ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #60 : ตอนที่ 60 จบภารกิจข้างนอก เพื่อมาเจอสงครามเย็นเหรอ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.15K
      30
      16 ก.ย. 56

    ก่อนที่ผมจะได้เถียงในสิ่งที่คุณพิมพ์ตีความหมายผิด คุณเธอกลับพูดขึ้นมาซะก่อนว่า

     

    ทราบแล้วค่ะ ขอให้คุณทำภารกิจของตัวเองสำเร็จนะคะไม่รู้ว่าเข้าใจจริงๆหรือแล้ว แต่ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่ได้ล้อเล่นแล้ว การที่เธอพูดเมื่อกี้ คงต้องการไม่ให้สถานการณ์ไม่เครียดไปกว่านี้มากกว่า

    ครับผมรับคำอวยพรก่อนจะหมุนตัววิ่งจากหลังตึกจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง เพื่อเคลื่อนที่เข้าไปหาเป้าหมาย

    เปรี้ยง!!! เสียงสไนเปอร์จากฝ่ายตรงข้ามยังดังขึ้น พร้อมกับแสงกระสุนที่เฉียดไปเฉียดมา ไม่ใช่ว่าพวกนั้นยิงไม่แม่นหรอก แต่ผมชอบเคลื่อนที่ตามแนวตึกกับกำแพง พอเดาแรงรีคอยของปืนได้เมื่อไหร่ ผมก็จะเคลื่อนตัวหลบเมื่อนั้น เลยไม่มีปัญหาเรื่องเป้านิ่งอีกเลย

     

    ในขณะที่เฟตรับบทพระเอกลุยเดียว ที่กองหลังซึ่งเป็นศูนย์กลางบัญชาการณ์ ก็มีการพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากไม่สามารถติดตามพวกชายชุดดำได้ หากยังมีหน่วยสไนเปอร์คอยยิงอยู่แบบนี้ และ 1 ในสิ่งที่พูดคุยกันก็คือ

    ทำไมยังไม่ได้ยินเสียงปืนฝ่ายเราเลยล่ะเป็นคำถามที่ใครก็ต้องสงสัย พวกเขาได้ยินแต่เสียงของฝ่ายตรงข้าม ปืนของฝ่ายตัวเองยังไม่ได้ทำการเลยมั้ง ถึงจะใส่ไซเรนเซอร์ก็เถอะ

    อาจจะเพราะกระสุนกับลมเราก็ได้นะคะ รู้สึกคืนนี้ลมกดจะแรง ส่วนกระสุนก็ดันต้านแรงกดเกินไป ในระยะ 200 หลานี่ ยังเสี่ยงที่จะโดนชาวบ้านน่ะพิมพ์อธิบายแทน ปืนสไนเปอร์ที่เฟตเอาไปด้วย มีขนาดแค่ 5.56 มม.เอง หากให้เทียบกับปืนหน่วยอื่นแล้ว ถือว่าเล็กไปด้วยซ้ำ หน่วยอื่นเข้าใช้ .308 กันหมดแล้ว ไม่รู้ทำไมหน่วยเธอถึงเบิกได้แต่ปืนเบาแบบนี้กันนะ

    แล้วแบบนี้ฝ่ายเราจะไม่แบกน้ำหนักสู้มากไปเหรอ เท่าที่ได้ยิน ฝ่ายนั้นใช้สายทะลวงเลยนะเพื่อนคนหนึ่งรู้สึกวิตกแทน ในเมื่อยิงไกลแล้วมีสิทธิ์พลาด ใครมันจะเสี่ยงกันเล่า

    ถึงฝ่ายนั้นจะใช้ .50 คาลิเบอร์ แต่ในการรบ ไม่ได้อยู่ที่กระสุนหรอกนะคะ มันอยู่ที่ผู้ใช้ต่างหากพิมพ์กล่าวแบบมั่นใจในตัวของเฟตมาก ขนาดฝ่ายนั้นยิงมาตั้งหลายครั้งแล้ว ฝั่งเธอยังไม่เป็นอะไรเลย นั่นหมายถึงฝีมือของสไนเปอร์อันดับ 1 คงไม่ใช่ของลวงอย่างที่คิดไว้แล้วล่ะ

    ผบ.หน่วยที่ได้ยินลูกน้องคุยกันไปมา ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะตนถูกฝึกในสายปืนกลเล็กจู่โจม ไม่ใช่ซุ่มยิง ถึงจะมีฐานะที่สูงกว่า ก็ใช่จะรู้ไปมากกว่ากัน การรับฟังสิ่งที่ลูกน้องรู้ก็ดีเหมือนกันนะ

     

    เปรี้ยง!!!!! เสียงสไนดังลั่นอีกครั้งพร้อมกับฝาผนังที่เป็นปูนทะลุไปอีกด้านจนเกือบจะถล่มใส่คนที่อยู่ข้างหลัง ทว่า ไอ้คนที่หลบนั่นกลับเคลื่อนตัวหลบเหมือนกับรู้ ส่งผลให้รอดพ้นจากวิกฤตชีวิตไปอย่างไม่น่าเชื่อ

    มันเป็นมือสไนเปอร์เหมือนกันกับพวกเราสินะบุรุษนิรนาม 2 คนที่อยู่ภายในห้องสูทสนทนากันเป็นภาษาบ้าน หลังใช้อินฟาเรดตรวจจับเป้าหมาย แล้วพบว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ โดยใช้ช่องว่างระหว่างตึกกับจุดปิดเป็นทางเชื่อมมาถึงโรงแรมแห่งนี้

    ตอนนี้เลิกใช้ได้แล้ว เพื่อนเราถอยมาพ้นแล้วชายหนุ่มที่พาดพานท้ายสไนเปอร์ไว้ตรงไหล่บอกกับเพื่อน

    ดีเหมือนกัน แต่ถ้าถอนตัวกันไปเลย ไอ้คนที่ไต่กำแพงมานั่น จะไม่สงสัยเหรอชายที่ถือกล้องอินฟาเรดหันมาถาม แต่เมื่อพบว่าเพื่อนกำลังติดตั้งเครื่องอะไรบางอย่างอยู่ ตนก็พยักหน้าอย่างพอใจ

     

    เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!! เสียงปืนยังดังขึ้นเป็นระยะๆ ในขณะที่ผมต้องเคลื่อนที่มาหลบอยู่หลังกำแพง ก่อนจะถอนหายใจ มันยิงรัวขนาดนั้น แต่กระสุนไปไหนกันหมดวะ เอาไปฝากธนาคารหรือไงกัน

    กริ๊ก!! กริ๊ก!!! เสียงช่องคัดปลอกกระสุนที่ดังแว่วเข้าหูมา ทำให้ผมสะพายปืนไว้ที่ด้านหลัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาสุดลม

    เป้าหมายหลบหนีออกไปแล้วครับผมกล่าวใส่วิทยุสื่อสาร ก่อนจะไต่จากตึกลงไปด้านล่าง เพื่อใช้การเคลื่อนที่แบบแฝงตัวแทน (สไนเปอร์อยู่ในกล่องสะพาย)

    แต่สิ่งที่ผมบอก รู้สึกว่าพวกเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าใจกัน

    เสียงช่องคัดปลอกกระสุนมันขัดลมเปล่าๆน่ะ ดังติดต่อกันแบบนั้น คงไม่ใช่คนยิงแล้วเมื่อนำปัจจัยเรื่องความแม่นยำในนัดหลังๆ ผสมกับเวลาการยิงที่ดูถี่ขึ้นจนผิดสังเกต ผมก็มั่นได้เลยว่า ฝั่นนั้นคงใช้เครื่องมืออะไรบางอย่างแล้วล่ะ

    หลังอธิบาย ผมก็เดินฝ่าฝูงชนที่เที่ยวกันอย่างสนุก โดยนึกว่าเสียงเมื่อกี้เป็นเสียงพลุ ไปจนถึงจุดปิดโซนเขียวที่ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมกันอยู่

    ก่อนที่ผมจะเข้าถึงรถตู้ที่เป็นศูนย์ ผมก็ปรายตาไปเห็นตำรวจท้องที่ ซึ่งดูจากยศแล้วน่าจะเป็นสารวัต กำลังยืนฟังรายงานจากผบ.หน่วยพิเศษที่เข้ามาใช้พื้นที่ของเขตนี้ปฏิบัติการ

    ขอโทษครับ ผมเอามาคืนผมบอกกับหญิงสาวที่ถอดชุดเวสตำรวจออกแล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะผ่อนคลายกันมากขึ้นแล้วนะ

    อืม แย่หน่อยนะ ที่จับเป้าหมายหลักไม่ได้เลยคุณพิมพ์ถอนหายใจตอบ แล้วรับอาวุธไปจากมือ ก่อนจะเช็คอุปกรณ์ที่นำมา

    ถึงภารกิจจะไม่สำเร็จเพราะมีมือที่ 3 แต่เจ้าหน้าที่ไม่ตายก็ดีแล้วครับผมคิดไว้เช่นนั้นจึงบอกออกไป

    ถึงจะไม่ตาย แต่หัวใจมันเจ็บจี๊ดเหมือนกันนะ ที่ถูกผู้ชายฟันแถมยังหนีไปได้อีกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวออกมาลอยๆ ส่งผลให้เพื่อนร่วมงานหัวเราะออกมาได้หลังจากตึงเครียดกันมานาน แหม รู้จักวิธีผ่อนคลายกันด้วยแหะ

    แล้ว ต่อจากนี้ จะไปไหนต่อเหรอคะคุณพิมพ์หันมาถามผม ที่กำลังส่งกระสุนคืนให้

    ผมคงจะเข้ากระทรวงไปรายงานตัวก่อนมั้งครับ ออกหน้าไปเยอะแล้วด้วยซิ

    จริงๆกลับไปก่อนเลยก็ได้ เพราะเราลบรายงานเรื่องที่นายเข้ามาแจมไปแล้ว ต่อให้มีใครสืบก็ไม่มีทางพบว่าเป็นนายแน่ๆผบ.หน่วยกล่าวหลังจากแยกตัวจากสารวัตท้องที่

    เอ่อ ขอบคุณนะครับ ผมเองก็อยากไปพักต่ออีกซะหน่อยอยู่เหมือนกันผมกล่าว หลังจากปรายตาไปเห็นว่าทางเจ้าหน้าที่พิเศษกำลังลบเทปที่มีภาพของผมติดเข้าไปด้วย เป็นการล้างเพื่อไม่ให้ใครได้ตรวจเจอทีหลัง

