คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 22 ราชาสไสลม์ ความแตกต่างของคนเก่ง
“ตกลงว่า.... สร้างได้แล้วเหรอครับ”เฟตกล่าวถามเถ้าแก่ร้านทันทีเมื่อมาถึงเต๊นของชายผู้นี้
“อืม สร้างได้นะ แต่ดันไม่ผ่านซะได้”เถ้าแก่หนุ่มตอบแบบเซ็งๆ แม้จะว่าแผนไร้ที่ติ แต่ทันทีที่คิดถึงความเป็นจริง เรื่องให้ติดันมารอเพียบเลย
“ว่าแต่ หายไป 3-4 วัน พาเอลฟ์กลับมาเพียบเลยนะ รู้มั้ย.. ว่าแค่เอลฟ์เพียงคนเดียวที่นายมี ก็ถูกพูดถึงไปทั้งเมืองแล้ว”เถ้าแก่หนุ่มกล่าวขณะหยิบอะไรออกมาจากลังใหญ่ ถ้านี่เป็นของที่ขนออกมาจากในเมืองจริง ชายคนนี้ก็แข็งแกร่งไปแล้ว
“ก็นะ”เฟตหันไปมองอสูรของตัวเองจากนั้นก็ละความสนใจหันมามองสิ่งที่อยู่ในลังต่อ เมื่อเถ้าแก่ร้านเปิดลังปุ๊ป ตาเฟตก็แทบจะกลายเป็นรูปหัวใจ
“ว้าววว”เฟตอุทาน แค่นั้นก็ทำให้ 6 อสูรหันมามองได้แล้ว เพราะปกติเฟตเป็นคนประเภทไม่ตื่นเต้นไปกับอะไรเลย ขนาดโดนรุมด้วยคนหลายร้อยคนยังจะผิวปากเดินเล่นด้วยซ้ำ
“รู้มั้ย ผมสร้างของพวกนี้มาจากวัตถุดิบที่คิดว่าดีที่สุด แต่ว่า..... มันดันไม่ผ่านซะได้”เถ้าแก่ร้านว่าจบก็วางของพวกนี้ลงบนโต๊ะกลางเต๊นของเขา จากนั้นก็อัดพลังเข้าไปจนตัวปืนสั่น แต่เพียงแป๊ปเดียวมันก็สลายหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผ่านอะไรเหรอครับ”เฟตย้อนถามขณะลูบไล้ที่ปืนพวกนี้อย่างหลงใหล ถ้าผู้ชายหื่นกามชอบหญิงสาวสวยเซ็กซี่ งั้นเขาก็เป็นคนหื่นกามสงคราม (มันเป็นยังไงฟะ) ที่ชอบอาวุธประเภทปืนล่ะนะ
“เอาปืนพวกนี้ไปตรวจสอบกับจีเอ็มเพื่อขอขึ้นทะเบียนอาวุธแล้ว แต่มันยังใส่พลังไม่ได้ เขาจึงไม่ให้ผ่าน แม้ผมจะเอาเทปที่คุณใช้ลูกโม่ไปสู้ในสนามประลองให้เขาดูแล้ว เขาก็บอกไม่ให้ผ่านอยู่ดี ......เพราะใช้น่ะมันใช้ได้ แต่ถ้าเอาไปสู้กับอาวุธด้วยกันไม่ผ่านก็ไร้ค่าอยู่ดี ผมถึงบอกว่ามันไม่ผ่านยังไงล่ะ”เถ้าแก่ร้านถอนหายใจบอก จากนั้นก็ยื่นอะไรบางอย่างให้เฟตดู
“คำสั่งเตือนเหรอครับ”เถ้าแก่ร้านพยักหน้าแล้วอธิบายต่อ
“ผมนำวัตถุดิบของกิลด์ไปใช้สร้างสิ่งของพวกนี้จนหมดไปหลายร้อยเหรียญทองแล้ว พวกเขาเลยสั่งให้ผมเลิกซะ มิเช่นนั้นผมจะถูกไล่ออกน่ะ”
“....”เฟตรับฟังเงียบๆ เพราะเขาก็พอจะเข้าใจหัวอกทั้ง 2 ฝ่ายอยู่บ้าง เพราะฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายที่ออกทุน อีกฝ่ายเป็นผู้ที่ผลิต แต่เมื่อผลิตออกมาแล้วใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็จำเป็นต้องตักเตือนหรือไม่ก็ตัดทิ้งออกไป ก่อนที่ผลเสียจะมีไปมากกว่านี้
“หรือก็คือ ผมว่าจะยกของทั้งหมดนี้ให้คุณน่ะ แล้วผมก็จะเลิกแล้วการผลิตอาวุธปืน”เถ้าแก่หนุ่มกล่าวกับเฟตเสียงเศร้า การต้องทิ้งสิ่งที่ชอบไปก็เหมือนกับการตัดใจในสิ่งที่ตนรักไปนั่นแหละ
“ครับ แล้วทำไมถึงยังยิ้มอยู่ได้ล่ะ”เฟตรับคำแล้วถามกลับสั้นๆ เขาตอบรับคำตัดสินใจของคนอื่นอยู่แล้ว ถ้าไม่ขัดกับหลักการของเขาล่ะก็
“แล้วทำไมคุณถึงยังยิ้มได้ล่ะ เมื่อเห็นอาวุธพวกนี้ ผมก็เหมือนกับคุณนั่นล่ะ ของอะไรที่คนอื่นเห็นว่าไร้ค่าแต่เมื่อมีคนมาเห็นคุณค่าของมัน ก็เป็นปกติที่ผมจะดีใจ อย่างน้อยๆมันก็ไม่ไร้ค่าไปโดยสิ้นเชิงแบบนั้น”เถ้าแก่หนุ่มตอบแบบมีปรัชญา ในตอนแรกเฟตก็ยังงงๆ แต่สักพักก็พอเข้าใจบ้าง
“อ้อ ผมมีเรื่องจะปรึกษา เกี่ยวกับของพวกนี้น่ะครับ”เฟตเริ่มวกเข้าเรื่องสิ่งที่สงสัย ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เฟตถามเถ้าแก่หนุ่มก็ยิ้มแล้วสนทนาอย่างสนุกสนาน
“อืม โลกของผู้ชายก็แบบนี้ล่ะ”อนาตาเซียบอกพวกเอลฟ์เหมือนกับรู้ดี แม้ขณะที่ฟังสิ่งที่เฟตพูดกับเถ้าแก่ร้านจะยังงงว่าคุยอะไรกันก็ตาม
หลังจากคุยปัญหาชีวิตกันเสร็จ เถ้าแก่ร้านก็รับปากว่าจะผลิตของให้ จากนั้นก็ให้ลูกน้องของตนพาเฟตไปยังเต๊นอาชีพต่างๆ ซึ่งพวกเขาพากันหนีจากในเมืองมายังข้างนอก เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนลูกหลงตายไปด้วย
“แถวๆนี้ก็คล้ายๆกับในเมืองนั่นแหละครับ แค่เปลี่ยนจากตึกเป็นเต๊นเฉยๆ”หลังพาเดินลัดเลาะเต๊นของเถ้าแก่ตัวเองมาไม่ไกล ชายที่นำทางก็พาเฟตมาทิ้งไว้ใจกลางวงเวียนอาชีพสำรองอีกครั้ง
เมื่อเฟตมาถึงก็นำแผนที่มาเปรียบเทียบแล้วเดินหาเต๊นที่ตนมั่นใจว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด แต่เมื่อผ่านไปเต๊นแล้วเต๊นเล่าก็ยังไม่พบแบบที่เข้าท่าเข้าทาง เฟตก็เลยตัดสินใจปล่อยเอาไว้ก่อน จากนั้นก็พาอสูรตัวเองไปหาที่นั่งพัก
“จะตกปลาเหรอ”อนาตาเซียถามเมื่อเห็นเฟตหยิบกิ่งไม้แถวนั้นมาปักที่ข้างตัวแล้วล้มตัวลงนอนข้างท่าน้ำ
“อืม”เฟตตอบสั้นๆแล้วนอนต่อ บรรยากาศรอบๆชวนนอนจริงๆ
“เจ้านายไม่ลองเปลี่ยนมาอยู่เผ่าเอลฟ์ดูมั่งเหรอคะ”หลังจากจ้องมองเฟตอยู่นาน 4 เอลฟ์ก็กล่าวถามอย่างสนใจ
“หะ”อนาตาเซียอุทานออกมาแทน เป็นเรื่องที่แปลกมากที่มาเห็นเผ่าเอลฟ์ชวนมนุษย์เข้าเผ่า ปกติแล้วกว่าจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นเผ่าเอลฟ์ได้ต้องผ่านอะไรตั้งมากมายนี่นา
แต่เมื่ออนาตาเซียคิดดูดีๆก็พอที่จะเข้าใจอยู่บ้าง เพราะอย่างแรกเฟตช่วยพวกเอลฟ์เอาไว้ อย่างที่สอง เฟตไม่ได้เอาพวกเอลฟ์ไปใช้แรงงานเช่นมนุษย์คนอื่นๆชอบใช้กัน อย่างที่สาม เฟตชอบธรรมชาติเหมือนกับพวกเอลฟ์นั่นเอง
“ม่ายอาวหรอก วุ่นวายจะตาย อยู่แบบนี้ล่ะดีแล้ว”เฟตตอบเสียงยานคราง จากนั้นก็ดิ้นซ้ายขวาไปซบตักจาเนียกับกอดเอวอนาตาเซียไว้ด้วยความเคยชิน
