ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #40 : ตอนที่ 40 ความผิดพลาดของการดวลปืน.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.28K
      33
      14 ก.ย. 56

    ปัง ปัง เสียงปืนกลมือยังดังต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผมต้องหลบซ้ายหลบขวา เป็นลิงตกต้นไม้ ไอ้หมอนี่ กะจะเอาให้ตายเลยซินะ แต่น่าเสียดาย ตรูไม่พลาดท่าง่ายๆหรอกเฟ้ย

    ลูกน้องใครเนี่ยผมที่พึ่งหลบมาหลังรถกระบะคันนึงพึมพำ เพราะไม่รู้ว่าไอ้มือปืนคนนี้เป็นลูกน้องศัตรูคนไหนของผมกันล่ะเนี่ย ว่าแต่ ผมมีศัตรูด้วยเหรอเนี่ย พึ่งจะมารู้ตอนที่ถูกลอบยิงนี่ล่ะ อืม หรือว่าจะมีหว่า กับไอ้พวกผู้มีอิทธิพลอะไรงี้ล่ะมั้ง เฮ้อ น่าเสียดาย ที่จำใครไม่ค่อยได้เลย

    แต่สิ่งที่ผมคิดได้ในตอนนี้ ก็คงมีอยู่อย่างเดียว นั่นก็คือชื่อผู้บริหารเงา และลูกเลี้ยงของท่านสิริภพ ที่ดังออกไปเมื่อคืนนี้ แล้วยิ่งในยุคดิจิตอลด้วยแล้ว ไม่ต้องสืบว่าจะไปถึงไหนต่อไหน เฮ้อ ก็บอกแล้ว ว่าอย่าบอกใคร เดี๋ยวผมจะไม่มีงานทำ งานพิเศษเดี๋ยวนี้ยิ่งหายากๆอยู่

     “ค่อยถามอีกทีเพื่อความมั่นใจก็แล้วกันผมพึมพำเมื่อตกลงใจว่าเช่นนั้น พร้อมกับหยิบปืนพกที่ใส่ไว้ภายใต้เสื้อสูทออกมายิงโต้ตอบบ้าง ทำให้มือปืนหยุดยิงแล้วหันไปหลบเข้าที่กำบังแทน เพราะการยิงแต่ละนัดของผมมันแม่นยำตามความที่ฝึกซ้อมมา แค่การยิงนัดแรกยังเฉียดแขนเขาเลยนี่ ถ้ายืนรอเป็นเป้าอีกหน่อย มีหวังได้เข้าตากรรมการแน่

    แกเก่งสมกับที่จบมาจากโรงเรียนฝึกการอารักขาจริงๆ ทั้งๆที่เป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้นนักฆ่าหนุ่มตะโกนบอกมา พร้อมกับที่ผมได้ยินเสียงเขาเปลี่ยนแม๊กกาซีนแบบใจเย็น ใช่ซี้ เล่นปิดทางหนีตรูแล้วนี่หว่า จะกลับไปหารถก็ต้องผ่านมัน จะลงไปข้างล่างก็ต้องผ่านทางมัน ด้วยความที่ผมก็ใจเย็นเลยโต้ตอบกลับไปอย่างบุคคลใจดี

    เหรอ แต่นายไม่เห็นจะเก่งเลยนี่ว่าจบก็วกปืนเล็งไปทางจุดที่ศัตรูหลบอยู่ ปืนของผมมีเส้นผ่านศูนย์กลางปากลำกล้องที่ 9 มิลลิเมตร แม้จะมีระยะหวังผลแค่ 30 เมตร แต่นั้นก็เพียงพอแล้วในระยะที่ผมกำลังเสียเปรียบนี้

    แต่ศัตรูกลับเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าผมเยอะ เขาสับขาหลอกตัวเอง แล้วสับมือกลับมายิง ทำให้ผมที่อยู่ใต้จุดที่เสียเปรียบต้องหลบไปก่อน แล้วค่อยวกกลับมาลั่นไกยิงใส่ทีหลัง

    การยิงโต้ตอบระหว่างเขายังเป็นไปอย่างไม่รีบร้อน เพราะการดวลปืนไม่ใช่การนับ 1 ถึง 3 แล้วหันมายิง มันคือการที่ต้องรู้เขารู้เรา โต้ตอบอย่างใจเย็น แต่แหม เย็นจนผมเริ่มสบายใจเลยนะเนี่ย ถ้าเกิดเหตุการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ตำรวจคงมาก่อนแน่ๆ แต่แล้ว ดูเหมือนผมจะใจเย็นไปนิดจนสถานการณ์ของฝั่งนี้เริ่มที่จะย่ำแย่ลง เมื่อผมหันไปเห็นรถโฟร์วิล ยกสูง 3 คันวิ่งขึ้นมาตรงจุดเดียวกับคนๆนั้น โดยแต่ละคัน บรรทุกคนมาเพียบเลย อืม คิดในแง่ดี พวกนั้นคงมาประกวดหนุ่มงามล่ะมั้ง

    แต่เมื่อมองตามความเป็นจริงในแง่ร้าย ชายฉกรรจ์เหล่านั้นกลับชักปืนยิงกราดมาใส่ผม ทั้งๆที่พึ่งมาถึง เฮ้อ ไอ้พวกนี้ ไม่คิดที่จะทักทายกันหน่อยเหรอฟะ แต่ถ้าผมได้รู้ว่า ค่าหัวตนเองในตอนนี้ที่อยู่ใต้ดินกำลังสูงมาก ก็คงจะยิงตัวตายเพื่อไปเอาเงินรางวัลการล่านั้นแล้ว

    เรื่องฆ่าตัวใต้ถูกเก็บเข้าหลังไมค์ทันที เมื่อผมหันไปเห็นมือปืนคนแรกที่กำลังจ้องมองพวกที่พึ่งมาถึงแทนที่จะสนใจมายิงผมเหมือนเดิม สงสัยว่าจะจ้างงานทับซ้อนกันแน่ๆเลย ถึงทำหน้าเอ๋อซะขนาดนั้นเนี่ย

    ในขณะที่ผมกำลังหลบอยู่หลังรถเก๋งคันหนึ่ง จิตใจผมถึงกับสั่นไหวด้วยการตื่นเต้นกับสถานการณ์ตรงหน้า เอ่อ ไม่ใช่ว่ากลัวตายนะ แต่กลัวไปรับเจ้านายสายต่างหาก ถ้าไปสายเนี่ย เสียชื่อกันหมดพอดี

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นผมก็หันไปมองรถเบนซ์ของท่านสิริภพที่มีเกราะกันกระสุนรอบคัน น่าจะดีมากเลยถ้าผมกลับไปขึ้นรถได้ แต่น่าเสียดายที่ชายสวมแว่นสีชาคนนั้นไปดักซุ่มรอไว้อยู่ สงสัยจะรู้ว่ารถของบ้านหลังนี้เป็นรถกันกระสุนทุกคัน

    คิดแล้วก็เครียดแฮะ พวกมือปืนนี่แหละ เป็นอะไรที่เล่นด้วยยากที่สุด คนพวกนี้จะต้องสืบข่าวเหยื่อ ติดตามเหยื่อ และสังเกตพฤติกรรมโดยรอบของเหยื่อ ก่อนที่จะลงมือสังหาร แล้วการที่รอผมลงมาจากรถ ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ชายคนนี้สืบข่าวมาดีจนรู้ว่าจุดไหนที่จะลงมือได้ง่ายที่สุด

    รอให้ตำรวจมาก็คงไม่ทันแล้วมั้งผมที่มองไม่เห็นทางรอดถอนหายใจออกมายาว อาวุธที่พวกนักฆ่าใช้เป็นอาวุธเก็บเสียงทั้งสิ้น แม้ตัวผมจะใช้ปืน 9 มม.ที่มีเสียงดัง แต่เมื่อยู่ในสนามบินที่มีเสียงเครื่องยนต์ แค่เสียงปืนเล็กๆ ก็คงไม่มีความหมายอะไร

    อย่าหวังให้คนมาช่วยเลย พวกยามโดนพวกฉันจัดการหมดแล้วชายฉกรรจ์ที่ใส่ชุดมีระดับพูดด้วยท่าทีเยาะเย้ยเมื่อเห็นว่าเหยื่อไม่มีทางรอด ผมที่กลายเป็นเหยื่อแบบไม่รู้ตัวปรายตาไปมองเล็กน้อย แต่สักพักก็ต้องหลบเข้ามาที่เดิม เพราะกำลังถูกโอบล้อมเข้ามารอบด้าน ถึงจะถูกล้อม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมกำลังจะตาย ผมยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นโอกาสที่พึ่งวิ่งเข้ามาถึง

