ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บทที่สิบเก้า แผนการกะแผนการ
หากให้แบ่งกลุ่มพิชิตภารกิจชื่อ สายฟ้า คงจะแบ่งง่ายๆได้สองฝั่ง กลุ่มแรกเรียกง่ายๆว่ากลุ่มสมองน้อย ประกอบไปด้วย นักดาบสาวจอมซ่า โคโคนัท ผู้คุมคนเป็นสุดเอ๋ออยากถามไม่อยากฟัง โชกุน เงือกสาวใสซื่ออ่อนต่อโลก อควอ และพ่วงท้ายด้วยแฝดนรก เซลล์ร่างกายไม่เติบโต โลกิ-โลกะ ซึ่งเป็นว่าที่สมาชิกตัวจริง
ส่วนอีกกลุ่มก็ตรงข้ามกันในนามว่า มีสมอง รวมทีมด้วยหนึ่งจอมแสบมากประสบการณ์ เลม่อน อัจฉริยะเซียนเกม นักวางแผน สายฟ้า เสือซ่อนเล็บในร่างของแกะตัวน้อย ใบชา และสุดท้าย ว่าที่สมาชิก ผู้มีไอคิวสูงผิดมนุษย์ ลูซี่
เมื่อตะวันโผล่พ้นพื้นดินได้ไม่นาน เลม่อนก็ลุกขึ้นมาด้วยสัญชาติญาณอันตื่นตัว ไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรให้เรียบร้อยก็เร่งกายไปวิ่งร่าตามส่วนต่างๆ ของบ้าน คนแรกในสายตาที่ควรนอนอยู่บนโซฟายาวคนละส่วนไม่ห่างกัน บัดนี้ไปตะเกียกตะกายด้วยท่าพิสดารบนพื้น
มือหนาตบหน้าเรียกอย่างรีบร้อน “โชกุน โชกุน ตื่นๆๆ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
โชกุนโดนตบแก้ที่แค่ฟังเสียงดูก็รู้ว่า ‘ซี๊ด’ และดูท่ามันก็จะชอบซี๊ดไม่เบา เอาแต่ทำหน้าเคลิ้มเหมือนฝันดีโดยมีเสียงคราง อาอา~~ เบาๆ เมื่อเห็นไม่เป็นผล เลม่อนก็ตัดใจเดินหลบออกมาทางเก้าอี้เอนซึ่งสายฟ้าเป็นผู้จับจอง
แม้สายฟ้าจะมีนิสัยขยันตื่นเช้าเป็นประจำ แต่ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นจากที่นอน เมื่อเลม่อนสบตากับร่างที่ดูจะขยับเขยื้อนไม่ได้และพันไปด้วยผ้าสีขาวจนกลาย เป็นมัมมี่แล้วก็พ่นลมหายใจออกมาโดยที่ไม่ได้สนใจฟังเสียงอู้ๆ อี้ๆ เลยสักนิด
ไม่มีเวลามากพอที่จะปลุกคนขี้เซา ไม่มีเวลามากพอจะพาร่างไร้เรี่ยวแรงหลบหนีไปด้วย
เท้าเดินตามเสียงกรนดังเป็นจังหวะฟรี้ๆ ที่มีระดับเดซิเบลสูงพอจะเป็นมลพิษทางเสียงขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน เพียงมองตรงไปเบื้องหน้าก็ขมวดคิ้วจนเป็นปม
แฝดนรกมันนอนที่ห้องข้างๆ กับลูซี่ไม่เหรอ แต่ทำไมพวกมันถึงย้ายร่างขึ้นมานอนบนเตียงที่ห้องนี้ได้เนี่ย
ตรงนี้มันที่นอนของใบชาไม่ใช่เรอะ!?
“พี่เลม่อนเหรอค่ะ?”
