ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #37 : ตอนที่ 37 โชคชะตากับโจรสลัด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.85K
      35
      14 ก.ย. 56

    คำถามของแฟร์ ทำให้บรรดาอสูรหันมามอง จากนั้นก็ทำเมินไม่สนใจ พร้อมกับยกชาขึ้นดื่มแบบชาเป็นการรับรสชาติ แต่เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงทำท่าซีเรียสก็เลยชี้ให้ดูว่า เจ้านายของพวกเธอน่ะ หลุดไปอยู่ในโลกของตัวเองแล้ว

     

    เฟตที่เห็นผู้เล่นโจรเอาแต่ยืนจ้องก็เลยหันปืนไปเล็งยิงใส่นักธนูที่ขึ้นสังเกตการณ์ในมุมสูงซึ่งกำลังใส่ลูกดอกแล้วง้างมาเตรียมจะยิงพวกเขา นักธนูที่จะลอบกัดแขนขาดไปทันทีหลังจากเฟตลั่นไก Desert ในมือขวาไปใส่ต้นไหล่ที่ถือคันธนู ส่งผลให้ชายคนนั้นร้องคล่ำครวญจนพวกพ้องหน้าซีดไปตามๆกัน

    ทำยังไงดีวะ มันมีของสุดโกงขนาดนั้นเพื่อนๆหันมาถามกันอย่างตื่นตระหนกที่เห็นอาวุธสุดโกง แถมยังยิงจนเพื่อนนักธนูแขนหายไปอีก ส่วนเฟตผู้ถูกพูดถึงกลับถอนหายใจเมื่อเห็นผลการทำลายของกระสุนนัดนั้นเขากะจะยิงให้คันธนูหลุดมือเผื่อจะเก็บของไปทำทุน แต่เอาเข้าจริงๆกลับกลายเป็นว่าพลังทำลายล้างของกระสุนดันเอาแขนกับอาวุธกระเด็นหายไปด้วย

    เรามีกันหลายคน ส่วนมันมีปืนแค่ กระบอก ขอแค่เราลุยเข้าไปพร้อมๆกันมันก็ยิงไม่ทันแล้วชายตัวดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะแอบเอาเท้ายันหลังเพื่อนให้เดินนำแทนเพราะรู้ซึ้งถึงความรุนแรงของกระสุนปืนนั้นแล้ว

    เอาล่ะนะ หนึ่ง สอง ลุยชายที่โดนยันออกมา ร้องส่งสัญญาณพร้อมกับถืออาวุธพุ่งเข้าหาเฟตโดยเพื่อนๆหลายคนก็วิ่งตามมาด้วย เผื่อตนจะไม่ซวยถูกยิงไปเป็นคนแรก

    เพื่อเงินนี่ถึงกับยอมเสี่ยงตายกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย อืม ถ้าเอาเงินมาวางล่อก็คงจะเข้ามาติดกับซินะเฟตบ่นเบาๆพร้อมกับแสระยิ้มเมื่อเห็นคนพวกนี้กำลังพุ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย ทั้งๆที่เห็นอานุภาพการทำลายของกระสุนนัดนั้นแล้ว ว่ามันรุนแรงขนาดไหน

    เฟตเตะสกัดเท้าชายคนแรกที่ถือหอกแทงเข้ามา หลังจากชายที่ถือหอกเสียหลังเขาก็เอาปืนจิ้มเข้าสู่กลางท้องแล้วลั่นไกอย่างรวดเร็วจนกระสุนทะลุออกหลังไป ชายหนุ่มเห็นชายคนนี้ยังไม่ตายก็จัดการเหวี่ยงตัวออกไปบังลูกธนูที่กำลังถูกยิงออกมา จนชายคนนี้ถูกลูกธนูปักอยู่ที่กลางหลัง ซึ่งเลือดนั้นไหลทะลักออกมาเป็นน้ำก๊อกจากนั้นร่างกายอันชวนดูน่าหดหู่ก็สลายเป็นแสงไปอย่างรวดเร็ว

    ชายคนที่สองเห็นเพื่อนหายไปก็รีบพุ่งเข้ามาหาก่อนที่เฟตจะหันมายิง โดยตัวเขาใช้ดาบขนาดพอเหมาะกับตัว เฟตที่อยู่ในท่ากลับหลังต้องรีบตีลังกากลับตัวแล้วใช้ปลายเท้าขวาเตะที่ข้อแขนที่กำลังวาดดาบเข้ามา จนดาบนั้นหลุดมือไป พอชายคนนั้นเสียท่าเขาก็ใช้ปืนในมือขวาจ่อยิงที่หัวไหล่จนกระสุนทะลุไปถึงขา

    เพื่อนๆเห็นชายที่ใช้ดาบแขนห้อยก็ถึงกับสะท้าน แต่เพื่อนชายคนนั้นยังไม่ทันได้ร้อง เท้าอีกข้างของเฟตก็ถีบจนกระเด็นออกไปติดไม้กั้นที่ท้ายเรือ อนาตาเซียเห็นมีเหยื่อมาให้เล่นก็จัดการกางกรงเล็บมังกรแล้วเดินเข้าไปหาชายเคราะห์ร้ายทันทีด้วยความย่ามใจแบบเต็มที่ ส่งผลให้ไรน่ากับจาเนียซึ่งนั่งซดชาอยู่ถอนหายใจเบาๆ ว่าเจ้านายซาดิสแล้ว ยัยนี่กลับไม่ดูตัวเองอีกแหะว่าโรคจิตมากกว่าขนาดไหน

    หลังจากชายคนที่สองกระเด็นไปได้ไม่ไกลชายคนที่สามก็เข้ามาพร้อมกับมีสั้นคู่ เฟตเห็นมีดกำลังพุ่งเข้าหาตัวก็รีบยกปืนขึ้นมากันอย่างรวดเร็ว ชายที่ใช้มีดคู่เห็นศัตรูป้องกันได้ก็รีบย่อตัวต่ำเพื่อแทงกลาง เฟตเห็นศัตรูกำลังย่อตัวก็รีบใช้สันปืนกระทุ้งเข้าที่หัวจนชายคนนั้นหงายท้อง เมื่อศัตรูหงายท้องไปแล้ว ชายหนุ่มผู้เข่าสู่โลกส่วนตัวก็เล็งปืนในมือซ้ายใส่แขนที่ศัตรูกำลังเรียกพลังจนมีดสั้นเรืองแสง เฟตรีบลั่นไกใส่จนแขนข้างนั้นขาดกระจุยไปพร้อมกับมีดสั้นสีขาวนวลที่พร้อมสำหรับการโจมตี

    แต่ปืนย่อมมีขีดจำกัด กระสุนได้หมดลงไปแล้ว เฟตจึงต้องถอยออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเสียบแม็กกาซีนใหม่เข้าไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวแม็กเก่าก็สลายกลายเป็นไอไปหลังจากกระทบกับพื้นได้เพียง 3 ครั้ง

    พวกอสูรของเฟคเมื่อเห็นศัตรูลุยเข้าหาเจ้านายในตอนที่ไม่พร้อม ก็รีบเรียกอาวุธประจำตัวออกมา แล้วเข้าร่วมต่อสู้อย่างอาจหาญ พวกโจรสลัดเห็นการลงมือของสามสาวก็ต่างหน้าซีดเซียวเมื่อเห็นว่าพวกเธอต่างสวยสังหารทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ตาเซียที่กำลังนั่งกรีดแขนเพื่อนที่ถูกล้มจนร้องโหยหวนออกมา

    ถอยโว้ยชายหุ่นล่ำเห็นเพื่อนไปไม่รอดก็รีบเรียกให้ถอย เมื่อเห็นเพื่อนๆแต่ละคนโดนเฟตสอยเล่นจนแขนขาดหมด ส่วนพวกผู้หญิงก็สุดเก่งจนเพื่อนๆโดนไล่ต้อนถอยกลับไปยังเรือที่เตรียมมาอย่างไม่เป็นขบวน

    เฟตที่พึ่งเปลี่ยนแม็กกาซีนเสร็จหันมามองศัตรูที่กำลังวิ่งหนีขึ้นเรือที่พึ่งโผล่มาอย่างมึนงง ที่เห็นศัตรูจะไปก็ไปจะมาก็มา อสูรสาวกับแฟร์เห็นสถานการณ์เริ่มกลับเป็นปกติก็พากันเก็บอาวุธแล้วเดินมายืนใกล้ๆ เจ้านายด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมเมื่อเห็นสายตาติเตียนของชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าเฟตไม่อยากให้พวกเธอมือเปื้อนเลือด แถมความสนุกสุดเหวี่ยงก็ถูกจบลงไวเสียจนไม่มันส์มือเลย

    แต่ก่อนที่เขาจะได้ร้องโวยวาย ศัตรูที่อยู่บนเรือขนาดกลางก็ร้องว่าอะไรบางอย่าง

    เมื่อข้าอดได้เงิน พวกแกก็ตายมันกลางทะเลนี่แหละชายหุ่นล่ำร้องว่าด้วยอารมณ์โทสะแล้วก็โยนระเบิดใส่หน้าเรือที่เฟตโดยสามาหลายลูก พอระเบิดลูกแรกระเบิดออก ระเบิดลูกอื่นๆก็ระเบิดเป็นลูกโซ่จนกาบเรือปริแตกเล็กน้อยส่งผลให้น้ำเข้ามาภายในตัวเรือได้

