้าย พวกเธอจะเป็นแบบนี้แค่ ในโลกแห่งนี้เท่านั้นแหละ หรือว่า พวกเธอไม่ชอบ”ฟาเบกัสตอบเรียงคำถามอย่างใจเย็น และถามกลับไป
“ชอบสิๆๆ หัวไม่เกรียนด้วย”ไนซ์ตอบทำเอาทุกคนหัวเราะ
“แล้วทำไมเราถึงต้องมาเรียนที่นี่หละ”จ้านถามต่อ
“เพราะว่าพวกเธอแต่ละคน มีพลังเหนือมนุษย์ ที่ชื่อว่า เอสพี ภายในตัว และไม่สามารถควบคุมได้ พวกเราจึงจำเป็นต้องนำเธอมาเรียน ที่นี่ 1ปีเต็มๆ เพื่อให้เธอสามารถควบคุมพลัง เอสพีนี่ได้ และถ้าอยากจะเรียนต่อปีที่2 และ3 ไปเรื่อยก็ย่อมได้เช่นกัน”ฟาเบกัสอธิบายละเอียด
“พลังเอสพีนี่ที่พวกผมใช้ไปตอนสู้กับเจ้าปีศาจนั่นรึปล่าว”กรเดา
“ใช่แล้วกร เธอฉลาดมาก นั่นแหละที่เรียกว่าSP ในโลกของพวกเธอหนะนะทุกปีๆ ต้องมีมนุษย์ที่มีพลัง SP มาศึกษาเรื่อยๆ จากทุกๆประเทศ และแต่ละคนๆนั้นจะไม่มีพลังที่ซ้ำกันเลย อย่างเช่นเธอกร เธออ่านใจศัตรู และควบคุมความแรงของหินได้ และยังมีพลังที่ยังไม่ได้ถูกเปิดในตัวเธออีกมากมาย พลังของเธอน่าจะเป็น เอสพี ออฟ เมนทัลพาวเวอร์ หรือวิญญาณแห่งพลังจิตนั่นเอง”ฟาเบกัสอธิบายพลังของกร
“ส่วนเธอ จ้าน พลังของเธอเป็นลักษณะของมิติเวลา เธอสามารถบิดเบือน เร่ง ทำให้ช้า หรือ แม้แต่หยุดเวลา ได้และยังมีความสามารถอื่นๆที่จะตามมาเมื่อควบคุมได้ พลังของเธอชื่อ เอสพี ออฟ ไทม์ไดแมนชั่น หรือ วิญญาณแห่งมิติเวลา นั่นเอง”ฟาเบกัสชี้ไปที่จ้านแล้วอธิบายพลัง
“ส่วนเธอ ต๊ะ พลังของเธอนั้น มีข้อได้เปรียบหลายอย่างมาก พลิกผลันสถานการณ์ได้ตลอด การเคลื่อนไหวแบบพิเศษของเธอ ไม่ว่าจะเป็น เคลื่อนที่เร็ว กระโดดสูง ต่อยหนัก ป้องกันทน และอื่นๆที่เธอสามารถพัฒนา ยิ่งขึ้นไปอีก พลังของเธอคือ SP OF สเปเชียล มูฟหรือวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว
นั่นเอง”ฟาเบกัสชี้ไปที่ต๊ะ
“เธอฟิล์ม พลังของเธอนั้น สามารถรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติได้ เอาพลังจากธรรมชาติรอบตัวมาใช้ แต่ ไม่ใช่อยู่ในเมืองที่ไม่มีธรรมชาติแล้วจะใช้ไม่ได้นะ ทุกสิ่งล้วนมาจากธรรมชาติทั้งนั้น เธอสามารถ ดึงเอาพลังธรรมชาติออกมาจาก ตึก รถ หรืออะไรก็ช่าง ถ้า การควบคุม SP สูงพอ”ฟาเบกัสชี้ไปที่ฟิล์มแล้วหยุดอธิบาย
