ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมโจรแห่งเฟลเมียร์

    ลำดับตอนที่ #2 : การกลับมา

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 49


           

    การกลับมา

                   ใกลออกไปทางเหนือ ในอนาจักรเฟลเมียร์

    ณ เมืองท่าสำคัญ คาทูน  เป็นเวลา1อาทิตย์หลังเหตุการณ์ บนเกาะแห่งพายุ  ชีวิตทุกชีวิตในคาทูนดำเนินไปอย่างสงบ ไม่มีใครรู้สึกเลยว่าดูมไม่ได้อยู่บนเกาะแห่งพายุแล้ว  จอมโจรชื่อก้องแห่งเฟลเมียร์ กลับมาแล้ว

             คาทูน  เป็นเมืองท่าสำคัญของเฟลเมียร์ ที่มีการค้าขายที่เจริญรุ่งเรือง ทำรายได้เข้าอนาจักร ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ยังน้อยกว่าในรัชสมัยของราชา

    เธโอน กษัตริย์ พระองค์ก่อน  เฟลเมียร์ในสมัยของพระราชา เธโอน แผ่นดินมีแต่ความสงบสุข ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์การค้าขายรุ่งเรือง ไม่มีศึกสงคราม ไม่มีโจรผู้ร้าย(อาจยกเว้นดูม) 

           แต่เมื่อพระราชา เธโอน จากเฟลเมียร์ไปอย่างไม่หวนกลับ เจ้าชายเนโรขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากบิดา

    ก็เหมือนความสงบสุขในเฟลเมียร์จากไปพร้อมพระบิดา

    ของพระองค์

        ภาษีดีดตัวขึ้นสูง ข้าวยากหมากแพง โจรผู้ร้ายชุกชุม

    คนตายมากมาจากสงครามทั้งในและนอกอนาจักร ทุกสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ราชาเนโร ครองบันลังค์แห่งเฟลร์เมียร์

      

          ตรอกหมาป่าเป็นหนึ่งในตรอกหลายร้อยตรอกในคาทูน สินค้าส่วนใหญ่เป็นพวกเหล้า ยาสูบต่างๆ ในตรอกนี้มีร้านเหล้าเก่าๆอยู่แห่งหนึ่งชื่อเดียวกับตรอกนี้  เป็นเวลาดึกมากแล้วในร้านเหล้าหมาป่า

         บาเรียสเจ้าของร้านกำลัง เช็ดแก้วอย่างเบื่อหน่ายและจัดเรียงมันลงบนชั้น บาเรียสมีรูปร่างสูงใหญ่ ออกท้วมนิดๆ บางคนบอกว่าเขาควรไปเป็นทหาร เนื่องจากรูปร่างเอื้ออำนวย ดีกว่าเปิดร้านเหล้าเก่าๆที่รายได้ไม่ดีอย่างนี้

           มีแขกอยู่ในร้าน2โต๊ะๆหนึ่งเป็นพวกนักเลงขี้เมาที่กำลังดื่มเหล้าและเมาได้ที่ อีกโต๊ะเป็นคู่รักที่เขารู้จักดีเพราะอาศัยอยู่ในตรอกนี้

          อา...เหล้าเอามาอีกขวด เว้ยเจ้าของร้าน นักเลงบนโต๊ะตะโกนอย่างเมามาย

               บาเรียสเอื้อมไปหยิบขวดเหล้าบนชั้นและนำไป       วางบนโต๊ะของพวกนักเลง

           เอิก...ดีเฮ้ยพวกแกรู้มั้ยมีเรื่องเกิดบนเกาะแห่งพายุ นักเลงหันไปบอกพวก

            คำพูดนี้ทำให้บาเรียสสะดุ้งเฮือกแต่ ก็พยายามเก็บอาการเดินกับไปที่เคาเตอร์และเงี่ยหูฟัง

         เหรอวะเกิดอารายละ อีกคนถาม นักเลงผู้ถูกถามพูดว่ามันเป็นข่าวลือว่า ดูมแหกคุกdarkstoneออกมาแล้ว