    เฟตเห็นกลุ่มโจรสลัดระเบิดเรือก็ถึงกับโกรธ สงสัยการละเล่นของเขาจะส่งผลให้เขาเดือดร้อยเสียแล้ว ถ้าเอาจริงยิงหัวระเบิดสมองทิ้งตั้งแต่แรก คนของเขาก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนแบบนี้ ด้วยอารมณ์ที่ขึ้นจนถึงขีดสุด และร่างกายที่เรียนรู้ด้านมืดมาแล้ว ผมของเฟตก็กลายเป็นสีแดงเพลิง อันเกิดจากด้านมืดที่สุดโต่งของเขานั่นเอง แต่ก่อนที่เขาจะได้ลั่นไกส่งกระสุนสังหารเข้าหาศัตรู เขาก็รู้สึกว่าอากาศที่หน้าเรือนั้นเริ่มร้อนขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ พอจ้องมองดูทิศทางลมก็เห็นว่าผู้เล่นชายผมดำแซมแดงกำลังร่ายเวทอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขามองเห็นแวบแรกก็นึกว่าหลับตาทำใจเมื่อโดนปลดซะอีก

    ข้าในนามผู้รับใช้เทพจอมโกงโลกิ ข้าขอให้ท่านโปรดประทานพลังแห่งไฟมาป้องกันอสูรร้ายด้วยชายผมแซมแดงที่ยืนอยู่กลางตัวเรือร่ายเวทขึ้นมา จนไฟเริ่มปรากฏขึ้นแล้วลุกลามอย่างหนักหน่วง ผู้เล่นที่มองอยู่ต่างทำหน้างงงันสงสัยที่อยู่ๆนักเวทคนนี้ก็ร่ายเวทขึ้นมาซะเฉยๆ แถมท่าทางไฟของเขาคงจะไหม้เรือแทนที่จะมาป้องกันเรือแน่ๆ

    แต่โชคของเรือที่เฟตโดยสารยังมีอยู่มาก เพราะนักเวทชายหลับตาร่ายเวท ทำให้จังหวะไฟลงนั้นดันไปติดที่หัวเรือแทน แต่ที่หัวเรือนั้นเป็นพื้นที่ที่น้ำกำลังไหลเข้ามาเลยเป็นโชคดีที่ไฟไม่อาจรุกลามเข้ามาแต่เปลี่ยนไปลามที่ส่วนหัวเรือแทนซึ่งก็บริเวณนั้นก็คือสะพานข้ามเรือของโจรสลัด ด้วยไม้ค้ำเรือยังไม่ทันได้ถอด แถมยังเป็นไฟเวทอัญเชิญอีก เลยทำให้เรือของโจรสลัดลุกไหม้และโหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่นาทีเรือลำนั้นก็กลายเป็นเรือไฟท่ามกลางทะเลลึกไปแล้ว

    อ้าวชายผมแซมแดงอุทานเบาๆ เมื่อเห็นว่าไฟที่เรียกมาดันไปไหม้เรือแทนที่จะลอยเคียงคู่เรือเพื่อป้องกันอสูรน้ำ แต่แค่นั้นยังไม่พอมันดันไหม้ซะจนคนบนเรือนั้นต้องกระโดดน้ำหนีตายกันจ้าละหวั่นไปหมด เฟตหันไปมองชายผมแดงพร้อมกับแอบยกนิ้วให้ แหม ไอ้หมอนี่สังหารได้โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเขาอีกแหะ การฆ่าล้างเรือต่างกับตนที่กะจะยิงหัวให้ดับเพียงครั้งเดียว หึหึ การฆ่าด้วยการเผาทั้งเป็น เป็นอะไรที่โหดร้ายที่สุดแล้ว

    ฮะฮะชายผมแซมแดงหันมายิ้มแห้งๆ ให้กับชายขายตั๋วที่กำลังจ้องมองเรือของโจรสลัดค้าง ยังดีนะที่พลาดเป้า ถ้าไม่พลาดพวกตนคงจะตายแทนพวกโจรแน่

    เฟตหันกลับมาจ้องมองกลุ่มโจรสลัดด้วยสายตานิ่งเฉย เมื่อเห็นพวกโจรกำลังร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากโดนอสูรเมอโฟร์ก ที่มีรูปร่างแบบเงือกแต่ต่างที่ตรงที่ลำตัวและผมนั้นจะมีแต่สีน้ำเงิน กำลังรุมใช้หอกเสียบแทงร่างเหล่าโจรสลัดที่พยายามจะว่ายน้ำมาปีนขึ้นเรือที่พวกเขาโดยสารอยู่

    ด้วยความสงสารหรือยังไงไม่ทราบ เฟตทำการเอาปืนเล็งหัวแล้วเป่าสมองพวกผู้เล่นที่ท่าจะขึ้นเรือมาได้ ส่งผลให้พวกผู้เล่นที่โดยสารอยู่ในเรือลำเดียวกันถอยห่างอย่างไม่รู้ตัว ไอ้หมอนี่ โหดแฮะ

    มีวิธีแก้ไขมั้ยผู้เล่นคนหนึ่งร้องถามชายขายตั๋วอย่างตื่นตระหนกขณะมองดูน้ำที่กำลังไหลเข้าเรือมาเรื่อยๆจนเรือเริ่มเอียงไปยังทิศที่น้ำมีมาก เรื่องจมน้ำตายไม่น่ากลัวเลย แต่ถ้าตายเพราะไอ้พวกอสูรทะเลมีหวังได้ทรมานไปจนกว่าจะตายแน่

    ชายขายตั๋วเมื่อได้รับคำถามก็ถึงกับอึ้งตอบไม่ได้ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไงเช่นกัน นักเวทสายน้ำของเขาดันไม่มีพกติดตัวมาซะด้วย ชายขายตั๋วรีบมองหาช่องทางอย่างรวดเร็ว ซึ่งเขาก็เรียกมนุษย์ที่จ้างมาให้ไปช่วยกันวิดน้ำแทน อย่างน้อยก็ชะลอไม่ให้เรือจมเร็วล่ะนะ

    ใครเป็นนักเวทสายน้ำบ้างครับ ช่วยใช้เวทดึงน้ำออกไปทีชายขายตั๋วหันมาถามผู้โดยสารที่มีอยู่เกือบร้อยคน ซึ่งทุกคนก็ส่ายหน้าให้อย่างพร้อมเพรียงกันจนชายขายตั๋วเริ่มเห็นนรกรำไร

    ซ่อมแซมไม่ได้เลยเหรอคะผู้เล่นหญิงคนหนึ่งถามด้วยใบหน้าหวาดหวั่นเมื่อรับรู้ว่าเรือกำลังจะจมในไม่ช้าก็เร็ว แม้จะมีมนุษย์มาช่วยวิดน้ำแต่ก็คงอีกไม่นานเรือต้องจมแน่ๆถ้าเกิดไม่ทำอะไรเลย

    ก็อยากอยู่หรอกครับ แต่เรือผมโดนระเบิดจนไม้แตกไปหลายรูแล้ว ตอนนี้เรื่องซ่อมคงไม่ทันแล้วครับ ถึงอยากจะซ่อมแต่วัสดุก็ไม่มีซะด้วยชายขายตั๋วพูดด้วยเสียงเศร้า นอกจากเขาจะต้องเสียเรือที่รักแล้วสงสัยต้องมาเสียชีวิตตามเรือด้วยละมั้งนี่

    เอ่อใครมีพลังอัญเชิญอสูรทะเลหรือนกหรืออะไรพวกนี้บ้างมั้ยครับชายขายตั๋วถามด้วยความหวังอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เหมือนจะมีหวังเมื่อมีคนยกมือหลายคน แต่เมื่ออัญเชิญออกมาแล้วชายขายตั๋วถึงกับหมดกำลังใจที่เห็นอสูรแต่ละตัวพาโดยสารได้ไม่ถึง 10 คน

    สตรีและเด็กเชิญขึ้นอสูรได้เลยครับชายขายตั๋วร้องบอกเบาๆหลังจากตกลงกับพวกเจ้าของอสูรทั้ง คนได้แล้ว ซึ่งพวกเขาก็ยินยอมให้โดยสารไปแต่โดยดี แม้หลายๆตัวจะรับน้ำหนักไม่ค่อยไหวก็เถอะ

    เด็กสาวหลายๆคนรีบขึ้นหลังอสูรเวหาและอสูรทะเลทันทีเมื่อได้ยินหนทางรอด แต่ผู้โดยสารทุกคนก็ต้องหันมามองที่ท้ายเรืออย่างแปลกใจที่เห็นผู้เล่นกลุ่มนั้นไม่มีท่าทีวอรี่กับเหตุการณ์นี้เลยแถมยังนั่งดูวิวกันต่อไปได้อีก

    เอ่อ ขอเชิญพวกคุณหนีไปขึ้นอสูรพวกนั้นด้วยครับชายขายตั๋วผู้มีสปิริตเดินมาบอกกลุ่มของเฟตเบาๆ เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้ไม่ได้สนใจโลกภายนอกเลย แม้พวกเขาจะเป็นคนขับไล่พวกโจรสลัดก็ตาม

    เจ้านายข้าอยู่ไหน ข้าก็ต้องอยู่นั่นซิอนาตาเซียหันมาตอบด้วยท่าทางเย็นชา คนอื่นสำหรับเธอก็เป็นได้แค่ของประดับเท่านั้น ความเห็นของเธอถูกเห็นด้วยจาก 3 สาวที่เหลือ เฟตเห็นพวกเธอยืนกรานก็ถึงกับปวดหัวเมื่อพวกเธอปฏิเสธไม่ยอมหนี แต่จะขออยู่ตายกับเขา ฟังดูจะเหมือนไททานิกหรือเปล่าฟะเนี่ย