“อ่ะ”เฟตอุทานกับตัวเอง เมื่อรู้ตัวว่าตนเองเผลอทำอะไรลงไป ชายหนุ่มขยับจะลุกขึ้น แต่จาเนียกดเอาไว้ก่อนส่วนอนาตาเซียก็ใช้หางรัดเอาไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน
“แปลกนะเนี่ย ที่แกเข้ามาหาพวกข้าก่อน”อนาตาเซียแค่นเสียงกล่าวเหมือนกับโกรธที่ถูกกอด แต่เท่าที่ดูจากท่าทางแล้วเธอไม่ได้โกรธเหมือนที่พูดเป็นแน่
“นั่นซิคะ เจ้านายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”จาเนียใช้มืออังหน้าผากเฟตดู ปกติถ้าเธอไม่บอกก่อนเฟตไม่มีทางเข้ามาหาแน่ สมองต้องถูกกระทบกระเทือนชัวร์
“ติดนิสัยน่ะ”เฟตตอบตรงๆ ตามปกติเขาก็ไม่เป็นหรอก แต่เมื่อผ่านอะไรมาด้วยกันกับ 2 สาวนี้เยอะๆแล้ว เขาก็ติดมันไปโดยไม่รู้ตัว ก็เหมือนกับคนที่ถูกบังคับให้อยู่กับความตายนานๆนั่นหล่ะ พอเวลาผ่านไปก็เห็นจนเคยชินและชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
สองอสูรได้ฟังก็นิ่งเงียบไป จากนั้นก็ปล่อยให้เฟตได้นอนอยู่กับพวกเธอโดยไม่สนใจสายตาผู้เล่นหน้าไหนที่มองมา
หลังจากนอนหลับไปกับตักอันอบอุ่นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เฟตก็รู้สึกถึงการกลับมาของใครบางคน ที่แค่เดินมาเขาก็รู้สึกได้แล้ว
“นอนอีกแล้วเหรอเนี่ย”ซาตานเอ่ยมาแต่ไกล ต่างกับหญิงสาวข้างตัวที่ยิ้มแย้มเหมือนพบเจออะไรดีๆมา
“ตกปลาครับ”เฟตอ้างแล้วลุกขึ้นนั่ง เมื่อหันไปมองด้านหลังก็เห็นอสูรของตัวเองมีท่าทีแปลกๆไป
“ตกปลาบ้านไหน ทำไมไม่เห็นมีเอ็น”ซาตานถามเมื่อมองไปแล้วเห็นแต่ไม้เปล่าๆเสียบอยู่กับโขดหิน
“ตกปลาด้วยเบ็ดบลูทูธไงครับ เบ็ดไร้สาย”เฟตอ้างจนเอาตัวรอดได้
“.....”ทั้งกลุ่มหันมามองเฟตเป็นตาเดียว ไม่นึกไม่ฝันว่าคนอย่างนี้จะยิงมุกเป็นด้วย
“ว่าแต่พวกคุณเถอะ ไปขู่ถอดชุดพี่เขามาเหรอ”เฟตถามกลับเมื่อเห็นว่าซาตานกับอาธีน่ากลับมาพร้อมกับชุดสูทแบบที่อิสใส่ แต่ของอาธีน่าต่างออกไปจากกางเกงขายาวเปลี่ยนเป็นกระโปรงสั้นแบบพวกพนักงานออฟฟิศใส่กัน
“เปล่าหรอก ของนี่เป็นแค่ข้ออ้างในการกลับมาน่ะ”ซาตานเอ่ยจบก็บุ้ยปากไปทางอาธีน่า ประมาณว่าถามเอาเถอะ
เฟตจึงเลื่อนสายตามาจับจ้องเทพสาวที่ยิ้มแย้มอยู่เหมือนเดิม จนในที่สุดอาธีน่าก็ตัดสินใจอธิบายความคิดให้ฟังเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มสนใจจริง
“เรื่องที่พวกเราพูดกันมันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของพวกเจ้ากับเจ้าหน้าที่ของสวรรค์และนรกน่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้หรอก ส่วนที่เห็นชุดนี้ก็สืบเนื่องมาจากท่านซาตานชอบตอนที่เห็นเจ้าใส่ ส่วนตัวเรานั้นก็เห็นว่าถ้าใส่ชุดนี้แล้ว มนุษย์ก็คงสำคัญว่าเป็นเจ้าหน้าที่แบบคนในเต๊นนั้น ก็เลยยินดีที่จะรับมันมาน่ะ”ซาตานพยักหน้าเห็นด้วยทันที แม้จริงๆแล้วเขาจะขู่เอาแบบที่เฟตคิดก็เถอะ แต่ข้อดีมันมีมากกว่าข้อเสียก็หยวนๆกันไปแล้วกัน
“อืม”เฟตพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่ธารน้ำ พอมองเลยไปก็พบเห็นผู้เล่นกำลังไล่ตีตัวน้ำอยู่ (สไลม์) ถึงจะแปลกใจว่าทำไมน้ำถึงรวมตัวเป็นก้อนได้ก็เถอะ
“มีอะไรคิดไม่ออกงั้นเหรอ”ซาตานเอ่ยขณะนั่งลงข้างๆแล้วตบไหล่เฟต แม้สายตาจะหันไปมอง 6 อสูรด้วยความสงสัยก็ตาม
“ก็นิดหน่อยครับ”ชายหนุ่มตอบสั้นๆเขาไม่แปลกใจว่าทำไมซาตานถึงมองเขาออก ปกติผู้ชายกับผู้ชายมักมองกันออกอยู่แล้ว
“งั้นเหรอ ช่างเถอะ ว่าแต่ทำไมถึงมีวิญญาณมังกรกับเอลฟ์อยู่ด้วยล่ะเนี่ย”ซาตานละความสนใจกับสิ่งที่เฟตคิด ด้วยการหันมามองอสูรของเฟตที่นั่งอยู่แทน
“เรื่องมันยาวน่ะ ขี้เกียจเล่า”เฟตตอบสั้นๆเหมือนเดิมแล้วถอนหายใจเล็กน้อยแบบคิดไม่ตก ทำไมในเกมถึงไม่มีอาชีพที่เขาต้องการนะ ถ้าไม่มีอาชีพปืนก็ขออาชีพวางระเบิดก็ได้ (จะเป็นโจรภาคใต้รึ)
“สนใจจะปรึกษาเรามั้ย ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องอาวุธเราสามารถให้คำตอบได้ไม่มากก็น้อยนะ”อาธีน่าถามเมื่อเดาอาการของเฟตออก อาการนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นในตอนที่พวกเธอแยกกัน แต่เมื่อกลับมารวมกันอีกครั้งหลังจากเฟตไปยังวงเวียนอาชีพสำรองมา ก็พอเดาได้ว่าน่าจะเป็นเพราะเรื่องของอาวุธ
เฟตปรายตามามองหญิงสาวที่บอกจะให้คำปรึกษาเล็กน้อย
“ถ้าสงสัยอะไรก็ถามๆไปเถอะ ยัยเทพนี่สมองดีจะตาย ไหนจะยังการต่อสู้อีก เรียกได้ว่าตัวอันตรายเลยล่ะ”ซาตานกล่าวไม่ทันจบก็ต้องเงียบเสียงโดยพลันเมื่อหันไปเห็นสายตาของอาธีน่า ต่อให้เธอยังยิ้มอยู่แต่ก็เป็นรอยยิ้มชวนสยองในสายตาเขา
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟตก็ตัดใจปรึกษาสิ่งที่ตัวเองกำลังหนักใจ หลังจากปรึกษาเสร็จเฟตก็พบว่าโล่งใจขึ้นไปเยอะ แม้จะไม่ได้คำตอบกลับมาก็ช่างมันเถอะทีนี้
“อะไรคือปืน”2 เทพอสูรถามกลับทันทีหลังจากได้ยินว่าเฟตมีอาวุธแต่นำไปใช้จริงไม่ได้
เมื่อถูกถาม เฟตก็จำต้องเอาปืนที่ตนพึ่งได้มาออกมาโชว์ จากนั้นก็เล็งข้ามฝั่งไปยังสไมส์ตัวหนึ่ง แล้วยิงโชว์ทันที
เปรี้ยง!!! เสียงปืนของเฟตดังลั่นไปทั้งแถบ ทำให้ผู้เล่นทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว ส่วนอสูรสไลม์ที่ถูกยิงก็แตกไปด้วยเช่นกัน บ่งบอกว่าสิ่งที่ก่อตัวรวมกันไม่ใช่นามธรรมแต่เป็นรูปธรรมที่แตะต้องได้
“ว้าว”ซาตานอุทานอย่างชอบใจ อาธีน่าเองก็พยักหน้าด้วยเหมือนกับรู้สึกชอบไม่ต่างกัน
“ก็อย่างที่เห็น นี่คือปืน มันยิงได้ แต่ผนึกพลังไม่ได้”ชายหนุ่มตอบเสร็จก็วางปืนไว้ข้างตัวทำให้ผู้เล่นที่จ้องมาต้องเลิกมองของแปลกเปลี่ยนมามองกลุ่มคณะคนแปลกแทน
