ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Proxy War Online (สงครามแห่งอำนาจ)

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22 ราชาสไสลม์ ความแตกต่างของคนเก่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.75K
      43
      14 ก.ย. 56

    ตกลงว่า.... สร้างได้แล้วเหรอครับเฟตกล่าวถามเถ้าแก่ร้านทันทีเมื่อมาถึงเต๊นของชายผู้นี้

    อืม สร้างได้นะ แต่ดันไม่ผ่านซะได้เถ้าแก่หนุ่มตอบแบบเซ็งๆ แม้จะว่าแผนไร้ที่ติ แต่ทันทีที่คิดถึงความเป็นจริง เรื่องให้ติดันมารอเพียบเลย

    ว่าแต่ หายไป 3-4 วัน พาเอลฟ์กลับมาเพียบเลยนะ รู้มั้ย.. ว่าแค่เอลฟ์เพียงคนเดียวที่นายมี ก็ถูกพูดถึงไปทั้งเมืองแล้วเถ้าแก่หนุ่มกล่าวขณะหยิบอะไรออกมาจากลังใหญ่ ถ้านี่เป็นของที่ขนออกมาจากในเมืองจริง ชายคนนี้ก็แข็งแกร่งไปแล้ว

    ก็นะเฟตหันไปมองอสูรของตัวเองจากนั้นก็ละความสนใจหันมามองสิ่งที่อยู่ในลังต่อ เมื่อเถ้าแก่ร้านเปิดลังปุ๊ป ตาเฟตก็แทบจะกลายเป็นรูปหัวใจ

    ว้าวววเฟตอุทาน แค่นั้นก็ทำให้ 6 อสูรหันมามองได้แล้ว เพราะปกติเฟตเป็นคนประเภทไม่ตื่นเต้นไปกับอะไรเลย ขนาดโดนรุมด้วยคนหลายร้อยคนยังจะผิวปากเดินเล่นด้วยซ้ำ

    รู้มั้ย ผมสร้างของพวกนี้มาจากวัตถุดิบที่คิดว่าดีที่สุด แต่ว่า..... มันดันไม่ผ่านซะได้เถ้าแก่ร้านว่าจบก็วางของพวกนี้ลงบนโต๊ะกลางเต๊นของเขา จากนั้นก็อัดพลังเข้าไปจนตัวปืนสั่น แต่เพียงแป๊ปเดียวมันก็สลายหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ผ่านอะไรเหรอครับเฟตย้อนถามขณะลูบไล้ที่ปืนพวกนี้อย่างหลงใหล ถ้าผู้ชายหื่นกามชอบหญิงสาวสวยเซ็กซี่ งั้นเขาก็เป็นคนหื่นกามสงคราม (มันเป็นยังไงฟะที่ชอบอาวุธประเภทปืนล่ะนะ

    เอาปืนพวกนี้ไปตรวจสอบกับจีเอ็มเพื่อขอขึ้นทะเบียนอาวุธแล้ว แต่มันยังใส่พลังไม่ได้ เขาจึงไม่ให้ผ่าน แม้ผมจะเอาเทปที่คุณใช้ลูกโม่ไปสู้ในสนามประลองให้เขาดูแล้ว เขาก็บอกไม่ให้ผ่านอยู่ดี ......เพราะใช้น่ะมันใช้ได้ แต่ถ้าเอาไปสู้กับอาวุธด้วยกันไม่ผ่านก็ไร้ค่าอยู่ดี ผมถึงบอกว่ามันไม่ผ่านยังไงล่ะเถ้าแก่ร้านถอนหายใจบอก จากนั้นก็ยื่นอะไรบางอย่างให้เฟตดู

    คำสั่งเตือนเหรอครับเถ้าแก่ร้านพยักหน้าแล้วอธิบายต่อ

    ผมนำวัตถุดิบของกิลด์ไปใช้สร้างสิ่งของพวกนี้จนหมดไปหลายร้อยเหรียญทองแล้ว พวกเขาเลยสั่งให้ผมเลิกซะ มิเช่นนั้นผมจะถูกไล่ออกน่ะ

    ....เฟตรับฟังเงียบๆ เพราะเขาก็พอจะเข้าใจหัวอกทั้ง 2 ฝ่ายอยู่บ้าง เพราะฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายที่ออกทุน อีกฝ่ายเป็นผู้ที่ผลิต แต่เมื่อผลิตออกมาแล้วใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็จำเป็นต้องตักเตือนหรือไม่ก็ตัดทิ้งออกไป ก่อนที่ผลเสียจะมีไปมากกว่านี้

    หรือก็คือ ผมว่าจะยกของทั้งหมดนี้ให้คุณน่ะ แล้วผมก็จะเลิกแล้วการผลิตอาวุธปืนเถ้าแก่หนุ่มกล่าวกับเฟตเสียงเศร้า การต้องทิ้งสิ่งที่ชอบไปก็เหมือนกับการตัดใจในสิ่งที่ตนรักไปนั่นแหละ

    ครับ แล้วทำไมถึงยังยิ้มอยู่ได้ล่ะเฟตรับคำแล้วถามกลับสั้นๆ เขาตอบรับคำตัดสินใจของคนอื่นอยู่แล้ว ถ้าไม่ขัดกับหลักการของเขาล่ะก็

    แล้วทำไมคุณถึงยังยิ้มได้ล่ะ เมื่อเห็นอาวุธพวกนี้ ผมก็เหมือนกับคุณนั่นล่ะ ของอะไรที่คนอื่นเห็นว่าไร้ค่าแต่เมื่อมีคนมาเห็นคุณค่าของมัน ก็เป็นปกติที่ผมจะดีใจ อย่างน้อยๆมันก็ไม่ไร้ค่าไปโดยสิ้นเชิงแบบนั้นเถ้าแก่หนุ่มตอบแบบมีปรัชญา ในตอนแรกเฟตก็ยังงงๆ แต่สักพักก็พอเข้าใจบ้าง

    อ้อ ผมมีเรื่องจะปรึกษา เกี่ยวกับของพวกนี้น่ะครับเฟตเริ่มวกเข้าเรื่องสิ่งที่สงสัย ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เฟตถามเถ้าแก่หนุ่มก็ยิ้มแล้วสนทนาอย่างสนุกสนาน

    อืม โลกของผู้ชายก็แบบนี้ล่ะอนาตาเซียบอกพวกเอลฟ์เหมือนกับรู้ดี แม้ขณะที่ฟังสิ่งที่เฟตพูดกับเถ้าแก่ร้านจะยังงงว่าคุยอะไรกันก็ตาม

     

    หลังจากคุยปัญหาชีวิตกันเสร็จ เถ้าแก่ร้านก็รับปากว่าจะผลิตของให้ จากนั้นก็ให้ลูกน้องของตนพาเฟตไปยังเต๊นอาชีพต่างๆ ซึ่งพวกเขาพากันหนีจากในเมืองมายังข้างนอก เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนลูกหลงตายไปด้วย

    แถวๆนี้ก็คล้ายๆกับในเมืองนั่นแหละครับ แค่เปลี่ยนจากตึกเป็นเต๊นเฉยๆหลังพาเดินลัดเลาะเต๊นของเถ้าแก่ตัวเองมาไม่ไกล ชายที่นำทางก็พาเฟตมาทิ้งไว้ใจกลางวงเวียนอาชีพสำรองอีกครั้ง

    เมื่อเฟตมาถึงก็นำแผนที่มาเปรียบเทียบแล้วเดินหาเต๊นที่ตนมั่นใจว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด แต่เมื่อผ่านไปเต๊นแล้วเต๊นเล่าก็ยังไม่พบแบบที่เข้าท่าเข้าทาง เฟตก็เลยตัดสินใจปล่อยเอาไว้ก่อน จากนั้นก็พาอสูรตัวเองไปหาที่นั่งพัก

    จะตกปลาเหรออนาตาเซียถามเมื่อเห็นเฟตหยิบกิ่งไม้แถวนั้นมาปักที่ข้างตัวแล้วล้มตัวลงนอนข้างท่าน้ำ

    อืมเฟตตอบสั้นๆแล้วนอนต่อ บรรยากาศรอบๆชวนนอนจริงๆ

    เจ้านายไม่ลองเปลี่ยนมาอยู่เผ่าเอลฟ์ดูมั่งเหรอคะหลังจากจ้องมองเฟตอยู่นาน 4 เอลฟ์ก็กล่าวถามอย่างสนใจ

    หะอนาตาเซียอุทานออกมาแทน เป็นเรื่องที่แปลกมากที่มาเห็นเผ่าเอลฟ์ชวนมนุษย์เข้าเผ่า ปกติแล้วกว่าจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นเผ่าเอลฟ์ได้ต้องผ่านอะไรตั้งมากมายนี่นา

