ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #80 : ตอนที่ 80 ข้อเสนอของฮีเฟสตัส และการเป่าหู (ทบทวน)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.27K
      34
      11 ก.ค. 58

    เกาะ เทพผู้สร้างเป็นแผ่นดินที่ฮีเฟสตัสสร้างขึ้นมาเอง มันตัดขาดจากโลกภายนอก และมีความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ หรือแม่น้ำลำคลองที่ใสสะอาด ที่นี่ล้วนแต่มีไว้หมด เพราะต้องการให้มันเงียบสงบตามชื่อของัมน เทพผู้สร้างจึงสร้างของพวกนี้ขึ้นมาจากความสามารถของตัวเอง

    แต่ ถึงจะสร้างขึ้นมาเอง ผู้เล่นก็ยังรู้อยู่ดี จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนมาบุกรุก และรุกรานเพื่อต้องการดินแดนปกครอง ทว่า เกาะแห่งนี้ไม่ได้มีเทพผู้สร้างแค่ตนเดียว เขาผู้นี้ยังมีผู้ช่วยอยู่ และผู้ช่วยที่ว่า ก็คืออสูรระดับสูง ที่มีความสำคัญและหายาก พอๆกับมังกร นั่นคือยักษ์ตาเดียวไซครอป

    ซึ่งอสูรที่หายากตนนั้น ตอนนี้ก็มาเดินนำทางกลุ่มของเฟตอยู่ตอนนี้ยังไงล่ะ

    ตึง!! เสียงนี้เกิดขึ้นจากแรงลงเท้าของอสูรตัวใหญ่ ที่กำลังใช้มือแหวกกิ่งไม้ตามรายทาง โดยที่ตัวมันก็หันกลับมามองกลุ่มของเฟตเป็นระยะๆ

    ถ้าไม่มีการ์ดเชิญนี่ เขาจะสังหารพวกเราทิ้งทันทีค่ะเทพสาวอธิบาย ถ้าผู้เล่นบุกรุกมาเอง พวกยักษ์ตาเดียวนี่ก็จะไล่สังหารให้ออกไปจากเกาะทันที เป็นระบบป้องกันที่ทางฮีเฟสตัสต้องการ

    หืมเฟตรับ คำขณะเดินดูป่ารอบๆตัวไปด้วย บรรยากาศที่นี่เงียบสงบจริงๆ แถมอสูรประจำเกาะแห่งนี้ก็น่ารักมากด้วย ไม่รู้ว่าพวกมันมาได้ยังไง แต่เขาชอบแหะ

    ฮีเฟสตัสต้องการตัดขาดโลกภายนอก จึงลงมาสร้างถิ่นอาศัยที่นี่อาธีน่ายังคงอธิบายให้ฟังต่อ เพื่อให้เจ้านายตัวเองได้เข้าใจโลกแห่งเทพมากขึ้น แต่ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่เจ้านายของเธอเป็นประเภทไม่สนโลก จึงไม่ได้ฟังอะไรสักนิด

    กลุ่มของเฟตเดินตามหลังยักษ์ไซครอปมาเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมง พวกเขาก็ได้มาพบกับปราสาทขนาดใหญ่กลางป่า โดยที่รอบๆตัวปราสาท มีซากเหล็กที่พังแล้วเต็มไปหมด แต่ทางเชื่อมต่อไปยังปราสาทกลับไม่มี เนื่องจากปราสาทแห่งนั้นอยู่กลางเขาที่รอบด้านมีแต่เหวลึก

    ยักษ์ ตาเดียวปรายตามามองกลุ่มแขกอีกครั้ง ก่อนจะกู่ร้องออกมาสุดเสียง ส่งผลให้มีเสียงตอบกลับมาจากด้านใน จากนั้น ฐานของปราสาทที่เป็นเหล็กก็ยื่นออกมา แล้วยืดมาชนกับพื้นดินที่พวกเฟตยืนอยู่

    ตามข้ามาไซครอปหันมาบอกอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำไปตามทางที่สร้างขึ้นจากแผ่นเหล็ก

     

    ยินดีต้อนรับ ผู้เล่นที่ฆ่าแอรีส และสร้างความอับอายให้แก่มันได้เสียงทักทายดังแว่วๆมา ตอนที่พวกเฟตพ้นสะพานเหล็กเข้ามาในตัวปราสาทพอดี จากนั้นสะพานพิเศษ ก็ถูกเรียกกลับมาเก็บไว้ที่เดิม

    อืมเฟตตอบรับคำเรียบๆ ขณะหันไปมองดูยักษ์ไซครอปที่คุกเข่าก้มหน้ามองพื้น สภาพแบบนี้ไม่ต้องถาม ผู้เป็นนายของที่นี่จะปรากฏตัวแล้วแหงๆ

    ทำไมซื้อหวยไม่ถูกว้าชายหนุ่มพึมพำ หลังจากสิ่งที่ตนคิดเป็นจริง ชายสูงวัยในสภาพมอซอปรากฏตัวออกมาจากอากาศเบื้องหน้า

    ข้ารู้ว่าเจ้ารีบ งั้นขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันบุรุษที่ปรากฏตัวขึ้นมากล่าวทันที โดยไม่คิดจะทักทายอาธีน่าเลย ซึ่งเทพสาวก็ไม่ได้ทักทายกลับ เธอแค่ยิ้มบางๆให้ตามสไตล์ปกติ

    ทว่า เฟตกลับยกมือห้ามบอกไม่ให้พูด แล้วตนเองจะมองหน้าเทพตรงหน้า กับเทพอสูรของตนเองที่ข้างตัว ดูเหมือนอาธีน่าจะรู้ว่าเฟตต้องการอะไร จึงเดินล้ำหน้ามา พร้อมกับที่ฮีเฟสตัสพยักหน้าเหมือนเข้าใจแล้วว่าชายคนนี้ต้องการจะคุยอะไร

    ถ้าพูดถึงเหตุการณ์นั้น ข้าไม่ดีเอง ต้องขอโทษด้วยเทพผู้สร้างกล่าวโดยสายตามองไปทางเฟต เป็นเชิงถามว่าพอใจหรือยัง หลังเทพสาวพยักหน้าไม่เอาความ

    ก็แค่นั้นแหละ ไปครับ เรากลับกันเถอะหลังเสร็จธุระที่ต้องการ แขกที่ได้รับการ์ดเชิญมาก็ขอตัวกลับทันที

    ฮีเฟสตัสเอ๋อไปโดยพลัน ส่งผลให้อสูรเฝ้าเกาะออกตัวนำ พร้อมกับเรียกอาวุธออกมาถือไว้ ถ้าเฟตออกไปโดยไม่บอกลา ได้คุยกันยาวแน่

    อ้า แบบนี้ซิ ชอบ หึหึแต่เฟตกลับหัวเราะอย่างชอบใจ พร้อมกับอาวุธที่สร้างจากพลังปรากฏตัวขึ้นมา

    เอ่อ เดี๋ยวๆ ข้ายังมีเรื่องอยากจะคุยอีกฮีเฟสตัสรีบกล่าวพร้อมกับยกมือให้ยักษ์ตาเดียววางอาวุธลง ซึ่งมันก็เชื่อ พร้อมกับถอยไป เหลือไว้แต่เฟตที่เรียกพลังออกมาเก้อ

    มีอะไรอีกล่ะชาย หนุ่มปรายตามาถาม ในขณะที่กลุ่มอสูรได้แต่ยืนมองตาปริบๆ เจ้านายพวกเธอเป็นประเภทไม่สนโลก ส่วนไอ้ที่มานี่ แค่ต้องการเคลียร์ปัญหาคาใจเฉยๆ เสร็จแล้วก็จะไป ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆ

    ข้าอยากจะคุยเรื่องของแอรีสน่ะเทพ ผู้สร้างกล่าวก่อนจะผายมือเชิญให้นั่ง แต่ชายหนุ่มที่มีปัญหาอยู่เยอะกลับทำเมินไม่สนใจ จนอาธีน่าต้องส่งสัญญาณให้ฮีเฟสตัสเข้าเรื่องได้เลย

    เจ้าเสียอาวุธไปกับการต่อสู้ครั้งล่าสุดใช่มั้ยล่ะ ข้าคิดจะมอบอาวุธใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้กับเจ้าสิ่งที่เทพผู้สร้างกล่าว ส่งผลให้เฟตต้องปรายตามามอง แล้วถามแบบนิ่มๆ

    นายอยู่ฝ่ายเทพไม่ใช่เหรอ แม้ตอนนี้จะตัดขาดไปแล้วก็ตาม

    เพราะมันเป็นชู้กับเมียข้าน่ะซิฮีเฟสตัสตอบตามตรง สายตาจริงจัง ไม่แฝงแววเจ้าเล่ห์ไว้สักนิด

    อืม เหตุผลเข้าท่าเฟตพยักหน้าเห็นด้วย ฆ่าน่ะฆ่าได้ แต่หยามกันเรื่องเมียเนี่ย เอาปืนมายิงกันเลยดีกว่า

    งั้นเจ้าจะให้ข้าช่วยสนับสนุนได้หรือยังเทพผู้สร้างเข้าเรื่อง

    เขาไม่ได้ทำให้ฟรีๆหรอกค่ะ มันแลกกับที่ท่านต้องสังหารแอรีสให้ได้เลยนะอาธีน่าเริ่มเป่าหูของเจ้านาย ที่กำลังจะปฏิเสธข้อเสนอ เขาชอบทำอะไรคนเดียว ไม่ต้องการคนช่วยหรอก

    มีข้อแลกเปลี่ยนซินะเมื่อมีเหตุผลให้มาอ้างกับหลักของตัวเอง เฟตก็เอนเอียงตามคำของเทพสาว

    ใช่ค่ะ แถมท่านเฟตในเวลานี้ยังไม่มีอาวุธที่แข็งแกร่งพอจะต่อต้านเขาด้วยนะคะจาเนียเอาบ้าง ตอนพวกเธอเห็นซากอาวุธ ต่างพากันคิดว่า คงไม่ดีแน่ถ้าให้เฟตไปสู้กับแอรีสเป็นครั้งที่ 2 ขนาดอาวุธยังเป็นขนาดนั้น คนที่ต้องมีร่างหลายชั้นแบบเฟตจะเอาชีวิตรอดในขณะที่ไร้อาวุธที่ทนทานได้ เหรอ

    อีกอย่าง นายจะเอาอะไรมารองรับพลังของนายเวลาเปลี่ยนร่างมังกรแห่งความมืดกระแซะเข้ามากล่าว

    พลังจะสูญมากกว่าปกติ แล้วเจ้านายจะเหนื่อยง่าย สู้ได้น้อยนะคะจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์แทรกเสริมเข้ามา หลักเหตุผลในหัวของชายหนุ่มเริ่มพังทลายช้าๆ

    ถ้านายใช้อาวุธที่ตรงหลักจริงๆ ยังไงก็ง่ายกว่าไม่ใช่เหรอแม้เมดูซ่าจะไม่ค่อยมีบทอะไร แต่เธอก็พอรู้วิธีการต่อสู้ของชายคนนี้