    ใช่แล้วถูกต้องนะครับ อย่าหวังให้ใครมาช่วยเลย คนเราต้องช่วยตัวเองผมบอกใครไม่รู้แล้วเล็งปืนยิงไปที่ถังน้ำมันของรถเก๋งที่พวกโจรพึ่งวิ่งเข้ามาหลบกันอยู่ แหม โอกาสอยู่ๆก็วิ่งเข้ามาหา

    เปรี้ยง!!! เสียงปืนของผมดังขึ้น พร้อมกับไฟลุกเป็นประกายภายใต้ตัวรถที่เกิดขึ้นจากถังน้ำมัน เหล่าชายฉกรรจ์เห็นรถที่หลบกำลังจะระเบิดรีบออกตัววิ่งร้อยเมตรสถิติโลกไปกันคนละทาง ซึ่งก็สบโอกาสของผมที่กำลังรอ ให้ศัตรูออกจากที่กำบังอยู่แล้ว

    เปรี้ยง เปรี้ยง!!! ผมเล็งยิงต้นขาคนพวกนั้นเหมือนกับซ้อมยิงปืน  พวกมือปืนคนอื่นๆ ที่เห็นพวกโดนยิงรีบหนีกลับไปที่กำบัง ก่อนที่ผมจะเอาขาของพวกเขามาบ้าง

    ผมมองผลงานของตัวเองด้วยความนิ่งเฉย ไม่เห็นจะน่ายินดีเลยที่ยิงคนล้มไปตั้งหลายคน เพราะถึงอย่างไรจำนวนศัตรูจริงๆ ก็มากกว่าที่ผมกำลังยิงเล่นๆอยู่ตอนนี้เป็นแน่แท้

    การดวลปืนในที่จอดรถของสนามบินยังมีขึ้นเรื่องๆ พวกมือปืนมีจำนวนมากแถมยังมีความเป็นมืออาชีพมาด้วย ถ้าผมไม่เห็นที่คนพวกนี้เอาปืนเก็บเสียงมายิง และยิงแบบประหยัดกระสุน ก็คงคิดว่าที่บ้านเขามีประกาศนียบัตรแน่ๆเลยล่ะ

    แต่น่าเสียดาย ที่คนพวกนั้นมาเล่นงานผิดคน แม้ผมจะโดนดักทางหนี แต่ฝีมือก็ยังมีอยู่ ขอแค่ใครพลาดโผล่ออกมาโดยไม่มีคนยิงคุ้มกัน ก็จะโดนผมตัดกำลังด้วยการเจาะยางจุดสำคัญของร่างกาย ไม่ว่าจะแขน ขา อันเป็นจุดศูนย์รวมประสาท และเส้นเลือดใหญ่สำคัญ ถ้ารอดจากสถานการณ์นี้หลบหนีไปได้ ผมก็ยังตามล่าคนพวกนี้ได้จากโรงพยาบาลแน่นอน ก็เอาจุดหลักของมนุษย์ที่ต้องรักษาแต่เฉพาะพื้นที่เท่านั้นนี่

    เอ้าหลังจากปืนขึ้นลำถอยหลังมา ผมถึงกับอุทานลั่นในใจ นี่เราลืมเอากระสุนสำรองออกมาซะด้วยซิ เพราะกะจะเข้าไปสนามบิน เลยลืมหยิบแม็กกาซีนที่เสียบไว้ข้างประตูออกมาด้วย

    กระสุนมันหมดแล้วชายฉกรรจ์ที่หลบอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับผมร้องตะโกนลั่นข้ามรถมา สงสัยจะได้ยินเสียงผมถอดแม็กกาซีน แล้วไม่มีเสียงการดีดกลับของลำกล้องปืนแน่ๆเลย

    ตำรวจกำลังมาแล้ว รีบจัดการมันซะทีสิชายฉกรรจ์ที่อยู่บนรถโฟร์วิลพูดด้วยความแตกตื่น เมื่อต้นสายรายงานมาว่าทางตำรวจรับรู้ถึงเรื่องเสียงปืนแล้ว และกำลังยกกองกำลังมาด้วย แหม เป็นข่าวดีสำหรับผมจริงๆ

    มันหนีไปแล้วเสียงชายฉกรรจ์ร้องลั่นหลังเห็นผมพุ่งตัวผ่านรถคันหนึ่งเพื่อตรงไปยังชั้นจอดรถที่อยู่ข้างล่าง

    แยกกันเร็ว แล้วให้พวกข้างล่างเปิดด่านเลย ไม่ต้องสกัดแล้วไอ้พวกนั้นน่ะ ให้พวกมันมาช่วยกันยิงให้เด็กเวรนั้นเร็วเสียงที่แว่วๆมา ทำให้ผมรู้ว่า คนพวกนี้กำลังรน เวลาและโอกาสในการล่าผมมันเหลือน้อยแล้วซินะ เมื่อต้องเทียบกับเวลาที่รถตำรวจแล่นมา

    มีสีหนุนหลังเหรอฟะผมที่นอนกลิ้งหลบไปมาใต้รถกระบะคันหนึ่งคิดออกมาได้แบบนี้ทันที เมื่อรู้ว่าด่านตรวจรถที่ผมพึ่งผ่านขึ้นมาเป็นสายของพวกมือปืน แถมถ้ายังจำตราสัญลักษณ์ไม่ผิด รปภ. ของสนามบินก็ขึ้นตรงกับพวกนายพลด้วยไม่ใช่เหรอ การจะเอาคนมาเฝ้าจุดสำคัญๆของประเทศ จะต้องมีการคุมเข้มแบบเข้มงวด ผมเลยคิดได้แค่นี้จริงๆ

    ลูกพี่ ไอ้ที่กระโดดลงไป มันเป็นพวกของเราเสียงแว่วๆ มาจากอีกฝั่ง สงสัยจะมีสายรายงานแล้วล่ะมั้ง ว่าไอ้คนที่ผมโยนลงไปนอนเล่นอยู่ข้างล่างเป็นพวกของคนพวกนี้ เหอะๆ พี่ชาย นอนดิ้นต่อไปเถอะ อย่างมากก็แค่ขาหัก

    กูว่าแล้ว ว่ามันต้องไม่คิดสั้น เก็บมันซะ แล้วให้พวกข้างล่างนั้นขึ้นมาช่วยกันค้นหา ต้องเจอมันภายใน 10 นาที ก่อนที่ตำรวจจะมาเสียงแข็งกร้าวของชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ยังคงร้องสั่งงาน แหม สงสัยจะโมโห ที่ผมถีบคนออกไปหลอกตา แต่น่าสงสารเนอะ แค่วิ่งเล่นจนตกชั้นจอดรถ ทำไมต้องเก็บกันด้วย

    ผมได้ยินเสียงตอบกลับกันมาเป็นทอดๆ พร้อมกับคนที่โผล่ขึ้นมาเสริมจำนวนศัตรูที่ผมเห็น ทำให้ถึงกับหนักใจ แบบนี้ก็ออกไปเก็บไม่ได้น่ะซิ แต่เมื่อพวกนั้นเริ่มกระจายตัว ก็ยิ้มออกมาได้ อย่างงี้ค่อยง่ายหน่อย หึหึ

    และแล้ว ก็มีชายคนหนึ่งที่ใส่หมวกไหมพรมเดินแยกออกจากกลุ่มมาเพื่อตรวจรถกระบะคันหนึ่ง สงสัยจะเห็นว่าจุดเป็นทำเลเหมาะแก่การหลบซ้อนล่ะมั้ง

    ผัวะ ผัวะ!!! ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวตกเป็นกระสอบสายให้ผมทันที หลังจากที่ผมโผล่พรวดมาล็อคลุย และจัดการภายใน 2 หมัด

     

    แย่ๆ พวกเราถอยหลังจากการค้นหาผ่านไปเกือบ 8 นาทีกลุ่มมือปืนก็สั่งถอนตัว เพราะอีกไม่นานตำรวจก็จะมาถึงแล้ว

    เฮ้ย หายไปไหนกันหมดวะชายคนขับรถหลังจากนับจำนวนพรรคพวกเสร็จก็พูดด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานหายไป เกือบสิบคน

    ติดต่อไม่ได้เลยอ่ะพี่ชายที่พึ่งติดต่อหาเพื่อนๆ ตอบด้วยความสงสัยเช่นกัน หลังเพื่อนร่วมงานไม่รับสาย

    ช่างมัน ถ้าไม่กลับก็ปล่อยให้โดนจับอยู่นั่นล่ะ กลับโว้ยชายที่นั่งอยู่บนรถพูดด้วยความรีบร้อน ถ้าเกิดพวกเขาไปช้ากว่านี้มีสิทธิ์โดนจับยกก๊วนแน่

    วางแผนมาดีสินะเฟตที่พึ่งถอนหมวดโม่งที่แย่งมาจากชายหนุ่มหื่นคนหนึ่งพึมพำออกมา เมื่อเห็นพวกมือปืนขับรถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว โดยพวกสายที่อยู่ประจำด่านก็กระโดดขึ้นตามไปด้วย เมื่อเห็นว่าผิดแผน

