คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 32 โชว์ตัวกลางเมือง กับพิธีแต่งตั้ง
“เอ่อ พี่ ฟังผมบ้างมั้ยเนี่ย”ชิออนร้องถามเฟตที่เดินกระหนาบซ้ายเขาอยู่
“ครับ”เฟตรับคำสั้นๆ แต่สายตานั้นมองส่ายไปรอบๆ ตัวตามหน้าที่ที่เขาต้องทำ
“ผมให้พี่ขึ้นไปกล่าวอะไรสักหน่อย ไม่ใช่ให้ขึ้นไปคอยคุ้มกันคนซุ่มยิงผมนะครับ”ชิออนร้องบอกอีกครั้ง ตอนที่เขาบอกกับเฟตว่าจะต้องไปขึ้นเวที ก็ทำให้เฟตเป็นอย่างที่เห็น
“หะ ผมด้วยเหรอ”เฟตชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ในขณะที่ 3 อสูรสาวที่ตามมาด้วยถอนหายใจพากันส่ายหน้า ไอ้หมอนี่เคยฟังอะไรกับใครเขาที่ไหนกันเล่า โชคยังดีที่พวกเธอใส่ชุดให้เสร็จก่อน ไม่งั้นมีหวังเมืองได้แตกไปกันคนละทาง
“ว่าแต่ นี่มัน”เฟตพึ่งสังเกตดีๆ จึงพบว่าตัวเองจะเดินไปไหน
“ใช่ครับ ที่จัตุรัสกลางเมือง ผมอยากให้พี่ช่วยพูดอะไรให้เล็กน้อยน่ะ”ชิออนพูดอย่างเขินๆ ซึ่ง 3 อสูรสาวก็พอจะเข้าใจบ้าง เนื่องจากชิออนต้องโชว์เท่บนเวทีคนเดียว เลยต้องหาคนขึ้นไปเป็นเพื่อนล่ะนะ
เฟตพยักหน้าให้อย่างว่าง่าย จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจสายตาของผู้เล่นรอบข้าง ที่มองมาด้วยสายตาต่างๆนาๆ บ้างชื่นชม บ้างชื่นชอบ หรือแม้กระทั่งอยากจะขอตัวไปช่วยขยายกิลด์ เนื่องจากชื่อเสียงของเฟตหลังจบศึกสงครามมานั้น ดังกระฉ่อนไม่แพ้ชิออนเลย
แต่ทว่า พอเอาเข้าจริงๆ กลับไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเฟตเลยสักคน เนื่องจากชายคนนี้หน้าตานิ่งเรียบได้หน้ากลัวแบบสุดๆ แม้ชิออนจะยิ้มให้คนที่มองมา แต่คนที่เดินอยู่ข้างๆกลับทำหน้าตายไม่สนใจจะมองหน้าใครเลย
“วีระบุรุษแห่งสงครามมาแล้ว เฮหน่อยเร็ว”เสียงของผู้เล่นชายดังขึ้นหลังจากเฟตเดินมาจนถึงกลุ่มคนที่ยืนออกันอยู่กลางถนนเยอะๆ เสียงเฮที่ดังกันมาเป็นทอดๆ ทำให้เฟตเริ่มคาดคะเนว่าจำนวนผู้คนคงจะเยอะน่าดู แล้วพอเฟตเดินแหวกกลุ่มคนเข้าไป เขาก็พบว่าเป็นจริงดั่งคาด เมื่อเห็นผู้เล่นยืนผสมผสานร่วมกับเหล่าเอลฟ์หูแหลมทั้งหลายซึ่งหนึ่งในจำนวนปวงชนก็มีพวกทหารที่เขาจำได้ว่าเป็นมนุษย์ (เอไอ) อยู่ด้วย
“ยินดีด้วยนะค่ะ ที่ได้ครองเมืองนี้ เป็นเมืองเริ่มต้นเมืองแรกเลยที่มีผู้เล่นปกครอง”หญิงสาวคนหนึ่งในชุดสูทแบบเฟตกล่าวใส่พวกเขา พอเฟตหันไปมองหน้าชิออนก็พบว่า เจ้านายคนนี้เป็นคนที่ถูกพูดถึง
ชิออนยักไหล่ให้เล็กน้อยในขณะที่เฟตละความสนใจกับหญิงสาวคนนั้นจ้องมองไปที่ด้านหน้าแทน
“พวกเรายินดีที่ได้คนเก่งๆอย่างคุณมาเป็นเจ้าเมือง”ผู้เล่นที่ใส่ชุดมือใหม่ตะโกนออกมา ซึ่งก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้เล่นคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี
“นี่มัน”เฟตพึมพำ แต่เขาก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
“พวกเขามาแล้วครับ ขอให้ทุกๆท่านช่วยปรบมือให้กับคุณเฟตกับคุณชิออนหน่อยครับ”เสียงดังมาจากเบื้องหน้าเฟต ซึ่งชายหนุ่มก็พบว่าเป็นพนักงานหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนถือไมค์อยู่กลางเวทียกสูงที่จัดตั้งไว้เยื้องๆกับจัตุรัส เพื่อให้พวกที่เกิดหรือเข้ามาใหม่ได้เกิดอย่างสงบ
หลังสิ้นคำกล่าวของโฆษกประจำเวที ก็มีเสียงดังขึ้นอย่างกึ่งก้องจากรอบด้าน ทำให้ชิออนถึงกับเขินแล้วหยุดเดินอยู่ที่หน้าเวทีซะงั้น ทิ้งให้เฟตเดินนำลิ่วๆขึ้นไปคนเดียว
แต่เมื่อเห็นว่าตนเองขึ้นมาเพียงคนเดียว เฟตก็หยุดเท้าแล้วก้าวถอยหลังลงมาเหมือนกับหนังที่ถูกรีเพลย์อย่างรวดเร็ว แต่การก้าวเดินถอยหลังครั้งสุดท้ายยังไม่ทันแตะพื้น ชายหนุ่มก็เหลียวไปเห็นหญิงสาวบางคนที่อยู่ข้างๆเวที ซึ่งเขาก็พบว่าเป็นผู้เล่นหญิงที่คุ้นตาเหลือเกิน นั่นก็คือพวกเทียร่า
“ขึ้นไปซิ ไม่มีอะไรหรอก พวกผู้เล่นเขาเรียกร้องให้นายออกมาน่ะ”ริเรียน่าที่ยืนอยู่ด้วยกระซิบบอกเฟตด้วยเสียงเรียกแห่งความตาย
“แล้วทำไม ถึงต้องเป็นผมคนเดียวด้วยล่ะ”เฟตลองถามหยั่งเชิงดู เผื่อตนจะได้พูดอะไรได้ถูก
“ก็เพราะนายเป็นคนต่อกรกับกิลด์เดม่อนไงล่ะ”เทียร่าตอบแทน ซึ่งคำตอบนี้รู้สึกเฟตจะพอใจมาก จึงพยักหน้าแล้วเข้ามาดึงมือ 2 สาวขึ้นไปซะเฉยๆ พร้อมกันนั้นก็พยักหน้าให้อสูรของตัวเองที่ตามมาเงียบๆให้ขึ้นตามมาด้วย
เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาอีกครั้งพอเฟตขึ้นเวทีมา ส่วน 2 สาวที่ถูกฉุดมาก็รีบยื้อมือตัวเอง แต่เฟตดันไม่ปล่อย เขายังคงจับสองมืออันขาวนุ่มนิ่มน่ากินนั้นไว้แน่น พร้อมกับเดินมาปล่อยอยู่กลางเวทีข้างๆเขา ในขณะเดียวกัน 3 อสูรสาวก็ล้อมไม่ให้ 3 สาวนี้ได้ลงไป
“แหม พาแฟนมาด้วยเหรอครับ”โฆษกประจำเวทีกล่าวหยอก แต่พอเฟตปรายตามามองเขาก็ต้องหุบปากเงียบ เพราะสายตาของเฟตพร้อมฆ่าคนได้ทุกเมื่อ ในกรณีที่พูดอะไรผิดหูไป มีหวังได้สยองกลางเวทีแน่ แล้วชื่อของชายคนนี้ก็ยิ่งดังเป็นพลุในฐานะสู้กับเทพได้อย่างสูสีด้วยอีก
“เอ่อ งั้นก็เริ่มเลยนะครับ”โฆษกยิ้มแห้งๆให้พร้อมกับเชิญให้เฟตไปยืนอยู่หน้าไมค์ โดยมีสาวๆไปยืนเยื้องอยู่ที่ด้านหลัง
“สวัสดีครับผู้เล่นทุกท่าน ประชาชนทุกคน และอสูรที่มาช่วยรบทุกตน ผมเป็นเกียรติมากครับที่ได้ร่วมรบกับพวกท่าน พวกเราทุกคนคงไม่รอดมาถึงตรงนี้แน่ ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากทุกๆคนในที่นี้”เฟตกล่าวตามสคริปแบบผู้นำที่ดีควรทำกัน แม้เขาจะเป็นคนไม่สนใจใคร แต่เรื่องบางเรื่องก็ควรสนใจบ้าง อย่างเช่นหน้าตาของเขาหรืออสูรนั่นเอง
เหล่าคนดูที่อยู่เบื้องล่างต่างปรบมือกันใหญ่เมื่อได้รับคำกล่าวของเฟตที่เหมือนกับโปรยรางวัลให้คนทั้งเมือง แม้ชายคนนี้จะลุยเดียวมาตลอดก็ตาม