    ถ้ามีการป้องกันอย่างน้อยก็ดีกว่าเอาตัวเปล่าๆ กับพลังหลุนๆ เข้าสู้กับเทพนะคะคาเรน ซีบิชอปสาวเสริมปิดท้าย ส่งผลให้ทุกอย่างในหัวของเฟตพังทลายลง หลักการที่เคยคิดถูกถีบไปไว้ข้างหลังสุด โดยดึงหลักความคิดใหม่ๆเข้ามาแทน

    นั่นซินะ สู้กับเทพที่มีอาวุธเทพ เราก็ควรมีอาวุธที่สูสีพอจะสู้ อีกอย่าง ในครั้งนี้ไม่ใช่ของฟรีด้วย มันมีภารกิจรออยู่เฟตกล่าวใบหน้าจริงจัง แล้วหันไปหาฮีเฟสตัส ที่กระพริบตากับบรรยากาศที่ดูเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้

    สู้ใช่มั้ยเฟตกำมือแล้วถาม

    อ่ะ อ้อ อื้อฮี เฟสตัสทำตามพร้อมกับหน้าที่เหลอหลาเหมือนกับกำลังงง ว่านี่ตรูกำลังจะสู้กับอะไร แต่เมื่อได้อาธีน่าส่งสัญญาณให้ ตนก็เลยหันมาหาเฟต พร้อมกับส่งแบบฟอร์มให้กรอก

    งั้น เริ่มแรก ข้าขอดูหน่อย ว่าเจ้าเน้นอะไร ถนัดอะไร และปัจจุบันใช้อาวุธยังไง วิธีใช้แบบไหน ขอแบบละเอียดเลยนะ ส่วนเหล่าเมียของเจ้า ให้ออกไปพักผ่อนรอบๆก็ได้ ข้าไม่หวงสถานที่กล่าว จบฮีเฟสตัสก็เดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโครมคราม ยักษ์ไซครอปได้ยินเจ้านายกำลังเริ่มงาน ตนก็เลยเข้าไปช่วย แต่ก่อนที่จะไป ยังไม่ลืมจะเปิดสะพานเหล็กเชื่อมทางเข้าออกให้

    พะ พวกเราไม่ใช่เมียนายท่านสักหน่อย!!”

    เหล่าอสูรร้องค้านหลังตะลึงกับคำพูดของเทพหนุ่ม ทว่าคำนั้นกลับลอยไปกับสายลมเพราะต่างฝ่ายต่างไม่สนใจ ไม่ว่าจะผู้สร้างหรือเฟตเองก็ตาม

    เฟตหันกลับมามองกระดาษคำถามในมืออย่างมึนงง ไม่มีปากกาแล้วเขาจะเริ่มยังไง แต่ทว่า ไม่ต้องใช้ปากกา สิ่งที่คิดก็ถูกเติมลงในจุดที่เว้นไว้ให้แล้ว นี่คงเป็นระบบเทพชิ้นหนึ่งล่ะมั้ง

    กลุ่มอสูรเห็นเฟตยิ้มมุมปากกับคำพูดของผู้สร้างก็ถอนหายใจ ก่อนค้อมหัวลา

    โชคดีนะคะ เจ้านาย

    ในขณะที่ตัวแสบกำลังไตร่ตรองถึงการต่อสู้ทั้งหมด ขั้นตอนของเขาสำคัญยิ่งในการสร้างอาวุธ ฉะนั้น สมาธิทั้งหมดจึงต้องจดจ่ออยู่กับกระดาษแผ่นเดียวตรงหน้า ที่กำลังรวบรวมข้อมูลวิธีการสู้ของเฟตทั้งหมดลงไป

    แต่ การทำสมาธินานๆ แล้วไม่ได้ประโยชน์ในทันที ทำให้ในที่สุดเฟตก็เลิกคิดอะไรที่มันหนักหัว เขาเหลียวมองไปรอบกายเพื่อมองหาตัวช่วย ทว่ากลับมองไม่เห็นใคร จึงเริ่มออกตามหาอสูรเหมือนหนูติดจั่น

    ตึง! ยักษ์ไซครอบโผล่มาตอนไหนไม่รู้ มันถามพร้อมกับกระชับอาวุธแน่น

    เจ้าจะไปไหน แขกของฮีเฟสตัส

    เฟตหรี่ตาลงแล้วกล่าวอย่างใจเย็น

    อย่ามาขวาง

    แต่สายตากลับเย็นชาสุดๆ พลังในร่างกายไหลทะลักออกมาส่งให้ประสาททั้งหลังสั่นคลอน ไม่เว้นตัวของยักษ์ตาเดียวผู้ถาม ที่ถึงกับสั่นอย่างหวาดกลัวต่อนามธรรมอันยิ่งใหญ่ ที่ชายคนนี้แฝงไว้ในร่าง แต่ไม่คิดใช้มันออกมา

    เจ้านาย/นายท่านพวกอาธีน่าที่ยังไม่ได้ไปไกลพากันรีบกลับมา หลังจากรู้ว่าอารมณ์ของเฟตกำลังขุ่นมัวอย่างน่าเป็นห่วง

    อ่ะเฟตอุทานเมื่อเหลียวไปเห็นอสูร พลังของเขาลดหายคล้ายกับเด็กที่เจอผู้ใหญ่ดุ ถึงไม่ปรากฏออกทางสีหน้า แต่บรรดาอสูรก็เห็นว่าเป็นแบบนั้น .... ปากไม่กล่าว หน้าไม่เปลี่ยน แต่การกระทำกลับเข้ามาคลุกคลีกับพวกเธอจนมองแล้วก็น่าเหนื่อยใจ อาธีน่าถอนหายใจก่อนจะเข้าไปอธิบายให้เฟตเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ที่นี่ เฟตจึงต้องถอยออกไปด้วยอารมณ์น้อยใจ

    ถึงจะไม่ได้เข้าไปคลุกคลีกับอสูร แต่พอมีอสูรอยู่ข้างกายแล้ว สมาธิของเฟตก็ดูจะดีขึ้น ชายหนุ่มทำสมาธิได้เมื่อหัวโล่ง

    .... โล่งมากไปไหมคะ

    จาเนียถามขณะลูบเส้นผมของเฟตที่บัดนี้เลื้อยมานอนเกยอยู่บนตักของเธอแบบเนียนๆ ส่วนมือก็เอื้อมไปวางไว้บนตักของอาธีน่า ด้านไร่น่าก็ใช้หางสีขาวพุ่มของตนให้เป็นประโยชน์ ด้วยการโบกสะบัดเสริมลมน้อยๆ สร้างบรรยากาศร่วมกับลีเวียธานที่หน้านิ่งเหมือนไม่ร่วมด้วย แต่แท้จริงแอบสร้างไอน้ำไว้ให้คลายความร้อนที่ปกคลุมอยู่

    เหมือนจะไม่มีประโยชน์เลยนะเมดูซ่ากับคาเรนหันมาคุยกันเบาๆ ขณะมองดูตัวแสบที่กำลังซุกหัวลงกับหางอันนุ่มนิ่มของไรน่า

    ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ

    เงือกสาวตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะร้องเพลงออกมาเมื่อรู้สึกเคลิบเคลิ้ม ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะสมกับเป็นปีศาจแห่งท้องทะเล

     

    2 ชั่วโมงต่อมา

    ฮี เฟสตัสเดินออกมาพร้อมกับค้อนเหล็กประจำกาย โดยเขานั้นหันซ้ายหันขวา เพื่อหาตัวมนุษย์ที่มีความสามารถในการสังหารแอรีส และสามารถต่อกรได้ซะด้วย

    เทพผู้สร้างเดินเข้าไปหาพวกเฟตซึ่งใช้สวนย่อมในปราสาทเป็นที่พักไปโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็เอาเถอะ เขาไม่ถือ เพราะให้ใช้สถานที่อยู่แล้ว

    มาเอาของน่ะฮีเฟสตัสกล่าว หลังกลุ่มของเฟตหันมามองที่ตนเป็นตาเดียว

    อ้อ งั้นก็ คุยกับเขาเองอาธีน่าชี้นิ้วมาที่บุรุษที่ยังนอนโดยใช้มือกุมกระดาษไว้ทั้ง 2 ด้าน มองยังไง ก็ยังอยู่ในขั้นทำสมาธิระดับสูงล่ะนะ

    ข้าขอหน่อยฮีเฟสตัสกล่าวขณะแบมือมา แต่กลับไร้เสียงตอบรับใดๆ จากชายที่นอนอยู่

    ท่านเฟต เขามารับของแล้วค่ะเอลฟ์สาวกระซิบ ในขณะที่ลีเวียธานค่อยๆดึงกระดาษออกมาให้อย่างง่ายดาย เพราะมือของเจ้านายคลายความเกร็งไปแล้ว

    ฮีเฟสตัสมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความตะลึง หลังเห็นรายละเอียดที่ถี่ยิบและครบถ้วน

    ทำ ได้แบบนี้ต้องใช้เวลานาน......เทพผู้สร้างกำลังจะชมว่าต้องใช้สมาธิสูง แต่เมื่อเห็นว่าเฟตนอนหลับไปจริงๆเลยก็ค้างไว้แบบนั้น ก่อนที่อาธีน่าจะอธิบายให้ฟัง

    เขาหลับไปตั้งแต่ที่คาเรนเริ่มร้องเพลงแล้วล่ะ

    เทพ ผู้สร้างพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินกลับไปข้างในอย่างมึนงง นี่มันทำเสร็จตั้งแต่นาทีแรกเลยเหรอเนี่ย ทั้งๆที่ตอนที่เขาดูอยู่ก่อนหน้านี้ ยังดูไม่มีสมาธิจะเริ่มการร่างงานเลย แต่ช่างเหอะ ในเมื่อเขาได้ของชิ้นแรกมาแล้ว ขั้นที่ 2 ของงานก็ควรจะเริ่มแล้วล่ะนะ

     

    05.00 น. บ้านธำรงพักตร์

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังออฟไลน์จากเกม ก็พบว่าตัวเองยังนอนอยู่บนโซฟานั่งเล่นของชิออนเหมือนเดิม

    เฮ้อ ช่วงนี้เรา เล่นเกมมากไปหน่อยแล้วล่ะมั้งผมคิดแบบนั้นจริงๆ ก่อนที่ตัวเองจะลุกจากที่เพื่อเข้าไปจัดการธุระของตัวเอง

     

    05.50 น.ผมมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะของเขตชุมชน อันเป็นสถานที่รวบรวมเหล่าผู้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง อืม เอาล่ะ วันนี้ผมจะออกกำลังกายบ้างล่ะนะ รู้สึกว่าหน้าท้องตนเองมีไขมันขึ้นมาเยอะแล้ว

    การออกกำลังกายของผมช่างง่ายแสนง่าย ก็แค่การวิ่งเหยาะๆ เหมือนคนไม่มีแรง ตามทางเดินที่ทางรัฐบาลจัดสร้างไว้ให้

    พี่ชาย สนใจ......ตลอดเส้นทาง ผมก็พบกับคนแปลกๆมากมาย แต่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งผมได้ เช้านี้ผมจะต้องประหารสิ่งที่ฝังอยู่ในหน้าท้องของตัวเอง

