ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #44 : ตอนที่ 44 เมื่อเจอราชาเธอเรียม ที่มาพร้อมกับ...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.84K
      31
      16 ก.ย. 56

    ลูกกิลด์ 4 เทพีพิทักษ์ที่อยู่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าพากันอึ้งตะลึงค้างเมื่อเห็นเฟตล้มผู้นำของพวกเธอได้เพียงการโต้กลับครั้งเดียว

     

    วางไว้เถอะค่ะไรน่ากล่าวกับเจ้านายหนุ่มเบาๆ แล้วหันไปพยักเผยิบไปทางชุดที่นั่งที่ถูกนิคจัดไว้ให้ก่อนแล้ว แต่แท้จริงแล้วอนาตาเซียทำสัญลักษณ์บอกต่างหาก

    เฟตนิ่งคิดสักพัก เมื่อพบว่าตัวเองยังมีงานที่ต้องทำอยู่อีกก็พยักหน้า แล้วนำร่างหลับใหลหมดสติของหญิงสาวไปนอนที่เก้าอี้ยาวที่ถูกจัดเรียงเป็นเตียง

    ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดที่นอนให้หญิงสาวตามความเคยชินที่เคยทำให้ผู้หญิงคนอื่นๆ เสียงโวยวายที่นอกห้องส่งผลให้เขาต้องหันไปมองแล้วขมวดคิ้ว ไอ้พวกนี้รบกวนเวลาคนจะหลับจะนอนนะเนี่ย แต่คนที่เขาได้เจอกลับไม่ใช่พวกนักโวยวายอย่างที่เห็น แต่เป็นหญิงสาวผมดำยาวใบหน้าอ่อนหวาน คาดเดาอายุแล้วน่าจะประมาณ 20 กว่าๆได้

    เราเธอเรียมมาพบพวกท่านแล้ว กลุ่มอัศวินเธอเรียมเอ่ยทักทายกับเฟตเป็นคนแรก ส่วนพวกที่ติดตามมาก็พากันซุบซิบนินทา อืม พวกที่โวยวายมาจากไอ้พวกนี้นี่เอง

    ราชาพวกนิคอุทาน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้ชื่อเธอเรียมเหมือนกับที่ระบบรายงานว่าเป็นราชา

    ใช่ เราคือผู้ปกครองเมืองนี้ชื่อว่า เธอรียม แต่ขอให้เรียกเราว่าราชาเถอะอัศวินหญิงสาวพูดด้วยเสียงไพเราะ ในขณะที่ผู้บัญชาการก็เดินตามหลังมา เฟตจึงรู้ว่าทำไมราชาเธอเรียมจึงไม่มีท่าทีร้ายต่อเขา เพราะผู้บัญชาการคนนี้คงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้วนั่นเอง ว่าเขาเป็นคนดี ฆ่าทหารทิ้งเป็นการป้องกันตัวชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง

    ท่านอยากจะถามอะไรเราหรือ ถึงต้องมาทำให้เรื่องวุ่นวายบานปลายแบบนี้เธอเรียมหันมาถามเฟตด้วยน้ำเสียงคงเดิม

    เมื่อถูกถามเช่นนี้ ชายหนุ่มก็เปิดหน้าต่างระบบไร้ประโยชน์หยิบถุงที่ตนเก็บอสูรไว้ออกมา แต่ในขณะที่เฟตค้นหาถุงใส่ของอยู่ กลุ่มทหารองครักษ์ก็ทำเสียเรื่องด้วยการยิงอาวุธลับที่อยู่ใต้เกราะแขนมาทางเขา เพื่อเป็นการป้องกันการตุกติก ชายคนนี้เป็นตัวอันตรายไม่ควรปล่อยให้ได้ลงมือก่อน

    เคร้ง!!! เสียงอาวุธลับที่เป็นเข็มบินปะทะเข้ากับอะไรบางอย่างก่อนที่จะเข้าถึงตัวเฟต ชายหนุ่มที่ตกเป็นเป้าลอบสังหาร ปรายตามองด้วยหางตา

    ถ้าเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พวกคุณตายไปแล้วเฟตกล่าวเสียงเย็นชา พร้อมกับสะมัดมือลง ส่งผลให้กองทัพดาบเกือบร้อยเล่มที่ล้อมไว้อยู่ทั้งห้องเปิดเผยตัวให้ได้รับชมกัน เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้จะไม่ทำอะไรบ้าๆอีก เขาก็หันกลับไปค้นหาของต่อแบบไม่สนใจ

    กลุ่มทหารและผู้เล่นต่างตื่นตกใจกับดาบนับร้อยที่ร่ายล้อมรอบห้องท้องพระโรง นี่ถ้าเฟตเอาจริงพวกเขาได้ตายไปแล้วแน่ๆ

    เพราะแบบนี่สินะ ท่านถึงต้องลงมือเธอเรียมเข้าใจทันทีว่าทำไมเฟตถึงลงมือฆ่าคนมากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคนพวกนั้นหวังจะฆ่าเขาก่อน

    เฟตไม่สนใจคำเธอเรียม แต่เมื่อเขาหาของที่ต้องการเจอก็ยกมาให้เธอดู แล้วถามอย่างเย็นชา

    ผมอยากจะถามว่า คุณจะนำโสมพวกนี้ไปที่ไหน

     “ระ ระ เราราชาเธอเรียมอึกอักทันที เมื่อเจอสายตาอันคมกริบของเฟต จ้องมองมาเหมือนต้องการทะลวงทุกสิ่งทุกอย่างที่พยายามปิดกั้นความรู้ของเขาอยู่

    นายอย่ามาจ้องราชาของพวกเราแบบนี้นะกลุ่มผู้เล่นที่ติดตามพยายามฝ่าความกลัวด้วยการต่อว่า เมื่อเห็นเฟตจ้องมองราชาแบบไม่เกรงใจในฐานะอันสูงส่งของเมือง

    เชอะ ถ้าราชาของข้าจะเอายัยคนนี้มาเป็นชายายังถือว่าดีเกินไปเลย เจ้าพวกมนุษย์อนาตาเซียร้องว่าเข้ามาในขณะที่ตนเองยังคงรอสนับสนุนเฟตเป็นระยะๆเหมือนเดิม แต่ผู้ที่ถูกสนับสนุนแค่ปรายตามามองอย่างงงๆ เขาจะไปเอาใครเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

    สามหาว เธอกล้าดียังไงมาพูดจาดูหมิ่นราชาพวกเราถึงเพียงนี้ผู้ติดตามหลายคนพูดร้องว่าอนาตาเซียกันระงม

    ข้าสามารถดูหมิ่นได้มากกว่านี้อีก ถ้าพวกเจ้ายังปากมากกับข้าและเขาถึงเพียงนี้อนาตาเซียคำรามกลับ ปีกมังกรและหางตะวัดขวับให้ดูว่า เธอไม่ได้แต่งคอสเพลย์ ของพวกนี้มันของจริง

    เฮือกเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเอาจริง กลุ่มคนที่ดราม่าก็เงียบกริบไปทันที ถ้าเกิดพลั้งปากมากกว่านี้มีหวังได้ตายหมู่แน่

    เชอะอนาตาเซียชิปากแบบหงุดหงิด กับพวกมนุษย์นี่มันน่ารำคาญสุดๆเลย คิดได้เช่นนั้นก็เข้าไปลากเฟตให้มานั่งที่บัลลังก์พร้อมกับนั่งทับไว้ด้วย โดยไม่สนใจเลยว่าเจ้านายกำลังรอคำตอบจากเจ้าของปราสาทที่แท้จริงอยู่

    แหม อย่าใจร้อนไปซิคะจิ้งจอกสาวกระดิกหางอารมณ์ดีขณะเดินมานั่งที่ตักของเฟตอีกข้าง เป็นผลให้พวกผู้เล่นและกลุ่มผู้ติดตามหันมาปรึกษากันระงม ว่าจะเอายังไงกับหมอนี่ดี

    แล้วเมื่อมีการคิดขึ้นได้ เหล่าผู้ติดตามก็เดินเข้าไปหาราชาพร้อมกับกระซิบบอกสิ่งที่คิดให้เธอได้ตัดสินใจ

    เทพเหรอคะเธอเรียมพึมพำ

    ท่านราชา ใช้อำนาจของท่านเลย มนุษย์คนนี้ต้องพ่ายให้กับเทพแน่ๆผู้ติดตามหลายๆคนยุยงเธอเรียมไปกันใหญ่เพราะหวังว่าอำนาจของเธอจะสังหารผู้เล่นที่อาจหาญเป็นศัตรู

    แต่ว่า เขาก็ไม่ได้มาร้ายนะเธอเรียมหันไปกระซิบ ถ้าเฟตเอาจริงพวกเขาตายกันทั้งหมดแล้ว แม้ชายคนนี้หน้าตาจะเย็นชาจนเดาอารมณ์ไม่ถูก แต่ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เธอคิดว่าแบบนั้น

    หึ ทั้งรุกราน และมีอสูรนอกรีตตั้งหลายตัว นี่ยังไม่หนักพอหรือไงกันท่านราชากลุ่มผู้ติดตามยังคงเป่าหูในทำนองเดียวกัน นั่นคือเฟตยังไงก็ผิด

    แต่แม้ตนจะเป็นถึงผู้ปกครองเมือง แต่เธอก็ยังไม่มีอำนาจเท่ากับพวกทีมบริหารเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่พ่อตนครองบัลลังก์