    แต่เมื่ออนาตาเซียคิดดูดีๆก็พอที่จะเข้าใจอยู่บ้าง เพราะอย่างแรกเฟตช่วยพวกเอลฟ์เอาไว้ อย่างที่สอง เฟตไม่ได้เอาพวกเอลฟ์ไปใช้แรงงานเช่นมนุษย์คนอื่นๆชอบใช้กัน อย่างที่สาม เฟตชอบธรรมชาติเหมือนกับพวกเอลฟ์นั่นเอง

    ม่ายอาวหรอก วุ่นวายจะตาย อยู่แบบนี้ล่ะดีแล้วเฟตตอบเสียงยานคราง จากนั้นก็ดิ้นซ้ายขวาไปซบตักจาเนียกับกอดเอวอนาตาเซียไว้ด้วยความเคยชิน

    อ่ะเฟตอุทานกับตัวเอง เมื่อรู้ตัวว่าตนเองเผลอทำอะไรลงไป ชายหนุ่มขยับจะลุกขึ้น แต่จาเนียกดเอาไว้ก่อนส่วนอนาตาเซียก็ใช้หางรัดเอาไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน

    แปลกนะเนี่ย ที่แกเข้ามาหาพวกข้าก่อนอนาตาเซียแค่นเสียงกล่าวเหมือนกับโกรธที่ถูกกอด แต่เท่าที่ดูจากท่าทางแล้วเธอไม่ได้โกรธเหมือนที่พูดเป็นแน่

    นั่นซิคะ เจ้านายเป็นอะไรหรือเปล่าคะจาเนียใช้มืออังหน้าผากเฟตดู ปกติถ้าเธอไม่บอกก่อนเฟตไม่มีทางเข้ามาหาแน่ สมองต้องถูกกระทบกระเทือนชัวร์

    ติดนิสัยน่ะเฟตตอบตรงๆ ตามปกติเขาก็ไม่เป็นหรอก แต่เมื่อผ่านอะไรมาด้วยกันกับ 2 สาวนี้เยอะๆแล้ว เขาก็ติดมันไปโดยไม่รู้ตัว ก็เหมือนกับคนที่ถูกบังคับให้อยู่กับความตายนานๆนั่นหล่ะ พอเวลาผ่านไปก็เห็นจนเคยชินและชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

    สองอสูรได้ฟังก็นิ่งเงียบไป จากนั้นก็ปล่อยให้เฟตได้นอนอยู่กับพวกเธอโดยไม่สนใจสายตาผู้เล่นหน้าไหนที่มองมา

    หลังจากนอนหลับไปกับตักอันอบอุ่นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เฟตก็รู้สึกถึงการกลับมาของใครบางคน ที่แค่เดินมาเขาก็รู้สึกได้แล้ว

    นอนอีกแล้วเหรอเนี่ยซาตานเอ่ยมาแต่ไกล ต่างกับหญิงสาวข้างตัวที่ยิ้มแย้มเหมือนพบเจออะไรดีๆมา

    ตกปลาครับเฟตอ้างแล้วลุกขึ้นนั่ง เมื่อหันไปมองด้านหลังก็เห็นอสูรของตัวเองมีท่าทีแปลกๆไป

    ตกปลาบ้านไหน ทำไมไม่เห็นมีเอ็นซาตานถามเมื่อมองไปแล้วเห็นแต่ไม้เปล่าๆเสียบอยู่กับโขดหิน

    ตกปลาด้วยเบ็ดบลูทูธไงครับ เบ็ดไร้สายเฟตอ้างจนเอาตัวรอดได้

    .....ทั้งกลุ่มหันมามองเฟตเป็นตาเดียว ไม่นึกไม่ฝันว่าคนอย่างนี้จะยิงมุกเป็นด้วย

    ว่าแต่พวกคุณเถอะ ไปขู่ถอดชุดพี่เขามาเหรอเฟตถามกลับเมื่อเห็นว่าซาตานกับอาธีน่ากลับมาพร้อมกับชุดสูทแบบที่อิสใส่ แต่ของอาธีน่าต่างออกไปจากกางเกงขายาวเปลี่ยนเป็นกระโปรงสั้นแบบพวกพนักงานออฟฟิศใส่กัน

    เปล่าหรอก ของนี่เป็นแค่ข้ออ้างในการกลับมาน่ะซาตานเอ่ยจบก็บุ้ยปากไปทางอาธีน่า ประมาณว่าถามเอาเถอะ

    เฟตจึงเลื่อนสายตามาจับจ้องเทพสาวที่ยิ้มแย้มอยู่เหมือนเดิม จนในที่สุดอาธีน่าก็ตัดสินใจอธิบายความคิดให้ฟังเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มสนใจจริง

    เรื่องที่พวกเราพูดกันมันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของพวกเจ้ากับเจ้าหน้าที่ของสวรรค์และนรกน่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้หรอก ส่วนที่เห็นชุดนี้ก็สืบเนื่องมาจากท่านซาตานชอบตอนที่เห็นเจ้าใส่ ส่วนตัวเรานั้นก็เห็นว่าถ้าใส่ชุดนี้แล้ว มนุษย์ก็คงสำคัญว่าเป็นเจ้าหน้าที่แบบคนในเต๊นนั้น ก็เลยยินดีที่จะรับมันมาน่ะซาตานพยักหน้าเห็นด้วยทันที แม้จริงๆแล้วเขาจะขู่เอาแบบที่เฟตคิดก็เถอะ แต่ข้อดีมันมีมากกว่าข้อเสียก็หยวนๆกันไปแล้วกัน

    อืมเฟตพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ธารน้ำ พอมองเลยไปก็พบเห็นผู้เล่นกำลังไล่ตีตัวน้ำอยู่ (สไลม์ถึงจะแปลกใจว่าทำไมน้ำถึงรวมตัวเป็นก้อนได้ก็เถอะ

    มีอะไรคิดไม่ออกงั้นเหรอซาตานเอ่ยขณะนั่งลงข้างๆแล้วตบไหล่เฟต แม้สายตาจะหันไปมอง 6 อสูรด้วยความสงสัยก็ตาม

    ก็นิดหน่อยครับชายหนุ่มตอบสั้นๆเขาไม่แปลกใจว่าทำไมซาตานถึงมองเขาออก ปกติผู้ชายกับผู้ชายมักมองกันออกอยู่แล้ว

    งั้นเหรอ ช่างเถอะ ว่าแต่ทำไมถึงมีวิญญาณมังกรกับเอลฟ์อยู่ด้วยล่ะเนี่ยซาตานละความสนใจกับสิ่งที่เฟตคิด ด้วยการหันมามองอสูรของเฟตที่นั่งอยู่แทน

    เรื่องมันยาวน่ะ ขี้เกียจเล่าเฟตตอบสั้นๆเหมือนเดิมแล้วถอนหายใจเล็กน้อยแบบคิดไม่ตก ทำไมในเกมถึงไม่มีอาชีพที่เขาต้องการนะ ถ้าไม่มีอาชีพปืนก็ขออาชีพวางระเบิดก็ได้ (จะเป็นโจรภาคใต้รึ)

    สนใจจะปรึกษาเรามั้ย ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องอาวุธเราสามารถให้คำตอบได้ไม่มากก็น้อยนะอาธีน่าถามเมื่อเดาอาการของเฟตออก อาการนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นในตอนที่พวกเธอแยกกัน แต่เมื่อกลับมารวมกันอีกครั้งหลังจากเฟตไปยังวงเวียนอาชีพสำรองมา ก็พอเดาได้ว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องของอาวุธ

    เฟตปรายตามามองหญิงสาวที่บอกจะให้คำปรึกษาเล็กน้อย

    ถ้าสงสัยอะไรก็ถามๆไปเถอะ ยัยเทพนี่สมองดีจะตาย ไหนจะยังการต่อสู้อีก เรียกได้ว่าตัวอันตรายเลยล่ะซาตานกล่าวไม่ทันจบก็ต้องเงียบเสียงโดยพลันเมื่อหันไปเห็นสายตาของอาธีน่า ต่อให้เธอยังยิ้มอยู่แต่ก็เป็นรอยยิ้มชวนสยองในสายตาเขา

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟตก็ตัดใจปรึกษาสิ่งที่ตัวเองกำลังหนักใจ หลังจากปรึกษาเสร็จเฟตก็พบว่าโล่งใจขึ้นไปเยอะ แม้จะไม่ได้คำตอบกลับมาก็ช่างมันเถอะทีนี้

    อะไรคือปืน2 เทพอสูรถามกลับทันทีหลังจากได้ยินว่าเฟตมีอาวุธแต่นำไปใช้จริงไม่ได้

    เมื่อถูกถาม เฟตก็จำต้องเอาปืนที่ตนพึ่งได้มาออกมาโชว์ จากนั้นก็เล็งข้ามฝั่งไปยังสไมส์ตัวหนึ่ง แล้วยิงโชว์ทันที