    เปรี้ยง!!! เสียงปืนดังขึ้นที่ด้านหลัง แต่ชายที่พึ่งรู้ตัวว่าตนยืนล่อเป้ามากเกินกลับหลบไปพ้นซะก่อน เพราะมองเห็นเงาที่ทาบผ่านตัวมาพอดี

    หลังจากกระโดดมาถึงรถคันหนึ่งเฟตก็แง้มไปดูแล้วพบกับชายที่ใส่แว่นสีชากำลังเดินเข้ามาหาเขาโดยไม่รีบร้อน เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้ถือปืน เนื่องจากต้องการความเร็วของกายที่เพิ่มขึ้น ปืนเหล่านั้นจึงถูกปลดทิ้งโดยปริยาย

    นายเป็นลูกน้องใครเฟตเห็นมือปืนยังคงเดินมาโดยไม่รีบร้อนก็ถามไปแบบคนอารมณ์ดี แต่สายตายังคงจ้องมองทางไว้ตลอด พร้อมกับตีภาพว่าตนจะต้องหลบไปทางไหนถึงจะพ้น

    ไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่านายของฉันไม่อยากให้แกมีชีวิตอยู่ก็พอแล้วชายนักฆ่ากล่าวจบก็เปลี่ยนปืนกลมือเก็บแล้วเอาปืนสั้นเก็บเสียงออกมาเตรียมยิงเฟต

    ชายสวมแว่นชาเดินมาที่จุดที่เฟตหลบอยู่โดยส่องปืนเตรียมยิงเต็มที่ แต่เมื่อมาถึงชายนักฆ่าก็ต้องตกใจที่ไม่เห็นเหยื่ออยู่ตรงจุดนั้น

    งั้นฉันนี่ล่ะ จะเค้นคอนายเองเฟตที่พึ่งโผล่พ้นหลังเสาบอกพร้อมกับออกหมัดเข้าใส่ ชายนักฆ่าเห็นเหยื่อเคลื่อนที่ได้ไวก็ตะลึงเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้ เขาก็ออกการ์ดได้ทัน สมกับเป็นนักฆ่ามืออาชีพ

    หมัดแกหนักดีนี่ชายนักฆ่าพูดด้วยท่าทางที่นิ่งเรียบ ทั้งๆ ที่ในใจกำลังโห่ร้องว่าหมัดเอ็งจะหนักไปไหน นี่มันสามารถน็อคได้ภายในดอกเดียวเลยนะเนี่ย หลังจากชมเชยเสร็จ นักฆ่าหนุ่มก็คว้ามีดสั้นประจำออกมาช่วยสู้ เพราะหมัดเปล่าๆ คงเอาไม่อยู่

    เฟตที่ถูกชมไม่ดีใจเลยสักนิด เพราะตอนนี้เขาต้องหลบทั้งมีดสั้นและคอยระวังปืนของชายคนนี้ให้ดี เท่าที่ดูจากท่าทางแล้ว คงจะชำนาญมีดสั้นมากกว่าปืน

    แกคิดถูกแล้ว ฉันเคยเป็นทหารรับจ้างมาก่อนชายนักฆ่าเห็นเฟตระมัดระวังมีดสั้นของตน ก็พอรู้ว่าศัตรูเดาสิ่งที่เขาถนัดได้ถูกต้องแล้ว

    ชายนักฆ่ารุกไล่เฟตด้วยมีดสั้นอย่างรวดเร็ว จนเขานึกชมความชำนาญของศัตรูอยู่ในใจ การใช้มีดสั้นได้เร็วขนาดนี้แสดงว่าชายคนนี้ต้องเคยเป็นถึงหน่วยพิเศษแน่ๆ

    แม้ชายนักฆ่าจะเก่งมีดสั้นอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเก่งกว่าเฟตที่ฝึกการใช้อาวุธหลายๆ ชนิดได้อยู่แล้ว จึงถูกศัตรูใช้จุดอ่อนของการออกอาวุธมาเป็นจุดได้เปรียบ

    เมื่อชายนักฆ่าแทงมีดมาชายหนุ่มก็ใช้หลังมือฟาดเข้าที่ข้อมือนั้นอย่างรวดเร็วจนตัวคมเบี่ยงออกไป พออาวุธพลาดเป้าหมายเฟตก็รีบใช้ศอกสั้นแทงเข้าสู่ใบหน้าศัตรูอย่างรวดเร็ว

    ชายนักฆ่าเห็นเหยื่อชำนาญการต่อสู้ระยะประชิดก็เริ่มคิดแล้วว่าตนคงคิดผิดที่จะเอาอาวุธอย่างมีดสู้กับมัน แต่คิดได้ก็เมื่อสาย เพราะเฟตนั้นรุกไล่เขากลับได้เร็วกว่าที่ตนเคยทำนัก

    แกเก่งมาก ไอ้หนูชายนักฆ่าที่พึ่งถูกสวนกลับมาชมเฟตเล็กน้อย แต่ตนยังไม่ทันจะได้ถอยหลังก็โดนศัตรูเตะสกัดเท้าพร้อมกับแทงศอกเข้าที่ท้องเสียก่อนแล้ว

    ชายนักฆ่าถูกเหยื่อล้มเสร็จก็พยายามจะลุกขึ้นเพื่อสู้ต่อ แต่เมื่อศัตรูล้มแล้วเฟตไม่มีทางที่จะปล่อยโอกาสให้คนอื่น จึงเตะสำทับไปที่ปลายคางอีกที แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อรถเก๋งซีดานสำดำคันหนึ่งลดกระจกลงมาพร้อมกับสิ่งที่เฟตต้องร้องเสียงหลงในใจ ปืนกลมือ

    ปังๆๆๆๆ!!! ชายนักฆ่าล้มลงสิ้นใจต่อหน้าเฟต หลังจากโดนยิงเข้าที่หัว ด้วยฝีมือของชายฉกรรจ์ที่จอดรอตั้งแต่ทีแรกแล้ว

    คนเก็บงานสินะเฟตที่กระโดดหลบมาหลังเสาพึมพำหน้าตาย เหตุการณ์ที่ศัตรูถูกยิงตายไปไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไรเลย

    รถคันดำเห็นว่าเก็บคนรู้เรื่องได้แล้วก็ขับรถออกไปจอดรอที่ทางลงชั้น 4 พอรถคันนั้นจอดได้สักพักก็มีชายชุดดำอีก 2 คนวิ่งมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว แล้วรถคันนั้นก็ขับออกไปอย่างเร่งรีบ  เพื่อหนีให้ทันก่อนที่ตำรวจจะมาปิดล้อมพื้นที่

    เฟตเห็นดังนั้นก็เลยวิ่งไปที่รถกระบะคันหนึ่งที่ตนซ่อนพวกชายฉกรรจ์ที่ถูกอัดสลบไว้ แล้วตนก็รู้สึกเสียดายแรงที่เห็นชายกลุ่มนี้ถูกย่างสดไปพร้อมกับรถกระบะที่เขาลากเอาตัวมาซ่อนสายตาพวกโจร

    พวกนักฆ่าจากต่างแดนสินะเมื่อเห็นการทำงานที่รวดเร็วของชายชุดดำเมื่อกี้ เขาก็รู้ทันทีว่าเป็นการลงมือของมืออาชีพที่ผ่านงานฆ่ามามากมาย การที่ชายกลุ่มนี้ไม่สังหารเขาในตอนที่ได้เปรียบนั้น คงเป็นเพราะศักดิ์ศรีของอาชีพด้วย พวกนักฆ่ากลุ่มนี้เลยไม่ลอบยิงเขา อ้า ..... แต่ทำให้ตรูเสียงานนี่แหละ ปัญหา ถ้ารู้แล้วทำไมถึงไม่ยกเลิกงานไปตั้งแต่แรกล่ะฟะ

     

    สวัสดีครับ นายท่านเป็นอย่างไรบ้างเฟต ยกโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่อไปหารถอีกคันหนึ่ง ที่เขาบอกให้ออกตามหลังเขามา

    นายท่านปลอดภัยดีครับคุณเฟต แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เมื่อกี้ผมเห็นรถตำรวจสวนไปหลายคันเลยคนขับรถปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความตื่นกลัวไว้ หลังเห็นว่าเฟตเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ให้ศัตรูที่ซุ่มรออยู่ออกติดตามที่ตัวเขา ก่อนที่รถรับพ่อใหญ่แห่งธำรงพักตร์ ดิคอป์จริงๆ จะออกจากบ้านหลังนั้น