          จริงหรือ มานทามได้งายวะ เป็นแค่ข่าวลือรึเปล่า

    นักเลงคนที่3พูด

         จิตใจบาเรียส เต็นไปมาอย่างตื่นเต้น  เขากลับมาแล้วจริงๆหรือ ดีจริง

        ช่างมานเหอะอาจเป็นแค่ข่าวลือก็ได้  กินเหล้าต่อ

    นักเลงผู้เริ่มเรื่องกล่าว ยังไงถูกขังในคุกนั้น3ปีมันคง

    เป็นบ้าจนไม่มีปัญญาแหกคุกได้หรอก

           บาเรียสถอนใจพร้อมนิ่งคิดอาจจริง ไม่มีสติดีคนไหนที่อยู่ในคุกdarkstoneแล้วไม่เป็นบ้า

         เฮ้ยแกะนักเลงคนเดิมตะคอกไปยังเด็กหนุ่มนั่งอยู่กับคู่รักของเขาอีกโต๊ะ

         เด็กหนุ่มมีทีท่ากลัวๆเล็กน้อย แต่ก็ฝืนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินและพูดกับบารียสว่า เก็บเงินทีบาเรียส

          แกไม่ได้ยินข้าเรียกหรือไอ้หนู นักเลงพูดพร้อมลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะของเด็กหนุ่มกับคนรัก

           บาเรียส คิดว่าเกิดเรื่องแน่ จึงพูดเรียบๆกับเด็กหนุ่มว่า เอาเงินวางไว้บนโต๊ะ ดอน แล้วรีบไปซะ  ส่วนพวกท่านร้านปิดแล้วจ่ายเงินแล้วไปได้

           อย่ามายุ่งเก็บปากเจ้าไว้ร้องขายเหล้าดีกว่า นักเลงอีกคนพูดเยาะๆ

            นักเลงคนที่หาเรื่อง ดอน หันมาพูดกับดอนว่าแกไปได้แต่นางนี่ต้องอยู่ก่อน พร้อมส่งสายตาแทะโลมไปยังหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆดอน

              อย่ายุ่งกับนางนะ ดอนพูดเสียงขรึมแต่น้ำเสียงแสดงออกว่า เขากลัวผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเพียงใด

            นักเลงเหมืนรู้อาการจึงพูดยิ้มๆว่า ทำไมแกจะทำอะไรข้าต่อยข้าเหรอ

                   พูดจบนักเลงทั้ง4คนก็หัวเราะพร้อมกัน แต่บาเรียสที่ดูเหตุการณ์อยู่ใกลๆเริ่มกำแก้วในมือแน่นขึ้น เขาไม่ได้ทำร้ายคนมาเป็นเวลา3ปีแล้ว ภาวนาอย่าให้ข้าต้องทำมันอีกเลย บาเรียสคิด

            นักเลงเริ่มยั่ว ดอนทันที เอาซิอยากต่อยข้านักเหรอคิดว่าจะป้องกันคนรักเจ้าได้ก็ลองดู  บาเรียสกำแก้วแน่นขึ้นอีก

            ดอนยังนิ่งอยู่ นักเลงจึงเริ่มยั่วต่อโดยการพยายามดึงแขนหญิงคนรักของดอนมาหาตัว

          ได้ผลดอนเริ่มโกรธ และพยามยามปัดมือนักเลงพวกนั้น อย่ายุ่งกับนางไอ้พวกสวะ ดอนสบถ

           แกกล้าด่าข้าเหรอ เฮ้ยรุม นักเลงหัวหน้าพูด นักเลงอีกคนเข้าล็อค ดอนจากด้านหลัง นักเลงอีกคนพุ่งเข้าหาพร้อมง้างหมัดขึ้น หญิงคนรักของดอนเริ่มร้องไห้

          เพล้ง! แก้วใบหนึ่งลอยกระแทกหัวนักเลงที่ง้างหมัดใส่ดอน  เลือดอาบและล้มลง

          บาเรียสนั่นเอง แววตาของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมมากจากแววตาที่ดูธรรมดา กลายเป็นแววตากระหายเลือด

         บาเรียสเดินย่างสามขุมหาพวกที่เหลืออีก2คน พร้อมบอก ดอน  กลับบ้านซะดอนนำหญิงคนนี้ไปด้วย