    เพื่อประชาชนของท่าน และอัศวินของท่าน ท่านเชื่อเราแล้วทำตามที่พวกเราบอกเถอะกลุ่มผู้ติดตามออกความเห็นตรงกัน ด้วยเป็นกลการเมืองพวกเขาจึงเสนอให้เธอเรียมปกครองเมืองโดยใช้ตำแหน่งว่าราชา เพื่อให้ไม่มีเจ้าชายหน้าไหนมาสู่ขอ ซึ่งผลก็ทำให้ตลอดมาเธอเรียมต้องขึ้นปกครองเมืองเพียงคนเดียว โดยที่พวกเขาคอยทำการชักใยอยู่เบื้องหลังมาตลอด

    ค่ะเธอเรียมทิ้งความแข็งแกร่งที่แสดงออกมา โดยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาแทน ตลอดมาเธอพยายามจะหลุดพ้นไปจากสงครามการเมืองนี้แล้ว ถึงขนาดที่ยกกิลด์ 4 เทพีพิทักษ์ขึ้นมาเป็นทหารภายใต้ธงราชา แต่ผลสุดท้ายก็โดนพวกเหล่าผู้นำกดดันเอาไว้ จนพวกผู้นำกิลด์อย่างพวกเทียร่าไม่มีสิทธิ์เลื่อนระดับไปถึงขั้นลอร์ด ถ้าเกิดพวกผู้บริหารพวกนี้ไม่ยอม

    การเลื่อนระดับเหล่านี้จะใช้ความสามารถของทักษะ หรือไม่ก็ตำแหน่งเป็นสำคัญ เมื่อผู้เล่นมีเลเวลตันที่จุดใดจุดหนึ่ง อย่างเช่นเฟตที่หยุดเลื่อนเลเวลตอนที่ถึง 20 นั่นก็เพราะยังไม่สามารถข้ามขั้นไปได้ ไม่ต่างกับระดับ 50 ที่ต้องมีภารกิจหรือความสามารถในการเลื่อนระดับ

    ในนามแห่งผู้ปกครองเมืองแห่งนี้ ข้าเธอเรียม ขอเรียกท่านผู้ที่เราเคารพนับถือ และรักษาพรหมจารีเพื่อท่านมาตลอด ขอให้ท่านเทพีโปรดลงมาสถิต ณ ดินแดนมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือข้าด้วยเถิดเธอเรียมร่ายการอัญเชิญด้วยความฝืนใจ ตั้งแต่อดีตมาเธอมักจะถูกบังคับให้อยู่ใต้คำว่า เพื่อประชาชนตลอด ซึ่งครั้งนี้ก็เหมือนกัน

    เธอเรียกเทพที่สักการะเป็นประจำมาค่ะไรน่ากระซิบที่ข้างหูของเจ้านาย ที่ทำตัวเหมือนคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งๆที่เรื่องเริ่มบานปลายเข้าไปทุกทีๆ คนพวกนี้พูดอะไรพวกเขาได้ยินหมดแต่ทำไม่สนใจอยู่นี่ไง

    หะเฟตพึ่งรู้ตัวเลยหันมาถามไรน่า โดยที่ปากอยู่ห่างกันไม่ถึง 2 เซน

    เทพที่ราชามนุษย์เรียกมา ส่วนใหญ่ไม่ได้มุ่งสังหารค่ะจิ้งจอกสาวกระซิบกล่าว แล้วจุมพิตเฟตอย่างรวดเร็วด้วยความหมันไส้กับหน้าตาซื่อ (…) ของเจ้านายตัวเอง ถ้ามองจากคนนอก คนผู้นี้อาจจะดูหน้าตาเย็นชา แต่พอเข้าใจความหมายของสายตากับสมองแล้ว เขาคนนี้กลับไม่เคยคิดอะไรหรือโกรธแค้นอะไรเลย เป็นคนที่แปลกจริงๆ

    อื้อกลับเป็นไรน่าที่ถูกรุกกลับจากยอดนักสังหารวิชายอดนักจูบ อนาตาเซียเห็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้เปรียบ ตนก็เลยคว้าคอเฟตไปจูบบ้างเพื่อไม่ให้ตนเสียเปรียบ แต่กลายเป็นว่าเธอต้องมาเจอยิ้มสังหารของเจ้านายแสนเจ้าเล่ห์ เห็นนิ่งๆเงียบๆ แต่กลับหื่นสุดๆอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    โห ไม่เดือดร้อนอะไรเลยจริงๆแหะ 2 สาวนั้นพวกนิคที่ช็อคนิ่งเหมือนโดนสต๊าฟหันมาคุยกันเบาๆ เมื่อเห็นพวกเฟตยังคงนั่งกินขนมหวานผ่านปากกันต่อไปโดยไม่สนสายตาของใครเลยสักนิด

    เหอะๆ มนุษย์สุดแปลก จิ้งจอกสุดเจ้าเล่ห์ มังกรสุดโหด ถ้าสนใจคนอื่นก็คงอยู่ร่วมกันไม่ได้หรอกแอนจิลล่าวิเคราห์ออกมา เมื่อมองเห็นหางตาอันเยาะเย้ยของอนาตาเซีย นี้นานขนาดนี้เธอยังไม่ลืมอีกเหรอ

    กลุ่มผู้บริหารที่อยู่หน้าทางเข้าท้องพระโรงต่างกำหมัดแน่นอย่างเคืองแค้นเมื่อเห็นว่าผู้รุกรานไม่ได้หวาดกลัวต่อเทพที่กำลังจะอัญเชิญลงมาเลย ซึ่งจริงๆเฟตไม่ได้ให้ความสนใจอยู่แล้ว จะมาก็มา ถ้าไม่มาเขาจะไปเอง

    พลังศักดิสิทธิ์ที่พวกอนาตาเซียสัมผัสได้ ถูกหลอมรวมกันที่ด้านหน้าของผู้นำเมือง พลังสีทองเริ่มไหลวนลงมาจากแสงสีนวลของดวงจันทร์ โดยทีค่อยๆปรากฏเป็นร่างกายเหมือนมนุษย์แต่มีสภาพโปร่งใส

    เจ้าเรียกข้ามา มีเรื่องอะไรรึ ราชินีผู้รักษาพรหมจารีเสียงดังขึ้นพร้อมกับร่างขนาดมนุษย์ที่ค่อยๆปรากฏออกมาเหมือนกับหมอกบางๆ

    เรียนท่านเทพี ผู้รักษาพรหมจารี ข้าในนามผู้ดำรงตัวตามท่าน ข้าขอให้ท่านโปรด..”เธอเรียมพูดตะกุกตะกัก เมื่อต้องมาพบเจอกับเทพโดยตรง

    หยุดเถอะ เจ้าอย่าเอาความเดือนร้อนของคนเพียงไม่กี่คนมาพูดเลย เจ้าจงเอาความต้องการจริงๆของเจ้าออกมาเทพผู้ปรากฏตัวพูดออกมาก่อนที่เธอเรียมจะพูดจบ

    ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าเธอเรียมพูดด้วยใบหน้าอ้อนวอน ชีวิตของเธอเหมือนเป็นตุ๊กตาให้ใครมาคอยชักใยเล่นตลอดมา

    เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ข้าถึงต้องมาเทพสาวพูดกับเธอเรียมจบก็หันไปเห็นเฟตที่มองมาเหมือนกับกำลังคุ้นหูว่า เจ้าของเสียงเมื่อกี้เป็นใครกันแน่

    อาธีน่าชายหนุ่มอุทานออกมาเมื่อเห็นหน้าเทพองค์นี้ตรงๆ

    เราบอกแล้ว ว่าพวกเราต้องได้พบกันอีกครั้งอาธีน่าทักทายด้วยรอยยิ้ม ต่างกับ 2 อสูรสาวที่นั่งตักอยู่ พวกเธอหน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเฟตไม่ยอมให้กินขนมหวานต่อ

    เหมือนจะทำผิดพลาดไปเลยนะพวกเรากลุ่มผู้บริหารหันมากระซิบกัน เมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ของเทพที่ถูกอัญเชิญมากับจอมมาร จะไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปคิด

    ท่านมหาเทพซูส เป็นกังวลกับเหตุการณ์นี้มาก ท่านเลยให้เราลงมาจัดการอาธีน่าที่ได้ยินหันมาตอบแทน กลัวว่าการเงียบจะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง

    ท่านเทพี ไม่จัดการเจ้านอกรีตนั่นเลยครับกลุ่มผู้นำฝ่ายต่างๆ พากันกล่าวด้วยความมั่นใจว่าอาธีน่าจะช่วยจัดการจอมมารแบบที่พวกตนเข้าใจ

    พวกเจ้ามีไม่มีสิทธิ์ว่าเขาหรอก พวกเจ้าเองก็ทำเรื่องนอกรีตไม่แพ้กันอาธีน่าตอกกลับกลุ่มผู้นำเสียงเรียบ สภาเทพได้พูดคุยกัน แล้วมติคือให้เธอลงมาจัดการ

    เธอเรียม ถ้าเกิดข้าอยากจะขอให้เจ้าถอนคำสั่งที่เป็นบทลงโทษของเขา เจ้าจะทำได้หรือไม่อาธีน่าหันมาพูดกับผู้ปกครองเมือง นี่คือสิ่งสำคัญที่ซูสแนะนำลงมาเลย (จริงๆอาธีน่าแนะนำ แต่ซูสชิงเอาหน้าในสภา)