    หนังสือพิมพ์ .....ตาม เส้นทาง ต้องมีสิ่งของต่างๆ มาวางขาย เนื่องจากบรรยากาศยามเช้าของวันหยุด เหมาะสำหรับการค้าขายสุดๆ แต่อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ ตำรวจมีไว้พุ่งชน ดังนั้น ไม่ว่าอะไรก็ไม่มีทางมาหยุดผมได้ สายตาของผมตั้งมั่นแน่วแน่ตลอดเส้นทางในการวิ่ง ซึ่งแน่นอน ต้องพบปะกับผู้คนมากมายอันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

    วี๊ดวิว!!! เสียงร้องของบรรดาหนุ่มๆ หลังแซวเหล่าสาวๆ ที่น่ารัก แถมยังใส่กางเกงออกกำลังกายรัดรูปชวนสยอง

    เฮ้!!! เสียงโหร้องที่เกิดจากการมาเต้นบีบอยตามโซนต่างๆ ของสถานที่พักผ่อนของชุมชน

    โห!!! เสียงเฮลั่นที่เกิดจากการแสดงโชว์สุดห่วย ที่ดูแล้วไอ้คนที่แสดงูท่าจะโคตรซวยบรม

    เปรี้ยง!!! เสียงสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างทางที่ผมวิ่งผ่าน ใครพลาดท่าขวางทางกระสุนก็ถือว่าซวยไปจริงๆ

    ตูม!!! เสียงระเบิดที่เกิดจากทหารที่น่ารักวิ่งผิดพลาดไม่ยอมดูกับดักระเบิดให้ดี จนทำให้ขาขาดไปตามๆกัน

    ยาราไนก้า!!! ไอ้ เสียงอันท้ายนี่ ส่งผลให้สปีทในการวิ่งของผมพุ่งเข้าไปจนถึงขีดสุด ระดับที่ว่าความเร็วแสงยังเรียกพี่ แหงล่ะ ไอ้คนพูดมันดันใส่ชุดจั้มสูทนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวหน้าห้องน้ำนี่นา ใครอยู่รอก็บ้าแล้ว

    1 ชั่วโมงกับการจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย ผมได้พบกับอะไรหลายอย่างจริงๆ ช่างไม่น่าเชื่อเลย ว่าสถานที่แห่งนี้จะรวบรวมสิ่งของต่างๆ อันแสนน่ากลัวเอาไว้ แต่ช่างมันเหอะ วันนี้ได้แค่ 12 กิโล ก็พอใจแล้วล่ะ ผมจึงทำการเดินจากสวนสาธารณะ กลับสู่ที่พักโดยใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที

    อ้าว ไปไหนมาล่ะพี่คำทักทายแรกดังขึ้น หลังจากเดินมาถึงประตูบ้าน

    ออกกำลังกายนิดหน่อยครับผมตอบแบบนั้น ตั้งแต่ที่ผมถูกยิงเข้าโรงพยาบาลมาเมื่ออาทิตย์ คำว่าออกกำลังกายดูเหมือนจะห่างจากผมไปเยอะ จึงต้องกลับมาเสริมสมรรถภาพทางร่ายกายกันบ้าง

    อืม นั่นซินะ นานเหมือนกัน ที่ผมยังไม่ได้ออกกำลังกายพี่ ไป ไอ้นั่น กันเถอะสิ่งที่ชิออนถาม เป็นเหตุให้ผมชะงักกึก ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นบันได 3 ขั้นของบ้าน

    เอาจริงซินะผมถามกลับอย่างจริงจัง

    ใช่ซิพี่ ผมเอาจริงชิออนพยักหน้าพร้อมกับยกมือกำขึ้นอย่างมั่นใจ อืม งั้นไม่ขัดศรัทธา เดี๋ยวผมจัดให้

     

    08.30 น. สำนักดาบสายบูชิโดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง

    เฟตพาน้องชายตามกฎหมายมาถึงสถานที่ ไอ้นั่น ตามที่เขาต้องการ

    น่าชื่นใจจริงๆ ที่พี่ยังให้ความสำคัญกับผมอยู่ แต่ว่า.....ชิออนเริ่มบ่นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ก่อนจะตะโกนลั่น ตรงทางเข้าสำนักเรียนอย่างไม่พอใจ

    แล้วไหงถึงยกโขยงกันมาทั้งบ้านแบบนี้อืม อันนี้เฟตพอเข้าใจอยู่บ้าง ตอนจะออกมาบังเอิญสิริภพออกมาเห็นก่อน พอรู้จะไปไหนเท่านั้นแหละ ก็มีการกระจายข่าวเตรียมตัว แล้วยกโขยงกันขึ้นรถมากันมาหมดบ้านแบบนี้นี่ไง

    เอาน่า ว่างๆต้องออกมาเปิดหูเปิดตากันบ้างสิริภพตบไหล่ลูกชาย ก่อนจะเดินนำเข้าไปยังสำนักดาบ ที่พึ่งเปิดทำการ

    หลัง จากผ่านการลงทะเบียน ครอสคลาสต่างๆแล้ว พวกชิออนก็ถูกจับเปลี่ยนชุด ก่อนจะนำมานั่งอยู่ในห้องฝึกขนาดใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่พอกับโรงยิมในโรงเรียนทั่วๆไป

    ผมก็ดีใจนะ ที่บ้านเราได้ออกมาพร้อมหน้าพร้อมตากันซะที แต่ว่า ไหงทุกคนถึงไปนั่งห่างแบบนั้นล่ะชิออนร้องถาม เมื่อบรรดาพ่อแม่พี่ กับน้องสาวคนใหม่ทั้ง 2 ของบ้านพากันไปนั่งอยู่โซนนอก

    แหม ลูกชายคนนี้ บ่นมากจริงๆ คนละคลาสกัน จะไปเรียนด้วยกันได้ยังไงล่ะ พวกแม่แค่ขั้นพื้นฐานเองนะวิภา กล่าวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ส่งผลให้ทางครูฝึกดาบของสำนักตาเคลิ้มไปตามๆกัน แต่น่าเสียดายที่เธอคนนี้พาสุนัขประจำตัวมาด้วย พริบตาที่คนพวกนี้เคลิ้ม สิริภพก็หน้าบึ้ง เป็นผลให้บรรยากาศดูมาคุจนน่ากลัว

    ขยุก ขยิก!!! ในขณะที่เฟตกำลังมองดูสามีภรรยาที่รักกันดี ชายเสื้อของเขาที่เป็นผ้าขาวยาวก็ถูกดึงเบาๆ ตนจึงหันมามอง 2 หนูน้อยที่จ้องมาทางเขาเป็นตาเดียว

    ว่าไงครับชายหนุ่มกระซิบ เพราะต้องเกรงใจสถานที่หน่อย

    พี่ชายมาทำอะไรกันแน่หนูน้อยผมดำกระซิบกลับ

    ก็พาน้องชายมาเรียนไงครับ

    โกหก ถ้ามาเรียนจริงๆ ทำไมภายในรถถึงมีสไนเปอร์มาด้วยแหม เด็กน้อยคนนี้ยังช่างสังเกตเหมือนเดิม ขนาดเอาเนียนสวมไว้ใต้ฐานเหยียบแล้วนะ ยังหาเจออยู่อีกนะ

    ฮะฮะ มีงานให้ทำด้วยน่ะครับเฟตหัวเราะตอบแล้วหันไปมองทางสำนักฝึก ที่กำลังส่งครูฝึกมาต้อนรับพวกเขา

     

    ขณะที่เฟตออฟไลน์ออกมาจากเกม ภายในโลกจำลอง ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป

    เปร้ง เปรี้ยง !!!เสียงนี้เกิดขึ้นจากของแข็งกระแทกเข้ากับของแข็ง ค้อนเหล็กสีดำทุบเข้ากับแผ่นเหล็กขนาดใหญ่มหึมาสีดำ ที่ถูกไฟรนจนแดงเป็นไฟ

    กลับด้านผู้ถือค้อนกล่าว ก่อนที่จะมีมือคู่ยักษ์เอื้อมมาจับแผ่นเหล็กแล้วพลิกด้านให้ตามต้องการ

    เปรี้ยง เปรี้ยง!!! ค้อน สีดำฟาดเข้าใส่แผ่นเหล็กอย่างไม่บันยะบันยัง จากนั้นวิธีการสร้างอาวุธก็ยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายวัน โดยไม่สนเลยว่าเวลาด้านนอกจะผ่านไปมากมายเพียงใด หรือจะมีใครมาบุกรุกเกาะแห่งนี้มาแล้วบ้าง

    ซึ่งการไม่สนใจอะไร ก็ส่งผลให้กลุ่มผู้บุกรุก ลุยเข้ามาจนถึงใจกลางป่า ที่เชื่อมต่อไปยังปราสาทหนึ่งเดียวของเกาะ

    บุกเข้าไป จับกลุ่มให้พร้อม เรารู้วิธีรับมือไซครอปแล้ว ไม่ต้องห่วงชายหนุ่มในชุดเกราะเรืองแสงสีดำตะโกนสั่งการ เหล่าผู้เล่นทั้งหลาย ที่มีใบหน้าฮึกเหิม เนื่องจากต้องการสู้กับอสูรระดับตำนาน

    แหม น่าเสียดายจังนะ ที่พวกนายมาได้แค่นี้เองกลับเป็นเสียงสตีที่ดังมาจากรอบด้าน จากป่าที่เคยสว่างไสวกลับมืดลงภายในพริบตาได้อย่างน่าตกใจ

    นั่นใครน่ะ ไซครอปทั้ง 3 มันทำไม่ได้นี่ชายหนุ่มหัวหน้าทีมร้องถามอย่างร้อนรน การที่มีคนพูดมาก่อน อย่างน้อยแสดงว่าพอจะเจรจาได้

    ใช่ค่ะ พวกเราไม่ใช่ไซครอปหรอก แต่มีหน้าที่ไม่ต่างกัน พวกคุณควรกลับมาใหม่ในโอกาสหน้านะคะ โอกาสนี้มันยากเกินไปนะเสียงรอบนี้ช่างฟังดูอ่อนโยน จนไม่น่าเชื่อว่ากำลังขู่พวกเขาอยู่

    หึ นี่ล่ะโอกาสดีแล้ว ก่อนจะถึงงานโอลิมปิก พวกเราต้องได้อาวุธเทพกันอย่างน้อยคนละชิ้นล่ะอาวุธเทพคือสิ่งที่สูงค่าที่สุดในโลกมนุษย์ อาวุธเทพแค่ชิ้นเดียว อาจช่วยอัพเกรดให้ผู้เล่นหน้าใหม่ 1 คน กลายเป็นผู้เล่นระดับเทพอสูรเลยก็ได้

    แต่ถ้ายังดื้อดึง พวกเราจำต้องฆ่าพวกคุณทิ้งตามกฎนะคะเสียง นี้กล่าวพร้อมกับมีการปรากฏตัวของผู้หญิงนางหนึ่ง ใบหน้าของเธอแลดูอ่อนโยน แต่คำพูดเมื่อสักครู่กลับทำให้ความรู้สึกขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด

