ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CLOSE] ปิดรีไรท์ชั่วคราว

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่เจ็ด ตัดสินใจ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 569
      2
      7 พ.ย. 53



     
                    “มีใครตัดสินใจแล้วบ้างเอ่ย”
     
    สิ้นคำถามของเลม่อนความกดดันก็อัดแน่นที่ร่างกายของผู้มีไอดีโค้ทแต่ละคน เมื่อชายหนุ่มนักล่านึกขึ้นได้ก็ร่ายเวทย์กำแพงน้ำมาป้องกันสายฟ้าให้ปลอดภัย เมื่อนึกขึ้นได้ว่า บางทีไอ้ที่เหลือก็อาจจะอยากระบายอารมณ์เล่น
     
                    “เพื่อไม่ให้คุณตายหนีผมไปก่อนนะครับ คุณสายฟ้า”
     
                    เลม่อนพูดโดยที่มีสายตาแข็งกร้าวมองมาอย่างไม่เป็นมิตรนัก จีเอ็มแอนผู้เป็นเหยื่อล่อพูดกับชายหนุ่มนักล่าอย่างระแวงระคนสงสัย
     
                    “นายจะฆ่าจีเอ็มจริงๆเหรอ”
     
                    นัยน์ตาสีถ่านเหยียดออกมาเป็นโค้งพร้อมกับฟันสีขาวที่โผล่ผ่านรอยยิ้ม “ก็ต้องขอบคุณ คุณแอนมากนะครับที่บอกว่าจีเอ็มถูกตัดระบบความเจ็บปวดออกไป ไม่งั้นผมก็คงจะไม่กล้าทำจริงๆแน่ แม้แต่ขู่ก็คงไม่กล้าเลย”
     
                    “หมายความว่านาย…เอา จริง” เสียงแหบพร่าพิกลดังจากปากของจีเอ็มสาว เมื่อมาย้อนฟังคำของชายหนุ่มแล้วก็กลายเป็นว่า เพราะคำพูดเธอในตอนแรกเพื่อร่วมงานจากต่างประเทศก็ถูกจับหัวขึ้นเขียงใน ทันที
     
                    “ครับ” เลม่อนตอบเบาๆก็หันไปพูดกับคนข้างล่าง เสียงดังฝ่าฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง “ส่วนคนข้างล่างน่ะ ผมให้สองตัวเลือกพิเศษหนึ่ง เอาเงินล้านมาเสี่ยงกับโอกาสชนะที่ใกล้กับคำว่าศูนย์กับ สอง อยู่เฉยๆด้านล่างนั่น ถึงว่าพวกคุณจะแพ้ก็ไม่เสียอะไรอยู่แล้วนี่”
     
                    พอพูดแค่นี้ทุกคนด้านล่างก็ไม่มีกระจิตกระใจสู้สักนิด…
     
                    “เอาล่ะนะครับ ผมให้เวลาอีกสามวินาที ใครที่ต่างหูยังอยู่กับตนเองผมจะถือว่าอยากกลับเซิร์ฟเวอร์แล้ว อ้อ ส่วนผู้หญิงสุดสวยตรงนั้นก็ไม่ต้องส่งมาก็ได้นะครับ”
     
                    เลม่อนคลี่ยิ้มแล้วมองไปยังสาวน้อยเพียงหนึ่งเดียวในที่นี้ซึ่งปั้นหน้ามุ่ยมองกลับมา
     
                    “หนึ่ง”
     
                    ต่างหูจำนวนสองชิ้นลอยขึ้นมาโดยที่มีเวทย์สายลมพัดเข้ามาในมือ
     
                    “สอง”
     
                    ต่างหูอีกสามชิ้นลอยมาในมือเรียบร้อย
     
                    “หนึ่ง”
     
                    เมื่อนับจบก็มีเสียงดังมาพร้อมกับวัตถุหนึ่งพุ่งเข้าหาในจุดอับสายตา ร่างหนาไม่ได้พลิ้วหลบหรือหันไปมอง เพียงแต่ใช้คทาในมือขวารับไว้ได้อย่างทันท่วงที ดาบเล่มโตร่วงหล่นบนพื้นดังเกร้ง
     