    ผมไม่เป็นอะไรครับเฟตตอบขณะใช้กดเปิดสัญญาณแล้วขึ้นไปนั่งบนรถ ทำไมเมื่อกี้เขาไม่กดให้สัญญาณเตือนภัยดังหว่า พวก รปภ.จะได้ได้ยิน แล้วมาช่วยได้ทัน แต่เมื่อคิดดูอีกที คนพวกนั้นเป็นพวกเดียวกัน ต่อให้เขาเปิดเพลงเมทัลลั่นสนามบิน ก็คงไม่มีใครมาด่าหรอกนะ

    พานายท่านกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อนเฟตกล่าวตัดบท เมื่อได้ยินเสียงของสิริภพและวิภาถามไถ่ด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเฟตไม่มารับด้วยตัวเอง

    การที่เฟตออกมาก่อนนั้น หนึ่ง เป็นเพราะว่าเขาเห็นรถต้องสงสัยในกล้องวงจรปิดตนเลยบอกให้คนขับรถให้ตามเขาไปทีหลัง ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรคนขับรถคันนี้จริง จะได้มีรถไปรับนายใหญ่แทนเขา ชื่อเสียในการล่าช้าจะได้ไม่เกิด

    สอง เพื่อให้รู้ว่าเป้าหมายอยู่ที่ใครกันแน่ ถ้าเกิดรถคันดังกล่าวจะยิงนายใหญ่ของเขาจริงก็คงจะลงมือตอนที่เขาไปรับสิริภพแล้วกลับมาขึ้นรถ แต่ถ้ามาลงมือกับเขาก่อน  แสดงให้เห็นว่าเขาคือเป้าหมายในตอนนี้

    และสาม ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นจริงๆ เขาจะได้เป็นอันตรายเพียงคนเดียว ซึ่งนี่คือหน้าที่ของบอดี้การ์ดที่จงรักภักดีอย่างเขา

    จบนี่แล้ว ต้องไปสืบซะหน่อยมั้ง ว่าใครจ้างวานมาเฟตพึมพำขณะถอดสูทออกมา แล้วเขาก็พบว่าตัวเองโดนกระสุนยิงอยู่หลายนัดเหมือนกัน นี่ยังดีที่สูทนี้เป็นเสื้อสูทกันกระสุนระดับ 3a ที่กันกระสุนปืนกลเบาและสั้นได้ดี

    หึหึ สงสัยจะไม่มี โอกาสหน้าแหะ มือปืนพวกนี้เล่นอะไรรอบคอบจริงๆเฟตหัวเราะคนเดียวในรถเมื่อเห็นว่าตนโดนกระสุนปืนสั้น ขนาด .44 แม็กนั่ม ที่มีอำนาจทะลวงเกราะสูง ซึ่งมันทำหน้าที่ได้ดี และทะลวงเข้าไปที่ท้องและแขนจุดละ 1 นัด ถึงว่า ทำไมตอนที่เขาเคลื่อนไหวแบบเร็วๆ ร่างกายถึงได้หน่วงนัก ตอนแรกก็นึกว่าเป็นอาการของ บลันท์ ทรอมา” (Blunt Trauma) หรืออาการฟกช้ำซะอีก เลยฝืนร่างกายสู้ไปซะก่อน แล้วค่อยมาพักทีหลัง แต่ที่ไหนได้ ดันโดนยิงทะลุเสื้อเกราะมาซะงั้น

    ขอนอนสักพักคงไม่เป็นอะไรมั้งเฟตพึมพำขณะหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย อาการง่วงที่เกิดขึ้นเกิดจากการเสียเลือดไปมาก นี่ยังดีที่เขามีเสื้อสูทจึงไม่พลาดถูกยิงตายตั้งแต่ทีแรก แต่ความผิดพลาดก็มีกันได้เสมอ เพราะเขานึกไม่ถึงเช่นกันว่าพวกมือปืนจะใช้ปืนขนาด .44 ด้วย ปกติพวกมือปืนส่วนใหญ่มักจะใช้กระสุนที่มีขนาดใหญ่สุดคือขนาด .45 หรือ 11 มม.ที่บ้านเราเมืองเดียวเรียกนั่นเอง การที่เขาใส่เกราะชนิด 3A นั้นถือว่ารอบคอบที่สุดแล้ว

    เสื้อเกราะกันกระสุนชนิด 3A คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ แบบ FMJ (กระสุนที่ประจำพวกปืนกลอูซี่ Uzi 9x19) ที่มีหัวกระสุนหนัก 124 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,400 ฟุต/วินาที และกระสุนในขนาด .44 แม็กนั่ม แบบ SJHP (เป็นแบบปกติ) ที่มีหัวกระสุนหนัก 240 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,400 ฟุต/วินาที รวมไปถึงป้องกระสุนในระดับ 1, 2 และ 3 ด้วย ถ้าเกิดเกินกว่านี้ไปก็ต้องเป็นพวกกระสุนจำพวกเจาะเกราะเฉพาะ

    ในขณะที่เปลืองตาหลุบต่ำเหมือนจะปิดลง ผู้ที่กำลังจะตายกลับคิดถึงคำสัญญาที่ตนเคยพูดให้สัญญาไว้เสมอ เวลาคนจะตาย มักจะรู้สึกอย่างนี้กันซินะ ภาพเก่าๆที่เคยลืมไปแล้ว มักจะกลับมาให้ได้ดูเพื่อย้อนความหลัง ความดีความชั่วต่างๆ กลับมาตามหลอกหลอน อืม ถ้าไม่นับเรื่องถูกเยียนเอาจูบแรกไป ก็คงจะเป็นความดีทั้งหมดสำหรับเขาล่ะมั้ง

    เฮ้อ ต้องตายแล้วเหรอเนี่ย ไม่น่าเลย รู้งี้ให้ซิงเขาไปตั้งแต่ตอนนั้นซะก็ดีเฟตพึมพำออกมา แต่เสียงนั้นกลับลิบหรี่ ด้วยอาการของผู้ที่ถูกยิงกำลังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ นี่ถ้ารู้ตัวได้เร็วกว่านี้ เขาคงทำแผลเบื้องต้นให้ตัวเองไปแล้ว นี่เล่นปล่อยไว้จนเลือดท่วมกาย รู้ตัวก็เมื่อสายซินะ สงสัยจะสายมากจริงๆ เมื่อการฝืนยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูจะไม่เป็นผล แถมสายตายังมืดลงไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่กำลังถ่างตาดูโลกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายแท้ๆ

    ชายหนุ่มหลับตาลงคล้ายคนนอนหลับด้วยท่าทีที่มีความสุขกับความคิดของตัวเองแบบเต็มที่ เมื่อคิดได้ว่าตนตายในหน้าที่และทำดีที่สุดแล้ว หน้าที่ของเขาก็แค่ช่วยเหลือ ป้องกัน แล้วก็ตาย มันง่ายๆ คนที่ไร้ญาติแบบเขา ตายไปไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แถมงานก็ทำไว้ให้โลกได้จดจำด้วย ว่าคนๆเดียว สามารถรอดจากนักฆ่านับสิบได้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ถามความเห็นของผู้ที่ถูกปกป้องเลยสักนิด แล้วทำไมเอ็งถึงไม่เอาคนติดตามอื่นๆ มาล่ะ

    ภายในเกม สงครามแห่งอำนาจ (Proxy War) บ้านของผู้เล่นเฟต

     “นี่เธอ ฉันขอไปกินข้าวหน่อยสิสาวสวยผมสีน้ำเงินที่มาพักในบ้านหลังนี้ ส่งคำร้องขอวัลคิวรี่สาวผู้ที่ดูแลความสะอาดของคฤหาสน์หลังนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจาเนียชักชวนไปกินข้าว จนเกิดอาการติดใจเป็นอย่างมาก หลังจากได้ลิ้มรสอาหารชื่อดังของเมืองเริ่มต้น

    ถึงคุณจะเป็นมังกรใต้อำนาจของเจ้านาย นั่นไม่ได้หมายความว่าจะขอไปกินได้เรื่อยๆนะคะเอลฟ์สาวตอบกลับด้วยความสุภาพตามสไตล์ แม้มื้อนี้จะเป็นมื้อเช้าที่ 20 ของมังกรสาวแล้วก็ตาม นี่ยังดีที่สมาคมพ่อครัวแห่งเมืองยังยินยอมให้กินฟรีอยู่ เลยสามารถกินได้แบบอันลิมิเตด

    เอาน่าเจ้านายเธอก็เจ้านายฉันด้วยเหมือนกันนั่นแหละ ของฟรีรีบๆไปกินกันเหอะลีเวียธานว่าจบก็ควงแขนจาเนียเตรียมออกจากบ้านเพื่อไปยังร้านอาหารที่ขึ้นตรงว่าให้เฟตกินฟรี แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากธรณีประตู เอลฟ์สาวก็หยุดชะงัด เอามือกุมหัวใจด้วยความเจ็บปวด เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาทิ่มแทงที่จิตใจ