    ไม่ได้นะท่านราชา เจ้าปีศาจนั่นสังหารทหารและอัศวินไปหลายร้อยคนแล้ว ท่านจะยกโทษให้ไม่ได้นะกลุ่มผู้บริหารรีบค้าน เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าอาธีน่าเข้าข้างใครกันแน่

    จริงๆถ้าเจ้านายข้า จะฆ่าพวกเจ้าอีกสักสิบยี่สิบคนก็คงจะดีนะ โทษก็เหมือนเดิม ไม่เพิ่มไม่ลดอนาตาเซียหัวเราะกล่าวขณะดึงดาบแม่ทั้ง 9 ให้มาปักอยู่ข้างๆ เมื่อดาบกลับมาแล้ว เธอก็สั่งพวกลูกๆ ไปบินลอยล้อมไว้รอบตัวพวกผู้บริหาร จนพวกนั้นไม่กล้าแม้จะอ้าปากร้องขอให้ช่วย

    ได้ค่ะ ท่านเทพีอาธีน่าเธอเรียมสามารถตอบรับได้ด้วยตัวเอง หากไม่โดนกรอกหู ครั้งนี้เธอกล้าที่จะขัดขืนกับคำของผู้บริหารก็เป็นเพราะว่าอาธีน่ารับปากแล้วว่าจะช่วยเธอ

    ผู้เล่นเฟตและกลุ่มอัศวินนิค ถูกยกเลิกโทษทัณฑ์ที่ราชาเธอเรียมประกาศไว้ค่ะเสียงของระบบดังลั่นไปรอบเมือง เหล่าผู้เล่นต่างสนใจกับเสียงของระบบเนื่องจากมีไม่มากนักที่ราชาเมืองจะยกเลิกโทษหรือค่าหัวใครง่ายๆ แล้วยิ่งเป็นถึงผู้รุกรานด้วยแล้ว

    ขอบคุณท่านมากอาธีน่ากล่าวขอบคุณเธอเรียมแล้วเดินเข้าไปหาเฟตที่ยังคงถูกไรน่าและอนาตาเซียนั่งตักไว้เพื่อไม่ให้ลุกไปหาเทพสาว

    เราเองก็ขอให้ท่านไม่ถือโทษกลุ่มมนุษย์ที่คิดและหวังจะสังหารท่าน

    อาธีน่าพูดกับเฟตด้วยสายตาอ้อนวอน งานจริงๆของเธอคือเรื่องนี้ล่ะ

    ผมไม่โกรธหรอกครับชายหนุ่มยิ้มตอบแบบอ่อนโยน เขาเคยติดหนี้บุญคุณอาธีน่ามาหนแล้ว เมื่อเธอขอเขาทำไมจะให้ไม่ได้กันล่ะ

    ขอบคุณท่านมากเทพสาวค้อมหัวขอบคุณแล้วถอยห่างออกไป ในขณะที่แสงจากฟากฟ้าก็สาดส่องมาที่เมืองจนดูคล้ายกับตอนกลางวัน

    มนุษย์ 380 ที่ถูกผู้เล่นเฟตสังหารได้รับการฟื้นคืนชีพจากมหาเทพซูสค่ะ

    ผู้เล่นเฟตได้รับค่าเครดิตคืนค่ะ มหาเทพซูสเพิ่มค่าเครคิตให้ +50 ค่ะ

    แค่นี้เรื่องบาดหมาดใจระหว่างราชินีเธอเรียมและท่านเฟตคงหมดลงแล้วนะคะอาธีน่าหันมากล่าวกับชายหนุ่มบนบัลลังก์ หลังจากข้อตกลงของเธอกับซูสบรรลุผล

    ชิ เจ้าได้บาดหมางใจกับข้าแทนนะสิไรน่าและอนาตาเซียพึมพำออกมาพร้อมกัน เป็นผลให้อาธีน่าหัวเราะเล็กน้อยและป้องปากกลั้นยิ้ม

     

    เอ่อ เทพและมารจะข้ามสายพันธ์หรือไงกันวะแม้จะโดนหยุดไว้จนไม่กล้าพูด แต่พวกผู้ติดตามก็ยังคงพยายามที่จะสื่อสารกันจนได้ ด้วยการใช้เท้าเขี่ยสะกิดหลังเพื่อนๆ และนี่คือที่มาของรหัสมอส

     

    ทางด้านนรก เมื่อมีการคืนชีพให้กับคนที่ตาย เจ้าของสถานที่เลยบ่นแบบไม่พอใจ

    ซูส แกกล้าดียังไง มาปล่อยมนุษย์พวกนั้นให้กลับไปชายผมขาวคำราม หลังจากวิญญาณมนุษย์ที่พึ่งตายสลายกลับไปร่างตัวเองหมด

    แปลกจริง ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงกลับไปได้ ทั้งๆที่มาถึงนรกแล้วชายผมดำหน้าตาหล่อเหลาพึมพำด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ชายผมดำที่หน้าตาเหมือนกันรับฟังเฉยๆ

    เจ้าพวกนี้ตายเพราะพลังของเจ้าเฟตน่ะสิ อำนาจในตัวนี้จึงมีผลต่อต้านกับพลังอำนาจของพวกเราด้วย ยื้อยังไงก็ไม่ยอมอยู่หรอกฮาเดสหันมาตอบด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ตั้งแต่เป็นจ้าวนรกมายังไม่เคยโดนหยามถึงขนาดนี้เลย

    ท่านจะทำเช่นใดเล่าชายผมดำที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถาม

    เมื่อฝ่ายเทพกล้าหยามข้าด้วยการเล่นลิ้นแบบนี้ ข้าก็จะเอาบ้างล่ะนะ ฮิปนอส เจ้าจงไปปล่อยภารกิจของอาวุธเจ้าให้แก่ผู้เล่นสายมารกับผู้เล่นสายมนุษย์ทั่วไปได้แล้ว ใครสนใจเข้าเผ่าเรา ให้ภารกิจคลาส D ก็พอแล้วฮาเดสหันไปสั่งงานกับชายผมดำที่พึ่งเอ่ยปากถาม

    ต้องการผลเช่นไรฮิปนอสเลียบถามดู นอกจากต้องการทหารแล้ว ชายผู้นี้ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน

     “ทำให้ซูสสูญสิ้นขุนพลสำคัญฮาเดสตอบตามที่คิด แล้วหันไปมองตัวเลขของมนุษย์ที่หายไปจากนรก

    ท่านจะให้ผู้เล่นของฝ่ายเรา สังหารผู้เล่นของฝ่ายซูสอย่างนั้นรึชายฝาแฝดทานาทอสคิดตามที่ได้ยิน

    ใช่ เจ้าเองก็ควรไปส่งข่าวให้ขุมนรกทั้ง 7 เตรียมตัวบ้างแล้วล่ะฮาเดสกล่าวโดยไม่หันมามอง แม้พวกเมพอสูรระดับตำนานจะไม่ยุ่งหรือให้ภารกิจที่ทำร้ายศัตรู แต่เขาที่ถูกฝ่ายตรงข้ามหยามหน้าแบบนี้ การจะทำตัวนิ่งเฉยต่อไปก็ดูจะไร้น้ำยามากเกินไปล่ะนะ

    มาทำสงครามตอนนี้เรื่องจะไม่วุ่นวายหรือท่านฮาเดสฮิปนอสเอ่ยถามแบบเย็นชา

    เวลานี้ให้วุ่นวายสิดี ไทฟอนมันส่งผู้เล่นของมันมาที่นี่แล้ว ซูส ต้องกระวนกระวายใจมากๆแน่ ส่วนเจ้าเซตก็ส่งกองกำลังผู้เล่นแฝงตัวมาที่เมืองนี้แล้วด้วย แค่นี้เราก็ได้เปรียบแล้วฮาเดสกล่าวออกมา เมื่อรับรู้ถึงพลังที่เป็นเศษเสี่ยวของเทพมารสายต่างๆ

    แล้วกับตัวอาธีน่าเอง ท่านจะให้ทำเช่นไรทานาทอสถามออกมา ทำให้ฮาเดสเงียบลงไปเพื่อใช้ความคิด

    แค่ตอนนี้ทหารเทพของนางที่ทางเหนือก็จะบ้าตายกับพวกบ้าสงครามของโลกิและเทพธิดาเฮลอยู่แล้ว พวกเราไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้นางเหนื่อยไปเองฮาเดสกล่าวพร้อมกับหันไปดูข้อความข่าวที่ได้จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือเทพเหนือความตาย จ้าวนรกโอซิรีสนั่นเอง

    หลังจากอ่านข้อความ SMS เสร็จ ฮาเดสก็พึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    อาเป๊ป ศัตรูคู่อาฆาตเทพราห์ก็สนใจในตัวเฟตด้วยเหรอเนี่ย

    ฮาเดสกระพริบตาปริบๆ เหมือนไม่เชื่อว่าจ้าวมังกรแห่งรัตติกาลของแดนใต้จะสนใจในตัวคนอื่นนอกจากผู้เล่นที่เป็นทหารให้กับเทพราห์อีก

     

    หลังสิ้นแสงแห่งฟ้าไป เหล่ามนุษย์ที่ถูกเฟตสังหารก็ฟื้นกลับมาอีกครั้งในสภาพงงงวยเมื่อเห็นว่าตนกลับมาอยู่ในร่างตนเองที่จำไม่ผิดพึ่งรู้ว่าตาย ผู้เล่นที่อยู่ในบริเวณนั้นตอนแรกกะจะวิ่งหนีแล้วแต่พอเห็นว่าเป็นแสงจากฟ้า จึงรู้ว่านี่คือการใช้อำนาจฟื้นฟูความตาย