“เอ้าแล้วผมหละ”ไนซ์ถามอย่างลุกลี้ลุกลน
“เอ่อ เธอไนซ์ใช่มั้ย SP ของเธอไม่มีใน ลิส ข้อมูล แต่ถ้าเดา SPของเธอ...น่าจะเป็นการก๊อปปี้พลังและเอามาใช้ได้เกินขีดจำกัดของพลังจริงที่ก๊อปมา แต่ข้อเสียคือ ต้องเห็นพลังก่อนถึงจะก๊อปปี้ได้ และถ้าเห็นแล้ว สามารถใช้ได้ครั้งเดียว ต้องเห็นซ้ำอีกรอบจึงจะใช้ได้ใหม่ และข้อเสียที่สำคัญคือ ใช้แล้ว จะสลบไปเลย”ฟาเบกัสอธิบายหน้าเครียด
“เอ้อ วันเปิดเรียน ประมาณอีก1 อาทิตย์นะ และนี่ สิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนทุกคนที่ต้องมี”ฟาเบกัสอธิบาย และดีดนิ้วทีเดียว สิ่งของที่คล้ายกับโทรศัพท์มือถือ แต่ใหญ่กว่านิดหน่อยก็มาวางอยู่ข้างๆตัวของเด็กหนุ่มทั้ง5แล้ว
“สิ่งนี้ โลกของเธอน่าจะเรียกว่า โทรศัพท์มือถือ แต่ โลกของเรา เรียกว่า ไซร์เบอร์ ชิพหรือเรียกย่อๆว่า ซีเอส อุปกรณ์ไฮเทค สามารถฉายภาพโฮโลแกรมออกมาจากจอได้ และสามารถทำอย่างอื่นอีกหลายอย่างได้”ฟาเบกัสอธิบายพร้อมกับล้วง ซีเอส ออกมาจากกระเป๋าและจิ้มๆไปที่หน้าจอซักครู่ จอก็ฉายภาพโฮโลแกรมน่าจะเป็นแผนผัง ของโรงเรียนแบ็ทเทิลสคูล ซึ่งมันใหญ่มาก
“นี่เป็นแผนที่ของโรงเรียนแบ็ทเทิลสคูล จุดสีแดงๆคือ ตัวเรา ส่วนโรงเรียนจริงๆ จะอยู่อีกทีข้างใน อันนี้คือส่วนนอกของโรงเรียน แต่ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของ BS เช่นกัน เป็นเหมือนกับเมืองๆหนึ่งเลยละ”ฟาเบกัสอธิบาย และกดปิด
“ส่วนเสื้อผ้าของเธอ ทางโรงเรียนเราได้จัดแจง เข้าห้องภายในที่พักของทางโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว อ้อ แล้วก็ก่อนจะเล่นCSหนะ สมัครสมาชิกโดยการป้อนข้อมูล และ แสกนลายนิ้วมือด้วยนะ ถ้าอยากรู้จัก BS อีกซักนิดก็ ลองเปิดแผนที่แล้วเดินสำรวจดูแล้วกัน”ฟาเบกัสอธิบายและโบกมือลา แล้วขอตัวไปทำธุระอย่างเร่งรีบ
“อะไรของเค้าเนี่ย เดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็ไป ไปสำรวจกันหน่อยมะ”กรบอกแต่ดูเหมือนพวกเพื่อนของเขาจะไม่สนใจเลยเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับเจ้าเครื่อง CS กรเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้า รีบสมัครสมาชิกCSทันที