    เจ้านายจาเนียคิดได้อย่างเดียว ความผูกพันของเธอเชื่อมโยงอยู่กับคนๆเดียว และอาการแบบนี้ก็น่าจะเป็นเพราะคนๆนั้นแน่ๆเลย

    แค่ชวนไปกินข้าว ถึงกับต้องอมทุกข์ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยลีเวียธานบ่นงึมงำ เมื่อเอลฟ์สาวกุมหน้าอกหน้าซีดอยู่คนเดียว ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ มัวแต่ทำหน้าเจ็บปวดจนเธอขี้เกียจที่จะไปกินข้าวแล้ว

     

    เป็นอะไรเหรอคะ คุณคุณหญิงวิจิตราถามสามีที่ถือโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งเคียด

    เจ้าหน้าที่พิเศษ ดาร์กเฟตถูกลอบยิงน่ะ ตอนนี้อาการเป็นตายเท่ากันเพราะเสียเลือดมากเลยพิเชฐหันมาบอกภรรยาพร้อมกับข่าวร้ายที่ตนพึ่งได้จากสายข่าววงใน ที่แจ้งว่าเฟตมีศักดิเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของรัฐเช่นกัน แม้จะไม่มียศทางราชการก็ตาม

    ตอนนี้เฟตเป็นยังไงบ้างภรรยาถามกลับด้วยความตกใจ ชื่อนี้ใครๆก็รู้จัก แถมเธอกับเฟตก็พึ่งรู้จักกันเมื่อคืนนี้เอง บ่ายมาถึงกับจะเป็นจะตายเลยเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ คนๆนั้นเป็นถึงลูกชายบุญธรรมแห่งบริษัท ธำรงพักตร์ ดิ คอปร์เลยนะ

    อยู่ห้อง ICU น่ะนายตำรวจใหญ่กล่าวจบก็คว้าเสื้อทำงานที่บ่งบอกถึงยศตำแหน่งอันสูงลิบ เพื่อเตรียมตัวไปโรงพยายบาลต่อ ทั้งๆที่พึ่งออกเวรมา

    ไปไหนกันเหรอคะ คุณแม่ คุณพ่อแฟร์ลูกสาวคนเดียวของบ้านที่กลับมาอาศัยนอนที่บ้านถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นคู่สามีภรรยาที่เคารพรักกำลังจะออกจากบ้านไปด้วยความรีบร้อน

    อืมพิเชฐอ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะรู้ว่าข่าวแบบนี้ชวนสะท้านวงการขนาดไหน แถมเขายังพอรู้ว่าลูกตนเองมีความรู้สึกดีๆให้กับผู้ชายเป็นครั้งแรก แต่มันดันจะมาชิ่งหนีตายซะแล้ว เลยไม่รู้จะเริ่มต้นว่ายังไงดี

     “ทำใจดีๆนะลูกวิจิตราจูงมือสามีเดินเข้าไปหาลูกสาวเพียงคนเดียว ที่กำลังทำหน้าฉงนสนเท่เป็นอย่างมาก กับท่าทางของบิดาตนเอง

    ลูกชายคนโตของบ้านธำรงพักตร์ เข้าโรงพยาบาลน่ะลูก หลังจากถูกลอบสังหารด้วยมือปืนระดับพะกาฬหลายสิบคนพิเชฐบอกความจริงออกไป แต่ไม่บอกถึงข้อมูลลับของราชการที่ควรจะเก็บไว้เป็นความลับต่อไป

    จะเป็นไปได้ไงคะ ก็เมื่อตอนเที่ยง (ในเกมตอนเช้า) พี่เฟตพึ่งบอกว่ามีงานอยู่เลยแฟร์ยิ้มแห้งๆ ถามเหมือนคนพึ่งเจอผีมา ก็แหงะล่ะ พึ่งแยกกันไม่กี่ชั่วโมงเอง จะไปถูกลอบยิงได้ยังไงกันล่ะ

    เจ้าหน้าที่สอบสวน ไปสอบคนขับรถของบ้านธำรงพักตร์แล้ว เขาบอกว่าเฟตเป็นคนเสนอแผนเอง ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องจริงด้วยพิเชฐเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่เมื่อลูกน้องของเขาแจ้งมาตรงกันทั้ง 2 พื้นที่ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ถูกกรอกมาแล้ว

    ลูกพิเชฐและวิจิตราอุทานอย่างตกใจเมื่อแฟร์ตะลึงค้างจนหงายหลังไปแล้ว ก็แหงล่ะ ขนาดพวกเขาที่พึ่งห่างกันเมื่อคืนยังไม่อยากจะเชื่อหูเลยว่าจริง นับประสาอะไรกับคนที่พึ่งเจอกันมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ความตายของโลกจริงไม่เหมือนกับในเกม เมื่อตายแล้วก็รอเวลาไปเกิดชาติหน้าเอาอย่างเดียวก็แล้วกัน อืม ว่าแต่ชาติหน้าจะเลือกเกิดเป็นอะไรดีล่ะ เมื่อเป็นคนยังถูกล่าซะขนาดนี้

     

    นั่นใช่คนที่เรารู้จักหรือเปล่าคะคุณภัทริกาที่นั่งดูทีวีกับสามีถามด้วยความสนใจ เมื่อเห็นข่าวด่วนว่าเกิดเหตุยิงกันที่สนามบิน โดยมีผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งทุกรายก็เป็นมือปืนในซุ้มดังๆทั้งสิ้น

    อืมพิทักษ์พยักหน้าตอบ หลังพิจารณาภาพที่ตนเห็นจนมั่นใจแล้วว่า นั่นคือเฟตแน่นอน แถมยังเป็นในสภาพเลือดโซมกายอีก อืม ถ้าตามข่าววงในที่ได้รับมาจากกระทรวงกลาโหม แบบนี้ก็เท่ากับเสียมือดีของกองทัพไปแล้วซินะ คิดเช่นนั้นใบหน้าของผู้นำแห่งบ้านก็เคร่งเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด

    กลับมาแล้วค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ในขณะที่เหตุการณ์กำลังมาคุ เทียร่าลูกสาวเพียงคนเดียวที่พึ่งกลับมาจากเรียนพิเศษการดนตรีทักทายบิดามารดาด้วยท่าทีอ่อนน้อม วันหยุดแบบนี้เธอมักจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่อยู่เสมอ ดีที่พี่ชายต่างมารดาก็ย้ายไปอยู่คอลโดเหมือนกัน เธอเลยไม่ต้องกังวลใจมากที่จะกลับมานอนค้างที่บ้าน

    เอ๋ ทำไมจ้องเทียอย่างนั่นล่ะคะเทียร่าถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นพ่อกับแม่จ้องมาที่ตนเป็นหนึ่งเดียว

    เข็มแข็งไว้ลูกพิทักษ์บอกจบก็เปลี่ยนช่องทีวีให้กลับมาเป็นช่องข่าวเก่า เมื่อกี้ตนตกใจเสียงบุตรสาวเลยเปลี่ยนช่องไปดูหนังรักกลบเกลื่อนซะได้

    สายข่าวรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายค่ะ ซึ่งทราบชื่อในภายหลังคือลูกชายบุญธรรมแห่งบริษัท ธำรงพักตร์ ดิคอปร์ ซึ่งตอนนี้ชายคนดังกล่าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้วค่ะ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกำลังอยู่ในระหว่างสืบสวน จนท.ตร.ฝ่ายสืบสวนได้ออกมารายงาน......เสียงข่าวรายงานได้เท่านั้น พิทักษ์และภรรยาจ้องมองบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอเงียบแบบฉับพลัน บ่งบอกได้ว่าอารมณ์ของเธอกำลังไม่ปกติ เมื่อใดที่ลูกสาวเงียบแบบนี้ มีอยู่ไม่กี่อย่าง คือโกรธผู้ชายมากนั่นแหละ แต่จะไปโกรธทำไมกันล่ะ ในเมื่อผู้ชายคนๆนั้นอยู่ในทีวี แถมกำลังถูกหามขึ้นรถพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันหลายนาย

    ไปโรงพยาบาลกันเถอะพิทักษ์เอ่ยแนะนำ ภรรยาสาวสวยเลยเดินเข้าไปจูงมือเทียร่า แล้วพาตามสามีขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บุตรสาวก็เงียบกริบไม่พูดอะไรสักคำ ไม่รู้ว่าช็อคหรือโกรธคนที่กำลังจะตายกันแน่ แต่พวกเขาก็พอเข้าใจล่ะนะ คนที่เล่นเกมด้วยกัน รู้จักกัน เจอหน้ากัน มันก็ต้องมีกันบ้างไอ้อาการช็อคที่ว่า แต่ไม่คิดว่าจะเป็นกับลูกสาวที่ขึ้นชื่อว่าเกลียดผู้ชายเข้าไส้ด้วย