    เรื่องจบแล้วสินะเกล้ากล้าหันมายิ้มถามเพื่อนของตนที่ยังคงตื่นตาตื่นใจกับความอลังการงานสร้างของผู้นำเผ่าตนเอง (ซูส)

    ยังครับ ผมขอถามคำถามเดิมกับเธอก่อน คุณเธอเรียม คุณจะเอาโสมทรีบากส์ไปไหนเฟตหันมาถามคำถามเดิม ซึ่งทำให้หญิงสาวอึ้งแล้วหันไปมองกลุ่มบริหารเล็กน้อย

    พวกปากมากนั้นเป็นคนเสนอสินะหลังจากมองดูคนมามาก เฟตเลยเดาท่าทีที่เหมือนหุ่นเชิดของเธอเรียมออก เธอคงไม่ได้เป็นคนต้นคิดเรื่องทั้งหมดแน่ๆ

    พวกนายเอาโสมทรีบากส์ ไปไหนและทำอะไรเฟตถามคำถามเดิมอีกครั้ง ขณะที่ไรน่าและอนาตาเซียลุกขึ้นให้ เพราะรู้ว่าชายคนนี้กำลังจะลงไปเค้นถามเอาเอง

    เรากลุ่มผู้บริหารเหงื่อตกเมื่อเจอเฟตรุกไล่มาเรื่อยๆ จะถอยหลังก็ไม่ได้เพราะโดนดาบจ่อหัวเตรียมเสียบอยู่ ตอนนี้จึงไม่ต่างกับหมูในอวยเตรียมโดนดาบเสียบเลย

    เราสังหารไปหมดแล้วกลุ่มผู้บริหารยอมออกมา แต่ด้วยมีพิรุธเฟตจึงคว้าดาบ 1 ใน 9 ตามไปเป็นการกดดันสภาพจิตใจชนิดหนึ่ง แถมถ้าตอบไม่ดี เขานี่ล่ะจะฟันมันเองกับมือ ในข้อหาหมันไส้ที่อยู่กินอย่างสบายบนหลังผู้หญิง

    ให้ตอบอีกครั้งชายหนุ่มถามเน้นแบบเย็นชา

    พวกเราเก็บเอาไว้ ตามข้อแลกเปลี่ยนกับครึ่งเทพคนนึงชายที่อยู่ด้านหน้าสุดพูดออกมาอย่างหวาดกลัว เมื่อเห็นไอความมืดจากดาบของเฟตกำลังไหลออกจากมัน วิ่งเข้ามาหาตนเหมือนมีชีวิต

    ก็ปล่อยซะสิชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับมาหยุดที่ด้านหน้าของคนพวกนี้ อนาตาเซียเห็นเจ้านายได้ฟิวส์ตนเลยค้นหาของในตัวเจ้านาย เมื่อพบบัลลังก์ที่ซ่อนอยู่ในเกราะ ก็ลากมันออกมา ตั้งไว้ที่ด้านหลังของเฟต ซึ่งชายหนุ่มที่รู้ว่าข้างหลังตนมีอะไรอยู่ก็นั่งลงแต่โดยดี เพราะยืนถามนานๆ มันเหมื่อยอยู่เหมือนกันนะ

    พวกเราใช้เวทกักขังแล้วใช้เวทเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ในที่ ที่เขาได้บอกหมดแล้วครับกลุ่มผู้บริหารกล่าวพร้อมกัน

    เวทเคลื่อนย้าย อ้อ.... แล้วมันคืออะไรวะแม้จะคิดเหมือนกับรู้จัก แต่ชายหนุ่มก็ลืมไปแล้วว่ามันคืออะไร แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้เขากำลังทบทวนว่าเหตุและผลมันคืออะไร ทำไมเมืองนี้ถึงโดนอะไรแบบนี้

    มิน่าล่ะ ทำไมพวกนี้ถึงแค้นเคืองเมืองนี้ขึ้นเรื่อยๆ

    เดี๋ยวสิ พวกนี้พึ่งมาจัดการมอบภารกิจให้ผู้เล่นเอามาส่ง ถ้าอย่างนั้น แล้วพวกอสูรก่อนหน้านี้ล่ะ พวกเธอมาทำไมกันล่ะเฟตหยุดตัวแล้วปรายตาไปมองเธอเรียม เมื่อเห็นว่าเรื่องยังไม่ลงล็อค อะไรที่มันเข้าหัวแล้ว เขาต้องเคลียร์ให้หมด ไม่งั้นมันจะคาใจ

    เราขอตอบออกมาได้หรือไม่เธอเรียมถามออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเฟตมองมาถี่ ทั้งที่จริงๆแล้วเขาแค่คิดไม่ออกเท่านั้นเอง เลยต้องหามองอะไรที่เจริญตากว่าผู้ชาย

    เหตุที่อสูรบุกเมือง เป็นเพราะเราเธอเรียมก้มหน้าตอบแบบรับชะตากรรม เธอเองก็มีความผิดต่อเมืองไม่แพ้กลุ่มผู้บริหาร

    หะ หมายความว่าไงครับเฟตถามแล้วเท้าคาง เสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้น แหม ใช้ได้ มุมนี้ต้องถ่ายรูปลงเฟส

    เราจับเธอมายังไงล่ะคะเธอเรียมตอบด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมอย่างเห็นได้ชัด

    จับมา แสดงว่ายังมีชีวิตงั้นเหรอครับชายหนุ่มยังคงถามต่อ

    ใช่ค่ะหญิงสาวพยักหน้าตอบ แล้วหันไปยังกลุ่มผู้บริหารที่ทำหน้าโล่งใจที่ตนรอด

    เดี๋ยวๆ พวกนายยังมีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกมาก ยังไม่ต้องโล่งใจไปเฟตหันมาใส่เสียงเข้มกับกลุ่มผู้บริหาร ที่กำลังสะกิดรหัสมอสใส่หลังเพื่อนเต็มที่ด้วยความดีใจ นี่ถ้าไอ้คนข้างหน้าไม่กระเด็นมาเขาคงไม่รู้ว่าถูกเพื่อนใส่รหัสแบบเต็มเท้าแน่ๆ

    อาธีน่าที่รู้เรื่องราวทั้งหมดดีอยู่แล้ว นิ่งเงียบไม่ได้บอกอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเฟตสนใจเรื่องไหน เขาจะเข้าไปเสือกจนกว่าจะรู้เรื่องทั้งหมด และแน่นอน เขาจะไม่ปล่อยให้มันจบแบบค้างคาแน่ ชายคนนี้เป็นคนที่แปลก

     

    หลังจากเธอเรียมพาเฟตมาถึงที่พักส่วนตัวที่อยู่ภายในตัวปราสาท ชายหนุ่มที่มาถึงแหงนหน้ามองต้นไม้ขนาดใหญ่ด้วยความแปลกใจ

    เราเก็บได้ที่นอกเมือง เมื่อ 2 วันก่อนค่ะเธอเรียมกล่าว ทำให้เฟตถึงกับงง ต้นไม้สูงเกือบ 6 เมตร กับเธอเรียมที่สูงไม่ถึง 170 เซน ไปแบกกันมาได้ยังไงฟะ

    ตอนนั้นเราเจอเธอสลบในร่างดรายแอดส์ (ผู้หญิง) ค่ะ เราเองก็ไม่รู้ว่าเขาคืออะไร แต่ด้วยความสงสารเราจึงพาเขามารักษาตัวที่ในเมืองนี้เธอเรียมกล่าวจบก็ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ถ้าเธอไม่พาอสูรตนนี้มา เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

    คุณออกมาคุยกับผมหน่อยได้หรือไม่เฟตตะโกนถามต้นไม้ยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า

    “….” เงียบสนิทไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

     “หลังจากเธอหายดีแล้ว เธอก็กลับไปอยู่แต่ในรูปร่างนั้นตลอดเลยค่ะเธอเรียมบอกทำลายความเงียบขณะชี้ไปที่ต้นไม้ด้านหน้า

    เรียกดีๆไม่มาสินะอนาตาเซียหัวเราะในคอ แต่ก่อนที่เธอจะได้เธอจะทำการโค่นต้นไม้ อาธีน่าก็พูดแทรกซะก่อน

    ออกมาคุยกับเราที บุตรแห่ง เทรนท์เทพสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่มนวล แต่ผลก็ยังไม่ดีขึ้นเลย

    ‘….’เนื่องจากสัญญาณ 3G ยังไม่คลอบคลุม กรุณาไปหยอดเหรียญตู้เพื่อติดต่อไปตามสายค่ะ

    แหม แม้แต่ท่านเทพียังไม่ได้ผลเลยเหรอคะอนาตาเซียได้ทีก็เหน็บแนมไป แต่อาธีน่ายิ้มให้เฉยๆ

    ฮะฮะ สงสัยเธอจะลืมซื้อรายเดือน เลยติดต่อไปไม่ถึงเฟตหันมาหยอดมุกกับพวกอนาตาเซีย ที่กำลังถอนหายใจ เมื่อเห็นเจ้านายกำลังซื่ออีกแล้ว

     

    เลิกเล่นมุขได้แล้ว นายรู้ว่าควรทำไงไม่ใช่เหรออนาตาเซียท้าวเอวกล่าว เดี๋ยวตัวปัญหาจะหาเล่นอะไรแปลกๆอีก