“แล้วเป็นไงครับ ให้คำปรึกษาได้มั้ย”เฟตย้อนถามไปยังหญิงสาวที่ยังคงจ้องมองอาวุธของเขาด้วยความสนอกสนใจ
“อืม แม้เราจะอยู่มานานหลายพันปีแล้ว พบเจอผู้เล่นแบบพวกเจ้าก็ตั้งหลายแสนคน ขอบอกตามตรงเลยนะ ไม่เคยรู้จักเลยกับไอ้ของสิ่งนี้”อาธีน่าตอบตามตรง หลายปีที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยเจอจริงๆนั่นแหละ
“แปลกแหะ ที่เทพีแห่งปัญญาไม่รู้คำตอบ ฮ่าฮ่าฮ่า”ซาตานหัวเราะร่วน เพราะเป็นครั้งแรกที่อาธีน่ามีเรื่องที่ไม่รู้
“อย่าว่าแต่เราเลย ว่าแต่ท่านเถอะ พอรู้จักหรือเปล่าล่ะ สิ่งที่เรียกว่าปืนน่ะ”เมื่อโดนย้อนถามกลับซาตานก็หุบปากเงียบ กลัวว่าถ้าหัวเราะมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอาได้
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะรู้ก็เดี๋ยวนี้ล่ะ”ซาตานบ่นแก้เขินจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน หลังจากลุกแล้วซาตานก็หลับตาลงแล้วปล่อยพลังออกมา พลังของซาตานไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าต้องใช้ดวงตาแบบพิเศษมอง แต่ถึงจะมองไม่เห็นแต่เฟตก็รู้สึกถึงพลังนี้ได้ เมื่อมองไปยังอสูรของตัวเองก็พบว่าพวกเธอลอบกัดฟันเหมือนหวาดกลัว
เฟตเห็นเช่นนั้นก็กะจะร้องบอกว่าให้พอ แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก เขาก็ถูกซาตานจับแล้วโยนไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นถิ่นสไลม์ จากนั้นไม่ถึง 20 วินาที เสียงระบบก็รายงานดังลั่น
‘พบราชาสไลม์’สิ้นเสียงร้อง ที่ด้านหน้าของเฟตก็มีสายน้ำไหลวนมารวมตัวกันจนเป็นร่างมนุษย์ขนาดเท่าคนจริง
“โอ้ ยังใช้ได้แหะ ไม่นึกว่าพอลองปล่อยพลังออกมาเล่นๆแล้ว ราชาจะออกมาจริงๆด้วย ฮ่าฮ่า”ซาตานหัวเราะลั่นเหมือนเดิม ต่างกับกลุ่มของเฟตที่จ้องมองอสูรที่ปรากฏตัวด้วยความตื่นตะลึงในรูปร่างของฝ่ายตรงข้ามที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่มีร่างกายประกอบขึ้นมาจากน้ำ
“จอมมารซาตาน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ที่นี่ไม่ใช่เขตของท่านไม่ใช่รึ”ราชาสไลม์เอ่ยถามซาตาน ทำให้ผู้เล่นที่อยู่โดยรอบตกตะลึงไปตามๆกัน
“ไหน ใคร ไหนซาตาน ไม่เห็นมีเลย อย่ามั่วเลยราชาสไลม์ อ้อๆ ข้าไม่ได้มาโชว์ตัวอะไร แค่ให้มนุษย์ได้ลองของก็เท่านั้นเอง”ซาตานบ่ายตัวเองแล้วชี้นิ้วไปที่เฟต เป็นเชิงว่าจัดการไอ้หมอนั่นแหละ ส่วนอาธีน่าที่อยู่ข้างๆก็ลอบถอนหายใจกับนิสัยของซาตาน ที่เอะอะอะไรก็ต่อยตีวิวาท แถมยังโกหกได้ไม่เนียนอีกต่างหาก
ราชาสไลม์มองตามมือของซาตานเมื่อหันมาเห็นเฟตก็กลับไปมองซาตานเป็นเชิงถามอีกครั้งว่าใช่เหรอ หลังจากซาตานพยักหน้าจนหัวแทบหลุดราชาสไลม์ก็หันมาหาเฟต
“ไม่นึกว่ามนุษย์จะออกตัวมาสู้แทนซาตานเลยนะ”
“เฮ้ยๆ หยุดเลยหยุด ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย อะไรกันเนี่ย”เฟตยกมือห้าม อยู่ๆก็ถูกโยนเข้าสังเวียนซะงั้น
“ก็ซาตานปล่อยพลังออกมาในเขตข้า เป็นการประกาศตัวได้เป็นอย่างดีว่าเทพอสูรมาเยือนถึงที่แล้ว ดังนั้น ข้าที่เป็นเจ้าถิ่นก็จำเป็นต้องออกมารับซิ”ราชาสไลม์ไม่อธิบายเปล่า เขายังคงก้าวสามขุมเข้าหาเฟต พร้อมกับที่มือข้างซ้ายเปลี่ยนเป็นค้อนขนาดใหญ่
“แต่ผมไม่ได้เป็นพวกเดียวกับพวกเขานี่”เฟตรีบบ่าย ก็จริงดั่งเฟตว่า ซาตานติดเขามาเอง
“แน่ใจรึ”ราชาสไลม์หยุดแล้วถามอย่างสงสัย พอเฟตหันไปมองเห็นอสูรของเขานั่งอยู่กับซาตานแถมยังมองมาตาสลอนก็กลืนน้ำลายเอื้อก
“เอ่อ เป็นครึ่งหนึ่งครับ”เฟตกลับคำตอบใหม่ ถ้าบอกว่าไม่ใช่พวกทั้งหมดก็จะเป็นการโกหกกันเกินไป
สิ้นคำกล่าวเท่านั้น ราชาสไลม์ก็ฟาดค้อนเข้าหาเฟตด้วยความเร็วสูงจนชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัว
เปรี้ยง!! เฟตที่โดนหวดเข้าเต็มๆกระเด็นไปอัดใส่ต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังจนต้นไม่ยุบไปเป็นรูปตัวของเขา
“สังหารราชาสไลม์ซะ ยิ่งเป็นราชาของดรอปยิ่งดี”เสียงผู้เล่นตระโกนโหวกเหวกเข้ามา เฟตที่ตาพร่าเพราะถูกโจมตีด้วยกำลังของราชาเงยหน้ามองรอบตัวด้วยความมึนงง
‘อะไรกัน ทำไมเร็วแบบนี้’เฟตเริ่มตื่นตระหนกถึงความแตกต่าง ซาตานก็คนหนึ่งแล้วที่เขาแพ้ พอมาเจอราชาสไลม์เขาก็จะแพ้อีกแล้วงั้นเหรอ
“เจ้านาย”จาเนียอุทานแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับอนาตาเซีย แต่ทันทีที่พวกเธอลุกขึ้นยืน ร่างกายก็หนักอึ้งเพราะแรงกดดันของซาตาน
“อยู่เฉยๆ ข้าอยากดูความสามารถของเจ้านั้นพร้อมกับอาวุธของมัน”ซาตานเอ่ยเสียงเย็นชาบ่งบอกว่าเอาจริงถ้าพวกเธอยังยืนกรานที่จะไปช่วยเฟต
“ไม่เป็นไร ผมยังไหว”เฟตตระโกนข้ามฝั่งมาหลังจากบ้วนเลือดทิ้งออกไป การโจมตีเมื่อสักครู่ของราชาสไลม์รุนแรงจริงๆ พอโจมตีแล้วยังติดสถานะมึนงงอีกด้วย
“แต่ว่า”จาเนียพึมพำเมื่อเห็นอาการของเฟต แค่การเคลื่อนไหวของราชาสไลม์เมื่อสักครู่ก็บ่งบอกแล้วว่าต่างชั้นกันมากเกินไปแล้ว
แต่เมื่อเธอเห็นว่าพวกผู้เล่นเข้าไปรุมราชาสไลม์ก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาเยอะ เพราะเท่าที่ดูจากจำนวนคนถ้าราชาสไลม์ไม่แพ้เพราะถูกโจมตีก็ต้องแพ้เพราะถูกเหยียบแบนแน่
ดูเหมือนจาเนียจะดูถูกราชาสไลม์เกินไป เมื่อเห็นว่ามีศัตรูเพิ่มมากขึ้นราชาสไลม์ก็ใช้อำนาจของตัวเองดึงน้ำจืดที่อยู่ในธารมาสร้างเป็นกำแพงกั้นที่มีความกว้างยาวหลายสิบเมตร ป้องกันเหล่าผู้เล่นที่กำลังจะข้ามธารน้ำมา แต่ถึงจะกั้นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามได้ แต่ผู้เล่นฝั่งเดียวกับราชาก็ยังมีมากอยู่ดี เพราะฝั่งนี้เป็นฝั่งที่พวกผู้เล่นมาเก็บเลเวลฆ่าเวลากัน
