คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 ปฏิเสธ
“ไม่มีวันรับหรอกครับ”แน่นอน ผมต้องถนอมน้ำใจของคนหมู่มากไว้ เมื่อพวกเขาไม่เห็นด้วยที่จะยกยศอะไรนั่นให้ผม งั้นผมก็ไม่ต้องรับสินะ อืม ทำถูกแล้วๆ
หลังจากท่านรัฐมนตรีหนุ่มหุ่นนายแบบหายอึ้ง ก็ยิ้มถามผมด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวพิกล
“ทำไมล่ะ ของแบบนี้ไม่ใช่จะมีประเคนให้ง่ายๆแล้วนะ”อ้อ คงคิดว่าอยากได้ตายเลยสินะ เอาเถอะ
“แล้วทำไมถึงอยากจะมอบตำแหน่งเจ้าหน้าที่พิเศษติดยศนายร้อยนั่นให้ผมล่ะครับ ขอเหตุผลมั่งสิ”คำ ถามของผมทำให้ทั้งห้องประชุมนิ่งเงียบ แล้วที่กลางห้องก็มีภาพไฮโรแกรมขึ้นมาอีกแล้ว แต่ดูเหมือนภาพนั้นจะเป็นภาพมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง หรือก็คือเป็นมุมมองของคุณวีนั่นเอง
มิน่าล่ะ ทำไมคุณเธอถึงต้องถอดเสื้อ เธอซ่อนกล้องไว้ที่ชุดชั้นในนี่เอง
“เพราะนายมีความสามารถพิเศษในหลายๆด้าน และฉันก็ได้เห็นมันกับตาตัวเอง ถึงการควบคุมอารมณ์และไหวพริบของนาย ตอนนี้คนอย่างนายกำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมากในหน่วยงานของเรา ฉันต้องการให้นายมาช่วย.....”คุณรัฐมนตรีหนุ่มอธิบายพร้อมกับภาพเหตุการณ์ชวนหื่นหรือตะลึงต่างๆ แน่นอน ใบหน้าผมกลับนิ่งเหมือนคนตายได้ตลอด จนเข้าตากรรมการนี่ไงล่ะ
ถึงจะรู้ว่าหน้าตัวเองไม่ค่อย เปลี่ยนก็เถอะ แต่เมื่อมาเห็นเองแล้วก็รู้สึกขัดๆชอบกล ผมจึงส่องหน้าตัวเองกับช้อนเหล็กที่ถูกขัดจนเงาเป็นกระจก เพื่อดูหน้าที่นิ่งจนเหมือนคนตายของตัวเอง แบบไม่สนใจรัฐมนตรีหนุ่มที่ยังคงพล่ามยาวเหมือนเดิม
เฮ้อ นี่ไม่รู้หรือยังไงนะ ว่าผมไม่ชอบพูดคุยหรือฟังอะไรที่ยาวๆน่ะ
“ผมคิดว่าคุณคงยอมรับแล้วสินะ”อืม ไอ้การมัดมือชกแบบนี้ บอสผมสอนมาแน่ๆ แม้ผมจะไม่ชอบฟังสิ่งที่คุยอะไรกันยาวๆ แต่หัวข้อที่เกี่ยวกับผมโดยตรงแบบนี้ผมย่อมไม่พลาดฟังด้วยอยู่แล้ว
“ไม่ครับ”ผมยังยืนยันแบบหนักแน่นเหมือนเดิม
รู้สึกเหมือนคำตอบผมจะทำให้คนใน ห้องประชุมมีอาการโกรธขึ้นมาได้ สำหรับคุณวี ผมเข้าใจได้เลยว่า สิ่งที่คุณทำมาคงจะเสียเปล่าสินะ ที่อยู่ๆผมกลับไม่ยอมรับการส่งมอบยศอะไรแบบนี้
แต่สำหรับคนอื่นๆ ผมไม่เข้าใจ ในเมื่อตอนแรกแสดงอาการอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบผมแท้ๆ แต่พอผมตอบตรงๆว่าไม่เอาแบบนี้ แล้วกลับแสดงท่าทีไม่พอใจเช่นนี้ สงสัยคงต้องการคำอธิบายเพิ่มสินะ
“เอาง่ายๆนะครับ ผมไม่ชอบที่พวกคุณใช้ชีวิตของใครบางคนมาเป็นสิ่งทดสอบใครๆ แล้วคุณคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ดีเหรอ ที่พวกคุณให้คุณวีมาทดสอบผมแบบนี้? ........งั้นผมขอตอบแทนเลย มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ที่จะให้เธอต้องมาแสดงร่างกายเปลือยเปล่าให้ผมดูหรือใครๆดู ถ้าเกิดวันหนึ่งพวกคุณถูกสั่งให้ไปแก้ผ้าโป๊เพื่อภารกิจอะไรแบบนี้ คุณจะยอมมั้ย?......ซึ่งก็ไม่ เมื่อพวกคุณยังปฏิเสธ แล้วทำไมถึงไม่ใช้ใจเขาใจเรากับตัวเองมั่ง”ผมทั้งตอบแล้วถามกลับ แน่นอนไม่มีใครกล้าที่จะตอบในสิ่งที่ผมพูด แหงะล่ะนี่เป็นจิตวิทยาแบบหนึ่งนี่นา ผมจึงถือโอกาสพูดต่อ เพื่อไม่ให้บรรยากาศที่ตนสร้างขึ้นมาสูญเปล่าไป
“ในขณะที่คุณกำลังทำการทดสอบใครบางคนแบบผม ผมขอถามว่า ในตอนนั้นยังมีทหารอีกกี่นายที่ต้องเสี่ยงตาย เสี่ยงชีวิต .....ผมคิดว่า พวกคุณนำสิ่งที่มอบให้ผม ไปมอบให้การช่วยเหลือให้กับทหารเหล่านั้นจะดีกว่าที่จะมอบให้ผมนะครับ”ผมว่าจบก็ค้อมหัวเล็กน้อยเป็นการขออภัยที่เสียมารยาท แต่ถ้าผมมองไม่ผิด คุณวี คุณหน้าแดงทำไม ผมแค่ยกตัวอย่างนะเนี่ย
“เป็นคำตอบที่ ฟังดูดีจริงๆนะ”ท่านรัฐมนตรีหนุ่มพูดแค่นเสียงเย็นชากับผม
อ้าว นี่มาโกรธกันซะแล้ว ผมก็แค่ให้ข้อมูลตามความคิดผม อืมหรือว่า เขาจะเสียหน้านะ สงสัยจะใช่แน่ๆ เพราะเท่าที่ดู คนที่จะยกตำแหน่งให้ผมก็คือเขา คนที่สนับสนุนผมก็คือเขา เอ่อ...คือ บอสของผม การที่ผมปฏิเสธ มันเหมือนกับเป็นการหักหน้ากันจริงๆล่ะมั้ง
หึ ช่วยไม่ได้นิ ก็คุณจะมัดมือชกผมก่อนทำไม
“อย่าทำอะไรรุนแรงกับน้องฉันนะ”เสียงแห้วของบอสผมดังขึ้น เมื่อเห็นท่านรัฐมนตรีมีท่าทีคุกคามผมอย่างเห็นได้ชัด แน่นอน เหล่าทหารชั้นสูงทั้งหลายกำลังเกร็งรอดูอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน
“แหม ผมไม่ทำอะไรรุนแรงหรอกนะ น้องที่รัก”ว่าจบท่านรัฐมนตรีหนุ่มก็ยื่นมือมาอีกครั้ง ผมจึงมองมือนั้นแล้วเอื้อมมือไปแตะตอบอย่างงงๆ แต่สักพักก็อยากจะถามกลับไปจริงๆ ว่าไม่รุนแรงตรงไหน
เพราะการจับจนถึงขั้นขนาดได้ยินเสียงกระดูกมือลั่น นี่มันไม่ใช่มือคนแล้ว ครีมหนีบเหล็กชัดๆ
แต่ดูเหมือนอาการหน้านิ่งจน เหมือนคนตายแบบผมจะไปทำให้ท่านรัฐมนตรีโกรธมากกว่าเดิม จนท่านออกแรงมากกว่าเมื่อสักครู่ ถึงขั้นเห็นเส้นเลือดที่ข้างขมับเต้นตุบๆ
“เฮ้อ ไร้สาระกันจริงๆ”ผมเปรยเบาๆ ทั้งๆที่มือยังถูกจับอยู่แบบนั้น
แน่นอน ผมไม่แคร์ใครอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับคนในห้องนี้ ที่อย่างมากก็ได้แต่นั่งสั่งงานจนใครหลายๆคนออกไปตายหรือทำงานที่ผิดกฎหมาย กันล่ะ
คำพูดที่หลุดออกมาของผม ทำให้ทั้งห้องประชุมเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาได้ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ไม่น้อยเดินลงมาเหมือนจะเอาเรื่องผม
“ได้เลย เข้ามาสิ”ผม ที่มือหนึ่งถูกบีบอยู่ เอ่ยกับคนอื่นๆ แล้วยกอีกมือขึ้นมากวักเหมือนเชิญชวนแบบเรียบๆ แต่ความรู้สึกผมกลับไม่เรียบตาม การจะมัดมือชกใคร แล้วเมื่อเขาไม่ยอมทำตาม จะมาทำกันแบบนี้หรือไง ผมไม่ยอมอยู่แล้ว