    เมื่ออสูรตนเองไม่เล่นด้วย เฟตเลยหันกลับมามองต้นไม้ตรงหน้า โดยดวงตานั้นเปลี่ยนเป็นเส้นตรงแบบมังกร เมื่อดวงตาชนิดพิเศษออก เขาก็สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงของอสูรตรงหน้าได้

    นี่มันร่างของหญิงสาวที่อยู่แฝงภายในต้นไม้ซูบเซียวเหมือนขาดสารอาหาร อาการหลับลึกเหมือนจำศีลแบบนี้ มิน่าทำไมถึงปลุกไม่ตื่น

    เฟตล้วงมือหยิบอสูรโสมทรีบากส์ออกมา พอได้พ้นจากปากถุงเท่านั้นแหละ อสูรตัวน้อยก็เตรียมพร้อมกระโจนลงพื้นเพื่อมุดดินหายไป แต่ยังดีที่ผู้ดึงออกมาหยิบหางได้ทัน

    ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ได้ไปน่าชายหนุ่มยกอสูรตัวน้อยขึ้นมาพูด แล้วพยักเพยิบไปที่ต้นไม้ตรงหน้า โสมตัวน้อยหยุดการเคลื่อนไหวแล้วหันกลับมาจ้องเฟตด้วยความแปลกใจ เมื่อชายคนนี้มีความคิดแปลกๆ ไม่เหมือนคนทั่วไป

    โสมทรีบากส์มองตามมือขิงชายหนุ่มไป หลังจากได้เห็นเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์โสมตัวน้อยก็รีบกระโดดเข้าไปหาที่ต้นไม้ต้นนั้น พอโสมตัวน้อยเดินเข้ามาถึง เธอเริ่มทำการสลายร่างกายส่วนหนึ่ง เพื่อฟื้นฟูพลังให้เพื่อนที่ไม่ได้รับพลังจากป่าอาถรรพ์เป็นเวลานานจนร่างกายสูบผอม

    ธิดาแห่งเรา ท่านเป็นเช่นใดบ้างเป็นครั้งแรกที่เฟตรับรู้คำพูดของทรีบากส์ หรือจริงๆก็คือ พวกเธอไม่ได้พูดกันให้เขาได้ยินเลย แต่น่าแปลก ที่พวกเธอไม่ขยับปากแต่กลับสื่อสารหากันได้

    เรายังไม่ตายอีกหรือนี่ดรายแอดที่พอมีสติและพลังกลับมาบ้างพึมพำเหมือนพึ่งตื่น

     ‘ท่านราชาเทรนท์เป็นกังวลมากท่านรู้หรือไม่ ทำไมท่านถึงออกมาเที่ยวเล่นไกลเช่นนี้โสมน้อยทรีบากส์พูดว่า แต่ด้วยตัวที่เล็กกระจ่อยร่อยกับฝ่ายตรงข้ามที่ใหญ่โตมโหฬาร ภาพที่ออกมาจึงดูเหมือนหมาเห่ารถถัง

    ข้าโดนโจมตีน่ะสิหญิงสาวที่อยู่ในต้นไม้ตอบ ขณะสังเกตเห็นเหล่าผู้คนที่อยู่ตรงหน้า อสูรทรีบากส์อุทานแล้วชี้ไปทางเธอเรียม

    เธอคนนั้น

     เฟตได้ยินเรื่องทั้งหมดดี จึงเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ยักษ์แล้วเอ่ยถาม

    คุณจำเธอได้เหรอครับ

    คำถามของชายหนุ่มส่งผลให้อสูรที่สิงในต้นไม้ตกใจ ที่เห็นว่ามีมนุษย์กล้ามาพูดกับตน ทั้งๆที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย เนื่องจากอสูรที่สิงในต้นไม้ต่างได้รับฉายาว่า ต้นไม้ปีศาจ

    ‘……..’อสูรตัวน้อยพูดภาษาที่เฟตไม่เข้าใจกับอสูรร่วมเผ่าพันธุ์ หลังจากซุบซิบนินทาได้สักพัก อสูรที่อยู่ในต้นไม้ก็เดินออกมาโดยปรากฏตัวออกมาเป็นร่างของหญิงสาวผมเขียว ใบหน้างดงามอ่อนช้อยจนน่าอุ้มกลับไปปลูกกินที่บ้าน

    เขาช่วยชีวิตข้าไว้จากครึ่งเทพผู้มีจิตใจแปรปรวนพรายสาวพูดด้วยท่าทีอ่อนน้อมต่อชายตรงหน้าเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่ามนุษย์คนนี้ไม่ได้หวังเป้าสังหารเผ่าพันธุ์ตน แต่เป็นบุคคลเพียงไม่กี่คนในล้านคนที่ค้นหาความจริงของเรื่องนี้

    เฟตได้ยินคำให้การดังนั้นก็หันไปมองหน้าเธอเรียมเป็นเชิงถามว่ารู้จักกันรึเปล่า

    ระ ระ เราไปเจอเธอกำลังถูกชายครึ่งเทพทำร้ายอยู่ที่ชายป่า ขณะที่เรากำลังจะไปพักผ่อนที่บ้านพักน่ะเธอเรียมตอบตะกุกตะกัก สายตาของชายคนนี้ไม่ว่าตอนไหนก็น่ากลัวจริงๆ แม้ตอนอยู่กับพวกอนาตาเซียจะดูอ่อนโยนขึ้น แต่กับคนอื่น ไหงถึงดูน่ากลัวเหมือนจะกินพวกเธอเข้าไปแบบนี้ล่ะเนี่ย

    เดี๋ยวนะ ครึ่งเทพเหรอเฟตพึ่งสะกิดใจกับคำที่อสูรให้การมา

    ใช่คะ บุรุษผู้นั้นมีผมสองสี ผมดำด้าน ทองด้านค่ะเธอเรียมตอบในขณะที่พรายสาวก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าถูกต้องตามนั้น

    แล้วเขาจะทำร้ายคุณไปทำไมครับเฟตหันไปถามพรายสาวต่อ ข้อมูลเริ่มพันกันแบบแปลกๆแล้วซิ

    ข้าไม่ทราบเหมือนกัน อยู่ๆครึ่งเทพคนนั้นก็เข้ามาใช้พลังทำร้ายข้าซะก่อน แต่ข้าเดาว่ามีอยู่ 2 เหตุผล คือ 1 พลังของข้า และ 2 ดินแดนอสูรของบิดาข้าพรายสาวตอบตามที่ตนเองคิด กฎของเผ่าแทบทุกเผ่า ล้วนแต่มีกฎในการแย่งชิงอำนาจและดินแดนทั้งนั้น ไม่เว้นเทพมาร หรือแมลงสาป

    แล้วรู้มั้ยครับ ว่าเขาคนนั้นอยู่ที่ไหนเฟตหันมาถามเธอเรียมและพรายสาว เรื่องนี้ชักจะคุ้นตัวคนร้ายมากขึ้นทุกทีๆ แล้ว

    เราส่งคนมีฝีมือตามล่าแล้ว เขาแจ้งมาว่า บุรุษคนนั้นหนีไปยังประตูข้ามแดนแล้ว (ตึกออฟไลน์)”เจ้าเมืองสาวตอบตามตรง ทุกวันนี้เธอยังคงให้สายสืบคอยเฝ้ารายงานผลอยู่

    เฟตได้ยินดังนั้นก็ขอชื่อที่และหาคนนำทาง แต่ก่อนที่เขาจะได้ไปตามจุดที่เธอเรียมบอก เขาก็นึกเอะใจถามพรายสาวก่อน

    แล้วปกติคุณพักอยู่ที่ไหนครับ ทำไมวันนั้นชายคนนั้นถึงไปทำร้ายคุณได้

    พรายสาวนิ่งเงียบแล้วเรียงลำดับเหตุการณ์เล็กน้อย จากนั้นก็อธิบายพร้อมกับแสดงท่าทาง

    วันนั้นข้าไปพักที่ชายหาดติดป่าเหนือด้วยรูปร่างนี้ ขณะที่ข้ากำลังพักผ่อนเราก็พบ บุรุษคนนี้เดินเข้ามาด้วยท่าทีอิดโรยมาก เผ่าข้าแต่เดิมแรกไม่ได้ดุร้ายอะไร ข้าเลยเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง แต่ชายคนนั้นกลับมาทำร้ายข้าแทนหลังจากพูดคุยกันได้ไม่กี่คำพรายสาวกล่าวจบหน้าตาก็บ่งบอกถึงความเคืองแค้น อำนาจของเธอสามารถทำให้ต้นไม้รอบๆ ที่พักของเธอเรียมสั่นไหวได้เลยทีเดียว

    แล้วพลังของเขา เป็นรูปแบบไหน อะไรยังไงเหรอครับเฟตถามต่อ รู้สึกว่าข้อมูลของบุรุษคนนี้จะขึ้นอยู่ในแบล็คลิสแล้วล่ะมั้ง

    ธาตุน้ำกึ่งเทพค่ะสิ้นคำกล่าวของพรายสาว ชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกจากที่นั่นทันที

    แหม ไม่นึกเลยว่า นายจะหนีมาที่นี่นะร็อค แต่เอาเถอะ เราได้สนุกกันต่อแน่เฟตคิดขณะฉีกยิ้มแบบแปลกๆ ที่มุมปาก ร็อคคนเดียว ทำให้เขาวุ่นวายได้ถึงขนาดนี้

