ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CLOSE] ปิดรีไรท์ชั่วคราว

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่สิบ วิธีหาเงินแบบง่ายๆ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 544
      2
      7 พ.ย. 53

     

                    เมื่อซื้อของเสร็จก็กลับมาที่โรงแรมเพื่อจัดข้าวจัดของเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สายฟ้ากับใบชากำลังง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือที่มีเป็นตั้งๆ เพื่อเรียนรู้เวทมนต์ใหม่ๆ ส่วนทางนักล่าหนุ่มกับนักดาบสาวก็ไปอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของห้อง

     

                    บน พื้นเต็มไปด้วยดาบจำนวนมากเรียงรายกันจนแออัด ในกระเป๋ามิติที่ใส่สินค้าที่โจรกรรมมาจากผู้เล่นอื่นของเลม่อนนั้นส่วนมาก จะมีแต่ของระดับสูงหรือไม่ก็อีกอย่างหนึ่งคือแปลกสุดๆ ทำให้ต้องใช้เวลาในการเลือกอันที่เหมาะสมกับโคโคนัท

     

                    ฉันชอบอันนี้อ่ะ มันใหญ่ดี เค้าชอบ จะเอาอันนิ

     

                    โคโคนัทพูดอย่างงอแงเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเอาแต่ส่ายหน้าไม่ให้เธอหยิบดาบขนาดใหญ่คล้ายจะเอาไปล่ามังกรเล่มนี้ นักล่าหนุ่มมีอยู่สองเหตุผลที่ไม่อยากให้นักดาบสาวใช้ อย่างแรก เพราะมันเป็นดาบที่ตบมาจาก บาอัล พันดาบ สุดยอดนักดาบในใต้หล้าซึ่งหวงดาบเป็นที่สุด

     

                    และอีกอย่าง ยัยโคโคนัท อย่างทำตัวโคนมไร้สมองได้ ไหม ดาบขนาดนี้จะเอาไปทำอะไรห๊ะ ดาบใหญ่อย่างนี้น่ะ เหมาะกับพวกฉายเดี่ยวแบบ เบอร์เซิร์กเกอร์ นะเว้ยเฮ้ย เราสู้กันเป็นทีม ดาบของเธออาจจะเหวี่ยงมาเฉาะหัวสายฟ้าก็ได้ ใครจะรู้ แถมนะ ไอ้ดาบอย่างนี้มันเทอะทะเกินกว่าจะเอามาช่วยป้องกันคนอื่นทัน พวกนักเวทย์อย่างฉันก็โดนเขาถลุงจนกลับบ้านเก่าก่อนพอดี

     

                    เมื่อเลม่อนร่ายยาว สาวเจ้าก็ปั้นมุ่ยแล้วบอกเสียงอ่อย ยอมก็ได้ แต่ยังไงคนมันก็จะบ่นอุบอิบ เหอะ นักเวทย์อย่างนายจะไปโดนใครถลุงได้ เป็นใบชาก็ว่าไปอย่าง พอนัยน์ตาสีแดงเพลิงกวาดไปด้านหน้าอีกที มือก็คว้าอีกเล่มขึ้นมาแทนที่เรียบร้อย

     

                    นัยน์ตาสีถ่านสบดูก็เบ้ปาก นี่เธอจะเอาไปปอกแอปเปิลรึไงห๊ะ อันนี้มันไม่ใช่ดาบเว้ยเฮ้ย มันเรียกว่ามีด มีดน่ะมีด ของมีคมที่ขนาดเล็กกว่าดาบ นี่เธอเลือกอาวุธยังไงห๊ะเนี่ย

     

                    เมื่อเจอนักล่าหนุ่มบ่นใส่มากๆเข้าก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นกระชากคนเสื้อ แล้วทำไมนายไม่ตัดอันที่ใช้ไม่ได้ออกไปก่อนฟ่ะ อีตามะนาวเอ้ย

     

                    นั่นสิเนอะ เลม่อนพึ่งนึกได้

     

                    มือหยิบดาบแต่ละเล่มเก็บกลับไปที่กระเป๋ามิติ พอเอาเข้าไปรอบหนึ่งก็เหลือเพียงครึ่ง พอมาดูทางค่าความสามารถก็โละไปอีกจนเหลือเพียงนิดเดียว พอคัดไปคัดมาก็คัดจนกระทั่ง