“ในวันนี้หลายท่านคงเหน็ดเหนื่อยกับคำว่าสงครามมามากแล้ว”เฟตกล่าวจบก็พักไปเล็กน้อยโดยกวาดตามองไปที่กิลด์ดรากอนกับกิลด์จัสติซซึ่งตอนนี้พากันทำหน้าเศร้า ทั้งๆที่เป็นกิลด์ปกครองเมืองแท้ๆ แต่ดันแพ้ตั้งแต่เริ่มซะได้
“ถึงตอนนี้ผลของสงคราม พวกท่านจะเอาชนะกิลด์มือที่ 3 ที่โผล่มายังไงไม่รู้ได้ แต่ถ้าต่อๆไป เกิดเหตุการณ์แตกแยกภายในขึ้นอีก พวกท่านคิดหรือว่าจะไม่มีมือที่ 3 ที่ 4 ขึ้นมาอีก แล้วจากนั้นก็จะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมขอถามซิว่า พวกคุณปกครองเมือง เพื่ออะไรกันแน่”เฟตเริ่มเข้าเรื่อง เขาสงสัยมาตลอด ทั้งๆที่เป็นถึงกิลด์ปกครองเมือง แต่ไหงถึงแตกคอกันเองแบบนี้ จริงๆแล้วถ้าสามัคคีกัน ต่อให้ศัตรูมามากกว่าครั้งนี้ ผลลับที่ได้อาจจะไม่เสียหายถึงเพียงนี้ก็ได้
ซึ่งคำกล่าวของเฟตนั้น เริ่มลามไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดสงคราม ซึ่งก็ทำให้พวกกิลด์ที่ก่อเหตุสะดุ้งไปตามๆกัน ถึงแม้จริงๆแล้ว กิลด์เดม่อนจะมีธุระกับเฟตโดยตรงก็ตาม แต่เรื่องอะไรจะบอกความจริงในข้อนี้กันล่ะ
เอริกที่ยืนฟังอยู่พยักหน้าให้กับคำพูดของชายหนุ่มบนเวที กิลด์ดรากอนเป็นกิลด์ๆ หนึ่งที่อยู่ภายในธงสมาคมดรากอนคิงที่เขาปกครองอยู่ อาจเป็นเพราะแบบนี้ก็ได้ จึงทำให้จิมไม่อยากจะร่วมงานกับกิลด์อื่นมากนัก จนเกิดเหตุการณ์ที่ชวนเสื่อมเสียชื่อเสียงถึงสมาคมถึงเพียงนี้
พวกกิลด์ดรากอนเห็นหัวหน้าสมาคมพยักหน้าก็ต่างหันไปมองหน้ากันไปมา เมื่อเห็นว่ารางร้ายกำลังจะมาเยือน ขั้นแรกของโทษก็คงจะเป็นการถูกตัดเงินช่วยเหลือ ขั้นหนักคือถูกขับออกจากสมาคม เมื่อคิดแล้วก็พากันขนลุกชูชันทันที
“แต่ปัญหาในข้อนี้ คงจะแก้ไม่ยากแล้วล่ะมั้งครับ”เฟตกล่าวเสียงเรียบอีกครั้ง โดยสายตานั้นจับจ้องไปที่ชาย 2 คน ที่มายืนฟังด้วยสภาพเหมือนคนพึ่งสร่างเมา ใช่แล้ว หัวหน้ากิลด์ปกครองเมืองทั้ง 2 ศรสายฟ้าหลงทิศกับจิมแห่งกิลด์ดรากอนนั้นเอง สองหนุ่มตอนนี้ยืนกอดคอฟังการแถลงการณ์ของเฟตด้วยสภาพดูไม่ได้ ไม่มีสภาพของหัวหน้ากิลด์ผู้หยิ่งทะนงอีกเลย
ไม่รู้ว่าเฟตสงสารหรือเปล่า แต่ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนเนื้อหาการพูดไป
“แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมมีสิ่งๆหนึ่งที่สามารถบอกกับคนในเมืองนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำที่สุดแล้ว นั่นก็คือ พวกเขาเหล่านี้ ปกป้องเมืองของพวกท่านด้วยใจรักยิ่ง ทหารของพวกเขา สู้ปกป้องเมืองด้วยใจรัก ในขณะที่หลายๆท่านกำลังหนีตายกันอย่างอุตลุดจนตูดปัด พวกเขากลับวิ่งเข้าหาภัยอันตรายโดยไม่หวั่นไหว ในข้อนี้ ผมขอชื่นชมพวกเขาจากใจจริงครับ”เฟตกล่าวจบก็โค้งให้เกียรติกิลด์ทั้ง 2 เล็กน้อย ตอนอยู่ในสงคราม กลุ่มคนที่เขาพบเจอบ่อยที่สุด ก็เป็นกิลด์ ทั้ง 2 นี้นี่แหละ
เมื่อได้รับคำชมจากบุรุษบนเวที 2 หัวหน้ากิลด์เริ่มยืดขึ้นมาได้เล็กน้อย แม้สภาพจะยังดูไม่ได้ แต่สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาตามลำดับ
หลังจากเฟตกล่าวจบ พวกผู้เล่นที่ไม่ได้ร่วมสงครามก็ปรบมือให้กับคนที่เข้าร่วมสงคราม จนผู้ที่ตายในสนามรบมีกำลังใจยิ้มกันออกมาได้ แม้พวกเขาจะตายจนเลเวลลด แต่พอมาได้กำลังใจจากคนรอบข้างก็สามารถยิ้มได้โดยไม่ฝืนตัวเอง
“อย่างที่ผมกล่าวขอบคุณไว้ตั้งแต่ต้นนั่นล่ะครับ ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกๆคน พวกท่านอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ที่จุดนี้และเวลานี้แน่ ผมคนนี้อาจจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้ แต่ผมอยากจะขอให้ทุกคนปรองดองและสามัคคีกันเอาไว้ครับ สงครามในครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างดีว่าในสังคมของพวกท่านยังมีแต่ช่องว่างเต็มหมด เพื่ออนาคตของพวกท่านทั้งหลาย ขอให้จำให้ดีครับ ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำเพื่อส่วนรวม หรือไม่ควรทำ”เฟตกล่าวจบก็เตรียมจะลง แต่เมื่อเขาปรายตามาเห็นคนที่ยืนข้างหลัง ร่างกายของชายหนุ่มที่เตรียมหันแล้วก็เปลี่ยนท่านเป็นเต้นมูนวอร์ค เดินกลับหลังไปหาไมค์ จากนั้นก็คว้าไมค์มาเหมือนกับพวกนักร้องมือชีพ
“ผมเกือบลืมไป ในสงครามนี้ ถ้าพวกคุณไม่ได้พวกเธอเหล่านี้ และพวกเธอเหล่านั้น ในเวลานี้พวกคุณอาจจะต้องนอนเล่นอยู่นอกเมืองแล้วก็ได้ ผมขอขอบคุณพวกเธอด้วยนะครับ”เฟตกล่าวแล้วเดินเข้ามาหา 2 ผู้เล่นสาว พร้อมกับมองไปยังกลุ่มของฟ้าใสที่อยู่ข้างล่าง สงครามในครั้งนี้อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากพวกเธอ
เฟตก้มหัวให้ 2 สาวด้วยความให้เกียรติแบบเต็มที่ เขาเป็นคนไม่มีอะไรอยู่แล้ว การให้เกียรติผู้หญิง กับการเชิดชูผู้ที่ทำดี มันเป็นสิ่งที่เขาสมควรกระทำ
เทียร่ากับริเรียน่าหันไปมองหน้ากันจากนั้นก็มองชายหนุ่มที่โค้งตัวให้พวกเธออย่างสวยงาม ชายผู้นี้เหมือนจะเป็นคนที่หยิ่งแหะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ดันเป็นคนที่อ่อนน้อมได้ จนน่าตกใจเลย
“นายท่าน ได้เวลาแล้วค่ะ”อยู่ๆไรน่าก็บอกท่ามกลางเสียงที่เงียบกริบ
พอได้ยินไรน่าบอกเฟตก็เรียกหน้าต่างระบบออกมาดูเวลา
12.00 น. นั่นคือเวลาที่เฟตเห็น
“ดังนั้น พวกท่านก็จงตอบแทนพวกเธอด้วยนะครับ”เฟตผงกหัวยืนตรงหันไปพูดใส่ไมค์ จากนั้นก็ลงจากเวทีด้วยความเร็วแสง โดยไม่ลืมส่งซิกให้ 3 สาวตามมาด้วย
เหตุการณ์ที่เฟตผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ส่งผลให้เขาได้รับฉายาที่ใครๆก็พร้อมตั้งชื่อให้ ‘เจ้าชายเที่ยงวัน’ นั่นเอง เพราะเฟตหนีหายไปตอนเที่ยงตลอด หรือไม่ก็เป็นเพราะพวกเทียร่าที่ถูกทิ้งบนเวทีรวมหัวกันตั้งชื่อให้
ส่วนคนที่ได้รับฉายาใหม่กลับไม่สนใจ เขารีบเดินลงจากเวทีมุ่งหน้าไปยังร้านขายเสื้อผ้า พอมาถึงแล้วอสูรของเขาก็เดินตามเข้าไปติดๆ