    เปรี้ยง!!! เสียงปืนของเฟตดังลั่นไปทั้งแถบ ทำให้ผู้เล่นทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว ส่วนอสูรสไลม์ที่ถูกยิงก็แตกไปด้วยเช่นกัน บ่งบอกว่าสิ่งที่ก่อตัวรวมกันไม่ใช่นามธรรมแต่เป็นรูปธรรมที่แตะต้องได้

    ว้าวซาตานอุทานอย่างชอบใจ อาธีน่าเองก็พยักหน้าด้วยเหมือนกับรู้สึกชอบไม่ต่างกัน

    ก็อย่างที่เห็น นี่คือปืน มันยิงได้ แต่ผนึกพลังไม่ได้ชายหนุ่มตอบเสร็จก็วางปืนไว้ข้างตัวทำให้ผู้เล่นที่จ้องมาต้องเลิกมองของแปลกเปลี่ยนมามองกลุ่มคณะคนแปลกแทน

    แล้วเป็นไงครับ ให้คำปรึกษาได้มั้ยเฟตย้อนถามไปยังหญิงสาวที่ยังคงจ้องมองอาวุธของเขาด้วยความสนอกสนใจ

    อืม แม้เราจะอยู่มานานหลายพันปีแล้ว พบเจอผู้เล่นแบบพวกเจ้าก็ตั้งหลายแสนคน ขอบอกตามตรงเลยนะ ไม่เคยรู้จักเลยกับไอ้ของสิ่งนี้อาธีน่าตอบตามตรง หลายปีที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยเจอจริงๆนั่นแหละ

    แปลกแหะ ที่เทพีแห่งปัญญาไม่รู้คำตอบ ฮ่าฮ่าฮ่าซาตานหัวเราะร่วน เพราะเป็นครั้งแรกที่อาธีน่ามีเรื่องที่ไม่รู้

    อย่าว่าแต่เราเลย ว่าแต่ท่านเถอะ พอรู้จักหรือเปล่าล่ะ สิ่งที่เรียกว่าปืนน่ะเมื่อโดนย้อนถามกลับซาตานก็หุบปากเงียบ กลัวว่าถ้าหัวเราะมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอาได้

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะรู้ก็เดี๋ยวนี้ล่ะซาตานบ่นแก้เขินจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน หลังจากลุกแล้วซาตานก็หลับตาลงแล้วปล่อยพลังออกมา พลังของซาตานไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าต้องใช้ดวงตาแบบพิเศษมอง แต่ถึงจะมองไม่เห็นแต่เฟตก็รู้สึกถึงพลังนี้ได้ เมื่อมองไปยังอสูรของตัวเองก็พบว่าพวกเธอลอบกัดฟันเหมือนหวาดกลัว

    เฟตเห็นเช่นนั้นก็กะจะร้องบอกว่าให้พอ แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก เขาก็ถูกซาตานจับแล้วโยนไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นถิ่นสไลม์ จากนั้นไม่ถึง 20 วินาที เสียงระบบก็รายงานดังลั่น

    พบราชาสไลม์สิ้นเสียงร้อง ที่ด้านหน้าของเฟตก็มีสายน้ำไหลวนมารวมตัวกันจนเป็นร่างมนุษย์ขนาดเท่าคนจริง

    โอ้ ยังใช้ได้แหะ ไม่นึกว่าพอลองปล่อยพลังออกมาเล่นๆแล้ว ราชาจะออกมาจริงๆด้วย ฮ่าฮ่าซาตานหัวเราะลั่นเหมือนเดิม ต่างกับกลุ่มของเฟตที่จ้องมองอสูรที่ปรากฏตัวด้วยความตื่นตะลึงในรูปร่างของฝ่ายตรงข้ามที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่มีร่างกายประกอบขึ้นมาจากน้ำ

    จอมมารซาตาน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ที่นี่ไม่ใช่เขตของท่านไม่ใช่รึราชาสไลม์เอ่ยถามซาตาน ทำให้ผู้เล่นที่อยู่โดยรอบตกตะลึงไปตามๆกัน

    ไหน ใคร ไหนซาตาน ไม่เห็นมีเลย อย่ามั่วเลยราชาสไลม์ อ้อๆ ข้าไม่ได้มาโชว์ตัวอะไร แค่ให้มนุษย์ได้ลองของก็เท่านั้นเองซาตานบ่ายตัวเองแล้วชี้นิ้วไปที่เฟต เป็นเชิงว่าจัดการไอ้หมอนั่นแหละ ส่วนอาธีน่าที่อยู่ข้างๆก็ลอบถอนหายใจกับนิสัยของซาตาน ที่เอะอะอะไรก็ต่อยตีวิวาท แถมยังโกหกได้ไม่เนียนอีกต่างหาก

    ราชาสไลม์มองตามมือของซาตานเมื่อหันมาเห็นเฟตก็กลับไปมองซาตานเป็นเชิงถามอีกครั้งว่าใช่เหรอ หลังจากซาตานพยักหน้าจนหัวแทบหลุดราชาสไลม์ก็หันมาหาเฟต

    ไม่นึกว่ามนุษย์จะออกตัวมาสู้แทนซาตานเลยนะ

    เฮ้ยๆ หยุดเลยหยุด ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย อะไรกันเนี่ยเฟตยกมือห้าม อยู่ๆก็ถูกโยนเข้าสังเวียนซะงั้น

    ก็ซาตานปล่อยพลังออกมาในเขตข้า เป็นการประกาศตัวได้เป็นอย่างดีว่าเทพอสูรมาเยือนถึงที่แล้ว ดังนั้น ข้าที่เป็นเจ้าถิ่นก็จำเป็นต้องออกมารับซิราชาสไลม์ไม่อธิบายเปล่า เขายังคงก้าวสามขุมเข้าหาเฟต พร้อมกับที่มือข้างซ้ายเปลี่ยนเป็นค้อนขนาดใหญ่

    แต่ผมไม่ได้เป็นพวกเดียวกับพวกเขานี่เฟตรีบบ่าย ก็จริงดั่งเฟตว่า ซาตานติดเขามาเอง

    แน่ใจรึราชาสไลม์หยุดแล้วถามอย่างสงสัย พอเฟตหันไปมองเห็นอสูรของเขานั่งอยู่กับซาตานแถมยังมองมาตาสลอนก็กลืนน้ำลายเอื้อก

    เอ่อ เป็นครึ่งหนึ่งครับเฟตกลับคำตอบใหม่ ถ้าบอกว่าไม่ใช่พวกทั้งหมดก็จะเป็นการโกหกกันเกินไป

    สิ้นคำกล่าวเท่านั้น ราชาสไลม์ก็ฟาดค้อนเข้าหาเฟตด้วยความเร็วสูงจนชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว

    เปรี้ยง!! เฟตที่โดนหวดเข้าเต็มๆกระเด็นไปอัดใส่ต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังจนต้นไม่ยุบไปเป็นรูปตัวของเขา

    สังหารราชาสไลม์ซะ ยิ่งเป็นราชาของดรอปยิ่งดีเสียงผู้เล่นตระโกนโหวกเหวกเข้ามา เฟตที่ตาพร่าเพราะถูกโจมตีด้วยกำลังของราชาเงยหน้ามองรอบตัวด้วยความมึนงง

    อะไรกัน ทำไมเร็วแบบนี้เฟตเริ่มตื่นตระหนกถึงความแตกต่าง ซาตานก็คนหนึ่งแล้วที่เขาแพ้ พอมาเจอราชาสไลม์เขาก็จะแพ้อีกแล้วงั้นเหรอ

    เจ้านายจาเนียอุทานแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับอนาตาเซีย แต่ทันทีที่พวกเธอลุกขึ้นยืน ร่างกายก็หนักอึ้งเพราะแรงกดดันของซาตาน

    อยู่เฉยๆ ข้าอยากดูความสามารถของเจ้านั้นพร้อมกับอาวุธของมันซาตานเอ่ยเสียงเย็นชาบ่งบอกว่าเอาจริงถ้าพวกเธอยังยืนกรานที่จะไปช่วยเฟต

    ไม่เป็นไร ผมยังไหวเฟตตระโกนข้ามฝั่งมาหลังจากบ้วนเลือดทิ้งออกไป การโจมตีเมื่อสักครู่ของราชาสไลม์รุนแรงจริงๆ พอโจมตีแล้วยังติดสถานะมึนงงอีกด้วย

    แต่ว่าจาเนียพึมพำเมื่อเห็นอาการของเฟต แค่การเคลื่อนไหวของราชาสไลม์เมื่อสักครู่ก็บ่งบอกแล้วว่าต่างชั้นกันมากเกินไปแล้ว