    เอลฟ์เหรอ ไหงมาที่เกาะนี้ได้ฟะ แต่ช่างเถอะ เรามีผู้ที่พอต่อกรได้อยู่แล้วหัวหน้าหนุ่มพูดก่อนจะโยนหินอะไรบางอย่างออกมา จากนั้นก็ปรากฏเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใบหูยาวแหลม มือถือคทาด้ามไม้ยาวสีขาว

    จาเนียเสียงอุทานจากรอบด้านอย่างตกใจ เมื่อเห็นผู้บุกรุกมีเอลฟ์ระดับวัลคิวรี่มาสู้ แต่ที่สำคัญที่สุด คือเอลฟ์ไม่ฆ่าเอลฟ์นี่ซิ

    ไม่เป็นไรค่ะ จาเนียไหว แต่ว่า พวกคุณช่วยจัดการคนที่เหลือด้วยนะคะ เท่าที่สังเกตดู เอลฟ์ตนนี้จะเก่งที่สุดแล้วสิ่งที่เอลฟ์ผู้นี้กล่าวออกมา ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นกัดฟันไปตามๆกัน แต่ก็เถียงไม่ออกเมื่อมันเป็นความจริง

    ข้าคือเอลฟ์วัลคิวรี่ อยู่ในคลาสสายเวท ข้าเป็นอสูรของท่านผู้นี้ และเราต้องมาสู้กันเพื่อผู้เป็นนายซินะเอลฟ์หนุ่มเริ่มเจรจาขณะดึงพลังจนปีกประจำตัวกางออกมา

    ใช่ค่ะเอลฟ์ สาวรับคำเรียบๆ ขณะดึงอาวุธสีขาวแซมแดงของตนเองออกมา หลังจากเธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง อีกมือก็เอื้อมมาดึงดาบให้แยกออกจากกัน จากนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็ว

    นี่เธอเอลฟ์หนุ่มอุทานเล็กน้อย เมื่อเห็นศัตรูยังไม่ดึงพลังออกมา แต่ความเร็วกลับมากกว่าเขาเสียอีก

    จาเนียมีหน้าที่ค่ะ เมื่อพวกคุณไม่ยอมถอยให้ เราจำต้องจัดการพวกคุณค่ะจาเนียกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวฟาดใส่จนเอลฟ์หนุ่มต้องบินหนี จากนั้นก็ร่ายเวทโจมตีเข้าใส่อย่างรวดเร็วเป็นการโต้ตอบ

    ช่างน่าเศร้าใจจริงๆนะคะเอลฟ์ สาวกล่าวพร้อมกับมองมหาเวทลมที่พุ่งเข้าหาตัวเอง แต่ก่อนที่เวทโจมตีจะเข้าถึงตัว ปีกสีขาวจำนวน 2 คู่ก็โผล่ออกมาคุ้มกันผู้เป็นนายเสียก่อนแล้ว

    ...........เกิดการตะลึงเข้ากับผู้พบเห็น เมื่อเจอกับวัลคิวรี่ 4 ปีก แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับส่วนของปีกหรอก

    แหม เขินจัง มองจาเนียกันหมดเลยเอลฟ์ สาวเอาปีกมากอดตัวเองอย่างเขินๆ แล้วนั่นทำให้คนอื่นได้เห็นว่า ส่วนประกอบของปีก มีเหล็กผสมอยู่ด้วย ไม่ซิ มีเกราะเหล็กคอยคุ้มกันไว้อีกชั้นหนึ่งต่างหาก

     เพราะเขาคนนั้นไงคะ จาเนียถึงมีสิ่งนี้เอลฟ์ สาวกล่าวอีกครั้ง ก่อนจะสยายปีกออกไปจนสุด ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าทุกซอกมุมของปีกถูกคลุมไว้ด้วยเหล็กที่เลียนแบบ แล้วอยู่ซ้อนทับเข้ากับส่วนปีกจริงๆ

    จาเนีย เอาจริงได้แล้วค่ะ ศัตรูหนีไปหมดแล้ว เหลือแต่เขานี่ล่ะหญิงสาวในชุดเกราะเทพกล่าวเสียงเหนื่อยๆ ถ้าเอลฟ์ตนนี้เอาจริง ผู้เล่นกลุ่มเมื่อกี้ได้ตายไปนานแล้ว

    อ้อ ค่ะ แต่ท่านอาธีน่าคะ ช่วยเก็บดาบที่จ่อเขาก่อนได้หรือเปล่าคะ จาเนียไม่มั่นใจเลยเอลฟ์สาวกล่าวก่อนจะมองดูดาบนับร้อยที่กระจายปิดอยู่รอบบริเวณ

    ได้ค่ะ แล้วก็ไม่บอกเทพสาวกล่าวก่อนจะแบมือ เรียกให้อาวุธทุกชนิดกลับมาที่ด้านหลัง ถ้าของเฟตเป็นปีกดาบ ของอาธีน่าก็เป็นบ้านดาบล่ะนะ

    ได้เวลาเอาจริงแล้วค่ะจาเนียกล่าวกับเอลฟ์หนุ่มที่ยังตะลึงกับการปรากฏตัวของอาธีน่า

    เดี๋ยวๆเอลฟ์หนุ่มกล่าวก่อนจะบินหนีกลับไปหาผู้เป็นนายไม่ทัน แหม ไอ้พวกนั้นจะหนีก็ไม่เรียกสักคำ ปล่อยให้ถูกล้อมจากตัวอันตรายได้ยังไงฟะ

    หลังจากกลุ่มผู้เล่นหนีไปจนหมด จาเนียก็เก็บดาบเข้ามารวมกัน ก่อนจะปล่อยให้มันค่อยๆ เลือนหายไปกับบรรยากาศรอบตัว

    ไม่นึกเลยนะคะ ว่าเกาะแห่งนี้จะวุ่นวายถึงขนาดนี้เอลฟ์ สาวบ่นอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วหันไปมองมังกรสีดำขนาดใหญ่บนฟ้า ที่กำลังทิ้งระเบิดแบบปูพรมใส่ผืนป่าเบื้องล่าง สงสัยอนาตาเซียจะได้อิทธิพลมาจาก ‘เขา แบบเต็มๆ แล้วซิ

     คำว่าอาวุธเทพ มีอะไรมากกว่าที่คิดค่ะอาธีน่ากล่าวยิ้มๆ แล้วหันไปมองรถด่วนคันขาวที่พึ่งผ่านไป ไม่ซิ จิ้งจอกยักษ์ขนาดใหญ่ตัวขาว ที่ด้านหลังมีท่ออะไรบางอย่างติดตั้งอยู่ ทันทีที่ถึงเป้าหมาย จิ้งจอกตัวนั้นก็ส่งพลังเวทเข้าสู่ปืนใหญ่ข้างหลัง ก่อนจะใช้หางมากระตุ้นพลังเวท ยิงลูกระเบิดไปใส่เรือของศัตรูที่กำลังยกพลขึ้นบก

    แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดก็ไม่ไหวนะคะจา เนียทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แล้วเงยหน้ามองเรือบินที่อยู่ด้านบน ซึ่งเรือลำนั้นก็ยิงอะไรบางอย่างลงสู่ผืนแผ่นดินที่มีผู้เล่นเหลือรอดอยู่

    ต้องพยายามค่ะ เพื่ออาวุธของเขาอาธีน่ายังยิ้มได้อยู่ แม้จะพึ่งติดต่อกับเมดูซ่าที่อยู่บนเรือให้สั่งโจมตีผู้ที่หลบซ่อนอยู่ก็ตาม ดวงตาของเมดูซ่ามีประโยชน์มากกว่าพลชี้เป้า นอกจากจะช่วยเฟตเล็งแล้ว มันยังตรวจจับความร้อนและพลังต่างๆ ที่หลบซ่อนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

    ค่ะจาเนียพยักหน้าแล้วยิ้มให้บ้าง

    พวกที่สู้ก็สู้ไป แต่ผู้ที่ทำหน้าที่สนับสนุนอย่างสาวน้อยผมฟ้ากลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    แงๆ พี่สาวทั้งหลาย อย่าโจมตีกันหนักมากนักซิคะ คาเรนช่วยปฐมพยาบาลไม่ไหวนะเงือกสาวร้องออกมาขณะช่วยรักษาพวกที่นอนตาเหลือกอยู่บนพื้น พวกเธอไม่ได้โหดร้ายถึงขนาดฆ่าผู้เล่นอย่างบ้าคลั่ง แม้จะทำรุนแรง แต่ก็แค่ทำให้ให้จำ ดังนั้น จึงต้องมีคนออกมาไล่รักษาก่อนจะถีบส่งออกไปจากเกาะ

    แต่ ช่างน่าเศร้าจริงๆ ที่เสียงของเงือกสาวไม่ได้เข้าหูใครเลย เนื่องจากบรรดาอสูรของเฟตมีเรื่องยุ่งยากสำหรับตัวเองพออยู่แล้ว ผู้เล่นไม่ใช่กระจอก คนพวกนี้มีเทคนิคและความสามารถที่แปรผันตลอด การต่อสู้แบบจริงจังจึงต้องเกิดขึ้นเสมอ คำว่าออมมือให้ มันมีไว้ใช้กับผู้เล่นต่อผู้เล่นเท่านั้นแหละ

     

    ภายในโลกแห่งความจริง เฟตไม่ได้รู้เลยว่าอสูรของเขากำลังลำบากขนาดไหน

    เอ่อ คุณเฟตครับชายในชุดคลุมสีน้ำตาลสะกิดถามอีกครั้ง หลังจากคู่สนทนาหลุดไปอยู่ในโลกของตัวเองเป็นครั้งที่ร้อยได้

    อ้อครับ ผมมีหน้าที่สังเกตบุคคลที่ส่อเค้าซินะครับชายหนุ่มหันมาตอบเป็นการเป็นงาน

    อัน นี้คุณพูดเป็นครั้งที่ร้อยแล้วครับ ที่ผมบอกก็คือ ให้คุณคอยจับตาเจ้าสำนัก พร้อมกับนำกล้องจิ๋วนี้ถ่ายภาพออกมา ทางรถของเราจะได้เก็บภาพก่อนจะนำเทียบข้อมูลชายในชุดคลุมน้ำตาลกล่าวก่อนจะผายมือให้ดูรถตู้ข้างนอก พวกเขาได้ติดต่อกันมาจากงานของกลาโหม และนี่ช่างเป็นโอกาสดีที่คอรบครัวของเฟตเข้าไปยังภายในแบบนั้น ถึงจะยังไม่ลึกพอแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เนื่องจากทางสำนักนั้นเข้มงวดมาก

    ได้เลยครับ แต่ผมขอตัวก่อนนะ ออกมานานเดียวพวกเขาจะรู้เฟตรับ คำก่อนจะมองไปยังโรงยิมที่ห่างออกไปครึ่งกิโลได้ นี่เขาแค่ขอตัวเข้าห้องน้ำนะเนี่ย หากเข้านานขนาดนี้ คงมีคิดกันล่ะว่า เขาไปสร้างส้วมไว้ใช้เองแน่นอน