“สนใจอะไรครับ”พนักงานร้านยิ้มถามขณะมองหน้าสาวๆตาเป็นมัน แต่เฟตมองมาเห็นสายตาที่นิ่งเรียบของเฟตก็สะดุ้งกันเป็นแถว นี่มันสายตานักฆ่าชัดๆ ถึงจะไม่มีรังสีการฆ่าฟันก็เถอะ
“เลือกชุดกันตามสบายเลยนะครับ”เฟตหันมายิ้มบอก 3 สาว เขาสัญญากับพวกเธอว่าจะพามาหาชุดใหม่ เนื่องจากเขาทิ้งพวกเธอไว้ในสงครามบ่อยจนมีอาการเคืองกันขึ้นมา
“งั้นก็ตามสัญญา”ไรน่าหันไปพยักหน้าให้กับอนาตาเซียกับจาเนีย ซึ่ง 2 สาวก็พยักหน้าตอบเป็นเชิงรู้กัน แต่เฟตที่ไม่ได้รู้เรื่องด้วย กลับโดนลากไปยังห้องลองชุดเสียแล้ว
“มีอะไรเหรอครับ ทำไมต้องคุยกัน 2 ต่อ 2 ด้วยล่ะ”เฟตเอียงคอถามในขณะที่คนลามกมากลับหน้าแดงด้วยความเขินซะเอง
“เปล่าหรอกค่ะ พอดีว่า ไรน่ายังไม่เคยให้นายท่านช่วยสอนการเปลี่ยนชุดให้เลย”ไรน่าว่าจบก็ชี้ไปที่ชุดตัวเอง ซึ่งเป็นชุดที่เฟตหาเจอในสงคราม มันไม่สวยงามเลย
“สอนเปลี่ยนชุดเหรอ ได้ครับ ไม่มีปัญหา”เฟตยิ้มตอบขณะเดินออกจากห้องนั้นไปหาชุดมาให้ ซึ่งชุดที่เฟตเลือกก็คือชุดเดรสยาวสีขาวของชาวตะวันออกเหนือที่พวกพนักงานช่วยกันยุขาย มันดูคล้ายกับชุดที่พวกจอมยุทธ์ใส่ แต่แท้จริงแล้วมันคือชุดที่พวกคุณหนูชอบใส่กัน ทำให้เฟตเลือกมันมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เมื่อชุดพร้อมเฟตก็หิ้วมันเข้าห้องลองชุดไป ท่ามกลางสายตาของพนักงานที่จ้องมองตาเป็นมัน
“อื้ม!!! อ้า!!! ไม่ได้นะ นายท่าน ตรงนั้น อ้า!!!”เสียงร้องของไรน่าที่ดังออกมาเป็นเหตุให้พวกพนักงานจิ้นกันไปแล้ว จริงๆถ้าไม่ใช่เฟตก็คงจะมีการแจ้งไปว่า มีการทำอนาจาร แต่พอดีว่าชายผู้นี้ถูกละเว้นไว้เพราะถือว่าเป็นบุคคลพิเศษแห่งเมือง
“เรียบร้อยครับ”เฟตเดินออกมาจากห้องพร้อมกับไรน่าที่เกาะแขนของชายหนุ่มออกมาด้วยสภาพอ่อนแรง
อนาตาเซียกับจาเนียมองภาพนั้นด้วยสายตาเข้าใจทันที พวกเธอเคยเป็นมาก่อน แม้เฟตจะทำอ่อนโยนได้มากแค่ไหน แต่การถูกชายอื่นแตะต้องตัวในร่างมนุษย์ มันทำให้รู้สึกสยิวจนเกินจะห้ามไหว
“ไหนบอกว่ารู้สึกดีไง”ไรน่าหันไปแห้วใส่อนาตาเซีย ซึ่งหญิงสาวผมดำในชุดยาวสีดำก็หัวเราะออกมา เขาได้แก้แค้นไรน่าบ้างแล้ว
“แล้วเสียวไหมล่ะ”เจอย้อนอย่างงี้ไรน่าถึงกับพูดไม่ออก พวกพนักงานที่ฟังอยู่ต่างอ้าปากค้างไปตามๆกัน
เกมนี้มีการแบ่งเรทเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรทติ้งระหว่างผู้เล่นกับผู้เล่น ซึ่งต้องได้รับคำยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่สำหรับผู้เล่นกับอสูรสาวหรืออะไรก็ตามที่เป็นผู้หญิง เรทติ้งที่ว่าล้วนแล้วแต่ถูกจัดให้อยู่อันดับสูงสุด โดยที่ว่า ผู้เล่นนั้นๆต้องมีอายุถึงเกณฑ์ที่กำหนด ถือว่าโชคดีที่เฟตอายุ 19 ไม่งั้นเรทคงทะลุเป้าไปนานแล้ว
“เท่าไหร่ครับ”เฟตถามพวกพนักงานขณะเดินวนรอบตัวพวกจาเนีย ซึ่งใส่ชุดใหม่ที่สวยยิ่งกว่าเดิม มันสวยมากจนเขาเผลอโอบเข้ามากอดด้วยความแนบเนียน
พนักงานหนุ่มที่ถูกถามไม่ได้ตอบคำ เพราะภาพที่เห็นมันส่งผลให้เกิดอาการอิจฉาตาร้อน แต่เมื่อถูกย้ำเตือนเป็นครั้งที่ 2 ด้วยเสียงเย็นๆ จึงมีสติพอที่จะตอบได้
“สำหรับคุณเฟต วันนี้พวกเราบริการฟรีทุกอย่างครับ เนื่องจากคุณเป็นผู้ช่วยเหลือให้พวกเรากลับมาเปิดร้านได้อีกครั้ง ทางสมาคมพ่อค้าจึงอนุญาตให้คุณเป็น VIP ทุกๆร้านที่อยู่ในเมืองนี้ครับ”พนักงานหนุ่มตอบจบ เฟตก็ยิ้มที่มุมปาก อย่างงี้ค่อยสมกับที่เหนื่อยมาเสียหน่อย
“แล้วไปไหนกันต่อดีครับ”เฟตหันไปถามอสูรของตัวเองทันที
“ไหนนายจะออฟไลน์ไม่ใช่เหรอ”อนาตาเซียถามขณะใช้อีกมือกุมมือของเฟตที่เกาะเอวตนเองไว้
“แหะๆ วันนี้ของฟรี ต้องใช้บริการซะหน่อยซิครับ”เฟตยิ้มตอบ ของฟรีมีค่าจงรีบไขว้คว้าไว้ซะ
“แล้วแต่เจ้านายค่ะ จาเนียยังไงก็ได้อยู่แล้ว”จาเนียตอบขณะกุมแขนของเฟตที่กอดเธอไว้
“งั้น ผมขอไปลองสิ่งที่พวกคุณช่วยกันสร้างก็แล้วกันนะครับ”เฟตบอกข้อที่ตนสนใจออกมา เขาสงสัยในคำพูดของ 3 สาวนี้มาตั้งแต่ในห้องแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ถามเป็นทางการซะที
“แล้วจะไปที่ไหนคะ”ไรน่าที่มีแรงพอจะยืนเองได้แล้วถามทันที
“วงเวียนอาชีพไงครับ”เฟตยิ้มบอก
ร้านค้าแห่งหนึ่ง ณ วงเวียนอาชีพ
“แล้วไม่ตามติดเจ้านั่นแล้วเหรอ”ชายร่างใหญ่ร้องถามหญิงสาวในชุดยาวสีขาวซึ่งนั่งเท้าคางด้วยความเบื่อหน่ายอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไม่มีเหตุผลที่ต้องตามติดแล้วนี่คะ ภารกิจสังหารจาเนียถูกยกเลิกไปแล้ว”อาธีน่าบอกเสร็จก็ถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ทอดสายตามองไปข้างนอกด้วยความเบื่อหน่าย
“อืม ถ้าเจ้าไม่ไป ข้าก็ไม่รู้จะไปทำไม”ซาตานพยักหน้าเห็นด้วย ขณะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก แต่แล้ว เมื่อเขาเห็นว่าสายตาของอาธีน่าเปลี่ยนจากเบื่อหน่ายกลายเป็นส่องประกาย ก็มองตามสายตาเทพสาวไป
“เจ้านั่น มาทำอะไรที่นี่หว่า”ซาตานพึมพำขณะมองดูปฏิกิริยาของเทพสาว ซึ่งเธอยังคงนั่งเฉยๆ แต่ดวงตานั้นเปลี่ยนอารมณ์ไปมาได้อย่างน่าประหลาด
“ถ้าอยากไปอยู่เคียงข้างแบบ 3 อสูรนั่น ก็ไปเถอะ ทำซึนอายไปได้”ซาตานยกเหล้าขึ้นดื่มหลังจากพูดจบ อาธีน่าที่ได้ยินหันขวับมามองพร้อมกับขมวดคิ้วใส่ แต่ซาตานไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะพวกเขาสิ้นธุระต่อกันแล้ว จะไปมัวกลัวกันทำไมล่ะ
เมื่อเห็นซาตานไม่โต้ตอบอาธีน่าก็ถอนหายใจ แต่เมื่อเธอมองออกไปข้างนอกอีกครั้ง ก็เห็นว่าเฟตเดินตรงมาทางนี้แล้ว โดยมีจาเนียเป็นคนชี้เป้ามาแต่ไกล
“หึหึ”ซาตานหัวเราะในจมูกเมื่อเห็นเทพสาวนั่งไม่ติด
“อ้าว เป็นไงครับ หายกันไปเลยหลังจากสงคราม”เฟตทักทันทีที่เข้ามาภายในร้านอาหาร ที่มีลักษณะการตกแต่งแบบย้อนยุคสไตล์จอมยุทธ์