เสียงหวานดังจากด้านหลังพร้อมกับใบหน้างุนงงของผู้เป็นเจ้าของเตียง เลม่อนคลี่ยิ้มเมื่อมองไปยังร่างบางในชุดอาบน้ำที่มีไออุ่นๆ ออกจากตัว
“ตื่นมาอาบน้ำแต่เช้าเชียวนะ น้องชา เอ่อ
พี่เรียกน้องว่าน้องชานะ พี่ว่ามันน่ารักดี”
นักล่าหนุ่มระบายยิ้มทั่วใบหน้าโดยที่สบตาตรงๆ แม้หน้าตาของเลม่อนจะไม่ได้หล่อเหลาเท่านายแบบหรือหวานสวยเหมือนสายฟ้า แต่ว่ามีความคมอันเป็นความหล่อเอกลักษณ์ของคนไทยไม่น้อย แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าของใบชาจะเป็นพี่น้อง(ร่วมสาบาน)แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงไปกับคำพูดเรียบๆ แฝงแต่ความเอ็นดูโดยไม่มีไม่ได้ปิดบัง
“ค่ะ ได้ค่ะ พี่เล
เอ่อ
หนูเรียกว่าพี่เลบ้างละกันนะคะ”
ว่าแล้วเธอก็หัวเราะคิกจนคนเป็นพี่จำเป็นเข้ามาลูบหัวอย่างเอ็นดู ใบหน้าที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลันเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ถึง อันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน(เฉพาะเงินทอง)จะสูญหายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“เอ่อ น้องชา รีบๆแต่งตัวเร็วเราต้องไป เอ่อ ไปกินข้าวละกัน ยิ่งเร็วยิ่งดี เสร็จแล้วก็ออกไปรอข้างนอกเลยนะ”
เลม่อนพดรัวๆ แล้วตรงเข้าหาเด็กแฝดนรกที่สิงอยู่เตียงชั้นล่าง ในห้องเล็กๆ นี้ประกอบด้วยเตียงสองชั้น ตู้เสื้อผ้าหนึ่งชิ้นและห้องอาบน้ำเล็กๆ(ที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลก นี้สักนิด
เพราะโลกนี้ไม่มีกลิ่นเหงื่อและคราบสกปรกก็หายได้เองนี่นา)
เมื่อเข้ามาใกล้จึงได้รู้ว่าเสียงกรนอันเป็นมลพิษทางอากาศนั้นไม่ได้มีบ่อเกิดมาจากแฝดเพียงหนึ่งคู่ เพราะด้านบนก็มีเสียงกรนดังมาประสานอีกด้วย นัยน์ตาสีเทาถ่านของเลม่อนฉายแววสงสัยเสียเต็มประดา
ใบชาเฉลยข้อข้องใจ “ก็อย่างที่พี่เลเห็นแหล่ะค่ะ โคโค่เค้ากรนดังมากจนหนูออกมาเดินเล่นข้างนอกแล้วพบกับลูซี่พอดี เธอก็บอกว่าแฝดคู่นี้กรนดังยังกับโรงสี เราเลยช่วยกันย้ายคู่นี้มานอนที่หนูแล้วหนูก็ไปนอนที่พวกเขา กว่าจะเสร็จก็เกือบเช้า หนูเลยนอนไม่หลับมาอาบน้ำห้องนี้ อ้อ ห้องนั้นไม่มีชุดอาบน้ำน่ะที่พอดีกับตัวหนูค่ะ ส่วนลูซี่ก็พึ่งหลับไปไม่นานเอง คิดว่ากว่าจะตื่นก็อีกนานพอดู”
เอ่อ สรุปคือ ยัยมะพร้าวกับแฝดนรกกรนดังจนน้องชากับน้องลูซี่ทนไม่ไหว พอเจอกันก็เลยช่วยกันย้ายแฝดมาแลกที่กับใบชา กว่าจะเสร็จใบชาก็นอนไม่หลับ ส่วนทางลูซี่ที่พึ่งหลับไปกว่าจะตื่นอีกทีคงจะ
โดนจับแต่งตัวเสร็จไปแล้วสักสามเซ็ท
ถ้างั้นคงไม่ต้องไปปลุกลูซี่แล้วล่ะ เธอไม่มีทางตื่นแน่นอนนอกจากจะรำคาญคนปลุกจนร่ายเวทย์ระดับสามมาเป็นผลตอบแทนแน่ๆ
ไม่สิ ยัยนี่ต้องลากออกไปด้วย ไม่งั้นมีหวังได้จ่ายค่าซ่อมบ้านอานแน่ๆเลย!!!