    ก่อนจากก็ต้องขอขอบใจมากนะ ที่มาร่วมงานเฉพาะกิจกันแบบนี้ ฉันจะไม่ถาม ว่านายมาได้ยังไง และใช้สไนของหน่วยได้ยังไง แต่ว่า ต้องกล่าวชมจริงๆ ทั้งๆ ที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลเพราะอาการบาดเจ็บสาหัสแท้ๆ ถ้าสนใจร่วมงานกับหน่วยเรา ส่งเรื่องผ่านกระทรวงมาเลยนะ ฉันรออนุมัติเสมอผบ.หน่วยกล่าวพร้อมกับจับมือผมเพื่อกระชับมิตร ครั้งหน้าจะซื้อตัวผมมาเตะเหรอครับ แหม

    ขอบคุณครับ ว่าแต่ผมสงสัยว่า ทำไมปืนที่เอามาถึงเป็นปืนซุ่มยิงนั่นล่ะครับผมถามแล้วชี้นิ้วไปยังปืนที่พึ่งคืนไป ตลอดเวลาที่ผมใช้ ผมรู้สึกสงสัยเรื่องขนาดกระสุนตลอด ปกติหน่วยทั่วไปจะใช้สไนเปอร์ขนาดมาตรฐาน (.308 ขั้นต่ำ) กันแล้วทั้งนั้น แต่นี่อะไร ทั้งเป็นแบบเซมิ ซึ่งไม่เหมาะกับในเมือง และยังกระสุนที่เล็กเกินกว่าจะทะลวงเป้าหมายอีก ดูยังไงก็ตกเกรดเกินไปแล้ว

    ถ้าพูดถึงทีแรก เราคิดแค่ว่าจะมาจับมือปืนพวกนั้น ไม่ได้หวังจะมาสนับสนุนอะไรแบบนี้เลย แต่ต้องขอขอบใจที่ยังอุตส่าห์เอาปืนแบบนี้มาสนับสนุนให้จนได้นะผบ.หน่วยกล่าวพร้อมกับขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่รู้ว่าอะไร ทำให้ผมรู้สึกว่าพวกเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลยแหะ

    ครับ ว่าแต่ เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในโรงแรมนั่น พบอะไรบ้างมั้ยครับเมื่อไม่อยากบอก ไม่รู้ก็ได้ฟะ ผมเลยหันไปถามเรื่องอื่นแทน

    เรื่องนั้น ถามจนท.ที่ยังอยู่เถอะ ผมต้องไปรายงานเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อน ออ คุณพิมพ์ ผมฝากทำรายงานเรื่องนี้ด้วยนะผบ.หน่วยกล่าวก่อนจะออกรถไปจากพื้นที่แห่งนี้

    นี่ครับ เห็นอยากจะรู้ผลทั้งหมดภายใน ผมเลยทำสำเนาจาก จนท.ท้องที่มาฝากครับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคเดินเอาเอกสารมายื่นให้ เหมือนรู้งาน ผมเลยกล่าวขอบคุณก่อนจะหันไปมองสถานการณ์โดยร่วมอีกเล็กน้อย

    งั้น ผมขอลาก่อนเลยนะครับเมื่อไม่มีอะไรสนุกๆแล้ว กลับเลยแล้วกัน

     

    เป็นเครื่องอัตโนมัติสินะ มิน่าล่ะ เสียงคัดปลอกของมันถึงดังขนาดนั้นต่างกับครั้งแรกลิบลับเลยเฟตที่นั่งอยู่บนรถโดยสารพึมพำหลังจากอ่านเนื้อความในเอกสารจบแล้ว

    เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปค้นห้องนั้น รายงานมาว่า สิ่งที่พบอยู่ก็คือ ปืนซุ่มยิงขนาดใหญ่ ที่ถูกติดตั้งไว้กับเครื่องช่วยยิงอัตโนมัติ ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้มีมูลค่าที่สูงมาก แต่ก็ไร้ประโยชน์ในเวลาเดียวกัน หากคนยิงไม่มีเครื่องมืออื่นๆช่วย ผลตอบรับก็ห่วยแตกสิ้นดี สไนเปอร์คือการยิงนัดเดียวจอด ไม่ใช่ยิงดะแบบปืนกล ถ้าจะยิงแบบนั้น เอาปืนแก๊ปไปส่องกบไม่สนุกกว่าเหรอ

    อะไรนะครับโซเฟอร์หันมาถาม เพราะได้ยินเสียงพึมพำ เฟตเองก็พึ่งนึกได้ว่าตนอยู่กับคนภายนอก จึงทำเนียนไม่สนใจ ก่อนจะนั่งรอเวลาจนกกว่าจะไปถึงที่พักของตัวเอง

     

    ภายในเกม Proxy War หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ฝ่ายรุกรานจากเมืองค้างคาวถอนกำลังออกไป ตอนนี้ก็ผ่านไปกว่า 9 ชั่วโมงแล้ว ภายในเมืองจึงมีการจัดงานเลี้ยงให้เห็นกันเป็นจุดๆ เพื่อฉลองให้กับชัยชนะที่ไม่รู้ความเป็นมา ชนะแบบงงๆนั่นแหละ

    แต่ภายในบ้านเช่าระดับกลางที่พวกชิออนได้เช่าต่อนั้น กลับมีชายหญิงคู่หนึ่งไม่ได้ไปร่วมงานเหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเขา

    ชายหนุ่มที่ใส่ชุดเกราะและประดับด้วยของตกแต่งไปทั่วทั้งตัว ได้เดินเท้าตรงเข้าสู่บ้านพักหลังนี้ด้วยท่าทางที่ห้าวหาญ บ่งบอกว่าเป็นทหารแน่นอน

    ขออนุญาตครับชายหนุ่มที่เข้ามาประตูมาถึงห้องโถง ก้มหัวขออนุญาตกับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาหรูสุดมีระดับ

    เอ่อ เจ้าเมือง ท่านเลอร์อินซาให้ผมมามอบการ์ดเชิญร่วมงานเลี้ยงฉลองครับชายหนุ่มกล่าวก่อนจะยื่นการ์ดที่ขอบขริบด้วยทองให้แก่หญิงสาวที่พยักหน้าอนุญาต

    ขอบใจมาก บุรุษส่งสารหญิงสาวรับมาจากมือนั้น ก่อนจะวางไว้บนการ์ดอื่นๆที่มีความหรูหราไม่แพ้กัน ส่งผลให้ทหารที่มาส่งสารได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะขอตัวลาถอยทัพกลับบ้าน

    นี่ อาธีน่า เธอถูกเชิญไปเป็นรอบที่ 7 แล้วนะ ทำไมยังไม่ตอบรับคำเชิญของพวกนั้นอีกล่ะชิออนที่นั่งอยู่ตั้งแต่แรกแล้วเอ่ยถามขึ้น ขอเหตุผลก็ยังดี

    ทำไมเราต้องไปด้วย ในเมื่อเรื่องมันจบลงแล้วไม่ใช่เหรอ

    มันจบแล้วจริงๆเหรอ อสูรโคโลๆอะไรนั่นยังอยู่ที่นอกเมืองอยู่เลยนี่ชายหนุ่มส่ายหัวให้ อสูร Colossus ยังอยู่นอกเมืองอยู่เลยนะ หากปล่อยให้เลยกว่านี้ไป พวกนั้นอาจจะจัดมีดติ้งกินเลี้ยงกันเหมือนด้านในเมืองก็ได้

    มันจบลงแล้ว สำหรับวันนี้ แต่วันพรุ่งนี้คงไม่แน่ ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมถึงไม่ไปงานเลี้ยงตามคำชวนของเจ้าเมืองอาธีน่าย้อนถามกลับ ทั้งๆที่รู้เหตุผลดี

    เหอะๆ จะไปยังไงล่ะ ในเมื่อถูกล่ามโซ่ติดโซฟา นี่ยังดีที่ขอไม่ให้เอามาครอบปากด้วยนะเนี่ยชิออนตอบ ก่อนจะยกโซ่เหล็กตรงข้อมือมาโชว์ ยังดีที่ฟ้าใสเอาโซ่ยาวมาขึงไว้ให้ ไม่งั้นเซ็งตายเลย

    ชิออนเมื่อเห็นว่าทำยังไงก็ไม่หลุดตนเลยถอนหายใจแล้วหันไปหาอาธีน่า สักพักเขาก็ยิ้มขึ้นมาได้ เมื่อนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้ที่ได้ชื่อว่า เทพีแห่งปัญญา

    เอ่อ ผมขอถามอะไรสักอย่างสิ ท่านเทพธิดาแห่งปัญญาชายหนุ่มเริ่มด้วยเสียงที่จริงจัง ส่งผลให้เทพสาวหันมามอง

    มันเป็นปัญหาที่ง่ายๆ แต่หาคนตอบยากมาก

    ถ้าเราตอบได้ เราจะตอบให้

    ใส่กางเกงในสีอะไรครับคำถามของชิออน เหมือนจะหยุดเวลาของโลกไปโดยพลัน เมื่อเทพสาวใช้มือลูบคางเหมือนใช้ความคิด ก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างอ่อนโยน

    จริงๆแล้ว ตายแล้วกลับไปเกิดใหม่ ตรงจัตุรัสแห่งชีวิต เจ้าอาจจะได้เจอคำตอบที่เพอร์เฟ็คกว่านี้นะแต่คำตอบกลับไม่ได้อ่อนโยนอย่างที่เห็น

    โห ถามเล่นๆ ทำซีเรียสไปได้ ทีตอนอยู่กับพี่ผมไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยชิออนบ่นอุบ

    เรากับเขาผู้นั้น ทำสัญญาต่อกัน การที่เรามาทวงสัญญาคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อักอย่างเราไม่มีพันธะอะไรกับโลกใบนี้นอกจากเขา การที่เราจะเข้าไปยุ่งเรื่องของมนุษย์หรือผู้เล่นมากๆ คงไม่สมควรเท่าไหร่อาธีน่าตอบด้วยรอยยิ้มแบบสไตล์ ก่อนจะดีดนิ้วเบาๆ ส่งผลให้อักขระที่กระจายตัวอยู่เต็มโซ่บนตัวชายหนุ่มสลายหายไป

    ชิออนที่เห็นโซ่ไร้ซึ่งพลังแล้ว ยิ้มก่อนจะกระตุกเบาๆ ส่งผลให้มันขาดตามแรงกระชาก กำลังของผู้เล่น ยังไงก็ต้องมากกว่าของที่สร้างมาเป็นตัวประกอบอยู่แล้ว แต่นั่นเอาไว้ว่ากันทีหลัง หลังจากกระชากพันธะเหล็กออกมาแล้ว ชายหนุ่มก็มองไปยังท้องฟ้าเบื้องนอกหน้าต่าง ที่ทำท่าเหมือนจะตกแหล่ไม่ตกแหล่