    ชายขายตั๋วเมื่อได้ยินคำตอบก็ถึงกับอึ้งแล้วเดินกลับไปด้วยความอิจฉาเมื่อรับรู้ว่าสาวๆ พวกนี้จงรักภักดีต่อชายผู้นี้มาก แถมยังดูซื่อสัตแบบสุดๆด้วย

    หนีไปเถอะครับ อย่าเป็นภาระให้กับลูกหลานเลยเฟตกล่าวกับพวกเธอด้วยน้ำเสียงซึมเศร้า แต่บรรดาอสูรกลับรู้ดีว่าไอ้หมอนี่สวมเฟคมาคุยกับพวกเธอ จึงยื่นมือมาหยิกแก้ม ส่งผลให้ใบหน้าเย็นชาของเฟตกลับมาอยู่ในที่ที่ควรจะเป็น แต่ถึงจะเป็นใบหน้าเย็นชา สายตากลับอ่อนโยนจนพวกเธอโกรธไม่ลงกับคำพูดที่ฟังดูเหมือนขับไล่นั่น

    การทิ้งให้ท่านต้องตายโดยพวกเรารอดชีวิตถือว่าเป็นการเอาตัวรอดที่น่ารังเกียจยิ่งนัก แม้ข้าจะอยู่คนเดียวมานาน แต่ก็รับรู้ว่าคนอย่างไหนที่น่าซื่อสัตด้วย ซึ่งท่านก็คือบุคคลผู้นั้นไรน่ากล่าวออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้ซีเรียสไปกับสภาพของเรือที่เริ่มเอนไปยังหัวเรือซึ่งเป็นจุดที่น้ำเข้ามาเยอะที่สุด

    เอ่อ พี่ชายเป็นเผ่ามารใช่มั้ยครับนักเวทผมแซมแดงเดินเข้ามาถาม เมื่อเห็นเฟตมีผมสีแดงเพลิงที่แสดงให้ถึงว่าเป็นผู้เล่นเผ่าอสูรระดับสูง ต่างกับตนที่เป็นสีแดงแซมออกมาเล็กน้อยเท่านั้น

    ไม่ใช่ค่ะ เขาเป็นมนุษย์จาเนียกล่าวออกมาแทน ขณะปรึกษาว่าใครจะพาใครไปดีถ้าเกิดเรือล่ม

    นักเวทชายเมื่อได้รับคำตอบก็ถึงกับอึ้งเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองเฟตอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตาที่เห็นผู้ชายคนเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา หัวเพลิงแบบโกสไรเดอร์จะบอกว่าธรรมดาได้ยังไงฟะ แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเป็นจริงดั่งว่า เขาก็ควรถอย

     “ถามทำไมเหรอครับเฟตถามอย่างสงสัยที่เห็นนักเวทชายอุตส่าห์เดินเข้ามาถาม หรือจะขอหวยที่เขาไม่ใช่คนปกติกันล่ะเนี่ย

    ถ้าเกิดคุณเป็นเผ่ามารคงจะเชิญอสูรระดับสูงได้บ้างมั่งไงครับนักเวทชยตอบเบาๆแก้เขิน ที่แป๊กในการเข้ามาถาม ส่วนใหญ่อสูรเผ่ามารจะมีรูปร่างสูงใหญ่และทรงอำนาจทั้งสิ้น แล้วดูลักษณะเฟตน่าจะเป็นเผ่าอสูรขั้นสูงด้วย เพราะผู้เล่นที่มีลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ต้องเป็นระดับสูงแน่เลย

    ก็เหมือนกับที่เคยกล่าวไว้ในตอนเปิดเกมเข้ามาแรกๆ ที่บอกว่ามนุษย์เผ่าเทพหรือเทพอสูรจะมีสีผมเป็นเอกลักษณ์ เฟตที่มีผมสีแดงคล้ายเพลิงที่กำลังโหมไหม้ย่อมเป็นธรรมดาที่ใครหลายๆคนจะเชื่อว่าเป็นผู้เล่นเผ่าอสูรปีศาจ

    อ้าว หัวคุณก็แดงไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณไม่เรียกออกมาละครับเฟตย้อนถาม ในเมื่อสีผมของเขาก็เป็นสีดำแซมแดงเช่นกันถึงจะไม่ทรงประสิทธิภาพแบบเขาที่เป็นสีแดงเพลิงทั้งหัวก็เถอะ

    ผมยังได้พลังแค่เศษเสี่ยวของท่านเทพอยู่เลยครับ ที่ทำได้ คือยืมพลังแค่เล็กๆน้อยๆเท่านั้นนักเวทชายตอบเขินๆ เขาได้พลังเทพปีศาจระดับสูงก็จริง แต่ยังได้อำนาจไม่เต็มเท่าที่ควรนัก หรือเรียกว่านักอัญเชิญพลังสถิตร่างฝึกหัดก็ได้

    แล้วกู้ยืมมาผ่อนจ่ายทีหลังไม่ได้เหรอครับคำถามของเฟตทำให้ชายตรงหน้าอึ้งไปเล็กน้อย ซึ่งแค่นั้นเขาก็รู้แล้วว่า ไม่น่าจะได้ จึงรีบกล่าวว่าผมเสียใจด้วยนะครับเฟตกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว นักเวทชายคนนี้ดูใสซื่อจนไม่น่าจะมาตายพร้อมกับพวกเขาและผู้เล่นเกือบ 50 คนเลย ส่วนคนที่เหลือนั่นก็ขึ้นโดยสารที่บินได้จนพร้อมจะขึ้นรันเวทิ้งไปอยู่แล้ว

    ขอบคุณครับนักเวทชายกล่าวจบก็เดินไปนั่งอยู่ที่ใจกลางเรือเหมือนเดิมพร้อมกับจ้องมองผืนน้ำที่กว้างใหญ่

    เฟตมองผู้เล่นที่อยู่บนเรือด้วยสายตาเห็นใจ พวกเขาต่างแสดงความตื่นกลัวเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าต้องมาตายกลางทะเล แล้วยิ่งเห็นพวกโจรสลัดโดนอสูร เมอโฟร์ก ระดับ 46 รุมแทงจนกว่าจะตายแล้วด้วยแล้ว พวกเขาก็ยิ่งกลัวตายหนักหนักขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

    ท่านอยากช่วยเขามั้ยละคะไรน่าถามเฟตเบาๆ เมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มจ้องมองคนพวกนี้ด้วยความเห็นใจ แต่แค่เห็นใจจริงๆ ถ้าเอาเข้าจริงๆ เฟตก็กล้าทิ้งคนพวกนั้นเพื่อพรรคพวกของเขาล่ะนะ

    ช่วยได้ด้วยเหรอครับเฟตถามอย่างแปลกใจ ซึ่งเขาก็พบกับรอยยิ้มอันไม่น่าเชื่อถือของอนาตาเซีย พวกเธอไปปรึกษาอะไรกันเล่นมาหรือเปล่าฟะ

    ได้อยู่แล้ว ขอแค่ท่านยอมเสี่ยงอะไรเล็กๆน้อยก็พออนาตาเซียบอก แต่ใจก็หวาดกลัวว่าเฟตจะเป็นอันตรายเช่นเดียวกับไรน่า แม้เธอจะมีปีกแต่ก็คงพาเฟตไปได้ไม่ไกลแน่ เพราะพลังในการคงสภาพร่างของพวกเธอมีไม่มากสำหรับการบินระยะไกลๆ

    ลองดูสิครับ แล้วมันคืออะไรเหรอเฟตถามอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเธอมีความหวังให้แก่เขา รวมถึงแฟร์และจาเนียด้วย แต่สองสาวนั้นกลับรับฟังเฉยๆ เพราะพวกเธอไม่ได้กลัวตายอะไรขนาดนั้น แถมการได้ตายพร้อมกับคนที่ดูน่าเชื่อถือแบบเฟต อาจไม่น่ากังวลอย่างที่เห็นก็ได้

    ท้องทะเลนี้น่าจะมีอสูรอีกตนนึงคะ ซึ่งก็คือลีเวียธานไรน่ากล่าวออกมาหลังจากสำรวจทะเลด้วยความสามารถในการตรวจจับระดับสูงของเผ่าพันธุ์ ถึงจะไปตายแล้วแต่ความรู้ก็ยังคงอยู่ จึงไม่ยากที่จะสังเกตดู

    จอมมารแห่งความริษยา เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงจาเนียทวนคำเบาๆแล้วก็เงียบลงไปเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก แฟร์ที่ศึกษาเกมมาอย่างดี เมื่อได้ยินคำกล่าวของสามสาวก็ถึงกับทำหน้าหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

    อะไรเหรอครับชายหนุ่มรีบถาม เขารู้สึกว่าตัวเองตามคนอื่นๆไม่ค่อยทันเลย

    ที่พวกเมอโฟร์กออกมาจากที่อาศัย แปลว่าอสูรแห่งท้องทะเลต้องอยู่แถวๆนี้คะจาเนียเป็นผู้อธิบายให้ทราบ

    ใช่ค่ะ ที่พวกเราจะบอกท่านก็คือ พวกเรารู้ว่าลีเวียธานกำลังจับเมอโฟร์กกินอยู่แถวๆนี้ ซึ่งมันเป็นอสูรเพียงตนเดียวที่อยู่ในแถบนี้ ณ เวลานี้ด้วยไรน่ากล่าวจบก็หันไปชี้มือให้ดูว่าพวกเมอโฟร์กยังคงอเลิทส์ (Alert) กันอยู่ ซึ่งหมายความว่ามังกรลีเวียธานคงกำลังหากินแถวๆนี้แน่ๆ

    แล้วผมต้องทำอะไรเหรอครับเฟตถามอย่างสงสัย พวกเธอจะเล่าถึงลีเวียธานทำไม เขาแค่ถามเฉยๆนะเนี่ย