ผมไม่รู้ว่าคำพูดของผมน่ากลัวตรง ไหน แต่เหล่าทหารชั้นสูงทั้งหลาย กลับถูกแรงกดดันของผมกดดันจนต้องถอยหลังกลับไป 1 ก้าวอย่างไม่รู้สาเหตุ แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่ามาถามว่าทำได้ยังไงล่ะ
“ดาร์กเฟต พอแล้ว”บอสผมเรียกฉายาเต็มๆของผม ทำให้ผมต้องหันไปมองเธอ ที่ทำใบหน้าเคร่งเครียดอยู่
อ้อ ใช่สิ ผมบีบมือท่านรัฐมนตรีคืนเพื่อเป็นการตอบแทนความพยายามของเขา จนท่านต้องนั่งคุกเข่ากุมมือข้างนั้นด้วยความเจ็บปวดแล้วสินะ
เฮ้อ นี่ล่ะความต่างของคนนั่งโต๊ะกับผู้ปฏิบัติงานล่ะ
“ครับ พี่”ผมปล่อยมือข้างที่บีบมือเขาอยู่ พร้อมกับเอ่ยกับผู้มีพระคุณอย่างบอสของผม ที่เดินลงมาหาผมท่ามกลางบรรยากาศที่ดูหวาดกลัว
และแล้ว เธอก็ทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง แต่ผมคาดไว้แล้ว ด้วยการโน้มคอผมเข้าไปซุกที่อกเธอเหมือนเดิม
“น้องพี่ อย่าโกรธแค้นอดีตเลยนะ ปล่อยวางบ้างเถอะ คนที่นี่ค่อนข้างจะ ‘เป็นมิตร’ ทุกคน”เธอกระซิบกล่าวกับผมเสียงหวาน แต่ห้องที่เงียบสงัดแบบนี้ เสียงของเธอกลับดังกึ่งก้องจนเข้ากระทบโสตหูของคนทุกคน
“ผมไม่ได้โกรธแค้นอดีตอะไรหรอกครับ ผมแค่ไม่พอใจที่พวกพี่ๆ จะใช้อำนาจกดขี่ผมแบบทหารชั้นผู้น้อยต่างหาก ผมทำงานนี้ก็เพราะที่นั่นมีพี่นะครับ”ผมกล่าวอย่างจริงใจ เรื่องในอดีตก็คือเรื่องในอดีต ผมไม่เอามาพัวพันกันอยู่แล้ว อีกอย่างผมก็ลืมๆมันไปแล้วด้วย
“ขอโทษนะน้องรัก พี่นึกว่าเธอจะอยากได้สิ่งที่สบายกว่านี้ซะอีก พี่ก็เลยร่วมมือกับพวกเขาทำเรื่องนี้ขึ้นล่ะ”อืม ชักไม่แน่ใจแล้วว่า เธอกำลังปลอบผมหรือหลอกผมกันแน่
“ถ้าเธอรับตำแหน่งนี้ คงจะขึ้นมารอที่ตำแหน่งพี่ไม่ยาก พี่อยากให้เธอได้ตำแหน่งผู้บัญชาการนะ แม้เธอตอนนี้จะอายุแค่ 19 แต่ถ้าเธออายุเท่าพี่ เธอต้องเป็นผู้บัญชาการที่ดีกว่าพี่แน่นอน”เอ่อ บอสครับ ตกลงจะเกลี่ยกล่อมผมใช่มั้ยเนี่ย ไอ้เราก็อุตส่าห์ฟังมาตั้งนาน
“ขอโทษนะครับ ต่อให้พี่อยากจะมอบอะไรที่ยิ่งใหญ่ให้ผมขนาดไหน แต่ชีวิตผมยังมีสิ่งที่ต้องตอบแทนอีกเยอะ เยอะเกินกว่าจะต้องมานั่งตำแหน่งอะไรบางอย่าง”ผมตอบแล้วนึกไปถึงบ้านของชิออน ถ้าไม่มีบ้านนั้น ก็คงไม่มีผมในวันนี้
ดูเหมือนคำตอบของผมจะทำให้บอสสุด สวยของผมตัดใจได้ เธอเลยคลายอ้อมกอดที่ซุกหน้าผมไว้ เปลี่ยนไปคล้องแขนแบบไม่อายใครแทน ถ้าจะบอกว่าผมอาย พี่จะต่อยผมมั้ยเนี่ย
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นล่ะนะ พี่คงไม่ว่าเรื่องที่น้องของฉันปฏิเสธในครั้งนี้หรอกนะ”บอสของผมกล่าวกับท่านรัฐมนตรีที่พึ่งลุกขึ้นมายืน หลังจากต้องบีบนวดมืออยู่นาน
“อืม พี่คงไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของพี่ต้องการหรอกนะ”ดูเหมือนคำพูดนี้เหมือนจะเป็นการประชดมากกว่า แต่ช่างมันเถอะ ถ้าทำให้ผมหลุดจากห้องนี้ไปตอนนี้ได้ล่ะก็ ผมยอมให้ด่าเลยล่ะ
“งั้นตามนี้ แต่ตำแหน่งนั้นยังคงเหมือนเดิมหรือเปล่า”อยู่ๆบอสของผมก็กล่าวเสียงเย็นชากับรัฐมนตรีหนุ่มที่เป็นที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
“อืม การที่เขาปฏิเสธทางเรา ไม่มีผลต่ออันดับของเขาแน่นอน พี่เอาตำแหน่งรองรัฐมนตรีเป็นประกัน แต่ถ้าจะให้ดี น้องให้ลูกน้องของน้องเข้ามาทำงานที่นี่บ่อยๆบ้างนะ เขาไม่มาจนเจ้าหน้าที่หลายๆคนจำหน้าเขาหรือจำตัวตนของเขาไม่ได้แล้ว”รัฐมนตรีหนุ่มพูดเสียงเครียด เฮ้ย ตกลงไม่ใช่ท่านรัฐมนตรีหรอกเหรอ ไอ้เราก็เผลอนึกว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตั้งนาน
อืม นั่นสินะ ผมเข้ามาทำงานที่นี่เดือนละครั้งเองนี่นา จำไม่ผิด ตอนนั้นท่านรัฐมนตรีเป็นชายมีอายุกว่านี้นี่นา แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ มันเป็นงานที่บังคับผมนี่ ผมไม่ว่าก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลยที่ไม่ค่อยจะเข้ามา และจะจำหน้าคนที่สั่งการตนไม่ได้
“หึ ไม่มีผลงั้นเหรอ แต่ฉันอยากให้ปลดเขาลงมาจังเลย”ว้าว พี่สาวของผมจริงๆแล้ว
“เสียใจด้วย แต่ท่านลุงไม่ยอมปลดเขาจริงๆ ท่านบอกว่า ต่อให้มีคนล้มคนๆนี้ได้ เขาก็จะไม่ปลดคนๆนี้ออกจากตำแหน่งนั้นเด็ดขาด”นี่ถ้าผมไม่ใช่คนได้ตำแหน่งนี้โดยตรง ผมคงจะงงไปนานแล้ว ว่าอะไรคือไอ้นั่นไอ้นี่ แล้วคนๆนี้ คนๆนั้นเป็นใคร
“กับไอ้ตำแหน่งมือสไนเปอร์อันดับหนึ่ง ทำไมถึงไม่ปลดน๊า ไม่เห็นจะอยากได้เลย”แน่นอน ผมเผลอบ่นออกมาอีกแล้ว แหะๆ ก็เป็นคนคิดยังไงพูดอย่างนั้นนี่นะ
“ฟังดูดีจริงๆนะ ที่นายไม่อยากได้ ทั้งๆที่มีคนมากมายต้องการตำแหน่งนี้แท้ๆ”รองรัฐมนตรีกระทรวงหนุ่มกล่าวเสียงเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางยืดๆเหมือนกับจะโชว์พาว
“นี่ยังดีนะครับ ที่ทางกระทรวงกลาโหมคุยกับทางกรมตำรวจเรื่องของผมแล้ว”เฟตพูดกับหญิงสาวในชุดสูทสีดำ
“อืม รู้สึกว่าทางตำรวจจะไม่เอาเรื่องเท่าไหร่นะ ยกเว้นแต่เรื่องที่น้องพี่ไปพุ่งชนท้ายรถตำรวจเขาเพื่อเปิดทางนั่นล่ะ ที่เขาจะคิดค่าเสียหายมา”เยียนหันมาตอบยิ้มๆ
“ผมไม่เห็นว่าพี่จะต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนี่นา”เฟตถามหญิงสาวที่กำลังเดินนำขึ้นสำนักงานใหญ่ของตัวเองที่สาขาต่างจังหวัด
ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขากลับจากเมืองหลวง สู่ถิ่นฐานอันเป็นที่รักของพวกเขา