    พี่ เข้ามาดูอะไรแปลกๆช่วยผมหน่อยเต๊อะ

    ฝนตกคงไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่สำหรับท้องฟ้าสีแดงชวนสยองนี่ ความรู้สึกเวลามองมัน กลับอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย

    อาธีน่าที่เดินออกจากห้องโถงรับแขก ตอนนี้เธอตรงมายังชั้นดาดฟ้าของบ้าน ก่อนจะเงยหน้ามองเมฆฝนด้วยสายตาเหม่อลอย แม้จะรู้ความนัยของเมฆฝนนี้ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากมองอยู่ห่างๆ

     

    ณ โลกสวรรค์ จุดศูนย์รวมแห่งคนดี หรือคนที่มีสติปัญญา พอจะขึ้นมาได้

    นอกจากโลกมนุษย์จะเกิดสงครามกันเป็นว่าเล่นแล้ว บนดินแดงแห่งนี้เอง สงครามก็คือสิ่งปกติเช่นกัน โดยพวกผู้เล่นนั่นแหละ ที่หาสู้กันเอง

    เรียนท่านมหาเทพ ขณะนี้ กองทัพของท่านฮาเดสได้รุกล้ำเข้าสู่พื้นที่เมืองสวรรค์ชั้นในของโซนที่ 12 แล้วครับผู้เล่นที่เป็นทหารเทพกล่าวรายงานชายผมขาวหงอกที่นอนอยู่บนม้านั่งยาว

    แย่เลยนะ ที่อัศวินของแก กับของฉันต่างกันขนาดนี้ ทั้งๆที่แบกน้ำหนักสู้นะเนี่ยชายหนุ่มที่มีผมสีขาวสว่างหันมากล่าวเยาะเย้ย ทั้งๆที่ดูอายุแล้ว ชายชราแก่กว่าชัดๆ

    เหอะ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพี่ส่งทัพเร็วมาแบบนี้ พวกผู้เล่นหน้าใหม่คงเตรียมตัวได้ดีกว่านี้ล่ะมหาเทพชรากล่าวกับชายหนุ่มข้างๆอย่างให้ความเคารพ แม้ฮาเดสจะดูหนุ่มกว่า แต่พูดตามหลักแล้ว อายุมากกว่าเขาเสียอีก เฮ้อ พวกไม่ยอมแก่ก็อย่างนี้ล่ะ ไปทำศัสยกรรมมาซินะ

    อย่ามาด่าลับหลังนะเฟ้ย แกกับฉันก็เป็นอมตะกันทั้งคู่ หากใช้ร่างจริงๆแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางแก่หรอก ที่แกใช้ก็เพราะแกอยากทำตัวให้คนอื่นเคารพต่างหาก อีกอย่าง พวกที่อยู่ในนรกน่ะ รักบ้านรักเมือง เรียกมาเป็นมา ไม่ใช่เทพแบบพวกนายหรอก แหม เรียกให้มาเสือกก้าวหน้า 5 ถอยหลัง 10 ชาติหน้ายังไงก็เสียเมืองฮาเดสชี้หน้าด่าเต็มที่ แต่สำหรับคนที่ฟังกลับเฉยๆ เพราะฮาเดสเป็นคนปากเสีย คิดอะไรพูดแบบนั้น ไม่เล่นเล่ห์เล่นเหลี่ยมอะไร แถมใจจริงยังใจดี รักพี่รักน้องมากอีกด้วย หากไม่นับนิสัยโรคจิตชอบฟังเสียงคนร้องล่ะก็ ลูกหลานจะรักมากกว่านี้อีกเยอะ

    เอาเถอะๆ ว่าแต่พี่เถอะ จะมากินฟรีอยู่ฟรีไม่ได้นะ ข้าส่งบัญชีไปตามเก็บที่บ้านจริงๆด้วยซูสหันมาพูดเรื่องตรงหน้า เมื่อพี่ชายตนเองคว้าน้ำผลไม้ระดับตำนานของสวรรค์ขึ้นมาดูด แถมยังหยิบแว่นกันแดดมาสวมเพิ่มความเท่ไปอีก หากไม่นับเรื่องนรกมาตีสวรรค์ พวกเทพธิดาคงพากันกรี๊ดแล้วแน่ๆ

    โหย อะไรฟะ แค่นี้ก็คิดตัง วันก่อนแกไปเกี้ยวนางนรกข้าไปตั้งหลายสิบคน ข้ายังไม่พูดเลยนะ เดี๋ยวเถอะ ถ้าข้าบอกเฮร่าแล้ว แกจะไม่ได้นอนบ้านฮาเดสขู่กลับ ก่อนจะหยิบผลไม้เฉพาะบนสวรรค์มากินหน้าตาเฉย

    สำหรับเทพอสูรระดับตำนานแล้ว พวกเขาไม่ได้คิดร้ายกัน เหมือนพวกผู้เล่นหรอก ไอ้พวกนี้คิดกันไปเอง ว่านรกกับสวรรค์ต้องเป็นศัตรูกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้ว พวกอสูรไปมาหาสู่กันเหมือนเพื่อนสนิทแท้ๆ

    อ่ะ แต่จะว่าไปแล้ว ที่ด้านล่างก็รู้สึกไม่ค่อยดีแหะ สงสัยจะเป็นเพราะผู้เล่นเผ่ามารที่เอาอสูรของฮีเฟสตัสมาใช้แน่ๆเลยซูสเปลี่ยนเรื่อง หากเมียรู้ หูยานแน่

    อืม ไอ้หมอนั่นอยู่เผ่ามารสายลูซิเฟอร์ซะด้วยซิ พวกข้าให้เกียรติกันเสมอ ถึงไอ้หมอนั่นจะพาเทพสาวๆลงไปบ่อยๆ แล้วไม่ชวนข้าไปเที่ยวด้วยก็เถอะฮาเดสพยักหน้า เหตุการณ์ในโลกมนุษย์เหมือนไม่สำคัญ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ทั้ง 3 โลกเชื่อมโยงถึงกันหมดนะ

    ว่าไปงั้นเถอะ ว่าแต่ท่านคิดหรือยัง ว่าพวกข้างล่างแพ้จะให้อะไรข้าซูสหันมากล่าวถึงสิ่งที่พนันกันไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน

    ข้าไม่คิดว่าอสูรโคลอซซัส จะแพ้ให้กับกึ่งอสูรของจอร์มุนการ์ดกับพวกเทพชั้นรองตนอื่นๆหรอกนะ แม้จะได้อาธีน่าไปช่วย แต่คงไม่คณามือลูซิเฟอร์แน่ๆฮาเดสยิ้มเหี้ยมตอบ

    งั้นเพิ่มการพนันด้วยสาวน้อยในอ่าง ที่เพื่อนบ้านของท่านแล้วกันนะซูสยังไงก็คือซูส ต่อให้สถานการณ์เบื้องหน้าจะพ่ายแพ้ แต่ขอให้เขาได้สิ่งที่หวังก็เพียงพอแล้ว

    เออๆฮาเดสตัดบทอย่างรำคาญ น้องชายพ่อแม่เดียวกันมีนิสัยหื่นกามมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มาเจอกันอีกทีตอนที่ถูกช่วย มันก็ดันมีนิสัยฟันดะไปทั่วเสียแล้ว ขนาดพี่สาวของมันอย่างเฮร่ายังไม่เว้นเลย นี่ดีนะ เฮสเทียไม่เอาด้วย ไม่งั้น เหอะๆ เซ็งตายเลยกับสวรรค์ยุคของไอ้น้องบ้านี่

     

    ณ อาคารออฟไลน์ ภายในเมืองจันทรา

    เฟตเดินออกมาจากอาคารอย่างงงๆ เมื่อเห็นว่าอาคารเปิดทำการแล้ว แถมภายในเมืองก็เต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งต่างกับตอนที่ออฟไลน์ออกไปแบบสุดๆ

    ผู้เล่นเฟต ได้รับข้อความจากคุณชิออนค่ะเสียงระบบรายงาน หลังจากเท้าแรกก้าวออกจากอาคาร ทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งกลับมาต้องหยุดชะงัก ก่อนจะเรียกระบบขึ้นมาดู

    ข้อความของชิออนที่รายงานสถานการณ์บวกกับขอโทษกางเต็มหน้ากระดาษข้อความ ซึ่งเฟตก็ไม่ได้คิดมากอะไรอยู่แล้ว เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะมองคำส่งท้ายที่ถูกทิ้งไว้ให้

    ปล.ให้ไปที่บ้านพักก่อน

     

    ด้วยเหตุนั้น ตอนนี้เฟตจึงมาหยุดเท้าอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งตนไม่เคยจะเข้าพักเลยสักครั้ง

    เมื่อมาถึงบ้านพักแล้วายหนุ่มกลับพบว่า ด้านหน้าเต็มไปด้วยเหล่าผู้เล่น ไม่ว่าจะหญิงชาย ล้วนแต่มาออกันอยู่ เหมือนรู้ว่าบ้านนี้มีดารามาแจกรายเซ็น ยังดีที่รั้วทางเข้านั้นมีทหารเฝ้าอยู่ ทำให้คนพวกนี้ไม่อาจฝ่าตัณหาในใจ เข้าไปทะลวงหลังคนในบ้านได้

    มีอะไรกันเหรอเฟตที่เนียนมาต่อแถวกับเขาร้องถาม

    บ้านนี้มีเทพตำนาน ที่ได้ชื่อว่าเทพีแห่งปัญญาอาศัยอยู่น่ะ ถ้าได้ยินไม่ผิด รู้สึกว่าเธอจะปฏิเสธคำเชิญไปสังสรรค์จากเจ้าเมืองและพวกเศรษฐีในเมืองนะชายหนุ่มด้านหน้าอธิบายโดยไม่หันมามอง เขามารออยู่ตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเห็นเลย

    แล้ว พวกคุณล่ะ ทำไมถึงมารอที่หน้าบ้านนี้แต่สิ่งที่เฟตสงสัยคือข้อนี้ต่างหาก ส่งผลให้คนข้างหน้าหันขวับมาตะคอกอย่างไม่พอใจ

    ถามอะไรโง่ๆ เทพอุตส่าห์ลงมายังโลกมนุษย์ทั้งที พวกเราก็ต้องมาดูและบูชา เผื่อพวกเขาจะให้พวกเราได้เป็นเทพภายใต้การควบคุมบ้างยังไงล่.....ะคำทั้งหมดถูกกลืนลงคอไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหน้าผู้ถาม