     

    ณ โรงพยาบาลตำรวจ สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่เฟตถูกส่งตัวมารักษา  ด้วยความที่เป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวจึงถูกตำรวจอารักขาในฐานะพยานเป็นอย่างดี แล้วอีกด้าน ชายคนนี้เป็นถึงเจ้าหน้าที่พิเศษของกระทรวงกลาโหม เลยมีการส่งเรื่องให้มีคนคุ้มกันอย่างแน่นหนา

    คุณเฟตเป็นอย่างไรบ้างคะริเรียน่าที่พึ่งมาถึงถามไถ่ชิออนที่ยืนหน้าเศร้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งที่เก้าอี้หน้าห้องก็มีสามีภรรยาที่จับมือให้กำลังใจกันและกันอยู่ เธอเลยต้องสุภาพนิดนึง

    ยังไม่ทราบครับชิออนตอบกลับด้วยท่าทีเฉยชา ไม่มีความซ่าหลงเหลืออยู่เลย ข่าวที่ได้รับและภาพของพี่ชายต่างสายเลือดที่ได้เห็น มันทำร้ายจิตใจเขามาก คนๆนี้เป็นทั้งพี่ และพ่อให้กับเขาตั้งแต่เด็กๆ ใครมันจะไปทำตัวเริงร่าได้ไหวกันล่ะ

    พอซละ หนูรินวิภาที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เก้าอี้หันมาถามบุตรสาวของเพื่อนสนิทด้วยเสียงที่เศร้าสร้อย ลูกชายของตนที่ได้ยินเสียงของเธอถึงกับทำหน้าจะร้องไห้ออกมา

    คุณพ่อบินกลับบ้านไปค่ะริเรียน่าตอบด้วยความอ่อนน้อมกับญาติผู้ใหญ่

    ไง พิเชฐ พิทักษ์สิริภพที่นั่งอยู่กับนิภาร้องทักทายเพื่อนเก่าที่พึ่งเข้ามาถึงด้วยท่าทางที่ซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด

    อืม น่าเป็นห่วงพิทักษ์และพิเชฐตอบพร้อมกัน เพราะอาการของลูกสาวพวกเขานั้นแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด แปลกไปจนน่าเป็นห่วงอย่างมากเลย

     ฟ้าใสที่มาพร้อมกับชิออนแต่แรกเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวที่ตกอยู่ในความดูแลของพวกแม่ๆ ด้วยความเป็นกังวล เพราะเธอรู้ดีว่าสาวๆพวกนี้ถูกเฟตปักธงไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้นเอง

    คุณเฟตไม่เป็นไรหรอกนะ คิดในแง่ดีซิ คนกล้าหาญองอาจอย่างเขา พระต้องคุ้มครองฟ้าใสพยายามปลอบโยนเพื่อนเท่าที่ทำได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนรัก ที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง 2 สาวที่กำลังอึ้งอยู่ก็โอบกอดเพื่อนสาวด้วยความตกใจ สงสัยจะพึ่งหายช็อคล่ะมั้งเนี่ย

    ริเรียน่าเห็น 2 สาวกอดกันอยู่ก็หันไปมองที่ประตูห้องไอซียูที่ปิดตายอยู่ แม้จะดูเข็มแข็งตั้งหลักได้มากกว่าใคร แต่ใจของเธอก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ถึงจะไม่ได้หวานหอมอะไรกันจนถึงขนาดที่เรียกว่าคนสนิท แต่คนแปลกๆแบบนี้ เธอพึ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก เลยรู้สึกเสียดายที่จะต้องจากกันแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกันดีพอเลย

    แอ๊ด!!! ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมา พร้อมกับหมอใหญ่ ชิออนเห็นเช่นนั้นก็พุ่งตัวเข้าหาด้วยความเร็วแสง พร้อมกับร้องถามจนคนอื่นๆตกอกตกใจพี่ผมเป็นไงบ้างหมอ

    เอ่อ เครสนี้ถือว่าแปลก แต่หมอก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่ร่างกายของคนไข้ฟื้นตัวได้ดีจนน่าประหลาด แต่...หมอใหญ่กล่าวออกมาพร้อมกับถอดแว่นออกมาเช็ด เหมือนรู้สึกหนักใจกับข้อมูลที่ต้องกล่าวออกมาอีก

    มีอะไรอีกล่ะหมอสิริภพถามเมื่อเห็นท่าทีอ้ำอึ้งนี้ ซึ่งคำถามของเขาสามารถไปกดดันจนหมอใหญ่สวมแว่นกลับเข้าไปพร้อมกับอธิบายถึงสิ่งที่หนักใจ

    แม้คนไข้จะพ้นขีดอันตรายมาได้ก็จริง แต่ก่อนที่คนไข้จะมาถึงมือหมอ หัวใจของเขาหยุดเต้นไปนาน ทำให้สมองเกิดอาการขาดเลือดหมอใหญ่กล่าวด้วยท่าทีอึดอัดใจ คนไข้รายนี้สำคัญกับผู้ใหญ่มีสีหลายคนจริงๆ แต่ด้วยจรรยาบันแห่งแพทย์ เขาเลยอธิบายต่อให้จบดังนั้นในเครสนี้ คนไข้มีสิทธิ์ที่จะฟื้นแค่เพียง 50% เท่านั้นครับหลังสิ้นสิ่งที่ต้องการบอกแล้ว หมอใหญ่เลยถอนหายใจออกมายาว ซึ่งข่าวนี้ทำให้ใครหลายๆ คน ตกใจจนตัวแข็ง ได้ทันที

     

    อาการของเฟตนั้นเรียกว่าสาหัสมาก เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นไปนานเพราะอาการเสียเลือด แต่ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยของโรงพยาบาลตำรวจ คนไข้รายนี้จึงรอดจากความตายมาได้ แต่อีกทางหนึ่งก็เป็นเพราะร่างกายคนไข้รายนี้แข็งแรงและทนทานเหมือนถูกฝึกมาดี แค่การปั๊มหัวใจเพียงไม่กี่เซ็ท หัวใจที่หยุดไปของมนุษย์ประหลาดก็ถูกยื้อให้กลับมาสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อีกครั้ง พอหัวใจกลับมาเต้นได้อีกครั้ง ทีมงานแพทย์ก็ทำการเปลี่ยนถ่ายเลือดเสียที่ถูกใช้ไปจนหมดให้กับคนไข้ เพื่อให้หัวใจอัดสูบเลือดได้ดียิ่งขึ้น

    แม้การแพทย์จะสามารถช่วยชีวิตมนุษย์ได้ดีขนาดไหน แต่ถ้ามนุษย์คนนั้นไม่สู้กับอาการบาดเจ็บของตน แค่แผลขาขาดก็ตายได้แล้ว ส่วนถ้ามนุษย์คนใดมีกำลังใจที่จะมีชีวิตแม้ร่างกายท่อนร่างจะหายไป ก็สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง แต่ชีวิตจะเปลี่ยนเป็นหลังมือไปเลย

    ในห้องไอซียู เฟตที่ถูกให้เลือดนั้นแม้ร่างกายจะดูเหมือนปกติ แต่สมองกลับไม่รับรู้ถึงสิ่งใด เนื่องจากขาดเลือดไปเป็นเวลานาน และนี่คือสิ่งที่หมอหวาดกลัวว่า คนไข้จะเป็นเจ้าชายนิทรา

    เหล่าพ่อแม่ที่หมออนุญาตให้เข้าเยี่ยมคนไข้นั้น ต่างมองอาการของชายตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง แม้ร่างกายเฟตจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าเช่นแสงและการบีบมือ แต่การโต้ตอบจากสติของเขานั้นกลับเป็นศูนย์

    3 สาวที่เคยรู้จักกับชายคนนี้ดี ต่างยืนอยู่วงนอกแบบห่างๆ เพราะกลัวว่าการไปอยู่ใกล้แล้ว จะห้ามสติไม่ไหว ปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมา แม้จะไม่เข้าใกล้ แต่พวกเธอก็ยังลอบภาวนาให้ชายผู้นี้ได้กลับมาสร้างสีสันความแปลกใหม่ให้กับพวกเธอ

    ชิออนจ้องมองอาการของเพื่อนรักและพี่ชายเพียงคนเดียวของตนด้วยสายตาเจ็บปวด เพราะเขาคิดสั้นเกินไป ว่าการยกเลิกงานรับจ้าง จะทำให้พี่ชายอยู่รอดปลอดภัย คอยเลี้ยงดูบุตรหลานให้กับเขา ในขณะที่สายตาของเขากำลังเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและชิงชังต่อตนเองและโลกแบบที่พี่ชายต่างสายเลือดเคยเป็น มือของเขาก็ได้รับการบีบเหมือนให้กำลังใจจากบิดาและมารดา เพราะคนพวกนี้รู้ว่าชิออนรักเฟตดั่งเช่นพี่ชายแท้ๆ ที่คลานตามกันมา นี่ซินะ ความต่างของการสูญเสีย