“กะอีแค่เตะก้านคอจนสลบ ไอ้หมอนั่นไม่ตายง่ายๆหรอก หน็อย อยากจะโชว์พาวต่อหน้าฉันเป็นไงล่ะ ทำอะไรไม่ดูตัวเอง สมน้ำหน้า”หญิงสาวชุดสูทสีดำผู้บัญชาการเยียนของเฟตกล่าวเสียงแค้นๆ ที่รองรัฐมนตรีหนุ่มจะเข้ามาจัดการกับน้องของเธอ
“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้นครับ ผมหมายถึงที่เอารถของผมขึ้นรถเทเล่อมาต่างหาก”เฟตย้อนถามแล้วหันไปมองรถเก๋งสปอร์ทคูเป้ของเจ้านาย ที่เธอบังคับให้เขาขับมาแทนรถของเขาเอง
“พี่อยากจะกลับถึงบ้านด้วยรถ ไม่ใช่เครื่องบิน แล้วก็นะ น้องชายพี่ขับไอ้รถคันนั้นได้เร็วกว่าเครื่องบิน พี่คงไม่เสี่ยงตายนั่งมาด้วยแน่ๆ”เยียนกล่าวเสียงเรียบ แล้วเดินนำเข้าไปที่ห้องทำงาน ท่ามกลางสายตาที่มองมาของเหล่าเจ้าหน้าที่ ซึ่งดูเหมือนอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
“พี่ก็ว่าเกินไปครับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ผมก็ขับแบบธรรมดานั่นล่ะ”เฟตพยายามกล่าวแก้ตัว แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ เธอจับมือเฟตแล้วจูงเดินไปนั่งที่โซฟาสีแดงสดในห้องตัวเอง
“ต่อจากนี้ไป งานของน้องเฟตจะถูกจำกัดลงมาแล้วนะ น้องเล่นปฏิเสธคำเชิญชวนจากศูนย์บัญชาการตรงๆแบบนั้น”เยียนกล่าวเสียงอ่อนโยนกับเฟต
“ผมไม่ได้ทำงานให้พวกเขา ผมทำงานให้ผู้มีพระคุณแบบพี่ และคุณพ่อของพี่ต่างหาก”เฟตตอบด้วยใบหน้าจริงจังขึงขัง แต่เยียนกลับใช้มือจับใบหน้านั้นเบาๆเหมือนกับไม่อยากให้เฟตทำหน้าแบบนี้สักเท่าไหร่
“อย่าเหมือนพ่อเลยนะ”ว่าจบ หญิงสาวก็พิงหัวไปที่ไหล่ของเฟต ที่สายตาเต็มไปด้วยอดีตที่ปวดร้าวต่างๆมากมาย ที่ไม่อาจพูดออกมาเป็นคำพูดได้
“ครับ บอส”เฟตตอบรับแล้วหลับตาลงเหมือนกลับจะนึกถึงความหลังที่ปวดร้าว
ภาพที่ชายมีอายุถูกยิงต่อหน้าต่อ ตาหญิงสาวคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในห้วงคำนึงนึกคิด จากนั้นก็เป็นหญิงสาวผมดำยาวโผล่มาช่วยหญิงสาวคนนั้นไว้ได้ทัน
แต่ดูเหมือนว่าเฟตจะไม่อยากนึกถึงอดีตเท่าไหร่ เขาส่ายหัวแบบไม่อยากนึกถึง
“นั่นสินะ ตอนนั้นนายก็ทำกับฉันแบบนี้นี่นา ปล่อยให้ฉันได้มีที่พักพิง”หลังจากนิ่งเงียบไปหลายนาที เยียนก็เริ่มกล่าวกับเฟตเสียงหวาน แต่คนที่ถูกพูดด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานกลับนั่งนิ่งเหมือนเดิม
“ผมแค่พยายามจะฉุดพี่ขึ้นให้ลุกได้เร็วขึ้นก็เท่านั้นแหละครับ”
“ว่าแต่ ตอนนั้นนายแต่งหญิงได้สวยมากเลยนะ สวยจนฉันนึกว่าเป็นผู้ว่าจ้างจริงๆเสียอีก”เยียนกล่าวยิ้มๆ แล้วลุกขึ้นยืนต่อหน้าเฟต
“เพราะตอนนั้นผมยังตัวเล็กเพราะความเป็นเด็กอยู่มากกว่ามั้งครับ เลยพอจะใส่ชุดผู้หญิงแบบนั้นได้”เฟตตอบแล้วมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ดูเหมือนวันนี้เขาจะยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ
พอนึกถึงข้าว ท้องก็ร้องบอกทันทีว่าวันนี้ยังไม่ได้รับสารอาหารเลย ทำให้เยียนปรายตามามองด้วยสายตากรุ่มกริ่ม
“นี่ กินฉันก็ได้นะ”ว่าแล้วเยียนก็ทำทีเป็นถอดผ้า แต่เฟตชิ่งลุกหนีแล้วไปกดเปิดระบบล็อกประตูที่โต๊ะทำงานของเยียนเสียก่อน
“ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ แล้วบอสก็อย่าแกล้งผมบ่อนเลย เดี๋ยวผมไม่มาอีกนะ”ว่า จบชายหนุ่มก็ชิ่งหายไปโดยไว ทิ้งให้เยียนถอนหายใจ ไม่ว่าเธอจะทำยังไง เฟตก็ไม่เคยมองเธอในฐานะหญิงสาวสักที เขามักจะมองเธอเป็นผู้มีพระคุณเสมอ
21.00 น.
ชายหนุ่มชุดสูทสีดำเดินเข้าบ้าน ตากอากาศหลังหนึ่งด้วยท่าทางอ่อนแรง หลังจากต้องรับมือกับหญิงสาวที่รวมแล้ว ไม่ต่ำกว่า 10 คน ภายในวันๆเดียว
“เฮ้ย กลับมาแล้วเหรอเฟต”เสียงที่สุดแสนจะคุ้นหูดังขึ้นที่หน้าประตูทางเข้าบ้านหลังใหญ่ เสียงนี้เป็นเสียงที่ดังทักเป็นประจำปกติ ที่ชายหนุ่มคนนี้เข้ามา
เมื่อเฟตชายหนุ่มในชุดสูทได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองทางช้าๆเหมือนกับหุ่นยนต์
“คุณชิออน”ว่าแล้วก็แทบจะวิ่งเข้าไปกอดขาของชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดนอน ถ้าไม่ติดที่หางตาหันไปเห็นชายในชุดสูทอีกคน ซึ่งเป็นลูกน้องยืนอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณมากนะครับ ที่วันนี้มารับหน้าที่แทนตามที่ผมขอ”เฟตหันไปบอกกับชายคนนั้น ชายคนนั้นจึงค้อมหัวแล้วหันไปที่รถตัวเอง ซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆ
“นี่นายให้ หัวหน้าร.ป.ภ.ที่โรงแรมมาเป็นลูกน้องฉันทำไมเนี่ย ต่อให้ไม่มีพวกเขา ฉันก็ไปทำงานได้น่า”ชิออนเอ่ย เขารู้สึกเหมือนเฟตห่วงเขาเหมือนผู้ใหญ่ห่วงเด็ก ถ้าตัวไม่อยู่ มักจะหาใครที่เชื่อใจได้มาดูตนแทนเสมอๆ
“ก็นะ”เฟตไม่รับและไม่ปฏิเสธ เขาเดินเข้าครัวหน้าตาเฉย จากนั้นก็ทำกับข้าวกิน วันทั้งวันเขาใช้กำลังไปเยอะมากจริงๆนะเนี่ย
“สงสัยจะต้องคุยกับแม่เรื่องของหมอนี่ใหม่แล้ว ไม่สบายใจเลยจริงๆที่เห็นกลับมาจากสำนักงานใหญ่ด้วยท่าทางระโหยโรยแรง ใจห่อเหี่ยวแบบนี้”ว่าแล้วชิออนก็แอบไป โทรศัพท์ ทิ้งให้เฟตหันมองด้วยความมึนงง เมื่อกี๊ยังเห็นเจ้านายยืนอยู่ที่หน้าบ้านอยู่เลย ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ เหลือแต่รองเท้าไว้ให้ดูต่างหน้า
“เฟต วันนี้ออนไลน์นะ”ชิออนที่เป็นฝ่ายเดินตามมาส่งเฟตที่ห้องร้องบอก
“หะ! ทำไมล่ะครับ?”แม้มีความตั้งใจว่าจะออนไลน์เองอยู่แล้ว แต่เฟตก็ยังอยากที่จะถาม เพราะสงสัยในคำเชิญชวนนี้
“เพราะฉันมีของขวัญที่นายจะต้องชอบน่ะสิ แล้วเจอกันนะ”ว่าแล้วชิออนก็ชิ่งทิ้งให้เฟตยืนค้างอยู่ที่ประตูห้องตัวเอง
