ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Witchcraft Magic School

    ลำดับตอนที่ #6 : ตำราศาสตร์แห่งการทำนาย

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 54


     ตำราศาสตร์แห่งการทำนาย




     

    หินทำนาย (Stone for Fortune)

               ศาสตร์ใหม่ล่าสุด และ แม่นยำ แห่งการทำนยทายทัก โดยใช้การสื่อจิตผ่าน หินสี หรือ หินพลังต่าง ๆ ในการแปลความหมาย เช่น หินเทอร์ควอยซ์ หินอเมทิสต์ หินโรสต์สควอส์ และหินพลังงานที่เก็บกักความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มีมานับล้านปี  ผ่านการทำนายโดยนักพยากรณ์ที่ต้องใช้สมาธิและจิตสัมผัสอย่างดี

    การดูดวงผ่านการเลือกหินนั้นให้ผลเร็วและแม่นยำกว่าไพ่ยิปซี คือ 1-2 สัปดาห์ เพราะพลังหินมีแรงดึงดูดมากกว่า วิธีการคือ เมื่อตั้งคำถามเสร็จก็ให้เลือกหินจากกล่องผ้า โดยไม่ให้ผู้ดูเห็นหิน หินที่ใช้มากกว่า 30 ก้อน โดยจะดูดวงจากหินที่เลือกหยิบมา และบุคลิกท่าทางในการเลือกในการควานหาด้วยและทำนายตามหินที่เลือกมา ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกันตามประเภทของหิน

     

    หินก้อนเดียวก็ศักดิ์สิทธิ์ได้

    หินสะเก็ดดาว         >>>ทายเรื่องโรคภัย อาถรรพ์คุณไสย

    กรีน อเวนเจอรีน     >>>เรื่องโชคลาภแบบฟลุก ๆ

    ซีทริน                   >>>ความร่ำรวย โชคลาภ

    เรดแจสเปอร์         >>>เรื่องโชคภัยเกี่ยวกับเลือดจาง ช่องท้อง อวัยวะเพศ

    หินตาเสือ             >>>เรื่องสัมผัสที่ไม่ปลอดภัยหรือต้องไปในที่ที่ไม่ปลอดภัยไม่คุ้นเคย

    ฟลูออไรด์              >>>การปรับเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น หรือระวังการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและฟัน

    อเมทิสต์                >>>การหยั่งรู้ การศึกษา ทำให้เด็กมีสมาธิมากขึ้น

    โรส ควอตซ์           >>>กี่ยวกับความรักหรือการงานที่ไร้อุปสรรค

    อความารีน             >>>เป็นหินประจำราศีมีน ทายเรื่อง    ความมั่นคง ความสุข ความเจริญ

    เทอร์ควอยส์           >>>เรื่องงานที่เกี่ยวกับการต่อสู้แข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้น ฯลฯ

    ****************************
    ******************************************

    Runes



    แนะนำอักษรรูน อักษรรูนเป็นตัวแทนภาพบางอย่าง ในเนื้อหาความรู้นี้จะแนะนำตำนานการใช้อักษรรูน วิธีการสร้างรูนและใช้ชุดตัวอักษรรูนของคุณเอง รูปแบบการพยากรณ์อักษรรูน ภาพและความหมายของรูนแต่ละตัวจะถูกนำมาอธิบายอย่างง่ายๆ ทั้งยังมีแนวความคิดที่จะใช้งานนอกเหนือการพยากรณ์รูนแบบธรรมดาอีกด้วย วิธีการแห่งรูนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอาจส่งผลยิ่งใหญ่ในหลายระดับ มันถูกใช้ไม่เพียงเพื่อการทำนายแต่ทำนายชะตาเท่านั้น แต่ยังเพื่อการปกป้องรักษา รวบรวมอำนาจ และเรียนรู้ ศาสตร์ลี้ลับแห่งรูนไม่ใช่เรื่องลึกลับแต่อย่างใด มันเป็นเพียงเส้นทางการเรียนรู้ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้