“โลกิ โลกะ ตื่นเดี๋ยวนี้!!!”
ถึงคำสั่งของเลม่อนจะมีผลต่อแฝดคู่นี้มากเกินกว่าคนทั่วไปสั่ง(เพราะหลังจากที่พบ กันครั้งแรกก็จับมาสั่งสอนจนเป็นลูกศิษย์และสัตว์เลี้ยงอย่างเชื่อง) แต่ก็มีสถานการณ์บางสถานการณ์ที่คำสั่งไปไม่ถึงตัวอย่างการหลับลึกเป็นต้น
เมื่อใบชาเห็นเลม่อนทำท่าจะปีนไปปลุกโคโค่ก็พูดเสียงเบาด้วยใบหน้าแดงคล้ายจะอายแทนเพื่อนตน
“พี่เลคะ
คือ โคโค่คงไม่ตื่นง่ายๆหรอกค่ะ เธอหลับลึกเอามากๆ ขนาดว่าโดนน้ำแข็งฉาบไปทั่วตัวก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยคะ..” สาวน้อยผมฟ้าทำท่าคล้ายจะนึกขึ้นได้ “ว่าแต่พี่ปลุกไปทำไมเหรอคะ???”
เลม่อนไม่พูดเปล่าเดินลิ่วโดยใช้มือหนึ่งลากใบชาที่เปลี่ยนชุดเสร็จเสร็จแล้วมาอีกห้อง “เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง”
เวทย์ระดับหนึ่งอย่างสายลมที่เบาแรงเมื่อคนทั่วไปใช้ หากได้เรียกใช้ซ้ำกันอย่างเลม่อน แม้มันจะปัดกระสุนที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูงไม่ได้ ต้านก็คมดาบไม่ได้ แต่มันก็มากพอที่จะยกร่างเล็กที่มีส่วนสูงประมาณ 140 เข้ามาหาได้ไม่ยาก
เลม่อนอุ้มร่างลูซี่อย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงในอ้อมกอดดีแล้ว ดวงตาใสของเด็กสาวก็คล้ายจะผลุบขึ้นมาดูเล็กน้อยก็จะผล็อยปิดไปอย่างสะลึมสะลือ ร่างเล็กนั่นขยับเกาะพร้อมกับไปอยู่ด้านหลังแล้วหมับเข้ากับบ่าของชายหนุ่มจนหมดมาดนักล่าในแบล็คลิสต์ของจีเอ็มโดยสิ้นเชิง
“เอาล่ะ เราไปหาอะไรทานเล่นละกัน สักเที่ยงค่อยกลับมา”
เลม่อนพูดพร้อมยิ้มแป้นโดยที่บนหลังมีโคอาล่าไอคิวเกินเกณฑ์เฉลี่ยมาหลายสิบเกาะติดหนึบอยู่ ใบชาสาวเท้าตามอย่างงุนงงระคนสงสัย
“อ้อ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกน้องรัก ที่พี่ดึงเธออกมาก็เพราะเพื่อนร่วมทีมของเราจะได้เลือกเสื้อผ้าโดยเจ้าของ บ้านที่เป็นนักตัดเย็บและดัดแปลงอันดับหนึ่งในสิบของเกมมาจัดการให้ถึงที่ เชียว”
“แล้วทำไมเราถึงออกมาล่ะคะ?”
ก็บอกว่าได้เสื้อผ้าที่นักตัดเย็บมือดีเลือกให้ ทำไมถึงหนีออกมาล่ะ
? นี่คือสิ่งที่ใบชาสงสัย ซึ่งคำตอบที่ได้จากนักล่าหนุ่มก็มีสั้นๆ
“คิดง่ายๆ เธอชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกห้านาทีรึเปล่าล่ะ?”