“ออนไลน์ก็ได้”เฟตที่พึ่งจัดการตัวเองเสร็จเอ่ยเสียงเรียบเหมือนเคยแล้วล้มตัวลงนอนพร้อมกับที่สวมหัวของเกมออนไลน์
เฟตนอนคิดอะไรสักพัก จากนั้นดวงตาเขาก็ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ แต่พริบตาเดียว เขาก็ลุกขึ้นนั่ง เมื่อรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง
เฟตลืมตาตื่น ลุกขึ้นยืนมองรอบๆตัวด้วยความมึนงง ทั้งๆที่ตัวจริงๆของเขาพึ่งจะหลับตาไปแท้ๆ แต่พอกระพริบตามาอีกที ก็มาโผล่ที่โลกนี้ได้ซะแล้ว สมกับที่เป็นเกมออนไลน์รูปแบบใหม่จริงๆ
แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรมากกว่านี้ ชายหนุ่มก็พึ่งสังเกตเห็นผมสีขาวของตัวเอง ที่ดูเหมือนจะยาวลงมามากกว่าปกติ
“เอ๋”ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเปิดหน้าต่างระบบ และไล่ดูข้อความของเขา ที่ระบบรายงานไว้ให้
‘หลังจากระบบตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าผู้เล่นเฟตไม่ได้เป็นผู้เล่นเผ่ามารจริงๆ ระบบจึงเปลี่ยนสีผมสีขาวให้กลายเป็นสีดำตามแบบปกติค่ะ’
‘แต่เนื่องจาก ภายในร่างของผู้เล่นเฟต ยังมีร่างอันเดธจริงๆอยู่ ระบบจึงไม่อาจเปลี่ยนได้ทั้งหมดค่ะ ทางเราจึงทำได้แค่เพิ่มความยาวเพื่อให้ดูเหมือนคนปกติค่ะ ขออภัยที่ระบบไม่สามารถกระทำการได้มากกว่านี้ค่ะ’
หลังอ่านระบบล่าสุดจบ ชายหนุ่มก็หันไปมองที่กระจกใบเล็กๆที่อยู่ตรงห้อง หน้าตาของเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง ต่างกับตอนที่จะออฟไลน์ ที่ดวงตาเป็นสีแดง ผมเป็นสีดำ
แต่สิ่งที่ระบบบอกว่าเพิ่มให้ ความยาวก็คือ เพิ่มการงอกของผมสีดำให้มาแทนที่ผมสีขาว ซึ่งตอนนี้ ผมเขายาวกว่าเดิมหนึ่งเท่า แถมดูเหมือนกับคนที่ทำไฮไลน์ผมขาวดำอีกด้วย
“เอาเหอะ ใส่ชุดคลุมต่อไปก็ได้”เฟตบ่นพึมพำ แล้วดึงผ้าคลุมออกมาจากหน้าต่างระบบ จากนั้นก็เอามาคลุมทั้งตัว แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นผมสีขาวของตัวเองยาวเลยออกมาจากชุด ก็มัดรวบเป็นห้างม้าซะเลย
“อืม แค่นี้ไม่เป็นอะไรแล้วสินะ ว่าแต่ มีของอะไรจะให้ผมดูกันนะ ถึงดูรีบร้อนขนาดนั้น”ชายหนุ่มบ่นพึมพำถึงของที่เจ้านายอยากจะให้
“….”เมื่อคิดได้ว่า ถามตัวเองไปผลสุดท้ายก็ไม่รู้ จึงรีบเดินออกมาจากโรงแรมออฟไลน์ ซึ่งเป็นอาคารสูง 3 ชั้นแบบตอนแถวยาว การตกแต่งมีเล็กน้อยประปรายเท่านั้น
ยังไม่ทันที่เท้าของเฟตจะได้ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าออกโรงแรม ที่บรรยากาศเบื้องหน้าก็มีข้อความของระบบ ปรากฏขึ้นมาเสียก่อน
“ได้รับการติดต่องั้นเหรอ”ชายหนุ่มทวนหัวข้อของข้อความเล็กน้อย แล้วกดตอบรับไปทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“สวัสดีครับ คุณชิออนเหรอ”ชายหนุ่มกรอกตามสายไปก่อน
‘ตอนนี้นายอยู่ที่โรงแรมออฟไลน์ใช่เปล่า’เป็นคำถามที่เฟตคิดว่าน่าขำสิ้นดี เขาพึ่งจะออนไลน์เข้ามาก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง
“ครับ ผมอยู่ที่โรงแรมจิ้งจกออฟไลน์”เฟตตั้งฉายาให้โรงแรมนี้ ถ้าจะเรียกว่าจิ้งหรีด ก็จะฟังดูธรรมดาๆเกินไป เนื่องจากโรงแรมนี้ปกติข้างนอกก็ตกแต่งน้อยอยู่แล้ว ข้างในห้องพักกลับตกแต่งได้น้อยเสียยิ่งกว่าข้างนอกจนน่าตกใจ เสื่อผืนหมอนใบยังฟังดูดีกว่าเลย
‘อ้อ พักโรงแรมราคาถูกสินะ อืม ช่างเหอะ นายมาเจอฉันที่นี่แล้วกันนะ’ว่าแล้ว ที่ด้านข้างของเฟตก็มีจดหมายขนาดเล็ก ที่เมมหัวชื่อไว้ว่า ‘แผนที่’ โผล่ขึ้นมา
“ครับ ตามนั้น”เฟตตอบตกลงแล้วเลื่อนแผนที่มาดูทันที นี่กลัวเขาจะลงทางขนาดเลยหรือไงนะเนี่ย
“หืม พึ่งหัวค่ำเองเหรอเนี่ย”เฟตพึมพำเมื่อเห็นว่าฟ้ายังมืดอยู่เลย แถมเวลาที่ระบบประกาศมาก็บอกว่าหัวค่ำด้วย จากนั้นชายหนุ่มก็เดินไปตามทางให้เหมือนกับสิ่งที่แผนที่บอก
เฟตใช้เวลาเดินหาไม่ถึง 30 นาที ก็พบกับร้านที่ชิออนนัดหมายไว้
“เฮ้ย ทำไมนานจัง”ชิออนที่นั่งรอจนไอศกรีมละลายหมดร้องถามอย่างโมโห
“อืม ผมหาที่นี่ไม่เจอน่ะ แถมแผนที่ก็ดูยากอีกด้วย”เฟตตอบคำหลังเสียงเบาแล้วลูบหัวตัวเอง จากนั้นก็แหงะไปมองที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นโรงแรมออฟไลน์ฉายาจิ้งจกของเขานั่นเอง
“ว่าแต่ มีอะไรหรือเปล่าครับ”เฟตรีบหันมากล่าวกับเจ้านายตัวเอง เดี๋ยวจะถูกรื้อฟื้นความหลังเปล่าๆ
“อ้อ เออ ใช่”เหมือน ชิออนพี่งจะนึกได้ว่าจะต้องเอาของให้แทนการปั้นหน้ายักษ์ใส่ ชายหนุ่มผมน้ำตาลยกกล่องปิดผนึกสีขาว แล้วยื่นกล่องปิดผนึกนั้นให้เฟตที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะของเขา
“นี่มัน อะไรครับ”เฟตสงสัยจึงเอียงคอถาม
“เอาเหอะน่า เปิดๆไปเถอะ แล้วนายจะได้มาเป็นดูโอ้เดียวกับฉัน”
“ครับๆ”เห็นถูกตื้อมากๆ เฟตก็เลยเปิดกล่องนั้นขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือก
‘ผู้เล่นได้รับชุดสูท GM งานแฟนซีสีดำ ชุดนี้เป็นชุดที่ไม่มีบวกเพิ่มความสามารถใดๆค่ะ เป็นชุดไม่มีระดับ แต่มีความทนทานระดับ S (มีความทนทานสูงจนไม่สามารถที่จะทำลายได้ง่าย)’
‘ผู้เล่นได้รับชุดอุปกรณ์ทางการทหารจากงานแฟนซีค่ะ ชุดนี้ถูกผลิตขึ้น เพื่อเพิ่มความทะมัดทะแมงในการเก็บอุปกรณ์ แทนการเรียกเปิดช่องเก็บของจากระบบเท่านั้นไม่มีความสามารถอื่นใดค่ะ ระบบความคงทน ระดับ S’
สำหรับคนอื่นๆ ถ้าได้ยินของที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ คงจะโยนทิ้งไปแบบไม่ใยดีแล้ว
“ขอบคุณมากครับ ช่างเป็นเจ้านายที่น่ารักจริงๆ”แต่เฟตซึ่งเป็นชายที่บ้าพลัง เขาย่อมชอบของพวกนี้เป็นธรรมดา