“ก็เบื่อๆน่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย”ซาตานเป็นฝ่ายตอบ ส่วนอาธีน่าก็ปั้นหน้านิ่งได้แล้ว ซึ่งเฟตไม่มีทางจับพิรุธได้
“ว่าแต่นายมาทำอะไรล่ะ ไม่นั่งก่อนเหรอ”ซาตานชี้นิ้วไปที่ที่นั่งว่างฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีอาธีน่านั่งอยู่ด้านใน
“อ้อ ขอบคุณครับ พอดีผมจะมาทดสอบอาชีพน่ะ”เฟตตอบยิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งข้างๆอาธีน่า จากนั้นก็เรียกหน้าต่างระบบออกมาดู แต่เมื่อเขาเห็นว่ามีข้อความฝากไว้อยู่ก็เปิดมันออกมาอ่านอย่างรวดเร็ว
‘การทดสอบอาชีพของผู้เล่นเฟตเสร็จสิ้นค่ะ สายอาชีพของผู้เล่นเฟตถูกจัดลำดับให้อยู่ระดับ S (หายาก) เนื่องจากสามารถต่อสู้กับเทพอสูรได้อย่างสูสีค่ะ’พออ่านเสร็จเฟตก็ลบทิ้งทันทีโดยไม่สนใจ เขาไม่ได้อยากจะโอ้อวดว่าอาชีพของเขาดีเยี่ยมขนาดไหน แค่ต้องการใช้สิ่งที่ตนรักก็เท่านั้น
“แล้วจะเอาไงต่อ จะให้จัดเป็นการแข่งเลยมั้ย”ซาตานยิ้มที่มุมปากถาม ตอนนี้เขาเห็นเรื่องสนุกๆมาแต่ไกล
“ก็น่าสนใจดีนะครับ ว่าแต่จะแข่งทำไมล่ะ”
“เพื่อให้คนอยากจะสู้กับแกไงล่ะ ถามได้”
“ผมแค่มาทดสอบอาชีพนะ ไม่ได้มาก่อสงคราม”เฟตย้อนคำถามซาตาน จนจ้าวอสูรต้องยักไหล่ใส่
“แม้ท่านจะต้องการแบบราบเรียบ แต่คนพวกนั้นใครจะกล้าสู้กับท่านคะ”อาธีน่าที่ฟังเงียบๆมานานเอ่ยปากออกมาถึงความจริง ชื่อเสียงของเฟตดังมากในเมืองนี้ และแน่นอน ใครมันจะกล้าสู้กับวีรบุรุษแห่งสงครามกัน
“แล้วจะให้ทำยังไงอ่า”เฟตพึ่งนึกได้จึงถามหาความเห็นกับอาธีน่าทันที
“ง่ายๆค่ะ แค่ต่อให้ ก็จบแล้ว”
“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”ซาตานหันไปถามอาธีน่า
“ถ้าพูดตามจริงแล้ว ไม่ง่ายเลยค่ะ แต่เลเวลของผู้เล่นแต่ละอาชีพที่อยู่ในที่นี้ ณ ปัจจุบันนี้ ล้วนแล้วแต่มีเลเวลไม่ห่างกับท่านเฟตมาก ถ้าเราบอกว่าจะมีการจัดอันดับให้อาชีพสายต่างๆ เราเชื่อว่า คนพวกนี้ต้องยอมเสียงสู้เป็นแน่”อาธีน่าชี้ข้อมูลให้ฟัง คนที่มาเปิดตึกรับสมาชิกล้วนแต่เป็นสมาชิกที่มีระดับของสายอาชีพนั้นๆทั้งสิ้น การที่ถูกจัดอันดับให้สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลต่ออาชีพนั้นๆมากขึ้นตามลำดับไปด้วย
“อืมเห็นด้วย แล้วจะเอายังไงให้มันดูน่าสนใจล่ะ”ซาตานพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็ไม่ยากนี่คะ น้องชายของเขาเป็นถึงเจ้าเมืองแล้วนี่นา”อาธีน่าพยักหน้ามาทางเฟต ซึ่งชายหนุ่มก็เอียงคอมอง แต่พอได้ยินเสียงประกาศก็เข้าใจทันที
‘ผู้เล่นชิออนได้รับตำแห่นงราชาแห่งเมืองเริ่มต้น เคียงคู่กับราชินีเมร่าบุตรีแห่งราชาองค์ก่อนค่ะ’เสียงของระบบที่ประกาศนี้ มันพร้อมกับที่ชิออนที่อยู่บนเวทีนู้นถูกแต่งตั้งตำแหน่งพอดี
“หืม พอเหมาะพอเจาะดีจริงๆ งั้นก็เริ่มงานกันเลยดีกว่า ข้าเองก็อยากดูอะไรดีๆเหมือนกัน”ซาตานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็มีการสั่งงานให้ 3 อสูรสาวที่อยู่ข้างๆเฟตไปทำ ตอนแรกชายหนุ่มค้านไม่ให้อสูรของตัวเองต้องไปทำงานอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อเจอลูกอ้อนของจาเนียว่าพวกเธอจะไร้ประโยชน์ก็เลยจำใจยอมรับทั้งๆที่ค้านแทบตาย
‘ผู้เล่นชิออนได้รับการติดต่อค่ะ’เสียงของระบบรายงานให้ชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดทักซิโดสีขาว ซึ่งเจ้าของระบบที่มีนามว่าชิออนก็รับสายนั้นตามที่ระบบร้องขอ
“ว่าไงพี่”
“จะให้สร้างกิจกรรมในวงเวียนอาชีพ โดยใช้ตำแหน่งกับใบรับรองของเจ้าเมืองอย่างผมน่ะเหรอ”ชิออน สนทนากับผู้ที่โทรมาอย่างไม่รีบร้อน
“อ้อ ผมเห็นแล้ว”ชายหนุ่มพยักหน้าหลังเฟตบอกว่าให้คนไปรับสารรับรองนั้นแล้ว ซึ่งคนที่มาก็คือจาเนียนั่นเอง
“ฮ่าฮ่า หนุ่มมองตามตาเป็นมันเลยอ่ะพี่”ชิออนหัวเราะกรอกไปกับสาย เพื่อต้องการหยอกเฟต ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล เมื่ออยู่ๆก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่นมาจากแทบวงเวียนอาชีพ ทำให้ชิออนกลืนน้ำลายเอือก ถ้าเกิดเขาบอกว่าจาเนียถูกผู้เล่นหนุ่มเดินตามจะเป็นยังไงเนี่ย
หลังยืนรอเอลฟ์สาวไม่นาน จาเนียก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับนำกระดาษที่อาธีน่าร่างให้มาด้วย
“แหม เตรียมพร้อมดีจัง ระบบราชการของพี่เนี่ย”ชิออนหัวเราะกล่าวขณะเซ็นอนุมัติลงไปด้วย ซึ่งใบอนุมัตินี้จะถูกติดไว้ที่กลางเมืองอีกที
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ”หลังจากรับเอกสารมาจาเนียก็ถามชิออนกลับ
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องหรอก สบายมาก จิ๊บๆ”ชิออนยิ้มกล่าว แม้ข้างหลังเขาจะรู้สึกเหมือนมีใบหน้าอันใหญ่โตของใครบางคนถลึงตามองอยู่ก็ตาม
หลังจากเอลฟ์สาวออกไป ชิออนก็หุบยิ้มพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าอันใหญ่โตนั้น แต่เมื่อเขาสงบจิตใจได้ ใบหน้านั้นก็ลดลงมาเหลือขนาดปกติ
“สบายใจจริงนะคะ ท่านเจ้าเมือง”ฟ้าใสยิ้มถามเสียงเย็น ส่วนเจ้าเมืองมือใหม่รีบหัวเราะกลบเกลื่อน โดยข้างๆเขานั้นมีราชินีปกครองเมืองหญิงที่มีนามว่าเมร่าอยู่ด้วย
“แหะๆ มันเป็นการรับฝากจากเจ้าเมืองคนก่อนน่ะ ฟ้าต้องเข้าใจนะ ชินไม่ได้ต้องการเลย”
“เหรอคะ ขนาดไม่ต้องการ แต่มือที่เกาะเอวคุณเมร่ายังเหนียวแน่นเหมือนกับปลาหมึกแบบนี้ สงสัยจะเป็นการฝืนใจน่าดูเลย”ฟ้าใสว่าจบก็ปรายตามองมือของชิออนที่กุมเอวของเมร่าไม่ปล่อย เธอเคืองตั้งแต่ที่ชิออนไม่ยอมบอกว่าต้องแต่งงานกับอสูรในเกมแล้ว แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีหน้ามาเกาะแกะกันโชว์หน้าโชว์ตาอีก แบบนี้มันต้อง….