    นางเป็นมังกรแห่งน้ำ คงพอช่วยพวกมนุษย์เหล่านี้ได้ รวมไปถึงท่านไรน่ากล่าวด้วยความเสียดาย ถ้าเกิดอนาตาเซียมีร่างจริงๆ ละก็ คงไม่ต้องเรียกลีเวียธานก็ได้มั้ง เพราะร่างมังกรนั่นใหญ่พอที่จะให้มนุษย์ได้โดยสาร

    แล้วผมจะเจอเขาได้ยังไงครับเฟตถามอย่างรวดเร็ว อ้า หนทางรอดซินะ เมื่อมีทางรอดต่อให้ลิบหรี่เพียงไหน ก็ต้องรีบไขว่คว้ามัน อีกอย่าง คนบนเรือก็เยอะขนาดนี้ต้องสู้ได้แน่ๆเลย นั่นคือ ถ้าเขารู้ว่าขนาดตัวมันเป็นยังไงล่ะก็นะ

    เรียกไม่ยากหรอก แต่ท่านต้องล้ม มันให้ได้ เพื่อให้นางยอมรับความพ่ายแพ้อนาตาเซียกล่าวขณะลอบมองหน้าไรน่า ลีเวียธานถือว่าเป็นอสูรมังกรระดับสูงเช่นเธอในอดีต

    เฟตได้ยินคำกล่าวก็หันไปมองผู้เล่นคนอื่นๆที่กำลังตื่นกลัวอยู่ ก็ได้ครับเขารับคำสั้นๆ เพราะเท่าที่กะด้วยขนาดตัวของเมอโฟร์กแล้ว อสูรที่ชื่อลีเวียธานอะไรนั่นคงตัวไม่ใหญ่มาก เพราะถ้าใหญ่เกินกันเมอโฟร์กจะต่อกรทำไม แล้วผู้เล่นจำนวนตั้ง 50 คน มีหรือจะล้มอสูรตนนี้ไม่ได้ หึหึ แค่คิดมือก็สั่นขึ้นมาเหมือนจะอยากสู้แล้ว

    อสูรสาวเห็นเฟตยอมรับก็เลยหันไปมองหน้ากันแล้วพยักหน้าตกลงความพร้อม

    ในนามแห่งมังกรชั้นสูง ในอดีตกาลข้าคือผู้นำแห่งเผ่าพันธุ์ ข้าขอให้เลือดของข้าจงดึงมังกรแห่งท้องทะเล ลีเวียธานมาสู่น่านน้ำแห่งนี้

    ในนามแห่งอดีตราชันจิ้งจอก ผู้ได้รับนามว่าไม่มีใครอาจตามทัน ข้าขอให้เลือดของข้าจงดึงมังกรแห่งท้องทะเล ลีเวียธานมาสู่น่านน้ำแห่งนี้2 สาวกล่าวพร้อมกันแล้วกรีดข้อมือให้เลือดหยดสู่ท้องทะเล เฟตเห็นเช่นนั้นก็ทำหน้าเสียดาย กินเลือดเขาไปตั้งเยอะ แล้วดันมากรีดเลือดตัวเองทิ้งเนี่ยนะ เฮ้อ เสียของหมด

     

    หลังจากเลือดของสองสาวหยดได้ หยด ท้องทะเลก็เริ่มปั่นป่วนเรื่อยๆพร้อมกับน้ำที่แหวกมาจากทิศตะวันออกของเรือ

    ใครบังอาจรบกวนข้าเจ้าของเสียงโผล่ขึ้นมาพร้อมกับคำรามอย่างโกรธเกี้ยว เมื่อโดนปลุกด้วยนามธรรมอันสูงส่งในเรื่องอำนาจที่ไม่แพ้ตน แม้พวกไรน่าจะไม่มีร่างกายจริงแต่อำนาจของนามธรรมยังคงมีอยู่บ้าง

    มังกรแห่งท้องทะเล ลีเวียธาน เลเวล 150 ค่ะผู้เล่นที่ได้ยินเสียงระบบต่างแตกตื่นกันใหญ่ที่ได้เจออสูรระดับสูงใกล้ๆตนเอง

    เฟตจ้องมองมังกรขนาดยักษ์ที่ตรงหน้า จากนั้นก็คุกเข่าทุบพื้นพร้อมกับกรีดร้องในใจ นี่ตรูกะขนาดผิดไป มหันต์เลยนะเฟ้ย เขาลองกะขนาดตัวแล้ว ลีเวียธานมีขนาดตัวเล็กกว่าจอร์มุนการ์ดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่คำว่าแค่เล็กน้อยนั้น ขนาดตัวของลีเวียธานกลับเป็นอุปสรรคสำหรับเขาเหมือนเดิม เพราะพญามังกรแห่งท้องทะเลตัวใหญ่กว่าเรือนี้มากจนบรรยายออกมาไม่ได้ แค่จามเรือก็จมแล้วล่ะมั้งเนี่ย

     

     ผมจะสู้ได้ยังไงครับ ตัวใหญ่ยิ่งกว่าเรือรบอีกชายหนุ่มหันไปถามอย่างจนปัญญา เขานึกว่าลีเวียธานจะเป็นอะไรที่เล็กกว่านี้ซะอีก เรื่องขนาดตัวนี่มันเป็นปัญหาเลย จะให้เขาที่มีขนาดตัวยังกับเม็ดถั่วเข้าไปสู้กับมังกรที่ตัวใหญ่ยักษ์ได้ยังไง มีหวังว่ายเข้าไปใกล้จะได้เป็นโก๋แก่ให้เธอเขมือบนะสิ

    คิกๆ ใช้ตำแหน่งที่ท่านได้จากการยอมรับของพวกฉัน/เรา ให้เป็นประโยชน์ไงไรน่าและอนาตาเซียกล่าวพร้อมกับเดินมาจับมือของเฟต แล้วล้อมวงไว้

    ในนามราชันย์แห่งจิ้งจอก/มังกรแห่งความมืด ข้าขอเรียกร่างอันเป็นมายาจงสถิตแด่เขาผู้เป็นเจ้านายอันเคารพรักของพวกข้าสองสาวกล่าวพร้อมกับบรรจงจูบที่แก้มของชายหนุ่ม ท่ามกลางสายตาของผู้เล่นที่จ้องมองมาด้วยความตื่นตกใจที่เห็นคนดันมาหวานในช่วงความเป็นความตาย

    อดทนหน่อยนะคะ ราชันแห่งข้าสองอสูรสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ในขณะที่เฟตกำลังทุกข์ทรมานกับพลังแสงสองสายที่กำลังสลายจากร่างของอนาตาเซียกับไรน่า เข้ามาสู่ร่างตน พลังพวกนี้ดูเหมือนจะเป็นของเขา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกกลับไม่ใช่เลย มันห่างไกลกันมากจนไม่อธิบายไม่ถูก

    จะร้ายก็ไม่ร้าย จะดีก็ไม่ดี ซึ่งถ้าเขารู้ว่ามันเป็นพลังต้นกำเนิดแห่งนามธรรมของ 2 สาว เขาคงจะไม่รับมันเข้ามาหรอก เพราะในร่างเขา ณ ปัจจุบันนี้ก็เก็บอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะพอแล้ว 
                       
                         ถ้ากล่าวกันว่ามนุษย์ชื่นชอบดูกาลเล่นเป็นชีวิตจิตใจ ทางสวรรค์เองก็อาจจะมีลักษณะแบบนั้น เพียงแต่จากการละเล่น เปลี่ยนเป็นการต่อสู้แบบจริงๆ ที่เสี่ยงด้วยชีวิตแทน ณ สภาเทพ โอลิมปัส

    เจ้ามนุษย์นี่คิดจะทำอะไรกันนะเทพที่ประจำตำแหน่งจ้าวแห่งท้องทะเลกล่าวถามออกมาลอยๆ ท่ามกลางเสียง วิพากษ์วิจารณ์เบาๆ ขณะมองเหตุการณ์ตอนลีเวียธานปรากฏตัวออกมา นี่นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าจับตามองที่สุดแล้วในวินาทีนี้

    นั่นสินะ เจ้ามนุษย์นี่คิดอะไรกันบุรุษผมขาวซึ่งบ่งบอกถึงอายุที่เยอะจนเกินจะจำไหว เปรยลอยๆขณะหันไปมองสตรีที่เป็นเทพีแห่งปัญญา ส่วนตัวเขานั้นนั่งเก้าอี้ประธานสภา

    อัศวินผู้นี้ต้องการที่จะให้เผ่าพันธุ์อยู่รอดเทพีแห่งปัญญาอาธีน่าลุกขึ้นตอบ เพราะรู้ดีว่าเทพบิดาต้องการให้เธอออกความคิดเห็น

    หรือไม่ก็ทำตามหน้าที่’ นั่นคือสิ่งที่อาธีน่าและซูสต่อให้กันโดยบังเอิญ เพราะคาดเดาจิตใจเฟตได้ในระดับหนึ่ง

    หึ จะรอดเหรอ ทำอะไรไม่คิดแบบนี้เทพแห่งสงครามเอ่ยลอยๆ แต่ก็ตรงใจเทพหลายๆองค์ ที่รู้ว่ามนุษย์กับมังกรทะเลนั้น ความแข็งแกร่งห่างกันคนละโยด หรือต่อให้ลดลงมาก็ยังสูงเกินกว่าจะตามกันทัน

    ก็ไม่แน่หรอกนะซูสประธานสภากล่าวตัดหน้าอาธีน่า ทำให้เทพองค์อื่นๆหันมามองมหาเทพด้วยความแปลกใจ

