คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่สิบ วิธีหาเงินแบบง่ายๆ
เมื่อซื้อของเสร็จก็กลับมาที่โรงแรมเพื่อจัดข้าวจัดของเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สายฟ้ากับใบชากำลังง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือที่มีเป็นตั้งๆ เพื่อเรียนรู้เวทมนต์ใหม่ๆ ส่วนทางนักล่าหนุ่มกับนักดาบสาวก็ไปอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของห้อง
บน พื้นเต็มไปด้วยดาบจำนวนมากเรียงรายกันจนแออัด ในกระเป๋ามิติที่ใส่สินค้าที่โจรกรรมมาจากผู้เล่นอื่นของเลม่อนนั้นส่วนมาก จะมีแต่ของระดับสูงหรือไม่ก็อีกอย่างหนึ่งคือแปลกสุดๆ ทำให้ต้องใช้เวลาในการเลือกอันที่เหมาะสมกับโคโคนัท
“ฉันชอบอันนี้อ่ะ มันใหญ่ดี เค้าชอบ จะเอาอันนิ”
โคโคนัทพูดอย่างงอแงเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเอาแต่ส่ายหน้าไม่ให้เธอหยิบดาบขนาดใหญ่คล้ายจะเอาไปล่ามังกรเล่มนี้ นักล่าหนุ่มมีอยู่สองเหตุผลที่ไม่อยากให้นักดาบสาวใช้ อย่างแรก เพราะมันเป็นดาบที่ตบมาจาก บาอัล พันดาบ สุดยอดนักดาบในใต้หล้าซึ่งหวงดาบเป็นที่สุด
และอีกอย่าง “ยัยโคโคนัท อย่างทำตัวโคนมไร้สมองได้ ไหม ดาบขนาดนี้จะเอาไปทำอะไรห๊ะ ดาบใหญ่อย่างนี้น่ะ เหมาะกับพวกฉายเดี่ยวแบบ เบอร์เซิร์กเกอร์ นะเว้ยเฮ้ย เราสู้กันเป็นทีม ดาบของเธออาจจะเหวี่ยงมาเฉาะหัวสายฟ้าก็ได้ ใครจะรู้ แถมนะ ไอ้ดาบอย่างนี้มันเทอะทะเกินกว่าจะเอามาช่วยป้องกันคนอื่นทัน พวกนักเวทย์อย่างฉันก็โดนเขาถลุงจนกลับบ้านเก่าก่อนพอดี”
เมื่อเลม่อนร่ายยาว สาวเจ้าก็ปั้นมุ่ยแล้วบอกเสียงอ่อย ยอมก็ได้ แต่ยังไงคนมันก็จะบ่นอุบอิบ ‘เหอะ นักเวทย์อย่างนายจะไปโดนใครถลุงได้ เป็นใบชาก็ว่าไปอย่าง’ พอนัยน์ตาสีแดงเพลิงกวาดไปด้านหน้าอีกที มือก็คว้าอีกเล่มขึ้นมาแทนที่เรียบร้อย
นัยน์ตาสีถ่านสบดูก็เบ้ปาก “นี่เธอจะเอาไปปอกแอปเปิลรึไงห๊ะ อันนี้มันไม่ใช่ดาบเว้ยเฮ้ย มันเรียกว่ามีด มีดน่ะมีด ของมีคมที่ขนาดเล็กกว่าดาบ นี่เธอเลือกอาวุธยังไงห๊ะเนี่ย”
เมื่อเจอนักล่าหนุ่มบ่นใส่มากๆเข้าก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นกระชากคนเสื้อ “แล้วทำไมนายไม่ตัดอันที่ใช้ไม่ได้ออกไปก่อนฟ่ะ อีตามะนาวเอ้ย”
นั่นสิเนอะ เลม่อนพึ่งนึกได้