“ออกมาซะ อสูรแห่งข้า”ราชากล่าวเรียกลูกน้องออกมา สิ้นคำสั่งน้ำที่พึ่งไหลมาก็ไหลวนเปลี่ยนเป็นอสูรที่มีรูปร่างคล้ายกับราชาที่อยู่ในร่างมนุษย์แต่มีขนาดและความเข้มต่างกันมาก
เฟตจ้องมองสิ่งที่ราชาสไลม์ทำด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่าตนยังติดสถานะสตันอยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกได้เลยว่าไม่มีทางเอาชนะได้เลย
“ไม่ๆ จะยอมอะไรง่ายๆแบบนั้นได้ไง”เฟตพยายามปลุกใจเสือป่า จากนั้นก็หยิบอาวุธที่พึ่งได้มาออกมาถือ
ทันทีที่มือแต่ปืนสั้น F92S มือที่สั่นของเฟตก็หยุดสั่น มันนิ่งสงบเหมือนกับใจของชายหนุ่ม
“โอ้ จิตใจสงบขึ้นเยอะเลยนะนั่น”ซาตานที่มองอยู่รู้ได้จากการมองท่าทางของเฟต ในทีแรกเฟตมีลักษณะเหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเองตอนที่อยู่หน้าราชาสไลม์แต่เมื่อเขาได้ถืออาวุธปืนปั๊บ กำลังใจก็พุ่งสูงมากจนเห็นได้ชัด
“เปรียบเหมือนกับอาวุธคู่ชีวิตล่ะมั้งนะ”อาธีน่าพยักหน้าตอบ เฟตเปลี่ยนไปมากจริงๆหลังจับปืน ซึ่งอสูรของเฟตก็ลองเปรียบเทียบดูแล้ว ก็พบว่าเฟตนิ่งมากจริงๆหลังจากจับสิ่งที่เรียกว่าปืน แต่อนาตาเซียนั้นรู้ดีว่าในตอนที่เฟตจับปืน จิตใจสงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“หึ พวกมนุษย์ วันๆก็ดีแต่ตีทหารเลวของข้า พอเจอระดับทหารจริงๆก็ไปไม่เป็นเลยรึนี่”ราชาสไลม์มองดูพวกผู้เล่นที่ถูกอสูรสไลม์ระดับกลางตีจนแตกกระเจิงด้วยสายตารังเกียจ คนพวกนี้ก็เก่งเฉพาะกับคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้นแหละ
“เอาล่ะ มาเจอกับข้า….”ราชาสไลม์หันมาพูดกับเฟตต่อ แต่เมื่อเห็นว่าเป้าหมายยืนถือปืนนิ่งก็ขมวดคิ้ว (ถึงจะไม่มีขนแต่ก็เรียกว่าคิ้วล่ะนะ) อย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าเมื่อตะกี้เขาตีแรงไปจนเลือดตกในตายหรอกนะ
“อืม เจอกันหน่อยก็ดี จะได้ลองของแบบจริงๆซะหน่อย”เฟตยิ้มกล่าวบ้าง จากนั้นก็ตัดความสนใจจากโลกภายนอก จิตใจจมสู่การต่อสู้ที่โหยหาสิ่งที่รักมานาน
“การเคลื่อนไหวมั่วสิ้นดี”ซาตานที่ชมอยู่บ่นพึมพำเมื่อเห็นเฟตกระโดดเข้าไปโจมตีใส่ราชาสไลม์ซ้ายๆขวาๆ ไม่เป็นท่า
“ถึงไม่มีแบบแผน แต่ขอแค่ชนะก็พอแล้ว บางครั้งสงครามก็ไม่หน่ายอุบายนะ”อาธีน่าแทรก
“เจ้านายจะเป็นอะไรมั้ยคะนั่น”จาเนียอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเท่าที่ดูเฟตยังสู้ได้ไม่เต็มที่เหมือนกับรออะไรอยู่
“อาจจะ ต้องดูว่าเขาใช้อาวุธนั่นเก่งแค่ไหน มนุษย์อยู่รอดได้ด้วยมือตัวเอง ชีวิตเขากำหนดได้ด้วยตัวเอเท้า เขาก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ด้วยกำลังที่เขามี”อาธีน่าเป็นฝ่ายตอบ แม้แต่ซาตานยังต้องหันมาฟัง
“อืม เข้าด้านมืดแล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะ เห็นไม่กลัวตายอย่างนั้นมันไม่โง่หรอกนะ”อนาตาเซียที่เข้าถึงจิตใจของเฟตดีบอกกับจาเนียเพื่อให้เอลฟ์คลายความเป็นห่วง
เมื่อได้รับคำยืนยัน 2 ทาง จาเนียก็พยักหน้ายอมรับ ถึงแม้ในใจจะยังค้านอยู่ลึกๆก็ตาม
“หืม น้องเฟต สรรหาอาวุธมาได้ยังไงล่ะนั่น”อิสที่ยืนมองอยู่หลังเต๊นบ่นพึมพำ เขาออกมาดูตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนแล้ว
หลังจากดูเฟตลุยกับราชาสไลม์สักพัก อิสก็ถอนหายใจแล้วหันหลังเตรียมจะกลับ เพราะเท่าที่สำรวจพบ เขารู้แล้วว่าปืนพวกนี้ถูกสร้างมาจากสมาคมนักประดิษฐ์ แต่แล้ว ก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าสู่ที่พักผิงอันเงียบสงบ อินก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องมา เมื่อเขามองย้อนกลับไปยังสายตานั้นก็ตัวสั่นสะท้าน
“ฮึม คงไม่ใช่แผนของเธอหรอกนะ เทพีแห่งปัญญาอาธีน่า”อิสบ่นพึมพำเมื่อเห็นสายตาของอาธีน่ายังจ้องมองมาคล้ายกับมีแผนอะไรสักอย่าง
แม้เขาจะเป็นถึงเจ้าหน้าที่ของเกม แต่เมื่อนำสติปัญญาและเอาทุกสิ่งที่มีมาเทียบกับอาธีน่าแล้ว เขาไม่อาจเทียบได้เลย แล้วยิ่งการต่อสู้ของเฟตที่เกิดขึ้นนี้อีก ใจของเขารู้สึกสั่นตงิดๆ เหมือนต่อจากนี้จะมีเรื่องวิ่งเข้ามาหา
“ขออย่าให้เป็นจริงอย่างที่สัญญาณร้องเตือนเลยเจ้าพระคุณเอ๋ย”ก่อนจะกลับเข้าเต๊นไปอิสบนบานกับฟ้าดินเล็กน้อยพอเป็นพิธี จากนั้นก็กลับเข้าเต๊นไปท่ามกลางเสียงปืนของเฟตที่ยิงรัวลั่นทุ่งกลบทุกเสียงที่เคยมีมา
‘เหมือนเดิมเลยแหะ ความร้อนพวกนี้เนี่ย’เฟตพึมพำหลังจากเขาใช้สกิลกับปืนที่ตนมีจนกลายเป็นอาวุธแห่งความมืดแล้ว แต่ผลสุดท้ายมันก็ยังเหมือนกับปืนสั้นอยู่ดี ตรงที่ความร้อนไม่ระบาย
แม้สมองจะคิดแต่สายตากับเท้าของเฟตกลับไม่หยุดเลย เพราะราชาสไลม์ไล่หวดเขาด้วยค้อนและบรรดาอาวุธที่เปลี่ยนจากมือของราชาไล่บี้ชายหนุ่มตลอด จนเฟตต้องลอบหอบอยู่หลายครั้ง
“เป็นอาวุธที่ประหลาดดีจริงๆ มีเสียงคล้ายกัมปนาท แต่ความรุนแรงต่างกับของซูสลิบลับเลย”ราชาเอ่ยถึงอาวุธปืนที่เฟตใช้ หลังจากหวดชายหนุ่มด้วยโล่จนกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร
“ของคุณนี่สิประหลาดกว่า ทั้งๆที่เนื้อในมีลักษณะเดียวกันตลอด แต่ความแข็งแกร่งกลับต่างกันลิบลับ”เฟตย้อนกลับบ้าง กระสุนนัดแล้วนัดเล่าของเขาไม่สามารถเจาะทะลุโล่น้ำที่ราชาสไลม์ถืออยู่ในมือซ้ายได้เลย ต่างกับตอนที่เขายิงทีแรกๆ ที่ราชาสไลม์ยังไม่รู้จักอาวุธปืน ตอนนั้นเขายังยิงเข้าได้หลายแผลแม้พริบตาต่อมามันจะหายไปหมดก็เถอะ