    ครับ อ่ะ.....ตำรวจหนุ่มไฟแรงรับคำได้แค่นั้น เฟตก็หายไปพร้อมกับฝุ่นตลบตามรายทาง อะไรมันจะไปไวมาไวขนาดนั้น

    เอาล่ะพวกเรา ลองค้นหาข้อมูลดู ความเสี่ยงภัยของเขาครั้งนี้ ต้องอย่าให้สูญเปล่าตำรวจ หนุ่มกล่าวกับทีมงาน ก่อนจะมองกล้องมอนิเตอร์ที่เก็บภาพสัญญาณที่เครื่องขนาดเล็กส่งมาให้ แหม พูดแป๊บเดียว มันไปโผล่ที่โรงฝึกซะแล้ว คนบ้าอะไร วิ่งเร็วยังกับจรวด

     

    หลังจากลอบเข้ามาทางหน้าต่างห้องน้ำเสร็จ เฟตก็เดินออกมาจากสถานที่ระบายทุกข์ มุ่งตรงไปยังโรงยิมสอนดาบต่อ

    ย้าเสียง ร้องแบบคนบ้าพลัง พร้อมกับบรรดานักเรียนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ฟาดดาบไม้ใส่ลมกันเป็นแถวเป็นระเบียบ เฟตที่พึ่งมาถึงวาดตามองเล็กน้อย เมื่อไม่พบว่าตนเองเป็นจุดสนใจ ก็เนียนเดินเข้าไปหากลุ่มของสิริภพ ที่อยู่วงนอก เนื่องจากเป็นคลาสพิเศษ นั่งชมก็ได้ จะเรียนก็เชิญ เงินจ่ายก็พอ

    เอาล่ะครับ เมื่อมากันครบแล้ว ผมจะขอให้ทุกท่านได้ใช้ดาบที่ถนัดที่สุด เพื่อเหมาะแก่การฝึกวิชาของทางสำนักเราครับชายหนุ่มในชุดฝึกสีขาวกล่าวขึ้นกับพวกสิริภพทันที เมื่อเห็นสมาชิกของกลุ่มครบแล้ว

    ดาบไม้ฝึกนั่นน่ะเหรอสิริภพถามแล้วชี้ไปยังดาบไม้ใช้ฝึกที่แขวนอยู่เต็มผนัง

    ใช่ครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับชายหนุ่มถามด้วยรอยยิ้ม หลังสิริภพส่ายหน้าไม่มีปัญหาแล้ว ชายหนุ่มก็เลยขอตัวลา ก่อนจะไปแจ้งว่าทางลูกค้าพิเศษพร้อมฝึกแล้ว

    จริงๆ เราแค่เข้ามาชมเฉยๆ ไม่เห็นต้องฝึกเลยนะสิริภพหันมาเอ่ยกับครอบครัวของตนเอง ที่พวกเขามาก็แค่ต้องการให้อยู่กันพร้อมหน้าเท่านั้นเอง

    สักนิดสักหน่อยน่าคุณ เป็นเพื่อนลูกวิภา กล่าวก่อนจะพยักพเยิดไปทางลูกชายคนเล็ก ที่กำลังซ้อมดาบอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนไม่ได้แตะดาบมานาน ก็แหงล่ะนะ จะมีที่ไหนให้เขาได้ใช้ดาบกันล่ะ

     

    การเรียนของชิออน ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนโกหก เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ร่างกายของเขาก็พร้อมรับวิชาความรู้ใหม่ๆทั้งหมดแล้ว

    ถ้าพูดเรื่องดาบนี่ ต้องยกให้ชิออนจริงๆนะคะคุณวิภา ที่นั่งชมฝีมือของลูกชายแท้ๆของตัวเองมาตลอด เอ่ยกับสามีที่รักอย่างเลื่อนลอย หลังจากเจ้าชิออนหวดนักเรียนร่วมฝึกจนหลับซะเกือบหมด แม้เขาจะบอกให้เอาจริงเพื่อให้รู้ซึ้งถึงวิชา แต่แบบนี้มันก็เกินไป

    อืม นั่นซิ บ้านเราน้องจากเจ้าตัวดีนี่แล้ว ก็คงไม่มีใครเก่งดาบมากกว่านี้แล้วล่ะสิริภพกล่าวจบ ก็หันกลับมามองกลุ่มของตัวเอง ซึ่งสายตาได้เอะใจกับเฟตที่นั่งมองสถานการอย่างใจเย็นอยู่

    เอ่อ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเอาตัวรอด สงสัยลูกชายของอีกคนจะเก่งที่สุดเลยล่ะนะนายใหญ่ของบ้านรีบกล่าว เพราะนึกว่าคำพูดของตัวเองเข้าไปกระทบจิตใจของเฟต ลูกชายบุญธรรมคนนี้ชอบทำหน้าตาเย็นชามาตลอด แม้จะมีความคิดอะไรแปลกๆอยู่บ้าง แต่หน้าตาแบบนี้มันมักจะขัดแย้งกันอยู่เสมอ

    วิภา ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยสมทบ เพื่อเสริมให้ดูว่าพูดจริง แน่นอน 2 สามีภรรยา ยังคงกล่าวยกยอเฟตไปเรื่อยๆ ต่างกับชายหนุ่มที่ถูกพูดถึง ซึ่งไม่ได้ฟังเลย เขาแค่สนใจการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้ามากไปหน่อยเท่านั้นเอง

    .........เฟต ยังคงจับตาดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเวลาเลิกคลาส ที่ 4 โมงเย็น ซึ่งพวกเขาไม่ได้ทำอะไรอื่นอีกนอกจากนั่งดูเลย สงสัยทางสำนักดาบจะรู้ล่ะมั้ง ว่าพวกเขามาเชียร์เจ้าชิออนเพียงคนเดียวเนี่ย

     

    เป็นไงครับ สบายตัวขึ้นไปเฟตถามน้องชายตัวแสบ ที่เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด

    สุดๆไปเลยพี่ ไม่ได้ออกกำลังมานานแล้ว สนุกมากจริงๆ ว่าแต่ พี่ไม่เอาด้วยเหรอชิออนย้อนถามกลับ เฟตเป็นคนประเภทเดียวกับเขา อยู่เฉยๆ ไม่เป็น แม้ปากจะหุบสนิทจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ก็ตาม

    ไม่ล่ะครับ ความสนุกของผมน่ะ รออยู่แล้วเฟตก ล่าวก่อนจะพาทุกคนขึ้นรถเพื่อหวังจะกลับบ้าน แต่ทว่า วิภากลับออกความเห็นว่า ไหนๆก็พากันออกมาหมดแล้ว ทำไมถึงไม่เที่ยวกันแบบครอบครัวบ้างล่ะ และแค่นั้นแหละ บ้านของธำรงพักตร์ที่มีรถคุ้มกันห่างๆ ก็วิ่งเที่ยวรอบเมืองในตอนเย็น แวะนู่นนี่นั่น กว่าจะถึงบ้าน เวลาก็ล่วงเลยไปถึงตอนค่ำเสียแล้ว

    พี่ไปไหนต่อเหรอชิออนที่เดินออกมานอกประตูบ้านถามขึ้น หลังเห็นเฟตสะพายกระเป๋าเหมือนคนจะไปไหน

    ความสนุกไงครับผู้ที่ถูกถามหันกลับมาตอบหน้าตาย ก่อนจะนั่งลงแล้วลูบหัว 2 เด็กสาวที่มายืนรอส่งเขา เหมือนรู้ว่าจะไปไหน

    ระวังตัวให้มากนะพี่ชาย แม้ที่นั่นจะไม่ใช่ต้นตอทั้งหมด แต่เครือข่ายงานต้องรู้แล้วแน่นอนเด็ก สาวผมดำกล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง ในโรงฝึกวิชาดาบอะไรนั่น เธอลองสังเกตการณ์มาบ้างแล้ว และข้อมูลส่วนใหญ่น่าจะวิเคราะห์ออกมาแบบเดียวกับที่เฟตคิดได้

    ไม่ต้องห่วงครับ แต่ขอบคุณนะ ที่อุตส่าห์เป็นห่วงชาย หนุ่มลูบหัวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะมองเลยไปยังเด็กสาวผมขาว ที่จ้องมองมาที่เขาตาแป๋ว นี่ยังดีที่เธอควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นมากแล้ว หลังจากเล่นเกมนะเนี่ย

    ลาก่อนครับเฟตกล่าวก่อนจะสะพายกระเป๋ากีตาร์ขึ้นหลัง จากนั้นก็เดินตามถนน ซึ่งเขาก็พบกับรถซีดานสีดำจอดรออยู่ก่อนแล้ว

    มั่นใจนะครับ ว่า 1 ในนั้น คือ นักฆ่าที่ขึ้นหมายจับเฟตเปิดฉากถาม ก่อนจะดูข้อมูลภาพเปรียบเทียบของกรมตำรวจนานาชาติกับภาพของครูฝึกคนหนึ่งในโรงฝึกดาบที่กล้องถ่ายภาพไว้ได้

    ทางเราตรวจสอบจากทางคลังข่าว กับกระทรวงกลาโหมแล้วครับ ตรงกันแน่นอนตำรวจ หนุ่มไฟแรงที่เป็นคนร่วมแผนการกับเฟตตั้งแต่ต้นกล่าวอย่างหนักแน่น ตอนที่ได้ภาพมาทีแรกๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอนำไปเทียบกับข้อมูลเก่า เลยได้รู้ว่ามีหมายจับจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่

    งั้นก็ ไปกันครับเฟตกล่าวก่อนจะปิดเอกสารลับของราชการลง ซึ่งทางตำรวจหนุ่มที่มาส่งข่าวก็หันมามองเล็กน้อย ส่งผลให้ผู้ที่ถูกจ้องต้องกล่าวเป็นการปิดท้ายเล็กน้อย

    ผมรู้ว่า พวกคุณอยากทำงานนี้เอง ซึ่งงานนี้ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วยแน่นอนครับ แค่ไปดูให้แน่ใจแค่นี้แหละ รถซีดานคันดำก็วิ่งออกจากข้างทาง ก่อนจะตรงไปยังเขตที่พักอาศัย อันเป็นแหล่งรวบรวมชาวต่างชาติไว้เลย

     

    เมื่อ มาถึงสถานที่แล้ว ทางตำรวจหนุ่มก็พาเฟตไปพบกับทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิเศษ ที่ทราบข่าวพบผู้ต้องหาก็รีบมาเอาหน้าทันที ซึ่งก่อนหน้าจะเอาผลงานได้ ก็ต้องมีการเตรียมแผนการก่อน

    และ สำหรับแผนการในการเข้าจับกุมแบบสายฟ้าแลบในครั้งนี้ ก็ช่างง่ายแสนง่าย ส่งทีมนำ หลัก และสนับสนุนออกไป จากนั้นก็ตรงไปยังห้องพักของผู้ต้องหา พร้อมกับยื่นเอกสารรับรองจากสารให้ดู ก็แค่นั้นเอง แต่ความเป็นจริงจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้