มือหยิบดาบแต่ละเล่มเก็บกลับไปที่กระเป๋ามิติ พอเอาเข้าไปรอบหนึ่งก็เหลือเพียงครึ่ง พอมาดูทางค่าความสามารถก็โละไปอีกจนเหลือเพียงนิดเดียว พอคัดไปคัดมาก็คัดจนกระทั่ง
“นี่นายจะให้ฉันเลือกจริงๆไหมเนี่ย”
ไม่ ฃแปลกที่โคโคนัทจะพูดเช่นนี้ เนื่องจากดาบที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงเล่ม เล่มแรกเป็นดาบตะวันออกของแดนปลาดิบ ส่วนอีกเล่มก็เป็นดาบตะวันตกปลายแหลมทรงเรเปีย ใช่ มีแค่สองเล่มเท่านั้นเอง
“ก็ใช่ไง ฉันให้เธอเลือกเลยนะ”
เลม่อนตอบอย่างไม่ยี่หระ พอโคโคนัทหยิบดาบคาตานะมาถือแล้วจะเดินไปหยิบเรเปียมาเทียบ พอเทียบไปเทียบมาก็เลือกเจ้าเรเปียเนี่ยแหล่ะ
มือหนาโยนดาบคาตานะเข้ากระเป๋ามิติอย่างไม่ใยดีแล้วก็หันมาพูดกับโคโคนัทที่ กำลังนั่งเอานิ้วลูบดาบใหม่อย่างอารมณ์ดี “โคโคนัท ดาบของเธอมันยืดได้ด้วยนะ ลองสำรวจค่าสถานะดูสิ”
“อื้อๆ”
เหมือนเธอจะตอบเออออไปงั้นๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเดินไปกระชากดาบออกมา “เธอเปลี่ยนชุดซะทีเถอะ หยิบแล้วบอกใส่ อย่าใส่เกราะหนักนะ แล้วยืนนิ่งสักสามสิบวิด้วยล่ะ”
นักดาบสาวผมเพลิงพยักหน้าหงักๆ “เอาดาบเค้ามา”
พอชายหนุ่มโยนดาบไปให้ก็หันไปดูทางนักเวทย์มือใหม่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างหนัก “นี่แอลเอ็ม”
สายฟ้าเรียกนักล่าหนุ่มจากด้านหลัง “ชั้นใช้ตำราเวทย์ครบแล้ว และก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วด้วย”
เด็กหนุ่มอัจฉริยะในรูปลักษณ์ใหม่ เพียงแค่ย้ายมาใส่เสื้อคอกลมแขนยาว กางเกงขาเดฟ พร้อมด้วยถุงมือสีขาวและรองเท้าหนัง สายฟ้าหันมามองดูก่อนจะขยับยิ้ม
“นายยืนนิ่งสักครึ่งนาทีก่อนล่ะกันๆ ส่วนสื่อเวทย์ก็เอาคทาของชั้นไปใช้ก่อนก็ได้” เลม่อนพูด
สายฟ้าขมวดคิ้วมองพร้อมกับรับมาอย่างสงสัย “ถ้าไม่มีสื่อเวทย์ก็จะร่ายได้เฉพาะเวทย์ระดับหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
“หือ อ้อ ฉันเป็นเอเลเมนทัลมาสเตอร์ ร่ายเวทย์ดินน้ำลมไฟโดยไม่มีสื่อเวทย์ได้ถึงระดับสามน่ะ ส่วนจะร่ายระดับสี่ค่อยหยิบไอ้นี่มาใช้ก็ได้”
เพียงแค่เลม่อนหยิบสิ่งหนึ่งจากกระเป๋ามิติมาอัจฉริยะหนุ่มก็ส่งนัยน์ตาสีม่วงมาในความหมายว่า อะไรน่ะ
“ขนนก สื่อเวทย์ในหมวดอื่นๆ บอบบางและความคงทนต่ำสุดๆ แต่ก็ราคาถูกและน่ารักดี” เลมอ่นพูดแล้วก็โบกขนนกขนาดใหญ่ที่แสนจะเบาไปมา