    แต่เมื่อเธอเห็นว่าพวกผู้เล่นเข้าไปรุมราชาสไลม์ก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาเยอะ เพราะเท่าที่ดูจากจำนวนคนถ้าราชาสไลม์ไม่แพ้เพราะถูกโจมตีก็ต้องแพ้เพราะถูกเหยียบแบนแน่

    ดูเหมือนจาเนียจะดูถูกราชาสไลม์เกินไป เมื่อเห็นว่ามีศัตรูเพิ่มมากขึ้นราชาสไลม์ก็ใช้อำนาจของตัวเองดึงน้ำจืดที่อยู่ในธารมาสร้างเป็นกำแพงกั้นที่มีความกว้างยาวหลายสิบเมตร ป้องกันเหล่าผู้เล่นที่กำลังจะข้ามธารน้ำมา แต่ถึงจะกั้นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามได้ แต่ผู้เล่นฝั่งเดียวกับราชาก็ยังมีมากอยู่ดี เพราะฝั่งนี้เป็นฝั่งที่พวกผู้เล่นมาเก็บเลเวลฆ่าเวลากัน

    ออกมาซะ อสูรแห่งข้าราชากล่าวเรียกลูกน้องออกมา สิ้นคำสั่งน้ำที่พึ่งไหลมาก็ไหลวนเปลี่ยนเป็นอสูรที่มีรูปร่างคล้ายกับราชาที่อยู่ในร่างมนุษย์แต่มีขนาดและความเข้มต่างกันมาก

    เฟตจ้องมองสิ่งที่ราชาสไลม์ทำด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่าตนยังติดสถานะสตันอยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกได้เลยว่าไม่มีทางเอาชนะได้เลย

    ไม่ๆ จะยอมอะไรง่ายๆแบบนั้นได้ไงเฟตพยายามปลุกใจเสือป่า จากนั้นก็หยิบอาวุธที่พึ่งได้มาออกมาถือ

    ทันทีที่มือแต่ปืนสั้น F92S มือที่สั่นของเฟตก็หยุดสั่น มันนิ่งสงบเหมือนกับใจของชายหนุ่ม

     

    โอ้ จิตใจสงบขึ้นเยอะเลยนะนั่นซาตานที่มองอยู่รู้ได้จากการมองท่าทางของเฟต ในทีแรกเฟตมีลักษณะเหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเองตอนที่อยู่หน้าราชาสไลม์แต่เมื่อเขาได้ถืออาวุธปืนปั๊บ กำลังใจก็พุ่งสูงมากจนเห็นได้ชัด

    เปรียบเหมือนกับอาวุธคู่ชีวิตล่ะมั้งนะอาธีน่าพยักหน้าตอบ เฟตเปลี่ยนไปมากจริงๆหลังจับปืน ซึ่งอสูรของเฟตก็ลองเปรียบเทียบดูแล้ว ก็พบว่าเฟตนิ่งมากจริงๆหลังจากจับสิ่งที่เรียกว่าปืน แต่อนาตาเซียนั้นรู้ดีว่าในตอนที่เฟตจับปืน จิตใจสงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     

    หึ พวกมนุษย์ วันๆก็ดีแต่ตีทหารเลวของข้า พอเจอระดับทหารจริงๆก็ไปไม่เป็นเลยรึนี่ราชาสไลม์มองดูพวกผู้เล่นที่ถูกอสูรสไลม์ระดับกลางตีจนแตกกระเจิงด้วยสายตารังเกียจ คนพวกนี้ก็เก่งเฉพาะกับคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้นแหละ

    เอาล่ะ มาเจอกับข้า….”ราชาสไลม์หันมาพูดกับเฟตต่อ แต่เมื่อเห็นว่าเป้าหมายยืนถือปืนนิ่งก็ขมวดคิ้ว (ถึงจะไม่มีขนแต่ก็เรียกว่าคิ้วล่ะนะอย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าเมื่อตะกี้เขาตีแรงไปจนเลือดตกในตายหรอกนะ

    อืม เจอกันหน่อยก็ดี จะได้ลองของแบบจริงๆซะหน่อยเฟตยิ้มกล่าวบ้าง จากนั้นก็ตัดความสนใจจากโลกภายนอก จิตใจจมสู่การต่อสู้ที่โหยหาสิ่งที่รักมานาน

     

    การเคลื่อนไหวมั่วสิ้นดีซาตานที่ชมอยู่บ่นพึมพำเมื่อเห็นเฟตกระโดดเข้าไปโจมตีใส่ราชาสไลม์ซ้ายๆขวาๆ ไม่เป็นท่า

    ถึงไม่มีแบบแผน แต่ขอแค่ชนะก็พอแล้ว บางครั้งสงครามก็ไม่หน่ายอุบายนะอาธีน่าแทรก

    เจ้านายจะเป็นอะไรมั้ยคะนั่นจาเนียอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเท่าที่ดูเฟตยังสู้ได้ไม่เต็มที่เหมือนกับรออะไรอยู่

    อาจจะ ต้องดูว่าเขาใช้อาวุธนั่นเก่งแค่ไหน มนุษย์อยู่รอดได้ด้วยมือตัวเอง ชีวิตเขากำหนดได้ด้วยตัวเอเท้า เขาก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ด้วยกำลังที่เขามีอาธีน่าเป็นฝ่ายตอบ แม้แต่ซาตานยังต้องหันมาฟัง

    อืม เข้าด้านมืดแล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะ เห็นไม่กลัวตายอย่างนั้นมันไม่โง่หรอกนะอนาตาเซียที่เข้าถึงจิตใจของเฟตดีบอกกับจาเนียเพื่อให้เอลฟ์คลายความเป็นห่วง

    เมื่อได้รับคำยืนยัน 2 ทาง จาเนียก็พยักหน้ายอมรับ ถึงแม้ในใจจะยังค้านอยู่ลึกๆก็ตาม

     

    หืม น้องเฟต สรรหาอาวุธมาได้ยังไงล่ะนั่นอิสที่ยืนมองอยู่หลังเต๊นบ่นพึมพำ เขาออกมาดูตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนแล้ว

    หลังจากดูเฟตลุยกับราชาสไลม์สักพัก อิสก็ถอนหายใจแล้วหันหลังเตรียมจะกลับ เพราะเท่าที่สำรวจพบ เขารู้แล้วว่าปืนพวกนี้ถูกสร้างมาจากสมาคมนักประดิษฐ์ แต่แล้ว ก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าสู่ที่พักผิงอันเงียบสงบ อินก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมา เมื่อเขามองย้อนกลับไปยังสายตานั้นก็ตัวสั่นสะท้าน

    ฮึม คงไม่ใช่แผนของเธอหรอกนะ เทพีแห่งปัญญาอาธีน่าอิสบ่นพึมพำเมื่อเห็นสายตาของอาธีน่ายังจ้องมองมาคล้ายกับมีแผนอะไรสักอย่าง

    แม้เขาจะเป็นถึงเจ้าหน้าที่ของเกม แต่เมื่อนำสติปัญญาและเอาทุกสิ่งที่มีมาเทียบกับอาธีน่าแล้ว เขาไม่อาจเทียบได้เลย แล้วยิ่งการต่อสู้ของเฟตที่เกิดขึ้นนี้อีก ใจของเขารู้สึกสั่นตงิดๆ เหมือนต่อจากนี้จะมีเรื่องวิ่งเข้ามาหา

    ขออย่าให้เป็นจริงอย่างที่สัญญาณร้องเตือนเลยเจ้าพระคุณเอ๋ยก่อนจะกลับเข้าเต๊นไปอิสบนบานกับฟ้าดินเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากนั้นก็กลับเข้าเต๊นไปท่ามกลางเสียงปืนของเฟตที่ยิงรัวลั่นทุ่งกลบทุกเสียงที่เคยมีมา


    เหมือนเดิมเลยแหะ ความร้อนพวกนี้เนี่ยเฟตพึมพำหลังจากเขาใช้สกิลกับปืนที่ตนมีจนกลายเป็นอาวุธแห่งความมืดแล้ว แต่ผลสุดท้ายมันก็ยังเหมือนกับปืนสั้นอยู่ดี ตรงที่ความร้อนไม่ระบาย

    แม้สมองจะคิดแต่สายตากับเท้าของเฟตกลับไม่หยุดเลย เพราะราชาสไลม์ไล่หวดเขาด้วยค้อนและบรรดาอาวุธที่เปลี่ยนจากมือของราชาไล่บี้ชายหนุ่มตลอด จนเฟตต้องลอบหอบอยู่หลายครั้ง