    ประวัติศาสตร์รูน รูน คือระบบการเขียนภาษาอันศักดิ์สิทธิ์ มีใช้กันในชนเผ่าของชาวเยอรมานิค แห่งยุโรปเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอังกฤษ สแกนดิเนเวีย และไอช์แลนด์ ต้นกำเนิดของมันไม่ทราบปรากฏแน่ชัด แต่ตัวอักษรรูนถูกค้นพบตั้งแต่ปี ค.ศ. 3 เมื่อมีอักษรรูนปรากฏอยู่บนแผ่นศิลา อาวุธ และเครื่องมือต่างๆ รูปแบบที่เป็นตัวเหลี่ยมของมัน บ่งชี้ข้อเท็จจริงว่า ภาษารูนนั้นถือกำเนิดมาเพื่อการสลัก ไม่ใช่การเขียน 
         คำว่ารูน มาจากคำว่า รูนา หมายถึง การกระซิบ หรือ ความลับ ซึ่งหมายถึงการใช้เวทย์มนตร์ทั่วทั้งดินแดนภาคเหนือของยุโรป มีหมอผีซึ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอันซับซ้อน ลึกซึ้งทางวิญญาณ โดยใช้ตัวอักษรรูนเป็นส่วนประกอบสำคัญ หมอรูนจะได้รับการนับถืออย่างสูงส่ง พวกเขารู้วิธีใช้ตัวอักษรรูนพยากรณ์ ใช้มันเพื่อสร้างเวทย์มนตร์ และรักษาโรคภัย
         ในอดีต มีคนสองกลุ่มใหญ่ที่ทำงานกับรูน คือ คนสร้างรูน ซึ่งมีความรู้เรื่องภาษารูน และคุณสมบัติของมันน้อย และหมอรูน ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์เริ่มต้นจนได้ค้นพบความลับอันลึกซึ้ง จากตำนานรูน หมอรูนเหล่านี้ได้รับความเลื่อมใสมาก พวกเขาไม่เพียงแต่จะทำนายรูนอย่างได้ผลเท่านั้น แต่ยังรู้วิธีใช้รูนทำเวทย์มนตร์และการรักษาอีกด้วย 
         ตำนานรูนมีความเกี่ยวโยง ในเทพนิยายเทพเจ้าของชาวนอร์ส กล่าวกันว่า โอดิน ซึ่งเป็นผู้นำเหล่าเทพยดา เป็นผู้ค้นพบรูน และถือว่าเป็นหมอรูนคนแรก ในตำนานยังกล่าวถึงเทพองค์อื่นๆ เช่น จอร์ด เทพแห่งทะเล เฟรยา เทพีแห่งสงคราม ความรัก และเวทย์มนตร์ อิดุน เทพีแห่งการรักษา และทีร์ เทพนักรบ ตำนานเหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ในความหมายและมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของรูนจนถึงปัจจุบันนี้ โอดิน ผู้เป็นบิดาแห่งเทพเจ้านอร์สทั้งมวล มีประสบการณ์การใช้อำนาจแบบหมอผี ช่วงเวลาที่รูนปรากฏแก่เขา ตามตำนานเล่าว่า เขาแขวนตัวเองห้อยหัวลงกับต้นแอช ยิกดราซิล ต้นไม้โลก หรือต้นไม้แห่งชีวิต หลังจากเวลาผ่านไป 9 วัน 9 คืน โอดินเสียชีวิตอยู่บนต้นไม้นั้น แต่ก็กลับถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง ด้วยพลังใจที่ไม่สามารถถูกปราบได้ เขานำความรู้และสติปัญญาจากโลกอื่น รวมทั้งรูนกลับมาพร้อมเขาด้วย

     
    *******************************************************************
            




    ไพ่ทาโรต์  เป็นไพ่ชนิดหนึ่ง เป็นที่รู้จักตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 20 แต่ลักษณะไพ่ไม่เหมือนในปัจจุบัน กระทั่งพุทธศตวรรษที่ 23 ในทวีปยุโรปนั้นไพ่ทาโรต์แพร่หลายในรูปแบบของเกมการละเล่น เช่น Italian Tarocchini และ French Tarot แต่ในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของภาษาอังกฤษนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องมือในการทำนายโชคชะตามากกว่า ไพ่ทาโรต์แบบที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดคือ ซึ่งวาดโดย พาเมลา โคลแมน สมิธ  ตามการออกแบบของ อาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวท และเผยแพร่โดยบริษัทไรเดอร์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2452 แต่ก็มีไพ่ทาโรต์รูปแบบอื่นๆซึ่งมีชื่อเสียงอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น ธอธทาโรต์  ซึ่งวาดโดย ฟรีดา แฮริส และออกแบบโดย อเลสเตอร์ โครวลีย์ 

    ไพ่จะมีลักษณะคล้ายกับไพ่ป๊อกที่ใช้เล่นกันตามปัจจุบัน แต่แยกออกเป็น 2 ชนิด คือ สำรับใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยไพ่ 22 ใบ และสำรับเล็ก 56 ใบ ไพ่แต่ละใบมีสัญลักษณ์ประจำ การอ่านไพ่ขึ้นอยู่หลายปัจจัย อย่างแรก ดูจากความหมายของสัญลักษณ์ของตัวไพ่ และอีกประการหนึ่งคือ อ่านรวมกับไพ่ใบอื่นโดยดูจากตำแหน่งของไพ่ ไพ่ทาโรต์มีหลายแบบและได้รับความนิยม เนื่องจากความไม่ยุ่งยากในการอ่านไพ่ที่มีสัญลักษณ์บอกความหมายอยู่แล้ว

    ในประเทศไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยที่จะเรียก "ไพ่ทาโรต์" ว่า "ไพ่ยิปซี" โดยอิงตามความเชื่อที่ว่าชาวยิปซีเป็นผู้เผยแพร่ศาสตร์ประเภทนี้ ทว่าไพ่ทั้งสองกลุ่มจัดเป็นไพ่คนละประเภทกัน 

    ไพ่ทาโรต์ Raider-Waite ซึ่งเป็นรูปแบบที่แพร่หลายที่สุดมีไพ่ทั้งหมด78ใบ แบ่งออกเป็น ชุดใหญ่ หรือ เมเจอร์อาคาน่า 22ใบ และ ชุดย่อย หรือ ไมเนอร์อาคาน่า 56ใบ อย่างไรก็ตาม ไพ่ทาโรต์บางชุดอาจมีจำนวนและรูปแบบของไพ่ที่แตกต่างออกไป บางครั้งศิลปินจะวาดเพียงไพ่เมเจอร์อาคาร์นาเท่านั้น

    ไพ่เมเจอร์อาคาร์นานั้นเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งต่างๆในชีวิตมนุษย์ ซึ่งการตีความในลักษณะนี้เรียกว่า Fool's Journey ซึ่งในสำรับRider-Waiteนั้น มีเมเจอร์อาคาร์นาเรียงตามหมายเลขดังต่อไปนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×