“เอาล่ะ ส่วนสื่อเวทย์ของใบชาก็เอาเป็นพัดซุนวูไปล่ะกัน วานนายเอาไปให้เธอด้วย อ้อ ความลับอย่างหนึ่งของเกม ถ้าสวมใส่เสื้อผ้าของระบบที่ซื้อตรงร้านหลังแผนกแนะนำอาชีพมากกว่าสามชิ้น แล้วยืนอยู่เฉยเกินสามสิบวิจะหลอมรวมมาเป็นไอเท็มเซ็ทเฉพาะตัวแทนชุดผู้เริ่มต้นที่จะแลกเปลี่ยนหรือถูกทำลายไม่ได้”
“อืมๆ” สายฟ้ารับคำก่อนจะมองนักล่าหนุ่มเดินออกจากห้องไป มีเพียงเสียงของเลม่อนตะโกนดังย้อนหลังว่าไปทำอะไร “เดี๋ยวฉันไปซื้อตั๋วเรือก่อนนะ”
สองเท้าเดินออกจากโรงแรมตรงไปท่าเรือ แม้จะมีผู้เล่นไม่มากนักแต่ล้วนแล้วเป็นผู้มีไอดีโค้ททั้งนั้น เนื่องจากต่างหูเป็นไอเท็มที่ไม่สามารถเก็บในหน้าต่างไอเท็มได้ จึงทำให้คนสวมไว้ที่หูตัวเองมากกว่า
ผู้เล่นที่จำเป็นต้องนั่งเรือไปทวีปใหม่มักจะมีเพียงผู้เล่นที่มีอาชีพแล้วเท่านั้น เนื่องจากระบบจะส่งไปยังสำนักงานอาชีพที่ทวีปใหญ่ได้ ทำให้ไม่มีคนเดินทางเอง ดังนั้นคนจำนวนสามสิบกว่าคนตรงจุดนี้ก็มีเพียงผู้มีไอดีโค้ทที่เลือกจะใช้ตัวละครเก่าเท่านั้น
ตรงบริเวณช่องขายตั๋วจะมีร้านค้าระบบอีกร้านที่จะมีแต่สินค้าที่คนทั่วไปลงความ เห็นว่าไร้สาระ นักล่าหนุ่มแทนที่จะตรงไปช่องขายตั๋วก็ปรี่เข้าหาร้านนั้นก่อนทันที
“รับอะไรดีค่ะ” เสียงของป้าแก่ๆ ดังขึ้นจากด้านใน รายการสินค้าที่ ‘อยาก’ ซื้อถูกวาดขึ้นมาในหัว เลม่อนเปิดปากพูดคล่องปรื๋อราวกับไม่กลัวว่าป้าแกจะฟังไม่ทัน
“เอาเมล็ดพันธุ์ดอกทานตะวันเวทมนต์สักหกถุงแล้วก็เป็นระเบิดตดสักโหล เฮ้อ หมู่นี้เอาไปเล่นมากไปหน่อย อืม ของระเบิดอาเจียนรสนมบูดด้วย ประทัดพริกไทย อืม โทรโข่งนรกแตก นอกนันก็มีไอเท็ม ไอเท็มเซ็ตป่วนเมือง แบบชุดไหนบ้างก็เอามาให้หมดเลยละกัน เฮ้อ ย้ายเซิร์ฟเวอร์มา ไม่มีพวกนี้แล้วเหงาๆยังไงไม่รู้”
งานอดิเรกเพี้ยนๆ ของเลม่อนคือการก่อกวน ไอเท็มพวกนี้กว่าครึ่งใช้ประโยชน์ได้จริงด้วยนะ แม้ว่าหลายๆอย่างจะมีอะไรที่ดีกว่าหรือวิธีการที่ดีกว่ามากๆมาใช้แทนก็เถอะ
ชายหนุ่มนัยน์ตาเทาหม่นพึ่งนึกขึ้นได้ “ป้า เอาถุงหัวเราะกับขวดแมวหาวมาด้วยสิ อ้อ ไวน์พันธุ์นรกจิบเดียวเมามายมาซักลังด้วยนะ”
เป็นอะไรที่เหลือเชื่อเมื่อยอดรวมของสินค้าที่ซื้อมีราคามากกว่าที่ซื้อเสื้อผ้า ให้สายฟ้า ใบชา และโคโค่นับเท่าตัว แน่ล่ะ เป็นนักล่าเสียอย่าง ไอเท็มหายากก็หาได้ง่ายๆ ทำไมเงินที่ง่ายกว่าจะเอามาไม่ได้ล่ะ