    จะเอาทางลัดไปทำไมกัน หากทำตัวเองดีไม่ได้ ใครจะมาช่วยให้ไปสวรรค์ได้เฟตกล่าวเสียงเรียบ ใบหน้าเย็นชาตามนิสัยปกติ แต่ทางผู้ถูกสอนกลับทำหน้าเอ๋อ ก่อนที่คนรอบข้างจะทิ้งห่าง แล้ววิ่งหายกันไปเลย ไม่รู้เป็นเพราะกลัวหรือรังเกียจกันแน่

    พวกทหารยามที่เฝ้าอยู่ เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น จึงเข้ามาขวางการจลาจลเล็กๆ ก่อนจะรายงานสถานการณ์ให้เฟตทราบ แม้คนพวกนี้จะได้ชื่อว่ามาร แต่สำหรับความช่วยเหลือที่ได้รับ คำว่ามหาเทพยังฟังดูต่ำไปเลย

    เรียนท่านจอมมาร ในตอนนี้ เพื่อนๆของท่านได้ไปยังตึกว่าการของเมืองตามคำเชิญของท่านเลอร์อินซาแล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะไปที่นั่นเลยหรือเปล่าครับ

    อ้าว ไปกินฟรีอยู่ฟรีกันแล้วเหรอ ช่างเถอะ ผมมาใช้สิทธิ์ของตัวเองน่ะ ย้ำ ว่าสิทธิ์ส่วนตัวเฟตกล่าวคำหลังใส่พวกผู้เล่นที่ดูอยู่ห่างๆ

    ด้วยคำพูดสุดเย็นชา บวกกับใบหน้าที่ไม่บอกอารมณ์ ทำให้เหล่าผู้เล่นที่สังเกตการณ์อยู่แตกฮือ จนในบริเวณนั้นไม่เหลือผู้เล่นใดอื่นอีก เฟตจึงพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะชักชวนตัวเองให้เข้าบ้านเสียที ยืนนานๆรู้สึกเมื่อยอยู่เหมือนกัน

    ไม่สนคนอื่นได้เสมอต้นเสมอปลายดีนะคะเสียงทักทายดังขึ้นทันทีที่เท้าของชายหนุ่มย่างเข้ามาห้องโถงขนาดใหญ่

    นิสัยคนเรา เปลี่ยนได้เหมือนกับโทรศัพท์ก็ดีซิครับเฟตยักไหล่ตอบ ก่อนจะทำหน้าฉงน เมื่อเห็นอาธีน่าที่ไปทำผมมาใหม่ หรือช่วงนี้เขานิยมย้อมสีกันล่ะเนี่ย

    เป็นคำพูดที่แปลกดีนะคะเทพสาวหัวเราะเบาๆ ในขณะที่ชายหนุ่มก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน สำหรับคนที่ช่วยเหลือเขา ใบหน้าแบบนี้คือสิทธิพิเศษ ถึงพวกเธอจะไม่ขอ แต่ก็จะให้

    เอ่อ ไปเดินเล่นกันมั้ยคะอาธีน่าเอ่ยเขินๆ หลังถูกชายหน้าตายยิ้มหวานให้ จริงๆถ้าเป็นคนอื่นคงเฉยๆ แต่พอมาถูกยิ้มให้จากคนที่ชอบทำหน้าตายแล้ว ความรู้สึกที่ได้นั้น พูดยากจริงๆ

    ดีครับ แต่อย่าลืม ฝนตกต้องกางร่มนะเฟตกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปหยิบร่มที่อยู่ตรงทางเข้า แต่ทว่า เทพสาวกลับเดินเข้าไปในตัวบ้าน แล้วพาเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า ทำให้ชายหนุ่มทำหน้าเอ๋อ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ เขาเลยเดินนำหน้าตอนออกมาข้างนอกชั้น ซึ่งก็พร้อมกับฝนที่ตกพอดี

    ท่านเห็นนั่นหรือไม่อาธีน่าชี้นิ้วไปยังด้านนอกเมือง แต่ด้วยฝนที่ตกหนัก ทำให้เฟตต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะหยิบสโคปมาส่องดู

    พวกนั้นกำลังฉลองอะไรกันเหรอครับชายหนุ่มถามคนใกล้ตัว หลังจากเห็นพวก Colossus กำลังเงยหน้ามองฟ้าเหมือนฉลอง ร่างเป็นดินทำไมถึงไม่สลายไปฟะ แต่ช่างมันเถอะ

    ตั้งแต่ที่เรายุติสงคราม ผู้เล่นราชาเผ่ามารคนนั้น ก็ทิ้งอสูรยักษ์ไว้กว่าสิบตัว โดยมีทหารคอยเตรียมพร้อมอีกนับหมื่นอาธีน่าไม่ได้ตอบคำถาม แต่เธอเริ่มเข้าเรื่องเลย

    ส่วนพวกนั้น คือกองทัพผู้เล่นนักล่า ที่เราไปหลอกใช้ให้มาช่วยกำจัดมนุษย์ค้างคาว แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็เหมือนกับหอกข้างแคร่ที่ป้องกันไม่ให้พวกเราไปจัดการกับอสูรพวกนั้น

    อาธีน่าอธิบายเสริมขณะชี้นิ้วลากไปมาเป็นการบอกวิธีป้องกันการรบของทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าปล่อยให้อสูรพวกนั้นอยู่อย่างนี้ กำลังใจของผู้เล่นที่อยู่ในเมืองจันทรา จากที่ลดต่ำแล้ว คงจะสั่นคลอนมากกว่าเดิมแล้วท้อใจกันได้ ทว่า จะกำจัดอสูรยักษ์นั่นได้ ต้องใช้บุคลากรที่เก่งจริงๆ ในการกำจัด แต่หากทำไม่ได้ ก็ต้องพึ่งจำนวนคนเข้าว่า

    เมื่อข้อสรุปออกมาแล้ว ผลที่ได้ก็คือ ไม่อาจทำอะไรได้เลย เนื่องจากคนเก่งๆไม่มี แถมจำนวนทหารก็ไม่พร้อมรบ มองยังไง ฝ่ายมืองจันทราก็รอเวลาแพ้เท่านั้น

    หมายความว่า ตอนนี้คือสงครามเย็นที่รอเวลาปะทุสินะพึมพำ ก่อนจะมองสายฝนที่โปรยปรายลงมา คล้ายกับช่วยตอกย้ำคำพูดของเขาได้เป็นอย่างดี

    ส่วนตัวเทพสาวกลับไม่ตอบคำ เธอแค่บอกสถานการณ์และวิธีแก้แล้ว แต่เมื่อฝั่งนี้ไม่พร้อม ต่อให้พยายามยังไง แผนก็เดินหน้าไม่ได้อยู่ดี

    ในสงครามเย็น หากเราทำลายอาวุธหลักใหญ่ๆหรือสำคัญๆได้ เราจะได้กำลังใจจากฝ่ายเรา และลดกำลังใจจากฝ่ายตรงข้ามไปในตัวซินะ งั้น หากผมทำลายยักษ์นั่นได้ กองทัพเมืองค้างคางคงยกทัพกลับซินะครับเฟตพึมพำก่อนจะหันมาถามในประโยคหลัง

    มีความเป็นไปได้สูงค่ะ เพราะอย่างแรก ตอนที่ราชาของฝ่ายนั้นกำลังจะออฟไลน์ ด้วยเต็นท์พิเศษนอกสถานที่ พวกอสูรเหล่านี้ก็เริ่มเกิดความกังวลแล้วว่า จะไม่มีผู้นำที่มีความสามารถในการบัญชาการเหมือนทีแรก

    อย่างที่ 2 ถ้าอสูรยักษ์นั่นถูกทำลายลงหลังจากที่ผู้นำมีความสามารถหายไป กำลังใจของกองทัพคงจะหมด จนทัพพร้อมแตกแน่ๆค่ะอาธีน่ากล่าวหลังจากวิเคราะห์แล้ว

    เฟตได้ยินที่เทพสาวอธิบายก็พยักหน้า เขาเดินมาถูกทางแล้ว เมื่อผู้นำหาย ลูกน้องก็หมดกำลังใจ พอของหนักถูกทำลายไป พวกคนตัวเล็กๆก็ต้องหนีไปตายดาบหน้าในที่สุด

    ผู้เล่นเฟต ได้รับข้อความจากโลกภายนอกค่ะอยู่ๆเสียงระบบก็รายงานเข้ามาทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย จนเทพสาวที่อยู่ในร่มเดียวกันหันมามองด้วยความสนใจ

    ครับเฟตตอบรับอย่างลืมตัว ทำให้ระบบส่งข้อความทั้งหมดมาให้ทันที และสิ่งที่เขาได้รับ นั่นก็คือ ข้อมูลเชิงลึกที่พร้อมเปลี่ยนแนวยุทโธปกรณ์การรบทั้งหมดของเขาไปทันที

    โทษทีที่ส่งมาช้า พอดีรวบรวมข้อมูลให้อยู่ จาก ไนท์ข้อความนำร่อง ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกทึ่งกับความสามารถของเพื่อนคนนี้ ที่ทำงานได้เร็วตามคำขอ และที่สำคัญ นี่มันสำคัญและละเอียดมากๆด้วย

     “ถ้าผมทำลายได้ มันก็จะจบสินะครับ ไอ้สงครามเย็นอะไรเนี่ยเฟตหันมาถามกับเทพสาว ที่เอียงคอมองอยู่ หน้าต่างระบบมีไว้ให้ผู้เล่น เทพอสูรหรือคนในเกมไม่มีสิทธิ์เห็น หากไม่มีเจ้านายอนุญาตให้ดู

    ค่ะ มันสมควรจะเป็นเช่นนั้น ถ้าเราไม่สูญเสียมากเกินไปล่ะก็นะอาธีน่าพยักหน้าตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะยิ้มแล้วเดินเข้ามาจูงมือเทพสาวให้ถอยหลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน

    อาธีน่าถูกชายหนุ่มคนนี้ดึงมาจนถึงห้องนอนแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกสงสัยว่าเขาจะทำอะไร แต่เมื่อถูกนำมาถึงที่นี่ ก็ทำหน้าเป็นกังวล ก่อนจะกล่าวเสียงเบาว่า

    ระ ระ เรายังไม่เคยนะคะสิ่งที่เทพสาวกล่าว ไม่ได้เข้าหูของเฟตเลย ชายหนุ่มพาเธอไปนั่งที่เตียง ก่อนจะไปหยิบผ้าขนหนูมา แล้วนำมาเช็ดเส้นผมสีม่วงของเทพสาวที่เปียกฝนจนชุ่ม