    เขต ที่พัก บ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ชั้นล่างเป็นห้องรับแขก ส่วนด้านหลังจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมติดกับ ......เสียง รายงานมาตามวิทยุ ในขณะที่เฟตนั่งมองฟ้าอย่างเหม่อลอย เนื่องจากตอนที่ตำรวจนายนั้นเข้าไปทำงาน เขาเห็นว่าตนเองเป็นคนนอก จึงขอตัวออกมานอกสถานที่ เพื่อไม่เป็นที่เกะกะไป

    อีก 5 นาที แผนการจับกุมจะเริ่มต้นขึ้น เตรียมตัวให้พร้อมเสียงจากวิทยุยังคงดังต่อไป เป็นผลให้เฟตซึ่งแฮกสัญญาณพิเศษมาฟัง ได้รู้ข่าวสารและการเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกันด้วย

     

    5 นาทีตามที่ได้บอกไว้ หน่วยจู่โจมของตำรวจวิ่งตรงไปยังทางเข้าบ้านพักอย่างรวดเร็ว แนวหน้าใช้เวลาเพียงครู่เดียวในการไขประตูรั้วหน้าบ้าน แต่พอพ้นไป กลับไปเจอปัญหากับประตูเข้าบ้านซะงั้น เนื่องจากภายในถูกล็อคไว้หลายชั้น และอาจจะเสียเวลาและทำเสียงดังจนเป้าหมายตั้งตัวได้

    เฮ้อ ต้องสนับสนุนซะล่ะมั้งเฟตที่นั่งอยู่ถอนหายใจ ก่อนจะยกปืนสไนเปอร์ที่ตั้งอยู่มาประทับเข้ากับไหล่ เมื่อพบช่องว่างแล้ว เขาก็ลั่นไกที่นิ้วเหนี่ยวไว้ทันที

    ปุ๊!!! เสียง ดินปืนทำปฏิกิริยากับอากาศเบาๆ เนื่องจากเขาได้ใส่ลำกล้องเก็บอากาศไว้อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอน ไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเห็นแสงไฟจากลำกล้องปืนนี้แน่นอน เพราะ 1. ดินปืนถูกลำกล้องกักเก็บไว้หมดแล้ว ส่วนข้อที่ 2. คือข้อหลัก นั่นก็คือ เฟตอยู่ห่างจากเป้าหมายถึง 600 หลา แถมยังอยู่บนตึกสูงที่มองสถานการณ์ในแนว 40 องศาได้ทั่วถึงเสียด้วย

    การยิงสนับสนุนของเฟตเข้าไปทำลายระบบกลไกการล็อคประตูลงได้โดยฉับพลัน ส่งผลให้ทีมจู่โจมไม่เสียเวลากับการไขล็อคประตู

    พริบ ตาที่ทางเปิดโล่ง เหล่าตำรวจชั้นเยี่ยมก็พากันกรูเข้าไปในบ้าน ซึ่งเฟตต้องเปิดกล้องตรวจจับความร้อน จึงมองเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นในบ้านกันแน่

    ซวยล่ะชาย หนุ่มอุทานพร้อมกับยกมือข้างที่เหนี่ยวไกขึ้น ไปดันคันรั้งกระสุน ให้ปลดล็อครังเพลิง หลังข้อล็อคง้างขึ้น เฟตก็รีบดึงคันรั้งถอยหลัง ส่งปลอกกระสุนที่พึ่งใช้งานแล้วออกมา หลังจากนั้นก็ดันตัวเลื่อนกลับไปข้างหน้า ก่อนจะกดก้านสไลด์ลงกับล็อคของมัน เมื่อกระสุนถูกดันเข้ารังเพลิง เฟตก็จ้องมองเป้าหมายผ่านกล้องอย่างใจเย็น เมื่อมือนิ่งเขาก็ง้างนิ้วเข้ามาเรื่อยๆ จนมันลั่นออกไปพร้อมกับบ้านหลังนั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

    ปัง!!! เสียง ขับดินปืนที่เกิดขึ้นในบ้าน ส่งผลให้หน่วยจู่โจมรู้ตัวว่าตนถูกลอบมองจากที่มืด พวกเขากระโจนหลบเข้าหาที่หลบภัย ก่อนจะมีการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับทางเจ้าของบ้าน ที่พาเพื่อนมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะมาต้อนรับ

    ซึ่ง ความจริงแล้ว ทางกลุ่มผู้ต้องสงสัยเองก็รู้ตัวตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าถูกติดตาม ทันทีที่เจอรถมีพิรุธเข้ามาในพื้นที่ พวกเขาก็เตรียมการรอไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ยังดีที่เฟตเห็นไอความร้อนเป็นจำนวนมากอยู่ในห้อง ตนจึงยิงสกัดไปที่บุรุษที่ถือปืน ก่อนจะเกิดเสียงปืนลั่นตามมา

    เกิดอะไรขึ้นเสียง จากรถบัญชาการดังขึ้นในระบบสื่อสารของเจ้าหน้าที่แนวหน้า แต่ทางหน่วยจู่โจมไม่อาจมีเวลาว่างไปตอบ เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก ผลจึงมาตกอยู่ที่เฟตซึ่งเขาได้รายงานถึงจำนวนของศัตรูพร้อมกับลักษณะอาวุธ ที่ดูจะครบมือมากกว่าทีมจู่โจมเสียอีก

    แล้วนี่นายเป็นใครกรรม ถูกถามกลับซะงั้น แต่ก็โทษกันไม่ได้หรอก เพราะตอนเข้าฟังแผนการตรงๆ เฟตไม่ได้เข้าร่วม แล้วทางตำรวจหนุ่มนั่นคงไม่ได้พูดถึงด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะสงสัยว่าทำไมถึงมีเสียงบุรุษลึกลับเข้ามาในระบบสื่อสารของเจ้าหน้าที่

    ผมถามแค่ว่า อยากให้ผมช่วยมั้ย ตอนนี้พวกเขาถูกปิดล้อมแล้ว กว่าหน่วยสนับสนุนจะส่งคนมาช่วยได้ ใช้เวลาเยอะนะเฟต ย้อนถามกลับอย่างใจเย็น แม้จะเห็นว่าทางทีมหน่วยจู่โจมกำลังถูกรุมจากรอบด้านก็เหอะ แหม ไม่นึกว่าเขตนี้จะมีชาวต่างชาติมาลุยเยอะขนาดนี้นะเนี่ย

    นาย ช่วยพวกเขาได้ใช่มั้ยเสียง ของผบ.ดังแบบสงสัย หลังจากเขาออกจากรถบัญชาการแล้วไปเห็นว่า จากสถานที่เป้าหมาย ได้กลายเป็นแดนประหารสำหรับหน่วยจู่โจมพิเศษไปเสียแล้ว เนื่องจากบ้านแทบทุกหลังในบริเวณนั้น พกปืนออกมาเตรียมสนับสนุนคอยช่วยเหลือเพื่อนบ้านแบบเต็มที่

    ผมทำ เท่าที่ทำได้เฟตตอบกลับอย่างเย็นชาเหมือนเดิม

    ช่วยพวกเขาด้วยทาง ผบ.กล่าวอย่างจนปัญญา หลังจากรถของเขาพึ่งถูกโจมตีเข้าหาเมื่อสักครู่ บ่งบอกให้รู้ว่าทางนั้นรู้แล้วว่าศูนย์บัญชาการหน่วยอยู่ที่ไหน ซึ่งปัญหาหนักใจใหญ่สุดนั่นก็คือ พวกเขาไม่อาจจะออกไปลุยได้ เนื่องจากศูนย์บัญชาการมีเจ้าหน้าที่แค่ไม่กี่นาย เนื่องจากหน่วยพิเศษ 1 หน่วย จะออกล่างานกันไม่เกิน 10 คน

    ........ไม่ มีเสียงตอบกลับ แต่แลกเปลี่ยนด้วยการกระทำแทน เหล่าชาวต่างชาติที่กำลังถล่มรถตู้แปลกปลอมล้มตายลงไปทีละคน 2 คน โดยใช้เวลาห่างจากกันไม่ถึงวินาที

    ปุ๊ ปุ๊!!! เสียง ปืนยังคงดังสลับไปพร้อมกับเสียงคัดปลอกกระสุน ส่วนผู้ที่ยิงปืนกระบอกนี้ออกไป ตอนนี้ได้แต่เล็งหาเป้าหมายอย่างใจเย็น เนื่องจากฝ่ายสนับสนุนจะร้อนรนไม่ได้

    ทว่า เรื่องที่น่าแปลกใจก็เกิดขึ้น เฟตเคยกล่าวไว้ว่า เขาจะไม่ฆ่าใคร แต่ทำไมวันนี้เขาถึงยิงชาวต่างชาติที่หันปืนเข้าหาตำรวจล่ะ ซึ่งข้อนี้เฟตไม่เถียง เพราะเขาคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ถ้าให้ตอบตามสถานการณ์ปัจจุบัน อุดมการณ์กับสถานการณ์จริง ถ้ามันไปไม่ได้ก็ต้องตัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกไป ถ้าฆ่าเพื่อปกป้องพวกพ้อง เขาก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่ทำ พวกพ้องของเขาก็ต้องถูกฆ่า

    1 ชีวิตของเจ้าหน้าที่แลกกับ 1 ชีวิตของโจรผู้ร้าย แม้คุณค่าจะไม่ต่างกันในระดับความเป็นคน แต่ถ้าแยกย่อยออกมา เจ้าหน้าที่ระดับหน่วยจู่โจมสำคัญกว่าเยอะ เพราะพวกเขาคือผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อปกป้อง และป้องกันประชาชนที่อยู่ข้างหลังให้สงบสุข ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ เฟตรู้ดี และใช้มันในเหตุการณ์ ณ เวลานี้

    กริ๊ก! ! ! เสียงปลอกกระสุนทองแดงนัดนี้กระทบพื้นเป็นเสียงยาว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงไซเรนของรถตำรวจ ที่มักจะมาหลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้วเสมอ

    หึ แกทำเพื่อชาติ เฟตเอ๋ย ดีใจเสียเถอะชาย หนุ่มในชุดสูทที่ในมือมีปืนประทับอยู่กล่าวกับตัวเองอย่างเหม่อลอย หลายชีวิต้องถูกฆ่าลงทั้งที่เป้าหมายหลักของทีมสังหารนั้นมีเพียงเป้าหมายเดียว ... เฟตก้มหน้ามองมือตัวเองที่สวมไว้ด้วยถุงมือดำป้องกันการเกาะติดของดินปืน มือเขาเปื้อนเลือดแล้วทั้งที่เคยปฏิญาณตนไว้แท้ๆ

    เฟตม องสถานการณ์ผ่านทางกล้องส่องทางไกลสักพัก เมื่อพบว่าทางเจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ไม่ถึงตาย เขาก็ค่อยๆ ถอดอุปกรณ์ออกจากกันอย่างใจเย็น ถึงจะไม่แสดงอาการออกมาทางสีหน้า แต่มือเขากลับสั่นกึกๆ จนถอดอาวุธได้ลำบาก ความรู้สึกผิดมันทำเอาเขาแทบจะข่มกลั้นความรู้สึกไม่ไหว