“ใช่เลย ฝืนใจมาก รู้เปล่าว่าผมต้อง..... เดี๋ยวๆ ฟ้าครับ เดี๋ยวก่อน อย่า ม่ายยยยย อ้ากกกกกกกกกก!!!!”จากนั้นก็เป็นเสียงโหยหวนของชิออนที่ถูกสาวผมน้ำเงินซ้อมจนปางตาย ส่วนหญิงสาวผู้เป็นภรรยาใหม่กลับมองดูเฉยๆ เพราะถือหลักว่าฟ้าใสคือผู้ที่มาก่อน เธอคือผู้ที่มาทีหลังจึงยอมเป็นภรรยาน้อยตามหลักสัจธรรม
“ได้แล้วค่ะ”จาเนียที่มาถึงจุดนัดพบกับอาธีน่ายื่นเอกสารให้ ทำให้เทพสาวยิ้มพร้อมกับหันไปมองเฟตที่จ้องพวกผู้เล่นหนุ่มที่ตามหลังจาเนียมาไม่วางตา
“หึงเหรอ”ซาตานถามโดยปล่อยให้อาธีน่าทำตามแผน
“ไม่เชิงมั้งครับ เพียงแต่ผมมองดูว่าจะมีใครจริงใจไม่มองอสูรผมเพียงแค่หน้าตาบ้างน่ะ”เฟตตอบตามทีถูกถาม สายตาของเขาที่มองคนอื่นนั้นเป็นสายตาธรรมดาๆ ไม่ได้แฝงอะไรไว้เลย แต่สำหรับผู้เล่นที่เห็นสายตาของเฟต กลับคิดเหมือนๆกันว่า มันเป็นสายตาของพ่อที่หวงลูกสาวชัดๆ ซึ่งแน่นอน ไม่มีใครกล้าเข้าหาเฟตตรงๆเลย นอกจากจะมองพวกจาเนียกับอาธีน่าไกลๆ ไม่ได้จีบแค่มองก็ยังดีฟะ
หลังจากอาธีน่าเริ่มประสานงานกับอสูรและเจ้าหน้าที่ของเมือง วงเวียนอาชีพที่เคยหนาแน่นไปด้วยคนแล้ว ตอนนี้กลับหนาแน่นยิ่งกว่าเดิมจนเทียบชั้นกันไม่ติด
ซึ่งหนึ่งในเล่ห์กลของอาธีน่าก็คือ ใช้อสูรสาวของเฟตเป็นโฆษก ทำให้ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม ในขณะผู้เป็นพ่อกลับกอดอกหน้าบึ้งมองอสูรของตัวเองที่ขึ้นเวทีไปด้วยสายตาเป็นห่วง พวกผู้เล่นที่หวังหม้อสาวสวยจึงไม่กล้าหือ แต่การที่มีสาวๆขึ้นเวทีแบบนี้ ส่งผลให้เรียกผู้คนมาได้จริงๆ
ไรน่ากับอนาตาเซียรับบทเป็นโฆษกบนเวทีกลางวงเวียน เสียงตอบรับจากผู้ชมดีเยี่ยม และแน่นอน ย่อมมีผู้สนใจเข้าร่วมทดสอบระดับอาชีพกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีชิออนเป็นตัวแทนนักดาบแห่งสายบูชิโดมาด้วย
“มีการต่อสู้น่าสนุกแบบนี้จะไม่มาได้ยังไงพี่”ชิออนยิ้มบอกกับเฟตโดยมีเลือดไหลออกมาด้วย ทำให้เฟตที่มองอยู่พยักหน้าให้กับคำพูดนั้นอย่างจนใจ ชิออนไม่ได้อยากดูคนสวยอย่างเดียวหรอก เขาคงจะอยากสู้จริงๆ
“ว่าแต่ ดูเหมือนจะเข้ากันได้แล้วนะครับ”เฟตย้อนถามเมื่อหันไปเห็นฟ้าใสกับเมร่ายืนคุยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังสนิทสนมคล้ายเป็นพี่น้องกันเสียด้วย
“อืม ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ”ชิออนพยักหน้าให้ พร้อมกับหันไปมองการต่อสู้บนเวทีที่เริ่มการทดสอบสายอาชีพต่างๆแล้ว โดยการจับคู่นั้นช่างง่ายแสนง่าย ระยะประชิดสู้ระยะประชิด ระยะกลางสู้กลาง ไกลสู้ไกล มันเป็นการแยกสายที่เข้าท่าที่สุดแล้ว
“ผมขึ้นไปก่อนนะพี่”ชิออนเดินขึ้นเวทีไปทั้งๆที่มีผ้าคลุมของเจ้าเมืองติดขึ้นไปด้วย การเดินขึ้นเวทีของชิออนได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ด้วยศักดิที่เป็นถึงเจ้าเมือง และศักดิที่เป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวแห่งสายดาบซามูไร
คู่ต่อสู้กับชิออนคือนักดาบสายประชิดเหมือนกัน เพียงแต่เป็นนักดาบของสายตะวันตก ที่ใช้ดาบผสมกับโล่ขนาดเท่าแขน
“แม้นายจะได้เป็นเจ้าเมืองแล้ว แต่ฉันไม่ออมมือหรอกนะ”ชายฝั่งตรงข้ามบอกด้วยท่าทีเรียบๆ ในขณะที่ชิออนชักดาบออกมากะระยะ
“เริ่มได้”กรรมการสนามบอกเสร็จ ชิออนก็วาดดาบไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้คู่ต่อสู้สลายกลายเป็นแสงไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่า วิชาของชิออนนั้นก้ามข้ามขั้นดาบระดับปกติไปแล้ว เพียงแค่การวาดดาบ รัศมีของดาบก็ส่งไปไกลกว่าเดิมถึง 2 เมตร ซึ่งความเป็นจริงในข้อนี้ชิออนรู้มาจากครูของสายอาชีพว่า เพราะการที่ชิออนใช้พลังศักดิสิทธิ์มากๆ ความชำนาญในการใช้นั้นจึงส่งผลให้กับทักษะดาบของชิออนตามไปด้วย
ชิออนเดินลงเวทีด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เวทีใกล้เคียงซึ่งประลองอยู่ถึงกับหยุดมือลืมการประลองของกันและกันไป เพราะว่าชิออนนั้นใช้เวลาต่อสู้ภายในไม่ถึง 3 วินาทีเลย
“ฝีมือ พัฒนาขึ้นไปมากแล้วนะครับ”เฟตกล่าวชมตอนที่ชิออนลงมาถึง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตื่นเต้นชะมัดเลยพี่ นึกว่าจะฟันนิ้วตัวเองขาดไปซะแล้ว”พออยู่กับพี่ชายชิออนก็ทิ้งมาดชายหนุ่มที่สง่างามทันที เป็นเหตุให้คนที่พากันเครียดกับท่าทางของชิออนหมดศรัทธาไปตามๆกัน
เฟตส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของชิออน เขาหันไปให้ความสนใจกับการต่อสู้ของเวทีทั้ง 4 ต่อ การจัดการประลองอันดับของอาธีน่า ทำให้เขารู้ว่าผู้เล่นต่างมีทักษะที่ต่างกันไป แถมอาชีพก็หลากหลายเสียจนเขายังคิดว่า คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าน่าจะอาชีพเดียวกันกับเขา
“เสร็จสิ้นไปแล้วกับการจัดอันดับของผู้เล่นสายประชิด ต่อไปเป็นสายกลาง”โฆษกบนเวทีเริ่มประกาศอีกครั้ง โดยคราวนี้พวกผู้เล่นสายประชิดระดับกลางอย่างหอก ก็ขึ้นไปประลองกันต่อ โดยเฟตนั้นก็จับจ้องการต่อสู้ไปด้วย แม้คนที่พากันเข้าประลองจะทำให้เขาประหลาดใจก็เถอะ
หลังจากสายต่อสู้ระดับกลางจบลงไปก็ต่อด้วยสายไกล ซึ่งนั่นทำให้เฟตถึงกับเกือบจะโห่ออกมา ดูตั้งนานไหงเขาไม่ได้ประลอง
“ก็เพราะว่าท่านต้องประลองรอบตัดสินไงคะ”อาธีน่ายิ้มบอกในตอนที่โฆษกประกาศว่าให้เลื่อนการประลองไปจัดในวันถัดไปในโลกจริง ตอนเที่ยงคืน หรือเทียบกับตอนเช้าของโลกในเกม ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว กลัวว่าผู้เล่นหลายๆคนจะต้องออฟไลน์โดยอาจจะพลาดสิ่งสนุกๆไปได้
เมื่อการประลองถูกต่อยอดไป เฟตก็มานั่งกลุ้มที่ร้านอาหาร โดยมีอสูรของตนเองนั่งมองด้วยความเป็นห่วง
“เอาน่าพี่ อย่าเครียดเลย ไม่ช้าไม่เร็วเดี๋ยวก็ได้ทดสอบ”ชิออนหัวเราะกล่าว
“เจ้านายก็พูดได้นี่ โด่ ผมดูตั้งนาน นึกว่าจะได้สู้ซะอีก เฮ้อ”เฟตถอนหายใจยาวอีกครั้ง รอบนี้เขาตัดใจอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้แล้ว จากนั้นก็หันไปป้อนอสูรตนเองให้กินข้าว กันจะมากินเลือดของเขาแทนเมื่อท้องหิว
“เสร็จนี่ พี่ต้องไปส่งพวกเอลฟ์ที่จะกลับเมืองเปล่าอ่ะ”