    ฮะฮะฮะ ผมก็ไม่เคยครับ ได้อยู่กับเทพแบบนี้เฟตกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะลูบไล้เส้นผมของเธอด้วยผ้าขนหนูในมือ ในขณะที่เช็ดอยู่ ชายหนุ่มก็พบว่าเทพสาวมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ มันไม่ใช่โกรธ เกลียดหรืออะไร แต่เหมือนกับสับสนมากกว่า เมื่อพบว่าตัวเองคือต้นเหตุนั้น เฟตก็ปล่อยหญิงสาวให้เช็ดตัวกับผมเอง ก่อนจะเขาจะดินไปหยิบชุดมาให้เปลี่ยน เนื่องจากชุดของเธอเป็นสีขาวเบาบาง พอถูกฝนแล้วมันสามารถมองทะลุจนชวนหื่นได้น่ะ

    อาธีน่าที่รับชุดมา ก็เปลี่ยนมันตรงนั้นเลย เนื่องจากเทพจริงๆ เป็นเผ่าที่มีความบริสุทธิ์ทางจิตใจมากๆ ซึ่งต่อให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าของกันและกัน ก็ไม่มีวันรู้สึกอะไร แต่เฟตที่เป็นมนุษย์นั้นไม่ใช่ เขายังมีความรู้สึกแบบคนทั่วไปอยู่ พอเห็นหญิงสาวที่มีความงามสมนางฟ้าปลดผ้าที่ไหล่ออก เขาก็หันไปมองด้านนอกที่ฝนตก พร้อมกับเอาระบบข้อความขึ้นมาศึกษาต่อก่อนแล้ว

    ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังหาข้อมูลอย่างใจจดใจจ่อ เทพสาวที่เปลี่ยนชุดใหม่เสร็จตั้งนานแล้ว ก็มายืนรอ แต่เมื่อเธอเห็นว่าเฟตตั้งใจแน่วแน่จนสมาธิไม่ได้อยู่ในโลก ก็รู้สึกแปลกใจ ปนสนใจ ก่อนจะลองดึงให้ชายหนุ่มตามมา ซึ่งก็เป็นไปอย่างว่าง่ายเสียด้วย

    อ้าว!!เฟตที่รู้สึกตัวหลังจากแผ่นหลังกระทบเข้ากับเตียงนอนนั้น อุทานออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อกี้ยังยืนอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แต่เมื่อเขามองเห็นว่าใครอยู่ด้านหน้าเขา ก็ลอบกลืนน้ำลาย ที่เทพสาวเป็นผู้ผลักเขาล้ม แถมยังค้ำแขนอยู่เหนือตัวของเขาอีก

    สมาธิที่แน่วแน่ ดีในเรื่องช่วยจดจำและพัฒนาความรู้นะคะอาธีน่าสอนยิ้มๆ แต่เมื่อเห็นเฟตทำหน้าค้างอยู่แบบนั้น เธอเลยทำหน้างงบ้าง จนกระทั่ง ชายหนุ่มเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวจึงหลับตาด้วยความตกใจ ตอนแรกกะจะสอนเล่นๆ แต่ไม่นึกว่าฟิลลิ่งจะได้แบบนี้

    หากมีคนบอกว่าเทพไม่สวย ผมคงเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่จะเดินหน้าเถียงแบบเต็มที่เฟตกล่าวขณะเอื้อมมือมาลูบไล้เส้นผมสีม่วงของอาธีน่าที่ปกอยู่บนตัวของเขาตามแรงโน้มถ่วงของโลกและตัวเธอ

    คุณสวยมากเลยครับชายหนุ่มกล่าวชมอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากเข้าไปหาเทพสาว ยังไงซะความสวยของเธอ ก็เป็นถึง 1 ใน 3 ของเทพีที่งดงามที่สุด ต่อให้เฟตไม่สนโลกยังไง ธรรมชาติของเขาก็ยังสั่งการอยู่ดีนั่นแหละ

    ปัง!!! เสียงเปิดประตูที่ดังสนั่น เฟตกับอาธีน่าหันไปมองประตูพร้อมกัน

    เอ่อ ขอโทษผู้เปิดก็คือชิออน หนุ่มหล่อเหลาผู้เรียกเสียงกรีดร้องได้จากทั่วทิศนั่นเอง แต่นอกจากน้องชายตัวแสบแล้ว ด้านหลังยังมีกลุ่มของพวกพรอมกับอสูรของเฟตอีกหลายคน

    ต่อเถอะพี่ ผมไปล่ะชิออนกล่าวก่อนจะปิดประตูลง

    เมื่อประตูปิดแล้ว เฟตก็หันมาทำหน้าฟินกับเทพสาวตรงหน้าต่อ แต่ตัวอาธีน่ากลับเหงื่อตก นี่มันไม่สนโลกเกินไปแล้ว

    ได้ที่ไหนกันยะรอบนี้ประตูถูกเปิดออกด้วยน้ำมือของหญิงสาวผมน้ำเงิน หรือก็คือลีเวียธานนั่นเอง

    เจ้านาย ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ เจ้านายไม่ควรเป็นฝ่ายรับเอลฟ์สาวแนะนำแก้มป่อง ปกติเฟตต้องจับกดซิ ไม่ใช่โดนกดแบบนี้

    บัดสีที่สุดพวกพรอมที่เห็นเหตุการณ์บ่นในทำนองเดียวกัน แต่ชิออนที่ปรายตามาเห็นกลับส่ายหัว หน้าแบบนั้นไม่ใช่โกรธหรอก แต่เป็นพวกกำลังจิ้นสถานการณ์ไปก่อนต่างหาก

    ก็บอกแล้วว่าอย่าเสียงอนาตาเซียตามมาบ้างส่งผลให้เฟตต้องมองซ้ายทีขวาที อสูรทุกตัวเชียร์กันไปคนละทางเลย

     ‘เหรอคะ ทั้งๆที่เมื่อกี้ร้องเชียร์ให้รวบหัวรวบหางอยู่แท้ๆไรน่ากลัวค้านกันเอง ก่อนจะตามมาด้วยการเถียงกันไปมาของ 2 สาว ในร่างเฟต

    หลังจากคุยกันไม่รู้เรื่อง พวกลีเวียธานก็จัดการกระโดดขึ้นเตียงสอนด้วยภาษากาย ส่วนพวกอนาตาเซียก็เลิกเถียงกันแล้ว แต่เปลี่ยนออกมาเป็นทะเลาะกันในร่างมนุษย์ที่ด้านนอกแทน ทิ้งให้ผู้เป็นนายพลิกตัวนอนคว่ำเท้าคางฟังด้วยความเซ็ง ฟิวส์เฟิวหายหมด

     

    เฮ้อ ช่างน่าอิจฉาพวกสายฮาเร็มจริงจริ๊ง ทำไมเราไม่เอาแบบนี้มั่งนะชิออนที่ยืนดูอยู่กล่าวด้วยความอิจฉา ความสวยของพวกอสูรถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมเลย

    อ้อเหรอคะ แล้วไม่ทราบว่าเรื่องที่จูบกับริอิสอะไรนั่น ยังไม่พออีกเหรอฟ้าใสถามยิ้มๆ แต่ออร่าที่ออกมากลับทำให้แฟนหนุ่มขนลุก ก่อนจะถอยห่างไปเรื่อยๆ

    เอ่อเธอคนนั้นไม่ได้จูบนะ เธอดูด (คอ) ต่างหากชิออนปฏิเสธแบบกำกวม ส่งผลให้แฟนสาวยิ้มเย็น ก่อนจะดึงพลังเวทออกมาจนรอบด้านเต็มไปด้วยไอน้ำแข็ง

    งั้น ลองดูดไอติมแก้หนาวดูนะคะฟ้าใสกล่าวพร้อมกับพลังเวทที่ไหลไปปกคลุมตัวชายหนุ่ม ก่อนจะเปลี่ยนคนให้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งอันวิจิตร

     

    ผ่านไป 30 นาที ที่ห้องโถงของบ้านพัก

    เล่นกันนานไปแล้วมั้งพรอมที่นั่งรออยู่กับเพื่อน ร้องถามฟ้าใสที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    สงสัย จะเรียงคิวล่ะมั้งผู้ที่ถูกถามกล่าวเสียงเย็น ในขณะที่สายตาอันแข็งกร้าว ก็มองไปยังแฟนหนุ่ม ที่ตัวเป็นน้ำแข็งอยู่

    แต่ว่า ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ได้เข้าประชุมกับเจ้าเมืองนะคะเธอเรียมกล่าวแนะนำ หากช้ากว่านี้ ปัญหามีแน่ๆ

    ค่ะฟ้าใสพยักหน้าก่อนจะชักชวนให้ทุกคนกลับไปตามเฟตอีกครั้ง ในฐานะผู้มีทักษะสุดโกง ทางเจ้าเมืองจึงเชิญให้มาเป็นวิทยากรพิเศษน่ะ

    เอ๋ ไปกันทั้งหมดนี้จะดีเหรอครับพวกนิคที่ตามติดกลุ่มของเทียร่ามาตั้งแต่ต้นกล่าวถาม

    ไปเถอะ เผื่อหมอนั่นจะเกรงใจคนรู้จักบ้างเทียร่ากล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่กลุ่มเพื่อนๆกลับมองเห็นว่าเธอลอบกัดปาก อาการแบบนี้แสดงว่ากำลังอิจฉาอะไรบางอย่างแน่ๆ

    กลุ่มของพวกเทียร่าผสมกับกลุ่มพวกนิคเดินขึ้นมาจนถึงหน้าประตูห้องนอนใหญ่ซึ่งเป็นจุดที่พวกเฟตอยู่

    รออะไรอ่ะชิออนที่กระโดดตามมาด้วยร้องถาม เมื่อเห็นกลุ่มของตนยืนออกันอยู่ ไม่ยอมเปิดประตูหรือส่งสัญญาณเข้าไป

    อื้มฟ้าใสรับคำเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูด้วยความเกรงใจ นี่ขนาดเกรงใจแล้วนะ ยังไม่เคาะประตูเลย

    เมื่อประตูถูกเปิดออก พวกนิคกับพวกเทียร่าก็ชะโงกมองเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ใช่อย่างที่คาดการไว้

    แค่เฟตแค่นั่งอยู่บนกลางเตียงขนาดใหญ่ มีอสูรนอนล้อมอยู่รอบๆ ส่วนตัวอาธีน่านั้น นั่งโดยใช้หลังของตนชนกับหลังของชายหนุ่ม