     

                    “นี่นายจะให้ฉันเลือกจริงๆไหมเนี่ย

     

                    ไม่ ฃแปลกที่โคโคนัทจะพูดเช่นนี้ เนื่องจากดาบที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงเล่ม เล่มแรกเป็นดาบตะวันออกของแดนปลาดิบ ส่วนอีกเล่มก็เป็นดาบตะวันตกปลายแหลมทรงเรเปีย ใช่ มีแค่สองเล่มเท่านั้นเอง

     

                    ก็ใช่ไง ฉันให้เธอเลือกเลยนะ

     

                    เลม่อนตอบอย่างไม่ยี่หระ พอโคโคนัทหยิบดาบคาตานะมาถือแล้วจะเดินไปหยิบเรเปียมาเทียบ พอเทียบไปเทียบมาก็เลือกเจ้าเรเปียเนี่ยแหล่ะ

     

                    มือหนาโยนดาบคาตานะเข้ากระเป๋ามิติอย่างไม่ใยดีแล้วก็หันมาพูดกับโคโคนัทที่ กำลังนั่งเอานิ้วลูบดาบใหม่อย่างอารมณ์ดี โคโคนัท ดาบของเธอมันยืดได้ด้วยนะ ลองสำรวจค่าสถานะดูสิ

     

                    อื้อๆ

     

                    เหมือนเธอจะตอบเออออไปงั้นๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเดินไปกระชากดาบออกมา เธอเปลี่ยนชุดซะทีเถอะ หยิบแล้วบอกใส่ อย่าใส่เกราะหนักนะ แล้วยืนนิ่งสักสามสิบวิด้วยล่ะ

     

                    นักดาบสาวผมเพลิงพยักหน้าหงักๆ เอาดาบเค้ามา

     

                    พอชายหนุ่มโยนดาบไปให้ก็หันไปดูทางนักเวทย์มือใหม่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างหนัก นี่แอลเอ็ม

     

                    สายฟ้าเรียกนักล่าหนุ่มจากด้านหลัง ชั้นใช้ตำราเวทย์ครบแล้ว และก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วด้วย

     

                    เด็กหนุ่มอัจฉริยะในรูปลักษณ์ใหม่ เพียงแค่ย้ายมาใส่เสื้อคอกลมแขนยาว กางเกงขาเดฟ พร้อมด้วยถุงมือสีขาวและรองเท้าหนัง สายฟ้าหันมามองดูก่อนจะขยับยิ้ม

     

                    นายยืนนิ่งสักครึ่งนาทีก่อนล่ะกันๆ ส่วนสื่อเวทย์ก็เอาคทาของชั้นไปใช้ก่อนก็ได้เลม่อนพูด

     

                    สายฟ้าขมวดคิ้วมองพร้อมกับรับมาอย่างสงสัย ถ้าไม่มีสื่อเวทย์ก็จะร่ายได้เฉพาะเวทย์ระดับหนึ่งไม่ใช่เหรอ

     

                    หือ อ้อ ฉันเป็นเอเลเมนทัลมาสเตอร์ ร่ายเวทย์ดินน้ำลมไฟโดยไม่มีสื่อเวทย์ได้ถึงระดับสามน่ะ ส่วนจะร่ายระดับสี่ค่อยหยิบไอ้นี่มาใช้ก็ได้

     

                    เพียงแค่เลม่อนหยิบสิ่งหนึ่งจากกระเป๋ามิติมาอัจฉริยะหนุ่มก็ส่งนัยน์ตาสีม่วงมาในความหมายว่า อะไรน่ะ

     

                    ขนนก สื่อเวทย์ในหมวดอื่นๆ บอบบางและความคงทนต่ำสุดๆ แต่ก็ราคาถูกและน่ารักดีเลมอ่นพูดแล้วก็โบกขนนกขนาดใหญ่ที่แสนจะเบาไปมา

     