ชิออนเองก็รู้ถึงความเป็นจริงข้อ นี้ของเฟตดี เขาจึงพยายามจะหาสิ่งที่เฟตชอบมาหลอกล่อ เพื่อให้ชายหนุ่มเข้ามาเล่นเกมกับเขาเป็นเพื่อนไง
แต่ดูเหมือนเวลาแห่งความสุขจะหมด ลงเร็วเหลือเกิน เมื่อมีชายหนุ่มที่เฟตค่อนข้างจะคุ้นหน้าคุ้นตาที่เหมือนกับว่าจะพึ่งพบ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนคนหนึ่ง เดินตรงเข้ามาหาเขาพร้อมกับเพื่อนๆอีกหลายสิบคนด้วยจิตใจที่มุ่งร้ายเต็มที่
“สวัสดี ฉันจะมาขอล้างแค้นกับนายหน่อย”เฟตไม่รู้ว่ามาล้างแค้นหรือหาเรื่องใคร จึงหันไปมองที่ชิออน
“อือ ไม่รู้จักเหมือนกัน ใครอ่ะ”
“งั้นเหรอครับ เพื่อนคุณก็ไม่ใช่ ผมก็ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว งั้นช่างมันเถอะ”เมื่อคิดได้เช่นนั้นเฟต ก็นั่งลงกินไอศกรีมที่ชิออนสั่งมาหน้าตาเฉย ทิ้งให้กลุ่มผู้เล่นชายตัวสั่นด้วยความโกรธ นอกจากจะจำตนไม่ได้แล้ว ยังมาเมินกันอีก
“นี่เฟต รู้สึกเหมือนพวกเขาจะมาหานายอ่ะนะ”ชิออนที่นั่งมองเฟตกินไอศกรีมอยู่นานเอ่ยขึ้น
“หืม”เฟต ที่นั่งกินมาได้สักพักแล้ว เหล่ไปมองกลุ่มผู้เล่นชายที่ยังคงยืนมองเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนจะอยากให้เฟตเข้าไปหาเรื่องเต็มประดา
หลังจากคิดอย่างจริงๆจังๆ เฟตก็ตบมือเหมือนจำได้ ทำให้ผู้เล่นหนุ่มที่ถูกเฟตสังหารบนสนามประลองยิ้มขึ้นมาได้ อย่างน้อยตนก็ไม่ถูกลืมโดยสมบูรณ์
แต่กลับกลายเป็นว่า เฟตตบมือเรียกคนมาเสริมไอศกรียมต่อ ทำให้ผู้เล่นชายคนนั้นโกรธจนตัวสั่น ถึงขั้นพลังปะทุออกมาจากตัว เฟตจึงหันไปมอง เพราะจิตสังหารนี้มุ่งตรงมาที่เขาอย่างแน่นอน
“ไม่ทราบว่า เราเคยเจอกันหรือเปล่าครับ”เฟตคิดสักพักก็เอ่ยถาม เขาไม่ชอบให้ใครมาจ้องเวลาทานอะไรเลย มันเขินตายชัก
“เคยสิ ฉันจำไอ้ชุดคลุมหัวนี้ กับไอ้ท่าทางเย็นชาของแกได้”ชายคนนั้นแค่นเสียงใส่ พร้อมกับถลึงตามองอย่างดุร้าย
“ทำไมผมจำคุณไม่เห็นได้เลยล่ะ”เฟตถามกลับไป เขาไม่ได้กวน แต่เขาเคยบอกแล้วว่า ไม่ชอบจำผู้คน
“งั้นเหรอ แต่ดาบนี้มันจำแกโว้ย”เหมือนกับได้ยินเสียงอะไรขาดผึ่ง ชายหนุ่มที่เข้ามาหาเรื่องเฟตกระโดดเข้าหาพร้อมกับดาบสีเงิน ที่เขาพึ่งได้มา
เคร้ง!! เสียงดาบปะทะกับดาบ ทำให้ชายที่เป็นคนพุ่งเข้าหาเฟตต้องล่าถอยออกมา เพราะเพื่อนของเฟตกลับกระโดดมาขวางทางเขาแทนคนที่เขาจะมาแก้แค้น
“นี่ไม่ใช่เรื่องของคนนอก แกถอยไปซะ ฉันกับมันต้องมีเรื่องที่ต้องคุยกันหน่อย”ชายหนุ่มพูดเสียงเย็นใส่ชิออน ที่กำลังลูบไล้ดาบสีดำเหมือนหวงสุดชีวิต
“ฉันคนนอกตรงไหน หมอนี่เป็นคนของฉัน พวกแกนั่นล่ะ ที่ต้องถอยไป อยู่ๆก็มาหาเรื่องเราแบบนี้ อยากจะมีปัญหามากนักหรือไง”ชิออนหันมาเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง
“แต่มันเป็นคนที่เล่นลอบกัดฉัน ฉันไม่อยากมีปัญหากับคนอื่น”ชายนักดาบที่เฟตเคยประลองด้วย เอ่ยพร้อมกับข่มอารมณ์ที่กำลังได้ฟิวส์
“แต่ฉันอยากมีวะ”ชิออนเอ่ยแล้วยิ้มแย้มขึ้นมา เขากำลังอยากจะลองของอยู่พอดีเลย
“เฮ้ย ไอ้หมอนั่นมัน.....”เพื่อนของชายนักดาบคนนี้เอ่ยกับเพื่อนที่ยืนข้างๆ เมื่อเห็นท่าทางกวนโอ๊ยของชิออน
“ไอ้คนที่สังหารพรรคพวกของเราที่นอกเมืองฝั่งเหนือนี่เอง”ชิออนเองก็มีโจทเช่นกัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนกับชายคนนี้ด้วย
“จริงเหรอ งั้นก็ดีสิ พวกแกจะได้แก้แค้นพร้อมกับฉันพอดี”ชายนักดาบหันไปเอ่ยกับเพื่อน
“แต่คนแค่นี้จะพอหรือพี่ ‘มี่’ ไอ้หมอนี่มันเก่งมากเลยนะ”เพื่อนที่อยู่ข้างๆของคนชื่อ ‘มี่’ ถามเสียงหวาดๆ ตอนนั้นพวกเขา 10 กว่าคนยังเอาคนๆนี้ไม่ลงเลย ถ้าในตอนนี้ที่ชิออนมีเพื่อนที่พึ่งล้มพี่ใหญ่ของตนได้แล้ว พวกเขาจะสู้ไหวเหรอ
“ไม่ยากหรอก ถ้าพวกแกใช้สมองและเตรียมตัวดีๆ ส่วนไอ้ชุดคลุมนั่น ให้นักเวทร่ายเวทเกราะอ่อนคุ้มกันให้ฉันก็พอแล้ว”เมื่อเปิดประชุมลับแบบไม่ลับเสร็จ กลุ่มของมี่ก็หันมามองพวกเฟตตาเขม็ง
กลุ่มผู้เล่นที่อยู่รอบด้านต่างไม่อยากมีปัญหา จึงถอยออกไปห่างๆ ทิ้งให้ร้านไอศกรีมแห่งนี้มีเพียงกลุ่มของเฟตกับกลุ่มของมี่
เฟตที่กินไอศกรีมถ้วยในมือเสร็จ กำลังจะยกไอศกรีมถ้วยใหม่ขึ้นมากิน หันมามองกลุ่มของมี่ด้วยสายตานิ่งๆ จากนั้นก็ก้มลงกินไอศกรีมถ้วยใหม่ต่อด้วยความเสียดายของ
ชิออนเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าเรื่องมาถึงนี่แล้ว ทำไมเฟตถึงไม่ยอมขยับ แต่สักพักเขาก็เข้าใจได้โดยพลัน เมื่อเห็นกลุ่มทหารรักษากฎเดินเรียงแถวเข้ามา
กลุ่มทหารรักษากฎกลุ่มนั้นเดิน เข้ามาด้วยท่าทางนิ่งๆ จากนั้นก็เดินมาต่อแถวกับมี่หน้าตาเฉย ทิ้งให้ชิออนเต้นเร้าๆอย่างไม่เข้าใจ ไหนเขาเคยได้ยินจากฟ้าใสว่าเมืองๆนี้มีกฎการต่อสู้ภายในเมืองไง ทำไมกลุ่มทหารกลุ่มนี้ถึงมาเข้ากลุ่มกับโจทของเขาหน้าตาเฉย
“หึหึ นี่แกไม่รู้สินะ ว่าลูกพี่ของฉันเป็นใคร”ผู้เล่นที่ยืนอยู่ข้างๆมี่เอ่ยเย้าเย้ยทันที เมื่อเห็นหน้าตาที่งงเป็นไก่ตาแตกของชิออน
“ลูกพี่มี่ของฉัน เป็นรองกิลด์ดรากอน ที่เป็นกิลด์ ‘ร่วม’ ปกครองเมืองเริ่มต้นแห่งนี้”คนที่อยู่ข้างๆอีกฝั่งหนึ่งของมี่เอ่ยเสริม ทำให้มี่ที่อยู่ตรงกลางยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจในตัวเองเต็มประดา
“หมดเวลาโอ้อวดสรรพคุณบ้าๆบอๆนั่นหรือยัง”เฟตที่โดนพูดกวนเวลากินโพลงออกมา
“อะไรนะ!!”คำพูดของเฟตเหมือนกับเป็นอะไรบางอย่างที่ทิ่มแทงใจ ทำให้กลุ่มของมี่หันมาถามด้วยเสียงอันดัง
“บอกว่า จะสู้ก็สู้ อย่าพูดมาก แค่ยศอะไรจำพวกนั้น ทำร้ายผมไม่ได้หรอกไง ไม่รู้หรือไงเนี่ย ฟายเอ๋ย”เฟตว่าตรงๆ