    เอ่อ ทำอะไรอยู่เหรอชิออนที่ไม่ค่อยสนโลกพอๆกับใคร ร้องถามขณะกระโดดเข้ามา แม้ตัวจะถูกแช่แข็ง แต่ด้วยความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เขาจึงเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม ถึงจะยากไปหน่อยก็เถอะ

    หาความรู้น่ะพวกอนาตาเซียที่นอนเล่นลุกขึ้นนั่งแล้วตอบ เนื่องจากเจ้านายกำลังซีเรียสกับสิ่งที่เห็น

    ความรู้ชิออนอุทาน เพราะรู้นิสัยของพี่ชายดี คนไม่สนใจจะจำแบบนั้น จะหาความรู้ไปทำไม ขนาดเรียนผ่านไปไม่ถึง 1 นาที เฟตก็ลืมที่ครูสอนไว้หมดแล้ว

    กระดาษพวกนั้นน่ะเหรอฟ้าใสชี้นิ้วไปยังกองกระดาษที่อยู่รอบตัวเฟต ซึ่งอาธีน่ากับผู้ถูกพิงก็พึ่งหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นไปอ่านอย่างรวดเร็ว

    อืมลีเวียธานพยักหน้าให้ ก่อนจะมองกองกระดาษที่หนาพอๆกับประตูห้องนอนนี้

    แล้วจะหาความรู้ไปทำไม ในเวลานี้ สงสัยอะไรถามได้นะริเรียน่าถามและเสนอตัว หากมีอะไรที่อยู่ในวิสัยพอช่วยได้ เธอก็จะช่วย ขอแค่บอกจุดประเด็นมาก่อนก็พอ

    อืม เป็นความรู้เพื่อยุติสงครามน่ะค่ะจาเนียตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ

    ยุติสงครามพวกเทียร่าหันมาอุทานพร้อมกัน ก่อนจะเกาหัวด้วยความมึนงง ถ้าสงครามจบง่ายขนาดนั้น เกมนี้ไม่มีวันได้ชื่อว่าสมจริงสุดๆหรอก เวลาเกิดสงครามทีไร ใช้เวลาเป็นวันๆทุกที

    อืม ตามนั้นเฟตที่พึ่งวางเอกสารในมือกล่าวสมทบในสิ่งที่คนพวกนี้อุทาน

    เรียบร้อยมั้ยคะอาธีน่าถามขณะส่งเอกสารที่เหลือให้

    ลองดูครับ ไม่มั่นใจว่าทักษะของผม กับอาวุธที่ได้มา จะช่วยกันได้มากแค่ไหนชายหนุ่มกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืน โดยมีเหล่าอสูรสุดรักลุกตามมาติดๆ

    เฟตเดินตัดผ่านกลุ่มของเทียร่า ตรงขึ้นสู่ชั้นดาดฟ้าแบบไม่สนใจฝนที่ตกอยู่เลย ชายหนุ่มเดินไปใจกลางดาดฟ้าด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันมามองกลุ่มอสูรที่เขาสั่งให้หลบฝนอยู่ด้านในตัวบ้าน

    เอาแล้วนะครับชายหนุ่มกล่าวกับพวกเธอก่อนจะยกนิ้วขอกำลังใจเพิ่ม ซึ่งพวกเธอก็ยิ้มให้เป็นคำตอบรอบนั้น

    มาใช้สิ่งที่ใช่ และถนัดกันดีกว่าเฟตที่ยืนอยู่ใจกลางสายฝน กล่าวก่อนจะแบมือออกข้างตัว ส่งผลให้อาวุธประจำตัวโผล่ออกมา ก่อนจะขยับขยายไปตามที่ผู้เป็นนายสั่งการ

     

    ที่ด้านนอกของเมือง ค่ายของราชาไทร์ที่อยู่ท่ามกลางอสูร Colossus

    ท่านราชา ทางท่านเสนาธิการที่กลับไปเมืองหลักของเราแล้ว ได้แจ้งกลับมาว่า สถานการณ์ภายในกลับเป็นปกติแล้ว พะยะค่ะชายชราที่เป็นฝ่ายรวบรวมข่าวสารแจ้งข่าวล่าสุดให้ไทร์ฟัง

    ดีมาก เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงสามารถทำให้ทุกอย่างกลับเป็นปกติได้ไทร์กล่าวอย่างยินดีก่อนจะมองสาวใช้เอไอ ที่จัดชุดออฟไลน์ให้ การใช้ของแบบนี้ จะช่วยให้ออฟไลน์ได้ถูกกฎ โดยไม่ต้องเข้าไปในเมืองของศัตรู

    แล้วท่านจะให้ทางเราส่งคำสั่งไปว่าอย่างไรดีล่ะท่านชายชราคนเดิมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าราชาของตนเตรียมออฟไลน์แล้ว

    ให้พวกนั้นยกกำลังพลกลับมาเหมือนเดิม และเตรียมพร้อมจู่โจมในอีก 48 ชั่วโมง ซึ่งเวลานั้นทั้งฉันและร็อคจะกลับมาบัญชาการเองไทร์กล่าวสั่งงาน อีก 48 ชั่วโมงต่อจากนี้ จะเทียบเท่ากับเช้าวันใหม่ ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้เล่นทั่วไปออฟไลน์กลับไปใช้ชีวิตปกติ

    พะยะค่ะชายชรารับคำสั่ง ก่อนจะถอยออกมา เพื่อให้ราชาของตนได้พักผ่อน ทันทีที่ไทร์ล้มหัวลงนอนเขาก็ออฟไลน์ออกไปเพื่อเตรียมตัวจะออนไลน์ในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา

    ชายชราหน่วยข่าวยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินออกจากเต็นท์ของผู้เป็นนายเพื่อมาดูฝนที่อยู่ด้านนอก ราชาสายมารตนนี้สามารถตอบโจทความกระหายสงครามของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเงินทอง หรือสติปัญญา ทุกอย่างล้วนแต่เข้ากันได้หมด

    เท่านี้ เมืองของเราก็ไม่เสียแรงเปล่าที่ยกมาถึงนี้แล้วชายชราหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง

    ฟุบ!!! เส้นแสงสายหนึ่งจากในเมือง พุ่งตรงออกมา เข้าปะทะที่ใจกลางอกของอสูร Colossus ที่อยู่ด้านหลัง

    เปรี้ยง!!! เสียงฟ้าผ่าที่ดังตามมา ทำให้ชายชราที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อ้าปากค้าง เมื่ออสูรยักษ์หงายหลังล้มไปกับพื้น ก่อนจะตามมาด้วยแรงระเบิดขนาดมหึมา ที่กวาดทุกสิ่งที่อยู่ในรัศมีให้หายไปก่อน ซึ่งหลังจากแรงระเบิดนั้นสงบ จากอสูรที่เคยยิ่งใหญ่และยืนตระหง่าน ตอนนี้ก็กลายมาเป็นเพียงกองดินธรรมดาๆเท่านั้นเอง

    เปรี้ยง!!! เสียงที่ 2 ดังตามมา แต่อสูรกลับล้มลงนอนไปก่อนเสียแล้ว บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าลำแสงลึกลับนั่น ไวเหนือเสียงขนาดไหน

    ตูม!!! แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่รอบนี้อสูรเป้าหมายอยู่ด้านหลังของชายชราพอดี พอเกิดการระเบิดขึ้น ชายชราที่อยู่ไม่ห่างมากก็ถูกแรงอัดของระเบิด ฉีกกระชากร่างจนแหลกเหลวไปทันที โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า ในระยะ 40 เมตรรอบตัวอสูร นั่นคือจุดศูนย์กลางของระเบิดดีๆนี่เอง

     

    เสียงอะไรวะชิออนที่กลิ้งซ้ายกลิ้งขวาเพื่อตามกลุ่มตัวเองมาบ่นงึมงำ ซึ่งหลังจากความพยายามบรรลุผล เขาก็ได้พบว่ากลุ่มของตัวเอง มายืนอออยู่หน้าประตูเข้าออกดาดฟ้า

    เปรี้ยง!!! รอบนี้เสียงสายฟ้าดังใกล้สุดๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องแทรกตัวเหมือนหนอนชาเขียว ก่อนจะพ้นกลุ่มคนไปจนพบกับอะไรบางอย่างที่ชวนมึน นั่นก็คือพี่ชายของเขา ที่ตรงไหล่มีเหล็กขนาดใหญ่กว่า 4 เมตร มาประกบเข้าด้วยกัน ทำให้ตรงกลางมีช่องว่าง แต่นอกจากอาวุธตรงไหล่นั่นแล้ว ยังมีเกราะสีขาวที่โยงไหล่ข้างนั้นจนมาถึงช่วงอก เหมือนจะทำมาเพื่อช่วยป้องกันแรงอัดซินะ

    เล่นอะไรกันอ่ะชิออนถามอย่างสงสัย ก่อนจะมองออกไปนอกเมือง แล้วเห็นดอกเห็ดกำลังบานสะพรั่งแข่งกับดอกอื่นๆ ที่เกิดอยู่ก่อนหน้าแล้ว เอ๊ะ ไม่ใช่ซิ เห็ดบ้านไหนจะดำขนาดนั้น แถมขนาดก็ใหญ่เกินกว่าจะเรียกว่าเห็ดเสียด้วย

    ฟี๊ด!!! เสียงเหมือนมีการชาร์ตพลัง ทำให้ชิออนหันกลับมามองตาม ซึ่งเขาก็พบว่าที่ช่องว่างตรงแผ่นเหล็ก 2 อันประกบกันของเฟตมีแสงเกิดขึ้น ก่อนจะตามมาเส้นแสงที่พุ่งหายไปจนมองตามไม่ทัน แถมรอบๆปากกระบอกขนาดใหญ่ก็มีสายฟ้าปะทุอยู่ด้วย

    เป็นการเดินตามทฤษฎีเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้าน่ะเฟตหันมาตอบ ก่อนจะให้เกราะดูดไอความร้อนที่ปากกระบอกให้ออกไปทางด้านหลัง เขาพึ่งรู้ว่า นอกจากอาวุธแล้ว เกราะก็ทำได้

    แม่เหล็กไฟฟ้า ปืนมันมีด้วยเหรอพี่ชิออนเกาหัวถาม ก่อนจะมั่นใจว่า ไอ้สิ่งที่อยู่ในมือพี่ชายตนเองคือปืนแน่นอน ถึงจะงงกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 4 เมตร ก็ตาม

    มีซิครับ ปืนเรลกันไงผู้เป็นพี่ชายหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะดึงพลังและจัดการส่งกระสุนอันเจิดจรัสชวนตระการตาออกไปสู่โลกภายนอก