พอซื้อตั๋วเสร็จก็พึ่งรู้ว่าเรือเทียบท่าตั้งนานแล้วและจะออกในอีกห้านาที ทีนี้ก็รีบเร่งให้ทั้งสามคนวิ่งขึ้นเรือจนเหนื่อยหอบไปหมด
พอขึ้นมาได้ไม่ถึงนาทีเรือก็ออกจากท่าเรียบร้อยแล้ว ดวงตาสีเทาหม่นของนักล่าหนุ่มก็มองมาที่คนทั้งสาม ผมสั้นดำที่ยุ่งฟูตลอดของนักล่าหนุ่มกับเสื้อแขนยาวที่ปลายแขนเสื้อเป็นถุงมือที่ตัดส่วนนิ้วออกไป กางเกงขาเดฟกลายเป็นสีน้ำเงินที่ฟอกขาวเป็นจุดๆ เข้ากับรองเท้าหนังสีขาว
ทางสาวหวานอย่างใบชาก็สวมใส่เสื้อกะลาสีกับกางเกงสั้นที่ยาวถึงหัวเข่า และรองเท้าผ้าใบที่ทะมัดทะแมง ซึ่งชุดออกจะดูน่ารักใสๆเข้ากับผมสีฟ้าตาสีแม่น้ำจริงๆ
ส่วน นักดาบสาวคนสุดท้ายชุดก็เปลี่ยนไปเยอะโข กลายเป็นเสื้อที่ทำด้วยโซ่เส้นเล็กสาน มีแผ่นเหล็กสีแดงปิดตรงส่วนหน้าอก กางเกงขาสั้นเป็นผ้าสีดำมีเปลวไฟสีแดง และเกราะขาลากยาวจากรองเท้ามาถึงหัวเป็นเป็นสีแดงเพลิงเช่นเดียวกับผมและดวง ตา
“เดี๋ยว ฉันไปดูข้างล่างก่อนว่ามีคนเยอะไหมนะ อืม สายฟ้า นายไปกับฉัน พวกเธออยู่ข้างบนน่ะดีแล้ว เพราะข้างล่างมันเป็นห้องเดี่ยวแคบๆที่คนทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในนั้น หน้าต่างก็ไม่ค่อยเปิดด้วย อึดอัดจะตายชัก ถ้าไม่มีคนเดี๋ยวเราขึ้นมาเรียก โอเคนะ”
“อือ” ใบชาตอบเรียบๆ ในขณะที่โคโคนัทลงมานั่งข้างๆกราบเรือ เอาเท้าแกว่งอยู่ด้านอย่างสบายใจแล้ว
เลม่อนเดินนำเข้าไปด้านในส่วนของตัวเรือ “สายฟ้า นายว่าฉันมีวิธีหาเงินยังไง”
นัยน์ตาสีม่วงเบิกกว้างมองไปด้านบนอย่างครุ่นคิด “ไม่รู้ แต่ก็คงจะไม่สุจริตแน่ๆ”
“นายดูเอาเองล่ะกัน เข้ามาในปาร์ตี้ด้วย จะได้เอาค่าประสบการณ์ไป” เลม่อนพูดแล้วหยิบขนนกมาถือไว้ในมือ กำแพงลมถูกสร้างขึ้นมาห้าแผ่นเป็นกล่องขนาดใหญ่ บอลน้ำมันถูกเรียกมายัดลงไปในนั้นจนเป็นอ่างน้ำมันขนาดพอๆกับตัวคน
พอทำเสร็จก็ตั้งทิ้งไว้หน้าประตูเนี่ยแหละ “ประตูบานนี้จะเปิดเข้าไปด้านในเป็นห้องโถงรวม คนส่วนใหญ่ไม่อยากอยู่ในเรือก็จะลงมาคุยกันในนี้ มีทั้งเล่นไพ่ทำอะไรแก้เซงด้วยกัน ในนั้นมีหน้าต่างสี่บานขนาดเล็กมาซึ่งจะปิดไว้ตลอด ห้องมีทางเข้าทางเดียวคือทางนี้ นายยืนดูอยู่ตรงแหล่ะแล้วหาอะไรมาปิดหน้าด้วย เดี๋ยวคนจะเอาแต่ล่านายหมด”