คำพูดของเฟตทำให้เกิดเสียงฮือฮาจากรอบๆด้านได้ เพราะเป็นครั้งแรกที่มีผู้เล่นหน้าใหม่กล้าพูดมีปัญหากับกิลด์ปกครองเมืองเป็นครั้งแรก
เสียงที่ฮือฮาเข้ามา ทำให้กลุ่มของมี่โกรธจนตัวสั่น จากนั้นก็สั่งเข้าโจมตีแบบไม่สนใจว่าศัตรูจะสู้หรือไม่
“สวมใส่”เฟต เอ่ยกับชุดที่ถืออยู่ในมือ ชุดพวกนี้เป็นชุดที่เขาถอยออกมาจากกล่อง สิ้นเสียงของเฟต ชุดที่เฟตถืออยู่ก็ปรากฏแสงสว่างแล้วเมื่อแสงดับลงไป ก็เปลี่ยนเป็นชุดผู้เล่นเริ่มต้น ที่เฟตใส่ไว้ก่อนหน้า
เมื่อชุดพร้อม เฟตก็ดึงกล่องกระสุนออกมาแล้วยัดใส่ตรงกระเป๋าของเสื้อกั๊กอุปกรณ์ทหารที่ ถืออยู่ในอีกมือ จากนั้นก็ใช้คำสั่งสวมใส่เช่นเดิม ทำให้แสงสว่างปรากฏที่ชุดอุปกรณ์อีกครั้ง จากนั้นก็หายไปในอากาศ
เฟตแตะที่ตัวเบาๆ น้ำหนักของชุดทั้ง 2 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ จากนั้นก็เปิดหน้าต่างระบบออกมาอีกครั้ง แล้วเลื่อนหาสิ่งที่เขาได้มาจากเถ้าแก่ร้านประดิษฐ์
“เฮ้ย”ชิออนหันมาร้องถามหาความพร้อมจากเฟต เมื่อเห็นกลุ่มของมี่โจมตีเข้ามาแล้ว
“หะ อะไรครับ”เฟต เหมือนจะพึ่งรู้ตัวว่าตนมีปัญหาจึงหันมาร้องถามชิออนหน้าตาเฉย ทำให้เพื่อนของเขาถึงกับอยากจะกุมขมับกับนิสัยของเพื่อนตนเอง ที่ไม่มีความตื่นเต้นไปกับสถานการณ์อะไรเลย
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมา คิดปวดหัวกับเพื่อน เมื่อศัตรูนั้นอยากจะสู้ เขาก็จัดให้ ชิออนชักดาบคาตานะสีดำออกมาจากฝัก จากนั้นก็ควงดาบเป็นวงจนปรากฏคลื่นบรรยากาศสีดำที่เบื้องหน้า
“ศาสตราแห่งความมืด แกเป็นผู้เล่นจากเมืองใต้หรือไง”มี่ที่ยืนรอให้นักเวทในกลุ่มเพิ่มม่านพลังจิตให้ถามชิออนเสียงเครียด
“ก็คงใช่มั้ง”ชิออนตอบทีเล่นที่จริงพร้อมกับสะบัดดาบฟันใส่คนที่พึ่งเข้ามาหาเขา
ชายที่พึ่งมาต้องกระโดดหลบเมื่อ รู้สึกถึงอันตรายจากดาบสีดำสนิทเล่มนี้ แล้วดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อตัวเองได้ถูกเวลา เพราะดาบของเขาที่หันไปหาชิออนถูกดาบสีดำตัดขาดจนเรียบเหมือนกับถูกตัดด้วย เลเซอร์
“แหม รอดตายไปหวุดหวิดเลยแหะ”ชิออนหัวเราะแล้วพุ่งเข้าหาผู้เล่นคนอื่นที่กำลังพุ่งเข้ามา
ชิออนออกดาบทันทีที่เห็นระยะทำ กำไร แต่ดูเหมือนผู้เล่นกลุ่มนี้จะฝึกมาดี ทันที่ชิออนฟันมา นักดาบคนหนึ่งที่ถือโล่ขนาดใหญ่ก็กระโดดมาสมทบด้วยการใช้โล่ที่มีแสงอ่อน ป้องกัน จนดาบของชิออนต้องเสียสภาวะจู่โจมไป
“เก่งใช้ได้เลยนี่”ชิ ออนชม เขาไม่นึกว่าศัตรูจะมีวิธีสลับตัวเข้ามาช่วยกันด้วย แต่สักพักเขาก็ต้องหัวเราะ เมื่อเห็นนักดาบที่ใช้โล่คนนั้นล้มไปทับเพื่อนที่ตนมาช่วยป้องกัน กลุ่มของผู้เล่นกลุ่มนี้ยังประสานกันได้ไม่ดีพอ ทำให้การร่วมมือกันแบบนี้ก่อให้เกิดความผิดพลาดได้
ชิออนเมื่อเห็นทางก็รีบจ้วงโอกาส ด้วยการบุกเข้าหาแล้วกะจะสังหารศัตรูให้ได้ แต่กลุ่มศัตรูมีเยอะกว่า พวกนั้นเลยกระโดดเข้ามาป้องกันเพื่อนที่เสียหลักทันเสมอ
ขณะที่ชิออนกำลังบุกโจมตีลูกน้องของมี่ ผู้เป็นลูกพี่ก็มุ่งเป้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังเลื่อนมือกลางอากาศเหมือนหาของอยู่
มี่เหวี่ยงดาบเข้าหาเฟตทันทีที่ เข้ามาถึงในระยะดาบ แต่เฟตที่มองเหตุการณ์พร้อมกับหาอาวุธไปด้วยนั้น กลับถีบเก้าอี้นั่งเข้าใส่ เป็นเหตุให้มี่สะดุดเก้าอี้จนล้มหัวคะมำ เมื่อเฟตหาอาวุธเก่าเจอก็ถือโอกาสเอาออกมาจ่อยิงใส่มี่ที่ล้มอยู่กับพื้นที่ ด้านหน้าตนทันที
ปัง! กระสุนของเฟตแฉลบข้างไป เมื่อเจอโล่พลังจิตอ่อนๆที่มี่ไปรับการคุ้มกันจากเพื่อนนักเวทมา
ในขณะที่เฟตกำลังขมวดคิ้วมุ่น เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตราย จึงกระโดดหลบไปทั้งๆที่ตนกำลังได้เปรียบ เมื่อเฟตกระโดดหลบไปแล้ว ก็พบว่านักเวทกับนักธนูของศัตรูพึ่งโจมตีผ่านจุดที่เขาพึ่งยืนอยู่เมื่อสัก ครู่นี้
“เยี่ยมมาก”มี่ร้องชมลูกน้องแล้วพลิกตัวขึ้นมา พร้อมกับวิ่งเข้าหาเฟตพร้อมกับดาบของตนเองที่เรืองแสงอ่อน
ทันทีที่เข้ามาในระยะดาบ มี่ก็ใช้สกิลฟาดฟันใส่เฟตทันที ดาบที่เรืองรองของมี่พุ่งเข้าหาเฟตตามสคลิปที่ได้จดทะเบียนสกิลอาวุธไว้ ดาบฟาดฟันนับสิบที่ฟันเข้าหาเฟตต่างพลาดเป้าตลอด เพราะเฟตเคยเห็นมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงไม่พลาดง่ายๆเป็นครั้งที่ 2
แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่การต่อสู้แบบดวลเดี่ยว มี่พาตีนมาเป็นกลุ่ม เมื่อเสร็จสิ้นสกิลดาบของมี่ เฟตก็ต้องเจอกับห่าธนูต่อ พอสกิลห่าธนูหมดฤทธิ์ไป ชายหนุ่มก็ต้องกระโดดหลบสกิลของนักเวทลงใต้โต๊ะเป็นพัลวัน
มี่เห็นคนที่ล้มตัวเองได้หลบหนีลงใต้โต๊ะเป็นพัลวันก็หัวเราะลั่นอย่างได้ใจ
คลิ๊ก! เสียงเหมือนกับมีอะไรดีด ทำให้มี่ต้องชะงักการหัวเราะ แล้วหันไปมองที่ต้นเสียงเบาๆ
เฟตที่พึ่งมุดออกมาจากใต้โต๊ะ ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วยกของในมืออีกข้างกับปืนลูกโม่เล็งมาทางมี่
“หึ สรรหาของมาใช้จริงๆนะ”มี่พยายามข่มเสียงพูดทั้งๆที่อยากจะหัวเราะ เพราะสิ่งที่อยู่ในมือของเฟตเป็นอาวุธที่ดูคล้ายกับปืนลูกโม่ที่เฟตเคยใช้ เพียงแต่ลำกล้องจะใหญ่กว่า ยาวกว่า แต่ไม่มีโม่เท่านั้น หรือตามที่เขารู้จักก็คือลูกซองสั้นดีๆนี่เอง
เฟตไม่สนใจเสียงเย้ยหยัน เขาสลัดล็อกที่หัวของมัน ทำให้ส่วนลำกล้องของลำปืนหักพ้นจากฐานสับ แล้วเฟตก็ดูความพร้อมของปืน เมื่อเห็นว่าข้างในว่างเปล่าก็ใช้มือข้างที่ถือลูกโม่ล้วงไปที่เสื้อกั๊ก ซึ่งอยู่ในผ้าคลุม แล้วดึงลูกของปืนกระบอกนี้ออกมาหนึ่งนัด จากนั้นก็ยัดใส่บ่องปืนด้วยความรวดเร็วและสะบัดลำกล้องเข้าที่เตรียมพร้อมไป