     

    ผมพึ่งเคยเห็นนิวเคลียร์ครั้งแรกในเกมเลยนะเนี่ย ให้ตายเถอะ คนอะไรมีของแปลกชะมัดคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งมองกลุ่มควันเอ่ยเสียงเครียด

    เอาน่า ขนาดผมยังมีพลังของจอร์มุนการ์ดเลย จะมีใครมีอะไรแบบนี้บ้าง ก็ถือว่าน่าสนใจดีนะชายหนุ่มหน้าตาดีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

    ถ้าเป็นท่านเอริกก็พูดได้น่ะซิ ท่านอยู่สูงบนจุดไปแล้ว แต่พวกผมล่ะชายผมสีส้มที่สะพายขวานขนาดใหญ่กล่าวค้านอย่างไม่เห็นด้วย

    เอาน่า เขาไม่ใช่คนทำอะไรไม่คิดหรอกเอริกผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวแบบตัดปัญหา ก่อนจะมองออกไปนอกเมืองเพื่อดูดอกเห็ดอันสวยงาม

    แต่ว่า จะปล่อยไปแบบนี้เหรอ เขามีทั้งค่าหัวและคนที่อยากจะฆ่านะคะหญิงสาวที่มีสะพายธนูไว้ด้านหลังค้านในความคิดของผู้เป็นหัวหน้า

    แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ จะให้ไล่ฆ่าเขาเหมือนคนอื่นเหรอ ตอนที่เขาล้างเมือง เป็นเพราะเขาอยากช่วยคนของตัวเอง กับเป็นการป้องกันตัวต่างหาก ถึงจะมีอะไรเกินเลยไปบ้าง ก็ไม่ผิดหรอก หากเราได้บอกจุดประสงค์ไปแล้วเอริกหันมาตอบด้วยใบหน้าจริงจัง ส่งผลให้ลูกน้องทั้ง 6 หันมามองเป็นตาเดียว แต่ไม่ได้เถียงอะไร เพราะเห็นว่าจริงอยู่

    แต่ผมว่า เราควรจะทำอะไรที่แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้อยู่เฉยกับเรื่องนี้น่าจะดีนะครับ สมาคมของเราถือเป็นดับดับต้นๆของทวีปตะวันออกแล้ว การทำเมินเฉยคงไม่ดีแน่ชายที่เป็น 1 ใน 6 ของกลุ่มแนะนำออกมา เพื่อสมาคมแล้ว ต้องคิดหาวิธีไม่ให้คนอื่นด่าหัวได้

    ผมมีแล้วล่ะ ด้วยการจะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ในหลายๆ ด้านเอริกตอบด้วยรอยยิ้ม คนพวกนี้รักสมาคมสถาบันเช่นเขาจริงๆ

    แต่ว่า นั่นมันจะทำให้พวกเราถูกมองไม่ดีนะครับ/คะหัวหน้ากิลด์ภายใต้ธงสมาคมดรากอนคิงค้านพร้อมกัน อย่างที่รู้ๆ กันว่า การสนับสนุนคนผิดอย่างออกหน้าออกตา อาจจะทำให้ชื่อเสียงและการยกย่องถูกลดทอนลงไปก็ได้ แล้วผลสุดท้ายอาจเป็นเหมือนกิลด์เดม่อน ที่ถูกมองว่าเป็นกิลด์มาร

    งั้นเราก็มาล้างข้อหาให้เขาสิหญิงสาวอีกคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งรับฟังเงียบๆมานานออกความคิดเห็น

    ก็จริงอยู่ ที่พวกเราสามารถยกเลิกค่าหัวที่สูงลิบของเขาได้ แต่ลบข้อหาทั้งๆที่มีคนรู้เยอะแยะเนี่ยนะ มันไม่ยากหน่อยเหรอ..”แม้จะฟังดูดี แต่ก็ใช่ว่าจะทำกันไม่ได้ อย่างน้อยสมาคมของเขาก็ใหญ่สุดๆ ทว่า หากทำแล้วไม่สะอาดล่ะ จะเสี่ยงกันดีหรือเปล่า

    กลัวอะไรกัน พวกคุณเป็นถึง 6 แม่ทัพมังกรอัศวิน อนาคตราชามังกรก็คงอยู่ไม่ใกล้แล้ว ภารกิจล้างข้อหาให้คนเพียงคนเดียว มันจะทำไม่ได้เชียวเหรอเอริกกล่าวแบบกึ่งดูถูก กึ่งชม แต่นั่นก็คือความจริง ผู้เล่นทั้ง 6 คนนี้เป็นถึงผู้เล่นสายอสูร ที่ได้ชื่อว่า จอมทัพมังกรเชียวนะ จะกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้กันล่ะ  

    เมื่อทางออกถูกเปิดออก หัวหน้ากิลด์แห่งสมาคมดรากอนคิงทั้ง 6 ก็ตอบตกลง ก่อนจะแยกย้ายกันไปหาข้อมูลเฉพาะสายตัวเอง

    เอริกที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง ถอนหายใจให้กับแผนของอาธีน่ากับตัวเขา จริงอยู่ที่เคยพูดว่าอยากจะช่วยเฟต แต่ใครจะนึกว่าเทพแห่งปัญญาคิดแผนใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมากันเล่า แต่ก็ช่างเถอะ สมองระดับนั้น คำนวณอะไรก็คงไม่เกินจริงไปหรอกนะ

    หลังจากให้กำลังใจตัวเองจนพอแล้ว ชายหนุ่มก็หันไปมองดอกเห็นที่กำลังส่งไอดำสูงขึ้นฟ้าไปอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามันดูน่ากลัวไม่หยอก ก็พยักหน้าอย่างชื่นชม ก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

     

    ภายในบ้านพักที่มีความใหญ่พอๆกับปราสาทขนาดกลาง

    เฟตเดินมานั่งบนโซฟาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน การยิงปืนใหญ่แต่ละนัด เขาใช้พลังงานไปเยอะจริงๆ ไม่ว่าจะ EP ในตอนขับกระสุน FP (พลังงานธาตุไฟ) อัดความหนาแน่นที่ใช้ยิง ทุกอย่างล้วนแต่กินกำลังทั้งนั้นเลย

    เหอะๆ สรรหาสงครามมาเล่นนะพี่ชิออนหัวเราะแห้งๆกล่าว อาวุธพวกนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในโลกจริง แต่สำหรับโลกนี้ ดูยังไงก็ไม่เข้ากันเลย ให้ตายเถอะ

    แค่ลองรวบรวมข้อมูลกับทดลองใช้ดูน่ะ ตอนแรกกะจะเอาโทมาฮอร์คแล้วด้วยซ้ำเฟตตอบเรียบๆ ขณะเปิดเสื้อธรรมดาขึ้นดู ก่อนจะพบว่ามันมีเลือดออก ไม่ซิ เนื้อถูกความร้อนกัดออกไปต่างหาก

    ความร้อนที่ส่งผ่านของการยิงในแต่ละครั้ง มากล้นเกินกว่าที่เขาจะรับไหวจริงๆ แถมความร้อนที่เกิดจากวัตถุกับความร้อนที่เกิดจากเวท ยังถือว่าอยู่คนละสายกันด้วย ร่างกายของเขาเลยทนรับความร้อนนี้ไม่ไหว

    มีอะไรเหรอครับเฟตเงยหน้าขึ้นมาถามพวกนิคที่มองมาไม่ยอมวางตา ขณะลอบปิดผ้าลง ดีนะที่ชุดมันเป็นแบบยาว เขาเลยไม่เปิดเผยสภาพร่างกายมาก แต่พูดไปแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ ตอนเปลี่ยนร่างเป็นผู้หญิง ชุดสูทสุดรักดันถูกทำลายไปซะได้ ตอนนี้เลยกำลังมองหาชุดมาแทนใหม่อยู่เหมือนกัน

    เมื่อกี้ มันคืออะไรเหรอครับ ทำไมมันถึงมีเสียงที่น่ากลัวและอานุภาพร้ายแรงแบบนั้น นั่นมันพอๆกับปรมาณูเลยนะครับนิคถูกเพื่อนถีบออกมาเป็นผู้เริ่มคำถาม เฟตจึงพยักหน้าให้ ก่อนจะหยิบเอากระดาษที่ตนทำสำเนาจากข้อความของระบบมาให้พวกนี้ได้ดูกัน

    มันเป็นปืนแม่เหล็กไฟฟ้าครับ (Electromagnets) หรือจะเรียกว่าเรลกันก็ได้ คืออาวุธชนิดนี้จะทำงานคล้ายๆกับ รถไฟหัวกระสุน ที่ใช้แรงดูด กับแรงผลักของแม่เหล็กในการเคลื่อนที่ แต่ในตัวนี้ใช้อัตราการกระทำที่มากกว่า ส่วนกระสุนก็เป็นเหล็ก เพื่อให้อะตอมไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านจากลำกล้องหนึ่งไปสู่ลำกล้องหนึ่งได้ ส่วนหลักการทำงานในเชิงลึกก็ต้องมองไปทีสูตรทางฟิสิกส์ครับ โดยวิสัยทำการที่ไกลสุด เห็นจะเป็น 200 กิโลเมตรนะ

    เฟตอธิบายง่ายๆ แต่พวกนิคที่อ่านข้อมูลประกอบกับทำหน้างง กฎอะไรไม่รู้ มีทั้งแอมแปร์ทั้งแรงลอเนรซ์ นี่มันไม่ใช่วิชาการของนักศึกษาแล้ว

    หากให้พูดถึงตัวจริงๆ กับตัวนี้ ความต่างมันยังมีอยู่นะครับ อย่าเข้าใจผิด โดยตัวปืนจริงๆ มีความเร็วต้นที่ 2500 เมตรต่อวิ ในอัตราส่วน ลำกล้องยาว 10 เมตร ส่วนของผมนี่ อยู่ในส่วน 3 เมตร พอลดหลั่นลงมาก็เลยเหลือแค่ 1000 เมตรต่อวิเองเฟตบ่นก่อนจะหลุดเข้าไปในโลกของตัวเอง พอพูดถึงด้านสงครามแล้วก็ชอบเผลอแบบนี้ล่ะ

    และแล้ว พวกนิคก็ได้มีโอกาสรู้ถึงอาวุธลับสุดยอดของกองทัพทหารของโลก ไม่ว่าจะเป็นอัตราการยิง น้ำหนักของเรือที่บรรทุก หรือแม้กระทั่ง รูปแบบการทำงานของปืน ที่ใช้พลังงานจลในการกระทบเป้าหมาย