    เป็นอาวุธที่ประหลาดดีจริงๆ มีเสียงคล้ายกัมปนาท แต่ความรุนแรงต่างกับของซูสลิบลับเลยราชาเอ่ยถึงอาวุธปืนที่เฟตใช้ หลังจากหวดชายหนุ่มด้วยโล่จนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร

    ของคุณนี่สิประหลาดกว่า ทั้งๆที่เนื้อในมีลักษณะเดียวกันตลอด แต่ความแข็งแกร่งกลับต่างกันลิบลับเฟตย้อนกลับบ้าง กระสุนนัดแล้วนัดเล่าของเขาไม่สามารถเจาะทะลุโล่น้ำที่ราชาสไลม์ถืออยู่ในมือซ้ายได้เลย ต่างกับตอนที่เขายิงทีแรกๆ ที่ราชาสไลม์ยังไม่รู้จักอาวุธปืน ตอนนั้นเขายังยิงเข้าได้หลายแผลแม้พริบตาต่อมามันจะหายไปหมดก็เถอะ

    หึ มิอย่างนั้นข้าจะได้ชื่อว่าราชาเหรอราชาสไลม์ย้อนเล็กน้อยแล้วหายตัวไป พริบตาที่เฟตรับรู้ถึงอันตรายก็โยกตัวหลบ แต่เมื่อโยกไปแล้วเขากลับพบว่ามันเป็นกลลวง เพราะราชาสไลม์ไปยืนดักอยู่เหมือนรู้ล่วงหน้า

    ตูม!! เฟตโดนค้อนยักษ์หวดเข้าเต็มแรง ถ้าเขาไม่เอาปืนยาวมาขวางไว้อาจเป็นเขาเองก็ได้ที่กระดูกต้องหักกลางแบบปืน

    ส่วนสัญชาตญาณของเจ้าน่ะ น่ากลัวก็จริง แต่มันใช้ประโยชน์อะไรกับคนที่ผ่านสงครามมานับร้อยนับพันอย่างพวกข้าไม่ได้ราชาสไลม์อธิบายให้ฟัง สัญชาตญาณของเฟตเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจก็จริงที่มันทำงานได้ดีกว่าใครคนอื่นหลายเท่า แต่เมื่อเอามาเทียบกับพวกที่ผ่านการต่อสู้มาเยอะ สัญชาตญาณที่ว่าล้วนไร้ประโยชน์ กลับกัน ถ้าศัตรูจับทางได้ สัญชาตญาณนั้นก็จะกลายเป็นของร้ายที่ย้อนทำร้ายผู้ใช้

    เฟตพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ ขนาดเขาเอาปืนมากันไว้แล้วยังติดสถานะมึนงงเลย แต่เมื่อมองเห็นว่าปืนในมือถูกราชาสไลม์ตีจนหักกลางเฟตก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่พริบตาเดียวที่เฟตนึกได้ว่าตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตรากับอาวุธปืนทั้งหมดที่ตนมีแล้วก็ลอบหัวเราะอย่างชอบใจ

    ราชาสไลม์มองท่าทางของเฟตอย่างมึนงง เดี๋ยวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เดี๋ยวดีใจจนหัวเราะออกมา แต่อาการที่เฟตไม่แสดงออกมาให้เขาเห็นก็คือ อาการหวาดกลัว ไม่ว่าราชาสไลม์จะโจมตีรุนแรงหรือมีเรื่องเซอร์ไพน์ยังไงเฟตก็ไม่ตกใจหรือหวาดกลัวเลย

    เอาล่ะๆ จับทางได้แล้วเฟตพึมพำกับตัวเอง เขาเริ่มจับทางของอาวุธที่ตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตราได้แล้ว

    หมายความว่ายังไงราชาสไลม์คิดอย่างมึนงงกับสิ่งที่เฟตพูด เขาไม่รู้ความนัยของเฟตจึงนึกว่าเฟตพูดถึงเขา

    อย่างแรก เมื่อใช้ไปมากๆ แม้จะไม่แสดงท่าทีอะไร แต่ความร้อนก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ถ้าฝืนใช้มากๆ ผู้ใช้นั่นแหละที่จะถูกความร้อนทำร้ายเอาเฟตอธิบายให้ตัวเองฟัง เรื่องไหนที่เขาคิดว่าควรจดจำมักจะพูดออกมา เพื่อให้ภาพนั้นจดจำได้ตรึงตาตรึงใจ

    หะ?”ราชาสไลม์ไม่เข้าใจสิ่งที่เฟตพูด แถมยิ่งมาเห็นเฟตใช้มือลูบไล้ปืนยาวที่อยู่ในมือจนมันกลับมาอยู่ในสภาเหมือนใหม่เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม

    อย่างที่สอง กระสุนพวกนี้ถ้ายิงในแบบปกติมันจะมีลักษณะเหมือนกระสุนทั่วๆไป คือไปแล้วไปเลย แต่ถ้ายิงด้วยกระสุนที่ใช้สกิลนั้น มันจะย้อนกลับมาอีกครั้งหลังจากกระทบเป้าหมายจนแรงหมุนควงหยุดนิ่งเฟตไม่พูดเปล่า เขาเอากระสุนที่สร้างขึ้นมาจากทักษะยัดใส่ปืนในมือ จากนั้นก็ยิงใส่ราชาสไลม์ตรงๆ ราชาสไลม์เห็นเช่นนั้นก็ยกโล่ขึ้นมากันเพราะเห็นว่าไม่มีลูกเล่นอะไรแปลกใหม่

    กระสุนหัวสีดำพุ่งเข้ากระแทกที่โล่จากนั้นก็เจาะจนจมลึกเข้าไป 2 เซน หลังจากกระสุนหยุดตัวมันก็สลายกลายเป็นไอสีดำหายไป ซึ่งเฟตก็เรียกกระสุนออกมาอีกครั้ง กระสุนที่พึ่งหายไปก็กลับไปอยู่ในมืออีกหน

    เพราะฉะนั้น ควรที่จะดูดเอามาเป็นกระสุนสำรองไว้มากๆ เวลาฉุกเฉินจะได้ยิงแบบต่อเนื่องไม่ต้องรอกระสุนที่หายไปเฟตพยักหน้าบอกตัวเอง กระสุนที่ใช้สกิลดูดกลืนศาสตราด้วย มันจะมีลักษณะคล้ายกับของต้นแบบทุกอย่าง แต่ถ้าเฟตใช้ทักษะเรียกศาสตราออกมาตอนที่กระสุนนัดนั้นถูกยิงออกไป กระสุนที่ออกมาก็จะเหมือนกับอนาตาเซียในร่างมังกร นั่นก็คือลวงนอกกลวงใน ไร้พิษสงโดยสิ้นเชิง

    ราชาสไลม์ทำหน้าเหลอไม่เข้าใจพฤติกรรมของชายหนุ่มมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มขนปืนอะไรต่อมิอะไรออกมา แถมยังเรียกดาบสีทองอันคุ้นตาออกมาด้วย

    นั่นมัน ดาบของราชาโครงกระดูกนี่ราชาสไลม์เอ่ยถามเมื่อจำดาบสีทองเล่มนี้ได้ มันเป็นดาบที่ราชาโครงกระดูกกราด่อนหวงแหนเป็นอย่างมาก จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่ราชาอสูรด้วยกัน

    หืมเฟตได้ยินเสียงเหมือนคนถามอะไรจึงหันมามองราชาสไลม์อย่างงงๆ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีธุระกับตนเขาก็หันไปเรียกสิ่งของที่ตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตราใส่ ออกมาทั้งหมด

    หมดแล้วล่ะมั้งเนี่ยเมื่อเห็นของกองอยู่กับหน้าเฟตก็พึมพำ จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ของกราด่อนที่ตนดูดมาอย่างไม่แคร์สายตาใคร

    อัตราการฟื้นฟูร่างกายเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าบนบัลลังก์แห่งราชาค่ะเสียงระบบรายงานตอนที่เฟตนั่งลง เมื่อได้ยินเสียงระบบรายงานดังนั้นเฟตก็พยักหน้าอย่างชอบอกชอบใจ ที่คุณสมบัติเดิมของของพวกนี้ยังคงอยู่

    ทักษะการดูดกลืนศาสตราก็เหมือนกับทักษะการขโมยนั่นแหละ เพียงแต่เปลี่ยนกันตรงที่ทักษะขโมยใช้ความสามารถล้วนๆ แล้วเมื่อขโมยไปแล้วถ้าเจ้าของไปเอาคืนก็ต้องคืนเขาไปถ้าสู้เขาไม่ได้ แต่สำหรับสกิลนี้มันต่างกันที่ผลลับ แม้จะใช้ความสามารถเหมือนกัน แต่ผลลับสุดท้ายต่อให้ใครมาทวงคืนเมื่อเราไม่ยอมหรือต่อให้ยอมมันก็ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เพราะมันถูกทำสัญญาไว้ด้วยพลังแห่งความตายของเจ้าตัวไปแล้ว