มี่มองความเร็วของการใส่กระสุน ของเฟตอย่างอึ้งๆ ในตอนแรกที่เขาเคยสู้กับเฟตก็แปลกใจที่เห็นเฟตเปลี่ยนกระสุนลูกโม่ได้เร็ว แล้ว แต่เมื่อมาเห็นเฟตใส่กระสุนของลูกซองได้เร็วอีก เขาก็มั่นใจได้ว่า ชีวิตจริงๆของเฟตต้องเกี่ยวข้องกับปืนอย่างแน่นอน
ปุง! เสียงการดีดของปืนที่อยู่ตรงหน้ามี่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มต้องเลิกคิดถึงโลกแห่งความจริงของศัตรู แล้วหันมามองศัตรูจริงๆที่อยู่ตรงหน้า เพราะเขารู้สึกว่าเสียงเมื่อสักครู่เกิดขึ้นพอดีกับที่เฟตกดไกปืน
วี๊ด! เสียงอะไรบางอย่างแหวกอากาศเบาๆ จากนั้นมี่ก็เห็นอะไรบางอย่างพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนของเฟตด้วยความเร็ว สูง ทันทีที่ของสิ่งนั้นเข้ากระทบที่โล่พลังจิตด้านหน้าของมี่ ก็เกิดเสียงระเบิดพร้อมกับมี่ที่ถูกแรงระเบิดนั้นอัดจนกระเด็นไปตามความแรง แล้วกระแทกตัวเข้ากับเคาน์เตอร์ร้านจนพังไปทั้งแถบ
“หืม”ชิ ออนที่ได้ยินเสียงระเบิดหันขวับมามองที่เพื่อนตาค้าง แรงระเบิดเมื่อสักครู่นี้ เขายังรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่นหลังอยู่เลย แต่เมื่อเขาหันไปมองมี่ก็ต้องแปลกใจว่าชายคนนี้โดนอะไร เพราะร่างกายเต็มไปด้วยรอยไหม้ และที่สำคัญแขนข้างที่เคยถือดาบยังขาดลงมาอีก
รอบๆด้านของร้านต่างเกิดความโกลา หน คนที่ไม่ได้ดูการต่อสู้ของเฟตกับมี่ต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงหันไปถาม กันเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนตลาดสด ส่วนคนที่เห็นการโจมตีเมื่อกี๊ก็พูดอะไรไม่ออก แถมยังต้องขยี้ตาดูแล้วดูอีกเหมือนกับคิดว่าตนเองตาฝาดไป
เฟตเดินเข้าไปหามี่อย่างช้าๆ เขากะจะเข้าไปดูอาการ แต่ติดที่ตนถูกนักธนูยิงสกัดซะก่อน จึงต้องหันไปใช้ลูกโม่ยิงโต้ตอบ ส่วนปืนอีกอันก็ต้องเก็บลงกระเป๋ามิติของเสื้อกั๊กไป เพราะอยากให้มันเป็นความลับต่อไป
ในขณะที่สถานการณ์กำลังเข้มข้น พระเอกกำลังต่อสู้กับผู้ร้าย ทางเดินที่มีเกมเมอร์มุ่งขวางอยู่ ก็ถูกทหารรักษากฎ 2 คนแหวกเข้ามา แถมยังประกาศอะไรบางอย่าง จนผู้เล่นที่อยู่แถวนั้นกระจายหายไปหมดอีกด้วย
เฟตเห็นผู้คุมกฎหนึ่งใน 2 คนก็ถึงกับสะดุ้ง เพราะคนๆนั้นเป็นคนที่เคยคาดโทษเขาไว้ตอนที่เคยทำผิดในข้อหาอนาจารนั่นเอง
“หยุดมือแล้วเก็บอาวุธซะ”ชายหนุ่มคนนั้นพูดเสียงเรียบกับกลุ่มของมี่ ที่พึ่งมาลากลูกพี่ตัวเองไปดูอาการ เพราะเท่าที่ดูอาการของมี่ถือว่าหนักเหมือนกัน
แต่ 1 ใน 2 ของคนผู้นี้กลับแสดงท่าทีตื่นตะลึงเมื่อเห็นอาการของมี่ ก่อนที่เขาจะเข้าไปดูอาการของมี่ ชายคนนั้นก็หันมามองเฟตอย่างกินเลือดกินเนื้อ แถมยังมีความมุ่งร้ายอย่างเห็นได้ชัด แต่ดูเหมือนว่าเขาคนนี้จะสนใจอาการของมี่มากกว่าจึงเลิกล้มความต้องการที่จะ ‘ฆ่า’ เฟต แล้วไปดูอาการของมี่ที่กำลังกระอักเลือดอยู่
“เราขอจับกุมคุณ 2 คน ในข้อหาก่อความวุ่นวายครับ”ชายหนุ่มที่เคยจับเฟต เอ่ยเสียงเรียบแล้วเดินมาใกล้เฟตด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่บรรยากาศรอบตัวของคนผู้นี้กลับไม่ธรรมดา เพราะชิออนถูกแรงกดดันนี้กดทับจนเผลอก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ
แต่เฟตที่เคยถูกแรงกดดันของคาร์กับฮาเดสมาแล้ว ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวหรือเป็นอะไรเลย แถมยังย้อนถามกลับไปได้อีก
“เพราะเราป้องกันตัวเหรอไง”
“ไม่ใช่ครับ เพราะคุณทำให้ร้านนี้เสียหาย”ชายหนุ่มที่ปล่อยออร่าออกมากดดัน ตอบแล้วขมวดคิ้ว หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่า เฟตมีเลเวลแค่ 13 แต่เขากลับไม่กลัวตนที่มีเลเวลถึง 30 เลย ปกติผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำกว่ากันมาก จะถูกแรงกดดันออร่าของผู้ที่แข็งแกร่งกว่ากดทับจนต้องมีอาการหวาดกลัวเล็กๆ น้อยๆแล้วแท้ๆ
“งั้นก็ไปจัดการกับคนกลุ่มนั้นด้วยสิ พวกเขาเริ่มก่อน”เฟตชี้นิ้วไปทางมี่ ที่กำลังได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนจากนักบวชคนหนึ่ง ที่ถูกดึงตัวมาจากเกมเมอร์มุงที่ยืนอยู่ห่างๆ
“เราต้องจัดการคนจากกิลด์ดรากอนแน่ครับ แต่ตอนนี้ผมขอให้พวกคุณวางอาวุธ แล้วตามผมไปแต่โดยดีเถอะ”ชาย คนนี้พูดเสียงเรียบเหมือนเดิมบ่งบอกว่าเขาเอาจริงกับทุกคำที่เขาพูด เมื่อเฟตอ่านท่าทางเช่นนี้ได้ ก็เก็บอาวุธเข้าไปในช่องเก็บอุปกรณ์ของเสื้อกั๊ก จากนั้นก็ยื่นมือเหมือนกับจะให้ควบคุมตัว
“ทำอะไรครับ”ชายคนนี้ถามอย่างสงสัย กับมือที่ยื่นมาของเฟต
“อ้าว จะจับผมไม่ใช่เหรอ ก็ใส่กุญแจมือสิ”เฟตเองก็ถามอย่างไม่เข้าใจ ก็ไหนบอกว่าจะจับกุมไง
ชายหนุ่มที่เป็นผู้ควบคุมกฎถึงกับอึ้งกับความคิดของชายคนนี้ แต่สักพักก็หลุดมาดส่ายหัวออกมา
“เฮ้อ เป็นคนที่ตลกอย่างที่คุณเทียร่าบอกจริงๆนะครับ”
ปราสาทแห่งเมืองเริ่มต้น
เฟตและชิออนที่ถูกควบคุมตัวมาที่ปราสาทนี้ ถูกสั่งให้นั่งรอที่ห้องๆหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องรับประทานอาหาร
หลังจากรอนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่ประตูทางเข้าก็มีชายดูมีอายุกับคนที่ควบคุมตัวพวกเขาเข้ามาที่นี่ เดินเข้ามา
เฟตกับชิออนแม้จะไม่เคยเห็นชายวัยกลางคนคนนี้ แต่ก็รู้ได้ด้วยการสังเกต ว่าชายคนนี้เป็นผู้บัญชาการของคนข้างๆนั้นแน่นอน
“สวัสดี เหล่าผู้กล้าจากต่างโลก”เป็นคำทักทายที่ฟังดูดี แต่เฟตกลับรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังเป็นมนุษย์ต่างดาว