“หึ มิอย่างนั้นข้าจะได้ชื่อว่าราชาเหรอ”ราชาสไลม์ย้อนเล็กน้อยแล้วหายตัวไป พริบตาที่เฟตรับรู้ถึงอันตรายก็โยกตัวหลบ แต่เมื่อโยกไปแล้วเขากลับพบว่ามันเป็นกลลวง เพราะราชาสไลม์ไปยืนดักอยู่เหมือนรู้ล่วงหน้า
ตูม!! เฟตโดนค้อนยักษ์หวดเข้าเต็มแรง ถ้าเขาไม่เอาปืนยาวมาขวางไว้อาจเป็นเขาเองก็ได้ที่กระดูกต้องหักกลางแบบปืน
“ส่วนสัญชาตญาณของเจ้าน่ะ น่ากลัวก็จริง แต่มันใช้ประโยชน์อะไรกับคนที่ผ่านสงครามมานับร้อยนับพันอย่างพวกข้าไม่ได้”ราชาสไลม์อธิบายให้ฟัง สัญชาตญาณของเฟตเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจก็จริงที่มันทำงานได้ดีกว่าใครคนอื่นหลายเท่า แต่เมื่อเอามาเทียบกับพวกที่ผ่านการต่อสู้มาเยอะ สัญชาตญาณที่ว่าล้วนไร้ประโยชน์ กลับกัน ถ้าศัตรูจับทางได้ สัญชาตญาณนั้นก็จะกลายเป็นของร้ายที่ย้อนทำร้ายผู้ใช้
เฟตพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ ขนาดเขาเอาปืนมากันไว้แล้วยังติดสถานะมึนงงเลย แต่เมื่อมองเห็นว่าปืนในมือถูกราชาสไลม์ตีจนหักกลางเฟตก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่พริบตาเดียวที่เฟตนึกได้ว่าตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตรากับอาวุธปืนทั้งหมดที่ตนมีแล้วก็ลอบหัวเราะอย่างชอบใจ
ราชาสไลม์มองท่าทางของเฟตอย่างมึนงง เดี๋ยวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เดี๋ยวดีใจจนหัวเราะออกมา แต่อาการที่เฟตไม่แสดงออกมาให้เขาเห็นก็คือ อาการหวาดกลัว ไม่ว่าราชาสไลม์จะโจมตีรุนแรงหรือมีเรื่องเซอร์ไพน์ยังไงเฟตก็ไม่ตกใจหรือหวาดกลัวเลย
“เอาล่ะๆ จับทางได้แล้ว”เฟตพึมพำกับตัวเอง เขาเริ่มจับทางของอาวุธที่ตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตราได้แล้ว
‘หมายความว่ายังไง’ราชาสไลม์คิดอย่างมึนงงกับสิ่งที่เฟตพูด เขาไม่รู้ความนัยของเฟตจึงนึกว่าเฟตพูดถึงเขา
“อย่างแรก เมื่อใช้ไปมากๆ แม้จะไม่แสดงท่าทีอะไร แต่ความร้อนก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ถ้าฝืนใช้มากๆ ผู้ใช้นั่นแหละที่จะถูกความร้อนทำร้ายเอา”เฟตอธิบายให้ตัวเองฟัง เรื่องไหนที่เขาคิดว่าควรจดจำมักจะพูดออกมา เพื่อให้ภาพนั้นจดจำได้ตรึงตาตรึงใจ
“หะ?”ราชาสไลม์ไม่เข้าใจสิ่งที่เฟตพูด แถมยิ่งมาเห็นเฟตใช้มือลูบไล้ปืนยาวที่อยู่ในมือจนมันกลับมาอยู่ในสภาเหมือนใหม่เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม
“อย่างที่สอง กระสุนพวกนี้ถ้ายิงในแบบปกติมันจะมีลักษณะเหมือนกระสุนทั่วๆไป คือไปแล้วไปเลย แต่ถ้ายิงด้วยกระสุนที่ใช้สกิลนั้น มันจะย้อนกลับมาอีกครั้งหลังจากกระทบเป้าหมายจนแรงหมุนควงหยุดนิ่ง”เฟตไม่พูดเปล่า เขาเอากระสุนที่สร้างขึ้นมาจากทักษะยัดใส่ปืนในมือ จากนั้นก็ยิงใส่ราชาสไลม์ตรงๆ ราชาสไลม์เห็นเช่นนั้นก็ยกโล่ขึ้นมากันเพราะเห็นว่าไม่มีลูกเล่นอะไรแปลกใหม่
กระสุนหัวสีดำพุ่งเข้ากระแทกที่โล่จากนั้นก็เจาะจนจมลึกเข้าไป 2 เซน หลังจากกระสุนหยุดตัวมันก็สลายกลายเป็นไอสีดำหายไป ซึ่งเฟตก็เรียกกระสุนออกมาอีกครั้ง กระสุนที่พึ่งหายไปก็กลับไปอยู่ในมืออีกหน
“เพราะฉะนั้น ควรที่จะดูดเอามาเป็นกระสุนสำรองไว้มากๆ เวลาฉุกเฉินจะได้ยิงแบบต่อเนื่องไม่ต้องรอกระสุนที่หายไป”เฟตพยักหน้าบอกตัวเอง กระสุนที่ใช้สกิลดูดกลืนศาสตราด้วย มันจะมีลักษณะคล้ายกับของต้นแบบทุกอย่าง แต่ถ้าเฟตใช้ทักษะเรียกศาสตราออกมาตอนที่กระสุนนัดนั้นถูกยิงออกไป กระสุนที่ออกมาก็จะเหมือนกับอนาตาเซียในร่างมังกร นั่นก็คือลวงนอกกลวงใน ไร้พิษสงโดยสิ้นเชิง
ราชาสไลม์ทำหน้าเหลอไม่เข้าใจพฤติกรรมของชายหนุ่มมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มขนปืนอะไรต่อมิอะไรออกมา แถมยังเรียกดาบสีทองอันคุ้นตาออกมาด้วย
“นั่นมัน ดาบของราชาโครงกระดูกนี่”ราชาสไลม์เอ่ยถามเมื่อจำดาบสีทองเล่มนี้ได้ มันเป็นดาบที่ราชาโครงกระดูกกราด่อนหวงแหนเป็นอย่างมาก จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่ราชาอสูรด้วยกัน
“หืม”เฟตได้ยินเสียงเหมือนคนถามอะไรจึงหันมามองราชาสไลม์อย่างงงๆ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีธุระกับตนเขาก็หันไปเรียกสิ่งของที่ตนใช้สกิลดูดกลืนศาสตราใส่ ออกมาทั้งหมด
“หมดแล้วล่ะมั้งเนี่ย”เมื่อเห็นของกองอยู่กับหน้าเฟตก็พึมพำ จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ของกราด่อนที่ตนดูดมาอย่างไม่แคร์สายตาใคร
‘อัตราการฟื้นฟูร่างกายเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าบนบัลลังก์แห่งราชาค่ะ’เสียงระบบรายงานตอนที่เฟตนั่งลง เมื่อได้ยินเสียงระบบรายงานดังนั้นเฟตก็พยักหน้าอย่างชอบอกชอบใจ ที่คุณสมบัติเดิมของของพวกนี้ยังคงอยู่
ทักษะการดูดกลืนศาสตราก็เหมือนกับทักษะการขโมยนั่นแหละ เพียงแต่เปลี่ยนกันตรงที่ทักษะขโมยใช้ความสามารถล้วนๆ แล้วเมื่อขโมยไปแล้วถ้าเจ้าของไปเอาคืนก็ต้องคืนเขาไปถ้าสู้เขาไม่ได้ แต่สำหรับสกิลนี้มันต่างกันที่ผลลับ แม้จะใช้ความสามารถเหมือนกัน แต่ผลลับสุดท้ายต่อให้ใครมาทวงคืนเมื่อเราไม่ยอมหรือต่อให้ยอมมันก็ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เพราะมันถูกทำสัญญาไว้ด้วยพลังแห่งความตายของเจ้าตัวไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าศัตรูไม่สนใจ ราชาสไลม์ก็คิดที่จะเอาจริง พริบตาเดียวราชาสไลม์ก็วกมาจู่โจมที่ด้านหลังด้วยดาบยักษ์ พริบตาเดียวบัลลังก์สีดำของเฟตก็แตกกลางด้วยดาบของราชาสไลม์ แต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่กลับไหวตัวทัน แถมยังย้อนกลับมามองด้วยดวงตาสีแดงอีก