    เมื่อเห็นว่าศัตรูไม่สนใจ ราชาสไลม์ก็คิดที่จะเอาจริง พริบตาเดียวราชาสไลม์ก็วกมาจู่โจมที่ด้านหลังด้วยดาบยักษ์ พริบตาเดียวบัลลังก์สีดำของเฟตก็แตกกลางด้วยดาบของราชาสไลม์ แต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่กลับไหวตัวทัน แถมยังย้อนกลับมามองด้วยดวงตาสีแดงอีก

    ดวงตานี้มันดีตรงที่ตามความเร็วและเพิ่มความสามารถให้เจ้าของซินะเฟตพยักหน้าให้กับตัว โชคยังดีไอ้ตอนที่เขาฟื้นตัวกับบัลลังก์ เขาก็ลองทดสอบดึงพลังแห่งความตายออกมาด้วย เมื่อเฟตเข้าถึงพลังด้วยตัวเอง เขาก็สามารถดึงสิ่งที่เป็นของตัวเองออกมาได้

    ดวงตาพวกมารงั้นเหรอ หึ ค่อยสูสีขึ้นมาหน่อย ไล่ตีเด็กแล้วมันไม่สนุกเลยราชาสไลม์ยิ้มเยาะจากนั้นก็เปลี่ยนม่านน้ำที่กั้นพวกผู้เล่นให้กลายเป็นหอกน้ำอันแหลมขม จากนั้นก็สั่งการให้ไล่ทิ่มแทงเฟตอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มต้องดิ้นซ้ายดิ้นขวาหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย มิเช่นนั้นคงได้กลายเป็นปลาหมึกเสียบไม้แน่

    เพียงพริบตาเดียวที่เฟตหลับ ราชาสไลม์ก็ใช้คุณสมบัติของตัวเองเปลี่ยนหอกน้ำให้กลายเป็นดาบที่พุ่งตันร่างเฟตแทน แต่เฟตมีหรือจะหลงกล เขาพอรู้อยู่แล้วว่าราชาสไลม์สามารถบังคับของพวกนี้ได้ ทันทีที่เขาเห็นว่าหอกน้ำพวกนี้สั่นก็ใช้สกิลท่าเท้าของจาเนียมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ราชาสไลม์แล้ว

    ทันทีที่มาถึงราชาสไลม์ เฟตก็ยกปืนในมือยิงเปรี้ยงออกไปทันทีเพื่อให้เหมาะสมกับโอกาสอันน้อยนิดของเขา

    โดนเต็มๆซาตานที่มองอยู่ตีมืออย่างลุ้นละทึก เมื่อสักครู่ราชาสไลม์ใช้ 2 ทักษะภายในครั้งเดียว เมื่อถูกย้อนโจมตีคืนก็เป็นเรื่องยากที่จะป้องกัน

    ซึ่งดูเหมือนการมองของซาตานจะเป็นจริง เมื่อร่างของราชาสไลม์แหว่งไปข้างหนึ่งตามแรงกระสุนที่กระจายตัวทะลวงร่างน้ำของราชาสไลม์ไป

    นี่มันอะไรกันราชาสไลม์ร้องถามอย่างแปลกใจ จากนั้นเพียงพริบตาเดียวร่างที่ขาดแหว่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยหอกน้ำแข็งที่ดูดกลืนเข้ามารวมร่างอีกครั้ง

    เอาแล้วซิ ไอ้ตัว ตายยากแท้เหลาเฟตพึมพำขนาดเขาใช้กระสุนลูกซองยิงในระยะหวังผลราชาสไลม์ยังกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 3 วิเลย ถ้าต่อจากนี้ต้องสู้ต่อไปเรื่อยๆ เขานี่แหละจะได้ตายภายใน 3 วิ

    ต้องอย่างนี้ซิมนุษย์ ต้องอย่างนี้ พวกเจ้าต้องแข็งแกร่งแบบนี้ถึงจะเป็นที่น่าพอใจ ฮ่าฮ่าฮ่าราชาสไลม์เงยหน้าหัวเราะอย่างคึกคัก

     

    แย่แล้วจาเนียกับอนาตาเซียอุทานพร้อมกับลุกขึ้นยืน พวกเธอสัมผัสถึงพลังที่แท้จริงของราชาสไลม์ได้ ตลอดมาราชาสไลม์ยังไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขาจะเอาจริงแล้ว ซึ่งเฟตที่เสียท่ามาตลอดก็ไม่ต้องถามถึงเลยว่าจะรอดชีวิตไปได้หรือไม่

    2 เทพอสูรหันไปมองหน้ากันและพยักหน้าให้กันเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปจับจ้องที่การต่อสู้ด้านหน้าปล่อยให้ 2 อสูรเป็นกังวลกันต่อไป

     

    หลังจากปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาแล้ว ราชาสไลม์ก็เลื่อนสายตาที่จับจ้องฟ้า มาจ้องมองเฟตแทน

    เพียงพริบตาเดียวที่ถูกจ้องตา เฟตก็รู้สึกเหมือนกับร่างกายกำลังยืนอยู่ในน้ำอันไร้ซึ่งทางออก มันเหมือนกับกำลังยืนอยู่ในแท็งก์น้ำอันใหญ่สุดหูสุดตา

    เมื่อปรายตาไปมองบนฟ้าก็พบว่าตัวเองถูกล้อมไว้ด้วยโดมน้ำขนาดใหญ่ ที่ไม่รู้ว่าราชาสไลม์เอามาตอนไหน

    เป็นครั้งแรก ที่มนุษย์ทำให้ข้าแปลกใจได้มากขนาดนี้ราชาสไลม์เอ่ยอีกครั้ง จากนั้นก็มีร่างราชาสไลม์โผล่มาจากอากาศโดยรอบเฟตเกือบร้อยตัว ซึ่งทุกๆตัวน่าจะมีลักษณะเหมือนกับราชาสไลมทั้งหมด เพราะมันเปลี่ยนมือเป็นอาวุธได้ด้วย

    ฉะนั้น ข้าขอชีวิตเจ้าไปเป็นของทีละลึกก็แล้วกันสิ้นเสียงกล่าว ร่างราชาสไลม์นับร้อยก็พุ่งเข้ามาหาเฟตจากรอบทิศทาง ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใจกลางวงล้อมต้องคว้าอาวุธทุกอย่างที่มีมาต่อสู้ป้องกันตัว

    หลังจากการโจมตีละรอกแรกจบลง ร่างของเฟตก็ล่วงลงมานอนกองบนพื้นด้วยสภาพบาดเจ็บสาหัส

    ราชาสไลม์ไม่สนใจอาการของชายหนุ่ม เขายังคงสั่งโจมตีละรอกสอง

    พอแล้วเสียงของซาตานดังพร้อมกับร่างของชายร่างใหญ่ผมทรงกวนบาทามาปรากฏตัวขวางร่างแยกของราชาสไลม์ แต่การโจมตีที่ถูกสั่งมาแล้วไม่อาจหยุดได้ มันจึงพุ่งเข้าหาซาตานทุกทิศทุกทาง

    ทำได้แค่นี้เหรอซาตานกล่าวทั้งๆ ที่ยังอยู่ในสภาวะโจมตีของราชาสไลม์ หลังจากนั้นราชาสไลม์ก็รู้สึกว่าหน้าอกกับหัวตัวเองขาดหายไป

    ก็มันเจ็บนี่ครับเฟตที่นั่งอยู่หลังการป้องกันของซาตานเอ่ยขณะคุกเข่าถือปืนเล็งมาทางราชาสไลม์ จากนั้นชายหนุ่มก็ยิงไม่ออกไปไม่หยุด แต่ราชาสไลม์สั่งให้ร่างแยกมาป้องกันเอาไว้จึงไม่เป็นอะไรเลย

    เฟตไม่สนใจ เขาลุกขึ้นมายืนด้วยสภาพร่างกายอันทรุดโทรม และใช้ปืนเท่าที่มียิงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

    ราชาสไลม์เองก็สั่งให้ร่างแยกจู่โจมเข้าไปเรื่อยๆ แต่ติดที่มีซาตานคอยคุ้มกันให้ ทำให้การโจมตีไม่อาจเข้าถึงตัวเฟตได้เลย

    การต่อสู้ละหว่างมนุษย์กับราชายังดำเนินการต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางสายตาของผู้เล่นหลายหมื่นคน

    จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ม่านน้ำที่เคยตั้งป้อนกันไว้ก็สลายลงไป เหลือไว้แต่เพียงร่างของมนุษย์ 2 คนที่คนหนึ่งยืนหยัดเหมือนกับภูเขาส่วนอีกคนนอนพังพาบเหมือนกับต้นหญ้าโดนเหยียบ