ตะวัน เลยพื้นดินมานานมากแล้วและบัดนี้มันยังตั้งฉากกับพื้นดินส่งยิ้มแฉ่งระบาย ความร้อนของตัวเองมายังโลกอย่างเปิดเผย เลม่อนไม่รู้ว่าในเกมมีอากาศร้อนมากก่อน แต่ตอนนี้เขายืนหน้าบ้านด้วยเหงื่อที่เปียกแฉะไปทั้งตัว
เที่ยงวัน
อาทิตย์จ้า
ใกล้จะฆ่า
ตูตาย
ไม่ ว่าจะเป็นความร้อนระอุส่งตรงดิลิเวอรี่มามากเกินจำเป็นจากดวงอาทิตย์ หรือความร้อนแรงไม่แพ้กันที่ส่งตรงจากดวงตาที่โกรธเกรี้ยวอันเต็มไปด้วย เพลิงพิโรธที่ลุกโชนจากกลุ่มคนตรงหน้า ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้นักล่าหนุ่มเหงื่อ คอแห้งพอๆกัน
หนึ่งสาวสวยร่างอึ๋มในชุดราตรีรัดรูปสั้นๆที่มีถุงน่องสีดำยาวปิดขาขาวๆ ผมสีแดงที่เคยยาวถูกตัดสั้นและหวีจนเรียบตรง ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางที่ตนเองเกลียดหนักหนา ส่วนอีกหนึ่งเป็นหนุ่มหน้าหวานที่ถูกแต่งหญิงอย่างไม่พอใจในชุดกระโปรงบาน ฟูฟ่องประดับด้วยลูกไม้วิจิตรที่ขับเน้นให้หน้าหวานๆ หวานยิ่งขึ้น
สายตาทั้งสองคู่ส่งตรงมายังเลม่อนด้วยความโกรธสุดๆ โดยที่มีฉากแบ็คกราวน์ด้านหลังเป็นหนุ่มนามโชกุนในชุดคนคุกที่เหมาะยิ่ง เหมาะกำลังเล่นวิ่งไล่จับกับเด็ก(โข่ง)คู่นรกที่สวมชุดคลุยยาวลากพื้นและ หมวกคล้ายกุนซือจีน และยังมีเงือกสาวที่ยืนดูอย่างงงๆในชุดเจ้าหญิงในนิทาน
“โคโค่?...” แม้คำแรกจะหลุดจากปากอย่างยากลำบากคล้ายไม่เชื่อตาตนเอง แต่เมื่อมามองดูอีกคนกลับเค้นคำพูดออกจากปากสีชมพูของตนได้อย่างยากยิ่งกว่า ใบชาพูดสั่นๆ “
สายฟ้า?”
ทั้งสองตอบประสานเสียงเครียดโดยมีแววตาคล้ายหมดอะไรตายจาก สาวผมแดงถูกแต่งเป็นมาดามเรดพร่ำพรรณนาถึงความเดือดเนื้อร้อนตัว เมื่อโดนจับแต่งตัวและถูกโปะด้วยเครื่องสำอางจนหน้าชาด้วยคำพูดฟังไม่ศัพท์ ในขณะที่สายฟ้าในชุดผู้หญิงสวมวิกเองก็แย่ไม่แพ้กัน พร่ำถึงความอับอายขายขี้หน้าจนอยากตาย
แต่เมื่อจบลงที่หนึ่งเดียวกัน “
นายมะพร้าว/เลม่อน
จากนี้ไปนายมาโดนแบบชั้น/ฉันบ้างเถอะ”
หมับ!
ทั้งสองจับที่บ่าของนักล่าหนุ่มแล้วอุ้มเข้าไปในตัวบ้าน
สงสัยเราจะกลับมาเร็วไปวุ้ย
เลม่อนคิดแล้วต้องปลงจิตปลงใจให้มากที่สุด
แต่น่าเสียดายต่อให้ปลงอย่างไร ยังไงมันก็ยังต้องเศร้าใจและทุกข์ทรมานไม่หาย เมื่อมีเสียงดังประสานกันจากบันไดเป็นสามจังหวะ ซ้ำพอหันไปดูยังเห็นตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ตามท้ายสาวน้อยสามคนอีก
หากจะให้บอกว่าแฝดนรกโลกิ-โลกะ คือตัวแสบแบบหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แฝดสามคนนี้(อลิส อลิเซีย อลิสา)มีความแสบแบบสามคูณสามเลยทีเดียว!!!