                    เอาล่ะ ส่วนสื่อเวทย์ของใบชาก็เอาเป็นพัดซุนวูไปล่ะกัน วานนายเอาไปให้เธอด้วย อ้อ ความลับอย่างหนึ่งของเกม ถ้าสวมใส่เสื้อผ้าของระบบที่ซื้อตรงร้านหลังแผนกแนะนำอาชีพมากกว่าสามชิ้น แล้วยืนอยู่เฉยเกินสามสิบวิจะหลอมรวมมาเป็นไอเท็มเซ็ทเฉพาะตัวแทนชุดผู้เริ่มต้นที่จะแลกเปลี่ยนหรือถูกทำลายไม่ได้

     

                    อืมๆ สายฟ้ารับคำก่อนจะมองนักล่าหนุ่มเดินออกจากห้องไป มีเพียงเสียงของเลม่อนตะโกนดังย้อนหลังว่าไปทำอะไร เดี๋ยวฉันไปซื้อตั๋วเรือก่อนนะ

     

                    สองเท้าเดินออกจากโรงแรมตรงไปท่าเรือ แม้จะมีผู้เล่นไม่มากนักแต่ล้วนแล้วเป็นผู้มีไอดีโค้ททั้งนั้น เนื่องจากต่างหูเป็นไอเท็มที่ไม่สามารถเก็บในหน้าต่างไอเท็มได้ จึงทำให้คนสวมไว้ที่หูตัวเองมากกว่า

     

                    ผู้เล่นที่จำเป็นต้องนั่งเรือไปทวีปใหม่มักจะมีเพียงผู้เล่นที่มีอาชีพแล้วเท่านั้น เนื่องจากระบบจะส่งไปยังสำนักงานอาชีพที่ทวีปใหญ่ได้ ทำให้ไม่มีคนเดินทางเอง ดังนั้นคนจำนวนสามสิบกว่าคนตรงจุดนี้ก็มีเพียงผู้มีไอดีโค้ทที่เลือกจะใช้ตัวละครเก่าเท่านั้น

     

                    ตรงบริเวณช่องขายตั๋วจะมีร้านค้าระบบอีกร้านที่จะมีแต่สินค้าที่คนทั่วไปลงความ เห็นว่าไร้สาระ นักล่าหนุ่มแทนที่จะตรงไปช่องขายตั๋วก็ปรี่เข้าหาร้านนั้นก่อนทันที

     

                    รับอะไรดีค่ะเสียงของป้าแก่ๆ ดังขึ้นจากด้านใน รายการสินค้าที่ อยากซื้อถูกวาดขึ้นมาในหัว เลม่อนเปิดปากพูดคล่องปรื๋อราวกับไม่กลัวว่าป้าแกจะฟังไม่ทัน

     

                    เอาเมล็ดพันธุ์ดอกทานตะวันเวทมนต์สักหกถุงแล้วก็เป็นระเบิดตดสักโหล เฮ้อ หมู่นี้เอาไปเล่นมากไปหน่อย อืม ของระเบิดอาเจียนรสนมบูดด้วย ประทัดพริกไทย อืม โทรโข่งนรกแตก นอกนันก็มีไอเท็ม ไอเท็มเซ็ตป่วนเมือง แบบชุดไหนบ้างก็เอามาให้หมดเลยละกัน เฮ้อ ย้ายเซิร์ฟเวอร์มา ไม่มีพวกนี้แล้วเหงาๆยังไงไม่รู้

     

                    งานอดิเรกเพี้ยนๆ ของเลม่อนคือการก่อกวน ไอเท็มพวกนี้กว่าครึ่งใช้ประโยชน์ได้จริงด้วยนะ แม้ว่าหลายๆอย่างจะมีอะไรที่ดีกว่าหรือวิธีการที่ดีกว่ามากๆมาใช้แทนก็เถอะ

     

                    ชายหนุ่มนัยน์ตาเทาหม่นพึ่งนึกขึ้นได้ ป้า เอาถุงหัวเราะกับขวดแมวหาวมาด้วยสิ อ้อ ไวน์พันธุ์นรกจิบเดียวเมามายมาซักลังด้วยนะ

     