         ดอนซึ่งหลุดจากนักเลงอีกคนตอนไหนไม่ทราบรีบคว้าแขนคนรักวิ่งออกจากร้านทันที

         แกจะเอาหรือไอ้คนขายเหล้า นักเลงหัวหน้าที่พึ่งลุกขึ้นถามดุๆพร้อมกับที่นักเลง อีก2คนก็เดินเข้ามาประชิดตัวเขา

    ไปซะก่อนที่เจ้าจะไม่มีขาให้เดิน บาเรียสตอบเสียงดุ

           หึ..นักเลงเยาะและพูด จัดการมันนักเลงอีก2คนพุ่งเข้าล้อมบาเรียส ซ้าย ขวา

     

           ศัตรูมี3คน บาเรียสบอกกับตัวเอง

     

          นักเลงคนขวาพุ่งเข้าหาเขาพร้อมเงื้อหมัด  รวดเร็วมากบาเรียสคว้าแขนนักเลงคนนั้น พร้อมปล่อยหมัดเข้าเต็ม   หน้า นักเลงคนนั้นล้มลงทันที

     

            เหลือ2คน

          แก...  นักเลงคนซ้ายชักมีดสั้นพุ่งเข้าหา  หมับ! บาเรียสจับมือของนักเลงคนนั้นบิดแล้วทุ่มลงพื้น พร้อมเตะซ้ำ

     

        คนสุดท้าย

     

            บาเรียสหันไปหานักเลงคนสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนเป็นหัวหน้ายืนขาสั่นอยู่

            ไปซะอย่ามาเหยียบที่นี่อีก ไม่งั้นเจ้าเจ็บตัวแน่ เจ้านักเลงกระจอก

           เมื่อได้ยิน นักเลงรีบวิ่งออกจากร้านทันที  อ็อกเสียงนักเลงที่วิ่งออกไปได้ไม่นาน ถูกโยนเข้ามาในร้าน

        บาเรียสวิ่งไปตรวจดู สลบบาเรียสคิด ใครกัน มีเสียงเย็นๆพูดขึ้นมาหน้าร้าน

         ถ้าข้าเป็นเจ้า จะไม่ปล่อยมันหรอก มันอาจนำพวกมาถล่มร้านเจ้าได้

         บาเรียสหันไปทางบุรุษผู้ยืนอยู่หน้าร้านสวมชุคลุมสีดำมีผ้าคลุมปิดหัว

         เสียงๆนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ บาเรียสรู้จัก เขาแทบไม่อยากเชื่อ ว่าจะมีโอกาสได้ยินเสียงนี้อีก ในชีวิต

        บาเรียสจ้องหน้าชายใต้ผ้าคลุมคนนั้นครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า ดูม นั่นเจ้าใช่มั้ย

         ชายคนนั้นยิ้มและพูดว่า ข้าเอง หมีโหดเพื่อนข้า

    ข้ากลับมาแล้ว

         เงียบไปซักพัก ดูมเริ่มหัวเราะ บาเรียสก็หัวเราะเช่นกัน แล้วทั้ง2ก็พุ่งเข้ากอดกันและระเบิดเสียงหัวเราะ

         เจ้ากลับมาแล้ว เจ้ากลับมาแล้ว บาเรียสหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เจ้าไม่บ้าด้วยฮ่าๆ

         ใช่ๆ เจ้าปล่อยข้าได้แล้ว  หมีโหด ดูมพูด

         เจ้ายังจำฉายาข้าได้  บาเรียสพูดพร้อมปล่อยดูมออก

    เจ้าหลุดออกจากคุกนั่นได้ยังไง กัน

         บางทีข้าจะเหล้าให้เจ้าฟัง หลังจากที่เรามัดเจ้าพวกนี้แล้วมีอะไรร้อนๆกินกันหน้าเตาผิง

     

         เก้าอี้2ตัวถูลากมาหน้าเตาผิง   ดูมนั่งลงระหว่างที่บาเรียสนำนักเลงทั้งหมดไปมัด และเก็บไว้ในโรงเก็บของ

    หลังร้าน  แท้จริงแล้วบาเรียสคนนี้ คือหนึ่งในผู้นำกองโจรแห่ง เฟลมียร์ ที่มีดูมเป็นหัวหน้า นั่นเอง!