    อ้อ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อเสียนะครับ ทุกอย่างย่อมมีดีมีเสีย และของปืนรุ่นนี้ก็คือ พลังงานในการใช้ยิงครับ ปกติของสิ่งที่จะใช้สิ่งที่กินพลังงานแบบนี้ได้ คงต้องเป็นเรือพลังงานปรมาณู หรือมีโรงนิวเคลียร์อยู่หลังฐานแล้วล่ะ

    นอกจากเรื่องพลังงานของมันที่กินมากแล้ว ก็ยังมีเรื่องความแม่นยำซินะ เนื่องจากลูกปืนมีอัตราเร่งภายในลำกล้องที่สูงมาก ทำให้การเล็งเป้าหมายและการคอโทรนปืนเป็นไปได้ยาก ยิ่งมองไม่เห็นนะ ยิ่งแล้วใหญ่เลย

    ถัดจากความแม่นยำก็คงเป็นเรื่องการยิงล่ะนะ ปืนนี้มีข้อเสียที่เป็นวิถีตรงนี่ล่ะ ยิงโค้งก็ไม่ได้ ต้องตรงอย่างเดียวเท่านั้น และอันสุดท้ายในเรื่องข้อเสีย ก็คงเป็นการบำรุงรักษาซินะ อาวุธปืนที่มีแรงเสียดทานสูงแบบนี้ หากวัตถุในการยิงไม่พิเศษจริง ก็ไม่แคล้วต้องเอาไปเก็บหลังจากยิงเล่นๆแน่เฟตส่ายหัวกล่าว ก่อนจะใช้มือซ้ายแตะที่อกขวา แล้วเขาก็พบว่าเลือดมันไหลออกมามากกว่าเดิม แถมยังมากจนล้นออกมาถึงพื้นแล้วด้วย

    พวกนิคกับพวกเทียร่าที่ได้ยินการอธิบายทำหน้าเอ๋อกันไปเลยทีเดียว เพราะใครไม่รู้เรื่องหรือสนใจนี่ ไม่มีทางรู้หรอก แต่เมื่อพวกเขาเห็นเลือดที่ไหลออกมาเป็นน้ำก๊อกของชายหนุ่มก็ทำหน้าสยอง

    ทว่า ก่อนที่จะมีใครได้กล่าวอะไร อสูรของเฟตก็กล่าวออกมาก่อน แถมยังดึงตัวให้ชายหนุ่มที่ได้ฟิลลิ่งให้นั่งลง ก่อนจะเปิดดูแผลด้านใน

    หากไม่ปลอดภัยก็อย่าใช้เลยค่ะไรน่ากล่าวก่อนจะเลียแผลให้อย่างอ่อนโยน ส่วนตัวอนาตาเซียก็ไม่ได้กล่าวอะไร เธอก้มหน้าก้มตาเลียแผลที่เกิดจากแรงเสียดทานของพลังงานยิงกับคนที่เอาตัวเป็นฐานยิงลูกเดียว

    แหม ไม่เห็นเป็นไรเลยครับเฟตที่มีความทดทนต่อการบาดเจ็บที่สูง กล่าวยิ้มๆ แบบไม่มีทีท่าว่าเจ็บเลย ทั้งๆที่ใจจริงๆแล้วกำลังร้องโหยหวนอยู่

    นี่อ่ะนะ ไม่เป็นไรลีเวียธานบ่นใส่ ก่อนจะดึงน้ำสะอาดมาช่วยล้างแผลตามหลังการลงลิ้นของพวกอนาตาเซีย

    เจ้านายเอลฟ์สาวกุมมือกล่าวอะไรไม่ออก ส่งผลให้เฟตที่เห็นหน้าตานั้นอึ้งกริ่มกรี ก่อนจะพยักหน้าสัญญาว่าจะไม่ใช้อีก หากไม่ถึงคราวจำเป็น

    อ่ะชายหนุ่มหลุดอุทานออกมาเป็นคำแรก ส่งผลให้อสูรทั้งหมดหันขวับมามอง ไหนไม่เจ็บไง

    เฟตที่ถูกมองยิ้มให้เฉยๆ และทำหน้าตายไม่บ่งบอกอารมณ์อีก แม้ภายในใจจะร้องโหยหวนว่า

    โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ทำไมน่ารักแบบนี้ แถมดูลิ้นสีส้มอันสุดดึงดูดของไรน่านั่นซิ ดูยังไงก็เชิญชวนให้กินกันชัดๆ แถมอาตาเซียก็เลียแผลเอาๆ  รู้มั้ยเสียวนะเนี่ย นี่ยังไม่นับมืออันบริสุทธิ์ของลีเวียธานที่ลูบไล้ล้างแผลนะ โคตรชวนสยิวเลย แถมหนูจาเนียก็สุดยอด โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่เกรงใจคนรู้จักนี่ จับกดไปแล้วและนี่ ก็คือความคิดสุดหื่นของคนที่ทำใบหน้าราบเรียบเหมือนคนตายได้ตลอดของเฟต

     

    อีกด้านหนึ่ง ภายในเกม

    ร็อคถูกสังหาร กองกำลังของไทร์ถูกหยุดด้วยคนเพียงไม่กี่คนงั้นเหรอ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อจริงๆ ถ้าเราจะออกโรงเองแบบนี้ชายหนุ่มชุดเกราะสีดำสนิทกล่าวกับหญิงสาวผมสีเทาที่อยู่ในอ้อมแขน

    ถ้าคุณจะทำก็ทำเถอะ ไม่มีอะไรที่คุณต้องการแล้วไม่ได้นี่ แล้วยิ่งเรื่องทำลายใครบางคนด้วยแล้วหญิงสาวกลับตอบอย่างเย็นชา ก่อนจะส่งสายตาสีแดงเลือดไปยังท้องทะเลเบื้องนอก

    แหม สมกับที่อยู่กับผมมานานชายหนุ่มโอบหญิงสาวขึ้นมาจูบอย่างไม่อาย ทั้งๆที่ด้านหลังมีคนยืนอยู่เยอะแยะแท้ๆ

    เอ่อ ท่าน….ครับ ตอนนี้กองทัพของเราพร้อมแล้วครับชายหนุ่มที่ใส่ชุดและหมวกแบบทหารเรือเดินเข้ามารายงานแบบให้ความเคารพ ส่วนทหารที่อยู่ด้านหลังคนอื่นๆก็ก้มหัวลงแบบยอมสิโรราบต่อชายผู้นี้ พวกเขานี่ล่ะที่อยู่ด้านหลังน่ะ ชายหนุ่มถอนปากออกมาจากหญิงสาว ก่อนจะร้องสั่งด้วยเสียงที่ดังกึ่งก้อง

    ดีมาก งั้นตอนนี้เรามาบดขยี้เมืองท่ากระจอกๆนี่กันก่อนเถอะ เมื่อเสร็จแล้ว เราจะเคลื่อยพลไปถล่มเมืองเริ่มต้นของทวีปตะวันออกกัน ตัดต้นไม้ต้องตัดที่โคน เมื่อต้นไม้เสียรากโคนที่สำคัญไปแล้ว ต้นและใบก็ไม่อาจอยู่ยงต่อไปได้หรอก

    แด่จักรวรรดิของท่าน พวกเรายอมสละแม้ลูกเมีย เพื่อสืบทอดให้ตระกูลของท่านคงอยู่ต่อไปเหล่าทหารที่เข้มแข็งโห่ร้องตามคำสั่งนั้น เหมือนไม่กลัวความตาย ส่งผลให้เรือลำอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ส่งเสียงออกมาด้วยความฮึกเหิม ก่อนจะดังต่อกันไปเป็นทอดๆ

    ส่งผลให้เมืองท่าที่ถูกกองเรือนี้ปิดล้อมอยู่ ถึงกับสั่นไหวไปทั้งเมือง แม้จะได้ชื่อว่า เมืองท่าหลัก 1 ใน 5 ทั้งหมด แถมยังขึ้นธงว่าสมาคมดรากอนคิง แต่เมื่อมาเจอกับศัตรูที่มีเศรษฐกิจ และการทำสงครามเป็นอันดับต้นๆของประเทศแล้ว พวกเขาก็คิดได้อย่างเดียวว่า ไม่รอดแล้ว

    กองกำลังแห่งจักรวรรดิ บุกโจมตีพวกมัน หากใครยอม ก็ปล่อยให้มันอยู่ไปโดยไร้ค่า แต่หากขัดขืน ก็สังหารให้ไร้ค่ายิ่งกว่าหมาชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงเรือขนาดใหญ่ร้องสั่งการด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาร ก่อนที่คำสั่งจะไปถึงเรือลำหนึ่งที่มีดาดฟ้ากว้างยาว ซึ่งบนนั้นมีอสูรบินได้หลายสิบหลายร้อยตัว ตั้งท่ารอรับคำสั่งอยู่

    กองบินของเราจงสำแดงเดชให้ท่านจักรพรรดิดู ว่าพวกเราฝึกมาเพื่อท่านขนาดไหน กองเรือบรรทุกเครื่องบิน เคลื่อนพลชายที่อยู่บนเรือลำนี้ร้องสั่ง พร้อมกับกองบินอสูรนับร้อยที่ออกตัวแทบจะพร้อมเพรียงกัน นี่แหละ คือคำเรียกที่ว่า เกิดมาเพื่อสิ่งนี้

     

    ด้านเมืองจันทรา

    หลังจากกองไฟของกระสุนเรลกันสงบลง เหล่าสายสืบที่ถูกสั่งให้มาตรวจสอบก็ต่างอึ้งพูดอะไรไม่ออก เมื่อไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใด ในพื้นที่นี้กว่า 3 กิโล

    พวกเราจะเอายังไงกันต่อดีครับ ตอนนี้เหลือแค่พวกเราแล้วนะผู้เล่นชายรายงานข่าวกลับไปยังกองบัญชาการซึ่งเป็นกองกำลังผู้เล่นระดับสูงที่ส่งมาเพื่อ จัดการกับเฟตโดยเฉพาะ

    เหลือแต่การเจรจาแล้วล่ะมั้งเสียงตอบกลับพร้อมกับสั่งให้ถอนกำลังกลับไปเตรียมความพร้อม เพื่อขออนุญาตเข้าเมืองไปเจรจาอะไรเล็กน้อย

    หลังจากสายสืบของกองกำลังผู้เล่นแห่งสมาคมวิถีธรรมนักสู้ถอนกำลังกลับไป สายสืบของกองกำลังอื่นๆก็สลายตัวกลับไปรายงานข่าวความคืบหน้าเช่นกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×