                    เป็นอะไรที่เหลือเชื่อเมื่อยอดรวมของสินค้าที่ซื้อมีราคามากกว่าที่ซื้อเสื้อผ้า ให้สายฟ้า ใบชา และโคโค่นับเท่าตัว แน่ล่ะ เป็นนักล่าเสียอย่าง ไอเท็มหายากก็หาได้ง่ายๆ ทำไมเงินที่ง่ายกว่าจะเอามาไม่ได้ล่ะ

     

                    พอซื้อตั๋วเสร็จก็พึ่งรู้ว่าเรือเทียบท่าตั้งนานแล้วและจะออกในอีกห้านาที ทีนี้ก็รีบเร่งให้ทั้งสามคนวิ่งขึ้นเรือจนเหนื่อยหอบไปหมด

     

                    พอขึ้นมาได้ไม่ถึงนาทีเรือก็ออกจากท่าเรียบร้อยแล้ว ดวงตาสีเทาหม่นของนักล่าหนุ่มก็มองมาที่คนทั้งสาม ผมสั้นดำที่ยุ่งฟูตลอดของนักล่าหนุ่มกับเสื้อแขนยาวที่ปลายแขนเสื้อเป็นถุงมือที่ตัดส่วนนิ้วออกไป กางเกงขาเดฟกลายเป็นสีน้ำเงินที่ฟอกขาวเป็นจุดๆ เข้ากับรองเท้าหนังสีขาว

     

                    ทางสาวหวานอย่างใบชาก็สวมใส่เสื้อกะลาสีกับกางเกงสั้นที่ยาวถึงหัวเข่า และรองเท้าผ้าใบที่ทะมัดทะแมง ซึ่งชุดออกจะดูน่ารักใสๆเข้ากับผมสีฟ้าตาสีแม่น้ำจริงๆ

     

                    ส่วน นักดาบสาวคนสุดท้ายชุดก็เปลี่ยนไปเยอะโข กลายเป็นเสื้อที่ทำด้วยโซ่เส้นเล็กสาน มีแผ่นเหล็กสีแดงปิดตรงส่วนหน้าอก กางเกงขาสั้นเป็นผ้าสีดำมีเปลวไฟสีแดง และเกราะขาลากยาวจากรองเท้ามาถึงหัวเป็นเป็นสีแดงเพลิงเช่นเดียวกับผมและดวง ตา

     

                    เดี๋ยว ฉันไปดูข้างล่างก่อนว่ามีคนเยอะไหมนะ อืม สายฟ้า นายไปกับฉัน พวกเธออยู่ข้างบนน่ะดีแล้ว เพราะข้างล่างมันเป็นห้องเดี่ยวแคบๆที่คนทั้งหมดอัดแน่นอยู่ในนั้น หน้าต่างก็ไม่ค่อยเปิดด้วย อึดอัดจะตายชัก ถ้าไม่มีคนเดี๋ยวเราขึ้นมาเรียก โอเคนะ

     

                    อือใบชาตอบเรียบๆ ในขณะที่โคโคนัทลงมานั่งข้างๆกราบเรือ เอาเท้าแกว่งอยู่ด้านอย่างสบายใจแล้ว

     

                    เลม่อนเดินนำเข้าไปด้านในส่วนของตัวเรือ สายฟ้า นายว่าฉันมีวิธีหาเงินยังไง

     

                    นัยน์ตาสีม่วงเบิกกว้างมองไปด้านบนอย่างครุ่นคิด ไม่รู้ แต่ก็คงจะไม่สุจริตแน่ๆ

     

                    นายดูเอาเองล่ะกัน เข้ามาในปาร์ตี้ด้วย จะได้เอาค่าประสบการณ์ไป เลม่อนพูดแล้วหยิบขนนกมาถือไว้ในมือ กำแพงลมถูกสร้างขึ้นมาห้าแผ่นเป็นกล่องขนาดใหญ่ บอลน้ำมันถูกเรียกมายัดลงไปในนั้นจนเป็นอ่างน้ำมันขนาดพอๆกับตัวคน

     