“เราไปสำรวจกันเทอะ”หลังจากหนุ่มๆทั้ง5 ทำการสมัครสมาชิกเรียบร้อยร้อยแล้วก็รีบ เปิดแผนที่ดูทันที
“เอ่อเครื่องนี้มันเครื่องไรเนี่ย”จ้านชี้ไปที่เครื่องๆหนึ่งขณะหาทางออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้ เจ้าเครื่องนี้รอบๆทำด้วยกระจากเหมือนหลอดแก้วคล้ายๆลิฟ พอที่คน5-6 คนจะยืนได้
“ขนาดเจ้าCSยังมีแล้ว เครื่องนี้ก็คงเป็นเครื่องวาปหละมั้ง”ไนซ์บอกอย่างอารมณ์ดีพร้อมเดินนำเข้าไป เพื่อนๆอีก4คนก็เดินตาม
“เฮ้ย!!เครื่องวาปจริงๆเรอะ”ไนซ์ตะโกนอย่างตกใจ
“เออเห็นเป็นลิฟไงหละ”ต๊ะบอกหน้านิ่ง
“แล้วมันใช้ไงวะ”กรพูดอยู่แต่มือก็ไปกดที่ปุ่มสีเขียวทางซ้ายมือซะแล้ว
“เห้ยอย่ากดมั่วดิ เดี๋ยวพาไปที่อื่นหลงมาหละยุ่งเลย”ฟิล์มโวยวาย
“มั่วไรหละดูดิ๊”กรบอกพร้อมกับชี้รายการ สถานที่ ภายใน BS ทั้งหมดให้ดู
“ไป Center แล้วกันเนาะ”กรไม่ทันฟังคำตอบก็กดไปที่Center และหลังจากนั้น ทั้ง5คนก็เหมือนว่า ถูกดูดจากที่สูงลงที่ต่ำสลับไปสลับมาอย่างรวดเร็วนับ10รอบ
“อ๊ากกกกก”ทั้ง5คนร้องเสียงหลง ก่อนที่พวกเขาจะมาอยู่ใจกลางของ BS
“โอย ทีหลังจะกดไรปรึกษากันก่อนนะ”จ้านเดินออกมาเซเหมือนคนเมา และอีก4คนก็มีอาการเดียวกัน
“โห นี่หรอใจกลาง BS หรูกว่าโลกเราอีกนะเนี่ย”กรทำตาโตเหมือนเด็กเห็นของเล่นอันใหม่ ใจกลางBS นั้น เป็นหอนาฬิกาขนาดยักษ์และมีที่นั่งรอบๆ ทางเดิน5สายถูกทำให้มาเจอกันที่ลานกว้างตรงหอนาฬิกา สวนดอกไม้ขนาดเล็กถูกจัดไว้ข้างๆ ทางเดินแต่ละทางของถนนในเมือง พื้นถนนปูด้วยหินอ่อนสีขาวสะอาดตา ตึกหรือร้านที่ถูกปลูกสร้างมีลักษณะแตกต่างกันไป
“แต่คนยังไม่ค่อยเยอะนะ”ต๊ะพูด
“เออน่า เดินสำรวจกันดีกว่า ว่าแต่จะไปทางไหนดี”กรถามแต่ขากลับเดินนำไปทางเหนือของหอนาฬิกาไปแล้ว ทั้ง4คนได้แต่มองหน้ากัน
“ปล่อยมัน”ทั้ง4พูดพร้อมกัน แต่ก็เดินตามกรไปแต่โดยดี
“รู้สึกทางนี้ คนจะพลุกพล่านกว่า หอนาฬิกาอีกนะเนี่ย”ไนซ์บ่นเมื่อเห็นคนเดินไปเดินมา บ้างก็อยู่ในร้านขายของเพื่อแวะดูของ บางคนก็มาเป็นกลุ่มๆหันซ้ายหันขวา เหมือนพึ่งเคยมา แต่สำคัญ สาวๆที่นี่สวยๆทั้งนั้นเลย หนุ่มทั้ง5คนแทบจะเป็นเป้าสายตาของสาวๆที่เดินผ่าน เนื่องจากหน้าตาแต่ละคนดีๆกันทั้งนั้น