    แล้ว....... มันจะมาตอนไหนหว่าขณะที่เดินกลับออกมาจากที่พัก เฟตก็พึ่งนึกออกถึงความเป็นจริง

    ตอนนี้ ตี 3 แล้ว ถ้าเป็นเวลาข้างนอกก็คงจะ 5 โมงกว่าๆแล้วสินะ

    ขอโทษค่ะ ท่านจอมมารเสียงเรียกดังขึ้นที่ด้านหน้าทำให้ชายหนุ่มต้องเลิกคิด แล้วหันกลับมามองที่ต้นเสียง

    มีอะไรเหรอครับเฟตถามอย่างสุภาพเมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิง แถมยังพากันมาเยอะซะด้วยซิ

    คือว่า ..... มีเคล็ดลับความเก่งอะไรเหรอคะ ทำไมถึงฆ่าคนได้มากมายขนาดนี้หญิงสาวที่เป็นหัวหน้าทีมเป็นผู้เริ่มต้นประเด็นที่พวกเธอสงสัยนี้

    ความลับเหรอ คงมีไม่มากหรอก คนฆ่าคนน่ะ มีวิธีเยอะแยะจะตายไป แถมทุกวิธียังง่ายพอที่จะสังหารเพียงในครั้งเดียวด้วย แต่ว่า ..... ต้องรู้ว่าเรียนและทำไปเพื่ออะไรสิ่งที่เฟตตอบไปเป็นปรัชญาชนิดหนึ่ง ที่ผู้ฟังต้องไปตีความหมายเอาเอง และหาเอาเอง

    พวกเราต่อสู้เพื่อปกป้องนะคะ แถมยังมีพลังพอที่จะสังหารคนได้ด้วยภายในดาบเดียวหญิงสาวคนหนึ่งยกมือตอบปรัชญานี้

    เพราะพวกเจ้าเห็นว่ามันไม่สำคัญเท่าชีวิตน่ะซิอนาตาเซียกับไรน่าที่ตามติดเฟตมาตั้งแต่แรกกล่าว พวกอัศวินสะดุ้งโหยง เพราะไม่ได้สนใจแต่แรก

    แต่เจ้านายของเราคนนี้ ทำทุกอย่างด้วยความเป็นกลาง เขามองทุกอย่างมีค่าเหมือนกันหมดค่ะจิ้งจอกสาวยิ้มหวานตอบ ผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบมองเกมเป็นเพียงของบางอย่าง แต่เฟตกลับมองเป็นชีวิตจริง ผลที่ออกมาจึงต่างกันโดยสิ้นเชิง

    พวกเจ้าอยากจะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อราชาหญิงนั่นน่ะเหรออนาตาเซียถามกลุ่มอัศวินที่อยู่ตรงหน้า ในขณะที่อาธีน่าซึ่งตามมาด้วยแต่แรกคอยรับฟังเฉยๆ

    ค่ะ เขาคนนั้นเป็นคนให้ความสำคัญกับผู้หญิงทุกคนคะ แล้วเขาเองก็เป็นคนเสนอให้ผู้นำของพวกเรามารวมตัวกันกลุ่มผู้เล่นสาวตอบด้วยความปลาบปลื้มใจ การมีใครให้ความสำคัญกับพวกตนแบบจริงๆ จังๆ ในโลกที่กว้างใหญ่แห่งนี้ คนนั้นล้วนแต่ได้รับความเคารพนับถือทั้งนั้น

    งั้นพวกเจ้าก็เพิ่มระดับความสำคัญของคนผู้นั้น ให้เป็นคนสำคัญในระดับผู้ที่ออกไข่ให้พวกเจ้าสิอนาตาเซียแนะนำให้ลองนำไปเปรียบเทียบเป็นพ่อแม่ดู แต่คำพูดของเธอฟังดูแปลกๆ ที่อสูรจะมาแนะนำมนุษย์ให้รู้จักความรักของพ่อแม่

    เฟตยิ้มให้กับคำแนะนำนั้น เขาเองก็แปลกใจ แต่ขณะเดียวกันก็ดีใจที่อสูรของเขามีความคิดรักโลกมากขนาดนี้ ต่างกับทีตอนแรกๆ ที่เธอเอาแต่คิดเรื่องการฆ่าฟัน ล้างแค้น ล้างชาม

    ทำอะไรอ่ะอนาตาเซียถามเบาๆ ขณะมองเจ้าของอ้อมกอดที่เนียนมากอดเธอไว้จากด้านหลัง ชายหนุ่มที่ถูกถามพยักหน้าเหมือนพึ่งรู้สึกตัว

    อ้อ สถานการณ์มันพาไปน่ะเฟตตอบตามตรงแล้วมองไปยังกลุ่มผู้เล่นตรงหน้า เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ก็เลยถามดู

    มีอะไรอยากจะบอก อยากจะถาม ก็ว่ามาได้ครับ

    คือว่า ผู้นำของพวกเรา คนที่ท่านอัดจนสลบ ฟื้นแล้วคะผู้นำหมู่พูดออกมาอย่างเป็นกังวล ต่างกับเฟตที่กระพริบตา เขาอัดผู้หญิงตอนไหนกัน

    แล้วยังไงครับ

    เธอกำลังโกรธแค้นท่านมากเลยคะ

    เขาอยู่ไหนล่ะครับเฟตถามถึงสถานที่ทันที ถ้าเธอคนนั้นยังแค้นเขาอยู่ เขาควรที่จะไปจัดการให้เรื่องมันจบๆไปซะ ไม่ฉะนั้นแล้วทั้ง 2 ฝ่ายคงจะคาใจ

     “ที่ท้องพระโรงคะผู้นำกลุ่มตรงหน้าพยักหน้าตอบแบบเป็นกังวล

    อืม ไปจัดการเคลียปัญหาคาใจเสร็จแล้วค่อยไปหาเจ้าร็อคก็ได้มั้ง ไหนๆมันก็ยังไม่เข้ามาเฟตคิดแผนแล้วหันไปมองกลุ่มผู้หญิงของเขา ที่มีอาธีน่ารวมไปด้ายโดยปริยาย

    ทำตามที่ท่านคิดเถอะค่ะเทพสาวยิ้มตอบเมื่อเห็นว่าเฟตมองมาเหมือนกับจะถามไถ่ความต้องการ

    เชอะ นายจะไปไหนฉันเคยห้ามได้ด้วยเหรอ ไม่เห็นต้องมาถามกันเลยอนาตาเซียตอบเหมือนงอน แต่มือที่เกาะแขนของเฟตอยู่ทำให้ชายหนุ่มได้รู้ว่า ปากของเธอเป็นแบบนี้ล่ะ

    เจ้านายอยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ไรน่าสนับสนุนอยู่แล้วจิ้งจอกยิ้มเอียงคอ หูของเธอลู่ลงบ่งบอกถึงอารมณ์งอนของเธอ เฟตไม่มีทางเลือกจึงใช้มือกระตุกให้จิ้งจอกสาวได้เข้ามาร่วมกลุ่ม

    ขอบคุณนะครับชายหนุ่มกระซิบบอกแบบจริงใจ น่าเสียดายที่อาธีน่าอยู่ไกลเกินไป ไม่งั้นเสร็จเขาแน่

    อืม/ค่ะ2 อสูรสาวตอบเบาๆ พร้อมกับมือที่ยกไปกุมมือของชายหนุ่มไว้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เฟตมีสิทธิ์กับพวกเธอขนาดนี้

     

    การเดินทางมุ่งตรงไปยังห้องท้องพระโรงของเฟตนั้น ในยามนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างยิ่ง จนชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองใส่กางเกงบ็อกเซอ์ นวม และผ้าคลุมไหล่ เพื่อเดินขึ้นเวทีชกชิงแชมป์

    หมอนั่นเล่นอะไรน่ะอนาตาเซียหันมากระซิบกับไรน่า เมื่อเห็นตัวแสบกำลังกระโดดซอยเท้าโหยงเหยง พร้อมกับมือที่กำหลวมๆ ต่อยอากาศไปมา

    ความคิดแปลกๆ เหมือนเดิมนั่นล่ะค่ะจิ้งจอกสาวเอียงคอตอบ คนสมองมีปัญหาอย่างเฟต พวกเธอเดาใจกันไม่ถูกหรอก ว่าจะทำอะไร เมื่อกี้ก็เล่นฉากหวานไม่อายสายตาใครเลย ดีนะที่มีคนอยู่เยอะ ไม่งั้นพวกเธอโดนเจ้านายผู้นี้จับกดแน่

    แต่จะว่าไป ทำไมพวกเราถึงมีรอยสักกับหางเพิ่มได้ล่ะ เราตายกันไปแล้วนี่อนาตาเซียวกเข้าเรื่องสำคัญ ที่พวกเธอเคยหารือกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปซะที

    อืม ..... อันนี้ไรน่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะจิ้งจอกสาวเอียงคอไปซ้ายทีขวาที เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไง เป็นเรื่องที่แปลกจริงๆนั่นแหละ ที่อสูรซึ่งตายไปแล้วอย่างพวกเธอ ถูกเพิ่มความสามารถได้ ผ่านการให้พลังของชายคนนี้

    ในขณะที่ 2 อสูรกำลังปรึกษากันอยู่ หางตาก็เหล่ไปเห็นอาธีน่ายิ้มเหมือนกับรู้ แต่ไม่ยอมบอก