    คุณเฟตต้องฟื้นค่ะฟ้าใสที่ดูแล้วรู้อาการของแฟนหนุ่มเดินเข้ามา ซึ่งทางพ่อแม่ของชายตรงหน้ายอมเปิดทางให้สตรีที่ถูกหมั้นหมาย ได้เข้าให้กำลังใจแบบใกล้ชิดติดขอบสนาม แม้พ่อแม่จะสำคัญในเวลาที่ลูกเจ็บปวด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลูกผู้ชายก็คงหนีไม่พ้นสตรีที่เป็นคู่ชีวิตและคู่คิดแน่ๆ การที่พวกสิริภพให้ฟ้าใสและชิออนได้หมั้นหมายกันไว้นั้น คงจะเป็นความคิดที่ดีที่สุดแล้วเป็นแน่ แม้ทั้งคู่จะดูเข้ากันไม่ได้ในหลายๆครั้งก็ตาม

     

    ณ โลกที่มืดสนิท จิตของเฟตล่องลอยมาเรื่อยๆ เหมือนกับถูกใครดึงมา

    ความตายสินะชายหนุ่มพึมพำหลังมองความมืดที่อยู่รอบๆ ด้วยความนิ่งสงบ เกมที่เขาพึ่งเล่น ความตายก็เป็นแบบนี้แหละ เลยช่วยให้เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับมันสักเท่าไหร่

    ลูกเฟตเสียงของสตรีที่อยู่ในความทรงจำดังขึ้นทำให้เขาต้องรีบหันไปมองด้วยความรวดเร็ว เมื่อสายตาเขาโฟกัสเห็นใครเข้าก็ถึงกับฉีกยิ้มออกมาแบบจริงๆจังๆ เป็นครั้งแรก

     “แม่เฟตร้องเรียกพร้อมกับก็โผเข้าไปหาสตรีชุดขาวที่ลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แต่ยังไม่ทันได้เข้าถึงตัว ชายหนุ่มก็ต้องหยุดตัวแล้วมองดูมารดาด้วยความแปลกใจที่เห็นเบื้องหลังของเธอมีแต่แสงสว่างที่เจิดจ้าจนมองฝ่าเข้าไปไม่ได้

    ลูกเหนื่อยกับงานและคำว่าหน้าที่มาพอแล้วนะลูกมารดาของเขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ซึ่งบุตรชายที่รักมารดายิ่งชีพก็ยิ้มหน้าบานออกมา แม่ของเขารู้ใจเขาที่สุดเลย

    ผมจะได้อยู่กับแม่ตลอดไปแล้วใช่มั้ยครับเฟตถามพร้อมรอยยิ้มที่ปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็เหล่มองไปที่ด้านหลังของมารดา ที่เป็นแสงอันถูกทอดยาวจากพื้นเบื้องหลังของมารดาพุ่งเป็นเงามาสู่ตน

    มารดาของเขากลับไม่ตอบคำ เธอเดินตามสะพานแสงมาเรื่อยๆโดยยิ้มให้เฟตตลอด แม้ใบหน้าเธอจะยิ้มแต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความกังวลต่อความคิดของบุตรชาย ที่ทิ้งความเป็นตัวเองให้ตายมาพร้อมกับเธอ

    พักบ้างนะลูก ดูสิ สายตาลูกมีแต่คำว่าหน้าที่ทั้งนั้นเลยมารดาของชายหนุ่มกล่าวขณะใช้มือจับใบหน้าของลูกชายที่กำลังยิ้มแย้มให้กับผู้เป็นแม่

    ผมได้พักแล้วไงครับ ผมจะมาอยู่กับแม่ไงเฟตยิ้มตอบเหมือนเดิม ถ้าเกิดตายแล้วได้มาอยู่กับแม่ เขาก็ยอมตายซะดีกว่า

    ลูกพักอย่างนั้นไม่ได้หรอกลูก แล้วคนข้างหลังเขาจะเสียใจมั้ยละแม่ของเขากลับตำหนิด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทำให้ชายหนุ่มโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ ความสูญเสียในครั้งนั้นมันช่างเจ็บปวดยิ่งนัก

    ผมอยู่กับแม่ไม่ได้เหรอครับเฟตกล่าวอ้อนแม่ของตน ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือคนอ่อนโยนและอ่อนแอ ซึ่งเขาคนเดิมได้ตายไปพร้อมกับมารดาของเขาแล้ว

    ได้สิลูก แต่ไม่ใช่เวลานี้แม่ของเขากล่าวด้วยรอยยิ้มแบบอ่อนโยน ตามแบบปกติที่ตนเคยทำมาตลอดในช่วงชีวิตที่ลูกชายจำได้

    ทำไมล่ะครับ

    ถ้าแม่เอาลูกมาตอนนี้ คนที่รักลูกไม่แพ้แม่เขาจะเสียใจขนาดไหน ลูกแม่นี่ไม่รู้เรื่องเลย

    ชินเขาโตพอแล้วนะแม่ ถึงจะยังห้าวไปบ้างก็ตาม ส่วนนายท่านผมก็วางแผนงานให้แล้วนะครับ บริษัทรักษาความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากลเลยนะเฟตรีบเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลออกมาหลังจากหญิงสาวที่เขารักกำลังจะถีบเขาออกห่างอีกแล้ว

    ลูกคิดถึงแต่คนที่ลูกเคยอยู่ด้วย แล้วคนที่มีพรหมลิขิตกับลูกเขาจะไม่เสียใจหรือไง เจ้าลูกชายคนนี้แม่ของเขายังคงตักเตือนสติด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิม เธอรู้ดีว่าเฟตรักเธอมากกว่าใครในโลก แต่ที่ลูกเธอไม่ฆ่าตัวตายตามมาตั้งแต่ต้นนั้น ก็ดีมากถมขนาดไหนแล้ว

    สิ่งที่มารดาเตือนสติ ทำให้ชายหนุ่มติดแม่นิ่งเงียบไป พร้อมกับทบทวนว่าเขามีใครที่ต้องห่วงบ้าง แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เพราะเขาเป็นประเภทไม่ชอบจำอะไรให้หนักหัว

    ขี้ลืมจังนะลูกแม่ของเฟตเตือนอีกครั้งพร้อมกับยกมือตีที่หน้าผากเบาๆ แต่แค่นี้ก็เพียงพอที่จะดึงคนที่เขาไม่สมควรลืมให้กลับมาได้แล้ว

    งั้นแม่ครับ ผมยังไม่ตายตอนนี้ได้ไหม ผมยังมีหน้าที่ต้องทำต่อเมื่อนึกถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับบรรดาสาวๆ หรืออสูรในเกม ชายที่ขึ้นชื่อว่าไม่เคยผิดคำสัญญาก็เลือกที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง

    ลูกมีชีวิตได้ด้วยตัวลูกเอง อย่าใช้คำว่าหน้าที่มาเป็นใหญ่ การที่ลูกสละชีวิตเพื่อหน้าที่น่ะ ไม่ได้ดีเสมอไปหรอกนะ คนที่อยู่ข้างหลังที่เขารักและห่วงลูกเขาจะเป็นอย่างไรแม่ของชายหนุ่มสอนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะชี้มือไปที่ด้านหลัง พอเขาหันไปมองตามก็พบบรรดาภาพต่างๆ ที่เป็นตัวของเขาที่กำลังสัญญาไว้ให้กับใครต่อใคร ว่าตนจะต้องทำตามคำที่พูดได้อย่างแน่นอน

    ได้ครับแม่เฟตตอบหลังจากไตร่ตรองจากความคิดตามสิ่งที่ได้เห็น

    ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและให้ความสำคัญกับคนที่รักเราให้เต็มที่นะลูก ตอนตายจะได้ไม่เสียใจทีหลังแม่ของชายหนุ่มกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดันให้ตัวของบุตรชายลอยถอยหลังกลับไปหาความมืดที่อยู่ข้างหลัง

     

    ภายในห้องไอซียู ผู้เข้ามาเยี่ยมคนไข้ต่างทำหน้าอมทุกข์ไปตามๆกัน แม้หลายๆคนจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่เมื่อเห็นอาการของเพื่อนก็อดที่จะเป็นห่วงตามๆกันไปไม่ได้

    ไม่เห็นจะต้องเครียดกันเลย ผมยังไม่ตายซะหน่อยเสียงของเฟตดังขึ้น พร้อมกับร่างของคนไข้ที่อยู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นมานั่ง ส่งผลให้ผู้ที่ตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกันไปเป็นแถวๆ แต่ด้วยสปิริตความเป็นพ่อเป็นแม่สิริภพและวิภารีบกดเครื่องส่งสัญญาณ เรียกให้หมอใหญ่กลับมาทำงานอย่างเร่งด่วน หลังจากได้รับอนุญาตให้เขาเยี่ยมเพียงแค่ 10 นาที