            เอาละดูม เจ้าบอกข้าได้รึยังละว่าเจ้าหนีออกมาได้ไง

    บาเรียสพูด ขณะส่งแก้วชาร้อนให้ดูม

           ดูมจิบชาร้อนอึกหนึ่ง แล้วเริ่มเล่า เหตุการณ์บนเกาะแห่งพายุให้ บาเรียสฟัง

              มันเป็นคืนที่ฝนตกหนักในคุก darkstone ข้ากำลังนั่ง ทอดอารมณ์ คิดวิธีหลบหนีออกจากที่นั่น  แปลกมากที่ ปกติข้าไม่นอนเวลากลางคืน แต่ข้ากลับง่วงเป็นพิเศษในคืนนั้น

              ในที่สุดข้าก็เผลอหลับไป โดยไม่รู้ตัว ข้าเริ่มฝันประหลาด ในฝันข้าเห็นชายแก่คนหนึ่งมีทีท่าสง่างาม

    บอกกับข้าว่า ดูมข้ารู้ว่าเจ้าถูกขังอยู่คุกที่นี่อย่างไม่ชอบธรรม ข้ามาเพื่อปลดปล่อยเจ้า ข้าถามว่าเขาจะช่วยข้าเพื่ออะไร เขาจึงตอบว่า ชะตาเจ้าจะเป็นผู้ดับไฟเพลิงแห่งความชั่วที่โหมไหม้ดินแดน เฟลมียร์ อยู่ในขณะนี้

    หมายความว่าข้าต้องช่วยเขาหลังจากออกจากคุกนี้หรือ

    ข้าถาม เขากลับตอบว่า

      ยังก่อน จอมโจรแห่งเฟลเมียร์ ตอนนี้ใจเจ้ายังไม่สงบ

    จงไปจัดการความแค้นในใจท่านให้เรียบร้อย เมื่อใดใจท่เจ้าสงบเราจะได้พบกันอีกครั้งพูดจบเขาก็ยื่นแหวนวงหนึ่งมาให้ข้าแล้วพูดว่า สิ่งนี้จะช่วยเจ้าให้หลบหนีจากที่นี่ได้ แล้วเขาก็หายไป พร้อมกับที่ข้าตื่น และพบว่าในมือมีแหวนวงที่เหมือนในความฝันข้าอยู่  แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

       แล้วข้าก็ต้องแปลกใจเมื่อ ข้ายกแก้วน้ำขึ้นดื่ม.... ข้าไม่เห็นเงาข้าในแก้วน้ำ ข้าพึ่งรู้ตัวว่าข้าล่องหน!  มีผู้คุมที่ข้าสนิทมายืนคุยกับข้าพักหนึ่ง ข้าเตือนเขาว่าข้าจะหลบหนีออกจากคุก ให้เขาระวังตัว 

        หลังจากนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนเวรข้าจึงปีนขึ้นมาจากปากหลุม แล้วพบว่ากรงเหล็กถูกสะเดาะกลอนอยู่และ

    เวทมนตร์ที่ผนึกก็ไม่ทำงาน

        ข้ารีบจัดการผู้คุมอีกคนให้สงบและผู้คุมที่ข้าสนิทกลับเข้ามาในห้องเห็นผู้คุมคนนั้นสลบอยู่ ข้าจึงจำเป็นต้องจัดการเขาอีกคน  แล้วรีบขโมยเรือเพื่อแล่นออกจากเกาะพายุ  เวทมนตร์พายุที่คุ้มกันเกาะก็ไม่ทำงานอีกเช่นกัน

    หลังจากข้าขึ้นฝั่ง ก็รีบเดินทางมาคาทูนหาเจ้าทันที

         เมื่อดูมเล่าจบ บาเรียสก็ถามว่า แล้วเจ้าจะทำอย่างไร

    ต่อไปละ

        ดูมนิ่งและยิ้มเหี้ยมๆก่อนพูดเรียบว่า แก้แค้นไอ้เกเรส

    คนทรยศจัดการมันซะ เฟลเมียร์ จะได้สูงขึ้น

       บาเรียสยิ้มและพูดว่าดีข้าช่วยเจ้ารวบรวมพรรคพวกของเราเอง   พรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทางกัน

            ไม่ดูมพูด ไม่พรุ่งนี้แต่เป็นคืนนี้ เราจะออกเดินทางคืนนี้เลย

        บาเรียสยิ้มก่อนพูดว่าตกลงข้าจะไปเก็บของหละ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×