    อยากรู้เหรอคะเทพสาวย้อนถามกลับ เมื่อ จิ้งจอกกับมังกรสาวมองมาเป็นตาเดียว

    ไม่หรอกอนาตาเซียหันขวับไปทางอื่น ต่างกับไรน่าที่ส่ายหัวให้กับความซึนของยัยมังกรนี่

    อาธีน่าเห็นเช่นนั้นก็รู้แล้วว่า อนาตาเซียสนใจที่จะรู้ ตนเลยอธิบายโดยไม่มีใครถาม

    ถ้าพูดกันตามหลักแต่ต้นแล้ว การที่พวกคุณกลับมาได้นี่ต่างหากละคะ ที่เป็นเรื่องน่าแปลกใจ แต่ถ้านำเหตุการณ์ในตอนนั้นๆมาเปรียบเทียบกัน การที่พวกคุณไม่ถูกส่งตัวไปทาทารัสก่อน นั่นหมายความว่าดวงวิญญาณยังวนเวียนอยู่บนโลกคำอธิบายของเทพสาวเป็นเหตุให้ 2 อสูรลืมตัวพยักหน้าให้

    ด้วยเหตุนี้ การทำสัญญาผูกวิญญาณจึงเกิดขึ้นได้ แต่ต่อจากนี้ล่ะ เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ ที่มนุษย์แบบเขา กลับมีพลังแห่งความตาย จนสามารถสร้างร่างอันเป็นรูปธรรม ต่างกับนามธรรมวิญญาณได้อาธีน่าอธิบายต่อ ส่งผลให้ 2 อสูรหันไปมองหน้ากัน แล้วได้แต่ลอบถามว่า ทำไมพลังแห่งความตายถึงมาอยู่ในตัวของชายคนนี้ได้ เขาคนนี้ไม่เคยคิดถึงพลังพวกนี้เลย จึงไม่รู้ที่มา

    แต่เมื่อมีร่างแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ ที่นามธรรมของการสิ่งที่จะไปเพิ่มความคงทนให้กับนามธรรม แต่ว่า เป็นอะไรล่ะคำถามของอาธีน่าอย่างหลัง ส่งผลให้ 2 อสูรสาวหน้าแดง บิดตัวไปมาเล็กน้อย แต่เทพสาวที่คอยสังเกตการณ์อยู่แล้ว แค่มองก็รู้จึงไม่รอคำตอบที่เธอถามไป

    ด้วยเหตุนี้เอง พวกคุณจึงมีพลังเป็นของตัวเอง และเขาก็ได้พลังของพวกคุณมาเป็นส่วนหนึ่ง พูดตามหลักการง่ายๆ เขาก็เปรียบเหมือนต้นไม้ ที่มีพวกคุณเป็นผลผลิต ถ้าขาดเขาไป พวกคุณก็กลายเป็นเพียงผลที่ไร้ต้น แต่ถ้าพวกคุณหายไป ไม่นานนัก ต้นไม่นั้นจะสามารถผลิตพวกคุณออกมาได้อีกคำอธิบายของอาธีน่าเป็นเหตุให้พวกอนาตาเซียพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง

    ต้นไม้ผลิตผลไม้เหรอเฟตถามขึ้นเบาๆ ส่งผลให้เทพสาวพยักหน้าให้ แล้วหันมาอธิบายต่อ

    ใช่ค่ะ ต้นไม้สารารถมอบอาหารให้ผลไม้ได้ตามต้องการ แต่ผลไม้ไม่สามารถผลิตพลังได้เอง คุณจึงต้องใช้รากหาพลังมาเพิ่มเติมให้กับพวกเธอค่ะอธิบายเสร็จ อาธีน่าก็เงยหน้ามองชายคนนี้

    เอ่อ แล้วผมมีรากเหรอครับเฟตถามพาซื่อแล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง

    อ่ะเทพสาวยกมือปิดปากด้วยความตกใจ ต่างกับชายหนุ่มที่ยังงงว่า เขามีรากด้วยเหรอ แล้วคุยกันถึงเรื่องอะไรล่ะเนี่ย

    ฮะฮะ ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอครับเฟตเห็นสภาพตะลึงของอาธีน่าก็เลยถามอย่างแปลกใจ

     “เปล่านี่คะเทพสาวปรับเสียงให้เป็นปกติ โดยพยายามซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองไว้ หลังจากมาเสียท่าให้คนอื่นเห็นอาการหลุดของเธอเสียได้

     

    ในขณะที่โลกมนุษย์กำลังหวานย้อยด้วยความเป็นหนุ่มสาว บนสวรรค์เองก็กำลังคึกคักเช่นกัน

    มหาเทพที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวเราะร่วน หลังเห็นภาพที่เกิดขึ้นระหว่างบุตรสาวกับมนุษย์สุดประหลาด ที่มีสมองก็เหมือนกับไม่มี แต่ความคิดทางด้านอาวุธกลับพิสดารแบบสุดๆ

    นั่นคือสิ่งที่ท่านต้องการเหรอ ซูสชายผมขาวเช่นมหาเทพถามออกมา ขณะนั่งประชุมอยู่ด้วยกัน

    เราก็ไม่ได้หวังไว้ว่าลูกเราจะมีความรักหรอกนะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เรื่องของความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่เว้นแม้แต่อาธีน่าที่เป็นถึงเทพแห่งปัญญาเก่งการศึก แต่ด้อยสงครามการรักซูสที่ถูกถามยิ้มออกมาที่มุมปาก เมื่อเห็นความหวังของฝ่ายตนที่จะได้มาพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของอาธีน่า

    ท่านอย่ามาหลอกข้าเลย มหาเทพแห่งแดนกลาง การที่ท่านส่งบุตรของท่านองค์นี้ลงไป ท่านหวังผลจากความสัมพันธ์ของความเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่ชายผมขาวที่ใส่ผ้าปิดตาข้างเดียวพูดออกมาอย่างเดาใจออก

    ฮ่าฮ่าฮ่า เรานึกแล้วว่าเราไม่อาจปิดบังสติปัญญาที่แลกมาด้วยดวงตาของท่านได้เลย มหาเทพโอดินซูสหัวเราะออกมา เมื่อโดนเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ดูออก

    หยุดความสนุกกันก่อนเถอะ กลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ได้แล้วชายที่นั่งเงียบมานานกล่าวนิ่มๆ ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องอื่นใด

    แหม ท่านมหาเทพราห์ ไม่หัดมีอารมณ์ขันเลยนะ ทั้งๆที่ได้อำนาจกลับมาแล้วแท้ๆซูสหันมาล้อกับสหายอีกคน เหมือนกับเรื่องที่ราห์เคยโดนบุตรหลอกเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระ

    เพราะเราไม่รู้น่ะสิ ว่าทำไมอำนาจถึงกลับมา เราถึงได้อารมณ์เสียเช่นนี้เทพผมแดงหรือมหาเทพแห่งเปลวไฟสุริยัน ราห์ กล่าวแบบมึนงง เขาจำได้แค่ว่าโดนเทพีแห่งความรักหลอก หลังจากนั้นก็กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ช่างแปลกดีจริงๆ

     “เป็นความต้องการของท่านผู้อยู่เหนือพวกเราล่ะมั้งโอดินกล่าวออกมาอย่างใช้ความคิด ทำให้มหาเทพซูสเงียบลงไป

    ท่านผู้นั้น ต้องการอะไรนะ ทำไมถึงให้อำนาจและฟื้นฟูสิ่งที่ไม่ควรฟื้นฟูมหาเทพแห่งแดนตะวันออกกล่าวแบบเคร่งเครียดเมื่อนึกถึงศัตรูคู่อริมังกรแห่งฟ้าไทฟอน

    เพื่อให้พวกเราย้อนกลับมาทำสิ่งที่ไม่เคยทำล่ะมั้งมหาเทพแห่งแดนใต้หรือราห์เสนอความคิดออกมา ในขณะจ้องมองการเคลื่อนไหวของศัตรูคู่อาฆาตอย่างอาเป๊ป

    ท่านเคออสต้องการอะไรนะสามมหาเทพแห่งดินแดนต่างเงียบลงไปอย่างใช้ความคิด แต่ไม่ว่ายังไงๆก็คิดไม่ออก ว่าทำไม จอมราชันแห่งสวรรค์และแดนปีศาจถึงกลับคืนอำนาจและเข้ามายุ่งวุ่นวายกันอีกแล้วนะ

    ในขณะที่ สามมหาเทพนั่งเงียบไป เหล่าเทพชั้นรองก็ยังคงนั่งเฝ้ารอการประชุมอย่างใจจดใจจ่อ เพราะนี่คือการประชุมสวรรค์นานาชาติ ที่ใช้หอประชุมของสวรรค์แดนตะวันออกเป็นห้องใหญ่ ส่วนปัญหาในการประชุมนี้ ก็เป็นพวกปัญหาปากท้องที่ผู้เล่นเริ่มทำสงครามกันจนขาดแคลน ยังไม่นับรวมกำลังทหารผู้เล่น ที่เอาไปทำศึกกันจนเสียเลเวลกันเป็นแถวๆนะ พวกมนุษย์สายพันธุ์ใหม่นี่ (ผู้เล่น) แปลกกันจริงๆเชียว

     

    ทางด้านโลกมนุษย์ หลังจากตัดปัญหาเรื่องเฟตหม้ออาธีน่าไป กลุ่มอัศวินหญิงก็มาชายหนุ่มมาจนถึงประตูทางเข้าห้องท้องพระโรง