“ดวงตานี้มันดีตรงที่ตามความเร็วและเพิ่มความสามารถให้เจ้าของซินะ”เฟตพยักหน้าให้กับตัว โชคยังดีไอ้ตอนที่เขาฟื้นตัวกับบัลลังก์ เขาก็ลองทดสอบดึงพลังแห่งความตายออกมาด้วย เมื่อเฟตเข้าถึงพลังด้วยตัวเอง เขาก็สามารถดึงสิ่งที่เป็นของตัวเองออกมาได้
“ดวงตาพวกมารงั้นเหรอ หึ ค่อยสูสีขึ้นมาหน่อย ไล่ตีเด็กแล้วมันไม่สนุกเลย”ราชาสไลม์ยิ้มเยาะจากนั้นก็เปลี่ยนม่านน้ำที่กั้นพวกผู้เล่นให้กลายเป็นหอกน้ำอันแหลมขม จากนั้นก็สั่งการให้ไล่ทิ่มแทงเฟตอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มต้องดิ้นซ้ายดิ้นขวาหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย มิเช่นนั้นคงได้กลายเป็นปลาหมึกเสียบไม้แน่
เพียงพริบตาเดียวที่เฟตหลับ ราชาสไลม์ก็ใช้คุณสมบัติของตัวเองเปลี่ยนหอกน้ำให้กลายเป็นดาบที่พุ่งตันร่างเฟตแทน แต่เฟตมีหรือจะหลงกล เขาพอรู้อยู่แล้วว่าราชาสไลม์สามารถบังคับของพวกนี้ได้ ทันทีที่เขาเห็นว่าหอกน้ำพวกนี้สั่นก็ใช้สกิลท่าเท้าของจาเนียมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ราชาสไลม์แล้ว
ทันทีที่มาถึงราชาสไลม์ เฟตก็ยกปืนในมือยิงเปรี้ยงออกไปทันทีเพื่อให้เหมาะสมกับโอกาสอันน้อยนิดของเขา
‘โดนเต็มๆ’ซาตานที่มองอยู่ตีมืออย่างลุ้นละทึก เมื่อสักครู่ราชาสไลม์ใช้ 2 ทักษะภายในครั้งเดียว เมื่อถูกย้อนโจมตีคืนก็เป็นเรื่องยากที่จะป้องกัน
ซึ่งดูเหมือนการมองของซาตานจะเป็นจริง เมื่อร่างของราชาสไลม์แหว่งไปข้างหนึ่งตามแรงกระสุนที่กระจายตัวทะลวงร่างน้ำของราชาสไลม์ไป
“นี่มันอะไรกัน”ราชาสไลม์ร้องถามอย่างแปลกใจ จากนั้นเพียงพริบตาเดียวร่างที่ขาดแหว่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยหอกน้ำแข็งที่ดูดกลืนเข้ามารวมร่างอีกครั้ง
“เอาแล้วซิ ไอ้ตัว ตายยากแท้เหลา”เฟตพึมพำขนาดเขาใช้กระสุนลูกซองยิงในระยะหวังผลราชาสไลม์ยังกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 3 วิเลย ถ้าต่อจากนี้ต้องสู้ต่อไปเรื่อยๆ เขานี่แหละจะได้ตายภายใน 3 วิ
“ต้องอย่างนี้ซิมนุษย์ ต้องอย่างนี้ พวกเจ้าต้องแข็งแกร่งแบบนี้ถึงจะเป็นที่น่าพอใจ ฮ่าฮ่าฮ่า”ราชาสไลม์เงยหน้าหัวเราะอย่างคึกคัก
“แย่แล้ว”จาเนียกับอนาตาเซียอุทานพร้อมกับลุกขึ้นยืน พวกเธอสัมผัสถึงพลังที่แท้จริงของราชาสไลม์ได้ ตลอดมาราชาสไลม์ยังไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขาจะเอาจริงแล้ว ซึ่งเฟตที่เสียท่ามาตลอดก็ไม่ต้องถามถึงเลยว่าจะรอดชีวิตไปได้หรือไม่
2 เทพอสูรหันไปมองหน้ากันและพยักหน้าให้กันเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปจับจ้องที่การต่อสู้ด้านหน้าปล่อยให้ 2 อสูรเป็นกังวลกันต่อไป
หลังจากปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาแล้ว ราชาสไลม์ก็เลื่อนสายตาที่จับจ้องฟ้า มาจ้องมองเฟตแทน
เพียงพริบตาเดียวที่ถูกจ้องตา เฟตก็รู้สึกเหมือนกับร่างกายกำลังยืนอยู่ในน้ำอันไร้ซึ่งทางออก มันเหมือนกับกำลังยืนอยู่ในแท็งก์น้ำอันใหญ่สุดหูสุดตา
เมื่อปรายตาไปมองบนฟ้าก็พบว่าตัวเองถูกล้อมไว้ด้วยโดมน้ำขนาดใหญ่ ที่ไม่รู้ว่าราชาสไลม์เอามาตอนไหน
“เป็นครั้งแรก ที่มนุษย์ทำให้ข้าแปลกใจได้มากขนาดนี้”ราชาสไลม์เอ่ยอีกครั้ง จากนั้นก็มีร่างราชาสไลม์โผล่มาจากอากาศโดยรอบเฟตเกือบร้อยตัว ซึ่งทุกๆตัวน่าจะมีลักษณะเหมือนกับราชาสไลมทั้งหมด เพราะมันเปลี่ยนมือเป็นอาวุธได้ด้วย
“ฉะนั้น ข้าขอชีวิตเจ้าไปเป็นของทีละลึกก็แล้วกัน”สิ้นเสียงกล่าว ร่างราชาสไลม์นับร้อยก็พุ่งเข้ามาหาเฟตจากรอบทิศทาง ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใจกลางวงล้อมต้องคว้าอาวุธทุกอย่างที่มีมาต่อสู้ป้องกันตัว
หลังจากการโจมตีละรอกแรกจบลง ร่างของเฟตก็ล่วงลงมานอนกองบนพื้นด้วยสภาพบาดเจ็บสาหัส
ราชาสไลม์ไม่สนใจอาการของชายหนุ่ม เขายังคงสั่งโจมตีละรอกสอง
“พอแล้ว”เสียงของซาตานดังพร้อมกับร่างของชายร่างใหญ่ผมทรงกวนบาทามาปรากฏตัวขวางร่างแยกของราชาสไลม์ แต่การโจมตีที่ถูกสั่งมาแล้วไม่อาจหยุดได้ มันจึงพุ่งเข้าหาซาตานทุกทิศทุกทาง
“ทำได้แค่นี้เหรอ”ซาตานกล่าวทั้งๆ ที่ยังอยู่ในสภาวะโจมตีของราชาสไลม์ หลังจากนั้นราชาสไลม์ก็รู้สึกว่าหน้าอกกับหัวตัวเองขาดหายไป
“ก็มันเจ็บนี่ครับ”เฟตที่นั่งอยู่หลังการป้องกันของซาตานเอ่ยขณะคุกเข่าถือปืนเล็งมาทางราชาสไลม์ จากนั้นชายหนุ่มก็ยิงไม่ออกไปไม่หยุด แต่ราชาสไลม์สั่งให้ร่างแยกมาป้องกันเอาไว้จึงไม่เป็นอะไรเลย
เฟตไม่สนใจ เขาลุกขึ้นมายืนด้วยสภาพร่างกายอันทรุดโทรม และใช้ปืนเท่าที่มียิงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ราชาสไลม์เองก็สั่งให้ร่างแยกจู่โจมเข้าไปเรื่อยๆ แต่ติดที่มีซาตานคอยคุ้มกันให้ ทำให้การโจมตีไม่อาจเข้าถึงตัวเฟตได้เลย
การต่อสู้ละหว่างมนุษย์กับราชายังดำเนินการต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางสายตาของผู้เล่นหลายหมื่นคน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง ม่านน้ำที่เคยตั้งป้อนกันไว้ก็สลายลงไป เหลือไว้แต่เพียงร่างของมนุษย์ 2 คนที่คนหนึ่งยืนหยัดเหมือนกับภูเขาส่วนอีกคนนอนพังพาบเหมือนกับต้นหญ้าโดนเหยียบ