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”เด็กสาวคนหนึ่งเดินมาชนกรเบาๆและวิ่งไปเลย
“ฮิฮิฮิ”เสียงหัวเราะของเด็กสาวกับเพื่อนของเธอที่เดินชนเมื่อกี๊นี้
“อะแฮ่มๆเสน่ห์แรงนะเนี่ย”จ้านแซว
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ทั้ง5คนหัวเราะพร้อมกัน
“เห้ยๆเดี๋ยวๆพ่อติดต่อมาว่ะ”ไนซ์บอกก่อนจะหยิบCSที่สั่นอยู่ ขึ้นมากดรับ
“อ๋อออ อืมครับๆเดี๋ยวไนซ์บอกให้แล้วกัน”ไนซ์คุยเสร็จก็เอาCSใส่กระเป๋าคืน
“เออ พ่อพวกเอ็งอะ ฝากบอกว่า เงินในธนาคาร BS มีอยู่จำนวนมหาศาลเลยหละไปกดกันหน่อยมะ”ไนซ์หันมาบอก
“ไปดิๆ ว่าแต่ธนาคารอยู่ตรงไหนของเมือง”จ้านทำหน้าสงสัย
“ก็เข้าไอ่เครื่องวาปนี่สิ”กรชี้และเหมือนเคย เดินนำไปแล้ว
“เห้ยยย เดี๋ยวเดินหาเอาไม่ได้หรอ”ไนซ์พูดทำหน้าน่าสงสาร
“ไม่เอา”กรพูดพร้อมกับลากไนซ์มาด้วย (เรื่องจริงมันทำไม่ได้หรอก)
แล้วก็เหมือนทั้ง5ได้นั่งรถไฟเหาะอีกรอบ
ทั้ง5หนุ่มได้มาอยู่ข้างหน้าตึกใหญ่ๆหลังหนึ่ง
“ใหญ่แท้วะ”ฟิล์มมองตั้งแต่ข้างล่างยันข้างบน
“เข้าไปกันเล้ย”กรนำ (อีกแล้วหรอ)
ภายในธนาคารแทบจะไม่มีคนเลย มีแค่พนักงาน3-5คนนั่งที่เคาท์เตอร์อยู่
“ไหนๆ มานี่เดี๋ยวจะลองทำดูก่อน”ไนซ์เดินเข้าไปที่เครื่องเหมือนATMแถวบ้าน แล้วเอานิ้วโป้งกดลงไปตรงช่องเล็กๆซ้ายมือ แล้วเขาก็กดอะไรบางอย่าง จากนั้น แบงค์สีเทาๆคล้ายๆแบงค์พันไหลออกมา 5ใบ
“อะ ให้ยืมก่อนค่อยกดคืน เห็น พ่อเขาบอกว่า หน่วยเงินที่นี่น่าจะเป็น โรล มั้งถ้าจำไม่ผิด”ไนซ์อธิบาย
“งั้นไปเดินซื้อของก่อนดีกว่า”ต๊ะออกความคิดเห็นบ้าง และทำเช่นเดียวกับที่กรเคยทำ คือ เดินนำ
“ตามมันไป”ไนซ์บอกก่อนจะเดินตาม และอีก3คนที่เหลือก็ทำอย่างเคย คือ เดินตาม
ภายในBSนั้นมีร้านขายของมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดใหญ่หรือร้านที่กางผ้าและมีของขายวางๆอยู่ตามข้างทาง
“รู้สึกมันจะแวะทุกร้านเลยนะ แต่ไม่ยักกะซื้อแฮะ”จ้านหันไปกระซิบกับฟิล์ม และฟิล์มก็พยักหน้าตามเห็นด้วย
“อื๋อ”ต๊ะหยุดเดินและมองไปที่ร้านเล็กร้านหนึ่ง ที่กางผ้าขายอยู่ น่าจะขายพวกอาวุธ
“เอ่อป้าครับ ไอ้เจ้านี่อันละเท่าไหร่”ต๊ะหยิบมีดบินสีเงินคู่หนึ่งมาดู