    เชิญท่านเฟตเถอะค่ะ ผู้นำของเรารออยู่ในห้องนั้นเช่นเดิม

    เฟตพยักหน้าให้กับคำพูดของพวกเธอ จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปท่ามกลางการคุ้มกันสุดแน่นหนา

    พวกนายนะพวกนาย กล้าดียังไงถึงมาบุกถึงที่นี่เสียงแว๊ดมาแต่ไกล ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมองสามสาวเพื่อเพิ่มความมั่นใจ สงครามไหนเขาไม่กลัว ไอ้ที่กลัวก็คือต้องมาทำสงครามกับผู้หญิงนี่ล่ะ

    ไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าอสูรแห่งความมืดของท่านแล้วค่ะอาธีน่ายิ้มกล่าว ในขณะที่สองอสูรเอาคืนบ้าง ด้วยการยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงล้อเลียน หลังเทพีแห่งปัญญาเสียมาดให้กับเฟต

    เฟตมองปัญหาใกล้ตัวด้วยความหนักใจ จากนั้นก็หันกลับมามองที่ประตู ขอความมั่นใจไหงได้การลดทอนมาแทนละเนี่ย

    แอ๊ด!!! เฟตเปิดประตูแบบไม่รอ แล้วเขาก็พบกับการต้อนรับสุดอบอุ่น มีดสั้นบินตรงมาเกือบจะปักเข้าที่กลางหน้าผาก ยังดีที่ชายหนุ่มโยกตัวหลบเป็นวงได้ทัน ชีวิตเลยไม่ถึงคาด

    คำทักทายน่ารักดีนะครับเฟตยิ้มทักทายกับสาวสวยผมขาวนวลที่กลางห้อง ซึ่งส่งสายตามาแบบไม่วางใจเต็มที่

    หุบปาก จะฆ่าเห็นๆ ยังบอกว่าน่ารักอีกหรือไงหญิงสาวตวาดแบบไม่พอใจสุดๆ ส่งผลให้ชายหนุ่มได้แต่ยักไหล่ให้ แหม ใจร้ายจัง

    แหม ถึงจะว่างั้นก็เหอะ แต่คุณสวยจริงๆนี่นาเฟตพึมพำออกมาแต่ระดับเสียงเท่ากับการพูดปกติ หญิงสาวผู้นี้ถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธ พร้อมกับหยิบหอกประจำตัวออกมา

    ผู้เล่นเฟตถูกส่งคำท้า PK (Player Killer) จากผู้นำกิลด์สี่เทพีพิทักษ์ พรอมค่ะเสียงของระบบร้องบอกชายหนุ่ม ที่กำลังมองหญิงสาวอันมีนามว่าพรอม

    ถ้านายเป็นลูกผู้ชายจริง รับคำท้าและปลดพลังซะพรอมท้าขณะปลดระดับการต่อสู้ ให้อยู่ในชั้นของมนุษย์ โดยไร้พลังพิเศษใดๆทั้งสิ้น เฟตจ้องมองหน้าต่างระบบอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ามีเลเวลถึง 100

    เลเวล 100 กับเลเวล 54 เนี่ยนะเฟตพึมพำ เขาลูกผู้ชายก็จริง แต่ไม่ควรมาโดนกดขี่อย่างนี้

    ฉันปลดพลังแล้วเหมือนกัน สิ่งที่ฉันต้องการก็คือให้นายสู้ด้วยตัวเองพรอมกล่าวขณะจ้องมองด้วยสายตาที่มีความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

    คุณเกลียดผู้ชายทุกคนเลยสินะแค่มองตาก็รู้ความนัย เฟตจึงพูดถึงสิ่งที่แทงใจออกมา

    ใช่น่ะสิ เพราะพวกผู้ชายมันชั่วพรอมพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ เมื่อต้องหวนนึกไปถึงวันเก่าๆที่ต้องผ่านพ้นมา

    ตกลงเฟตตอบขณะสยายปีกให้ออกมาปักทิ่มไว้ด้านข้าง จากนั้นก็เลือกเล่มที่ตนถนัดที่สุดมากุมไว้

    พรอมมองชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มตั้งท่าแบบธรรมดา แต่ความรู้สึกกลับบอกว่า อย่าไปไว้ใจมันมาก

    เข้ามาสิ แล้วผมจะสอนว่าผู้ชายไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปเฟตท้าขณะยกมือกระดิกเป็นเชิงเชื้อเชิญ

     ‘อึกพรอมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อเห็นสายตาอันคมกริบของชายผู้นี้ ที่พอจ้องนานๆ ก็เริ่มกลัวใจตัวเอง

    เมื่อไม่เข้ามา ผมเข้าไปเองล่ะนะหลังจากมองตากันนานจนเกือบจะท้อง เฟตเลยพุ่งเข้าไปหาพรอมก่อนเลย ด้วยรู้ว่าเวลานี้พรอมไม่มีความอยากจะสู้เหมือนกับทีแรกแล้ว เมื่อต้องมาเจอสายตาและบรรยากาศอันกดดันสภาพจิตใจ ที่เขาสร้างขึ้นมา

    สิ้นคำของเฟต ชายหนุ่มก็หายไปจากจุดที่ตนยืนอยู่ แล้วไปโผล่อีกทีที่ด้านหน้าของพรอมโดยดาบของเขานั้นวางบาดอยู่บนลำคอที่เปลือยเปล่าไร้การโต้ตอบกลับ

    กลัวจนไม่กล้าขยับเลยเหรอชายหนุ่มถามเมื่อเห็นอาการแข็งทื่อของหญิงสาวตรงหน้า

    เมื่อสภาพจิตใจถูกกดดันมากๆ การคงสติและตัวก็หมดตามลงไปตามการเวลา หลังจากเฟตพุ่งเข้ามา พรอมเลยตะลึงไปแล้วเพราะจิตใจไม่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ชวนตกใจนี้

    ฉะฉะ ฉันไม่ได้กลัวนะพรอมตะโกนพร้อมกับฟาดหอกใส่เฟต แต่อาวุธที่ใช้โดยผู้ใช้ไม่มีจิตวิญญาณในการต่อสู้ อาวุธก็เหมือนกับกิ่งไม้ดีๆนี่เอง

    คุณเกลียดอะไรในตัวผู้ชายชายหนุ่มถามขณะใช้มือเบี่ยงด้ามหอกออกไป มันช่างง่ายดายเหลือเกิน เมื่อหญิงสาวคนนี้ไม่มีสมาธิที่จะสู้

    แก กล้าถามอย่างนี้ได้ไงเมื่อโดนถามเช่นนี้พรอมถึงกับหน้าแดงและแทงหอกใส่เฟตไม่หยุด

    เหอะๆ แค่อาการผมก็รู้เลย ว่ากำลังคิดถึงเฟตน้อยอยู่ แต่ขอบอกไว้ก่อนครับ ไม่ใช่ของสิ่งนี้ ผมหมายถึงในข้อไหนของผู้ชาย ที่คุณถึงได้เกลียดเฟตถามขณะทวนให้ฟังด้วย ส่วนมือก็ปัดหอกกับด้ามของมันออกไปให้พ้นตัว

    ผู้ชายเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะอะไรพวกนายก็เอาเปรียบผู้หญิงพรอมพูดจบก็สะบัดหอกพร้อมกับแฝงพลัง จนเฟตต้องกระโดดหลบไปพร้อมๆกับสะบัดดาบป้องกันพลังที่พุ่งเข้ามาหาไปด้วย

    แต่นี่คุณเอาเปรียบผมอยู่นะชายหนุ่มย้อนกลับหน้าตาใสซื่อ ส่วนดาบในมือก็ฟันพลังที่แฝงมาให้ตกลงไปบนพื้น

    ฉะ ฉันลืมตัวพรอมกล่าวพร้อมกับปลดพลังออกจนหอกกลับไปเป็นปกติ แล้วพุ่งเข้าหาเฟตอีกครั้ง

    เฟตจ้องมองคมหอกที่พุ่งเข้ามาด้วยความเรียบเฉย แม้พรอมจะมีสมาธิแต่การใช้งานอาวุธก็ยังคงเป็นแบบผู้หญิงใช้อยู่ดี เมื่อหอกเข้ามาถึงตัว ชายหนุ่มก็เอี้ยวตัวหลบอย่างง่ายดาย หลังจากคมหอกเฉียดลำตัวไปแล้ว เฟตใช้หลังมือสะบัดโจมตีที่ข้อมือซ้ายที่ถืออยู่กลางหอก จนทำให้พรอมต้องปล่อยมืออย่างไม่ตั้งตัว

    ชายหนุ่มยึดหอกของพรอมไว้และดึงเข้าหา จนหญิงต้องจำใจปล่อยอาวุธ เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะเสียเปรียบในระยะการโจมตี

    แหม ไม่น่าปล่อยเลย ว่าจะให้ศึกษาความเป็นผู้ชายซะหน่อยเฟตกล่าวหน้าตาเฉย ในขณะที่คนฟังตีความหมายไปต่างๆนาๆ จนหน้าแดงฉาน

    ฮะฮะ ผมหมายถึง ให้คุณลองศึกษาว่า ผู้ชายแบบผม มีทั้งข้อดีและข้อเสียน่ะชายหนุ่มรีบกล่าว เมื่อเห็นทุกคนในห้องมองค้อนมาที่เขาคนเดียว ก็แหงล่ะ คำพูดกำกวมซะขนาดนี้นี่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×