                    “แหม ของขวัญจากใครเนี่ย”
     
                    ชายหนุ่มปรายตาไปที่นักรบร่างใหญ่ที่อยู่ทวงท่าอ้าปากค้างโดยมือเปล่าแบชี้มา ทางเลม่อนเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นคนลงมือ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรก็มีเสียงต่างหูตกอยู่ข้างตัว
     
                    “แหม หนึ่ง สอง สาม สี่ อุ้ยสี่ชิ้น ถ้ารวมๆแล้วก็ครบแต่ทำไมมีดาบนี่เป็นของแถมหว่า ถ้างั้นของสี่คนนี้ถือว่าส่งมาไม่ทันละกัน”  เลม่อนพูดง่ายๆก่อนที่จะจ้องตาของทั้งสี่ที่เล็งเอาไว้แล้ว
     
                    เลม่อนเริ่มบริกรรมคาถาเบาๆ ที่ดังพอจะให้คนด้านบนทั้งหมดได้ยิน เหงื่อของคนที่ ‘ส่งไม่ทัน’ หลั่งออกตามแผ่นหลัง สมองวิ่งร่าหาทางออกซึ่งมีเพียงความล้มเหลวบนปลายทาง
     
                    จวบจน 1 นาที เสียงเบาๆ ของนักล่าก็หยุดลงก่อนจะมีเสียงกรีดร้องดังจนคนรอบกายใจหายวูบ
     
                    “หอกวารี (Water spear)”
     
                    หอกน้ำขนาดใหญ่ที่ ‘จงใจ’ ใช้คำร่ายที่ยาวนานโดยไม่พึ่งแอเรียน้ำ กำเนิดขึ้นภายใต้การชัดจูงของนักเวทย์เพียงคนเดียว รอยยิ้มแสยะยิ้มส่งไปยังเหยื่อก่อนจะปล่อยให้หอกสร้างแสงสีขาวจากคนตายลอยขึ้นฟ้า
     
                    หลังจากนั้น
     
                    เมื่อชายหนุ่มเก็บต่างหูที่ตกพื้นมานับดูในมือก็มีจำนวนเก้าชิ้น อีกสามชิ้นที่ขาดก็เป็นของตัวเอง สายฟ้า และหญิงสาวคนเดียวในที่นี้
     
                    เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานจริงๆเลม่อนคิด
     
                    บอลน้ำถูกเรียกมาทำลายต่างหูทั้งหมดที่อยู่ในมือ เมื่อประกาศเสร็จสิ้นชายหนุ่มก็เก็บไปรวมรวบในหน้าต่างไอเท็มคู่กับของๆสาย ฟ้า เพียงแค่ไว้ด้วยกันมันก็หลอมรวมอัตโนมัติกลายเป็นลูกโลหะเช่นเดียวกับตอนที่เลือกต่างหู
     
                    หากสะสมครบสิบก็สร้างต่างหูใหม่ได้หนึ่งอันสินะ
     
                เลม่อนจดจำความลับนี้ไว้แล้วย้ายไปเก็บภายในกระเป๋ามิติอีกทีเพื่อความปลอดภัย
     
                    “เอาล่ะ เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมดี แล้วก็ไม่มีจีเอ็มคนไหนเสียชีวิตด้วยจริงไหม คุณแอน” เลม่อนพูดเอื่อยๆก่อนที่จะหันไปยิ้มให้กับจีเอ็มสาวข้างกาย
     
                    “ชักไม่อยากยอมรับเท่าไร แต่ก็ถูกของนายน่ะแหละ คุณเลม่อน”
     
                    จีเอ็มแอนตอบกลับเบาๆ ด้วยใบหน้าหน่ายปนกับระอา ชายหนุ่มนัยน์ตาถ่านคลี่ยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆก่อนที่จะหันมานั่งลงพิงกำแพงน้ำ ที่คอยปกป้องเหล่าจีเอ็มเอาไว้
     