“เก่งมาก ทำให้ราชาสไลม์หนีไปได้”ซาตานเอ่ยชมขณะแบกเฟตขึ้นมาบนบ่า เขารู้สึกทึ้งกับความใจสู้ของเฟตสุดๆ ถ้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเฟตยอมแพ้เขาก็คงพาหนีออกไปนานแล้ว
“เหอๆ งั้นเหรอ”เฟตไม่รับคำชมนั้นเขารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นของเล่นเสียมากกว่า แต่ซาตานก็ไม่ได้บอกว่าจริงๆแล้วราชาสไลม์เก่งถึงขั้นสู้กับตนได้ จึงปล่อยให้เฟตได้คิดต่อไปว่าราชาสไลม์ไม่เก่งมากเท่าไหร่
ราชาสไลม์ไม่ได้เก่งจริงดั่งที่ซาตานคิด แต่อันตราการฟื้นตัวของราชาสไลม์ต่างหากที่ทำให้ซาตานหน่ายที่จะสู้ด้วย ขอแค่มีน้ำจืดอยู่ใกล้ๆราชาสไลม์ก็เป็นอมตะแล้ว เมื่อใดที่มาอยู่ในโดมน้ำของมัน ก็เหมือนพวกเขาก้าวเท้ามาหยุดที่หน้านรก ไม่มีสิทธิ์ถามหาโอกาสชนะ ให้ถามหาโอกาสรอดดีกว่า
แต่เฟตกลับไม่ท้อและไม่ถอยแม้ร่างกายจะสาหัสจนเดินกระเผลก ชายหนุ่มผู้นี้ก็ยังสู้ชีวิตจนหยดสุดท้าย ทิ้งทวนและไว้ลายจนสิ้นชีพ แม้กระทั่งราชาสไลม์ยังยอมรับจนเลิกราแล้วกลับไปเองเลย
“ฮึบ”ซาตานกระโดดเพียงครั้งเดียวก็พาร่างของตัวเองที่มีเฟตอยู่บนบ่ามาหยุดอยู่ที่กลุ่มอสูรของเฟต
ทันทีที่ซาตานทิ้งร่างของเฟตลง จาเนียกับอนาตาเซียก็มุงเข้ามาด้วยความสนใจ พวกเธอไม่นึกเหมือนกันว่าเฟตจะสู้กับคนที่เรียกได้ว่ากึ่งอมตะจนหนีไปได้แบบนี้
จาเนียช่วยนำน้ำยาที่ตนพอมีเหลือมาช่วยปฐมพยาบาลเฟต แต่ตอนที่เธอหันกลับมาก็ต้องช็อกตาค้างเมื่อเห็นอนาตาเซียก้มลงเอาปากกระกบปากกับชายหนุ่มที่กำลังสะลืมสะลือคล้ายใกล้หมดสติ
หลังจากประกบปากเป็นเวลานาน อนาตาเซียก็ละริมฝีปากพร้อมกับกล่าว “แกน่าจะรอดแล้วล่ะ”
“หืม ฟื้นพลังให้กันได้ด้วยเหรอ น่าแปลกใจจริงๆ ปกติอสูรที่เหลือแต่วิญญาณไม่น่าจะทำได้นี่”ซาตานกอดอกวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ
“เพราะข้าดูดเลือดหมอนี่เอามาเป็นเสบียงสำรองไว้มาก จนร่างนี้เริ่มเหมือนกับมนุษย์จริงๆแล้วน่ะ”อนาตาเซียตอบสั้นๆ เธอไม่ค่อยอยากที่จะพูดกับซาตานเท่าไหร่
“งั้นเหรอ”ซาตานกอดอกมองอนาตาเซียด้วยความสนใจ จากนั้นก็เอ่ยชวนเสียดื้อๆ “มาอยู่กับข้ามั้ยล่ะ เดี๋ยวข้าจะตามหาร่างของเจ้า และพลังของเจ้ามาประกอบกับวิญญาณนี้ให้”
สิ้นคำถามอนาตาเซียก็สะอึกเงียบไม่ตอบคำเพราะคิดหนัก ร่างเธอตอนนี้เหลือแต่วิญญาณที่ไร้พลังและร่างที่แท้จริง การได้ข่าวว่าตนจะมีร่างกายอีกครั้งก็ทำให้เธอสนใจขึ้นมาได้บ้าง
“ไม่ล่ะ ข้าไม่สน อยู่แบบนี้ดีแล้ว”หลังทบทวนอย่างดีแล้ว อนาตาเซียก็ตบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำจนซาตานแปลกใจ
“ทำไมเจ้าถึงไม่เอา”ซาตานถามแต่ใบหน้าไร้รอยยิ้ม เขาไม่ชอบคนมาขัด แม้การบังคับคนอื่นก็ถือเป็นความต้องการของเขา ฉะนั้นห้ามขัด
“สมัยอดีต ข้าต้องต่อสู้หนีตายเพื่อก้าวสู่ความแข็งแกร่งมามากมาย จนจำไม่ได้ว่าเวลาผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี จนวันหนึ่งข้าต้องมาตายเพราะใครคนหนึ่งที่ข้าไม่รู้จัก จนรู้ตัวอีกทีก็ถูกสาปวิญญาณจนกลายเป็นมังกรต้องสาปเฝ้าหุบเขาเอลฟ์แล้ว การจะต้องกลับไปเดินเส้นทางนั้นอีก ข้าขอผ่าน”อนาตาเซียตัดสินใจอธิบายออกมา
“แต่นี่มันไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าไม่ใช่รึ ยอมรับข้อตกลงของข้าเถอะน่า มังกรแห่งความมืดเอ๋ย”ซาตานขมวดคิ้วคาดคั้น แม้คำตอบของอนาตาเซียจะฟังดูน่าคล้อยตาม แต่เธอก็หนีความเป็นจริงที่ว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์อันแข็งแกร่งไม่พ้น
“ผู้หญิงไม่ยอมก็อย่าไปบังคับเธอซิ เป็นลูกผู้ชายเปล่าเนี่ย”เฟตที่นอนฟังมานาน เอ่ยแทรกขึ้น แม้เขาจะรู้สึกย่ำแย่มาก แต่เมื่อได้พลังที่ผ่านปากของอนาตาเซียมาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะกว่าเดิมแล้ว
“อึดอย่างกะแมลงสาบเลยนะแก”ซาตานขมวดคิ้วถาม นึกไม่ถึงว่าเฟตจะกล้าตอกกลับเขาด้วย
“ถือเป็นคำชมนะ”เฟตลุกขึ้นนั่งจากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงอนาตาเซียเข้ามากอดแล้วหันไปมองหน้าซาตาน
อสูรสาวตัวแข็งเล็กน้อยเพราะต่อให้เป็นร่างมนุษย์และวิญญาณ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเธอจริงๆ ทำให้มังกรสาวรู้สึกเขินจนหน้าแดงเล็กน้อย
‘ถ้าอยากได้เธอไปก็ต้องข้ามศพผมไปก่อนซะนะ’ซาตานอ่านสายตาที่เอาจริงของเฟตได้ แม้ชายคนนี้จะดูไม่ตื่นเต้นไปกับสถานการณ์อะไรแต่สายตาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“โอเคๆ ข้าแค่ถามดูเฉยๆ ไม่ได้คิดจะเอาไปจริงๆ เสียหน่อย”ซาตานยกมือประมาณว่ายอมลงให้ เฟตจับจ้องสักพักเห็นว่าซาตานคลายความแข็งกร้าวลงก็ถอนหายใจ นี่ถ้าซาตานเอาจริงเขาก็คงตายจริงๆ นั่นแหละ
“นี่แกจะกอดข้าอีกนานมั้ยเนี่ย”หลังเฟตเนียนกอดไม่ยอมปล่อย อนาตาเซียจำต้องเอ่ยออกมาอย่างเขินๆ ถึงอย่างไรเสียเธอก็เป็นตัวเมีย เฟตเป็นตัวผู้ เป็นเรื่องปกติที่สัตว์โลกจะต้องคิดถึงความเป็นจริงในข้อนี้
“อีกนานเลยล่ะ ถ้าคุณยังไม่ยอมตกลงอะไรผมสักอย่าง”เฟตย้อนกลับนิ่มๆ ทำให้อนาตาเซียขมวดคิ้วมุ้นไม่พอใจ นอกจากจะเนียนกอดเธอแล้วยังจะมีข้ออ้างอีกเหรอ
“อะไรก็ว่ามา”อนาตาเซียถามเสียงแข็งพร้อมกับม้วนหางไปที่ด้านหลัง ในกรณีที่เฟตขออะไรไร้สาระเธอจะจัดการหวดเขาซะ ถ้าเฟตขอในสิ่งที่เธอให้ไม่ได้ก็จะหวดเหมือนเดิม
“เลิกเรียกผมว่าแก และห้ามแทนตัวเองว่าข้าได้มั้ยครับ”เฟตบอกโดยไม่สนใจหางที่ม้วนเข้ามาของอนาตาเซีย
“หะ?”นอกจากอนาตาเซียแล้ว อสูรตนอื่นๆก็ร้องอย่างสงสัย ในตอนแรกพวกเขานึกว่าเฟตจะขอความรู้เรื่องการต่อสู้จากอนาตาเซียเสียอีก เพราะอนาตาเซียเป็นมังกรแห่งความมืด ที่ถือเป็นมังกรนักรบแห่งหมู่มังกรเผ่าเดียวกัน