“อืม” สายฟ้ารับคำแล้วมองเลม่อนที่เปิดประตูค้างไว้แล้วเข้าไปด้านใน สายตานับจำนวนคนและมองหาต่างหูที่แทนตัวผู้เล่นที่มีไอดีโค้ท
ยี่สิบคนรึ
เมื่อ ไม่มีผู้หญิงให้กังวล ระเบิดตดก็ถูกเรียกมาอยู่ในมือ เลม่อนสาวเท้าออกมาหน้าประตู ไม่มีใครสนใจนักล่าหนุ่มนัก เพราะการเดินเข้าเดินออกห้องนี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่า มันเป็นเรื่องปกติ
ระเบิดตดที่ผลิตจากแก๊สไวไฟถูกปาเข้าด้านใน เสียงคนโวยวายว่า ใครตดฟ่ะ ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่คนจะเริ่มเปิดหน้าต่างเพื่อระบายออก แม้ว่าจะน้อยก็เถอะ
“เฮ้ย อย่าบังลมสิฟะ ด้านในเหม็นนะเฟ้ย” เสียงตะโกนตะคอกมาทางสายฟ้าและเลม่อนที่ยืนบังประตู เลม่อนขยับยิ้มแล้วเรียกบอลเพลิงปาเข้าไปด้านใน
เสียงระเบิดดังตูมพร้อมกับเปลวไฟร้อนโผล่ออกไปถึงนอกหน้าต่าง เปลวเพลิงเพียงแค่นี้ไม่อาจจะทำอะไรผู้เล่นที่มีระดับสูงได้อยู่แล้วดังนั้น อ่างน้ำมันจึงถูกปล่อยแล้วใช้สายลมพัดเข้าด้านใน เปลวเพลิงที่มีอยู่น้อยนิดก็โหมกระหน่ำกว่าเดิมนับสิบเท่า เปลวไฟโพยพุ่งออกจากหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง
พอผู้คนพยายามทนความร้อนมาจัดการนักเวทย์หนุ่ม กำแพงเวทย์ระดับหนึ่งนับสิชั้นก็บังประตูไว้ไม่ให้มาถึงตัว เลม่อนยิ้มแพร่แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างสนุกสนาน
เพียงแต่เปลวไฟแค่นี้แล้วออกซิเจนก็น้อยนิด อีกไม่นานก็ดับลง หน้าต่างที่ถูกเปิดเพื่อระบายกลิ่นตดก็ถูกใช้เป็นทางเข้าออกของสายลม หากไม่มีระเบิดตด หน้าต่างบานทั้งสี่บานนี้คงถูกปิดไว้แน่และแผนการคงไม่สำเร็จ
“ดูนะว่าเวทย์ระดับหนึ่งรุนแรงขนาดไหน สายลม(Wind)”
สายลมถูกเรียกเข้าจากหน้าต่างสองบานขวาเข้ามาหมุนวนพัดให้เปลวไฟเคลื่อนเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วจนเป็นพายุแล้วให้ลมพัดออกจากทางฝั่งซ้าย สายลมที่มีมาอย่างไม่มีขีดจำกัดทำให้เกิดออกซิเจนเพียงพอต่อการสันดาษของ เปลวเพลิง
พายุไฟที่เกิดขึ้นในเรือโดยสารก็ทำงานกวาดล้างผู้เล่นด้านในกลายเป็นแสงส่งกลับเซิร์ฟเวอร์ในทันที
เสียงกรีดร้องดังก้องด้านในส่งผลให้คนด้านบนมีความสนใจ เลม่อนเลยชิงสั่งให้สายฟ้าขึ้นไปด้านบนเสียก่อน
“สายฟ้า นายขึ้นไปข้างบนบอกว่าคนข้างล่างประลองฝีมือกันอยู่นะ”