                    เป็นภารกิจที่ง่ายดายจริงๆ
     
                 เวลาสามชั่วโมงผ่านไปไวยังกับโกหก เสียงประกาศดังขึ้นด้วยเสียงประดิษฐ์
     
                    (ภารกิจ ปกป้องจีเอ็ม เสร็จสิ้น : ฝ่ายผู้มีไอดีโค้ทได้รับชัยชนะ มีผู้เกมโอเวอร์จำนวนสี่คน )
                    ( ผู้เล่นเลม่อนได้รับเงินจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญ แต้มภารกิจสองพันแต้ม ค่าชื่อเสียงหนึ่งพัน)
                    (ผู้เล่นเลม่อนเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับภารกิจได้แต้มภารกิจเพิ่มสองพันแต้ม ค่าชื่อเสียงหนึ่งพัน ได้รับไอเท็มปริศนาจำนวนหนึ่งชิ้น)
     
                    เสียงหยุดเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะประกาศค่าประสบการณ์ที่ได้จากการสังหารผู้เล่น จำนวนสี่คนและค่าชื่อเสียงเพิ่มหลังจากการโดดเด่นผิดหลักนักล่า
     
                    สองเท้าก้าวตามจังหวะเข้าหาชายผู้ได้ชื่อว่า อัจฉริยะแห่งวงการเกม สายฟ้า รอยยิ้มขยับทักทายตามนิสัยเรียบๆ ราวกับรู้จักกัน
     
                    “ไง เราไปคุยเรื่องธุรกิจกันดีกว่า” เลม่อนพูด
     
                    ชายตาสีอะทิมิสต์ตอบกลับ “ฉันไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน นายนำเลย”
     
                    “ได้ เลย” เจ้าของนัยน์ตาสีถ่านพยักหน้าก่อนจะผายมือเดินนำอีกฝ่ายไปยังร้านกาแฟ แต่อยู่ดีๆ อัจฉริยะหนุ่มก็หยุดชะงักกะทันหัน “แอลเอ็ม พ่อนายเรียกน่ะ”
     
                    “หือ?” เจ้าของชื่อร้องอย่างสงสัยเพียงแต่เมื่อหันไปมองด้านหลังก็เหยียดยิ้มออกมา “ถ้านี่เป็นพ่อชั้น สงสัยชั้นคงต้องเป็นสุนัขขี้เรื้อนแล้วล่ะ”
     
                    สายฟ้าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ชั้นก็ว่างั้น”
     
                    ด้านหน้าในตอนนี้ดูประดับด้วยผู้ชายห้าคนซึ่งล้วนแล้วเป็นเป็นอดีตผู้มีไอดีโค้ท ทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องสืบเสาะไต่สวนคดีก็รู้ว่ามันมาแก้แค้นนักล่าหนุ่มแน่ๆ
     
                    “หนอย แกทำให้พวกฉันเสียเงินสิบล้านไปฟรีๆ”
     
                    “ไม่ ฟรีสักหน่อย พวกนายรอด ได้เงินหมื่นนึง ค่าภารกิจสองพัน กับค่าชื่อเสียด้วยไง” เลม่อนพูดเรียบๆอย่างไม่ใส่ใจตามประสาคนเฉยเมย คงไม่รู้หรอกนะว่าท่าทีแบบนี้เนี่ยแหละที่ยั่วอารมณ์ได้ดีที่สุด!
     
                    “ตายซะเถอะแก”
     
                    “แหม อุตส่าห์รอดแล้วแท้ๆ” เลม่อนรำพึงกับตัวเองเบาๆ มือทั้งสองข้างแบออก ปากกรอกถ้อยคำเบาๆลอดไรฟันเป็นคำเรียกใช้เวทมนต์ระดับหนึ่ง
     
                    “บอลน้ำมัน(Oil ball)
     
                    ลูกบอลสีเหลืองลอยอยู่เหนือฝ่ามือ ชายหนุ่มปาทั้งสองใส่กลุ่มชายที่พุ่งมาก่อนแล้วค่อยเรียกอีกสองลูกปาตามไป ดาบในมือของนักรบฝ่ายตรงข้าม แม้จะฟันบอลน้ำมันทั้งสี่ออกแล้วก็ตาม แต่น้ำมันก็ยังแตกกระจายรดตัวอยู่ดี ซ้ำยังกระเด็นไปโดนเพื่อนอีกด้วย
     
                    “คงจะรู้นะว่าจะเป็นยังไง บอลเพลิง(Fire Ball)
     