    ส่วนแอรีสนั้นก็ลอบเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจ ไอ้ความไม่แน่นั่นทำให้เขาแพ้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ด้วยความที่อยู่ต่อหน้าสภาจึงไม่ได้หลุดกิริยาอันไร้มารยาทออกมา

    ถ้าเกิดเขาใช้สิ่งที่มีอยู่เป็นล่ะก็ มนุษย์อาจจะล้มมังกรแห่งท้องทะเลได้อาธีน่าเสริมมหาเทพเล็กน้อย แต่คำพูดของเธอทำให้เทพองค์อื่นๆ สงสัย จนกระทั่งมีคนถามขึ้นมา

    อะไรทำให้เจ้ามั่นใจนัก อาธีน่าเฮร่ามารดาแห่งเทพถามด้วยเสียงเย็นชาตามสไตล์

    นักรบวัลคิวรี่ และตำแหน่งจอมอสูรของทั้ง 2 เผ่า” อาธีน่ากล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ จนเทพองค์อื่นๆต้องหันไปดูภาพที่ปรากฏด้วยความสนใจ ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็เหมือนกับดูคนบี้มดเล่น พวกเขาเลยถอนหายใจแล้วนั่งดูต่อไปแบบไม่ได้ลุ้นให้มนุษย์ชนะเลย

    และอาวุธที่พวกเราไม่รู้จัก’ นั่นคือสิ่งที่อาธีน่าคิดแต่ก็ไม่ได้บอกออกไปเพราะอาวุธของเฟตถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษมาก แถมคุณสมบัติในปัจจุบันหลังจากได้ทักษะของเอลฟ์ช่วยแล้ว มันก็ยกระดับขึ้นมาจนอยู่ในชั้นแนวหน้าได้ไม่ยากอยู่แล้ว

    ข้าสงสัยอย่าง ว่าทำไมพวกสตรีที่อยู่เคียงข้างเขาถึงเลือกให้เขาสู้กับลีเวียธานเล่าเทพีแห่งความรักหันมาถามกับอาธีน่าเบาๆ ด้วยความที่คิดตามไม่ทัน

    เหตุผลมีหลายข้อนัก คาดว่าอสูรแห่งท้องทะเลในขณะนั้นมีอยู่แค่ตัวเดียว ที่จะพอรับคนได้เพียงพออาธีน่าตอบโดยไม่หันมามอง เทพีอโฟร์ไดร์จึงถามต่อไป

    ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ท้องทะเลบริเวณนั้นออกจะกว้างใหญ่ พวกปลาวาฬก็พอจะรับคนบนเรือได้ไม่ใช่เหรอคำถามของอโฟร์ไดร์ทำให้อาธีน่าต้องถอนหายใจและหันมามอง

    เจ้าคิดว่าพวกปลาเหล่านั้นจะกล้าฝ่าอสูรทะเลไปหรือไงอาธีน่าบอกเสร็จก็หันไปมองภาพต่อ อโฟร์ไดร์เมื่อโดนตัดบทก็เลยหันไปมองภาพที่ปรากฏด้วยความไม่ชอบใจที่อาธีน่าตอบแบบขอไปที

     

    ท้องทะเลที่เป็นสมรภูมิเดือด

    หือ เรือของพวกมนุษย์กับเจ้าพวกปิงทะเลอย่างนั้นรึลีเวียธารจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความริษยาที่เห็นคนพวกนี้อยู่ได้บนบกและในน้ำต่างกับตนที่ต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งโดนน้ำทะเล

    ลีเวียธานรับรู้ถึงพลังแปลกๆก็รีบพุ่งตรงหวังตัดไฟเสียแต่ต้นลม แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้มันก็ต้องหันมาป้องกันพวกอสูรเมอโฟร์กที่แทงหอกสามง้ามโจมตีมันอยู่ อาวุธพวกนี้จริงๆทำอะไรมันไม่ได้ แต่ด้วยจำนวนอันมากมายมหาศาลของเมอโฟร์ก จะต้องมีสักหนึ่งในสิบที่แทงเข้า คงต้องได้รับบาดเจ็บบ้างล่ะ เพราะอาวุธพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมันโดยเฉพาะ อืม ฟังดูน่าดีใจแฮะ

    ขณะที่ลีเวียธานหันไปรับมือกับเมอโฟร์กนั้นที่บนเรือก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผู้เล่นที่อยู่บนเรือต่างหวาดกลัวทั้งมังกรทะเลและชายผมแดงที่มีอะไรบางอย่างกำลังงอกออกมาที่กลางหลัง เฟตที่เป็นจุดสายตานั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับอะไรเลยเพราะตอนนี้เขากำลังเจ็บปวดที่กลางหลังอย่างมาก คล้ายกับมีตัวอะไรกำลังฉีกหลังเขาออกมา แต่เมื่อเขาชินชากับความเจ็บปวดแล้ว เขาก็รู้สึกถึงสัมผัสแบบแปลกๆที่เพิ่มขึ้นมา

    ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อยู่บนเรือต่างจ้องมองปีกของเฟตที่กำลังงอกออกมาด้วยความสนใจปนตกใจ แค่ปีกพวกเขาก็คงจะไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะผู้เล่นเผ่าที่มีปีกนั้นมีอยู่มากมายในเกม แต่ทว่า ปีกของชายคนนี้กลับไม่ใช่ของอสูรตนใดที่พวกเขารู้จักเลย เพราะมันไม่ใช่กระดูก ไม่ใช่เนื้อ แต่เป็นเหล็ก เหล็กที่มีลักษณะคล้ายดาบ ที่ซ้อนทับเรียงตัวจนดูซับซ้อนคล้ายกับปีกจริงๆ

    ไรน่า อนาตาเซียเฟตพึมพำออกมา เมื่อสองมังกรสาวสลายร่างจนเหลือเพียงไอพลังแล้วเข้าสู่ร่างเฟต เมื่อไอสีดำละอองสุดท้ายเข้าสู่ร่าง เขาก็หายเจ็บปวดทันที

    เนื่องจากพลังของอสูรทั้งสองมีไม่เพียงพอในการจำแลงร่าง ผู้เล่นเฟตจึงได้รับร่างจำแลงแค่นี้ค่ะเสียงของระบบรายงานหลังจากปีกของเฟตกำลังกางออกมาสุด

    แค่เนี๊ยเมื่อเห็นว่าตนมีแค่ปีก และดวงตาซีกเดียวที่มองได้ไกลแบบสุดลูกหูลูกตาก็อุทานออกมาดังลั่น จะให้เขาที่มีของแค่นี้ไปสู้กับมังกรยักษ์ใหญ่ได้ยังไง

    แหะแหะ ข้าก็ไม่นึกว่ามันจะได้แค่นี้อนาตาเซียกล่าวขอโทษเสียงแห้งๆ หลังจากได้ยินเสียงเจ้านายบ่นพึมพำในลำคอว่าตนแปลงร่างทั้งที ดันแปลงได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ

    ไรน่าก็ลืมไปค่ะ ว่าไรน่าใช้พลังของท่านอยู่ไรน่ากล่าวออกมาด้วยความเสียใจปนซึ้งใจ เมื่อพึ่งนึกขึ้นได้เช่นกัน ถ้าเป็นพวกเธอตามปกติเมื่อให้ร่างจำแลงแล้วเฟตจะได้ร่างใหม่แบบเท่ๆ ที่น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับลีเวียธานได้ ไม่ใช่แค่งอกแต่ปีกเหล็กกับดวงตามังกรแบบนี้ แต่จะว่าไปแล้ว พวกเธอก็แปลกใจที่ทำไมปีกของเฟตไม่ใช่ของมังกร

     

    ฮะฮะ แจ๋วเลย ลูกครึ่งอะไรฟะเนี่ยตรูเฟตยิ้มแห้งๆให้กับ 2 สาว ที่ตะลึงตาค้างกับรูปลักษณ์ ของชายหนุ่มตรงหน้า จะบอกว่ามนุษย์ก็ไม่ใช่ สัตว์ประหลาดก็ไม่เชิง แถมดูจากลักษณะแล้ว พวกเธอคิดว่าเฟตไม่น่าจะไปรอด เพราะมีของแค่นี้น่ะเหรอจะเอาไปสู้กับมังกรทะเล เลเวล 150 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเว่อร์ ถ้าเทียบกับอาณาเขตเลเวลผู้เล่น

    แค่ไหนแค่นั้นเฟตพึมพำแล้วลองขยับปีกดู ถ้าเขาจำไม่ผิด ระบบบอกว่าเขาสามารถบินได้แล้ว แต่ต้องหาทางเอาเองว่าจะบินได้ยังไง ซึ่งตอนนี้ เขาก็น่าจะบินได้แล้วหลังจากได้ปีกดาบที่เรียงซ้อนตัวจนดูคล้ายกับปีกของจาเนีย แต่ก็อย่างว่า ต้องหาทางเอาเองว่าตรูจะบินยังไง ถึงแม้ว่าการบังคับปีกจะรู้สึกไม่ต่างกับแขนกับขา เพียงแต่ว่าแขนมันไปอยู่ข้างหลังเท่านั้นเอง

    ให้จาเนียสู้ด้วยนะคะจาเนียเดินเข้ามาหาแล้วสะกิดบอกชายหนุ่มเบาๆ ดูจากสภาพแล้ว ไม่น่าจะไปรอดเท่าไหร่นัก

    จาเนียจะสู้ได้เหรอครับเฟตถามกลับอย่างแปลกใจ ตอนแรกก็อยากจะห้ามอยู่หรอก แต่เมื่อดูสถานภาพตัวเองแล้ว เขาก็ต้องทำใจตามสังขาร ลูกครึ่งกลางๆแบบเขา จะไปสู้กับพี่ยักษ์เบิ้มหุ่นยังกับเรือบันทุกเครื่องบินได้ยังไง