“ได้ แต่นายวางแผนไว้ใช่ไหม” สายฟ้ามองมาด้วยสายตาคาดคั้น
เลม่อนระบายยิ้มเป็นคำตอบ
ใช่ หากนี่ไม่ใช่แผนการที่วางไว้คงไม่ได้ประสิทธิภาพถึงเพียงนี้
ใช้ ระเบิดตดนำร่องให้เปิดหน้าต่างทั้งสี่บาน เตรียมอ่างน้ำมันให้มากพอสำหรับทำให้ห้องเปียกชุ่มไปด้วยน้ำมัน ใช้บอลเพลิงที่ระเบิดตั้งแต่ตอนใช้กับระเบิดตดเพื่อเป็นไฟให้เผาน้ำมันต่อ ในขนาดที่น้ำมันเข้าด้านในก็เตรียมร่ายเวทย์สร้างกำแพงเพื่อป้องกันอันตราย
แล้ว หน้าต่างที่เปิดไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่ใช้ระบายกลิ่นก็ถูกใช้เป็นช่องทางสำหรับ ให้ลมไหลผ่าน ต่อมาก็ใช้สายลมพัดจากช่องนั้นเนี่ยแหล่ะ ให้หมุนวนเร็วๆ จนทำให้เปลวไฟกลายเป็นหอคอยเพลิง เวทมนต์ระดับสี่ ที่มีเพียงนักเวทย์สายไฟเท่านั้นที่ใช้ได้!!!
ถ้านี่เป็นเพียงแค่แผนการง่ายที่แค่นึกขึ้นเล่นล่ะก็
คนๆนี้ ปีศาจ ชัดๆ!!!
สายฟ้าพินิจหัวหน้าทีมตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังหัวหน้าทีมตัวปลอมอย่างเขาเอง ด้วยมุมมองวิเคราะห์ ซึ่งเขาเองก็เผลอคิดเทียบไปว่าหากเป็นศัตรูกันจะเกิดอะไรขึ้น และมันก็
อย่าเป็นดีกว่า
“ด้านล่างเกิดอะไรขึ้นเหรอ” ใบชารีบวิ่งเข้ามาถามสายฟ้าที่พึ่งขึ้นมาทันที
สายฟ้าแสดงตามที่เลม่อนบอกได้อย่างแนบเนียน “ข้างล่างเขาประลองกัน แอลเอ็มก็เลยดูเชิงอยู่ เสร็จแล้วจะขึ้นมาเรียกอีกที ตอนนี้อยู่ด้านบนดีกว่า”
ชาแสดงสีหน้ากังวลเล็กน้อย “งั้นเลม่อนจะเป็นอะไรรึเปล่า”
“เลม่อน? แอลเอ็มน่ะเหรอ” เลม่อนยังไมเคยบอกชื่อกับสายฟ้า ที่ได้แต่บอกก็บอกแค่อักษรย่อ แอลเอ็ม แต่ยังไงก็ตามสายฟ้าก็ไม่สนใจในจุดนี้อยู่แล้ว
มีเพียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านกราบเรือ “ไม่เห็นต้องกังวลเลยใบชา ขนาดตอนเจอนักเลงรุมตั้งเยอะเลม่อนยังจัดการเสียอยู่หมัด นับประสาอะไรกับอยู่นอกวงล่ะ”
ใบชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สีหน้าที่กังวลก็คลี่ยิ้มแล้วหันมามองที่แผ่นน้ำกว้างอีกครั้ง
ส่วนทางสายฟ้านั้นก็เห็นด้วยกับคำนั้นไม่มีผิด เพียงแต่ไม่ใช่อยู่นอกวงและจัดการกับนักเลง
เพราะ เลม่อนเป็นตัวเอกของงานนี้จัดการกวาดล้างผู้เล่นระดับสูงที่มีเงินมากพอที่ จะซื้อไอดีโค้ทจำนวนยี่สิบกว่าคนกลับบ้านเก่าทั้งหมดต่างหาก!!!
ความคิดเห็น