                    เพียงแค่ลูกไฟขนาดเท่าลูกฟุตบอลลุกพรึบเหนือฝ่ามือทั้งสองของเลม่อนเท่านั้นแหละ ดวงตาของนักรบและเหล่าผู้ที่คิดมาแก้แค้นก็ซีดเผือก ปากของเลม่อนแสยะออกแล้วหัวเราะร่า
     
                    “กลับเซิร์ฟเวอร์ไปเลยละกัน”
     
                    เมื่อพูดจบบอลเพลิงก็ถูกปาเข้าปะทะกองน้ำมันที่เปียกร่างทั้งห้าที่ตื่นกลัว
     
                    “อ๊ากกกกก”
     
                    เสียงกรีด ร้องเรียกสายตาของคนรอบข้างได้ในทันที เปลวเพลิงลุกไหม้โลมเลียร่างกายทั้งห้าที่วิ่งกันจ้าละหวั่น คนที่พอมีสติหน่อยก็ล้มกลิ้งตัวกับพื้นเพื่อดับไฟ
     
                    และดูเหมือนนักล่าหนุ่มจะไม่ได้ใจดีกับคนคิดร้าย…
     
                    ปากขมุบขมิบร่ายเวทมนต์อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายครั้งนี้จะเป็นเวทย์ระดับสองธาตุลม ที่จะเอามาใช้ให้อับอายก่อนปล่อยให้ตายไป
     
                    ก่อนที่จะร่ายเสร็จสิ้นก็แบมือเรียกบอลน้ำมาช่วยดับไฟที่เผาร่างทั้งห้า
     
                    เมื่อ น้ำเย็นๆปะทะให้ร่างที่เป็นกองเพลิงหายจากสถานะ ติดไฟ ทำให้พวกมันรู้สึกสบายใจขึ้นอีกนิดที่ยังไม่ต้องกลับเซิร์ฟเวอร์ ร่างทั้งห้าลุกขึ้นยืนหมายจะหยิบน้ำยาเพิ่มเลือดมาดื่มฟื้นพลัง แต่หารู้ไม่เป้าหมายของนักเวทย์คือเมื่อพวกมันลุกขึ้นยืนได้ทั้งหมดเนี่ย แหละ
     
                    “ความคมของสายลม(Sharpness of wind)
     
                    อากาศกรีดผ่านเสื้อผ้าที่ไหม้เกรียมของทั้งห้าเพื่อเปิดกล่องดำ(!?) ผิวกายสีขาวที่อยู่ด้านหลังเสื้อผ้าตัดกับสีเนื้อดำเกรียมที่โดนไฟเผา หน้าอก แผ่นท้อง ขาอ่อน รวมถึงกางเกงในถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนจนพวกมันอยากตาย..
     
                    ซึ่งก็ได้ตามปรารถนา…
     
                    “บอลน้ำ(Water Ball)
     
                    บอล น้ำที่มีพลังโจมตีน้อยที่สุด ไม่สิ ยังไงเวทย์ระดับหนึ่งก็มีพลังโจมตีต่ำอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่นับหากเอามาผสมกับเวทย์อื่นหรือใช้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะมันจะรุนแรงผิดปกติ แต่ยังไงก็ตาม กรณีนี้บอลน้ำก็ยังเป็นแค่เวทย์ระดับหนึ่งที่แสนจะเบา และเบาจนน่าตกใจอีกด้วย
     
                    ลูกบอลสีฟ้าใสที่ภายในบรรจุด้วยกระแสน้ำที่ไหลวนถูกมือหนาของชายนัยน์ตาถ่านปา พุ่งเข้าใส่ร่างทั้งห้าสลับกันไปอย่างทารุณและไร้ความกรุณา ถึงพลังโจมตีมันจะน้อย แต่ความเจ็บปวดมันไม่น้อยตาม แม้พลังแค่นี้สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมือทั้งสองข้างต้องมาใช้ปิดของสงวนแล้ว มันยากพอกับปลอกกล้วยด้วยเท้าเลยทีเดียว
     