แม้ใบหน้าท่าทางทุกอย่างจะเหมือนกันจนแยกไม่ออก แต่สีริบบิ้นผูกผมของเด็กสาวร่างสูงน้อยๆร้อยหกสิบก็ช่วยให้บอกได้ว่าใครเป็นใคร
แต่อย่างไรก็ไม่น่าสนใจเท่าตู้ใบใหญ่นั่นอยู่ดี
“พี่เลม่อน เรา”<อลิส
“คิดถึงพี่มาก”<อลิเซีย
“เลยตัดชุด ทิ้ง”<อลิสา
“ไว้ให้”<อลิส
“พี่เยอะ”<อลิเซีย
“มากมาก”<อลิสา
การสลับกันพูดเป็นจังหวะสอดคล้องด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนฟังคล้ายพูดเพียงคน ฃเดียวเป็นเอกลักษณ์ของแฝดสามนี่ที่หากได้ลองนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเธอพูดล่ะก็..คงต้องหันหน้าตามจนหัวหมุนเลยล่ะ
พอพวกเธอพูดจบ นักล่าหนุ่มก็แอบเสหัวไปมองทางโคโคนัทกับสายฟ้าที่จัดแจงลากผู้รอดชีวิตอีก สองคนตามมาติด แม้เด็กอัจฉริยะไอคิวสูงจะพยายามต่อต้าน แต่ก็แพ้แรงอัจฉริยะหนุ่มอยู่ดี ส่วนทางสองสาวเพื่อนซี้ก็มีขัดขืนเล็กน้อยแต่ใบชาที่หัวอ่อนอยู่แล้วก็ยอมตามมาจนได้
เอาว่ะ สามตัวนี้เล่นไปแล้วตั้งห้าตัว ตอนนี้ก็มีอีกสาม ยังไงเราคงโดนไม่หนักนักหรอก
เลม่อนคิดในใจ
“ไหนๆ แล้ว อลิสก็ช่วยทำชุดทีมให้หน่อยละกัน หมดนี่เลยนะ ฮิๆๆ” เลม่อนพูดก่อนจะถูกหนึ่งในสามแฝดสยองลากเข้าไปในห้องเล็ก จนเหลือแฝดอีกสองคนกับอีกสองเหยื่อ โดยมีตาปริบๆจากคนโดนจัดการเรียบร้อยแล้ว
หนึ่งในแฝดผู้ใช้ชื่ออลิสปรายตามองคนทั้งหมด ก่อนจะพูดเรียบๆซึ่งกระชากจิตใจผู้โดนยัดเสื้อผ้าหลุดลอยไปอีกครั้ง โดยที่มีรอยยิ้มสะใจในใบหน้าของนักล่าหนุ่มที่หายไปในหลังประตู
“ถ้างั้น พวกเธอคงต้องลองชุดกันใหม่อีกทีแล้วล่ะ เพราะพวกนี้พวกฉันก็ตัดไว้ให้แต่งเล่นอยู่แล้วด้วย”
มีหรือคำพูดนี้เลม่อนไม่ได้คิดไว้แต่แรก เมื่อมันรู้ว่าตนจะโดนจับแต่งตัวเป็นตุ๊กตาแน่ๆก็พยายามหาตัวล่อเพื่อลดค่า ความเสียหาย(ปริมาณเสื้อผ้า)ที่จะส่งตรงถึงตน ไม่ว่าจะวิธีส่งเหยื่อไปถึงที่(สายฟ้า โคโค่ โชกุน แฝดนรก อควอ)
และท้ายที่สุด
พอบอกเป็นเสื้อทีม แล้วเสื้อที่ได้จะต้องมีโทนสีเหมาะกับทีมเท่านั้นและมีตราหรือสัญลักษณ์บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ตน ท้ายเสื้อผ้าที่ใส่ต้องบวกค่าสถานะที่เหมาะสมกับมันเองด้วย ดังนั้นก็ตัดส่วนที่ไม่ใช่ หรือจะต้องใส่เล่นๆ เป็นตุ๊กตาให้พวกเธอไปได้มากโขเลยทีเดียว
ช่างเป็นแผนการเพื่อลดปริมาณการแต่งตัวที่ลึกล้ำอะไรเช่นนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น