“ผมทราบเรื่องราวของคุณจากผู้นำกิลด์แห่งเมืองเธอเรียมพันธมิตรแห่งเราดี”ชายวัยกลางคนหันมาพูดกับเฟตเป็นคนแรก
“แต่ผมไม่ทราบเรื่องราวของคุณสักนิด แล้วผู้นำจากกิลด์แห่งเมืองอะไรนั่นเขาเป็นใครผมก็ไม่รู้จัก”เฟตตอบสวนกลับไป ทำให้ชายวัยกลางคนผู้นี้ถึงกับอึ้ง จากนั้นก็หันไปมองคนข้างตัวที่ทำหน้าเบื่อโลก
“ท่านผู้นี้คือราชาที่ปกครองเมืองเริ่มต้นแห่งนี้ ส่วนผู้ที่เป็นผู้นำแห่งกิลด์ปกครองเมืองเธอเรียม ก็เพื่อนของคุณ คุณเทียร่าไง”ชายที่ทำหน้าเบื่อโลกถอน หายใจแล้วอธิบาย ชิออนที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วทำหน้าเฉยๆ ต่างกับเฟตที่เกาหัว นี่เขาพึ่งรู้นะเนี่ยว่าเทียร่าเก่งถึงขนาดเป็นผู้นำใครได้ด้วย
“อืม ทั้งสวยทั้งเป็นอัจฉริยะกระบี่แบบนั้น ก็ไม่แปลกล่ะมั้ง”เฟตพึมพำพร้อมกับทำสายตาชื่นชม
แม้แต่ชิออนที่อยู่ด้วยกันกับเฟต มานานก็ส่ายหัวให้กับสมองของเพื่อน ที่ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องทัศนะความคิด ความจำ กับอะไรบางอย่างที่แปลกๆในตัวของเฟต
“เอาเถอะครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”ชายวัยกลางคนรีบเกริ่นเรื่อง ตามด้วยผู้รักษากฎที่ชิออนชักจะเบื่อหน้า
“ทางราชาของเรา ได้ข่าวมาจากผู้เล่นท่านอื่นๆว่า คุณเป็นผู้เล่นเผ่ามาร แต่ผมได้ข่าวจากคุณเทียร่า ว่าคุณไม่ใช่ ผมจึงส่งทหารของเรามาเชิญตัวคุณมาหาเรา เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่า เหตุการณ์จะไม่เวิร์คสักเท่าไหร่สินะครับ”
“เอ่อ คุณชื่ออะไรน่ะ ผมขี้เกียจตั้งฉายาให้คุณในใจ”เฟตถามกลับทันทีที่คำ อธิบายของชายคนนี้จบ ทำให้ชายหนุ่มที่ถูกถามถึงกับนิ่งเงียบไป จากนั้นจึงเอ่ยออกมาน้ำเสียงเย็นชาคล้ายกับไม่พอใจที่ตัวเองถูกขัดจังหวะ
“ผมชื่อศรครับ ชื่อเต็มๆศรสายฟ้าหลงทิศ เป็นหัวหน้ากิลด์จัซติส ซึ่งเป็นกิลด์ 1 ใน 2 ที่ปกครองเมืองเริ่มต้นแห่งนี้ กิลด์ของผมมีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยภายในเมือง ส่วนอีกกิลด์รับหน้าที่ปกป้องเมือง”
“อ้อครับ เชิญอธิบายเรื่องของเราต่อได้เลย”ชิออนที่ตะปบไหล่ของเฟตเป็นเชิงให้เงียบรีบพูดกับศรสายฟ้ายิ้มๆ ทำไมถึงเห็นนรกอยู่รางๆนะ ถ้าปล่อยให้เฟตพูดต่อไปแบบนี้
.เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาอุดรอยรั่วของความโกรธ ศรสายฟ้าหลงทิศยิ้มบางๆขึ้นมาเล็กน้อยแล้วอธิบายต่อ
“ในตอนนี้ เมื่อพวกคุณมาแล้ว ผมอยากจะเริ่มสอบสวนแบบจริงๆจังๆหน่อยได้มั้ยครับ โดยมีท่านราชาอยู่ช่วยเป็นพยาน”
“ได้ครับ เอาอะไร เอาไปเลย จะยกเคาร์อะไรก็ยกไปเลย เอ๊ยไม่ใช่ จะทำอะไรก็แล้วแต่ครับ”ชิออนรีบเอ่ยออกมา ทำให้เฟตต้องหันไปมองเจ้านายตัวเองเล็กน้อย
เมื่อได้รับคำอนุญาตแบบเป็นทางการ ศรสายฟ้าหลงทิศก็ให้ลูกน้องเข้ามาอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นหญิง อีกคนเป็นชาย
หญิงสาวที่พึ่งเข้ามาหลับตา เหมือนกับจะทำสมาธิ แต่พวกเฟตยังไม่ทันจะรู้ว่าเธอจะเข้าฌานทำไม ข้างๆตัวของหญิงสาวคนนั้นก็มีสุนัขตัวใหญ่สีดำปรากฏขึ้นมาจากความมืด หมาตัวนั้นสูดกลิ่นในอากาศเหมือนพบเจออะไร จากนั้นก็กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ตรงมาที่เฟตซึ่งนั่งนิ่งดูหมาตัวนี้อยู่
“อย่ากัดนะครับ เดี๋ยวผมตบ”เฟตเอ่ยออกมา เขาเป็นคนที่ทั้งไม่กลัวหมาและไม่ชอบในเวลาเดียวกัน เลี้ยงก็เลี้ยงได้ แต่ถ้ากัดก็มีตบ
“อุ๊บ ฮ่าฮ่าฮ่า”ชิ ออนขำเมื่อเห็นหน้าตาที่บิดเบี้ยวของคนที่อยู่ในห้อง เขารู้จักนิสัยของเฟตดีจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่คนพวกนี้นั้นไม่รู้ จึงทำหน้าแบบนี้ยังไงล่ะ
“หมาตัวนี้เป็นหมาจากเผ่ามาร ที่เพื่อนของผมจับมาเป็นอสูรติดตามได้ มันมีจมูกที่รับรู้ถึงกลิ่นไอมารจากตัวของผู้เล่นได้ครับ ไม่ต้องเป็นกังวลว่ามันจะกัด”ชายหนุ่มที่เข้ามาพร้อมกับหญิงสาวบอกออกมา เขาพยายามที่จะไม่หัวเราะตามชิออน เล่นเกมนี้มาตั้งนาน เขาพึ่งจะเคยเห็นคนขู่หมาก็คราวนี้ล่ะ
หมาตัวใหญ่สูดกลิ่นจากเฟตสักพัก ก็หันไปมองชิออนต่อ มันรู้สึกถึงไอพลังแห่งความมืด จึงดมอาวุธของชิออนด้วยท่าทางจดจ่อๆ จากนั้นก็วิ่งเยาะๆไปนั่งหมอบที่ข้างหญิงสาวคนนั้น แต่หันหน้าไปทางชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ
“พวกเขาไม่ได้อยู่เผ่ามารครับ ยังเป็นมนุษย์อยู่ เพียงแต่พวกเขามีพลังสายมารเฉยๆ”ชายหนุ่มคนนั้นหันไปอธิบายให้ราชากับศรสายฟ้าหลงทิศหัวหน้ากิลด์ฟัง
2 ผู้บริหารของเมืองเริ่มต้นหันมามองเฟตกับชิออนนิ่ง สักพักราชาก็เปิดปากถาม
“แม้เราจะไม่รู้ว่าท่านทั้ง 2 มีพลังสายมารได้อย่างไร แต่เรามีภารกิจที่อาจจะต้องรบกวนใช้พลังของพวกท่าน เพราะเป็นครั้งแรกที่เราจะโต้กลับพวกนั้นบ้าง”
“ตกลง”แน่นอน เฟตเตรียมตัวจะปฏิเสธ แต่ติดที่ชิออนชิงตอบก่อน เขาอยากจะทำภารกิจที่ได้จาก NPC ถ้าเขาจำไม่ผิด ฟ้าใสอธิบายไว้ว่า เป็นการยากมากที่ NPC จะมอบภารกิจให้ตรงๆ
ภารกิจจาก NPC จะเป็นภารกิจที่มีผลต่อการเล่นเกมของผู้เล่น จนเรียกได้เลยว่าเป็นทางเดินชีวิต ภารกิจของเอไอพวกนี้จะต่างจากที่รับจาก GM NPC ที่ให้เฉพาะภารกิจหาของแลกกับเงินทองเท่านั้น แล้วยิ่ง NPC ที่ให้ภารกิจเรามีตำแหน่งสูงมากเท่าไหร่ ค่าตอบแทนก็จะสูงขึ้นไปมากเท่านั้น
แต่ชิออนไม่รู้เลยว่า ยิ่งค่าตอบแทนมาก ภารกิจก็จะยากยิ่งขึ้นไป อาจจะยากเท่ากับที่เฟตเคยได้รับจาก หัวหน้าเอลฟ์แห่งหมู่บ้านเอลฟ์เหนือก็ได้
ความคิดเห็น