    จาเนียเป็นวัลคิวรี่นักรบนะคะเอลฟ์สาวกล่าวจบก็สยายปีกสีขาวออกมาโชว์ จนเฟตต้องหัวเราะกลบเกลื่อน เขาเคยเห็นมาทีแล้ว แต่ดันลืมไปได้ไงนะว่าจาเนียมีปีก

     

    ช่วยหน่อยนะครับเฟตที่รู้สังขารกล่าวกับเอลฟ์สาวด้วยน้ำเสียงเศร้าเสียใจ ถ้าเป็นในยามปกติ เขาจะไม่ให้พวกเธอต้องลงมือหรือลงแรงสู้เลย ลูกผู้หญิงควรจะรักนวลสงวนตัว เก็บผิวอันน่าทะนุทนอมนั้นเอาไว้ดีกว่า แต่ทว่า ในเวลานี้มันไม่ใช่เวลาจะมาทำตัวเป็นพระเอกนิยาย อะไรที่รู้ที่ควรก็ปล่อยให้มันเป็นไป อีกอย่าง จาเนียดูจะชำนาญการมากกว่าเขา ก็ควรปล่อยให้เธอช่วยเหลือเสียบ้าง ส่วนตัวเขาก็ต้องหันมาเอาตัวให้รอดก่อน ว่าจากนี้ไป ตนจะออกบินได้ยังไง

    เฟตเห็นเอลฟ์สาวกางปีกออก ตนก็รีบเรียนรู้ทำตามด้วยการบังคับให้ปีกสยายตัว แต่อะไรที่ทำครั้งแรกมัจจะไม่ได้ดั่งใจเสมอ ปีกเหล็กของเขาจึงบิดซ้ายทีขวาที แต่ด้วยความพยายามอันน่ามึน ทำให้มันกลับมายืดตรงได้ดั่งใจ เอลฟ์สาวเห็นเช่นนั้นก็ลอยตัวขึ้นจากพื้น ให้เจ้านายได้เห็นว่าการบินไม่ยากเย็น ทว่า เมื่อชายหนุ่มลองทำตาม ตัวเขากลับพุ่งไปข้างหน้าจนเกือบจะตกน้ำ ดีที่ใช้เท้ายันพื้นไม้กั้นขอบได้ทัน

    กระพือเบาๆคะจาเนียลอยเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ทำให้ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าปั้นยาก เขาเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ผลิตเครื่องบินแล้ว ว่าการจะนำมาใช้จริงได้ มันยากยังไง  

    ไม่เป็นไรหรอกครับ สบายมาก แค่หัดบินเอง จิ๊บๆเฟตหันมายิ้มฝืดๆให้ จาเนียกับแฟร์ที่ทำหน้าเบ้ หลังจากชายหนุ่มบินชนซ้ายทีขวาที แค่จะออกตัวชายหนุ่มยังไปไม่รอดเลย ถ้าไปสู้จริงๆคงไม่ใช่ว่าจะไปบินชนกับมังกรทะเลเพื่อสละชีพนะ

    หลังจากทำความรู้จักกับปีกได้สักพัก เฟตก็เริ่มใช้บังคับได้คล่องขึ้น อืม อาจพูดโม้ไปหน่อย แต่เขาก็ลอยตัวได้แทนการบินตกน้ำละกัน  จาเนียเห็นเจ้านายเริ่มคุ้นแล้วก็ออกตัวไปรับมือกับลีเวียธานเพื่อถ่วงเวลารอให้เฟตชินกับปีกของตัวเองก่อน

    นักรบแห่งแสง (วัลคิวรี่นักรบ) เธอมายุ่งกับฉันทำไมลีเวียธานเอ่ยกับจาเนีย ขณะใช้ม่านน้ำมาป้องกันดาบลำแสงที่จาเนียฟาดฟันดาบคู่ใส่เข้ามา จนมันขยายตัวเป็นดาบที่ไขว้กันเป็นกากบาทขนาดใหญ่

    จาเนียมาเพื่อล้มคุณค่ะ เพื่อให้เจ้าเป็นพาหนะให้เจ้านายเราจาเนียตอบขณะใช้สกิลดาบคู่ขั้นสูงฟันใส่ลีเวียธาน

    เธอคิดว่าจะล้มฉันที่เป็นมังกรแห่งท้องทะเลได้เหรอ” มังกรยักษ์กล่าวจบก็เรียกน้ำให้มากางเป็นม่านน้ำเพื่อมาป้องกันท่าดาบของจาเนีย ซึ่งก็ได้ผลดีเยี่ยม ไม่ว่าจาเนียจะมีท่าที่รุนแรงหรือหาจุดอ่อนตนได้มากขนาดไหน ม่านน้ำของลีเวียธานก็รับมือได้อย่างสบายๆ จนมังกรยักษ์เกือบจะลอบไปกินพวกอสูรรอเป็นการฆ่าเวลาเสีย ด้วยพื้นที่ ณ ปัจจุบันนี้ มันได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด แถมเผ่าพันธุ์ก็สูงส่งกว่า เลยไม่ต้องกังวลเลยว่า จะแพ้ให้กับอสูรที่เด่นการต่อสู้บนบกกับอากาศแบบวัลคิวรี่

    แต่ก่อนที่มันจะได้รื่นเริงกับความคิดของตัวเอง มันก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง จนหันกลับมาดูก็พบกับมนุษย์ประหลาดที่มีปีก ซึ่งตอนนี้บินตรงมาทางมัน

    หลบไปครับเฟตร้องลั่นบอกกับจาเนีย หลังจากทดลองชั่วโมงบินแรกแล้ว ต้องบอกว่าห่วยบรมมากเลย นอกจากจะใช้เวลานานแล้ว ตอนนี้เขายังบังคับทิศทางไม่เป็นซะอีก

    ใช้การเอนตัวค่ะจาเนียบอกเจ้านายขณะหุบปีกเพื่อให้ตัวดิ่งลงน้ำ เนื่องจากชายหนุ่มพุ่งเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วสูง ถ้าเกิดเธอจะบินหนีอาจจะโดนชนได้ หลังจากทิ้งตัวจนลงมาอยู่ห่างกับน้ำไม่ถึง 2 เมตร เอลฟ์สาวก็สยายปีกออกทำให้ลมที่เหนือน้ำดันตัวเธอขึ้น แต่ก็ต้องรีบหลบน้ำที่ลีเวียธานพยายามบังคับเข้ามาโจมตีตน

    เฟตที่ได้ยินคำแนะนำของจาเนียก็ทดลองตามทันที แล้วเขา สัจธรรมแห่งการบินก็ถูกค้นพบ เมื่อเขาสามารถบังคับทิศทางการบินได้ แต่ดูเหมือนมันจะค้นพบช้าน้อยเกินไปหน่อย หลังจากมองไปข้างหน้าแล้วพบว่าตัวเองอยู่ห่างกับร่างมังกรยักษ์นั่นไม่ถึง 20 เมตร

    นายเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงปีกถึงเป็นแบบนี้ลีเวียธานที่ก้มลงมาเห็นเฟตร้องถามออกมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเสียดายที่โจมตีจาเนียไม่ได้

    โห ถามมาได้ ก็เห็นๆอยู่ว่าผมเป็นคนเฟตได้ยินคำถามก็ร้องตอบ พร้อมกับกางมือกางไม้ให้ตัวหลบไปอีกด้าน ผู้เล่นที่อยู่บนเรือต่างขำขันกับท่าทางของชายหนุ่มที่พึ่งหัดบิน ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สมควรแต่ก็อดใจไม่ไหวเพราะดูๆไปแล้วก็คล้ายกับจิ้งเหลนลอยตัวข้ามต้นไม้จริงๆ

    ตอบได้ดีนี่ แล้วนายจะเอาอะไรกับฉัน จะเอาความตายเหรอไงลีเวียธานว่าขณะจ้องมองเฟตที่พุ่งดิ่งเข้ามาหาตนด้วยความเร็วสูง แต่ก่อนที่เฟตจะมาถึงมัน ลีเวียธานก็เรียกใช้ม่านน้ำให้ขึ้นมาป้องกันที่ด้านหน้าตนแล้วเพื่อป้องกันความผิดพลาด

    ถามแบบนี้แสดงว่าไม่เคยเห็นสงครามโลกชายหนุ่มพึมพำขณะลอบขอบคุณลีเวียธาน หลังจากพุ่งเข้าใส่ม่านน้ำของลีเวียธานด้วยความเร็วสูง ถ้าเกิดมังกรน้ำไม่เรียกม่านน้ำมาเขาคงได้พุ่งชนตัวของมันจนต้องเละกันไปข้าง จริงๆในสงครามโลกก็ใช้การสละชีวิตนี่แหละเป็นการทำจมเรือของข้าศึก แต่เท่าที่เขาดูจากลักษณะของตัวเองกับศัตรู ถ้าเขาสละชีวิต ก็คงจะกลายเป็นเพียงเครื่องประดับให้กับร่างกายของมังกรยักษ์ตรงหน้าแน่ๆเลย

    ผมไม่ได้จะมาตาย แค่จะมาขอยืมตัวคุณเพื่อโดยสารกลับบ้านชายหนุ่มที่พึ่งหลุดออกจากม่านน้ำร้องบอกลีเวียธาน พร้อมกับบินออกห่าง เมื่อรู้สึกว่ามวลน้ำนั้นเริ่มกดดันจนเขาหายใจไม่ออก