“ตกลงมั้ยล่ะ”เฟตถามโดยไม่สนใจท่าทางของอสูรที่อยู่รอบตัว
“ทะทะ ทำไมล่ะ”อนาตาเซียย้อนถามบ้าง เธอนึกไม่ถึงว่าเฟตจะขออะไรแบบนี้
“อืม คุณจะเลิกต่อสู้แล้ว คำพูดที่ชวนทะเลาะก็ควรที่จะหยุดด้วย แล้วอีกอย่าง ถ้าพูดแทนตัวเองว่าเราหรือนาย มันยังฟังดูเข้ากับคนหน้าตาน่ารักแบบคุณน่ะ”เฟตตอบตามที่ใจคิด แม้เหตุผลจริงๆจะเป็นอย่างหลัง แต่ก็เอาข้ออ้างแรกมาพูดให้ดูดีก่อน
“คิกๆๆ”เฟตได้ยินเสียงอาธีน่าหัวเราะคิดคักก็ปรายตาไปมองเล็กน้อย จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของอสูรตนอื่นๆ ที่คิดไม่ถึงกับเหตุผลของชายหนุ่ม มันเป็นคำพูดที่สุดแสนจะธรรมดาจริงๆ แต่สำหรับอนาตาเซียแล้ว เมื่อได้รับรู้ถึงความห่วงใยของชายหนุ่มที่สนับสนุนเธอแบบเต็มที่ เธอกลับรู้สึกเหมือนภายในตัวเองกำลังมีอะไรก่อตัวขึ้น จึงเงยหน้ามองเฟตด้วยสายตาแบบแปลกใหม่
“ค่ะ เจ้านาย”อนาตาเซียกล่าวเบาๆเหมือนอายที่จะพูดคำหวานๆ ปกติแล้วมังกรล้วนแล้วแต่ใช้ภาษากายคุยกัน ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นบ่าว ไม่มีเลยการที่จะมาห่วงหาอาธรกันแบบนี้
“มะ โมเอะมาก”เฟตยกนิ้วให้แล้วขยับตัวกอดอนาตาเซียแน่นมากกว่าเดิมไม่ยอมปล่อย สายตาที่อนาตาเซียจ้องบวกกับคำพูดแล้ว ช่างชวนให้เขาอยากกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัวจริงๆ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมอนาตาเซียถึงชอบกินเขา เพราะตัวเขาน่ากินนี่เอง (เอ่อ คนละเหตุผลแล้วมั้ง)
“อะแฮ่ม”ซาตานที่ดูอยู่นานกระแอมไอ
“ใครมียาแก้เจ็บคอบ้างมั้ยครับ ถ้าไม่มีเอาน้ำยาฟื้นพลังหรือเลือดก็ได้ มาให้คุณซาตานหน่อย ดูเหมือนเขาจะไม่สบาย”เฟตแหงะกลับมาบอกแล้วกอดซุกไซ้อนาตาเซียต่อด้วยความเมามันในอารมณ์
“จะ เจ้านาย”จาเนียที่ดูอยู่เอ่ยเรียกเบาๆ เฟตได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองหน้าเธอ เมื่อเห็นเธอจ้องอนาตาเซียสลับกกับเขาตาไม่กระพริบก็เข้าใจว่าอยากเล่นมั่ง จึงดึงแขนเอาตัวโถมเข้ามากอดแบบที่ทำกับอนาตาเซีย
“พึ่งเคยเห็นคนเจ้าชู้ได้เป็นธรรมชาติและหน้าด้านแบบสุดๆก็วันนี้แหละ”ซาตานกล่าวแบบเซ็งๆ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคนรอบข้างเป็นอย่างดี
“เอ่อ ขอโทษนะครับ ช่วยเลิกการทำอนาจารจะได้มั้ยครับ”อิสที่มาตอนไหนไม่รู้กล่าวกับเฟตอย่างนอบน้อม
ส่วนเฟตที่จับ 2 สาวกดกลางแจ้งก็หันมามองอย่างงงๆ จากนั้นก็หันไปมองคนรอบตัวด้วยความสงสัย เมื่อเห็นคนมองมาเพียบก็ปล่อย 2 สาวที่กดอยู่ เพื่อให้พวกเธอได้จัดเสื้อผ้าที่เขาเผลอถอดไป (….)
“มีอะไรครับพี่อิส”เฟตลุกขึ้นยืนแล้วถามทันทีเป็นการกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่อยากคุยเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น และพึ่งเกิด และกำลังจะเกิด”อิสตอบยิ้มๆแม้คิ้วจะกระตุกก็ตาม เขาได้รับร้องเรียนว่ามีการทำอนาจารกลางแจ้ง พอรุจมาดูก็เห็นเฟตเล่นกับ 2 สาวอย่างเมามัน ถ้ามองในมุมมองของคนนอกก็เป็นการทำอนาจารจริงๆนั่นล่ะ แต่ถ้ามองในมุมมองของคนที่เคยร่วมมือกันมาบ้าง จะพบว่าเฟตทำลงไปด้วยความไม่รู้ เนื่องจากเป็นคนซื่อ (…)
“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้คุยเรื่องที่นายเป็นกังวลพอดี”อาธีน่าลุกขึ้นกล่าวแล้วดึงมือเฟตไปยังเต๊นของอิสทันที ส่วนคนที่กะว่าจะมาคุยก็อ้าปากหวอ ไม่ใช่ว่าเขาเสียท่าให้กับอาธีน่าแล้วเหรอเนี่ย การที่ออกมาพูดเองแบบนี้
“อืม”ซาตานเห็นด้วยแล้วเดินตามไปทันที ทิ้งให้อิสอ้าปากหวอแล้วคิดทบทวนตัวเอง ว่าสัญญาณเตือนของเขาที่ดังต้องมาจาก 2 อสูรนี้เป็นแน่
“เอ่อ ข้าจะท้องมั้ยเนี่ย”อิสได้ยินเสียงบ่นข้างหลังพอหันไปมองก็เห็นอนาตาเซียลูบท้องตัวเองอยู่ จาเนียที่ได้ยินก็ลูบท้องบ้างด้วยความแตกตื่นในคำพูด เอลฟ์ 4 ตนที่มองค้างอยู่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่ยังไม่มีอารมณ์อธิบายเนื่องจากยังช็อกอยู่
“จาเนียจะมีลูกกับนายท่านเหรอ”จาเนียหันมาถามอนาตาเซียด้วยความแปลกใจปนดีใจ เผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีการให้กำเนิดบุตรที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าเป็นจริงดั่งอนาตาเซียว่าก็เป็นเรื่องยินดีไม่น้อยเลยทีเดียว
อิสยืนมองสักพักก็รู้ได้ทันทีว่า 2 อสูรนี้ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายจริงๆ จึงเปิดหน้าต่างระบบพิมพ์อะไรบางอย่างแล้วยื่นให้ 2 อสูรสาวได้เอาไปอ่าน
“อืม อย่างนี้นี่เอง ต้องถอดเสื้อผ้าออกก่อนซินะ แปลกจัง ตอนที่ข้าเป็นมังกร ข้าได้ยินข่าวมาจากมังกรถ้ำข้างๆว่าแค่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก็พอที่จะมีไข่มังกรน้อยแล้วนี่นา”อนาตาเซียหันมาพูดกับจาเนียที่มีท่าทางเหมือนตนอยู่
“เสียดายจัง นึกว่าจะได้มีบุตรกับนายท่านซะแล้วซิ”จาเนียบ่นพึมพำ
แต่อิสที่ได้ยินนั้นเดินหนีพร้อมกับส่ายหน้าไปไกลแล้ว คุยกับอสูรที่มีความคิดแบบมนุษย์นี่พูดยากเหลือเกิน แล้วยิ่งมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้เขายิ่งพูดยากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
‘มีอสูรแค่ 5-6 ตน ยังวุ่นวายขนาดนี้ ถ้ามีมากกว่านี้คงไม่ต้องสร้างฮาเร็มในเกมอยู่กันเลยรึ’อิสพึมพำขณะเดินเข้าเต๊นของตัวเองที่มีปัญหารออยู่ข้างในอีกเพียบ
ความคิดเห็น