                    ไม่ ใช่เพื่อฆ่าให้ตาย เพราะถ้าจะฆ่าแค่ร่ายเวทย์ระดับสองหรือระดับสามธาตุไฟฟ้าหรือพืชก็ฆ่าได้ภาย ในครั้งเดียว หากแต่นี่นอกจากจะไม่ฆ่าแล้วยังต้องการให้ร่างกระเด็นคลุกฝุ่นเป็นตัวตลกให้ คนดูอีกต่างหาก
     
                    “ฉันไม่รู้ว่านายจะมีรสนิยมทรมานคนอื่นนะ แอลเอ็ม”
     
                    สาย ฟ้า เด็กหนุ่มอัจฉริยะพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย คนถูกว่านอกจากจะไม่สลดยังหัวเราะร่าอ้าออกมาเบาๆให้อีกคนได้ยินว่า “มันให้อะไรมา เราก็ต้องคืนพร้อมกับแถมดอกเบี้ยให้”
     
                    “งั้นเรอะ” สายฟ้าพูดอย่างไม่ใส่ใจ
     
                    “ตามหลักการตลาดอ่ะนะ” เลม่อนพูดไปเรื่อยโดยที่ปาบอลน้ำใส่อย่างสนุกสนาน แต่ปาได้อีกไม่กี่ครั้งสายฟ้าก็รีบพูดตัดบทเพราะเบื่อที่จะรออีกต่อไป แถมการดูผู้ชายร่างโตแก้ผ้ากลิ้งไปตามพื้นใช่รสนิยมของเขาสักทีไหน
     
    “เมื่อไรจะคุยธุรกิจที่ว่าเสียที”
     
    เลม่อนเลิกคิ้ว “ก็ได้ งั้นไปกันเถอะ แช่แข็ง(Freeze)
     
    เวทย์ ระดับหนึ่งเช่นเดียวกันที่นำไปใช้กับร่างทั้งห้าที่เปียกไปด้วยน้ำจำนวนมาก ผลที่ได้ออกมาก็ไม่ต่างอะไรกับรูปปั้นน้ำแข็ง ประติมากรรมชั้นยอด(!)ที่สร้างสรรค์เป็นผู้ชายตัวดำที่คล้ายผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน
     
    “นี่นายทำอย่างนี้บ่อยขนาดไหนเนี่ย”
     
    เลม่อนแสยะยิ้มอีกครั้ง “…ก็ทุกครั้งที่มีคนมาหาเรื่องเนี่ยแหล่ะ”
     
    “แล้ว…ปล่อยไว้อย่างนี้จะดีเหรอ” สายฟ้าถามอย่างสงสัยเมื่อไม่เห็นจอมเวทย์หนุ่มข้างกายปิดบัญชี
     
    “ดี สิ เอาให้ตายอย่างเดียวมันไม่สะใจหรอก ให้แก้ผ้าโชว์เป็นรูปปั้นเนี่ยแหละ อ้อ ไม่ต้องห่วงว่ามันจะหลุดมาแก้แค้นหรอก ฉันวาดวงแหวนเวทย์กำกับไว้ที่จะทำงานเมื่อน้ำแข็งหายไปซึ่งมันแรงพอที่จะส่ง ไอ้พวกนั้นกลับเซิร์ฟเวอร์ได้เลย”
     
    “นายทำตอนไหน”
     
    “ตอนไหนน่ะเหรอ…ไม่รู้สิ” เลม่อนตอบยิ้มๆ…ไม่ได้เล่นเกมสนุกขนาดนี้มานานพอดูเลยน่ะเนี่ย
     


    พิเศษ- เลม่อนใช้น้ำที่เปียกตามพื้นและร่างกายพวกนั้นในการเขียนวงแหวนเวทย์ธาตุน้ำระดับสอง (เวทย์หอกวารี) เนื่องจากการควบคุมธาตุทั้งสี่เป็นความสามารถลับของเอเลเมนทัลมาสเตอร์อยู่แล้ว จึงทำได้ไม่ยากซึ่งเลม่อนฝึกการใช้เวทย์แบบประยุกต์เป็นพิเศษจึงทำให้ใช้เวทย์ระดับสี่(เวทย์ระดับสูงใช้เวลาร่ายหนึ่งนาทีขึ้นไป)โดยการผสานเวทย์และการหน่วงมนตราได้  
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×