“ต้องไปครับ เพราะคนพวกนั้นมาช่วยผมตามคำขอของอาธีน่า”เฟตพยักหน้าตอบพร้อมกับหันไปมองอาธีน่าที่นั่งมองอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“คิกๆ เอลฟ์เป็นเผ่าที่ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร และท่านเองก็ช่วยเผ่าเอลฟ์ไว้ด้วยนี่คะ”อาธีน่ายิ้มแย้มบอก ส่วนเฟตก็รี่ตรงไปหาเธอพร้อมกับยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้า
“อ้าปากครับ”เฟตพยักหน้าให้กับอาธีน่าอย่างจริงจัง ทำให้เทพสาวอึ้งพอมองดูดีๆก็พบว่าเฟตกำลังจะป้อนอาหารเธอ
“มะ ไม่ค่ะ”อาธีน่าส่ายหัวปฏิเสธไม่รับ แต่งูอย่างเฟตมีหรือจะเชื่อง่ายๆ เขายังคงใช้แรงกดดันของสายตาตัวเองจ้องเธอไปเรื่อยๆ
สายตาของเฟตที่อาธีน่ามองเห็น มันคือสายตาของเด็กน้อยที่เรียกร้องความสนใจ มันออดอ้อนเธอได้อย่างน่าสงสารมาก พอเธอเมินไม่สนใจ สายตานี้จะหม่นแสงลงเหมือนคนผิดหวัง แต่พอเธอตอบสนองความต้องการ มันจะส่องประกายได้อย่างน่าประหลาด
“อ้ำ”อาธีน่าตกลงใจที่จะกินตามที่เฟตต้องการ ซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มแล้วป้อนให้เธออย่างรวดเร็ว
พอป้อนอาธีน่าเสร็จเฟตก็เวียนไปป้อนอสูรของตนเองเหมือนกับพวกเธอเป็นเด็กกินข้าวไม่เป็น พวกผู้เล่นที่มองอยู่คิดแบบนั้นทั้งนั้น
“นี่มัน เปิดฮาเร็มได้อย่างเป็นธรรมชาติจริงๆ”ซาตานที่นั่งกินเหล้าหลบมุมกับชิออนพึมพำ ทำให้คนที่กินอยู่ด้วยพยักหน้าด้วยความอิจฉา
เมื่อมือเย็นผ่านไปแล้ว ตอนนี้เฟตก็ต้องมาทำหน้าที่ของตัวเอง นั่นก็คือการส่งพวกเอลฟ์ที่มาช่วยกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย
“เอาจริงๆเหรอครับ ที่จะไม่ให้พวกเธออยู่ด้วย”หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ หลังจากเฟตบอกปล่อยเกาะเอลฟ์ 4 ตนที่เขาเป็นคนช่วยไว้
“จริงๆครับ ผมรับพวกเธอเข้ามาเพราะต้องการช่วยเหลือ ส่วนตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องส่งพวกเธอกลับไปสู่ถิ่นฐานอันเป็นที่รักแล้ว”เฟตกล่าวขณะมองดูอสูรเอลฟ์ 4 ตนที่เขาสั่งยกเลิกพันธะสัญญาอสูร
ซึ่งตอนที่สั่งยกเลิกพวกผู้เล่นต่างมาประกาศขอซื้อตัวต่อต่างๆนาๆ เพราะอสูรเอลฟ์เป็นอสูรที่จับมาเป็นอสูรยากมากๆ น่าจะระดับเดียวกับมังกรเลย แต่เมื่อเฟตจ้องมองคนพวกนี้ด้วยสายตาว่างเปล่า เสียงอื้ออึงก็หายไปกับสายลม ด้วยกลัวว่าตัวพวกเขาจะหายไปกับความตายเสียก่อน
“ครับ”หัวหน้าหมู่บ้านเอลฟ์รับคำพร้อมกับพยักหน้าให้เอลฟ์สาว 4 ตนที่ทำหน้าเศร้า เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเจ้านายดีๆ แต่เขาดันเป็นคนดีจัด เลยปล่อยเกาะพวกเธอให้ไปเจอสิ่งที่ดีกว่าซะงั้น
ส่วนจาเนียที่เป็นเอลฟ์ในคอนโทรลเฟตเช่นกันก็เกาะแขนของชายหนุ่มไว้แน่น กลัวตนจะถูกปล่อยเกาะบ้าง แต่ชายหนุ่มบอกไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือเธอให้ถึงที่สุด จึงลูบหัวเอลฟ์สาวอย่างอ่อนโยนท่ามกลางความอิจฉาของเอลฟ์ตนอื่นๆ เจ้านายดีๆ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ นะเฟ้ย
“ผมต้องขอบคุณพวกคุณมากเลยนะครับ”เฟตกล่าวขอบคุณผู้นำเอลฟ์ที่ยกกองออกไปก่อน และพวกคาร์ ที่มาบอกว่าจะยกทัพตามกลับป่าไปแล้ว หลังจากเที่ยวเมืองมนุษย์กันจนเหมาอะไรกลับบ้านกันจนหมดร้าน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ตามวิถีแห่งอัศวิน มันสมควรแล้ว ต่อให้ชีวิตข้า ข้าก็ยอมแลกเพื่อท่าน”คาร์พูดด้วยความยินดี พอเฟตพยักหน้าให้กับคำพูดเขา คาร์ก็เลยจัดการทำความเคารพ ซึ่งกองกำลังอัศวินของตนที่พามาด้วยพากันทำความเคารพเฟต จนผู้เล่นที่มาชมด้วยความสนใจขนลุกไปกับภาพที่เห็น
“ข้ายินดีที่ได้รับใช้ท่านยิ่งนัก อนาคตข้าหวังว่าจะได้ร่วมรบกับท่านอีกครั้ง”คาร์กล่าวจบก็กระโดดขึ้นม้าแล้วเดินไปทางป่าเหนือโดยมีอัศวินแห่งความมืดเดินตามไปอย่างพร้อมเพรียง พวกเขามีหน้าที่ระวังป้องพวกผู้เล่นลอบทำร้าย ซึ่งเฟตเองก็เป็นคนหนึ่งที่จะคอยยืนส่งจนจนกว่าพวกที่ช่วยเขาจะปลอดภัย
เฟตยืนส่งพวกอสูรจนออกไปลับสายตา เขาก็หันมามองคนข้างตัว ซึ่งดูเหมือนกำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น
“หา!!!! คุณจะกลับแล้วเหรอ”เฟตอุทานลั่นเมื่อได้ยินว่าอาธีน่ากับซาตานกำลังจะกลับบ้านของตัวเองเช่นกัน
“อืม บ้านข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ จะมาอยู่อะไรนานนักหนา เดี๋ยวไอ้พวกตัวแสบอีก 6 ตัว แอบปีนขึ้นบ้านไปนั่งจัดปาร์ตี้ใช้ชื่อข้าลงเครดิตจะทำไง ครั้งที่แล้วเล่นซะเมียข้าถีบออกจากบ้านไปเลย แต่ละตัว เล่นแต่ของใหญ่ๆทั้งนั้น”ซาตานพยักหน้าตอบ แต่คำพูดนั้นเล่นเอาเฟตมึนไปเลย
“แต่จะว่าไปแล้ว อาธีน่าไม่ต้องกลับก็ได้นะ อยู่กับหมอนี่ไปเลยก็ได้”ซาตานที่กำลังจะออกเดินทางหันมาพูดใส่อาธีน่าที่พึ่งมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้า
“ท่านหมายความว่ายังไง เดี๋ยวซูสก็โมโหหรอก”อนาตาเซียค้านอย่างรวดเร็ว
“โหย ถ้าอาธีน่าจะอยู่ซะอย่าง ซูสมันห้ามไม่ได้หรอก แต่ที่นางไม่กล้าอยู่กับผู้ชายเป็นเพราะนางกลัวว่าจะเหมือนกับค่ำคืนที่เจ้า ฮีเฟสตัส เข้าลวนลามหวังปล้ำทำเมียต่างหาก”ซาตานค้านกลับ โดยไม่สนสายตาของอาธีน่าที่จ้องเขม่ง
“ฮีเฟสตัสเหรอ ชื่อแปลกชะมัด”เฟตพึมพำชื่อนี้เบาๆ
“เป็นเทพ 1 ใน 12 ของคณะเทพโอลิมปัสค่ะ”จาเนียบอกเฟตเบาๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มสงสัยว่าเป็นใคร ส่วนอาธีน่าก็ไม่สนใจฟังแล้ว เธอเดินออกไปจากบริเวณโดยไม่รอใครทั้งสิ้น ส่วนผู้เล่นที่มาดูของแปลกก็ต่างพากันเปิดทางให้อย่างรวดเร็ว
“การรื้อฟื้นความหลังของผู้หญิง เป็นการกระทำที่แย่มากค่ะ”ไรน่าตัดพ้อซาตานทันที ซึ่งจ้าวแห่งโทสะก็ยักไหล่ไม่สนใจ ทำให้เฟตที่ยืนงงอยู่นั้นมองซ้ายทีขวาที เมื่อตกลงใจได้ก็เลยเดินตามอาธีน่าไป
ซาตานหัวเราะร่วนอยู่คนเดียวด้วยความชอบใจที่ขัดขวางไม่ให้อาธีน่าเข้ามาอยู่กับเฟตได้อย่างถาวร แม้คำถามจะดูเหมือนเป็นห่วงแต่ความหมายแอบแฝงดันน่ากลัว
เฟตเดินตามอาธีน่ามาด้วยความแปลกใจปนสงสัย ที่เห็นเธอเดินหนีเขาไปซะดื้อๆ แบบนี้ ปกติอาธีน่าเหมือนคนใจเย็นอ่านคิด และวิเคราะห์ได้ดีเยี่ยมจนเขาต้องกลัวใจตัวเอง แต่พอมาเห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว กลับสงสัยจนต้องตามดู