    เก่งมาก ทำให้ราชาสไลม์หนีไปได้ซาตานเอ่ยชมขณะแบกเฟตขึ้นมาบนบ่า เขารู้สึกทึ้งกับความใจสู้ของเฟตสุดๆ ถ้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเฟตยอมแพ้เขาก็คงพาหนีออกไปนานแล้ว

    เหอๆ งั้นเหรอเฟตไม่รับคำชมนั้นเขารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นของเล่นเสียมากกว่า แต่ซาตานก็ไม่ได้บอกว่าจริงๆแล้วราชาสไลม์เก่งถึงขั้นสู้กับตนได้ จึงปล่อยให้เฟตได้คิดต่อไปว่าราชาสไลม์ไม่เก่งมากเท่าไหร่

    ราชาสไลม์ไม่ได้เก่งจริงดั่งที่ซาตานคิด แต่อันตราการฟื้นตัวของราชาสไลม์ต่างหากที่ทำให้ซาตานหน่ายที่จะสู้ด้วย ขอแค่มีน้ำจืดอยู่ใกล้ๆราชาสไลม์ก็เป็นอมตะแล้ว เมื่อใดที่มาอยู่ในโดมน้ำของมัน ก็เหมือนพวกเขาก้าวเท้ามาหยุดที่หน้านรก ไม่มีสิทธิ์ถามหาโอกาสชนะ ให้ถามหาโอกาสรอดดีกว่า

    แต่เฟตกลับไม่ท้อและไม่ถอยแม้ร่างกายจะสาหัสจนเดินกระเผลก ชายหนุ่มผู้นี้ก็ยังสู้ชีวิตจนหยดสุดท้าย ทิ้งทวนและไว้ลายจนสิ้นชีพ แม้กระทั่งราชาสไลม์ยังยอมรับจนเลิกราแล้วกลับไปเองเลย

    ฮึบซาตานกระโดดเพียงครั้งเดียวก็พาร่างของตัวเองที่มีเฟตอยู่บนบ่ามาหยุดอยู่ที่กลุ่มอสูรของเฟต

    ทันทีที่ซาตานทิ้งร่างของเฟตลง จาเนียกับอนาตาเซียก็มุงเข้ามาด้วยความสนใจ พวกเธอไม่นึกเหมือนกันว่าเฟตจะสู้กับคนที่เรียกได้ว่ากึ่งอมตะจนหนีไปได้แบบนี้

    จาเนียช่วยนำน้ำยาที่ตนพอมีเหลือมาช่วยปฐมพยาบาลเฟต แต่ตอนที่เธอหันกลับมาก็ต้องช็อกตาค้างเมื่อเห็นอนาตาเซียก้มลงเอาปากกระกบปากกับชายหนุ่มที่กำลังสะลืมสะลือคล้ายใกล้หมดสติ

    หลังจากประกบปากเป็นเวลานาน อนาตาเซียก็ละริมฝีปากพร้อมกับกล่าว แกน่าจะรอดแล้วล่ะ

    หืม ฟื้นพลังให้กันได้ด้วยเหรอ น่าแปลกใจจริงๆ ปกติอสูรที่เหลือแต่วิญญาณไม่น่าจะทำได้นี่ซาตานกอดอกวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ

    เพราะข้าดูดเลือดหมอนี่เอามาเป็นเสบียงสำรองไว้มาก จนร่างนี้เริ่มเหมือนกับมนุษย์จริงๆแล้วน่ะอนาตาเซียตอบสั้นๆ เธอไม่ค่อยอยากที่จะพูดกับซาตานเท่าไหร่

    งั้นเหรอซาตานกอดอกมองอนาตาเซียด้วยความสนใจ จากนั้นก็เอ่ยชวนเสียดื้อๆ มาอยู่กับข้ามั้ยล่ะ เดี๋ยวข้าจะตามหาร่างของเจ้า และพลังของเจ้ามาประกอบกับวิญญาณนี้ให้

    สิ้นคำถามอนาตาเซียก็สะอึกเงียบไม่ตอบคำเพราะคิดหนัก ร่างเธอตอนนี้เหลือแต่วิญญาณที่ไร้พลังและร่างที่แท้จริง การได้ข่าวว่าตนจะมีร่างกายอีกครั้งก็ทำให้เธอสนใจขึ้นมาได้บ้าง

    ไม่ล่ะ ข้าไม่สน อยู่แบบนี้ดีแล้วหลังทบทวนอย่างดีแล้ว อนาตาเซียก็ตบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำจนซาตานแปลกใจ

    ทำไมเจ้าถึงไม่เอาซาตานถามแต่ใบหน้าไร้รอยยิ้ม เขาไม่ชอบคนมาขัด แม้การบังคับคนอื่นก็ถือเป็นความต้องการของเขา ฉะนั้นห้ามขัด

    สมัยอดีต ข้าต้องต่อสู้หนีตายเพื่อก้าวสู่ความแข็งแกร่งมามากมาย จนจำไม่ได้ว่าเวลาผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี จนวันหนึ่งข้าต้องมาตายเพราะใครคนหนึ่งที่ข้าไม่รู้จัก จนรู้ตัวอีกทีก็ถูกสาปวิญญาณจนกลายเป็นมังกรต้องสาปเฝ้าหุบเขาเอลฟ์แล้ว การจะต้องกลับไปเดินเส้นทางนั้นอีก ข้าขอผ่านอนาตาเซียตัดสินใจอธิบายออกมา

    แต่นี่มันไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าไม่ใช่รึ ยอมรับข้อตกลงของข้าเถอะน่า มังกรแห่งความมืดเอ๋ยซาตานขมวดคิ้วคาดคั้น แม้คำตอบของอนาตาเซียจะฟังดูน่าคล้อยตาม แต่เธอก็หนีความเป็นจริงที่ว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์อันแข็งแกร่งไม่พ้น

    ผู้หญิงไม่ยอมก็อย่าไปบังคับเธอซิ เป็นลูกผู้ชายเปล่าเนี่ยเฟตที่นอนฟังมานาน เอ่ยแทรกขึ้น แม้เขาจะรู้สึกย่ำแย่มาก แต่เมื่อได้พลังที่ผ่านปากของอนาตาเซียมาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะกว่าเดิมแล้ว

    อึดอย่างกะแมลงสาบเลยนะแกซาตานขมวดคิ้วถาม นึกไม่ถึงว่าเฟตจะกล้าตอกกลับเขาด้วย

    ถือเป็นคำชมนะเฟตลุกขึ้นนั่งจากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงอนาตาเซียเข้ามากอดแล้วหันไปมองหน้าซาตาน

    อสูรสาวตัวแข็งเล็กน้อยเพราะต่อให้เป็นร่างมนุษย์และวิญญาณ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเธอจริงๆ ทำให้มังกรสาวรู้สึกเขินจนหน้าแดงเล็กน้อย

    ถ้าอยากได้เธอไปก็ต้องข้ามศพผมไปก่อนซะนะซาตานอ่านสายตาที่เอาจริงของเฟตได้ แม้ชายคนนี้จะดูไม่ตื่นเต้นไปกับสถานการณ์อะไรแต่สายตาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

    โอเคๆ ข้าแค่ถามดูเฉยๆ ไม่ได้คิดจะเอาไปจริงๆ เสียหน่อยซาตานยกมือประมาณว่ายอมลงให้ เฟตจับจ้องสักพักเห็นว่าซาตานคลายความแข็งกร้าวลงก็ถอนหายใจ นี่ถ้าซาตานเอาจริงเขาก็คงตายจริงๆ นั่นแหละ

    นี่แกจะกอดข้าอีกนานมั้ยเนี่ยหลังเฟตเนียนกอดไม่ยอมปล่อย อนาตาเซียจำต้องเอ่ยออกมาอย่างเขินๆ ถึงอย่างไรเสียเธอก็เป็นตัวเมีย เฟตเป็นตัวผู้ เป็นเรื่องปกติที่สัตว์โลกจะต้องคิดถึงความเป็นจริงในข้อนี้

    อีกนานเลยล่ะ ถ้าคุณยังไม่ยอมตกลงอะไรผมสักอย่างเฟตย้อนกลับนิ่มๆ ทำให้อนาตาเซียขมวดคิ้วมุ้นไม่พอใจ นอกจากจะเนียนกอดเธอแล้วยังจะมีข้ออ้างอีกเหรอ

    อะไรก็ว่ามาอนาตาเซียถามเสียงแข็งพร้อมกับม้วนหางไปที่ด้านหลัง ในกรณีที่เฟตขออะไรไร้สาระเธอจะจัดการหวดเขาซะ ถ้าเฟตขอในสิ่งที่เธอให้ไม่ได้ก็จะหวดเหมือนเดิม