“หลานจะเอาหรอ ถ้าหลานจะเอาป้าให้ฟรีไปเลย ไม่คิดเงินหรอก”ป้าแก่ๆใส่เสื้อมีฮู้ดคลุมหัวอยู่บอกเสียงสั่นๆ
“จะเอาอย่างนั้นจริงๆหรอครับ”ต๊ะถามอย่างสุภาพ
“จ๊ะ”เธอตอบปัดๆ
“ครับๆ งั้นขอบคุณมากๆเลยนะครับ”ต๊ะบอกขอบคุณและวิ่งไปหาเพื่อนของเขาที่ยืนรออยู่
“คิคิ เสร็จภารกิจ”ป้าคนนั้นพูดเบาๆ พร้อมกับดีดนิ้วป๊อกหนึ่ง ทั้งเธอ อาวุธและผ้าที่วางอาวุธก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“หือเลือกของเก่งนี่ สวยซะด้วย เท่าไหร่หละ”จ้านหยิบมีดขึ้นมาดูรอบๆ
“ฟรี”ต๊ะตอบสั้นๆ
“ฮะ ฟรี”ทั้ง4อุทานพร้อมกัน
“เออ ฟรี”ต๊ะตอบซ้ำ
“ไหนๆตรงไหน”ไนซ์มองหา
“ก็ตรงนั้นไง”ต๊ะชี้ไปที่ข้างหลังที่ป้าคนนั้นเคยนั่งขายอยู่
“ไหนไม่เห็นมี”ไนซ์มองไปทางที่ต๊ะชี้แต่ก็ไม่เห็นอะไร
“สงสัยไปแล้วมั้ง”ต๊ะตอบปัดๆ
“ไปเหอะๆ สำรวจต่อดีกว่า”กรเดินนำอีกตามเคย
ดูเหมือนว่า ถนนสายนี้เหมือนจะมีแต่ร้านขายอาวุธและเครื่องป้องกันซะส่วนใหญ่
“มีแต่ร้านอาวุธเลย จะให้กินไรวะเนี่ย”ไนซ์บ่นมาแทบตลอดทาง
“เออๆ น่า เดี๋ยวค่อยเข้าเครื่องวาปไปกลางเมืองแล้วเปิดแผนที่ดูอีกที”กรบอกอย่างไม่สนใจแทบจะทุกครั้งที่ไนซ์บ่นแต่ก็ยังไม่ได้เข้าเครื่องวาปซักที
ปึก
“อุ๊บ”เด็กหนุ่มตัวสูงคนหนึ่งเดินมาชนกรและผ่านไปเลย
“เห้ย ขอโทษเป็นมั้ยวะ”กรหันไปโวยใส่ตามประสาคนอารมณ์ร้อน
“แล้วจะทำไม”เด็กหนุ่มคนนั้นหันมาเผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่ ผมสีแดงหยักโศกยาวลงมาปรกคอนัยตาสีแดงเช่นเดียวกับสีผมภายใต้แว่นกรอบสีดำหนาเตอะบอกถึงความใจร้อนเช่นเดียวกับกร ตอบอย่างกวนๆ
“เห้ยกรใจเย็นๆน่า”ไนซ์พยายามห้าม
“ไม่เย็นแล้วเว๊ย อย่างงี้มันหาเรื่องกันชัดๆ”กรสะบัดมือไนซ์ออกแล้วเดินเหมือนจะเข้าไปหาเรื่อง ตัวของชายหนุ่มคนนั้นกับกรแทบจะวัดกันแบบว่า เสาไฟฟ้ากับหลักกิโลเลยก็ว่าได้เพราะ สูงกว่ากรมาก
“จะเอามั้ยหละ”ชายคนนั้นเดินกลับมา
“เดี๋ยวนี้เลยก็ได้”กรบอกอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับวิ่งออกไป
“เฮ้ยเดี๋ยวดิ ใจเย็น”ไนซ์เตรียมจะวิ่งไปห้าม (หรือจะไปช่วย) แต่ถูกจ้านดึงไว้พร้อมกับส่ายหัวน้อยๆ
“ย๊ากกกกก”กรวิ่งเข้าใส่อย่างไม่คิดชีวิต...
ความคิดเห็น