     

    ติ๊ดๆๆ!!! เสียง โทรศัพท์ดังขึ้น ในขณะที่เฟตเดินลงจากตึก เพื่อไปรายงานตัวว่า เขานี่ล่ะมือสไนที่สังหารโจรเมื่อสักครู่ เนื่องจากชีวิตของคนจะยิงแล้วหนีเลยไม่ได้

    สวัสดีครับชายหนุ่มกดรับสายพร้อมกับกล่าวทักทายทันที เที่ยงคืนใครมันนึกคึกโทรมาหาฟะ

    สวัสดี ดาร์กเฟต นี่คือการปล้น มีอะไรส่งมาให้หมดเป็นคำกล่าวที่ฟังดูน่ากลัว แต่น้ำเสียงหวานหยดย้อยที่ตามสายมากลับขัดกันแบบสุดๆ

    ไม่หลับไม่นอนเหรอไนท์ โทรมาหากันแบบนี้เฟตทักกลับอย่างเย็นชาตามสไตล์

    แหม ไม่มีอารมณ์ขันเลยนะ อ้อ ช่างเถอะ นายมันตายด้านนี่ ขนาดเค้าแก้ผ้าปิดห้องอยู่กับนาย 2 ต่อ 2 นายยังไม่สนใจเลยปลายสายตัดพ้อ แต่คู่สายไม่สนใจ เขายังคงเดินเท้าไปยังจุดหมายอย่างใจเย็น แม้รถตำรวจของท้องที่หลายสิบคันจะพึ่งผ่านหน้าไปก็เหอะ

    ผมไม่ได้ตายด้านหรอกนะ แต่บางเรื่องมันก็ต้องข่มกลั้นอารมณ์ไว้ชายหนุ่มตอบนิ่มๆ ขณะวิ่งข้ามถนนเข้าสู่เขตหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนี้มีประชาชนให้ความสนใจเยอะแยะ หลังจากเสียงปืนดังลั่นสนั่นไปทั้งเมือง

    ชิ นึกว่าจะหลงเสน่ห์เค้าบ้างซะอีก

    ไม่มีธุระอะไรแล้วใช่มั้ย งั้นผมขอตัวเฟตตัดปัญหาการสนทนาไร้สาระ เนื่องจากเขามาถึงเขตปิดล้อมของทางตำรวจแล้ว

    เดี๋ยวๆ แหม ปกติก็เย็นชาตายด้านอยู่แล้ว ไหงวันนี้ดูเย็นชามากขึ้นกว่าเดิมล่ะเนี่ย เอาล่ะ งั้นเข้าเรื่องกันดีกว่า คือว่า เค้าไปรื้อแฟ้มคดีของนายทั้งหมดแล้วก็พบกับ......หลัง จากนั้นไนท์ก็ร่ายยาว ส่งผลให้เฟตต้องดึงหูฟังไร้สายขึ้นมา ก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังเขตปิดล้อมของทางตำรวจ เพื่อจะได้รายงานตัว แล้วจะได้กลับ

    นายน่ะเหรอ ผู้ที่สนับสนุนหน่วยจู่โจมเมื่อสักครู่ชายสูงวัยที่บนบ่าประดับไปด้วยดาวระดับนายพลกล่าวขึ้น หลังจากเฟตเข้าไปรายงานตัวกับตำรวจท้องที จนเขาได้ยินแล้วเดินเข้ามาดู

    ครับ

    คน นอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วเข้ามาได้ยังไง อีกอย่าง นายไปเอาปืนจากไหนมาใช้ ผู้กอง ยึดอาวุธกระบอกนี้มาตรวจสอบ ว่ามีคดีหรือหลักฐานจากหน่วยงานไหนรองรับบ้างผู้การสูงวัยกล่าว ก่อนจะโบกมือโบกไม้ให้เรียกให้เจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวเฟตเอาไว้

    ไม่สอบถามอย่างอื่นนอกจากนี้หน่อยเหรอครับเฟต ที่ถูกล็อคตัวไว้กล่าวอย่างเย็นชา ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือตื่นกลัวเรื่องถูกจับเลย

    ไม่มีความจำเป็นผู้การกล่าวจบ ก็เดินเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอรับรายงานกับเอาหน้าจากผู้สื่อข่าว

    เฟต ที่ถูกล็อคตัวขึ้นรถตำรวจไป เขายังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิม ไม่ยอมเอาบัตรเจ้าหน้าที่อะไรออกมาให้ดู เพราะรู้สึกติดใจแปลกๆกับผู้การคนนี้ ซึ่งเท่าที่ดูจากการกระทำแล้ว พลตำรวจโทผู้นี้ เข้าข่ายผู้สนับสนุนแน่นอน เห็นอารมณ์ขึ้นแบบนั้นนี่

    แต่ก่อนที่รถตำรวจจะคุมตัวเฟตที่เป็นผู้ต้องหาไปฝากขัง กลับมีรถแวนสีดำหลายสิบคันวิ่งเข้ามาในพื้นที่ แล้วจอดล้อมรอบรถตำรวจเอาไว้

    เจ้าบ้าไนท์เฟตพึมพำเมื่อเห็นใครลงมาจากรถ

    เรามาจากกระทรวงกลาโหม ขอฟังข้อมูลทั้งหมดจากทางตำรวจท้องที่ก่อนไนท์ที่เดินลงมาประกาศลั่น โดยสายตาจับจ้องมาที่รถซึ่งเฟตถูกคุมตัวเอาไว้อยู่

    เธอมาจากกลาโหมเหรอ มีตำแหน่งอะไรผู้การสูงวัยที่เห็นสถานการณ์รีบเดินเข้ามาเบรก แม้ทางกลาโหมจะยิ่งใหญ่ในหมู่ทหาร แต่สำหรับหน่วยงานตำรวจต้องขึ้นตรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น

    ตัวแทนท่านรัฐมนตรีไนท์ตอบพร้อมกับยื่นบัตรแทนตัวให้ เขาได้ยินเรื่องทั้งหมด เนื่องจากยังคงติดสายกับเฟตอยู่ ซึ่งทันทีที่พบกับความไม่ชอบมาพากล ก็เลยรายงานเรื่องแทนตรงเข้าไปยังผู้บัญชาการใหญ่ พร้อมกับโผล่หน้ามาดูสถานการณ์ถึงที่นี่ไง

    แล้วมีธุระอะไรล่ะผู้การกล่าวก่อนจะส่งบัตรคืน สายตาเขาไม่แยแสอยู่แล้ว

    ปล่อยตัวผู้ต้องหา เรื่องนี้ต้องมีการสอบสวนแล้วตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ

    สอบทำไม ในเมื่อหมอนั่นมีอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังฆ่าคนตายโดยเจตนาอีก ยังไม่รวมข้อหาที่เข้าไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นะผู้การยังได้เปรียบในด้านข้อมูล ส่งผลให้ไนท์สะอึกเงียบกล่าวไม่ออก เพราะตำรวจกับทหาร ใช้กฎหมายที่ต่างกัน แล้วอีกอย่าง ทางกลาโหมยังไม่มีคำสั่งอะไรอื่นอีก นอกจากให้เขามาตรวจสอบเหตุการณ์ให้มั่นใจก่อน

    ปัง!!! เสียงปิดประตูรถ พร้อมกับที่ผู้การสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นใครที่เดินลงมาจากรถของทางกระทรวง

    ท่านผบ.ตร.พิเชฐผู้การยืนตรงทำความเคารพ ในขณะที่พิเชฐได้แต่ปรายตามอง ก่อนเรียกให้ทางตำรวจท้องที่นำข้อมูลที่สรุปแบบคร่าวๆ มาดู

    บางครั้ง กฎหมายกับการกระทำ อาจจะไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยพิเชฐกล่าวลอยๆ เหมือนไม่บอกใคร แต่สำหรับคนที่ทำงานในแนวหน้ากลับพยักหน้าแบบเห็นด้วย เพราะบางสถานการณ์จะเอาแต่กฎหมายมาใช้ไม่ได้

    แล้วทางหน่วยจู่โจมพิเศษเป็นยังไงบ้าง มีใครพอไหวจะมาคุยมั้ยผบ.ตร.ยังคงกล่าวนอกประเด็นอีกเหมือนเดิม แต่ทางตำรวจท้องที่ก็ตอบรับคำขอได้เป็นอย่างดี ด้วยการส่งหัวหน้าหน่วยที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บมาคุย

    หลังจากหัวหน้าหน่วยจู่โจมได้เจอกับผบ.ตร. อาการบาดเจ็บก็หายเป็นปิดทิ้ง ก่อนจะทำความเคารพอย่างแข็งขัน

    เอาล่ะ ในฐานะสีเดียวกัน ขอคุยด้วยหน่อยพิเชฐกล่าวก่อนจะพาตัวตำรวจหนุ่มเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวในรถที่ตนโดยสารมา

     

    ผ่าน ไป 30 นาที สำหรับการสอบถามปากคำจากพยาน พิเชฐก็เดินลงมา พร้อมกับส่งสัญญาณให้ปล่อยตัวเฟตได้ โดยข้อมูลทั้งหมดเขารับและส่งงานให้ทางตำรวจท้องที่เอง ถ้าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเรื่องไม่ชอบใจมา เขานี่ล่ะจะลงมือสอบสวนด้วยตัวเอง

    แต่ท่าน เขตนี้เป็นเขตที่พักของชาวต่างชาตินะครับ การที่เราปล่อยให้มือสังหารลอยนวล มันจะมีผลต่อภาพพจน์ของหน่วยงานเราได้ผู้การยังคงค้าน

    แล้วผมถามคุณหน่อยซิ ถ้าทางเจ้าหน้าที่ของเราทั้ง 6 คนเสียชีวิต คุณจะเอาอะไรมารับผิดชอบพิเชฐถามกลับโดยพยายามกดอารมณ์โมโหเอาไว้

    แต่ว่าผู้การพยายามจะหาข้ออ้าง

    พอแล้ว!!! เรื่อง นี้เราต้องคุยกันใหม่ ผมจะสั่งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจหาเหตุการณ์นี้ใหม่อีกครั้ง โดยที่พวกคุณไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมพิเชฐเหลืออดขึ้นเสียงว่า จนเหล่าตำรวจต้องหุบปากไม่ยอมเอ่ยอะไรอีกเลย

    ส่วนทาง จนท.พิเศษ ดาร์กเฟต ถ้าไม่ว่าอะไร โอกาสหน้า ช่วยรายงานตัวและหน่วยประจำ ก่อนทำงานด้วยนะผบ.ตร.หันมากล่าวกับเฟตที่กำลังเดินกลับไปรับปืนของตัวเองกลับมา

    ครับชายหนุ่มรับคำอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินออกจากสถานที่เกิดเหตุ