    ฉันไม่ใช่หนังสือ จะได้มาขอยืมกันง่ายๆลีเวียธานคำรามพร้อมกับยิงบอลน้ำแรงดันสูงใส่ชายหนุ่มที่มีปีกรูปร่างประหลาด จนเฟตต้องรีบบินหนีไปเรื่อยๆ ยังดีที่จาเนียคอยวกกลับมาใช้ดาบเบี่ยงบอลน้ำขนาดมหึมา ชายหนุ่มจึงไม่โดนลูกบอลน้ำสังหารทิ้งกลางทางไปซะก่อน

    เฮ้ย เคยอ่านหนังสือด้วยเหรอเฟตกลับพึ่งนึกขึ้นได้ จึงอุทานกับคำพูดก่อนหน้านี้ของมังกรตรงหน้า

    ฉันเคยยืมอ่าน จากพวกๆนั้นน่ะลีเวียธานตอบกลบเกลื่อน ขณะบังคับให้น้ำเปลี่ยนเป็นเกลียวคลื่นขนาด 10 เมตร ให้พุ่งเข้าสังหารเฟตและจาเนีย

    อืม แล้วเคยอ่านพวกหนังสือแนวสงครามเปล่า แบบเสริมความรู้อะไรเงี๊ย ถ้าดูจากอายุแล้ว น่าจะต้องอ่านผ่านๆมาบ้างล่ะมั้ง อืม..... ไม่ดิ ถ้าเกิดอ่านจริงๆเราซวยแน่เลย ถ้าต้องเจอกับคนที่ฉลาดการสงครามชายหนุ่มพึมพำให้กับตัวเอง ขณะที่เริ่มคุ้นเคยกับปีกดาบ ความเร็วของตนในตอนนี้เร็วกว่าเกลียวคลื่น จนจาเนียยังบินตามไม่ทัน นี่ถ้าเอลฟ์สาวสังเกตดีๆจะเห็นไอความร้อนที่ด้านหลังของชายหนุ่มด้วย

    หลายอย่าง นี่นายจะสู้หรือจะถามตอบปัญหาชีวิตลีเวียธานตัดบทด้วยความรำคาญ เจอคำถามเรื่องอายุเข้าไปใครจะไม่โกรธ มันเรียกน้ำให้มีความสูงขึ้นเรื่อยๆ จนระดับนั้นสูงเกินตัวมันแล้ว จาเนียเห็นลีเวียธานเรียกน้ำให้สูงขึ้นมาก็เดาว่า เจ้ามังกรแห่งท้องทะเลกำลังจะใช้ท่าที่รุนแรง ตนเลยชิงความได้เปรียบของเผ่าพันธุ์ก่อนเลย

    ในนามแห่งวัลคิวรี่ ข้าขอเรียกท่านผู้เป็นเทพแห่งแสงทั้งมวล โปรดออกมาสังหารศัตรูแห่งข้าด้วยจาเนียร่ายคำอัญเชิญขณะไขว้ดาบให้มาอยู่ตรงตัว พอดาบคู่ของจาเนียเปลี่ยนเป็นสีขาวจนหมด เอลฟ์สาวจก็ฟันดาบคู่ไปพร้อมๆ กันส่งลำแสงดาบสีขาวที่ออกมาให้เปลี่ยนไปเป็นชายหนุ่มผมทองรูปงามที่ลอยตัวเหนือผืนน้ำด้านหน้ามังกรแห่งท้องทะเล

    เฮลดัมลีเวียธานอุทานอย่างตกใจที่เห็นเทพแห่งแสงของชาวเหนือในระยะใกล้ๆ

    บุรุษหนุ่มที่ถูกเรียกออกมา ลอยตัวจ้องมองมังกรยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ส่วนลีเวียธานเองก็จ้องตอบด้วยความหวั่นเกรงเล็กน้อยเพราะเฮลดัมนั้นเก่งกาจพอๆกับโอดิน แม้จะมาด้วยการอัญเชิญแบบอสูรเรียกนายก็ตาม

    อริแห่งแสง จนมลายสูญเฮลดัมพึมพำออกมา ลีเวียธานได้ยินคำกล่าวก็รีบเรียกคลื่นน้ำยักษ์ที่อยู่ด้านหลังให้มาห่อหุ้มตัวไว้จนกลายเป็น ลีเวียธานเปลือกที่อยู่ด้านนอกและตัวที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

     

    เฟตจ้องมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความสนใจว่าลีเวียธานทำอะไร กระทั่งเห็นชายหนุ่มที่ชื่อเฮลดัมนั้นหายไป แต่ลีเวียธานนั้นกลับเลือดออกแทน พอชายหนุ่มจ้องที่มังกรทะเลดีๆก็พบว่าตามตัวของลีเวียธานนั้นโดนเสียบแทงด้วยสารพัดดาบจนกลายเป็นมังกรเม้นทะเลไปแล้ว

    เฮลดัมเข้าโจมตีเจ้ามังกรทะเลนั่นน่ะ ที่นายมองไม่เห็นตัวเทพเป็นเพราะเจ้านั่นเป็นเทพแห่งแสง การเคลื่อนไหวจึงเร็วเท่ากับแสงอนาตาเซียอธิบายออกมาเมื่อเฟตยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอชายหนุ่มได้รับคำตอบจากมังกรแห่งความมืด เขาก็เข้าใจเล็กน้อยแล้วบินเข้าไปหาจาเนียที่กำลังสลายการอัญเชิญเพราะเฮลดัมนั้นดูดพลังเธอมาก

    หึ ได้เลย วัลคิวรี่ เมื่อเจ้ากล้าใช้พลังทุกอย่างในการอัญเชิญ ข้าก็ขอทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าปกป้องเช่นกันลีเวียธานสลายน้ำที่หุ้มตัวออกแล้วแล้วพูดด้วยโทสะ หลังจากพูดจบมังกรทะเลก็ดึงน้ำขึ้นมาให้ไหลวนรอบตัวอีกครั้ง

    เป็นอะไรไปครับเฟตที่บินมาอยู่ข้างๆจาเนียนั้นอุทาน เมื่อเห็นเอลฟ์สาวเหงื่อออกมากแถมยังดูซีดเซียวอีก

    จาเนียไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราต้องรีบหยุดเธอไว้นะคะ เจ้านาย การที่เธอเรียกน้ำให้มาอยู่ใต้อาณัติเป็นจำนวนมากแสดงว่าเธอจะใช้ท่าที่โจมตีรุนแรงค่ะจาเนียหันมาพูดกับเฟต พร้อมกับหอบไปด้วย ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็หันไปมองซ้ายทีขวาที แล้วคิดว่าตนจะมอบพลังเป็นการปลอบใจดีหรือเปล่า

    ยัยนี่อัญเชิญเทพที่สูงกว่าตัวเอง อีกอย่างพวกอสูรเมื่อเรียกเทพมาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยพลังและเจ้าเทพแสงนั่นก็ดูดพลังของจาเนียไปใช้โจมตีแทนผู้อัญเชิญซะหมดเลยอนาตาเซียอธิบายออกมา น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคือง จาเนียดันทำไม่ปรึกษาใคร การอัญเชิญเทพอสูรเป็นศาสตร์เวทชั้นสูงชนิดหนึ่ง ที่อสูรระดับสูงเท่านั้นที่จะมีได้ อีกอย่าง ยัยเอลฟ์นี่คงไม่ยอมอธิบายให้เฟตเข้าใจถึงความจริงในข้อนี้แน่ แถมไอ้เจ้านายก็ดันเป็นมือใหม่ ซื่อบื้อ ไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าการต่อสู้ระดับสูงที่เห็นตอนนี้มันเป็นยังไง

    ถึงจะไม่เข้าใจ แต่เฟตก็มีความเป็นคนอยู่บ้าง เขาจึงเข้าไปประชิดตัวเอลฟ์สาวพร้อมกับกระซิบบอกเธอเพื่อให้ปล่อยวาง กลับไปพักก่อนนะครับ

    เอลฟ์สาวเมื่อได้ยินคำสั่งก็หันไปมองเจ้านายพร้อมกับถอนหายใจ ถึงเธอจะไม่อธิบายถึงการต่อสู้ชั้นสูง แต่เฟตก็มีหนังสือดึกดำบรรพ์อยู่ถึง จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้ว่าเธอในตอนนี้มีกำลังเหลือน้อยนิดแค่ไหน

    ก็ได้ค่ะ แต่ท่านต้องระวังนะคะ ท่านเฮลดัมเมื่อสักครู่นี้สามารถโจมตีนางได้มากก็จริง แต่นางเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน การที่นางไม่บาดเจ็บสาหัสเท่าที่ควรนั้น แสดงให้เห็นว่านางเองก็ชำนาญการต่อสู้ไม่แพ้กันจาเนียกล่าวจบ ก็บินกลับไปที่เรือด้วยท่าทางอิดโรย การอัญเชิญแบบนี้มีข้อดีในตัวและข้อเสียในตัว ข้อดีก็ง่ายๆ ในกรณีที่เทพของเผ่ามีความสามารถในการต่อสู้สูงมาก การอัญเชิญให้มาช่วยสู้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า ในกรณีที่เราไม่ถนัด แต่อีกด้าน มันกลับเป็นดาบสองคมเพราะพลังของตนนั้นถูกเทพแห่งแสงดึงไปใช้จนเกือบหมด จริงๆที่เธอเรียกเฮลดัมออกมานั้น ก็กะว่าลีเวียธานจะบาดเจ็บหนัก แต่ที่ไหนได้ ลีเวียธานกลับเรียกม่านน้ำให้มาป้องกันตัวได้ทันเวลาเฉยเลย