“เรายินดีมากที่ได้รู้จักกับท่านและได้ร่วมเดินทางกับท่าน แต่ถึงเวลาแล้วที่เราต้องกลับไปแล้ว ภารกิจของเราเสร็จแล้ว”อาธีน่าพูดออกมาเหมือนบอกกับอากาศ แต่เฟตนั้นกลับได้ยินเต็มสองรูหู ทว่า ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะฟังดูเหมือนเป็นการบอกเล่ามากกว่าประโยคโต้ตอบ ชายหนุ่มเดินตามเทพสาวเรื่อยๆ จนมาถึงที่ทิศตะวันตกซึ่งเป็นบริเวณชายหาด ปัจจุบันยังอยู่ในสภาพซ่อมแซม
“ผมเองก็รู้สึกขอบคุณที่ได้รู้จักกับคุณเหมือนกัน การเจอกับคุณทำให้ผมรู้ว่าผู้หญิงน่ากลัวกว่าหน้าตาเสียอีก”เฟตเอ่ยปากอีกครั้งหลังจากเทพสาวเดินมาหยุดที่ริมทะเล บรรยากาศตอนนี้โรแมนติกมาก นี่ถ้ามีเพลงรักขึ้น เฟตคงจะจูงมืออาธีน่าเดินเล่นริมทะเลไปแล้ว อืม .....หรือจะพาวิ่งรอบเขาดี
ดวงตะวันที่จะลับขอบฟ้าไปส่งผลให้บรรยากาศตอนนี้ดีขึ้นมาก จนหนุ่มสาว (?) คู่นี้หันมาสบตากันอย่างยาวนาน จนกระทั่งอาธีน่าถอนหายใจออกมา พร้อมกับหันไปมองยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่
“สักวัน ข้าคงได้ร่วมเดินทางกับท่านอีกครั้ง”อาธีน่ากล่าวเบามากจนเฟตได้ยินเป็นเสียงพึมพำที่จับใจความไม่ได้ ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ถาม เทพสาวก็ปล่อยพลังที่แท้จริงของตัวเองออกมาจนร่างกายของเธอเรืองรองออร่าสีทองที่บ่งบอกว่าเป็นของเทพ
“ในนามแห่งเทพีอาธีน่า ข้าขอเรียกใช้เจ้า จงมารับข้าเถิด เทพีอาร์เทมีส”อาธีน่ากล่าวจบแสงจากดวงจันทร์ที่โผล่มากลางหัวตอนไหนไม่รู้สาดแสงตรงลงมาที่ร่างอาธีน่าจนเห็นเป็นเส้นแสงแบบชัดเต็มตาของชายหนุ่ม พลังสีทองที่ล้อมรอบอาธีน่าอยู่ค่อยๆถูกแสงนั้นดูดกลืนเข้าไป หลังจากปรากฏการประหลาดสำหรับเฟตลดแสงหายไป เทพสาวอาธีน่าก็หายไปจากสายตาของเฟตเสียแล้ว
“เอ๊ฟเฟ๊คสุดยอด”ชายหนุ่มพึมพำในสิ่งที่ไร้สาระสุดๆ
“แน่ใจเหรอ ในสิ่งที่พูดน่ะ”พวกไรน่าที่ตามมาตลอดถามออกมา พวกเธอพอจะเข้าใจอารมณ์ของเฟตได้
“ท่านอาธีน่าคงอายค่ะ เธออายที่เจ้านายต้องมารู้ความหลังอันน่าขมขื่นของนาง”จาเนียกล่าวออกมาตามความรู้สึกของผู้หญิง เธอเองก็รู้ว่าเฟตเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวมาก บางทีก็มากจนเวอร์ไปก็มี แต่นั่นก็คือข้อที่แปลกสำหรับชายหนุ่มผู้ทำตัวเย็นชาล่ะนะ
“ครับ”เฟตหันมาตอบรับคำบอกกล่าวนั้น เพราะจริงดั่งว่า ในใจลึกๆ ของเขารู้สึกสงสารและโกรธด้วย สงสารที่ผู้หญิงตัวเล็กๆของมาถูกใครข่มเหง และโกรธฮีเฟสตัสที่เป็นผู้ชาย แต่ไปข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่า ลูกผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิง ไม่ใช่มาทำร้ายผู้หญิงแบบนี้
“งั้นเอาไง จะออฟไลน์ยัง”อนาตาเซียถามแย้งออกมา เธอรู้สึกไม่พอใจที่เฟตมาส่งอาธีน่าแหะ
“คงได้เวลาแล้วมั้งครับ ว่าแต่ทำไมมันถึงไม่ตัดออฟไลน์หว่า”ชายหนุ่มพึมพำขณะมองดูตัวเอง ทั้งๆที่ออนไลน์มานานมากแล้ว แต่ไม่เห็นระบบจะตัดออกไปอย่างที่บอกกล่าวไว้
“จะออฟไลน์แล้วเหรอ”ริเรียน่าที่ยืนอยู่หน้าตึกอาคารออฟไลน์ร้องถาม ส่วนเฟตที่พึ่งเดินมาถึงก็พยักหน้าตอบ พร้อมกับมองกลุ่มคนของริเรียน่ากลับ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มสนิทกับพวกเทียร่าแล้ว
“ถ้าผมไม่ออฟไลน์ตอนนี้ หกโมงเย็นผมก็จะถูกตัดออฟอัตโนมัติไปเองอยู่แล้วนี่นา สู้เข้าตามตรอกออกตามประตูดีกว่า”
“นายออนไลน์ตอนไหน”เทียร่าถามเสียงห้วน แต่เฟตกลับจับได้ว่าเธอสงสัยจริงๆ
“เที่ยงคืน ประมาณนั้นครับ”เฟตพยักหน้ากล่าวหลังจากกะเวลาตอนที่ทำภารกิจอะไรต่างๆ แล้ว
ริเรียน่ากับเทียร่าหันไปมองหน้ากันเล็กน้อย จากนั้นก็หันมาจ้องหน้าเฟต
“ถ้าออนไลน์เที่ยงคืน จะถูกตัดออฟตอนเที่ยงวันของวันนี้หรือตอนเช้าของวันมะรืน”เทียร่าบอก แต่ยังไม่ทันที่เฟตจะได้ตอบ ชิออนที่เดินมาตอนไหนไม่รู้รีบเนียนมายืนข้างเฟตทันที
“ใช่ นั่นคือกรณีที่ลงทะเบียนเพิ่ม”ริเรียน่าพยักหน้าให้ ทำให้คนไม่รู้เรื่องอย่างเฟตกับเทียร่าหันขวับมามอง
“พวกคุณคงซื้อเครื่องเกมในรุ่น Limited Edition (เครื่องรุ่นพิเศษ) สินะ”ริเรียน่าถามเทียร่ากับชิออน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ
“เครื่องรุ่นนั้นจะถูกเพิ่มเวลาให้โดยไม่มีการต่ออายุน่ะ ต่างกับรุ่นธรรมดา ที่ต้องจ่ายรายเดือนเพื่อลงเวลาเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว”ริเรียน่าอธิบายได้สมกับเป็นผู้จัดการบริษัท ทำให้เฟตพยักหน้าให้ด้วยความเข้าใจ
“พอดีผมไม่ได้ซื้อเองครับ เลยไม่รู้ว่ามันมีอะไรแบบนี้ด้วยน่ะ”เฟตบอกออกมาเมื่อเห็นริเรียน่ากับเทียร่าจ้องมาเป็นเชิงถาม
“ให้ลงทะเบียนให้ไหมล่ะ”ริเรียน่าเสนอตัวเรียบๆ จนชิออนกับเทียร่าหันไปมอง
“ขอบคุณครับ เป็นเกียรติจริงๆที่ประธานบริษัทอย่างคุณจะทำให้ แต่ไม่ต้องหรอกครับ ไหนๆก็อยู่ที่บริษัทคุณอยู่แล้ว ผมทำเองจะง่ายและสะดวกกว่า อีกอย่าง จะได้หาข้อมูลเพิ่มด้วยไง”เฟตตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ริเรียน่า หญิงสาวถึงกับหันไปมองทางอื่นด้วยความเขิน เขินทั้งสายตาที่ถูกมองมา และเขินกับรอยยิ้มอันอ่อนโยนของชายหนุ่มตรงหน้า
“ไหนๆก็ไหนๆ ไม่ให้เบอร์โทรของพี่ให้พวกเธอไปเลยล่ะพี่ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษากัน”ชิออนรีบเสริมเมื่อเห็นช่องทางจากริเรียน่า
พอถูกว่าอย่างงี้เฟตก็ชั่งใจเล็กน้อย เมื่อคิดว่าสมเหตุผลดีจริงก็หันมาขอเบอร์ 2 สาว
ทีแรก 2 สาวทำเนียนไม่รู้เรื่อง แต่พอชิออนอ้างเหตุผลแบบที่อ้างกับเฟตก็เลยให้เบอร์ไป โดยทำซึนไม่อยากให้เล็กน้อย พอเป็นพิธี
“โทรศัพท์เหรอค่ะ”จาเนียที่ฟังมานานพึมพำบ้าง พวกไรน่ากับอนาตาเซียจึงพยักหน้าเสริม เหมือนรู้ข้อดีของโทรศัพท์แล้ว
ฟ้าใสเหมือนจะเข้าใจความคิดของ 3 อสูรจึงเสริมออกมายิ้มๆ “ในเกมนี้ก็มีโทรศัพท์นะค่ะ ถ้าอยากได้ลองให้คุณเฟตไปที่เมืองหลักดู”
“มีด้วยเรอะ”เฟตอุทาน
“มีสิคะ นโยบายของเกมนี้คือไม่มีความจำเจ พวกบริษัทในโลกภายนอกต่างเข้ามาในเกมนี้เพื่อหารายได้กันทั้งนั่น นับประสาอะไรกับโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมจากโลกภายนอก”ฟ้าใสอธิบาย ทำให้เฟตถึงกับเกาหัวแก้เขิน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอิสเคยบอกไว้แล้วครั้งหนึ่ง ว่านโยบายของบริษัทก็คือการไม่จำเจ ใครจะทำอะไรขึ้นมาก็ได้ แม้แต่เขายังหาปืนมาใช้ได้เลย