    พิเชฐ ที่ยืนอยู่ปั้นหน้ายาก เพราะในสถานการณ์นี้ถ้าเขาออกตัวมากไป มันจะเสียชื่อผบ.ตร. แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย เฟตก็คงต้องติดคุกยาว ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่จะว่าไป ทำไมเฟตถึงไม่เอาบัตรเจ้าหน้าที่ ที่ทางกระทรวงกลาโหมออกให้มาแสดงตัว เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบข้อมูลล่ะ ซึ่งความคิดในข้อนี้ ส่งผลให้พิเชฐได้รู้แล้วว่า เฟตต้องการจะสื่ออะไร แล้วใครเป็นผู้ให้การสนับสนุนต่อชาวต่างชาติที่มีคดีติดตัวจากสำนักงานตำรวจสากล

    ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์มาด้วยไนท์เดินเข้ามากล่าวขอบคุณ เขาแค่ติดต่อไปทางสำนักงานตำรวจโดยตรง ไม่นึกเลยว่าพิเชฐจะรับสายเองแบบนี้

    อ้อ ไม่เป็นไรหรอก พอดีอาอยู่ดูคดีที่พึ่งได้รับมาน่ะ ว่าแต่ เจ้าเฟตนี่ดีจังนะ มีเพื่อนสวยๆแบบนี้ด้วย หึหึ ลูกสาวอาคงไม่แพ้หรอกนะพิเชฐตอบกลับ ขณะหัวเราะเล็กน้อยกับเจ้าไนท์ ซึ่งเนียนไม่บอกเพศ

    ในขณะที่พิเชฐกำลังหัวเราะอย่างชอบใจ ทางผู้การที่เสียหน้าก็ได้แต่จับจ้องมองตามหลังเฟตไป พร้อมกับกัดฟันกรอด

     

    เฟตเดินทางกลับบ้านด้วยรถโดยสารประจำทาง ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม แม้จะพึ่งผ่านเหตุการณ์ชีวิตเฉียดคุกมาก็ตาม

    อ้า คุณเฟต ไปไหนมาครับ กลับซะดึกเชียวรปภ.ประตูบ้านธำรงพักตร์ร้องถาม หลังเห็นเฟตฝ่าความมืดเข้ามาถึงหน้าบ้าน

    ........ไม่ มีคำตอบอะไร นอกจากการพยักหน้าให้แบบเหม่อลอย ทางยามก็ไม่ได้หวังคำตอบอยู่แล้ว เขาถามเป็นเชิงทักทายเฉยๆ ตนจึงเปิดประตูให้ก่อนจะทำความเคารพอย่างแข็งขัน

    ชายหนุ่มยังคงเดินหน้าต่อไป โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ห้องพักตัวเอง

    กึก!! เสียงปิดประตูเบาๆ พร้อมกับร่างของชายหนุ่มที่เดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องส่วนตัว

    เฟต เปิดน้ำฝักบัวพร้อมกับก้าวเข้าไปยืนอยู่ใจกลางสายน้ำโดยที่ไม่ถอดชุดออก ชายหนุ่มยืนแช่น้ำอยู่สักพัก ก็นำสบู่มาถูมือเบาๆ ก่อนจะแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอยากให้มือมันถลอกออกมา

    พี่ชายเสียง เรียกที่ด้านหลังเบาๆ ไม่ทำให้เฟตสะดุ้ง เขาเหลือบไปเห็น 2 เด็กสาวเกาะที่ประตู พร้อมกับมองมาด้วยความสงสัย ว่าอาบน้ำท่าไหน ทำไมถึงไม่ถอดชุดสูทที่หนักอึ้งออก

    ยังไม่นอนเหรอครับ ไม่ซิ ไม่ได้เล่นเกมเหรอชายหนุ่มถามเสียงอ่อนโยนกับ 2 เด็กสาว

    พี่ชายไม่เล่น พวกเราก็ไม่เล่นเป็นหนูนาช่าที่ตอบ สำเนียงภาษาของเธอแม้จะเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็ฟังรู้เรื่องขึ้นเยอะ แถมยังสื่อสารกันเข้าใจแล้วด้วย

    เฟต หันไปมองหน้าหนูน้อยผมดำที่พยักหน้าเป็นเชิงกล่าวว่าตนนี่ล่ะที่เป็นคนสอน ชายหนุ่มจึงไม่แปลกใจอะไร  เพราะนาช่ามีการเรียนรู้ระดับสัตว์ประหลาด ส่วนหนูน้อยผมดำมีความอัจฉริยะ ระดับเหนือโลก แหม ช่างเป็นการจับคู่ได้ดีจริงๆ

    พี่ชายไปเจออะไรมาเหรอหนูน้อยผมดำถามขึ้น หลังจากสังเกตมาได้สักพักแล้ว

    นิดหน่อยครับ เหตุการณ์ความไม่สงบใจกลางเมืองน่ะชายหนุ่มกล่าว หูของเขาเกือบจะไม่ได้ยินคำถาม จึงต้องปิดฝักบัว แหม ว่าจะเล่นเป็นพระเอกเอ็มวีซะหน่อย

    แล้วพี่ชาย สูญเสียอะไรไปเหรอคะนา ช่าถามตรงประเด็น เธอมีไหวพริบแฝงไว้ในร่างสูง สังเกตอะไรนิดหน่อยก็รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงแล้ว แม้เฟตจะเป็นประเภทอ่านความคิดยาก แต่สัญชาตญาณในส่วนลึกได้บอกว่าตอนนี้ชายคนนี้กำลังสูญเสียกำลังใจชิ้นใหญ่ ไป

    อุดมการณ์น่ะเฟตตอบตามตรง ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะปิดบัง ในเมื่อพวกเธอมองเขาออก

    อุดมการณ์นาช่าทวนคำ แม้จะไหวพริบเยี่ยมเพียงใด แต่ไม่ได้แปลว่าอัจฉริยะ

    ถ้า ให้เปรียบ ก็เหมือนกับคนที่มีชีวิตโดยหวังแก้แค้นนั่นแหละ ชีวิตของคนๆนั้นจะแข็งแกร่งแบบสุดๆ เพื่อให้ตัวเองได้แก้แค้น แต่เมื่อใดที่สมหวัง กำลังใจที่ยึดมั่นไว้นั้นก็จะสลายหายไปหนูน้อยผมดำวิเคราะห์ให้เพื่อนโลลิฟัง ส่งผลให้เฟตพยักหน้าให้

    แต่พี่ชายมีสิ่งสำคัญอยู่หลายอย่างไม่ใช่เหรอคะนาช่ารีบกล่าว หลังจากวิเคราะห์ตามคำพูดของเพื่อน แล้วพบว่าเฟตไม่สามารถเดินหน้าได้อีก

    หน้าที่บางทีก็ขัดง้างกับอุดมการณ์ ทั้งที่ผมไม่คิดจะทำอะไรแล้วแท้ๆ แต่ที่สุดก็ต้องทำเพราะคำว่าหน้าที่เฟตกล่าว ก่อนจะถอดสูทออกมากองไว้กับพื้น เหลือเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็กไว้

    นา ช่ากับหนูน้อยหันมามองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้า พร้อมกับหายไปในห้อง เฟตที่ไม่มีเวลาสนใจกับอะไรก็นึกว่า 2 หนูน้อยนั่นกลับไปแล้ว ตนจึงหันมาเล่นเอ็มวีต่อ แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดอีกครั้งพร้อม 2 เด็กสาวกำลังเดินเข้ามา

    เดี๋ยวๆ หยุดๆ ทำอะไรเนี่ยชายหนุ่มกล่าวลิ้นรัว เมื่อพวกเธอกำลังตรงเข้ามาหาเขา แสดงถึงเป้าหมายที่อยู่ที่เขาโดยตรง แล้วสภาพแบบนี้ กับพวกหนูๆ เข้ามาแบบนี้....

    เพิ่มกำลังใจในการมีชีวิตไงคะไม่พูดเปล่า 2 หนูน้อยพุ่งเข้ามาจัดแจงถอดชุดเฟตเพื่อจะลอกคราบเขาให้ได้

     เอ่อ ไม่ต้องๆ ผมจัดการเองได้ อีกอย่างผมยังไม่อยากอาบน้ำเฟตรีบกล่าว แต่นั่นก็ช้าไปแล้ว เมื่อเด็กสาวเล่นลอกคราบเขาซะหมดตัว จะออกแรงทำอะไรรุนแรงไปก็ใช่ที่ เมื่อทั้ง 2 เป็นแค่เด็กเท่านั้น

    แต่พวกเราอยากอาบให้พี่ชายของเรานี่คะเด็กสาวทั้ง 2 กล่าวก่อนจะถอดชุดนอนสีเดียวกับเส้นผมออก และจากนั้นแหละ เสียงร้องโหยหวนของเฟตก็ดังลั่นออกมาจากห้องน้ำ แต่โชคดีจริงๆ ที่ห้องเป็นแบบบุผนังพิเศษ ปัญหาเรื่องเสียงเล็ดลอดออกไปจึงไม่มี

     

    03.00 น. เฟตล้มตัวนอนลงบนเตียงท่ามกลาง 2 เด็กสาวที่นอนหลับอย่างสบายอารมณ์ หลังช่วยเขาผ่อนคลายความเครียดเรื่องอุดมการณ์ชีวิต แต่เปลี่ยนมาเครียดเรื่องคุกของชีวิตในอนาคตแทน

    จะเล่นเกมดีมั้ยหว่าชาย หนุ่มถามตัวเองเป็นครั้งที่สิบ แม้เด็กสาวทั้ง 2 จะขยั้นคะยอให้เขาเล่น แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ในครั้งนี้เขากลับหมดอารมณ์ที่จะร่วมสนุกจึงบ่ายเบี่ยงตลอดมา

    ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะถามตัวเองดังไปหน่อย ส่งผลให้ 2 เด็กสาวละเมอลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับซัดปลายคางจนชายหนุ่มสลบเหมือด เพราะไม่ทันตั้งตัว

    อ้าว เอวา เธอทำพี่ชายทำไมคะนาช่าที่รู้สึกตัวจากแรงปะทะของมือรีบถาม ในขณะที่ตัวเองก็เขย่าตัวของเฟตไปด้วย

    อย่ามาว่าเรานะ เธอนั่นแหละทำหนูน้อยผมดำค้านก่อนจะช่วยกันเขย่าตัว แต่ด้วยความง่วงบวกกับหมัดพลังช้างศาลของยอดมนุษย์ ส่งผลให้คนหลับไม่รู้สึกตัวอีกต่อไป

    งั้น เอาเครื่องเกมให้พี่ชายดีกว่า เขาจะได้ไม่ฝันร้ายเอวาขอความเห็น ในขณะที่นาช่าพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเด็กสาวทั้ง 2 ก็ช่วยกันประคับประคองชายหนุ่มจนสามารถสวมเครื่องเกมได้ จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ก่อนจะกุมมือของเฟตไว้คนละข้าง พร้อมกับหลับตาลงนอนข้างชายหนุ่มผู้เป็นศูนย์รวมความรู้สึกต่างเอาไว้

     
    -----------**************--------------------*****************---------------

    อาจจะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่จะเริ่มรีไรท์บทตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปครับ .... 

    แต่อนาคตไม่แน่ อาจรีไรท์ย้อนกลับด้วยซ้ำ -3-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×