                    พอทำเสร็จก็ตั้งทิ้งไว้หน้าประตูเนี่ยแหละ ประตูบานนี้จะเปิดเข้าไปด้านในเป็นห้องโถงรวม คนส่วนใหญ่ไม่อยากอยู่ในเรือก็จะลงมาคุยกันในนี้ มีทั้งเล่นไพ่ทำอะไรแก้เซงด้วยกัน ในนั้นมีหน้าต่างสี่บานขนาดเล็กมาซึ่งจะปิดไว้ตลอด ห้องมีทางเข้าทางเดียวคือทางนี้ นายยืนดูอยู่ตรงแหล่ะแล้วหาอะไรมาปิดหน้าด้วย เดี๋ยวคนจะเอาแต่ล่านายหมด

     

                    อืมสายฟ้ารับคำแล้วมองเลม่อนที่เปิดประตูค้างไว้แล้วเข้าไปด้านใน สายตานับจำนวนคนและมองหาต่างหูที่แทนตัวผู้เล่นที่มีไอดีโค้ทยี่สิบคนรึ

     

                    เมื่อ ไม่มีผู้หญิงให้กังวล ระเบิดตดก็ถูกเรียกมาอยู่ในมือ เลม่อนสาวเท้าออกมาหน้าประตู ไม่มีใครสนใจนักล่าหนุ่มนัก เพราะการเดินเข้าเดินออกห้องนี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่า มันเป็นเรื่องปกติ

     

                    ระเบิดตดที่ผลิตจากแก๊สไวไฟถูกปาเข้าด้านใน เสียงคนโวยวายว่า ใครตดฟ่ะ ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่คนจะเริ่มเปิดหน้าต่างเพื่อระบายออก แม้ว่าจะน้อยก็เถอะ

     

                    เฮ้ย อย่าบังลมสิฟะ ด้านในเหม็นนะเฟ้ย เสียงตะโกนตะคอกมาทางสายฟ้าและเลม่อนที่ยืนบังประตู เลม่อนขยับยิ้มแล้วเรียกบอลเพลิงปาเข้าไปด้านใน

     

                    เสียงระเบิดดังตูมพร้อมกับเปลวไฟร้อนโผล่ออกไปถึงนอกหน้าต่าง เปลวเพลิงเพียงแค่นี้ไม่อาจจะทำอะไรผู้เล่นที่มีระดับสูงได้อยู่แล้วดังนั้น อ่างน้ำมันจึงถูกปล่อยแล้วใช้สายลมพัดเข้าด้านใน เปลวเพลิงที่มีอยู่น้อยนิดก็โหมกระหน่ำกว่าเดิมนับสิบเท่า เปลวไฟโพยพุ่งออกจากหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง

     

                    พอผู้คนพยายามทนความร้อนมาจัดการนักเวทย์หนุ่ม กำแพงเวทย์ระดับหนึ่งนับสิชั้นก็บังประตูไว้ไม่ให้มาถึงตัว เลม่อนยิ้มแพร่แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างสนุกสนาน

     

                    เพียงแต่เปลวไฟแค่นี้แล้วออกซิเจนก็น้อยนิด อีกไม่นานก็ดับลง หน้าต่างที่ถูกเปิดเพื่อระบายกลิ่นตดก็ถูกใช้เป็นทางเข้าออกของสายลม หากไม่มีระเบิดตด หน้าต่างบานทั้งสี่บานนี้คงถูกปิดไว้แน่และแผนการคงไม่สำเร็จ

     

                    ดูนะว่าเวทย์ระดับหนึ่งรุนแรงขนาดไหน สายลม(Wind)

     

                    สายลมถูกเรียกเข้าจากหน้าต่างสองบานขวาเข้ามาหมุนวนพัดให้เปลวไฟเคลื่อนเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วจนเป็นพายุแล้วให้ลมพัดออกจากทางฝั่งซ้าย สายลมที่มีมาอย่างไม่มีขีดจำกัดทำให้เกิดออกซิเจนเพียงพอต่อการสันดาษของ เปลวเพลิง

     

                    พายุไฟที่เกิดขึ้นในเรือโดยสารก็ทำงานกวาดล้างผู้เล่นด้านในกลายเป็นแสงส่งกลับเซิร์ฟเวอร์ในทันที

     

                    เสียงกรีดร้องดังก้องด้านในส่งผลให้คนด้านบนมีความสนใจ เลม่อนเลยชิงสั่งให้สายฟ้าขึ้นไปด้านบนเสียก่อน

     