    เลิกเรียกผมว่าแก และห้ามแทนตัวเองว่าข้าได้มั้ยครับเฟตบอกโดยไม่สนใจหางที่ม้วนเข้ามาของอนาตาเซีย

    หะ?”นอกจากอนาตาเซียแล้ว อสูรตนอื่นๆก็ร้องอย่างสงสัย ในตอนแรกพวกเขานึกว่าเฟตจะขอความรู้เรื่องการต่อสู้จากอนาตาเซียเสียอีก เพราะอนาตาเซียเป็นมังกรแห่งความมืด ที่ถือเป็นมังกรนักรบแห่งหมู่มังกรเผ่าเดียวกัน

    ตกลงมั้ยล่ะเฟตถามโดยไม่สนใจท่าทางของอสูรที่อยู่รอบตัว

    ทะทะ ทำไมล่ะอนาตาเซียย้อนถามบ้าง เธอนึกไม่ถึงว่าเฟตจะขออะไรแบบนี้

    อืม คุณจะเลิกต่อสู้แล้ว คำพูดที่ชวนทะเลาะก็ควรที่จะหยุดด้วย แล้วอีกอย่าง ถ้าพูดแทนตัวเองว่าเราหรือนาย มันยังฟังดูเข้ากับคนหน้าตาน่ารักแบบคุณน่ะเฟตตอบตามที่ใจคิด แม้เหตุผลจริงๆจะเป็นอย่างหลัง แต่ก็เอาข้ออ้างแรกมาพูดให้ดูดีก่อน

    คิกๆๆเฟตได้ยินเสียงอาธีน่าหัวเราะคิดคักก็ปรายตาไปมองเล็กน้อย จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของอสูรตนอื่นๆ ที่คิดไม่ถึงกับเหตุผลของชายหนุ่ม มันเป็นคำพูดที่สุดแสนจะธรรมดาจริงๆ แต่สำหรับอนาตาเซียแล้ว เมื่อได้รับรู้ถึงความห่วงใยของชายหนุ่มที่สนับสนุนเธอแบบเต็มที่ เธอกลับรู้สึกเหมือนภายในตัวเองกำลังมีอะไรก่อตัวขึ้น จึงเงยหน้ามองเฟตด้วยสายตาแบบแปลกใหม่

    ค่ะ เจ้านายอนาตาเซียกล่าวเบาๆเหมือนอายที่จะพูดคำหวานๆ ปกติแล้วมังกรล้วนแล้วแต่ใช้ภาษากายคุยกัน ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นบ่าว ไม่มีเลยการที่จะมาห่วงหาอาธรกันแบบนี้

    มะ โมเอะมากเฟตยกนิ้วให้แล้วขยับตัวกอดอนาตาเซียแน่นมากกว่าเดิมไม่ยอมปล่อย สายตาที่อนาตาเซียจ้องบวกกับคำพูดแล้ว ช่างชวนให้เขาอยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัวจริงๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมอนาตาเซียถึงชอบกินเขา เพราะตัวเขาน่ากินนี่เอง (เอ่อ คนละเหตุผลแล้วมั้ง)

    อะแฮ่มซาตานที่ดูอยู่นานกระแอมไอ

    ใครมียาแก้เจ็บคอบ้างมั้ยครับ ถ้าไม่มีเอาน้ำยาฟื้นพลังหรือเลือดก็ได้ มาให้คุณซาตานหน่อย ดูเหมือนเขาจะไม่สบายเฟตแหงะกลับมาบอกแล้วกอดซุกไซ้อนาตาเซียต่อด้วยความเมามันในอารมณ์

    จะ เจ้านายจาเนียที่ดูอยู่เอ่ยเรียกเบาๆ เฟตได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองหน้าเธอ เมื่อเห็นเธอจ้องอนาตาเซียสลับกกับเขาตาไม่กระพริบก็เข้าใจว่าอยากเล่นมั่ง จึงดึงแขนเอาตัวโถมเข้ามากอดแบบที่ทำกับอนาตาเซีย

    พึ่งเคยเห็นคนเจ้าชู้ได้เป็นธรรมชาติและหน้าด้านแบบสุดๆก็วันนี้แหละซาตานกล่าวแบบเซ็งๆ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี

     

    เอ่อ ขอโทษนะครับ ช่วยเลิกการทำอนาจารจะได้มั้ยครับอิสที่มาตอนไหนไม่รู้กล่าวกับเฟตอย่างนอบน้อม

    ส่วนเฟตที่จับ 2 สาวกดกลางแจ้งก็หันมามองอย่างงงๆ จากนั้นก็หันไปมองคนรอบตัวด้วยความสงสัย เมื่อเห็นคนมองมาเพียบก็ปล่อย 2 สาวที่กดอยู่ เพื่อให้พวกเธอได้จัดเสื้อผ้าที่เขาเผลอถอดไป (….)

    มีอะไรครับพี่อิสเฟตลุกขึ้นยืนแล้วถามทันทีเป็นการกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น

    ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่อยากคุยเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น และพึ่งเกิด และกำลังจะเกิดอิสตอบยิ้มๆแม้คิ้วจะกระตุกก็ตาม เขาได้รับร้องเรียนว่ามีการทำอนาจารกลางแจ้ง พอรุจมาดูก็เห็นเฟตเล่นกับ 2 สาวอย่างเมามัน ถ้ามองในมุมมองของคนนอกก็เป็นการทำอนาจารจริงๆนั่นล่ะ แต่ถ้ามองในมุมมองของคนที่เคยร่วมมือกันมาบ้าง จะพบว่าเฟตทำลงไปด้วยความไม่รู้ เนื่องจากเป็นคนซื่อ (…)

    อืม ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้คุยเรื่องที่นายเป็นกังวลพอดีอาธีน่าลุกขึ้นกล่าวแล้วดึงมือเฟตไปยังเต๊นของอิสทันที ส่วนคนที่กะว่าจะมาคุยก็อ้าปากหวอ ไม่ใช่ว่าเขาเสียท่าให้กับอาธีน่าแล้วเหรอเนี่ย การที่ออกมาพูดเองแบบนี้

    อืมซาตานเห็นด้วยแล้วเดินตามไปทันที ทิ้งให้อิสอ้าปากหวอแล้วคิดทบทวนตัวเอง ว่าสัญญาณเตือนของเขาที่ดังต้องมาจาก 2 อสูรนี้เป็นแน่

    เอ่อ ข้าจะท้องมั้ยเนี่ยอิสได้ยินเสียงบ่นข้างหลังพอหันไปมองก็เห็นอนาตาเซียลูบท้องตัวเองอยู่ จาเนียที่ได้ยินก็ลูบท้องบ้างด้วยความแตกตื่นในคำพูด เอลฟ์ 4 ตนที่มองค้างอยู่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่ยังไม่มีอารมณ์อธิบายเนื่องจากยังช็อกอยู่

    จาเนียจะมีลูกกับนายท่านเหรอจาเนียหันมาถามอนาตาเซียด้วยความแปลกใจปนดีใจ เผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีการให้กำเนิดบุตรที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าเป็นจริงดั่งอนาตาเซียว่าก็เป็นเรื่องยินดีไม่น้อยเลยทีเดียว

    อิสยืนมองสักพักก็รู้ได้ทันทีว่า 2 อสูรนี้ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายจริงๆ จึงเปิดหน้าต่างระบบพิมพ์อะไรบางอย่างแล้วยื่นให้ 2 อสูรสาวได้เอาไปอ่าน

    อืม อย่างนี้นี่เอง ต้องถอดเสื้อผ้าออกก่อนซินะ แปลกจัง ตอนที่ข้าเป็นมังกร ข้าได้ยินข่าวมาจากมังกรถ้ำข้างๆว่าแค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก็พอที่จะมีไข่มังกรน้อยแล้วนี่นาอนาตาเซียหันมาพูดกับจาเนียที่มีท่าทางเหมือนตนอยู่

    เสียดายจัง นึกว่าจะได้มีบุตรกับนายท่านซะแล้วซิจาเนียบ่นพึมพำ

    แต่อิสที่ได้ยินนั้นเดินหนีพร้อมกับส่ายหน้าไปไกลแล้ว คุยกับอสูรที่มีความคิดแบบมนุษย์นี่พูดยากเหลือเกิน แล้วยิ่งมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้เขายิ่งพูดยากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

    มีอสูรแค่ 5-6 ตน ยังวุ่นวายขนาดนี้ ถ้ามีมากกว่านี้คงไม่ต้องสร้างฮาเร็มในเกมอยู่กันเลยรึอิสพึมพำขณะเดินเข้าเต๊นของตัวเองที่มีปัญหารออยู่ข้างในอีกเพียบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×