“แต่ระบบของพวกเราก็มีติดต่อกันได้แล้วนี่ครับ จะเอาโทรศัพท์ไปทำไม จะเล่น BB ทั้งๆที่ติดต่อกันได้น่ะเหรอ”เฟตถาม โทรศัพท์ฟังดูมีประโยชน์จริงๆ แต่สำหรับผู้เล่นที่มีระบบแล้ว มันฟังดูไร้ค่าขึ้นมาทันที
“พวกเราน่ะมี แต่พวกเอไอที่มีความคิดแบบมนุษย์ไม่มี ที่บริษัทชั้นนำด้านโทรศัพท์เข้ามาเปิดก็เป็นเพราะพวกอสูรที่มีความคิดสติปัญญาระดับมนุษย์ พวกเขาเหล่านี้มีเงินเป็นของตัวเองจึงไม่ต้องแปลกใจที่บริษัทพวกนี้จะเน้นขายให้อสูรในเกมมากกว่าพวกเล่นเกม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้เล่นจำนวนมากซื้อหามาใช้อยู่ดี”ริเรียน่าบอก เมื่อเห็นเฟตสงสัยอีกก็อธิบายเพิ่ม
“ในชีวิตจริงคนเราหลายๆคนอาจยากจนก็ได้ เมื่อชีวิตจริงมีโทรศัพท์ที่หรูหราไม่ได้ ในโลกที่เราสมมติขึ้นมา ได้มีแทนความจริงพวกเขาก็จะสุขใจแทนแล้ว”เมื่อได้ยินแบบนี้เฟตก็เกาหัว ถ้ามันจนแล้วมันซื้อเกมแบบนี้มาเล่นได้ยังไงฟะ สู้เอาเงินไปซื้อ PC ตั้งโต๊ะลงเกมออนไลน์ 3 มิติเล่นไม่ดีกว่าเหรอ มาเล่นอะไรกับโลกเสมือนจริง 4 มิติแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะ คนเราชอบไม่เหมือนกัน เกมนี้อาจจะน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆก็ได้ ขนาดเขาเองยังเริ่มติดแล้วเลย
“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ”เฟตกล่าวขอบคุณแล้วเตรียมจะเข้าอาคารออฟไลน์ไปเสียที แม้ระบบจะยังไม่ตัด แต่ก็น่าจะใกล้ๆนี้นี่แหละ
“อืม”2 สาวพยักหน้าแล้วเปิดทาง จริงๆพวกเธอมีเรื่องจะพูดมากกว่านี้อีก แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนหน้าก็ได้
ยมโลก
“หึหึ เสี้ยมสอนให้เฟตเกลียดเทพหรือไงซาตาน เพอร์เฟ๊กมาก”ฮาเดสที่นั่งอยู่บนบัลลังก์กล่าวด้วยอารมณ์ดี หลังจากเห็นสถานการณ์ที่โลกมนุษย์ผ่านทางหน้าจอ LCD 49 นิ้วที่สั่งซื้อมาแบบพิเศษสุดๆ
“เกลียดเทพเหรอครับ แต่เจ้าหนุ่มนี่ก็สังหารฝ่ายมารอย่างเฟนรินไปแล้วนะครับ”ทานาทอสที่นั่งเก้าอี้ระดับผู้บริหารอยู่ข้างๆ กล่าวถามถึงเหตุการณ์นั้น ฮาเดสพูดผิดเสียแล้ว
“ไม่หรอก เฟนรินกับไอ้มนุษย์ประหลาดคนนี้ไม่ได้โกรธเกลียดกันเลย กลับกัน เฟนรินมันกลับชอบใจซะด้วยซ้ำที่มีคนเอาชนะมันได้ โดยใช้อาวุธที่โคตรจะธรรมดา แต่พลิกแผลงได้ทุกสถานการณ์”ฮาเดสค้านเสียงแข็ง ในขณะที่สมาชิกในห้องโถงซึ่งส่วนใหญ่ยังคงใส่ชุดว่ายน้ำกันอยู่หันมามองภาพรีเพลตาเป็นมันส์
“แล้วท่านทราบได้เช่นไร”ทานาทอสถามอีกครั้ง เขาเองก็อยู่กับฮาเดสจึงพอรู้เห็นเรื่องทุกอย่าง แต่เรื่องในใจเฟนรินเขาไม่เห็นรับรู้เช่นฮาเดส
“เฮลบอกข้ามา ว่าพี่ชายนางอยากสู้กับเฟตสักครั้ง แต่เป็นแบบพร้อมกันทั้งสองฝ่ายนะ”ฮาเดสกล่าวขณะมองภาพที่เฟตสู้กับเฟนริน ที่ดูคล้ายกับเกมยิงผีที่เขาพึ่งเล่นจบ นี่ถ้าเล่นไม่จบมีหวังไม่ได้มาดูฉากเด็ดแน่
“เทพธิดาแห่งความตาย เฮลน่ะเหรอครับ นางส่งข่าวให้ท่านได้ยังไง ในเมื่อเขตปกครองห่างกันเป็นคนละทวีปแบบนี้”
“เจ้านี่ หลังเขาจริงๆ เดี๋ยวนี้เขามีระบบเทเลโฟรน์เห็นหน้ากันแล้วโว้ย แถมเจ้าก็รู้ว่าเทพของทวีปเหนือต่างไม่มีพลังอำนาจขนาดมองเห็นได้ทั่วถึงแบบโอดินและเฮมดัล แค่เทพตนสองตนจะไปดูจอมมารตนอื่นๆได้ทั่วถึงได้เช่นไร หากไม่ติดกล้องวงจรปิดในนรก”ฮาเดสกล่าวถึงความไฮเทคของเทคโนโลยี ทำให้ทานาทอสเกาหัวด้วยความมึนงง สงสัยเขาจะต้องหาซื้อหนังสือคู่มือเทคโนโลยีรวมนรกกับสวรรค์มาอ่านบ้างแล้ว
“ถ้าเกิดสงครามจริงๆ ข้าอยากจะรู้จักเลยว่า เจ้าหนุ่มคนนี้จะช่วยใคร”ทานาทอสตัดเรื่องบั่นทอนปัญญาออกไป นำเรื่องซีเรียสเข้ามาแทน
“คงจะฆ่าทั้งฝ่ายมารและเทพ แต่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพรรคพวก”เสียงของบุรุษที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามดังขึ้น ทำให้ทานาทอสต้องชะโงกกลับมามองที่เก้าอี้ตรงข้าม
“ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะตื่นไวขนาดนี้นะ ฮิปนอส”ฮาเดสกล่าวทักทายชายที่พึ่งแทรกขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้หันมาสนใจบุรุษที่พูดทักเลย เพราะไอ้หมอนี่เอาแต่นอนจนไม่รู้ว่าตอนไหนคือเวลาตื่นหรือเวลาหลับ
“เสียงวุ่นวายขนาดนี้ ข้าก็ควรตื่นขึ้นมาดูบ้างสิ”ฮิปนอสกล่าวจบก็มองดูจอทีวีซึ่งถูกเชื่อมต่อไว้กับระบบบ่อน้ำแห่งความตาย
“ช่วงนี้เฮอร์เมสมาบ้างมั้ย”ฮิปนอสกล่าวถามทานาทอสเมื่อภาพที่ดูรู้สึกจะเป็นภาพซ้ำๆ เดิมๆ
“ช่วงนี้ เพอร์เซโฟนี่ ไม่อยู่ มันจะมาทำไม”ฮาเดสกล่าวออกมาอย่างฉุนเฉียว “ขนาดหาตัวแทนให้อย่างกริมริปเปอร์แล้ว มันดันมีข้ออ้างจะลงมาเที่ยวบ่อน้ำกระทะร้อนอีก ตูละเชื่อมันจริงๆ”ฮาเดสพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ ซึ่งทานาทอสก็หันไปมองหน้าพี่ชายว่าเป็นไงล่ะ ดันไปจุดไฟซะแล้ว
“ข้าหมายถึงมันมาดูงานบ้างหรือไม่น่ะ”ฮิปนอสกล่าวแก้ตัว ซึ่งมันไม่ขึ้นเลย เพราะตอนนี้พวกเทพหรือจอมมารล้วนแล้วแต่ไม่ต้องทำงานแล้วทั้งสิ้น ตอนนี้มันเปลี่ยนระบบนรกกับสวรรค์ไปกันหมด โดยให้พวกผู้เล่นเดินงานกันเอง เพื่อความสมจริงของเกม แต่พวกเขาก็ต้องคอยคลอนโทรนอีกที ป้องกันเหตุผิดพลาด
“มันจะลงมาทำไม ในเมื่อมันอ้างว่ามีกริมริปเปอร์ผู้เล่นกับทูตสวรรค์ช่วยมันทำงานแล้ว วันๆเอาแต่มาแรดเล่นอยู่แถวปราสาทข้า หน็อย คิดว่าตรูไม่รู้ว่าจะตีท้ายครัวตรูเรอะ ฝันไปเถอะไอ้เทพขี้หลี คิดว่าหล่อหน่อยแล้วจะมาอ่อยเหยื่อเด็กข้าได้เรอะ”ฮาเดสยังกล่าวแบบไม่สบอารมณ์เช่นเดิม
ในช่วงแรกๆ ที่เฮอร์เมสมาเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าดีซะอีกงานของชาร์รอนจะได้ไม่หนักมาก แต่ที่ไหนได้มันดันมาหลีมเหสีของเขาซะนี่ เขาเลยหาข้อตกลงเพื่อลดไม่ให้มันลงมา ซึ่งมันก็ตกลง แล้วก็ลงมาในอีกจนได้ เทพมันมักจะหน้ามึนแบบนี้เสมอซินะ
ทานาทอสและฮิปนอสต่างนั่งเงียบๆ ปล่อยให้ฮาเดสบ่นเป็นหมีกินผึ้งต่อไป ถ้าเกิดพวกเขาไปขัดหรือเสริมก็ไม่แคล้วต้องเสียเวลาฟังเพิ่มแหงๆ แถมเท่าที่ฟังมารู้สึกจะเริ่มออกนอกประเด็นไปจนถึงเกมที่เล่นน็อคเมื่อคืน ซึ่งพอมีเจ้าหน้าที่ของสวรรค์มาส่งเกมด้วยแล้ว ฮาเดสก็ยิ่งพูดขึ้นมากกว่าเดิม แถมยังเล่นเกมไปด้วยได้อีก นั่นแหละ ที่ทำให้ฮิปนอสต้องนอนหลับไปเหมือนเดิม
ความคิดเห็น