                    สายฟ้า นายขึ้นไปข้างบนบอกว่าคนข้างล่างประลองฝีมือกันอยู่นะ

     

                    ได้ แต่นายวางแผนไว้ใช่ไหมสายฟ้ามองมาด้วยสายตาคาดคั้น

     

                    เลม่อนระบายยิ้มเป็นคำตอบ

     

                    ใช่ หากนี่ไม่ใช่แผนการที่วางไว้คงไม่ได้ประสิทธิภาพถึงเพียงนี้

     

                    ใช้ ระเบิดตดนำร่องให้เปิดหน้าต่างทั้งสี่บาน เตรียมอ่างน้ำมันให้มากพอสำหรับทำให้ห้องเปียกชุ่มไปด้วยน้ำมัน ใช้บอลเพลิงที่ระเบิดตั้งแต่ตอนใช้กับระเบิดตดเพื่อเป็นไฟให้เผาน้ำมันต่อ ในขนาดที่น้ำมันเข้าด้านในก็เตรียมร่ายเวทย์สร้างกำแพงเพื่อป้องกันอันตราย

     

                    แล้ว หน้าต่างที่เปิดไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่ใช้ระบายกลิ่นก็ถูกใช้เป็นช่องทางสำหรับ ให้ลมไหลผ่าน ต่อมาก็ใช้สายลมพัดจากช่องนั้นเนี่ยแหล่ะ ให้หมุนวนเร็วๆ จนทำให้เปลวไฟกลายเป็นหอคอยเพลิง เวทมนต์ระดับสี่ ที่มีเพียงนักเวทย์สายไฟเท่านั้นที่ใช้ได้!!!

     

                    ถ้านี่เป็นเพียงแค่แผนการง่ายที่แค่นึกขึ้นเล่นล่ะก็คนๆนี้ ปีศาจ ชัดๆ!!!

     

                สายฟ้าพินิจหัวหน้าทีมตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังหัวหน้าทีมตัวปลอมอย่างเขาเอง ด้วยมุมมองวิเคราะห์ ซึ่งเขาเองก็เผลอคิดเทียบไปว่าหากเป็นศัตรูกันจะเกิดอะไรขึ้น และมันก็อย่าเป็นดีกว่า

     

                    ด้านล่างเกิดอะไรขึ้นเหรอใบชารีบวิ่งเข้ามาถามสายฟ้าที่พึ่งขึ้นมาทันที

     

                    สายฟ้าแสดงตามที่เลม่อนบอกได้อย่างแนบเนียน ข้างล่างเขาประลองกัน แอลเอ็มก็เลยดูเชิงอยู่ เสร็จแล้วจะขึ้นมาเรียกอีกที ตอนนี้อยู่ด้านบนดีกว่า

     

                    ชาแสดงสีหน้ากังวลเล็กน้อย งั้นเลม่อนจะเป็นอะไรรึเปล่า

     

                    เลม่อน? แอลเอ็มน่ะเหรอเลม่อนยังไมเคยบอกชื่อกับสายฟ้า ที่ได้แต่บอกก็บอกแค่อักษรย่อ แอลเอ็ม แต่ยังไงก็ตามสายฟ้าก็ไม่สนใจในจุดนี้อยู่แล้ว

     

                    มีเพียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านกราบเรือ ไม่เห็นต้องกังวลเลยใบชา ขนาดตอนเจอนักเลงรุมตั้งเยอะเลม่อนยังจัดการเสียอยู่หมัด นับประสาอะไรกับอยู่นอกวงล่ะ

     

                    ใบชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สีหน้าที่กังวลก็คลี่ยิ้มแล้วหันมามองที่แผ่นน้ำกว้างอีกครั้ง

     

                    ส่วนทางสายฟ้านั้นก็เห็นด้วยกับคำนั้นไม่มีผิด เพียงแต่ไม่ใช่อยู่นอกวงและจัดการกับนักเลง

     

                    เพราะ เลม่อนเป็นตัวเอกของงานนี้จัดการกวาดล้างผู้เล่นระดับสูงที่มีเงินมากพอที่ จะซื้อไอดีโค้ทจำนวนยี่สิบกว่าคนกลับบ้านเก่าทั้งหมดต่างหาก!!!

     

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×