    เฟตจ้องมองเอลฟ์สาวที่บินกลับไปด้วยสายตาเป็นห่วง เขายังไม่รู้รายละเอียดในข้อนี้ แต่ก็เห็นได้ด้วยตาว่าเธอทุ่มทุกอย่างให้เขามากแค่ไหน ด้วยความซาบซึ้งใจ เขาหมายมั่นว่าจะต้องล้มลีเวียธานให้ได้ ต่อให้ปากกัดตีนถีบ เขาก็จะทำ

    แต่ความจริงนั้นมักโหดร้ายกับพระเอกเสมอ เมื่อลีเวียธานใช้อำนาจมังกรแห่งน้ำบังคับน้ำทั้งหมดที่อยู่ในเขตพลังของตน จนน้ำเริ่มปั่นป่วนมากขึ้น จากเรือที่ใกล้อับปางนั้น ตอนนี้ก็เกือบจะอับปางลงจริงๆ ยังดีที่พวกมนุษย์ควบคุมสติได้ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะเพราะพริ้งของจาเนีย จึงกลับมาวิดน้ำได้เป็นปกติ แถมยังเร็วมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวด้วย

    เฟตเห็นสถานการณ์เริ่มย่ำแย่ก็รีบดึงอาวุธออกมาจากซองของมัน พอปืนอยู่ในมือเฟตก็ลั่นไกใส่ลีเวียธานไม่ยั้ง เพื่อให้ลีเวียธานหันมาสนใจตน ซึ่งก็เหมือนจะได้ผลตอบรับที่ดีเยี่ยม เมื่อมังกรตรงหน้าหันมาโจมตีเขาเพียงคนเดียว จนบินหนีแทบไม่ทัน

    เมื่อนายมากับเอลฟ์แสงนั่น นายจะต้องตายเพื่อให้มันสำนึกเสียใจ ที่บังอาจทำให้ฉันคนนี้เสียเลือดลีเวียธานคำราม กับเขาขณะใช้คลื่นน้ำไล่โจมตีใส่เฟตไม่หยุด

    ชายหนุ่มบินหลบคลื่นน้ำด้วยความรวดเร็ว หลังจากชินกับการบินนอกรอบ(ไม่เป็นทางการ) แล้ว ส่วนลีเวียธานเองก็ประหลาดใจเช่นกันที่เห็นมนุษย์ประหลาดสามารถหลบคลื่นน้ำนับสิบสายของตัวเองได้อย่างสบายๆ แถมไม่มีท่าทางจะเหนื่อยล้าด้วย

    ชิลีเวียธานเห็นพลังน้ำโจมตีเฟตไม่ได้ก็เรียกคลื่นยักษ์ที่มีความสูงเท่ากับตนขึ้นมา แล้วให้มันพุ่งเข้าหามนุษย์ตรงหน้าจนดูคล้ายกับแมงเม่ากำลังบินเข้าถังน้ำมันที่พร้อมจุดไฟ ส่วนที่ด้านหน้าลีมังกรน้ำก็เรียกเกลียวคลื่นให้โอบล้อมไว้เช่นกัน เป็นการปิดทางหนีที่เพอร์เฟ๊กมาก

    เฟตที่โดนรายล้อมไปด้วยเกลียวคลื่นนั้นรู้สึกตื่นเต้นกับความตายเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งพวกนี้ในชีวิตจริง เขาไม่มีโอกาสได้เห็นเลย การที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาดีจริงๆ

    แม้จะชื่นชมความสวยงามของความเป็นแฟนตาซี แต่เขาเองก็ต้องเอามีชีวิตรอด เฟตจึงบินหลบซ้ายหลบขวาด้วยปีกเหล็กที่ดูจะขยายตัวออกมาจากเดิม การบินจึงเร็วขึ้นกว่าหลายเท่า แต่เจ้าของปีกกลับไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองบินได้เร็วกว่ามังกรทั่วๆไป เขาก็นึกว่านี่คือระดับธรรมดาเสียอีก

    ลีเวียธานนั้นรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเป็นเท่าตัวหลังจากเห็นเกลียวน้ำทำอันตรายมนุษย์ตรงหน้าไม่ได้ พญามังกรจึงดึงพลังทั้งหมดมาบังคับคลื่นยักษ์ให้เข้าโจมตีเฟตสุดกำลัง แต่ด้วยขนาดตัวที่เล็กและปีกที่สามารถบินได้รวดเร็ว ชายหนุ่มจึงหนีคลื่นยักษ์ออกไปได้แบบลอยลำมาก พอเฟตหนีพ้นก็รีบวกกลับมายิงลีเวียธานด้วยปืนสั้นต่อ

    ลีเวียธานรับมือเฟตด้วยความประหลาดใจ อาวุธของเฟตสามารถโจมตีเข้าสู่ร่างกายมันได้อย่างง่ายดาย ขนาดมันมีเกราะ(เกร็ด) สองชั้นชายหนุ่มยังโจมตีจนมันรู้สึกว่าภายในของมันกำลังได้รับบาดเจ็บ

    คิดถูกแล้วเหรอ มนุษย์ประหลาดที่หลบคลื่นยักษ์นั่นลีเวียธานเปรยออกมาเบาๆ เฟตได้ยินคำกล่าวก็หันกลับไปดูคลื่นยักษ์ที่ตนพึ่งหลบมาทันที แล้วเขาก็ต้องจ้องมองภาพที่เห็นแทบตาถลนเมื่อคลื่นยักษ์นั่นพุ่งเลยจุดไปตกที่เรือ ซึ่งจาเนียพึ่งบินกลับไป (ถ้านึกภาพคลื่นยักษ์ไม่ออกก็ลองนึกถึงหนังเรื่องเรือโพไซดอนครับ แบบเดียวกันเลย)

    เฮ้ยเฟตอุทานเมื่อเห็นเรือลำนั้นจมหายไปตา

    เฟตบินกลับไปด้วยความรวดเร็ว แล้วพยายามพุ่งเข้าใส่คลื่นยักษ์ที่ยังคงถาโถมอยู่แต่เขาก็ทำอะไรได้เลย เพราะโดนคลื่นยักษ์ซัดเขาให้กระเด็นออกมาตลอด เพราะปีกมันคอยพยุงตัวไว้อยู่

    ชายหนุ่มเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ต้องจองดูคลื่นยักษ์ที่พึ่งสงบแบบทำอะไรไม่ถูก แล้วเขาก็ต้องใจหายวาบทันทีเมื่อเห็นผู้เล่นที่เหลือรอดหลายคนถูกอสูรเมอโฟร์กซ้ำเติมด้วยหอกสามง้าม เฟตพยายามที่จะเข้าไปช่วยแล้ว แต่กระสุนไม่อาจทะลวงมวลของน้ำได้ พวกอสูรเมอโฟร์กจึงไม่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนของเขาเลยซักนิด

    เสียใจด้วยนะ นายแพ้แล้วลีเวียธานที่ย่องเลื้อยเข้ามากล่าวกับเฟตอย่างเย็นชา แล้วใช้หางตัวเองที่ม้วนไว้หลายตลบหวดฟาดใส่จนชายหนุ่มแขนขาดกระเด็นไป ผู้เล่นเฟตถูกโจมตีอย่างรุนแรง เกินระดับป้องกันจะรับไหว กรุณาเติมเลือดอย่างเร่งด่วนค่ะเสียงระบบร้องแทงใจชายหนุ่มที่ดวงตาเหม่อลอย ไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองเลยสักนิด

    แม้ข้างหน้าที่รอเขาอยู่จะเป็นน้ำก็ตาม แต่ทันทีที่ร่างเขาตกใส่น้ำ ร่างกายก็แหลกเหลวเละไปกับผืนน้ำทันที ด้วยถูกเตะโด่งมาด้วยความเร็วสูง จึงไม่ต้องถามว่า น้ำในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพื้นปูนซีเมนต์ดีๆนี่เอง จริงๆ แล้วต่อให้ตกกระทบด้วยความเร็วสูงยังไง แต่ถ้าเป็นผู้เล่นระดับสูง ก็ต้องรอดได้อยู่แล้ว ทว่า ตัวชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจความเป็นหรือความตาย ชีวิตของเขาในเวลานี้เหมือนร่างอันว่างเปล่าไร้วิญญาณ จะตายก็ดี จะรอดก็ได้ จึงไม่ได้สู้หวังเอาชีวิตรอดเลย

    ผู้เล่นเฟตร่างกระทบน้ำด้วยความเร็วสูง เสียเลือดจนร่างกายไม่อาจทนได้ค่ะ ผู้เล่นเฟตเสียชีวิตค่ะคำกล่าวของระบบ พร้อมกับร่างของเฟตที่สลายกลายเป็นแสงไป ถ้าผู้เล่นสนใจเสียนิดหน่อย จะรู้ว่าแสงพวกนั้นบ่งบอกถึงค่าความดีหรือวิญญาณของมนุษย์นั้นๆ ถึงมนุษย์จะไม่สนใจ แต่ลีเวียธานกลับสนใจ เมื่อเห็นว่าแสงนั้นไม่ได้กลายเป็นสีดำอย่างที่ควรจะเป็น

    หลังจากร่างมนุษย์ประหลาดสลายไปหมด ลีเวียธานก็หันไปรับมือกับเมอโฟร์กต่ออย่างใจเย็น ไม่สนใจกับพวกมนุษย์ผู้เล่นอันอ่อนแอหลายๆ คนที่เอาชีวิตจากน้ำยังแทบไม่รอดเลย ส่วนพวกเมอโฟร์กก็หันไปรุมลีเวียธานลูกเดียว เพราะมังกรทะเลลีเวียธานเป็นอันตรายต่อเผ่าพันธุ์พวกมันที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×