    พี่ชิออนที่หายตกใจอุทานออกมา ในขณะที่ 3 สาวยังคงอึ้งตะลึงอยู่ เหมือนกับปรับอารมณ์ไม่ทัน

    ลูก ถอยออกมาก่อนวิภากล่าวเตือน เมื่อเห็นชิออนยืนชิดติดเตียง จนหมอใหญ่ที่พึ่งเข้ามา ไม่สามารถตรวจคนไข้ได้ถนัดนัก

    ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับเฟตตอบแล้วยกมือขึ้นก่อนที่จะลืมขึ้นมอง ทีมแพทย์ตะลึงไปชั่วขณะ ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ต่างเงียบกันไปอย่างไม่ได้นัดหมายเมื่อเห็นอาการของคนไข้ ที่ฟื้นตัวได้เร็วจนน่าตกใจ นี่ซินะ ความประหลาดที่ทีมแพทย์บอกไว้น่ะ

    ฟื้นเร็วนะครับหมอใหญ่ทักทายเฟตเป็นคนแรก อาการของคนไข้เรียกได้เลยว่าผิดปกติหมด ทั้งร่างกายที่ฟื้นตัวได้เร็วทั้งๆ ที่พึ่งปั๊มหัวใจได้เพียงไม่กี่ครั้ง การฟื้นตัวที่พึ่งปรับสภาพ การโต้ตอบได้เหมือนปกติ ทั้งๆที่พึ่งเฉียดตาย

    ถึงผมจะฟื้น นั่นไม่ได้หมายความว่าผมหายเป็นปกตินะครับเมื่อเห็นทุกคนจ้องมาก็ทำการขยับตัวให้ไปหนุนหมอนที่ตนพึ่งเอามาวางรองให้สูงขึ้น พอเอนหลังลงไปแล้วก็เหมือนกับผู้ป่วยธรรมดานี่เอง

    เข้าใจแล้วครับ งั้นผมอยากจะขอให้ทุกคนปล่อยให้คนไข้ได้พักผ่อนหน่อยนะครับ แม้คนไข้จะฟื้นตัวแล้ว แต่ร่างกายก็ยังต้องการการพักผ่อนอยู่บ้างหมอใหญ่หันมาบอกพวกผู้ใหญ่ที่พึ่งหายอึ้ง แต่แล้วทุกคนก็ต้องกลับไปอึ้งหนักอีกครั้ง เมื่อเฟตเปลี่ยนใจลุกขึ้นมาเดินได้ตามปกติ เหมือนกับการผ่าตัดเอากระสุนออกก่อนหน้านี้ มันได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย ทั้งๆที่แผลผ่าตัดยังคงอยู่ที่หน้าท้อง

    ผมฝึกร่างกายให้พร้อมรับกับทุกอากาศและสถานที่ครับ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยมากสำหรับผมชายหนุ่มอธิบายถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พูดตรงๆ ในตอนนั้นถ้าเกิดเขารู้ตัวว่าถูกยิงตั้งแต่เริ่มต้นล่ะก็ คิดเหรอว่าจะได้มานอนอยู่ในห้องฉุกเฉินนี่นะ หึหึ ฝันไปเหอะ ตัวเขารู้วิธีเอาตัวรอดอยู่แล้ว เพียงแต่ดันเป็นการรู้ตัวเมื่อสาย ก็เลยต้องมาพึ่งมือหมอแบบนี้ไง

    ทางที่ดีผมอยากให้คุณนอนพักก่อนนะครับ ผมไม่เห็นด้วยที่คุณจะฝืนร่างกายขนาดนี้หมอใหญ่รีบค้านคนไข้ที่กำลังเดินทดสอบความพร้อมของร่างกาย

    ผมไม่ได้ฝืนซะหน่อย ก็ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆเฟตเองก็ค้านกลับ ขณะเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องเดียวกัน

    คนไข้ ทั้งดื้อและรั้น มากเลยนะครับหมอใหญ่ที่ฝืนคนไข้ไม่ได้หันมาถามสิริภพที่เป็นผู้ปกครอง

    ครับสิริภพรับคำสั้นๆ ลูกชายบุญธรรมเป็นคนที่ดื้อกับคนที่ตนไม่รู้จัก รั้นทุกอย่างตามความเชื่อและความคิดที่ถูกต้องของตัวเองโดยไม่สนเลยว่า สิ่งๆนั้นจะถูกจริงๆหรือไม่

    คุณอาครับ ไม่ทราบว่าพอรู้มั้ยครับ ว่าช่วงนี้มีนายตำรวจหรือทหารท่านใดที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศบ้างเสียงของชายที่เข้าห้องน้ำดังลอดถามออกมา ก่อนที่จะเดินออกมาโชว์ตัวให้พิทักษ์และพิเชฐได้เห็นตนในชุดสูทตามปกติ นี่ถ้าชุดไม่มีร่องรอยกระสุน ก็คงคิดว่าเป็นคนมาเยี่ยมผู้ป่วยเหมือนกันนะเนี่ย

    อันนี้ อาตอบได้เลยว่า มีหลายคนพอสมควร แล้วนั่น เธอจะไปไหนล่ะพิทักษ์ตอบจบก็ถามกลับ เมื่อเห็นคนไข้ที่คนอุตส่าห์มาเยี่ยมกำลังค้นหาปืนในเสื้อสูท แต่เมื่อพบว่าพวกตำรวจยึดไปก็เลยถอนหายใจ

    คุณยังกลับไม่ได้นะครับ คุณพึ่งฟื้นมาได้ไม่ถึง 5 นาทีเลยหมอใหญ่รีบร้องค้าน เมื่อเห็นว่าเฟตกำลังสวมรองเท้า แบบคนเตรียมพร้อมจะออกรบ

    ผมอยากจะจบเรื่องนี้ให้ไวที่สุดครับ เพราะมันจะมีผลต่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่ใกล้ผม พวกนักฆ่าที่ถูกจ้างมาในคราวนี้ เป็นพวกต่างชาติซะด้วยชายหนุ่มกล่าวจบก็เดินเอาชุดคนไข้ที่ตนพึ่งเปลี่ยนมาวางไว้ที่เตียง ทำให้หมอใหญ่ต้องหันไปเรียกทีมงานให้เข้ามาจับตัวไม่ให้เฟตได้หนีออกไป แต่ก่อนที่ทีมแพทย์จะโดนสอนวิชาหมัดมวย พิเชฐก็ยกมือห้ามซะก่อน เพราะดูแล้ว พวกทีมแพทย์ได้เละแนะถ้าชายคนนี้สวนกลับในข้อหาป้องกันตัว

    เฟตจะกลับก็ได้ แต่อาอยากให้เธอตรวจร่างกายและความพร้อมจริงๆซะก่อน ไม่งั้นมันจะฝืนเกินไปนะพิเชฐกล่าว ทำให้ชายหนุ่มที่คิดว่าตัวเองพร้อมที่สุดแล้วหันไปมองทีมแพทย์ก่อนจะพยักหน้าเป็นการเชิญชวนให้เข้ามาตรวจแบบเร็วๆ พอดีตนรีบ

    ฟื้นตัวได้ไวจนน่าตกใจจริงๆนะริเรียน่าที่หายอึ้งกับสิ่งที่เห็นทักทาย แต่คำพูดของเธอช่างโง่เขลามากในความคิด ถ้าเทียบกับที่คนอื่นๆกำลังคิดอยู่เหมือนกัน

    ฮะฮะ ถ้ายังทำสิ่งที่ได้สัญญาจากพวกคุณไม่สำเร็จ ผมไม่ยอมตายหรอกครับ คำสัญญาของเรา คือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับชีวิตผมเฟตหันมาตอบกับ 3 สาว ที่ยืนอยู่มุมเดียวกัน ซึ่งเขาไม่ลืมที่จะยิ้มให้ด้วย

    รอยยิ้มที่หายไปนานชิออนอุทานเบาๆเมื่อเห็นรอยยิ้มที่จริงใจและอ่อนโยนของพี่ชาย ซึ่งหายไปตั้งแต่ที่แม่ของเฟตตาย

    แต่พวกผู้ใหญ่กับผู้ที่ถูกพูดคำหวานใส่ไม่ได้คิดตามแบบนั้น พวกเขาต่างตะลึงหลังจากตีความหมายในคำพูดที่ชายผู้นี้กล่าวออกมา เมื่อเทียบคำดูแล้ว ชายคนนี้ไปสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกับพวกสาวๆเมื่อไหร่กันเนี่ย แถมยังสำคัญเท่าชีวิตด้วย นี่มันขอแต่งงานเลยนะเว้ยเฮ้ย

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×